ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *ปฏิบัติการณ์รักร้าย Ver. เจ้าชาย..กับนายตัวแสบ*by ozaka

    ลำดับตอนที่ #32 : CHAPTER 31 คนของกู (ภาคต้น)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.46K
      24
      30 พ.ย. 54

    CHAPTER 31

     

    คนของกู (ภาคต้น)

     

     

     

     

     

     

                    การผ่าตัดเป็นไปด้วยดี..

                    แต่คำว่า ‘ดี’ ในที่นี้แค่มีชีวิตรอด..ไม่ได้หมายความว่าจะมองเห็น..

     

     

                    สีครามจะเรียนต่อบริหาร

                    เรื่องตาจึงไม่เป็นอุปสรรคเท่าไหร่นัก

     

                    นั่นเป็นคำปลอบของเขา

                    ที่ไม่ได้ทำให้ผมสบายใจขึ้นเลยสักนิด..

     

     

     

                    ทำไมของกินที่สุวรรณภูมิแม่ง..แพงนักวะ”

     

                    ผมบ่นอิดออดตอนที่ไอ้ไวน์ยัดเบอร์เกอร์เข้าปากผมจั๋งหนับ  พอแอบติดคอก็ชะโงกหน้าไปดูดเป๊ปซี่ลาล่า  แน่นอนว่าผมน่ะ..ไม่มีทางซื้อมากินเองหรอกครับ

                    แล้วเชรี้ยเอ็กซ์ไม่มาหรอ?”

                    “..มันอยู่ซ้อม  มะรืนนี้แข่งแล้ว”

                    เออว่ะ…อาทิตย์หน้าแข่งกล่าวสุนทรพจน์แล้วนี่หว่า..!” ผมพูดประหนึ่งพึ่งนึกขึ้นได้  หลายๆเรื่องเกิดขึ้นรวดเร็วซะจนลืมหน้าที่หลักหน้าที่รองหน้าที่อื่นๆไปหมด

                    ไม่เป็นไรมั้ง  อย่างพวกมึงสบายอยู่ละ”

                    บูมว่าพลางตบบ่าผมเบาๆแล้วหัวเราะร่วน

                    ยังไงก็อย่าลืมเอาหลักฐานใบสมัครไปด้วยนะครับ  บัตรประจำตัวนักเรียน  บัตรประชาชน  แล้วก็เอกสารที่มิสแกปริ้นท์มาให้”

                    ลาล่าเตือนผมพร้อมรอยยิ้ม  ผมมุ่ยหน้าหวือ  ยังไม่ได้กรอกสักกะแอะ  ก็แหงละ..เสือกมีให้เขียนเรียงความชิงอันดับก่อนนี่หว่า บ๊ะ  ช่วงนี้ก็วิ่งเข้าวิ่งออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น  จะเอาเวลาที่ไหนไปเขียน..

                    ช้าจังวึ้ย  เครื่องแม่งถึงกี่โมงเนี่ย”

                    ตามเวลาแล้วสามทุ่มฮะ  แต่คงมีดีเลย์บ้างอะไรบ้าง”

                    ผมมองนาฬิกา  นี่ก็สามทุ่มกว่าๆแล้ว  คงรออีกไม่นานเท่าไหร่

     

                    คืนนี้เป็นคืนวันศุกร์ที่สีครามจะเดินทางกลับจากอเมริกา  หลังจากการผ่าตัดและการพักฟื้น  เนื่องจากยังเป็นFull-time studentอยู่เลยขออนุญาตกลับมาเรียนต่อที่ประเทศไทย  (ต้องอยู่ในความดูแลของหมอด้วยนะ)  ทั้งนี้ทั้งนั้นดอกเตอร์ที่นู่นยังเห็นสมควรให้เข้ารับการตรวจทุกๆ2อาทิตย์  จนกว่าจะหายดี(แต่ไม่ได้กลับไปเป็นปกตินะ)

                    แล้วผมจะตอกย้ำตัวเองเรื่องไม่มีทางกลับไปเป็นปกติทำไม..

                    แค่การผ่าตัดดำเนินไปได้ด้วยดี..แค่นั้นผมก็น่าจะ…พอใจแล้วนี่นา..

                    ผมทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้รอแล้วหยิบช็อตโน้ตขึ้นมาอ่านฆ่าเวลา  เพื่อนๆรอบตัวเริ่มส่งเสียงจ้อกแจ้กตามประสาพวกว่างงานเป็นธรรมดาของแม่ง

                    ถ้าเป็นหนังไทย..ผมคงจะไม่ได้มีแม้แต่โอกาสจะมารับเค้ากลับหรอกฮะ..

