คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ϟ C H A P T E R 9 ϟ
ϟ 09 ϟ
-
“H ไฮโดรเจน”
“He ฮีเลียม”
“Li.. ลิ..” พักเที่ยงของแอลและโฮวอนกำลังอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด เหมือนตอนนี้ทั้งคู่จะพูดกันคนละคำสองคำ
“ลิเทียม” แอลที่ถือสมุดโน้ตฟาดไปที่ไหล่ของโฮวอนเบาๆ ถึงแม้โฮวอนจะทำงานแล้วก็ตามแต่เขาก็ยังคงเรียนอยู่ในอุดมศึกษาเช่นกัน และตอนนี้คนอย่างแอลคิมผู้รู้ทุกอย่างกำลังติวหนังสือให้กับไอหนุ่มปูซานคนนี้อยู่
“ฉันไม่อยากท่องแล้ว” โฮวอนพูดอย่างหมดกำลัง เขาถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนมือหนาจะรีบเอื้อมมือไปแตะที่บ่าของเพื่อนและบีบเบาๆ
“มันไม่ง่ายฉันรู้ ยังไงนายก็ต้องท่องต่อ ท่องจนกว่าจะจำได้”
“โอ้โห ทำตัวเป็นอาจารย์”
“ตอนไฮสคูลฉันได้ A เคมีนะเว้ย” หนุ่มตากล้องอวดก่อนโฮวอนจะค่อยๆเบะปากล้อเลียนพร้อมกับพยักหน้าตามเบาๆ
“ฉันติด F เจ๋งกว่า” พูดจบทั้งคู่ระเบิดหัวเราะออกมา เพราะวันนี้ไม่มีไอหนุ่มนายแบบตัวปัญหามากวนใจคุณเลขาก็เลยไม่ลงไม่คุม แต่เอาจริงๆแล้วแอลชอบให้ซองจงมาคุมมากกว่าถึงจะไม่มีซองยอลก็ตาม
เขาอยากเห็นซองจงทุกวินาที
“ฉันว่าเอาพวกธาตุบ้าๆพวกนี้มาทำเป็นมุกจีบสาวนี่ก็น่ารักเหมือนกันนะ” โฮวอนที่เอาปากกาไปคาดไว้ที่หู พูดขึ้นทันทีเมื่อนั่งอ่านตารางธาตุไปอีกสักพัก
“ไม่น่าเหมาะ” แอลตอบสั้นๆ
“อย่าง O ออกซิเจน” เหมือนจะไม่ได้ฟังที่แอลบอก โฮวอนพูดขึ้นต่อ เขาทำท่าคิดพร้อมเงยหน้ามองเพดาน มืออีกข้างก็ฉีกกระดาษออกมาพร้อมดึงปากกาของออกจากหู
“ยังไง”
“You Are My O” โฮวอนพูดพร้อมส่งสายตาหวานเยิ้มมาที่เพื่อนของตัวเอง การกระทำที่ดูจะน่าเกลียดสำหรับทั้งคู่ แอลส่ายหัวก่อนจะเมินหน้าหนี
“โคตรกินกันเอง” แอลพูดพร้อมทำท่าจริตเหมือนรังเกียจเพื่อนของตัวเอง โฮวอนหัวเราะออกมาอย่างดังก่อนจะก้มหน้าเขียนประโยคที่ตัวเองเขียนลงไปในกระดาษที่ตัวเองฉีก
“คุณคือออกซิเจน ถ้าผมขาดคุณไปผมก็อยู่ไม่ได้” พูดไปก็ยกมือขึ้นมาทาบที่อกซ้ายของตัวเอง คำพูดที่แสนจะเลี่ยน เลี่ยนจนแอลต้องกุมขยับ
เขาไม่เคยเห็นเพื่อนตัวเองเป็นแบบนี้เลยจริงๆ
แทบไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเห็น..
“เสี่ยวแบบนี้หรอ สาวถึงชอบกันเนี่ย” แอลพูดแซวเพื่อนของตัวเอง หนุ่มปูซานจากที่หน้านิ่งเขากลับอมยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา
“ฉันเนี่ยป๊อปที่สุดแล้วล่ะ”
“…”
“แล้วก็ร็อคด้วย” เหมือนประโยคที่ฟังดูขัดหูจะตบมุกเข้าไปอีกที แอลจากที่เอือมอยู่แล้วเขากลับเอือมขั้นสุด เขาไม่เคยเจอเพื่อนตัวเองเป็นแบบนี้
นี่ไม่ใช่เพื่อนกูแล้วนะ..
