ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *ปฏิบัติการณ์รักร้าย Ver. เจ้าชาย..กับนายตัวแสบ*by ozaka

    ลำดับตอนที่ #11 : CHAPTER 10 คนที่ดีแต่ 'ขอโทษ'

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.24K
      36
      2 พ.ย. 54

    CHAPTER 10

     

    คนที่ดีแต่ 'ขอโทษ'

     

     

     

     

     

     

     

                    ผมจ้องหน้าเขา  แต่กลับเป็นเขาที่หลบตาผม

     

                    “……จำได้แล้วหรอ..?”

     

                    สีครามพูดขึ้น  ผมพยักหน้า  ทีแรกไม่คิดว่าจะเขินหรอก  แต่พอรับฟังคำคอนเฟิร์มแบบนั้นก็อายเป็นอยู่บ้างแหละ

                    “..จำได้ถึงไหน?  ไม่หมดใช่มั้ย?”

                    “…ทำไมถึงถามอย่างนั้น..”

                    “…ถ้าจำได้หมด  เธอก็คงไม่มาถามแบบนั้นหรอก”

                    เออ..กูจำได้ไม่หมด  จำได้แต่กระโปรงหน้ารถBMW”

                    ให้ตายสิ  กระโปรงรถแม่งก็เอากันไปได้  ผมยังแอบนึกเสียวว่าไอ้คุณไวน์หรือคนรับใช้บ้านมันสักคนจะแอบผ่านมาเห็นรึเปล่า  แต่เพราะสีหน้าผมแสดงออกไปอย่างชัดเจนแบบนั้นกระมังหมอนั่นเลยยิ้มออก

                    วางใจเถอะ  ผมถูกสุขลักษณะพอที่จะไม่ทำในโรงจอดรถ”

                    หา?..”

     

                    “…เราขับรถกันไปโรงแรมพ่อผม  แต่เธอดูไม่ไหวแล้วก็เลยจอดข้างทาง  แล้วก็..อืมนะ….รถนอกโช๊คมันดี  ก็เลยพอไปไหว  แต่ตอนที่ศอกเธอไปโดนแตรรถก็เล่นเอาเสียวเหมือนกัน  ฮะๆ..”

     

                    ไม่ต้องเล่าเป็นช็อตๆอย่างงั้นว้อยยยย!!!!”

                    ผมแทบจะยกบาทายันปากมันไปแล้ว  ไอ้ตัวIQที่มันเสือกดีจัดของผมก็ดันประมวลออกมาเป็นภาพ  ศอกผมจะไปโดนแตรรถได้ยังไงถ้าหาก..ถ้าหากตำแหน่งเบาะที่เราทำเป็นเบาะหลังหรือข้างคนขับ  และผมก็ขับรถไม่เป็นเพราะฉะนั้น..เพราะฉะนั้น……..

                    ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

                    ไม่คิดแล้วว้อย ไม่คิดดดดดด!!!

     

                    ผมซุกหน้าลงกับหนังสือ  รู้สึกถึงใบหูตัวเองที่ร้อนฉ่าๆ

                    “…กูเป็นคนเริ่ม..จริงๆใช่มั้ย?”

                    หา? เอ่อ..อื้ม  จะว่าอย่างนั้นก็ได้  แต่ผมก็ผิดที่ไม่ห้ามเธอไง..”

                    “…กูสิผิด!  เลิกโทษตัวเองได้แล้วไอ้ห่า!!”

                    “…เอาเป็นว่าสมยอมทั้งคู่แล้วฟังดูดีมั้ยละ?”

                    ผมหยุดคิด “ไม่เลยสักนิด..”

                    งั้นก็ผมผิดคนเดียวแหละ  ฟังดูดีสุดแล้ว” เขาหัวเราะ  แต่ให้ตาย..มาอารมณ์นี้ไม่อยากหัวเราะตามเลยจริงๆ  เลยได้แต่ตะคอก

                    “..ไม่ได้!!  มึงไม่ผิด…ไม่สิ  ผิดน้อยกว่ากู!!!”

                    ก็แล้วจะให้ทำยังไง?”

     

                    “…กูต้องทำอะไรสักอย่าง..”

     

                    เขาเลิกคิ้ว  แล้วยิ้มหวาน

                    จะ ‘รับผิดชอบ’ หรอ?”

     

                    ชะงัก..

                    หยุดก่อน..ไอ้ประโยคนั้นมันคุ้นๆแหะ…..

     

                    ผมเบิกตากว้าง  ให้แทงหวยก็ถูกเอาเสียงวดนี้เนี่ยแหละ  ไม่ต้องเดาเลยว่าคำต่อไปที่มันจะพูดก็คือ..