                    พ่อกับแม่ของสีครามบอกว่า..ยังไงลูกเค้าก็ต้องการผม

     

                    และไม่ว่าจะยังไง…

     

                    ผม..ก็ต้องการเขา..

     

     

                    ผมคิดโทษตัวเองหลายตลบ  ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาตาดังกล่าวดูก็แล้ว  ในทีแรกก็คิดว่าเปลี่ยนถ่ายอวัยวะน่าจะเวิร์คกว่า  แต่พอลองศึกษาเรื่องผลข้างเคียงและความจำเป็นต่างๆนาๆแล้ว  ไม่ว่ายังไง..แค่นี้ก็ดีที่สุด

                    ‘..มองเห็นได้ไม่100%  ไม่ได้แปลว่ามองไม่เห็นสักหน่อย..’

                    ..แต่ก็หมายถึงประสิทธิภาพมันไม่เหมือนเดิมไม่ใช่หรอ..

                    ถึงจะรู้สึกผิด..จนแทบจะไม่มีหนังหน้าไปพบหน้าเค้ายังไงก็เหอะ

     

                    แต่เพราะผมยัง ‘ต้องการ’ เขา..

     

                    ผมคงทนไม่ได้แน่ๆถ้าไม่ได้เห็นเขา..

     

     

     

     

                    ….ผมมันคนอ่อนแอ….

     

     

     

     

     

                    พี่เดียร์!  อยากทานอะไรมั้ยคะ  เดี๋ยวแชมจะไปซื้อ”

                    เด็กสาวเดินมาก้มตัวถามผม  ผมงี้รีบส่ายหน้าแทบจะในทันที

                    เฮ้ย  ไม่เอา!  แพงจะตาย”

                    น่า!  ได้เบี้ยเลี้ยงจากพี่เอ็กซ์มา  พี่เอ็กซ์บอกว่า..ให้ซื้อขนมให้พี่เดียร์เยอะๆ  พี่เดียร์จะได้อารมณ์ดี..ไปเจอหน้าพี่สีครามยังไงจ้ะ”

                    อันที่จริงแล้วรอยยิ้มของแชมเปญก็มีพลังพอที่จะเรียกให้ผมวางหนังสือแล้วลุกขึ้นยืนได้ละครับ  แต่ไม่ได้ถึงกับน่าหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้น  ผมคงเพียงแค่เอ็นดูแกเหมือนน้องสาวละมั้ง

     

                    เรากำลังยืนอยู่หน้าร้านโดนัทเมืองนอก  ดี๋ด๋ากันอยู่พอเป็นพิธีว่าจะเอาอะไรดี  ไอ้บูมที่ติดสอยห้อยตามมาด้วยก็ก้มหน้าไปซะชิด  ลังเลอยู่สักพักว่าจะเอาไส้ครีมหรือไส้สตรอเบอร์รี่  ผมเลยชิงตัดหน้าคว้าไส้ช็อคโกแลตมาเชยชม

                    มันงี้ยิ่งงอนใหญ่  โวยวายกับพี่คนขายว่าจะเอาลายแพนเค้กลายปิกะจู  ซึ่ง..มันจะไปมีได้ยังไงฟะ

                    เฮ้ยๆ  ไปให้คุณลูกหนูทำให้ดิมึง”

                    ลืมบอก  ไอ้ปากไม่มีหูรูดกลอนก็ตามมาด้วยครับ  มันเอ่ยแซวจ๋าอยู่ที่เครืองคิดเงิน

                    รายนั้นวาดปิกะจูไม่เป็น  วาดเป็นแต่แมวเหมียวคิตตี้..แต่กูอยากกินปิกะจู”

                    ไอ้เวร..เสือกรับมุขอีก..

                    แล้วมันก็เริ่มสาธยายสกิลความควายในการวาดรูปของคุณลูกหนู - - สรุปว่าเค้าสองคนเหมือนกันตรงที่ปัญญาอ่อน ติดการ์ตูน..แต่เดี๋ยวก่อน  หน้าอย่างคุณลูกหนูเนี่ยไม่น่าติดการ์ตูนได้เลยนะ

                    “378บาทค่ะ”

                    ชิท..แพงนรก..