“ถ้ายังไม่ถึงเวลางานก็ไม่ต้องเลิกท่องนะตารางธาตุเนี่ย” แอลตบโต๊ะก่อนจะพูดประโยคนี้ออกมา เขาถอนหายใจอย่างแรงพร้อมลุกออกจากเก้าอี้ข้างๆโฮวอน
“แล้วนายจะไปไหน”
“ไปตามหาความรัก”
“อ่อ อืม” แอลเริ่มพูดคำพูดเสี่ยวๆคืนบ้าง มุกที่ทำให้โฮวอนตั้งตัวไม่ทัน ไม่ใข่ว่าเขาไปไม่ถูกแต่เขาไม่อยากจะไปเล่นกับแอลต่อแค่นั้นแหละ
ร่างสูงโปร่งที่เดินออกมาจากสตูดิโอเขายกข้อมือขึ้นมามอนาฬิกาข้อมือก่อนจะขมวดคิ้วนิดๆ เวลาที่ล่วงเลยมาจนบ่ายโมงกว่าๆ แต่ไม่มีเหล่ารุ่นพี่เข้าสตูดิโอเลยสักคน รู้สึกแปลกใจที่ทุกคนหายไป
“หายไปไหนกันหมด” แอลพึมพำกับตัวเองเบาๆ ขายาวก้าวออกจากบริเวณนั้นพร้อมมองไปรอบๆ เขาเดินไปตรงหน้าต่างที่มองลงไปจะเจอทางเข้าของบริษัท เขาชะโงกมองก่อนจะเห็นโต๊ะอาหารที่เรียงเต็มไปหมดพร้อมรุ่นพี่พนักงานหลายๆคน
เสียงที่ดังกันจากข้างล่างขึ้นมาข้างบนพอจะทำให้เขารู้ว่าคนที่ชื่อ อี ซองยอล นี่แหละมาเพื่อเลี้ยงพนักงานทุกๆคน เขาถอนหายใจเบาก่อนจะค่อยๆถอยหลังออกมา
แถมเขายังเห็นซองจงนั่งคุยกับพนักงานข้างล่างอีกต่างหาก..
บางทีซองยอลอาจจะชนะใจซองจงมากกว่าด้วยซ้ำ..
“แอล ไม่ลงไปข้างล่างหรอ” เสียงของรุ่นพี่หนุ่มวัยสามสิบดังขึ้นจากบันได้ตรงหน้าของเขา แอลคลี่ยิ้มออกมานิดๆพร้อมกับส่ายหัว
“ผมไม่ชอบที่ที่คนเยอะๆแบบนั้นครับ ยอมหาอะไรกินเงียบๆดีกว่า”
คำพูดที่ดูเหมือนเป็นคนโลกส่วนตัวสูง เขาแทบไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าซองยอลจะทำแบบนี้ หมั่นไส้ก็หมั่นไส้ แต่บางทีก็เหนื่อยใจที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้บ่อยๆ
เขาไม่ค่อยชอบคนอวดรวยเท่าไหร่ด้วยสิ..
“ขอบคุณแทนพี่ๆเขาด้วยนะครับ” เสียงใสเอ่ยขึ้นก่อนซองยอลจะพยักหน้าพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างออกมา ใบหน้าสวยจากที่นิ่งๆก็คลี่ยิ้มออกมานิดๆเช่นกัน
“เพื่อซองจงพี่เต็มใจอยู่แล้ว”
“…” เหมือนซองจงจะไม่ได้สนใจคนที่พูดอยู่ตรงหน้า เขาหันมองรอบๆลานกว้าง หันซ้ายหันขวาจนซองยอลเกิดความสงสัย
“หายไปไหน..” เสียงพึมพำของร่างบางยิ่งทำหนุ่มนายแบบสงสัย เขามองตามซองจงก่อนจะสะกิดที่ไหล่ของเลขาซองจงเบาๆ
“มองหาใครครับ” เสียงทุ้มถามก่อนซองจงจะรีบหันมามอง เขาอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่งใบหน้าสวยรีบส่ายไปมาพร้อมกับคลี่ยิ้มมุมปากออกมาอีกครั้ง
“เปล่าครับ ขอตัวก่อนนะ” จบบทสนทนาแค่ตรงนี้ซองจงรีบหันหลังพร้อมกับเร่งฝีเท้าเดินเข้าบริษัท สายตาที่สอดส่องมองทั่วๆ เขาหาคนที่กำลังหาไม่เจอเลยสักนิด
เสียงพ่นลมหายใจของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเลขาของบริษัทดังขึ้นอย่างแผ่วเบา เหมือนจะเสียดายที่ไม่ได้เจอคนคนนั้นในช่วงพักแบบนี้
เวลาแบบนี้ต้องออกมากวนกันสิ..
