NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF :: HAEEUN :: BY LEE'DREAM

    ลำดับตอนที่ #9 : ::: Procure ::: ล่อรัก :) | จบแล้ว |

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.85K
      17
      1 ต.ค. 56

    Procure

    Talk : มันเป็นช็อตฟิคที่ไม่มีอะไรเลยจริงๆ เออ แบบยังไงอะ

    ไอเดียมาจากหนัง AV เรื่องหนึ่งแล้วอยากแต่งเป็นเฮอึนดู

    ดังนั้นมันจึงเป็นวันช็อตที่ไม่มีต้องสายปลายเหตุหรือความสมจริงอะไรเท่าไหร่ มีแต่ความหื่นอะนะ

    ช่วงนี้เราไม่ค่อยมีเวลาอัพฟิค ขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วย เลิ้บ

     






                 อี ทงเฮ

                นั่นคือนามของชายหนุ่มสุดหล่ออย่างผมครับ  อ่า อย่าเพิ่งทำหน้าแบบนั้นตอนนี้พวกคุณต้องช่วยผมก่อน

     

     

     

                ปัญหาของผมมันมีอยู่ว่าช่วงนี้ผมเรียนหนักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก #ก.ไก่ล้านตัว

                ทั้งสอบทั้งงาน วิ่งวุ่นจนไม่มีเวลาของตัวเอง

     

               

                เวลาจะนอนยังไม่ค่อยจะมีด้วยซ้ำ

     

     

     

                แต่ก่อนหน้านี้มันก็ไม่ค่อยมีปัญหาหรอกครับแต่วันนี้พวกผมเพิ่งสอบวันสุดท้ายเสร็จไปแต่แทนที่ผมจะได้กลับไปพักใช้เวลาส่วนตัวกับตัวเองให้มากๆกลับต้องมาติดแหง็กกับพวกเพื่อนห่าที่แห่กันมาเล่นเกมส์ที่บ้านไอ้ซีวอน

     

     

     

                อย่างว่าครับชายหนุ่มห้าหกคนสุมหัวเล่นเกมส์เพลย์กันในห้องนอนหรูของเพื่อนผมแต่ปัญหาของผมไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น ปัญหามันอยู่ที่ไอ้พวกตัวดีนี่มันดันจุดประกายบางอย่างขึ้นมานี่สิ

     

     

     

     

                “ซีวอน มึงชอบสาวแบบไหนวะ?” ไอ้เยซองตะโกนข้ามฝั่งเตียงมาหาไอ้ซีวอนที่นั่งจ้องเหมือนจะสิงคอมอยู่ก็ไม่ปาน

     

     

     

                “หืม แบบไหนก็ได้แบบให้รักจริง” น่าน ตามสไตล์พ่อคนดีศรีคณะจริงๆ

     

     

     

                “ถุย อย่างมันน่ะจับไม่มีหางมันก็เอาหมดแล้ว” ไอ้ชินดงว่าบ้าง “ไอ้เหี้ยติดแต่สอบช่วงนี้ไม่เจอสาวๆสวยๆเลย น้องนาริปีหนึ่งกูหายต๋อมโดนคาบไปแดกยังไม่รู้” มันบ่น

     

     

     

     

                “เออ กูสงสัยทำไมพวกมึงชอบสาวๆตัวเล็กๆตาโตๆวะ กูว่าไม่ค่อยเร้าใจ กูนี่ต้องแบบสะบึมๆ อกเอวสะโพก หน้าไม่ว่าถูไถได้” ไอ้คยูวาดมือประกอบซะผมเห็นภาพ

     

     

     

                “ของกูไม่วะ กูชอบมองผิวยิ่งขาวๆนะ แตะเนื้อแตะหนังลงไปแล้วแดงตามมือนี้อื้อหือ อย่าให้พ่อบรรยาย มันขึ้นๆ” ไอ้พี่ทึกว่าอีกคน

     

     

     

                ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างของไอ้เพื่อนไฮโซยกไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่กว่าจะอ้อนแม่ขอซื้อได้ขึ้นมาสไลด์เล่นบังหน้าทั้งที่สมองกระเจิดกระเจิงไปไกลแล้ว

     

     

     

                นั่นแหละครับปัญหา

                ไอ้ผมมันก็ผู้ชายสุขภาพดีธรรมดาปกติ

     

     

                ตามธรรมชาติก็ต้องปลดปล่อยกันไปอาทิตย์ละครั้งอะไรแบบนี้ แต่ตอนนี้ อี ทงเฮ ผู้นี้ไม่ได้ปลดปล่อยมาเกือบเตือนแล้วครับ !!!!!!!!!