                    โดนัท5-6ชิ้นแม่งแพงขนาดนี้เลยหรอวะ…

                    ค่าเซอร์วิสชาร์จแพงไปปะคุณ  กะอีแค่นวดๆแป้งลงไปอบไปทอดอ่ะ  มันยากหาเหี้ยอะไรมิทราบวะครับ!?

                    ผมรีบชิงใบเสร็จออกมาจากเครื่องคิดเงินตามประสาคนเคยทำงานเคาน์เตอร์เซอร์วิส  อืม..ชิ้นละเกือบ70บาท…เวรเอ้ย!!!!

                    แชมเปญมองผมยิ้มๆ  แล้วยื่นแบงค์ม่วงให้พี่คนขายแบบไม่ใส่ใจเท่าใดนัก

                    ไม่เป็นไรจ้า  ก็บอกแล้วไง..เงินพี่เอ็กซ์  อิอิ”

                    ต่อให้เป็นเงินมันก็เหอะ  ถ้าเหลือเยอะก็เก็บไว้ได้เยอะนะแชม”

                    โฮ่ย!!  พี่เดียร์เค็ม!!”

                    เค้าเรียกว่าประหยัด!”

     

                    เอ้าเลิกเถียง  กูว่าพวกมึงออกแนวคุณพ่อดุคุณลูกแล้วว่ะ  นั่นๆ..ผู้โดยสารทยอยกันออกมาแล้ว  ถึงแล้วมั้งมึง  ไปกันเหอะ”

     

                    กลอนก็ลากไอ้บูมนำหน้าผมไปรอที่ประตูทางออก  ผมกับแชมเปญมองหน้ากัน  แล้วระเบิดหัวเราะออกมาด้วยกันทั้งคู่  จากนั้นแชมก็แบ่งโดนัทไส้ช็อคโกแลตออกเป็นสองชิ้น  แบ่งกันกินไปเดินไปจนถึงจุดนัดพบ

     

                    ผมยอมรับว่าตลอดเวลาไม่กี่วันมานี้ผมสนิทกับแชมเปญเยอะขึ้น(มาก)  ก็เพราะพี่ปีใหม่ยังกักบริเวณไม่ให้ผมอยู่คนเดียวอยู่น่ะสิครับ  เลยต้องไปค้างที่บ้านไอ้ไวน์  มีติวหนังสือให้บ้าง อะไรบ้าง  ช่วงนี้ผมยิ่ง..เครียดๆ  ไอ้ไวน์ก็ต้องสนทั้งผมทั้งผัวมัน  เจียดเวลามาปลอบไม่ค่อยได้  ถ้าไม่ได้แชมเปญ  ผมคงนั่งซึมกระทืออยู่ที่บ้านไม่ยอมลุกแน่ๆ

     

     

                    เฮ้ยสีคราม!!  ทางนี้ๆ!!”

     

     

                    ท่ามกลางฝรั่งหัวทองก็มีแค่ร่างสูงเท่านั้นแหละที่หัวดำโดดเด่นออกมา  เจ้าของนามปราดหาตำแหน่งของพวกผมผ่านผู้คนมากมาย  ดวงตาสองข้างเปิดออกหมดแล้ว  ดูผิวเผินไม่รู้เลยว่ามีความผิดปกติที่ตา..

     

                    เขาส่งรอยยิ้มมาให้ผม  และสาวเท้าแหวกผู้คนมากมายออกมา

                    ในทีแรกเพื่อนๆมีท่าทียินดีนักหนา  กลับลดเสียงลงอย่างเสียมิได้

     

     

                    ผู้หญิงที่เกาะแขนเขาอยู่คนนั้น…เป็นใคร?

     

     

     

     

     

    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

     

     

     

     

                    หล่อนเป็นหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้งอายุอานามราวๆ20ต้นๆ  เรือนผมสีดำสนิทดัดหยิกเป็นลอนและดวงหน้าคมสวยราวรูปสลัก  ดวงตาเรียวชี้ปาดมาสคาร่าขนตายาวจนแทบจะจิ้มทะลุเพดาน  กลีบปากกว้างเอิบอิ่มด้วยลิปกอสมันวาว

                    หล่อนเป็นผู้หญฺิงที่ดูจัดจ้าน…แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าหล่อน ‘สวย’

                    สวยไม่ได้หมายถึงน่ารักน่ามองแบบแชมเปญ  ไม่ได้สวยจนน่าตะลึงแบบคุณลูกหนู

                    แต่สวยแบบมั่นใจ

                    สวยด้วยบุคลิกและท่าทาง

     

                    ประเด็นมันอยู่ที่ว่า..