     

                    พูดมาสิว่า ‘จะรักสีคราม’~  เป็นการรับผิดชอบที่เจ๋งที่สุดแล้ว!!”

     

                    โครม!!

     

                    เอาความมั่นใจแบบนั้นมาจากไหนฟะไอ้ห่าน!!”

                    น้ำเน่า!  อยากจะอ้วก!! อยากจะบ้าตาย!! ว๊ากกกกกกกกกก

                    เค้าว่ากันว่า..ถ้าพร่ำพูดทุกๆวันนายก็จะซึมซับได้เองไง  ลองพูดตามนะ  กานดารักสีครามนะครับ  กานดารักสีครามที่สุดเลย….อุ๊บ!!!!”

                    หุบปากซะ!!”

                    จะอะไรซะอีก..ผมตัดสินใจยัดหมอนใบเล็กที่สุดเข้าปากมันอย่างรวดเร็วไม่ปล่อยให้ทันตั้งตัว  หนึ่งก็เพราะทนฟังต่อไปไม่ได้  สองก็เพราะไม่อยากฟังอีกแล้ว  และสามก็เพราะถ้ามึงยังพูดอีกจะดึงนุ่นจากหมอนมายัดหลอดลมให้แม่งตายห่าตรงนี้แหละครับ

                    แต่ผมก็ไม่ได้กระทำการดังกล่าว  ยังปล่อยให้หมอนั่นหัวเราะรื่นเริงและมองผมด้วยนัยน์ตาหวานๆคู่นั้นเหมือนเคย

                    เขินรุนแรงจังกานดา  แต่ก็ยัง ‘น่ารัก’ เหมือนเดิมนะ~”

                    ใครก็ได้ช่วยบอกที..ไอ้เหี้ยนี่มันปากหวานหรือปากหมากันแน่???

                    ผมยันกายลุกขึ้นไม่ยอมตอบ  คว้าหนังสือที่ตัวเองหยิบมาวางในถาดรับหนังสือ  แล้วลุกขึ้นออกจากล็อค

     

                    และเรื่องที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นครับ…

     

                    เมื่อผมพบว่าล็อคข้างๆอัดแน่นไปด้วยปริมาณคนมหาศาล  ทุกคนเอาหูแนบกับกำแพงล็อคหน้าตาตื่นตระหนกราวกับรับรู้อะไรบางอย่างที่น่าทึ่งนัก  ซึ่งหากได้ย้อนกลับไปอ่านบทสนทนาของผมกับเขาเมื่อครู่แล้วก็มีแต่ควายเท่านั้นแหละที่จะไม่เข้าใจ

     

                    เหนือสิ่งอื่นใด..

                พวกเขาทั้งหลายเหล่านั้น..เป็นเพื่อนตัวแสบของผมเองครับ..

     

     

     

     

     

    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

     

     

     

     

                    ..ผมรู้สึกไปเองรึเปล่าว่ามีสายตาแปลกๆจ้องผมตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว..

     

                    ผม..ผู้ซึ่งเคยคิดเสมอว่าจะไม่สะทกสะท้านกับอากัปกิริยาของใครต่อใครก็ตามในห้องเรียน  สถิตนิ่งตั้งหน้าตั้งตาจดแลคเชอร์เพื่ออนาคตที่สดใสและผลการเรียนที่น่าประทับใจ..

                    แต่นี่ล่อกระทั่งดวงตาเรียวเล็กใต้แว่นกรอบหนาของสัสล่าด้วยเรอะ..

                    เปลือกตาปิดลงเพื่อสงบลมหายใจ  อะไรบางอย่างก็ควรปล่อยให้มันไปตามทางของมันเสีย  อย่างไรเรื่องเหล่านั้นก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย ‘มากมาย’  สักวันพวกมันก็ต้องรู้ความจริงกันอยู่ดี  จะกังวลไปทำไม  มันเป็นเรื่องธรรมชาติ  มันเป็นเรื่องของการสืบเผ่าพันธ์  มันเป็นเรื่องของความต้องการทางเพศที่ไม่ได้มีบันทึกไว้ว่ากำหนดให้ระบายมันออกมาด้วยฝีมือของเพศตรงข้ามอย่างเดียว  บางครั้งยังมีข่าวลือเกี่ยวกับการอนาจารข้ามสปีชี่ส์ด้วยซ้ำไป..

     

                    แล้ว…

     

                    พวกมึงจะมองกูทำเพรื่อออออออออ?????