     

     

     

                ย๊า!!!! ผมไม่ได้หื่นนะ แต่มันเป็นเรื่องใหญ่มว๊ากสำหรับวัยรุ่นแบบผม

     

     

                เฮ้อ

     

     

     

                คิดแล้วเครียดไอ้บ้าพวกนี้ก็ไม่ยอมให้ผมกลับไปใช้เวลาส่วนตัวเลย จริงๆผมควรได้เวลาไปมโนถึงน้องอาโออิแล้วแสคชแผ่นพาตัวเองล่องลอยในสวรรค์นะไม่ใช่มาต้องมาทรมารฟังเสียงนกเสียงกาที่ชวนให้ความมโนผมพุ่งหนักกว่าเก่า จนตอนนี้แทบจะมองหน้าไอ้ซีวอนเป็นน้องมิยาบิอยู่แล้ว

     

     

     

                อึดอัดว้อย!!!!

     

     

     

     

                “ไอ้ทงเฮลืมเอาปากมาหรอวะ เงียบสัด” ไอ้ชินดงหันมาทักแต่ผมยักไหล่ไม่ตอบอะไร ในหัวตอนนี้นึกแต่จะอึดอัดอยากขอเวลาส่วนตัว T^T

     

     

     

                ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าไอ้ลูกชายไม่รักดีมันอยากจะผงาดขึ้นมาทุกทีๆ

     

     

     

     

     

                “นี่นะมึง น้องฮยอนอานิเทศ เอ็กซ์สัดๆ ตู้มๆ เอวนี่อย่าให้พูดคอดจนกูนึกว่าไม่มีใส่ ความขาวนี้อย่าให้พูดตาโตเฟ้อแล้วขอบตานี้เชี่ยวพระอินทร์ไปนิดเดียว” พวกมันยังไม่เลิกพล่ามแต่ที่ซวยคือผมดันคิดภาพตามมันนี่แหละ

     

     

     

                “ไม่ๆมึง อย่างกูต้องนานะ ขาเรียวๆสวยๆยาวเวอร์ สะโพกนี่นะแม่มึงเอ้ย กูยอมเลยคนนี้ อยากได้อยากโดนนนนนนนนนนนนน” ไอ้พี่ทึกหื่นแตกสุดๆ

     

     

     

                “แต่กูว่า....”

     

     

     

                ปัง!!!!!

     

     

                ก่อนไอ้ชินดงจะได้พล่ามอะไรต่อจากไอ้พวกหื่นประตูห้องไอ้ซีวอนก็โดนกระแทกเปิดอย่างแรงจนพวกผมสะดุ้งกันยกห้อง

     

     

     

                “ฮยอกแจมีไร?” ซีวอนเอ่ยถามน้องชายมัน ร่างบางที่ยืนหัวฟูอยู่หน้าประตูกวาดสายตามองพี่ชายกับเพื่อนพี่ตัวเองอย่างหน่ายๆ

     

     

     

                “แม่เรียกพี่วอนลงไปหา ไม่รู้นิว่าเพื่อนอยู่” ปากเล้กนั่นยื่นอย่างหงุดหงิดใจ

     

     

     

                “เรียกทำไมแล้วตัวเองละ?” บ้านนี้เค้าคุยกันสุภาพทั้งบ้านครับ ผมมองสภาพน้องชายเพื่อนแล้วได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ

     

     

                ฮยอกแจหัวยุ่งๆสภาพเหมือนเพิ่งตื่น เสื้อนอนบางๆสีเทาคอกว้างมาก ผิวน้องมันคนะเชดกับพี่มันเลยครับไอ้ซีวอนนี่เข้มมาแต่ไกลแต่น้องฮยอกแจขาวยิ่งกว่าหลอดนีออน แต่ไม่ได้ออกแนวซีดนะครับ ออกไปทางจะอมชมพูแดงๆเถือกนั่นมากกว่า ทำให้อะไรๆมันดูน่ามองไปหมด

     

     

                “ลงไปมาละ เพิ่งตื่นจะอาบน้ำ” น้องมันบอกขยี้หัวยุ่งๆนั่นด้วยท่าทางมึนๆ ผมลอบมองริมฝีปากอิ่มสีสดเกินปกตินั่น

     

     

                ไม่เคยเห็นผู้ชายหน้าไหนปากสีน่าจูบเท่าฮยอกแจเลยครับแล้วไอ้ตัวบางๆเล็กๆนี่ก็ด้วยน่าลองกอดแรงๆให้หักเป็นสองท่อน หรือไม่ก็ลองกัดเบาๆให้เป็นรอยตามผิวขาวๆพวกนั้น

     

     

     

                “มองอะไรพี่ทงเฮ!?” เสียงแหวมาจากหน้าประตูทำเอามโนฝันของผมหายวับหลบสายตาเหวี่ยงๆของคนตัวเล็กกลับมาที่หน้าจอโทรศัพท์ตัวเอง

