ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *ปฏิบัติการณ์รักร้าย Ver. เจ้าชาย..กับนายตัวแสบ*by ozaka

    ลำดับตอนที่ #10 : CHAPTER 9 งั้นผมจะบอกอะไรให้นะ...คืนนั้นน่ะ...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.85K
      40
      2 พ.ย. 54

    CHAPTER 9

     

    งั้นผมจะบอกอะไรให้นะ...คืนนั้นน่ะ...

     

     

     

     

     

     

     

                    ขี้โมโห  เอาแต่ใจ

                และมีดวงตาที่มองตรงไปข้างหน้าอย่างมั่นคง..

     

                    บางครั้ง..ผมยังเคยสงสัยว่าเขากำหนดมั้ยที่จะก้าวขาขวาลงจากเตียง  หรือเคยบันทึกเตือนตัวเองรึเปล่าว่าต้องแปรงฟันด้านซ้ายก่อนแล้วค่อยแปรงฟันหน้า

                    เขาดูเป็นคน ‘จริงจัง’ กับทุกสิ่ง..

                    และอยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูงมากมาย..

     

                    เขาไม่ใช่คนหน้าตาดี  ไม่ได้หล่อลากไส้อย่างพี่สายสิญจน์  สวยหมดจดอย่างไวน์  หล่อล่ำเข้มอย่างเอ็กซ์  พูดเก่งอย่างองศา  หน้าใสเหมือนน้ำมนต์  อารมณ์ดีเหมือนกลอน  จีบสาวเก่งอย่างเทียนไข  ขรึมเท่ห์อย่างพี่ดาวเสาร์  มากความสามารถอย่างพี่อิฐ  หรือใครต่อใครที่อยู่ใน ‘รักร้าย’..กลุ่มก้อนทางอำนาจในโรงเรียนที่ผมอยู่..

                    เขาไม่ใช่คนหน้าตาดี..แต่เป็นคนที่ ‘โดดเด่น’

                    ด้วยปากแดงๆคู่นั้น  ด้วยไฝสเน่ห์ที่ข้างแก้มนั่น  ด้วยใบหน้าขาวๆเจือเลือดฝาดบางๆ  ด้วยคิ้วเรียวที่กดลงมาซะชิดกับดั้งจมูกเล็ก  ด้วยปลายจมูกเชิดนิดที่ตรงกับนิสัยความรั้นของเจ้าตัวไม่มีผิด

     

                    และด้วยดวงตากลมดุ  ให้ความรู้สึกเข้มแข็งและทรงพลัง

     

                    ฉาบบังความรู้สึก ‘หวาดกลัว’ ไว้ภายในจิตใจ

     

                    เขา ‘โดดเด่น’ แม้แต่ในแวบแรกของวันปฐมนิเทศน์ที่ผมเห็นเขายืนอยู่ตรงนั้น  กัดฟันยืนอยู่ตรงป้ายรถเมล์ทั้งชุดนักเรียน  จ้องมองไปรอบๆทั้งไม่กล้าไม่อยากและเกลียดการที่ต้องพึ่งพาใคร  และไม่เอ่ยถามผมที่ยืนอยู่ข้างๆเขาด้วยซ้ำว่า ‘โรงเรียนเกษรวิทยาไปทางไหน’ ทั้งๆที่เขาหลงทางอยู่

                    เรียวคิ้วของเขาขมวดกดมาตรงกลาง  จนผมนึกอยากยื่นมาไปคลายปมนั้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น

                    บทสรุปกลายเป็นเขาด่าผมตรงๆว่า ‘ไอ้โรคจิต!’  แต่ก็เดินตามผมต้อยๆเพื่อเข้าโรงเรียน

     

     

     

     

                กูเป็นเด็กดีรึเปล่า?”

     

     

                    ตอนนี้..เขาล้มพับอยู่ในอ้อมแขนของผม  ที่พยายามพยุงเขาขึ้นรถเพื่อกลับไปส่งที่หอ

     

                    กลิ่นแอลกอฮอลล์ผสมกลิ่นเหงื่ออ่อนๆโชยเข้ามาแตะจมูกจนผมเริ่มโงนเงน  ไม่มั่นใจว่าเพราะลุ่มหลงหรือเพราะอารมณ์ทางเพศที่เริ่มคุกรุ่นกันแน่

                    เด็กดีสิ”

                    ผมว่า  ก่อนจะชะงักเมื่อแขนเรียวทั้งสองข้างพาดโอบลำคอผมลงไป  ใครจะไปรู้ว่าตอนนี้หน้าของเราสองคนชิดกันมากขนาดไหน

                    ชิดจน..เห็นความอ้างว้างในดวงตาคู่นั้นชัดเจน

                    ผมรีบหลบตา  ดันร่างโปร่งบางนั่นออกห่างจากตัว  แม้ผมจะไม่ได้แตะเหล้าเลยสักอึก  แต่อะไรบางอย่างก็ทำเอาผมหัวหมุนได้เหมือนกัน

                    ถ้าเป็นเด็กดี  ต้องรีบขึ้นรถนะ  จะไปส่ง”

                    เหตุผลนั้นดูจะเสไปมั้ย  เขาจะเอะใจรึเปล่า  ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยอยู่กับคนเมาสองต่อสองนะ  แต่เพราะเป็น ‘เขา’ ต่างหากผมเลยประหม่า..

                    แต่เขากลับกระซิบกับผมทั้งน้ำเสียงแหบพร่า..

     

                    “..ถ้ากูเป็นเด็กดี…จะ ‘รัก’ รึเปล่า?”

     

     

                    ….

