คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : CHAPTER 31 คนของกู (ภาคต้น)
CHAPTER 31
คนของกู (ภาคต้น)
การผ่าตัดเป็นไปด้วยดี..
แต่คำว่า ‘ดี’ ในที่นี้แค่มีชีวิตรอด..ไม่ได้หมายความว่าจะมองเห็น..
สีครามจะเรียนต่อบริหาร
เรื่องตาจึงไม่เป็นอุปสรรคเท่าไหร่นัก
นั่นเป็นคำปลอบของเขา
ที่ไม่ได้ทำให้ผมสบายใจขึ้นเลยสักนิด..
“ทำไมของกินที่สุวรรณภูมิแม่ง..แพงนักวะ”
ผมบ่นอิดออดตอนที่ไอ้ไวน์ยัดเบอร์เกอร์เข้าปากผมจั๋งหนับ พอแอบติดคอก็ชะโงกหน้าไปดูดเป๊ปซี่ลาล่า แน่นอนว่าผมน่ะ..ไม่มีทางซื้อมากินเองหรอกครับ
“แล้วเชรี้ยเอ็กซ์ไม่มาหรอ?”
“..มันอยู่ซ้อม มะรืนนี้แข่งแล้ว”
“เออว่ะ…อาทิตย์หน้าแข่งกล่าวสุนทรพจน์แล้วนี่หว่า..!” ผมพูดประหนึ่งพึ่งนึกขึ้นได้ หลายๆเรื่องเกิดขึ้นรวดเร็วซะจนลืมหน้าที่หลักหน้าที่รองหน้าที่อื่นๆไปหมด
“ไม่เป็นไรมั้ง อย่างพวกมึงสบายอยู่ละ”
บูมว่าพลางตบบ่าผมเบาๆแล้วหัวเราะร่วน
“ยังไงก็อย่าลืมเอาหลักฐานใบสมัครไปด้วยนะครับ บัตรประจำตัวนักเรียน บัตรประชาชน แล้วก็เอกสารที่มิสแกปริ้นท์มาให้”
ลาล่าเตือนผมพร้อมรอยยิ้ม ผมมุ่ยหน้าหวือ ยังไม่ได้กรอกสักกะแอะ ก็แหงละ..เสือกมีให้เขียนเรียงความชิงอันดับก่อนนี่หว่า บ๊ะ ช่วงนี้ก็วิ่งเข้าวิ่งออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น จะเอาเวลาที่ไหนไปเขียน..
“ช้าจังวึ้ย เครื่องแม่งถึงกี่โมงเนี่ย”
“ตามเวลาแล้วสามทุ่มฮะ แต่คงมีดีเลย์บ้างอะไรบ้าง”
ผมมองนาฬิกา นี่ก็สามทุ่มกว่าๆแล้ว คงรออีกไม่นานเท่าไหร่
คืนนี้เป็นคืนวันศุกร์ที่สีครามจะเดินทางกลับจากอเมริกา หลังจากการผ่าตัดและการพักฟื้น เนื่องจากยังเป็นFull-time studentอยู่เลยขออนุญาตกลับมาเรียนต่อที่ประเทศไทย (ต้องอยู่ในความดูแลของหมอด้วยนะ) ทั้งนี้ทั้งนั้นดอกเตอร์ที่นู่นยังเห็นสมควรให้เข้ารับการตรวจทุกๆ2อาทิตย์ จนกว่าจะหายดี(แต่ไม่ได้กลับไปเป็นปกตินะ)
แล้วผมจะตอกย้ำตัวเองเรื่องไม่มีทางกลับไปเป็นปกติทำไม..
แค่การผ่าตัดดำเนินไปได้ด้วยดี..แค่นั้นผมก็น่าจะ…พอใจแล้วนี่นา..
ผมทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้รอแล้วหยิบช็อตโน้ตขึ้นมาอ่านฆ่าเวลา เพื่อนๆรอบตัวเริ่มส่งเสียงจ้อกแจ้กตามประสาพวกว่างงานเป็นธรรมดาของแม่ง
ถ้าเป็นหนังไทย..ผมคงจะไม่ได้มีแม้แต่โอกาสจะมารับเค้ากลับหรอกฮะ..