     

     

                “มองอะไร เสียสายตา” ผมตอบนึกอยากตบปากตัวเองแต่ทำเป็นไม่มองคนที่ทำหน้าบึ้งทันที

     

     

                “เออ!” น้องมันกระแทกเสียงแล้วลงกระแทกประตูปิดเดินหนีไป

     

     

     

                “หาเรื่องกันตลอดเลยพวกมึงนี่เดี๋ยวก็โกรธกันจริง”  ไอ้ซีวอนบ่นๆแล้วเดินออกจากห้องไปสงสัยไปตามที่แม่มันสั่งนั่นแหละครับ

     

     

     

                ผมพลิกตัวเองนอนคว่ำถอนหายใจเบาๆ ฮยอกแจมาตอนนี้ยิ่งทำให้สมองผมทำงานบรรเจิดกว่าเก่า ไอ้พญามังกรข้างล่างมันลืมตามาดูโลกเต็มที่แทบจะต้องท่องนะโมสงบสติอารมณ์กันแต่กลัวไอ้พวกเพื่อนผมมันจับพิรุธได้เลยได้แต่เงียบไว้อย่างนั้น

     

     

                จริงๆผมไม่ใช่ไม่ถูกกับน้องมันหรอก

     

     

                ใครจะไม่ถูกละ น้องมันน่ารักขนาดนั้น ผู้ชายอะไรตัวนิดเดียวหน้าหวานๆตากลมๆ ยิ่งความขาวนี่ชนะทุกคนที่ไอ้พวกเพื่อนผมมันพล่ามมาเมื่อกี้ซะอีก แต่พอเห็นมันก็อดแกล้งไม่ได้ไง ยิ่งเวลาทำเสียงฮึดอึดไม่พอใจนี่นะ ขอเถอะ อยากจับกดลงเตียงแล้วทำให้ครางอยู่ใต้ร่างซะจริงๆว้อย!!!!!

     

     

     

                ชิบหาย!!!!

     

     

                ทงเฮมึงเปลี่ยวถึงขั้นนี้แล้วหรอวะ

     

     

     

                ....................

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ...........

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                .......

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                .....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ....

     

     

                ไม่ไหวครับ

     

                อี ทงเฮจะไม่ทน

     

     

                กลับบ้านตอนนี้ไม่ได้เพราะไม่ได้เอารถมามองพวกบ้านั่นก็เอาแต่เล่นเกมส์ คนหล่อนนอนบิดจนตัวงอไอ้พญางูมันก็จะแผ่แม่เบี้ยให้ได้ TWT

     

     

                สุดท้ายเลยต้องทำเนียนอกจากห้องมันมาบอกจะไปห้องน้ำ ดีที่พวกแม่งกำลังมันส์กับเกมส์เลยไม่สงสัยว่าทำไมผมไม่เข้าห้องในห้องไอ้ซีวอนไปเลยในเมื่อมันมีห้องน้ำในตัว

     

     

                เอาละครับรอดมาจากห้องมันได้แล้วเอาไงต่อ จะลงไปแสคชที่ห้องน้ำรวมข้างล่างก็คนในบ้านมันไม่ใช่น้อยๆ

     

     

                เอาไงดีวะ

     

     

     

                ผมยืนเงอะๆงะๆจนสายตาไปสะดุดกับประตูบานหนึ่ง

     

     

     

                นั่นแหละครับ

     

     

     

                ห้องสุดที่รักผมเอง แต่ผมจะไปแสคชให้น้องมันดูได้ไงวะ?

     

     

     

                เออ เดี๋ยวเข้าไปแล้วหาแผนให้ฮยอกแจมันหงุดหงิดแล้วออกจากห้องไปละกัน ขอยึดห้องน้ำในห้องน้องมันซักสิบนาทีละกัน

     

     

                เฮ้ย ! อย่างผมไม่ใช่พวกสามทีเสร็จนะ แต่สถานการณ์ขับขันไงครับสิบนาทีก็หรูแล้ว

     

     

     

                ก๊อก ..ก๊อก..

     

                ผมแอบมีมารยาทเคาะห้องน้องมันแต่กลับไม่มีเสียงตอบ

     

     

     

     

     

                ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...

     

     

                ผมเคาะอีกรอบแต่คนข้างในกลับเงียบ

     

     

     

     

     

                อ่า

     

     

     

     

     

                ผมถือวิสาสะบิดลุกบิดเข้าไปแอบหวังว่าน้องมันคงไม่อยู่แน่ๆ ในโซนห้องนอนว่างเงียบกริบไม่มีสิ่งมีชิวิตใดๆผมเลยปิดประตุเดินไปทางห้องน้ำในตัวห้อง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ‘ซ่า...ซ่า...อือ ...อึก...อื้อ

     

     

                เฮ้ย!