     

                    ผมไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงถามอย่างนั้น  ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วยซ้ำ

     

                    แต่เท่าที่ผมรู้..คือรสชาติความหอมหวานที่อบอวลอยู่ในโพรงปากเล็ก  กลิ่นของความใคร่เสน่หาที่พุ่งพรวดโถมทะลักให้ผมเก็บเกี่ยวความหฤหรรษ์จากบดจูบ..จากกลีบปากสีกุหลาบที่ผมชอบ  จากเรียวลิ้นสีแดงซุกซนนั่น

                    รักสิ”

                    “..อืม….แล้ว ‘รัก’ ….มากรึเปล่า?”

                    เขาพูดทั้งๆที่ปากของเรายังไม่แยกออกจากกัน

                    “..มาก”

     

                    อืม..อื้อ..”

     

                    แผ่นหลังเปราะบางราวกับจะหักสลายได้เมื่อถูกผมกอด  แต่ผมกลับโฉบฉวยโอกาสโดยการดึงร่างของเขามาแนบชิด  จนแทบไม่มีช่องว่างห่างจากกัน

                    ลานจอดรถที่บ้านไวน์เงียบกริบ  เสียงเพลงที่กลอนร้องดังออกมาจากที่ไกลๆ  ผมดันร่างของเขาลงบนกระโปรงหน้ารถBMWสีบลอนด์เงินของตัวเอง  กดแนบตัวเองเข้าทาบทับร่างโปร่งที่นอนรอรับอย่างเต็มอกเต็มใจ

     

                    นี่ผมจำเป็นต้องขืนตัวเองออกมารึเปล่า?

     

                    มันเป็นคำถาม..แต่ตอนนั้นผมไม่มีสติพอจะทำแบบนั้น..

     

     

                    รัก”

     

                    ใช่..ผมรักเค้า..คอยเฝ้ามองทุกครั้งที่เขาขึ้นไปรับเกียรติประวัติเรียนดีเด่นอันดับที่4ทุกๆปี

     

                    รัก”

     

                    ใช่..ผมรักเค้า..รักจนอดไม่ได้ที่จะมองเขาทุกฝีก้าว  คอยสืบเรื่องราวของเค้าทุกเรื่อง

     

                    รัก”

     

                    ใช่..ผมรักเค้า..รักจนอกผมคงจะระเบิดตายถ้าไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครสักคน

     

                    รัก”

     

                    ใช่..ผมรักเค้า..รักจนกระทั่งวันหนึ่งผมสำนึกได้ว่า..ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป  เขาคงไม่มีวันหันมามองผม

     

     

                    ผมดูดเลียกลีบปากอิ่มเบาๆ  เพียรเฝ้าฟังเสียงครางหวานที่เล็ดลอดออกมา..ทั้งๆที่มันเป็นเพียงแค่จูบ  แต่เพียงแค่นั้นผมกลับคิดว่า..มันดีที่สุดแล้ว

     

                    ผมหวังให้เค้าผลักผมออกมา  ส่งคำด่าร้อยแปดไล่ผมออกไป

                    บอกให้ผมหยุด  บอกว่าเขาเกลียด  บอกให้ผมตัดใจ

                    เพราะตอนนี้ผมควบคุมตัวเองไม่ได้

     

     

                    อืออ…ถ้าพูดถึงขนาดนั้นละก็…..”

     

     

                    สิ่งที่ผมทำ  คือตั้งใจเรียนให้ได้ที่4  เพื่อยืนอยู่ตรงหน้าเขาที่รับรางวัล  และประกวดทุกอย่างที่เขาประกวด  ลงทุกการแข่งขันที่เขาลง  ช่วงชิงทุกรางวัลตัดหน้าเขา    เพื่ออย่างน้อย..แค่อย่างน้อย..ให้เขาสะกิดเรียกผมตอนเรายืนรอรับเกียรติบัตร  เพื่อพูดกับผมว่า ‘สวัสดี  เราชื่อกานดา  นายล่ะ?  นั่งตรงนี้น่าเบื่อเป็นบ้าเลยว่ามั้ย?’  หรืออะไรก็ตามที่เขาจะพูด

                    ผมอาจจะตอบกลับไปว่า ‘หวัดดี  เราชื่อสีคราม  เราชอบนายมาตั้งแต่ม.1แล้วละ’ หรืออะไรประมาณนั้นก็ได้

                    ผมอาจโดนตบ  โดนถีบ  หรืออะไรก็ได้

     

                    ..เพียงแต่เขา..ไม่เคยพูดคำนั้นออกมา..

     

     

                    เขาไม่เคยสนใจผมไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน  ตรงไหน  หรือเมื่อไหร่

                    จนผมเร่งเร้าความปรารถนาของตัวเองขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

     

                    มันยาก..ที่จะให้คนอย่างเขาตอบรับรักของผม

                    เพราะงั้นผมเลยปรารถนาที่จะระบายความรู้สึกของผม  ออกไปในรูปแบบความรักที่ผมต้องการ

     

     

     

                    “.....จะยอมนอนด้วยสักครั้งก็ได้”

     

     

     

                    พระเจ้า…

                    ผมรู้สึกผิดที่ผมคิดในตอนนั้นว่า…

     

                    ผมจะไม่หยุด

     

                    ต่อให้วินาทีถัดมาเขาจะไล่ผมออกไปจากตรงนั้นก็ตาม..

                    ต่อให้ใครก็ตามเข้ามาขัดขวางกิจกรรมของเราก็ตาม..

                    ต่อให้สิ่งที่ผมทำจะกลายเป็นตราบาปติดตัวเขาไปตลอดก็ตาม..

     

     

                    ต่อให้..

     

                    นับแต่คืนนั้น..ผมจะกลายเป็นคนที่เขาเกลียดที่สุดในโลกก็ตาม..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×