     

                    กานดา..เป็นอะไรรึเปล่า  ทำไมวันนี้ไม่เห็นถามอะไรบ้างเลยล่ะ?”

                    เสียงที่ทักขึ้นมานั่นเป็นเสียงของอาจารย์เดือนเพ็ญ  อาจารย์ผู้รับผิดชอบวิชาภาษากับการสื่อสาร  หล่อนกำลังเก็บเอกสารเพราะใกล้หมดเวลาแล้วนั่นเอง

                    ผมสะดุ้ง  แล้วรีบสั่นศีรษะ  “ไม่เป็นไรครับ’จารย์  วันนี้เข้าใจ..แล้ว”

                    ตัวหนังสือไม่เข้าหัวสักตัวละสิไม่ว่า…

                    มือเขียนช็อตโน้ตตัวสุดท้ายเสร็จปุ๊บ  กวาดสายตาไล่อ่านครั้งหนึ่งแล้วตั้งท่าจะปิดสมุดประจำวิชา  แต่เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

     

                    “…งี้กูก็หอมแก้มมึงไม่ได้แล้วสิ…”

                    เสียงบูมทักขึ้นเงียบๆ  ผมชะงัก  แล้วหันไปถาม

                    อะไรของมึง?”

                    ก็มึงมี ‘เจ้าของ’ เป็นตัวเป็นตนแล้วนี่”

                    ผมแทบจะหันกลับไปเบิร์ดกบาลมันด้วยสมุดนั่นไม่ทัน  หน้าผากไอ้บูมก็รับความเจ็บปวดดัง ‘ปั๊ก!’ ไปเต็มๆ

                    กูไม่ใช่หมาว้อย!!”

                    ไอ้เหี้ย! พวกกูไม่ได้หมายถึงไอ้ที่อยู่ในปากมึง!  หมายถึงหัวใจมึงต่างหาก~  ที่มีเจ้าของแล้วววว”

                    ไอ้ไวน์เสริมพลางเท้าคางทำตาหวานเยิ้ม  ก่อนตั๊มกับกรังที่โผล่มาส่งเสียงวีดวิ๊วผิวปากเป็นลูกน้องพวกมัน

                    เชดดดด  น้องเดียร์มีหวานใจแล้วหรอจ๊ะ?  สาวบ้านไหนหว่าาาาา”

                    วุ่นโผล่มาร่วมวงด้วยใบหน้าแป้นแล้น  หนำซ้ำยังถืออภิสิทธิ์วางแขนบนไหล่ผมอีกต่างหาก

                    โนๆ  ไม่ใช่สาวหรอก  หนุ่มต่างหาก”

                    แถมมีบรรดาศักดิ์เป็นถึง ‘เจ้าชาย’ ด้วยนะ!!”

     

                    ได้ฟังดังนั้นวุ่นก็หันไปสบตากับจิ๊บสหายซี้  ไอ้จิ๊บละออกมาจากการลอกแลคเชอร์แล้วแทบจะกรีดร้อง

     

                    กรี๊ดดดดดดดด  จริงดิ!!!  เจ้าชายแห่งตระกูลโกสินทร์วิตรมคนนั้นน่ะนะ!!  ถึงว่า…ช่วงนี้พวกมึงสนิทกันจัง!  แม่เจ้าว้อยยย หนุ่มซึนห้องกูขายออกแล้ววววววว”

     

                    ไม่ต้องเอาไปป่าวประกาศสิวะแสรดดดดดดดดดดดด!!!!”

                    ผมตะโกนด่าให้ทุกคนในห้อง(ที่เริ่มผิวปากเชียร์กันสนั่นเมือง)หุบตูดของมันกันซะ  รู้สึกได้เลยว่าหน้าร้อนจะแทบจะลุกเป็นไฟ  หนึ่งเพราะโกรธ สองเพราะโกรธ  และสามเพราะโกรธ

                    นี่ดูพวกมึงจะสนับสนุนให้กูเป็นเกย์กันจังนะไอ้ห่า!..”

                    แหม  ก็ดูมึงสิ..ไม่น่ามีผู้หญิงคนไหนทนมึงได้น่ะ กร๊ากกกกกกก”

                    อีกฝ่ายเป็นเจ้าชาย..มึงน่าจะดีใจกันนะ”

                    รูปหล่อ”

                    พ่อรวย”

                    **ใหญ่”

                    ใจดี”

                    ลีลาเด็ด”

                    มากกว่าเจ็ดนิ้ว”

                    คิ้วเข้ม”

                    เม้มแดง”

                    แล้วยังสเปิร์มแข็งแรงอีกนะ”

                    โครม!!