     

                ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงลอดจากห้องน้ำห้องน้องมัน เท้าผมชะงักกล้าๆกลัวๆจะถอยแต่ก็เหมือนมีอะไรมารั้งเอาไว้

     

     

     

                “อ๊า...อา....อึก..อา....”

     

     

                ชิบหาย

                ผมว่าน้องมันคงไม่เต้นแอโรบิกในห้องน้ำ หรือลองซ้อมเสียงโทนนี้เล่นหรอกนะ เล่นกระเส่าขนาดนี้

     

     

     

                “อึก...อา...อา...” ยิ่งได้ยินผมก็ยิ่งรู้สึกว่าเลือดในตัวมันพุ่งสูง ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ผมเอื้อมไปแง้มประตูห้องน้ำออก

     

     

                สิ่งที่เปิดเผยต่อสายตาของผมคือแผ่นหลังขาวเนียนที่ขึ้นสีแดงร่างเล็กที่ยืนบิดเร้าด้วยแรงอารมณ์หันหลังให้ผม ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวกำลังทำอะไรอยู่ น้ำจากฝังบัวที่สาดลงมาไม่ได้ช่วยลดความร้อนรุ่มของคนตัวเล็กเลย มือเรียวนั่นขยับเร็วขึ้นเพื่อปลดปล่อยตัวเองเสียงครางลั่นจนผมเหมือนโดนสะกดกับภาพที่ผมคิดว่ามันเซ็กซี่กว่าดาราเอวีคนไหนๆ ภาพด้านหน้าของคนตัวเล็กสะท้อนอยู่ในกระจกหรูจนผมสามารถใช้สายตาโลมเลียไปได้ทุกซอกทุกมุม รวมถึงภาพตัวผมเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกแต่คนที่กำลังระบายอยู่นั้นไม่ได้ใส่ใจจะมองกระจกเบื้องหน้ามากนัก ไม่สนใจแม้แต่นิดว่าผมยืนมองเขาอยู่

     

     

     

                “อ๊ะ...อ๊า...” เสียงครางสุดท้ายก่อนที่ร่างนั้นจะกระตุกเบาๆ ร่างเล็กเบื้อหน้าหอบหายใจก่อนจะเงยหน้าขึ้น

     

     

     

                “เฮ้ย!!!!! เฮ้ย ...” ฮยอกแจหันมาชี้หน้าผมพูดไม่ออก “ออกไปนะ เสียมารยาท” มือเล็กนั่นเอื้อมมาจะปิดประตูแต่ผมดันเอาไว้สุ้แรงกันจนอีกฝ่ายยอมแพ้

     

     

                “เข้ามาทำไมห้องคนอื่น เสียมารยาท!!!” ว่าแล้วก็วิ่งไปคว้าผ้าเช็ดตัวมาห่อร่างขาวโผลนที่เปียกชื้นนั้นกับปิดน้ำที่ยังสาดไม่ขาดสาย

     

     

     

                “นิสัยไม่ดีเลย” น้องมันทั้งหอบทั้งด่าแต่คงอายมากกว่าเจ็บเพราะไม่กล้ามองหน้าผมซักนิด

     

     

     

                “เมื่อกี้ทำอะไร?” ผมถามออกไปตรงๆ น้องมันอ้าปากพะงาบๆพูดไม่ออก

     

     

     

                “กะ...ก็ ...”

     

     

     

     

     

     

                “ตอบสิ” ผมเค้นถาม

     

     

     

     

                “ก็เรื่องของฮยอกแจนิ!” คนตัวเล็กแหวอย่างอายๆ

     

     

     

     

                “งั้นพี่จะฟ้องแม่ฮยอกแจว่าฮยอกแจทำตัวไม่ดี” ผมขู่

     

     

     

     

     

                “เฮ้ย บ้าหรอ มัน...มัน.. มันก็เรื่องธรรมชาตินี่” คนตัวเล็กหลบตาผมตอบอึกๆอักๆดูน่ารักแทบบ้า

     

     

     

     

     

     

     

                “งั้นทำให้ดูหน่อย” ผมสั่ง

     

     

     

     

                “ห้ะ!!!!?”

     

     

     

     

     

                “เอ้า ไม่ทำก็ได้นะแต่พี่จะบอกแม่ฮยอกแจ จะบอกไอ้ซีวอนด้วยว่าพี่เจอฮยอกทำอะไรในห้องน้ำ”

     

     

     

                “คนเลว” น้องมันเขวี้ยงผ้าขนหนูอีกผืนใส่หน้าผม

     

     

     

     

                “จะทำไหมละ?” ผมยังเล่นบนโหด น้องมันเบะปากเหมือนจะร้องไห้เลยคราวนี้

     

     

     

     

     

     

                “คนเลว ฉวยโอกาส” น้องมันก้มหน้าด่างึมงำ

     

     

     

     

                “โอเคงั้นพี่ไปละ” ผมหันหลังกลับจะเดินออกไป

     

     

     

     

     

     

     

                “ไอ้พี่ทงเฮคนบ้า!!!!!