เหมือนจะหายไปจริงๆ หรือไม่ก็คงไปหาอะไรกินข้างนอก ซองจงส่ายหัวเบาๆเขาก้มหน้าเดินเงียบๆไปที่หน้าลิฟต์ก่อนจะชะงักเสียงเรียกที่คุ้นหู
“ พี่ครับ” เสียงที่คุ้นหูและเหมือนเมื่อตอนเช้า ซองจงค่อยๆหันไปตามเสียงเจ้าตัวที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเผลอยิ้มออกมาทำให้หนุ่มตากล้องตรงหน้าต้องยิ้มตาม
“ผมเห็นพี่อยู่ข้างล่าง จะขึ้นไปทำงานแล้วหรอครับ” แอลถามก่อนจะก้าวขาเดินไปใกล้ขึ้น ซองจงจากที่ยืนนิ่งๆก็รีบยกแขนขึ้นมากอดอกทันที เวลาแบบนี้เขาควรคีพลุคคุณเลขาซองจงนิ่งๆไว้สิ
“นายก็ดูเวลาสิ มันกี่โมงแล้วล่ะ” ซองจงถามขึ้นตามสไตล์ของตัวเองก่อนแอลจะยกข้อมือขึ้นมามองนาฬิกาแอลค่อยๆเงยหน้ามองคุณเลขาพร้อมกับยิ้มออกมานิดๆ
“จะบ่ายสองแล้วครับ” เขาตอบคำถามของซองจงก่อนคุณเลขาจะพยักหน้ารับคำตอบ แอลค่อยๆฉีกยิ้มกว้างก่อนจะมองนาฬิกาอีกครั้ง จากใบหน้าที่ยิ้มแย้มเริ่มกลายเป็นสีหน้าที่ดูไม่สบอารมณ์ เขาดูฟึดฟัดขึ้นมาทันที
“ความจริงแล้วพี่ต้องเข้างานตั้งแต่บ่ายโมงครับ แต่ตอนนี้จะบ่ายสองแล้ว”
“…”
“พี่อู้งานไปเกือบครึ่งชั่วโมง เพราะฉะนั้นพี่ต้องโดนพ่อตัวเองหักเงินเดือนสินะครับ”
“ผมจะฟ้อง”
“พี่อู้งาน”
เหมือนจะเป็นคำพูดที่แอลชอบพูดเล่นๆเหมือนปกติที่เขาคุยกัน แต่จากที่ซองจงสังเกตสีหน้าของแอล น้ำเสียงของแอล ท่าทางที่ไม่พอใจของแอล ทำให้เขาพอเข้าใจมากขึ้น
แอลกำลังไม่พอใจเขา
“อะไรของนาย” ซองจงรีบถามกลับทันทีเมื่อเห็นท่าทางหงุดหงิดของแอล สีหน้าที่เหมือนจะไม่พอใจอะไรบางอย่างเอามากๆ
“ผมพูดไปแล้ว พี่อู้งาน”
“นายนั่นแหละ..”