พ่อกับแม่ของสีครามบอกว่า..ยังไงลูกเค้าก็ต้องการผม
และไม่ว่าจะยังไง…
ผม..ก็ต้องการเขา..
ผมคิดโทษตัวเองหลายตลบ ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาตาดังกล่าวดูก็แล้ว ในทีแรกก็คิดว่าเปลี่ยนถ่ายอวัยวะน่าจะเวิร์คกว่า แต่พอลองศึกษาเรื่องผลข้างเคียงและความจำเป็นต่างๆนาๆแล้ว ไม่ว่ายังไง..แค่นี้ก็ดีที่สุด
‘..มองเห็นได้ไม่100% ไม่ได้แปลว่ามองไม่เห็นสักหน่อย..’
..แต่ก็หมายถึงประสิทธิภาพมันไม่เหมือนเดิมไม่ใช่หรอ..
ถึงจะรู้สึกผิด..จนแทบจะไม่มีหนังหน้าไปพบหน้าเค้ายังไงก็เหอะ
แต่เพราะผมยัง ‘ต้องการ’ เขา..
ผมคงทนไม่ได้แน่ๆถ้าไม่ได้เห็นเขา..
….ผมมันคนอ่อนแอ….
“พี่เดียร์! อยากทานอะไรมั้ยคะ เดี๋ยวแชมจะไปซื้อ”
เด็กสาวเดินมาก้มตัวถามผม ผมงี้รีบส่ายหน้าแทบจะในทันที
“เฮ้ย ไม่เอา! แพงจะตาย”
“น่า! ได้เบี้ยเลี้ยงจากพี่เอ็กซ์มา พี่เอ็กซ์บอกว่า..ให้ซื้อขนมให้พี่เดียร์เยอะๆ พี่เดียร์จะได้อารมณ์ดี..ไปเจอหน้าพี่สีครามยังไงจ้ะ”
อันที่จริงแล้วรอยยิ้มของแชมเปญก็มีพลังพอที่จะเรียกให้ผมวางหนังสือแล้วลุกขึ้นยืนได้ละครับ แต่ไม่ได้ถึงกับน่าหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้น ผมคงเพียงแค่เอ็นดูแกเหมือนน้องสาวละมั้ง
เรากำลังยืนอยู่หน้าร้านโดนัทเมืองนอก ดี๋ด๋ากันอยู่พอเป็นพิธีว่าจะเอาอะไรดี ไอ้บูมที่ติดสอยห้อยตามมาด้วยก็ก้มหน้าไปซะชิด ลังเลอยู่สักพักว่าจะเอาไส้ครีมหรือไส้สตรอเบอร์รี่ ผมเลยชิงตัดหน้าคว้าไส้ช็อคโกแลตมาเชยชม
มันงี้ยิ่งงอนใหญ่ โวยวายกับพี่คนขายว่าจะเอาลายแพนเค้กลายปิกะจู ซึ่ง..มันจะไปมีได้ยังไงฟะ
“เฮ้ยๆ ไปให้คุณลูกหนูทำให้ดิมึง”
ลืมบอก ไอ้ปากไม่มีหูรูดกลอนก็ตามมาด้วยครับ มันเอ่ยแซวจ๋าอยู่ที่เครืองคิดเงิน
“รายนั้นวาดปิกะจูไม่เป็น วาดเป็นแต่แมวเหมียวคิตตี้..แต่กูอยากกินปิกะจู”
ไอ้เวร..เสือกรับมุขอีก..
แล้วมันก็เริ่มสาธยายสกิลความควายในการวาดรูปของคุณลูกหนู - - สรุปว่าเค้าสองคนเหมือนกันตรงที่ปัญญาอ่อน ติดการ์ตูน..แต่เดี๋ยวก่อน หน้าอย่างคุณลูกหนูเนี่ยไม่น่าติดการ์ตูนได้เลยนะ
“378บาทค่ะ”
ชิท..แพงนรก..
โดนัท5-6ชิ้นแม่งแพงขนาดนี้เลยหรอวะ…
ค่าเซอร์วิสชาร์จแพงไปปะคุณ กะอีแค่นวดๆแป้งลงไปอบไปทอดอ่ะ มันยากหาเหี้ยอะไรมิทราบวะครับ!?