     

     

     

                พรึ่บ! ไม่ได้มาแค่คำด่าครับ แต่ผ้าเช็ดตัวที่ยังชื้นอยู่ก็ปลิวมาคุมหัวผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



     



     

     

     

                “ทำแล้วๆ ห้ามบอกใครนะ” ผมไม่ตอบอะไรเพียงแต่หันไปมองคนที่ตอนนี้ร่างทั้งร่างเปลือยเปล่าแถมตัวแดงไปหมดเพราะความเขินอาย

     

     

     

                “จะให้ทำอะไรเล่ามองอยู่ได้ เสียสายตาไม่ใช่รึไง?!” ไอ้คนที่ยืนอายอยู่แหวขึ้นมาคงยังเคืองที่ผมพูดที่ห้องไอ้ซีวอนแบบนี้แน่ๆ ผมหัวเราะในลำคอบอกตรงๆว่าอยากล่อซะตั้งแต่ตอนนี้อยากฝากรอยบนผิวเนียนนั่นให้หนำใจแต่ต้องใจเย็นเอาไว้ก่อน         

     

     

               

                “งอนหรอ?” ผมถามเจ้าตัวอึกอักไม่ตอบไม่มองหน้าสองมือไขว้ปิดของสงวนเอาไว้

     

     

     

     

                “ใครจะบ้า โรคจิตรึไงเข้าห้องชาวบ้านเค้าไม่บอกไม่กล่าว”

     

     

     

                “ไม่ต้องพูดแล้ว มานี่” ผมขี้เกียจฟังคำด่าน้องมันเลยเข้าไปลากแขนเหวี่ยงลงไปนั่งกลางเตียงแล้วเลื่อนโซฟามานั่งดูอยู่ปลายเตียงแบบพร้อมจะรับชมเต็มที่

     

     

     

                “อ... จะให้ทำอะไร?” น้องมันถามตะกุกตะกักแดงไปทั้งตัวจนอยากจะจับฟัด กลิ่นสบู่อ่อนๆนี่ชวนให้อยากสูดใกล้ๆจริงๆ

     

     

     

     

                “เมื่อกี้ทำอะไรในห้องน้ำก็ทำแบบนั้นแหละ” ผมสั่งน้องมันค้อนขวับหน้าเดี๋ยงแดงเดี๋ยวซีดมือนี่ลากไปเอาผ้าห่มมาปิดช่วงขา

     

     

     

                “เอาลงไปเลย” ผมชี้ไปยังผ้าห่ม น้องมันสะบัดผ้าหนีอย่างประชดประชัน

     

     

     

                “ทำสิ” ผมสั่งกลัวน้องมันเปลี่ยนใจครับตอนมีโอกาสก็ต้องรีบไล่ต้อไว้ก่อน ฮยอกแจก้มหน้านิ่งแต่ใบหูนี่แดงจนจะสุกอยู่แล้ว มือเรียวนั่นค่อยกุมรอบของสงวนขนาดพอดีตัวนั่นแหละ

     

     

                ผมถือโอกาสโลมเลียอีกฝ่ายด้วยสายตายอดอกสีสวยที่แข็งเป็นไตเพราะอากาศเย็นจากแอร์ที่ปะทะร่างตรงๆ ผิวที่ยามนี้ผมคอนเฟิร์มได้เลยว่าขาวเนียนไปทุกส่วน นึกแปลกใจด้วยว่าน้องมันเป็นผู้ชายยังไงขนเขินแทบจะไม่มีให้เห็นซักนิด แถมเอวถึงจะไม่ขอดจนเหมือนผู้หญิงแต่ก็บางจนกลัวกอดแรงๆจะหักเอาได้

     

     

                “อึก” คนที่ถูกบังคับให้ทำเรื่องลามกโชว์พยายามกัดปากห้ามเสียงเพราะความละอายที่ยังเหลืออยู่ ลมหายใจติดขัดเพราะแค่คิดว่าสิ่งที่ตนทำอยู่นั้นกำลังถูกสายตาโลมเล้าของใครอีกคนจับจ้องมาอย่างหยาบคาย

     

     

                อาย

     

     

                หวาดกลัว

     

     

     

     