     

                    สองแขนเรียวยาวกอดแขนของร่างสูงแน่น  จนลำแขนส่วนบนแทบจะบดเบียดชิดไปกับหน้าอกหน้าใจใต้เสื้อโค้ทนั่น  แถมยังอิงแอบกันจน..อื้ม..คนไม่รู้นี่ก็..ไม่รู้เลยเนอะ?

     

     

                    เพื่อนหรอ?”

     

                    ภาษาไทยสำเนียงเปร่งหูที่ทักออกมาทำเอาทุกคนต้องกระตุกยิ้มแหย

                    อะไรไม่ทราบดลบันดาลให้พวกเรายกมือไหว้ทักทาย

                    ครับ”

                    สีครามตอบกลับทั้งรอยยิ้ม  แล้วพอเห็นผม(ซึ่งคาดว่าคงกำลังทำหน้าตูดอยู่เช่นเคย)เลยรีบดึงแขนออกเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้

                    นี่…พี่รุ้ง”

                    เขาแนะนำแบบหยาบๆสุดฤทธิ์สุดเดชพลางเดินมาทางผม  แต่ดูเหมือนคุณเธอจะไม่ใส่ใจภาวะแวดล้อมใดๆทั้งสิ้น  เดินตามมาเกาะแขนแบบถึงเนื้อถึงตัวแทบจะในทันที

                    ทำเป็นคนอื่นคนไกลไปได้นะคราม  ก็บอกแล้วไงว่าคนกันเอง”

                    พวงแก้มเนียนแนบลงไปที่ไหล่กว้าง  แถมคนถูกกระทำก็เสือกไม่ได้ว่ากล่าวอะไรสักนิด

                    อ่า…พี่รุ้งจะแวะบ้านเพื่อนก่อนกลับไม่ใช่หรอครับ?  ไม่รีบไปหรอ…”

                    จ้าๆ  นี่ก็ไล่กันจริง..ไปละ”

     

     

                    หากว่าหล่อนจากไปด้วยดีผมคงไม่รู้สึกแบบนี้..

     

                    เรียวแขนยาวอ้อมมาโอบลำคอคนของผมให้ลงไปแนบชิด  บดกลีบปากอิ่มลงบนมุมปากสวยชนิดที่ไม่แคร์สื่อ  มันเป็นเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ..แต่ทำไมเหมือนเข็มวินาทีมันกระดิกช้าลงรึไงไม่รู้

                    จากมุมที่ผมมอง  ผมเห็นชัดเจนทุกท่วงท่าที่กระทำจวบจนลิปสติกสีแดงสวยบรรจงแปะอยู่ใบมุมปากหมอนั่นด้วยซ้ำ

     

                    ในขณะที่พวกเพื่อนที่เหลือ…ถลึงตาจนเบ้าแทบจะกระเด็น..

     

     

                    เฮ้ย!!!!!!!!”

     

     

                    เสียงกรีดร้องแหกปากของไอ้บูมดังลั่นขึ้นมาทันทีที่ตั้งสติได้

                    เสียงนั้นเรียกสติผมและสีครามกลับเข้าร่าง  หมอนั่นเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว  ยกมือแตะตรงบริเวณที่ถูกจูบเหมือนไม่เชื่อ  แต่ในคราวเดียวกันทำไมอากัปกิริยานั้นๆดูคุ้นเคยอย่างประหลาด

                    สาวเจ้าหันมาฉีกยิ้มหวานให้เรียงตัว  ปราดดวงตาสวยๆคู่นั้นไปทั่วแล้วมาหยุดอยู่ที่ผม

                    ผมไม่ได้โง่จนคิดไม่ได้หรอกว่า..แววตาคู่นั้น..

                    ..ประหนึ่งสาส์นท้าดวล..

     

     

                แล้วเจอกันนะ”

     

     

                    เสียงกระซิบบอกกล่าวแผ่วเบาพร้อมรอยยิ้มหวาน

     

     

                    สะบัดตัวเดินสะโอดสะองค์ยักย้ายส่ายสะโพกประหนึ่งนางแบบนางงาม

                    ทิ้งลูกระเบิดลูกใหญ่ไว้กลางสนามบินสุวรรณภูมิ

     

     

                    ส่วนในใจผมตอนนี้น่ะหรอ..

     

     

                    มีเรื่องต้องเคลียร์กันอีกยาวเลย…

     

                    คุณสีคราม  โกสินทร์วิตรม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×