ผมรีบชิงใบเสร็จออกมาจากเครื่องคิดเงินตามประสาคนเคยทำงานเคาน์เตอร์เซอร์วิส อืม..ชิ้นละเกือบ70บาท…เวรเอ้ย!!!!
แชมเปญมองผมยิ้มๆ แล้วยื่นแบงค์ม่วงให้พี่คนขายแบบไม่ใส่ใจเท่าใดนัก
“ไม่เป็นไรจ้า ก็บอกแล้วไง..เงินพี่เอ็กซ์ อิอิ”
“ต่อให้เป็นเงินมันก็เหอะ ถ้าเหลือเยอะก็เก็บไว้ได้เยอะนะแชม”
“โฮ่ย!! พี่เดียร์เค็ม!!”
“เค้าเรียกว่าประหยัด!”
“เอ้าเลิกเถียง กูว่าพวกมึงออกแนวคุณพ่อดุคุณลูกแล้วว่ะ นั่นๆ..ผู้โดยสารทยอยกันออกมาแล้ว ถึงแล้วมั้งมึง ไปกันเหอะ”
กลอนก็ลากไอ้บูมนำหน้าผมไปรอที่ประตูทางออก ผมกับแชมเปญมองหน้ากัน แล้วระเบิดหัวเราะออกมาด้วยกันทั้งคู่ จากนั้นแชมก็แบ่งโดนัทไส้ช็อคโกแลตออกเป็นสองชิ้น แบ่งกันกินไปเดินไปจนถึงจุดนัดพบ
ผมยอมรับว่าตลอดเวลาไม่กี่วันมานี้ผมสนิทกับแชมเปญเยอะขึ้น(มาก) ก็เพราะพี่ปีใหม่ยังกักบริเวณไม่ให้ผมอยู่คนเดียวอยู่น่ะสิครับ เลยต้องไปค้างที่บ้านไอ้ไวน์ มีติวหนังสือให้บ้าง อะไรบ้าง ช่วงนี้ผมยิ่ง..เครียดๆ ไอ้ไวน์ก็ต้องสนทั้งผมทั้งผัวมัน เจียดเวลามาปลอบไม่ค่อยได้ ถ้าไม่ได้แชมเปญ ผมคงนั่งซึมกระทืออยู่ที่บ้านไม่ยอมลุกแน่ๆ
“เฮ้ยสีคราม!! ทางนี้ๆ!!”
ท่ามกลางฝรั่งหัวทองก็มีแค่ร่างสูงเท่านั้นแหละที่หัวดำโดดเด่นออกมา เจ้าของนามปราดหาตำแหน่งของพวกผมผ่านผู้คนมากมาย ดวงตาสองข้างเปิดออกหมดแล้ว ดูผิวเผินไม่รู้เลยว่ามีความผิดปกติที่ตา..
เขาส่งรอยยิ้มมาให้ผม และสาวเท้าแหวกผู้คนมากมายออกมา
ในทีแรกเพื่อนๆมีท่าทียินดีนักหนา กลับลดเสียงลงอย่างเสียมิได้
ผู้หญิงที่เกาะแขนเขาอยู่คนนั้น…เป็นใคร?
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
หล่อนเป็นหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้งอายุอานามราวๆ20ต้นๆ เรือนผมสีดำสนิทดัดหยิกเป็นลอนและดวงหน้าคมสวยราวรูปสลัก ดวงตาเรียวชี้ปาดมาสคาร่าขนตายาวจนแทบจะจิ้มทะลุเพดาน กลีบปากกว้างเอิบอิ่มด้วยลิปกอสมันวาว
หล่อนเป็นผู้หญฺิงที่ดูจัดจ้าน…แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าหล่อน ‘สวย’
สวยไม่ได้หมายถึงน่ารักน่ามองแบบแชมเปญ ไม่ได้สวยจนน่าตะลึงแบบคุณลูกหนู
แต่สวยแบบมั่นใจ
สวยด้วยบุคลิกและท่าทาง
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า..