                แต่สิ่งที่ฮยอกแจรู้สึกมากที่สุดคงเป็นอารมณ์ที่สูงยิ่งกว่าปกติ อาจจะเพราะเขาเองก็ไม่เคยถูกใครกล้าทำอุกอาจมานั่งมองตัวเองแบบนี้ ปกติมีแฟนแค่จับมือถือแขนก็มากเกินไปแล้วด้วยซ้ำ

     

     

     

                “อ้ะ” มือเรียวรูดรั้งของสงวนเร่งความเร็วเพื่อหวังปลดปล่อยให้เร็วขึ้นจะได้ไล่อีกฝ่ายออกจากห้องไปซะ

     

     

                ฮยอกแจช้อนตามองอีกฝ่ายที่จ้องมาด้วยตาช่ำเยิ้มด้วยหยดน้ำตาน้อยๆที่เกาะพราวอยู่ที่แพรขนตา ปากอ้าออกไล่งับอากาศแต่ก็ต้องระงับเสียงของตัวเองที่พร้อมจะหลุดลอดออกมาซะทุกที ฮยอกแจไม่เห็นว่าทงเฮทำหน้าแบบไหนเพราะทุกอย่างมันพร่ามัวไปหมด

     

     

                แพรขนตาปิดลงมืออีกข้างเอื้อมมาบีบเค้นเล่นกับยอดอกของตัวเองเพื่อเพิ่มความต้องการให้ถึงขีดสุด แม้ดวงตากลมจะปิดสนิทแต่ภาพของชายหนุ่มอีกคนที่ยังอยู่ในห้องนั้นก็ยังคงไม่เลือนหายจากมโนภาพ แต่ภาพในหัวนั้นทงเฮไม่ใช่แค่นั่งมองเขา แต่ทุกสัมผัสที่แตะกายอยู่ตอนนี้ต่างหากที่เป็นของทงเฮ

     

     

     

                ฮยอกแจไม่อยากให้ทงเฮรู้ว่าทุกครั้งที่เขาทำแบบนี้มีใครคนนั้นเป็นคนในจิตภาพ เป็นคนที่เขานึกอยากจะให้สัมผัสร่างกายตนเองไปเสียทุกส่วน เขากลัว และอายเกินกว่าจะบอกบางสิ่งในใจออกไป

     

     

     

     

                “พิ่อยากได้ยินเสียงเรานะ ..ร้องสิ” เหมือนเป็นปุ่มเปิดสวิกส์ ร่างบางในห้วงอารมณ์แห่งความต้องการเผยอปากหายใจหอบในขณะที่เร่งมือตัวเองไม่ยอมหยุด

     

     

     

                “อา...อา...”

     

     

     

     

                “อึก...อ๊า..อา..”

     

     

     

     

     

                เสียงครางดำเนินไปพร้อมกับที่ทงเฮขยับขึ้นมานั่งบนเตียงเพื่อเฝ้ามองคนสวยตรงหน้าอย่างใกล้ชิด นึกชื่นชมร่างเล็กอยู่ในทีเพราะแม้แต่เสียงยามนี้ยังน่าฟัง

     

     

     

                “อา...ท...” ร่างบางครางอยู่ในลำคอ

     

     

     

     

                “อึก...พี่ทงเฮ....ทง...” เสียงเรียกชื่อตนทำเอาทงเฮสะดุ้งเฮือกนึกว่าอีกฝ่ายลืมตาขึ้นมอง แต่เปล่าเลยฮยอกแจยังหลับตาสนิท

     

     

                แล้วเรียกเขาทำไม ??

     

     

     

                “หืม?” ทงเฮลองขานรับแต่ดูท่าฮยอกแจจะไม่ได้เรียกให้เขาตอบกลับเพราะอีกฝ่ายแทบจะไม่ฟังเสียด้วยซ้ำ

     

     

     

     

                “อ๊า...เฮ...ทงเฮ” ทงเฮเบิกตาโพลงเริ่มคิดแล้วว่ายามที่อีกฝ่ายช่วยตัวเองแล้วเรียกชื่อเขาอย่างนี้มันหมายความว่ายังไงกัน

     

     

                ฮยอกแจกำลังนึกถึงเขา

     

     

                กำลังนึกถึงเขาตอนทำแบบนี้น่ะหรือ?....

     

     

     

               

                อย่าว่าแต่ร่างบางที่หลับตาอยู่นั้นจะหน้าแดงเลยเพราะถึงตอนนี้ทงเฮก็อดเขินอายไม่ได้เมื่อนึกถึงว่าความต้องการของฮยอกแจมีเขาเป็นจินตนาการ ....

     

     

     

                น่ารักชะมัด...