                    ไอ้สัส!!”

     

                    ภาษามึงจะหยาบโลนไปไหน  แล้วมึงไปพิสูจน์เรื่องพรรค์นั้นกันตอนไหนฟะเนี่ย  หรือพวกมึงลืมกันไปหมดแล้วเรอะว่านี่ไม่ใช่โรงเรียนชายล้วน…แต่ไอ้เพศเมียที่วี๊ดว๊ายกระตู้วู้วกันอยู่ตรงนั้นก็เรียกได้ไม่เต็มปากว่า ‘สตรีเพศ’ สักเท่าไหร่

     

                    และไอ้คนที่พวกมึงพูดถึงกันน่ะ..มันยืนอยู่หน้าห้องตั้งแต่ประโยคสรรเสริญแรกแล้วว้อย!!

     

                    ฮะๆ..ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”

                    สีครามพูดพร้อมรอยยิ้มเปล่งประกายแบบเดิม  เพื่อนๆหัวเราะล้อเลียนกันยกใหญ่  ปล่อยให้ผมยืนหน้าแดงก่ำ..ในใจนึกอยากจะหาจอบพลั่วสักอันมาขุดหลุมมุดดินหนีหายไปจากตรงนั้นซะ

                    อย่าเล่นสิ!  กานดาเขินหมดแล้วเลยเห็นมั้ย?”

                    นั่นเป็นครั้งแรกในโลกที่ผมไม่อยากให้ใครมาสนใจมากขนาดนี้..

     

                    “…ก็เพราะมึงน่ะแหละ!!”

     

                    ผมแหกปากลั่น  ดังจนทุกอย่างกลับสู่ความเงียบ

                    ผมสบตากับเขา  ที่กำลังเดินเข้ามาหาผมอย่างเป็นห่วงเป็นใย  ประกายสดใสในดวงตาคู่นั้นไหววูบพิลึก  มันเป็นสิ่งเตือนสติให้ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า..ผม ‘พาล’ เค้า..

                    -…”

                    ผมไม่ได้อยากเห็นเขาทำหน้าแบบนั้น  ไม่ได้อยากเห็นเขากลับมายิ้มแบบนั้น..ยิ้มแบบที่ทุกอย่างบนโลกมันเศร้าไปเสียหมด

                    สายตากวาดมองหาแพะรับแทน  ไปสะดุดที่สองสาวแก๊งค์ยาดองที่ยังนั่งอึ้งกับคำตะคอกของผมเมื่อครู่

                    เพราะพวกมึงน่ะแหละ!!  ถ้าไม่เอาเหล้ายัดปากกูวันนั้นก็ไม่มีวันนี้!!”

                    เฮ้ย!  ไหงมาโทษพวกกูวะ!!”

     

                    ..เพราะ….ผมแค่อยากให้เขายิ้ม..รอยยิ้มที่เหมือนโลกทั้งใบสดใสแบบนั้น..

     

                    ทุกคนในห้องเงียบ  เหมือนที่ผมเงียบ  ทุกอย่างมันเงียบและดูเชื่องช้าไปเสียหมด  เข็มวินาทีกระดิกช้ากว่าที่เคยเป็น  มีเพียงหัวใจของผมที่เต้นเร็วกว่าทุกครั้ง..และดวงตาคู่สวยคู่นั้นสะกดให้ผมไม่อาจละสายตาได้..

                    “…ไม่ได้โทษ..”

                    ผมว่าผมกำลังต้องมนต์อะไรบางอย่างแน่ๆ  อย่างน้อยก็จากกลีบปากสีเข้มที่หยักขึ้นนิดๆนั่น

                    กูจะบอกว่า……..”

                    ผมสะกดลมหายใจตัวเอง  แทบจะกลั้นมันเอาไว้ไม่อยู่

     

     

                    สีคราม โกสินทร์วิตรม

                    ทายาทอันดับที่1ของเศรษฐีร้อยล้าน  ว่าที่ประธานบริษัทในเครือโกสินทร์วิตรม

     

                    เจ้าของเรือนผมสีขนกา  และดวงตาคู่หวานสวยจนเรียกได้ว่ามันคือความงามทั้งหมดของโลกมนุษย์  เจ้าของรอยยิ้มของผู้ที่มีความสุขมากที่สุด  เจ้าของถ้อยคำจริงใจแต่กลับทำให้หัวใจไหวสะท้าน

     

     

                    เจ้าของเวทมนตร์..ที่ทำให้ผมพูดออกไปว่า…

     

     

     

                    “…ขอบคุณ….”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×