“เป็นอะไรของนาย”
ซองจงที่เริ่มจะหงุดหงิดกับท่าทางของแอลเหมือนกัน คิ้วเริ่มขมวดติดกันเป็นปมสีหน้าไม่พอใจของซองจงกำลังเริ่มขึ้นแล้ว ร่างบางเหยียดตัวตรงขึ้นกว่าเดิม แอลที่เริ่มทำท่าตามซองจงเขามองรอบๆก่อนจะหันกลับมาที่ซองจงอีกครั้ง
“พี่ชอบคนโกหกหรือคนที่ตอบตามความจริงครับ”
“ฉันเกลียดคนโกหก”
“งั้นผมขอตอบความจริง ผมไม่พอใจที่พี่ไปนั่งในซุ้มนั้นครับ”
“ผมเป็นคนขี้อิจฉาครับ เห็นแบบนั้นแล้วตาร้อนอยากทำบ้าง”
“แต่พ่อแม่บอกผมว่าอย่าใช้เงินสิ้นเปลือง”
“พูดตรงๆก็คือ ผมหึงครับ” คำพูดที่ดูจริงจัง ท่าทางวัยรุ่นอายุยี่สิบที่เหมือนไร้เดียงสา แข็งนอกแต่อ่อนในเขาพูดออกมาตามความที่ตัวเองรู้สึก พูดออกมาอย่างยาวเหยียด พูดจนซองจงไปไม่ถูกเลยแม้แต่นิดเดียว
“ผมชอบพี่จริงๆครับ เก็บคำนี้ไว้พิจารณาด้วยนะครับ”
“หรือไม่ก็โยนทิ้งเหมือนคำว่าชอบของคุณซองยอลที่พี่ก็ไม่สนใจเหมือนกัน”
“ผมชอบอะไรที่เป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ถ้าผมไม่ถูกใจพี่ผมก็ไม่อยากให้คุณซองยอลถูกใจพี่เหมือนกัน”
“แต่ผมก็ยังอยากให้ตัวเองถูกใจพี่มากที่สุดครับ” เหมือนโดนหนุ่มตากล้องซื่อๆคนนึงมาสารภาพต่อหน้าอย่างไม่เขินอาย ซองจงยอมรับฟังคำพูดของแอลอย่างตั้งใจ น้ำเสียงที่ดูจริงจังและจริงใจทำให้หัวใจของซองจงกำลังปั่นป่วน
“ไร้สาระ” ซองจงยังไงก็คงเป็นวองจง เขารีบพูดคำพูดประจำตัวของตัวเองออกมาก่อนแอลจะมองเขาด้วยสีหน้าหงอยๆ ท่าทางของแอลที่เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ใจเขาก้มหน้าเงียบไปสักพักก่อนจะดีดนิ้วเบาๆ
“ฉันจะไปทำง..”
“ผมจะเริ่มจีบพี่อย่างจริงจังแล้วนะครับ ดอกกุหลาบเมื่อตอนเช้าคือคำยืนยัน” แอลยิ้มก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากบริเวณนั้น ตั้งแต่ที่เขาเริ่มพูดทุกอย่างออกไปไม่มีสคริป ไม่ได้เตรียมใจไว้ ไม่ได้คิดที่จะพูด แต่เหมือนยิ่งเก็บไว้มันยิ่งอึดอัดใจ
ไม่ใช่ว่าแอลไม่เขิน ในใจของเขาเขินเอามากๆ เหมือนเขาจะเป็นคนที่ไม่รู้สึกอะไรเวลาพูดออกไปแต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย อะไรที่กระทบจิตใจหรืออยากพูดอะไรเขาก็รู้สึกหมดนั่นแหละ แต่คงเป็นใบหน้าของเขาเองมันเลยเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร คงจะมีน้อยที่จะแสดงออกมาได้ชัดอย่างตอนซองยอลที่ดูถูกเขา..
09.00 PM
“ตอนที่พ่อมีความรักครั้งแรก พ่อรู้สึกแบบไหนครับ” ร่างบางที่นอนพิงกับหัวเตียงมือที่ถือวัตถุสี่เหลี่ยมไว้แนบหู สีหน้าที่กำลังไม่เข้าใจตัวเองเสียงปลายสายเงียบไปสักพักก่อนจะดังขึ้นมาอีกที
“แอบมีความรักหรอเรา” เสียงของท่านประธานซองจินหรือพ่อของซองจงดังขึ้น เสียงหนุ่มวัยทองที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอทำซองจงหลุดยิ้มออกมานิดหน่อย
ซองจงที่ทุ่มเทมากับงานตลอดเขาเป็นคนที่ใจแข็งกับเรื่องความรักอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ซองยอล คนอื่นๆก็เคยเข้าหาเขาแต่ซองจงเลือกจะปฏิเสธอย่างไม่ใยดี เช่นเดียวกับซองยอลที่ซองจงก็ปฏิเสธไปเป็นร้อยๆรอบ
“ตอบคำถามผมสิครับพ่อ..” ซองจงรีบทวงคำตอบจากปลายสาย พ่อของเขาหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเงียบไปอีกครั้ง ซองจงเริ่มตั้งใจฟังทันทีเมื่อได้ยินเสียงกระแอมจากปลายสาย
“ไม่ว่าจะรักแรกหรือรักต่อๆไปถ้าเรารู้สึกดีกับเขา สำหรับพ่อก็..”