สองแขนเรียวยาวกอดแขนของร่างสูงแน่น จนลำแขนส่วนบนแทบจะบดเบียดชิดไปกับหน้าอกหน้าใจใต้เสื้อโค้ทนั่น แถมยังอิงแอบกันจน..อื้ม..คนไม่รู้นี่ก็..ไม่รู้เลยเนอะ?
“เพื่อนหรอ?”
ภาษาไทยสำเนียงเปร่งหูที่ทักออกมาทำเอาทุกคนต้องกระตุกยิ้มแหย
อะไรไม่ทราบดลบันดาลให้พวกเรายกมือไหว้ทักทาย
“ครับ”
สีครามตอบกลับทั้งรอยยิ้ม แล้วพอเห็นผม(ซึ่งคาดว่าคงกำลังทำหน้าตูดอยู่เช่นเคย)เลยรีบดึงแขนออกเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้
“นี่…พี่รุ้ง”
เขาแนะนำแบบหยาบๆสุดฤทธิ์สุดเดชพลางเดินมาทางผม แต่ดูเหมือนคุณเธอจะไม่ใส่ใจภาวะแวดล้อมใดๆทั้งสิ้น เดินตามมาเกาะแขนแบบถึงเนื้อถึงตัวแทบจะในทันที
“ทำเป็นคนอื่นคนไกลไปได้นะคราม ก็บอกแล้วไงว่าคนกันเอง”
พวงแก้มเนียนแนบลงไปที่ไหล่กว้าง แถมคนถูกกระทำก็เสือกไม่ได้ว่ากล่าวอะไรสักนิด
“อ่า…พี่รุ้งจะแวะบ้านเพื่อนก่อนกลับไม่ใช่หรอครับ? ไม่รีบไปหรอ…”
“จ้าๆ นี่ก็ไล่กันจริง..ไปละ”
หากว่าหล่อนจากไปด้วยดีผมคงไม่รู้สึกแบบนี้..
เรียวแขนยาวอ้อมมาโอบลำคอคนของผมให้ลงไปแนบชิด บดกลีบปากอิ่มลงบนมุมปากสวยชนิดที่ไม่แคร์สื่อ มันเป็นเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ..แต่ทำไมเหมือนเข็มวินาทีมันกระดิกช้าลงรึไงไม่รู้
จากมุมที่ผมมอง ผมเห็นชัดเจนทุกท่วงท่าที่กระทำจวบจนลิปสติกสีแดงสวยบรรจงแปะอยู่ใบมุมปากหมอนั่นด้วยซ้ำ
ในขณะที่พวกเพื่อนที่เหลือ…ถลึงตาจนเบ้าแทบจะกระเด็น..
“เฮ้ย!!!!!!!!”
เสียงกรีดร้องแหกปากของไอ้บูมดังลั่นขึ้นมาทันทีที่ตั้งสติได้
เสียงนั้นเรียกสติผมและสีครามกลับเข้าร่าง หมอนั่นเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว ยกมือแตะตรงบริเวณที่ถูกจูบเหมือนไม่เชื่อ แต่ในคราวเดียวกันทำไมอากัปกิริยานั้นๆดูคุ้นเคยอย่างประหลาด
สาวเจ้าหันมาฉีกยิ้มหวานให้เรียงตัว ปราดดวงตาสวยๆคู่นั้นไปทั่วแล้วมาหยุดอยู่ที่ผม
ผมไม่ได้โง่จนคิดไม่ได้หรอกว่า..แววตาคู่นั้น..
..ประหนึ่งสาส์นท้าดวล..
“แล้วเจอกันนะ”
เสียงกระซิบบอกกล่าวแผ่วเบาพร้อมรอยยิ้มหวาน
สะบัดตัวเดินสะโอดสะองค์ยักย้ายส่ายสะโพกประหนึ่งนางแบบนางงาม
ทิ้งลูกระเบิดลูกใหญ่ไว้กลางสนามบินสุวรรณภูมิ
ส่วนในใจผมตอนนี้น่ะหรอ..
…มีเรื่องต้องเคลียร์กันอีกยาวเลย…
คุณสีคราม โกสินทร์วิตรม
ความคิดเห็น