     

     

     

     

     

                “พอแล้วฮยอกแจ” เขาบอกนอกพร้อมกับรั้งมือที่ยังไม่หยุดของคนตัวเล็กออกจากของสงวน ร่างบางปรือตามองอย่างสงสัย

     

     

                “ทำไม?” ร่างเล็กกำลังอึดอัดเพราะเขากำลังจะไปได้ถึงขีดสุด

     

     

     

                “คิดอะไรอยู่?” ทงเฮถามตรงๆ ฮยอกแจพยายามบิดข้อมือหนีด้วยความอายแต่ทงเฮไม่ยอมปล่อย

     

     

                “กะ.. จะไปคิดอะไรละ ปล่อยนะอึดอัด” ตากลมเซหลบคนที่มองมาอย่างรู้ทัน

     

     

     

                “อืม งั้นพี่ช่วย”ไม่ว่าเปล่ามือหยาบเลื่อนไปจับส่วนนั้นของฮยอกแจ ร่างบางเขยิบหนีอย่างตกใจแต่ทงเฮรั้งไหล่อีกคนเอาไว้

     

     

     

                “พะ...พี่ทงเฮปล่อยเถอะ...อุ๊บ!” แน่นอนเป็นไปตามต้นตำหรับฟิคไทยตั้งแต่โบราณการทงเฮใช้ปากปิดปากเล็กที่เขาเฝ้าฝันอยากจะลิ้มลองมันอย่างจัง จูบดูดดื่มขึ้นด้วยการส่งเกลียวลิ้มเข้าไปสำรวจรสชาติในโพรงปากของอีกฝาก ร่างหนาโถมทับอีกคนจนยอมนอนราบลงกับเตียงแม้จะพยายามยันอกทงเฮให้ปล่อยอยู่ไม่หยุด

     

     

                “อื้อ!!!” ฮยอกแจสะบัดหน้าจนหลุด มองหน้าคนแกล้งเขาอย่างคาดโทษเพราะคนบ้านั่นจูบจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว “อ๊า ! พี่ทงเฮ” เสียงเรียกชื่อคนหล่อดังลั่นเมื่อทงเฮเริ่มขยับมือส่วนล่าง ฮยอกแจไม่ได้ยอมง่ายๆยังพยายามดิ้นรนจนทงเฮรวบสองแขนของคนตัวเล็กมากำไว้ด้วยมือเดียวก่อนจะก้มลงไล้ชิมยอดอกที่รอแข็งสู้ลิ้นของเขาอยู่นานแล้ว

     

     

                “อ๊า...อา”  เสียงกระเส่าฟังไม่ได้ศัพท์ของร่างบางยิ่งทำให้ทงเฮอารมณ์พลุกพล่าน ความอดทนถูกสลัดทิ้งไปพร้อมเสื้อผ้า ทงเฮเริ่มฝากรอยอย่างที่ใจอยากทำ ก่อนจะพรมจูบไปทั่วใบหน้าหวานกับดวงตาช้ำเยิ้มของคนใต้ร่าง เอวบางบิดเร้าร่อนหนีสัมผัสของคนฉวยโอกาส ฮยอกแจไม่ได้ขัดขืนอีกเพราะรู้ว่าคงทำอะไรไม่ได้แล้ว ทงเฮตะกองใบหน้าหวานให้รับจูบครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างหื่นกระหาย ทงเฮสอดนิ้วลงไปในช่องทางเล็กอย่างลำบากร่างบางในอ้อมแขนนิ่วหน้าร้องอย่างเจ็บปวดแต่ไม่มีคำเอ่ยห้ามหรือบอกให้หยุด ชายหนุ่มเค้นคลึงสร้างอารมณ์และความพร้อมให้อีกฝ่ายอย่างทะนุถนอม

     

     

                “โอ้ย!

                ทันทีที่มีการสอดใส่บางส่วนที่ใหญ่กว่านิ้วเข้ามาในตัวฮยอกแจ ร่างบางร้องลั่นเล็บยาวจิกลงบนไหล่กว้างอย่างไม่ปราณีปราศรัยคล้ายว่าเอาคืนที่ทงเฮทำให้ตนเจ็บ

     

                 “อ๊า.. เจ็บ... ทงเฮ เจ็บ” ร้องบอกไปแบบนั้นแต่คนกระแทกหน้ามืดไปแล้ว ทงเฮแทบจะไม่ฟังเสียงร่างเล็กเลย

     

     

    “พี่ทงเฮช้าหน่อย...ช้า...อ๊า”

     

               

     

                .....................

     

     

     

     

     

     

                ..............

     

     

     

     

                ......

     

     

     

                เพี๊ยะ!

               

                ชาวบ้านเค้ามีแต่น้ำแตกแล้วแยกทางแต่อี ทงเฮ น้ำแตกแล้วโดนตบเว้ย!