“…”
“ใจสั่นเวลาคุยกับคนนั้น ชอบเวลาที่อยู่กับเขา มองหาเขาเวลาที่เขาหายไป ยิ้มทุกครั้งที่คิดถึง”
“แล้วก็ ถ้าคิดถึงเขาจะใจสั่นมากๆ”
“แล้วเรารู้สึกแบบนั้นไหมเวลาคิดถึงใครสักคน” คนที่ตอบเริ่มถามกลับบ้าง จบคำตอบที่คุณซองจินเขาก็เริ่มถามลูกชายกลับบ้าง ซองจงที่นั่งฟังเงียบๆเริ่มจะคลี่ยิ้มออกมานิดๆ
“เอาไว้ที่ผมมั่นใจจริงๆ ผมจะมาบอกพ่ออีกทีนะครับ”
“…รักพ่อนะครับ” มือบางขยับมือโทรศัพท์ออกจากมือก่อนนิ้วเรียวจะค่อยๆสัมผัสกับหน้าจอเบาๆ เขาถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา ในหัวที่กำลังครุ่นคิดความรู้สึกต่างๆกำลังทำงาน
ใจสั่น คิดถึง มองหา..
ทุกๆอย่างคือความรู้สึกของซองจง เขาไม่อยากคิดว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับแอลและก็ไม่อยากให้คิดด้วยซ้ำ ซองจงอยากจะยึดมั่นคำที่ตัวเองเคยพูด ใบหน้าสวยที่นอนเครียดอยู่บนเตียงคิ้วที่ขมวดติดกันเป็นปมอย่างไม่เข้าใจ
‘ฉันเกลียดนายจริงๆนะมยองซู’
คำที่แล่นอยู่ในหัวซองจงเหมือนสมองทั้งสองฝั่งกำลังตีกัน อีกซีกอยากรักแต่อีกซีกก็ยังเกลียดเหมือนเดิม ซองจงไม่มั่นใจกับความรู้สึกตัวเองเลยสักนิดอาจจะเป็นคำที่เขาเคยยึดมั่นกับตัวเองเอาไว้บวกกับเขาไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีรักแรกเลยด้วยซ้ำ..
..ติ๊ง!
เสียงกริ่งดังขึ้นให้รับรู้ว่ามีคนมายืนรออยู่หน้าห้องของซองจง ร่างบางค่อยๆลุกออกจากเตียงนุ่มขาเรียวก้าวไปที่หน้าประตู เขาเปิดประตูมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
เสื้อเชิ้ตสีดำตัวเดิมกางเกงตัวเดิมรองเท้าคู่เดิม ทุกอย่างเหมือนเดิมหมดทุกอย่างเหมือนตอนที่แอลอยู่ที่บริษัททำให้ซองจงพอรู้ว่าแอลเพิ่งกลับมาถึงคอนโด เขายืนมองนิ่งๆก่อนจะก้มหยิบบางอย่างในกระเป๋า
“นายเพิ่งถึงหรอ” ซองจงเอ่ยถามทันทีที่เห็น แต่คนตรงหน้ากลับไม่ตอบเขาซะอย่างนั้นมือหนาหยิบรูปของคุณเลขาที่เคยถ่ายตอนไปหาอะไรทานด้วยกันครั้งแรก เขายืนให้ซองจงก่อนซองจงจะเอียงคอสงสัย
“ให้ฉัน?” ซองจงถามอีกครั้ง แอลที่เหมือนจะไม่ตอบโตเขามองต่ำมาที่รูปที่กำลังยื่นให้ซองจงก่อนจะมองซองจงอีกครั้ง ริมฝีปากหยักค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาพร้อมกับคำพูดเหมือนเดิม
“ผมไปล้างรูปมาครับ เพิ่งถึงคอนโด”
“คนเยอะมากๆครับ ผมเลยรอนาน” พูดจบซองจงค่อยๆรับรูปของตัวเองที่อีกคนส่งมาให้ เขามองรูปตอนเองพร้อมกับพยักหน้าพอใจก่อนจะพลิกไปข้างหลัง ข้อความที่ทำให้ซองจงเงิบไปครู่หนึ่งเลย
‘..ไอโอดีน ลูทิเตียม วาเนเดียม.. อิตเทรียม ออกซิเจน ยูเรเนียม..’
