คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : CHAPTER 9 งั้นผมจะบอกอะไรให้นะ...คืนนั้นน่ะ...
CHAPTER 9
งั้นผมจะบอกอะไรให้นะ...คืนนั้นน่ะ...
ขี้โมโห เอาแต่ใจ
และมีดวงตาที่มองตรงไปข้างหน้าอย่างมั่นคง..
บางครั้ง..ผมยังเคยสงสัยว่าเขากำหนดมั้ยที่จะก้าวขาขวาลงจากเตียง หรือเคยบันทึกเตือนตัวเองรึเปล่าว่าต้องแปรงฟันด้านซ้ายก่อนแล้วค่อยแปรงฟันหน้า
เขาดูเป็นคน ‘จริงจัง’ กับทุกสิ่ง..
และอยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูงมากมาย..
เขาไม่ใช่คนหน้าตาดี ไม่ได้หล่อลากไส้อย่างพี่สายสิญจน์ สวยหมดจดอย่างไวน์ หล่อล่ำเข้มอย่างเอ็กซ์ พูดเก่งอย่างองศา หน้าใสเหมือนน้ำมนต์ อารมณ์ดีเหมือนกลอน จีบสาวเก่งอย่างเทียนไข ขรึมเท่ห์อย่างพี่ดาวเสาร์ มากความสามารถอย่างพี่อิฐ หรือใครต่อใครที่อยู่ใน ‘รักร้าย’..กลุ่มก้อนทางอำนาจในโรงเรียนที่ผมอยู่..
เขาไม่ใช่คนหน้าตาดี..แต่เป็นคนที่ ‘โดดเด่น’
ด้วยปากแดงๆคู่นั้น ด้วยไฝสเน่ห์ที่ข้างแก้มนั่น ด้วยใบหน้าขาวๆเจือเลือดฝาดบางๆ ด้วยคิ้วเรียวที่กดลงมาซะชิดกับดั้งจมูกเล็ก ด้วยปลายจมูกเชิดนิดที่ตรงกับนิสัยความรั้นของเจ้าตัวไม่มีผิด
และด้วยดวงตากลมดุ ให้ความรู้สึกเข้มแข็งและทรงพลัง
ฉาบบังความรู้สึก ‘หวาดกลัว’ ไว้ภายในจิตใจ
เขา ‘โดดเด่น’ แม้แต่ในแวบแรกของวันปฐมนิเทศน์ที่ผมเห็นเขายืนอยู่ตรงนั้น กัดฟันยืนอยู่ตรงป้ายรถเมล์ทั้งชุดนักเรียน จ้องมองไปรอบๆทั้งไม่กล้าไม่อยากและเกลียดการที่ต้องพึ่งพาใคร และไม่เอ่ยถามผมที่ยืนอยู่ข้างๆเขาด้วยซ้ำว่า ‘โรงเรียนเกษรวิทยาไปทางไหน’ ทั้งๆที่เขาหลงทางอยู่
เรียวคิ้วของเขาขมวดกดมาตรงกลาง จนผมนึกอยากยื่นมาไปคลายปมนั้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น
บทสรุปกลายเป็นเขาด่าผมตรงๆว่า ‘ไอ้โรคจิต!’ แต่ก็เดินตามผมต้อยๆเพื่อเข้าโรงเรียน
“กูเป็นเด็กดีรึเปล่า?”
ตอนนี้..เขาล้มพับอยู่ในอ้อมแขนของผม ที่พยายามพยุงเขาขึ้นรถเพื่อกลับไปส่งที่หอ
กลิ่นแอลกอฮอลล์ผสมกลิ่นเหงื่ออ่อนๆโชยเข้ามาแตะจมูกจนผมเริ่มโงนเงน ไม่มั่นใจว่าเพราะลุ่มหลงหรือเพราะอารมณ์ทางเพศที่เริ่มคุกรุ่นกันแน่
“เด็กดีสิ”
ผมว่า ก่อนจะชะงักเมื่อแขนเรียวทั้งสองข้างพาดโอบลำคอผมลงไป ใครจะไปรู้ว่าตอนนี้หน้าของเราสองคนชิดกันมากขนาดไหน
ชิดจน..เห็นความอ้างว้างในดวงตาคู่นั้นชัดเจน
ผมรีบหลบตา ดันร่างโปร่งบางนั่นออกห่างจากตัว แม้ผมจะไม่ได้แตะเหล้าเลยสักอึก แต่อะไรบางอย่างก็ทำเอาผมหัวหมุนได้เหมือนกัน
“ถ้าเป็นเด็กดี ต้องรีบขึ้นรถนะ จะไปส่ง”
เหตุผลนั้นดูจะเสไปมั้ย เขาจะเอะใจรึเปล่า ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยอยู่กับคนเมาสองต่อสองนะ แต่เพราะเป็น ‘เขา’ ต่างหากผมเลยประหม่า..
แต่เขากลับกระซิบกับผมทั้งน้ำเสียงแหบพร่า..
“..ถ้ากูเป็นเด็กดี…จะ ‘รัก’ รึเปล่า?”
….
ผมไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงถามอย่างนั้น ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วยซ้ำ
แต่เท่าที่ผมรู้..คือรสชาติความหอมหวานที่อบอวลอยู่ในโพรงปากเล็ก กลิ่นของความใคร่เสน่หาที่พุ่งพรวดโถมทะลักให้ผมเก็บเกี่ยวความหฤหรรษ์จากบดจูบ..จากกลีบปากสีกุหลาบที่ผมชอบ จากเรียวลิ้นสีแดงซุกซนนั่น
“รักสิ”
“..อืม….แล้ว ‘รัก’ ….มากรึเปล่า?”
เขาพูดทั้งๆที่ปากของเรายังไม่แยกออกจากกัน
“..มาก”
“อืม..อื้อ..”
แผ่นหลังเปราะบางราวกับจะหักสลายได้เมื่อถูกผมกอด แต่ผมกลับโฉบฉวยโอกาสโดยการดึงร่างของเขามาแนบชิด จนแทบไม่มีช่องว่างห่างจากกัน
ลานจอดรถที่บ้านไวน์เงียบกริบ เสียงเพลงที่กลอนร้องดังออกมาจากที่ไกลๆ ผมดันร่างของเขาลงบนกระโปรงหน้ารถBMWสีบลอนด์เงินของตัวเอง กดแนบตัวเองเข้าทาบทับร่างโปร่งที่นอนรอรับอย่างเต็มอกเต็มใจ
นี่ผมจำเป็นต้องขืนตัวเองออกมารึเปล่า?
มันเป็นคำถาม..แต่ตอนนั้นผมไม่มีสติพอจะทำแบบนั้น..
“รัก”
ใช่..ผมรักเค้า..คอยเฝ้ามองทุกครั้งที่เขาขึ้นไปรับเกียรติประวัติเรียนดีเด่นอันดับที่4ทุกๆปี
“รัก”
ใช่..ผมรักเค้า..รักจนอดไม่ได้ที่จะมองเขาทุกฝีก้าว คอยสืบเรื่องราวของเค้าทุกเรื่อง
“รัก”
ใช่..ผมรักเค้า..รักจนอกผมคงจะระเบิดตายถ้าไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครสักคน
“รัก”
ใช่..ผมรักเค้า..รักจนกระทั่งวันหนึ่งผมสำนึกได้ว่า..ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เขาคงไม่มีวันหันมามองผม
ผมดูดเลียกลีบปากอิ่มเบาๆ เพียรเฝ้าฟังเสียงครางหวานที่เล็ดลอดออกมา..ทั้งๆที่มันเป็นเพียงแค่จูบ แต่เพียงแค่นั้นผมกลับคิดว่า..มันดีที่สุดแล้ว
ผมหวังให้เค้าผลักผมออกมา ส่งคำด่าร้อยแปดไล่ผมออกไป
บอกให้ผมหยุด บอกว่าเขาเกลียด บอกให้ผมตัดใจ
เพราะตอนนี้ผมควบคุมตัวเองไม่ได้
“อืออ…ถ้าพูดถึงขนาดนั้นละก็…..”
สิ่งที่ผมทำ คือตั้งใจเรียนให้ได้ที่4 เพื่อยืนอยู่ตรงหน้าเขาที่รับรางวัล และประกวดทุกอย่างที่เขาประกวด ลงทุกการแข่งขันที่เขาลง ช่วงชิงทุกรางวัลตัดหน้าเขา เพื่ออย่างน้อย..แค่อย่างน้อย..ให้เขาสะกิดเรียกผมตอนเรายืนรอรับเกียรติบัตร เพื่อพูดกับผมว่า ‘สวัสดี เราชื่อกานดา นายล่ะ? นั่งตรงนี้น่าเบื่อเป็นบ้าเลยว่ามั้ย?’ หรืออะไรก็ตามที่เขาจะพูด
ผมอาจจะตอบกลับไปว่า ‘หวัดดี เราชื่อสีคราม เราชอบนายมาตั้งแต่ม.1แล้วละ’ หรืออะไรประมาณนั้นก็ได้
ผมอาจโดนตบ โดนถีบ หรืออะไรก็ได้
..เพียงแต่เขา..ไม่เคยพูดคำนั้นออกมา..
เขาไม่เคยสนใจผมไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน ตรงไหน หรือเมื่อไหร่
จนผมเร่งเร้าความปรารถนาของตัวเองขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
มันยาก..ที่จะให้คนอย่างเขาตอบรับรักของผม
เพราะงั้นผมเลยปรารถนาที่จะระบายความรู้สึกของผม ออกไปในรูปแบบความรักที่ผมต้องการ
“.....จะยอมนอนด้วยสักครั้งก็ได้”
พระเจ้า…
ผมรู้สึกผิดที่ผมคิดในตอนนั้นว่า…
ผมจะไม่หยุด
ต่อให้วินาทีถัดมาเขาจะไล่ผมออกไปจากตรงนั้นก็ตาม..
ต่อให้ใครก็ตามเข้ามาขัดขวางกิจกรรมของเราก็ตาม..
ต่อให้สิ่งที่ผมทำจะกลายเป็นตราบาปติดตัวเขาไปตลอดก็ตาม..
ต่อให้..
…นับแต่คืนนั้น..ผมจะกลายเป็นคนที่เขาเกลียดที่สุดในโลกก็ตาม..
ความคิดเห็น