     

     

                “เจ็บนะฮยอกแจ” ชายหนุ่มลูบแก้มตัวเองที่ขึ้นเป็นรอยมือห้านิ้วปอยๆ

     

     

     

                “สม บอกว่าเจ็บๆฟังบ้างไหมละ ได้เลือดเลยเนี้ย” ฮยอกแจชี้ไปบ่นผ้าปูที่นอนที่มีคราบหยดเลือดกายความหื่นของทงเฮเป็นหลักฐาน

     

     

     

                “แฮะๆ ครั้งหน้าแก้ตัวใหม่นะครับ” คนทะเล้นแกล้งพูด ฮยอกแจหน้างอหนัก ทั้งเจ็บทั้งอาย คนบ้านี่ก็โถมแรงใส่ไม่ยั้ง รอให้ช้า ให้หยุดไม่มีจะฟัง ใส่เอาๆเหมือนอดอยากมาข้ามปี

     

     

                ซวย!

     

     

                “ไม่มีครั้งหน้าแล้วเว้ย” ว่าแล้วก็กอดอกเบ้หน้าหนีอย่างเอาแต่ใจ แต่แทนที่อีกฝ่ายจะเกรงกลับมองว่าฮยอกแจที่ทั้งตัวมีแต่รอยฝีมือเขานั้นน่ารักยิ่งขึ้นไปอีก

     

     

     

                “งอนหรอครับ หืม?” ทงเฮรั้งคนโกรธเข้ามาซุกอก ตอนแรกก็ขัดขืนพอเป็นพิธีแต่ด้วยความเหนื่อยก็ปล่อยให้เค้ากอดอยู่อย่างนั้น

     

     

                “ใครงอน เชอะ”

     

     

     

                “หืม ไม่งอนนะคนดี” เสียงหล่อกระซิบข้างหูทำเอาคนโกรธนึกเขินขึ้นมาให้ได้ สภาพยามนี้ก็ล่อแหลมไม่ต่างจากเดิมหรอก เขานั่งซ้อนอยู่ที่หว่างขาทงเฮเอนหลังชนแผงอกกว้างนั่น

     

     

     

                “รับผิดชอบเค้าด้วย”

     

                เออ จะมาฟันแล้วทิ้งนี่เดี๋ยวพ่อสับให้อัลปาก้าแดก

     

     

                “ให้รับผิดชอบยังไงดีละ?”

     

     

     

     

                “เอ๋?” ฮยอกแจเริ่มเอาเรื่อง นี่จะเสียตัวฟรีป่ะวะ

     

     

     

                “เอ้าก็พี่จะรู้ไหมว่าฮยอกแจอยากให้พี่รับผิดชอบแบบไหน เดี๋ยวพี่รับผิดชอบไม่ถูกใจพี่ก็โดนงอนอีก”

     

     

     

                “ถ้าไม่รู้ก็ออกไปเลย!” ร่างเล็กดันอกคนอ้างอย่างโกรธๆ

     

     

     

     

                “เดี๋ยวก่อนสิฟังก่อน” ทงเฮรวบตัวอีกฝ่ายเอาไว้อีกรอบ

     

     

     

                “พี่มีโปรโมชั่นนะ ให้ฮยอกแจเลือกดูว่าจะให้รับผิดชอบแบบไหนดี”

     

     

     

                “หึ” สะบัดหน้าหนีมัน

     

     

     

     

                “แบบแรก คบกันสิบปีฟรีแต่ง แบบที่สอง คบกันตลอดชาติงานบ้านพี่ทำเอง แบบที่สาม แต่งเลยไม่ต้องคบเดี๋ยวให้พ่อมาขอ ว่าไงเลือกแบบไหน?”

     

     

     

                “โปรบ้าอะไร?” ด่าเขาแต่คนตัวเล็กกลับแก้มขึ้นสีเพราะมุกโปรโมชั่นเสี่ยวๆของทงเฮ

     

     

     

                “หืม อยากได้โปรแบบไหนละครับ ดูแลฟรีตลอดชาตินี้จนชาติหน้ายังไหวนะ ฮ่าๆ”

     

     

     

                “คนบ้า”

                สองหนุ่มขวยเขินกับคำหวานที่หยอดกันไปมาแบบนั้น ฮยอกแจซุกหน้ากับอกกว้างด้วยความรู้สึกดีในขณะที่ทงเฮก้มลงสูดกลิ่มหอมจากกลุ่มผมนิ่มของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู

     

     

                แต่ทว่า

     

     

                .

     

     

                .

     

     

     

     

                ปึง!!!!

     

     

                “ อี ทงเฮ มึงทำเหี้ยไรน้องกู!!!!!!!!!!

     

     

    จบเถอะ

    บอกแล้วว่ามันเป็นฟิคที่ไม่มีอะไรจริงๆ

    55555555555555

    เลิ้บนะ #ยังบ่ได่ตรวจคำผิด


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×