“อะไร?” ซองจงรีบถามต่อเมื่อเห็นข้อความแปลกๆแบบนี้ หนุ่มตากล้องค่อยๆคลี่ยิ้มพร้อมกับส่ายหัวเบาแทนคำตอบ
“เป็นปริศนาครับ พี่ต้องไปหาเอง” พูดจบมือหนาเลื่อนมาจับลูกบิดประตูก่อนจะปิดประตูให้เจ้าของห้องซะเอง ซองจงที่ลมแทบจับ เข้าใจว่าแอลกำลังจีบเขาแต่ไอมุกแปลกๆแบบนี้มันเอามาจีบกันด้วยหรือไง
จีบแบบพิลึกๆ..
♡
เช้าวันนี้ก็เหมือนเดิมซองจงไม่ได้เข้าบริษัทพร้อมพ่อตัวเองมาหลายวันอาจจะเป็นอาทิตย์ได้เพราะท่านก็ติดงานที่ต่างประเทศเช่นกัน การทำงานเดิมๆของซองจงกลับมีอะไรแปลกใหม่มากกว่าเดิม
เพราะ..
“วันนี้ดอกที่สองครับ” มือหนายื่นดอกกุหลาบสีแดงสดให้คุณเลขาตรงหน้าเป็นวันที่สอง ใบหน้าหล่อที่ยิ้มแย้มมากกว่าทุกวันทำซองจงแปลกใจขึ้นมาทันที
มือบางยังคงรับกุหลาบเช่นเดิม ไม่ได้ปฏิเสธมันเลยสักนิดเขามองไปที่ดอกไม้ในมือก่อนจะยิ้มออกมานิดๆ ดอกกุหลาบสีแดงสดที่หอมกว่าของเมื่อวานแถมยังสวยกว่าของเมื่อวานด้วย
“ใจ” ซองจงรีบขอบคุณแบบสั้นๆ
“คำในรูปเมื่อวานพี่ได้คำตอบหรือยังครับ” แอลรีบเข้าเรื่องที่ตัวเองอยากรู้ทันที ซองจงที่กำลังเพลิดเพลินกับการชมดอกกุหลาบในมือเงยหน้ามามองเขาอีกครั้ง เสียงจิ๊ปากดังขึ้นจากที่ไม่ได้ยินมานาน
“ฉันต้องการคำตอบ”
“พี่หาเองสิครับ”
“นี่คือการจีบในฉบับนายหรือไง”
“ใช่ครับพี่ซองจง” เขาตอบพร้อมกับลงท้ายด้วยชื่อของซองจงพร้อมกับคำว่าพี่ แอลเริ่มฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาเมื่อเห็นสีหน้าของคนตรงหน้าดูหงุดหงิดเหมือนเดิมอีกครั้ง
“ฉันไม่อยากรู้แล้ว” ซองจงตอบก่อนจะรีบหันหลังใส่หนุ่มตากล้องตรงหน้า
“พี่ลองไปถามโฮวอนคนที่โง่ที่สุดสิครับ”
“อันนี้ให้ตัวช่วยเลยนะครับ” เขารีบพูดพร้อมกับเรียกโฮวอนด้วยฉายาที่เขาตั้งขึ้นมาเอง ซองจงค่อยๆหันไปมองอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจใส่
“เรียกเพื่อนตัวเองแบบนี้หรอ”
“จะไม่เรียกแบบนี้แล้วครับ” เหมือนเด็กที่กำลังจะโดนดุแล้วรีบขอโทษ แอลรีบโค้งตัวก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองคุณเลขาตรงหน้า
“ไปทำงานได้แล้ว ไป!” ซองจงเริ่มขึ้นเสียงก่อนจะชี้ไปฝั่ง แอลหันไปมองตามนิ้วเรียวที่ชี้ไปเขารีบยืนตรงพร้อมทำท่าเหมือนทหารที่ได้รับคำสั่ง ขายาวรีบเดินไปตามที่ซองจงสั่งก่อนใบหน้าสวยจะหันไปมองตาม
ในความกวนส้นเท้าก็ยังมีความน่ารักแฝงอยู่นะ..
ซองจงได้ตัวช่วยที่ดีมากๆมาจากหนุ่มปูซานอย่างโฮวอน พอเลิกงานของเขาปั๊บร่างบางก็รีบบึ่งตรงมาที่คอนโดตัวเองเพื่อค้นหาไอคำแปลกๆจากคนอย่างคิม มยองซูนั่นแหละ
‘อ่า.. ชื่อแปลกๆแบบนี้อยู่ในตารางธาตุที่ผมต้องท่องแล้วเอาไปสอบน่ะครับ..’
‘ผมมีใบเดียว ถ้าพี่พอมีคอมพิวเตอร์ที่บ้านลองเข้าไปหาดูครับ’
‘ไม่คิดว่านายนั่นจะทำอะไรแปลกๆแบบนี้เลย’
ของทุกอย่างถูกวางไว้บนโซฟาในห้องรับแขก ร่างบางดึงเนคไทให้หลวมก่อนจะเดินไปยกโน๊ตบุ๊คจากที่เตียงมาไว้บนโต๊ะทำงานแทน เขานั่งลงเก้าอี้ตัวนุ่มก่อนจะรีบทำการเปิดโน๊ตบุ๊คทันที
ใบหน้าสวยที่จ้องไปที่หน้าจอสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ เขารีบกดเข้าเว็บไซต์ค้นหาที่ทั่วโลกใช้ก่อนมืออีกข้างจะหยิบรูปเขาพลิกหาคำปริศนาอีกครั้งพร้อมกับหันไปมองหน้าจอสี่เหลี่ยมพร้อมกับพิมพ์ทีละคำ
“ไอโอดีน..” ซองจงพึมพำเบาๆพร้อมหันไปหยิบทั้งกระดาษและปากกามาจดอะไรแบบนี้ ตั้งแต่เกิดมานอกจากการเรียนและการงาน ไอคำปริศนาไร้สาระแบบนี้แหละที่ซองจงทุ่มเทขนาดนี้
“ลูทิเตียม..”
“วาเนเดียม..
“..ยูเรเนียม”
“อิตเทรียม แล้วก็.. ออกซิเจน”
ซองจงใช้เวลาในการหาคำปริศนาพวกนี้ไปประมาณยี่สิบกว่านาทีได้ ทั้งหาไปจดไปหันไปหันมาจนปวดคอปวดหัวไปหมด
I = ไอโอดีน
Lu = ลูทิเตียม
V = วาเนเดียม
Y = อิตเทรียม
O = ออกซิเจน
U = ยูเรเนียม
ทุกตัวครบตามที่แอลเขียนมาให้และซองจงก็หาทุกตัวครบเช่นกัน เขาไม่คิดว่าคนแบบแอลจะชอบทำอะไรแปลกๆแบบนี้ หรือว่าเขาคิดที่จะอยากจีบซองจงแบบแปลกๆ
ตัวหนังสือที่ซองจงเขียนแบบไม่มองมันเลยดูเหมือนไม่เรียงกัน แถวก็บิดเบี้ยว ซองจงหันมามองกระดาษที่ตัวเองจดคำแปลกๆลงไป ซองจงพ่นลมหายใจอย่างแผ่วเบาก่อนจะเอาตัวภาษาอังกฤษทุกตัวมารวมกัน
‘..I Lu V.. Y O U..’
ไอบ้ามยองซู!
ϟ
♥ ฝากเมนท์ให้กำลังใจ+สกรีมแท็ก #สตูดิโอแอลจง ด้วยนะครับ ตอนนี้ต้องการกำลังใจมากๆเลย
♥ พิมพ์ผิดตรงไหนขออภัยด้วยครับ
ความคิดเห็น