ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    INFINITE FIC ; STUDIO, STORY♡ ϟ #MYUNGJONG

    ลำดับตอนที่ #9 : ϟ C H A P T E R 8 ϟ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 117
      0
      25 ต.ค. 59






    ϟ 08 ϟ
    -



                Friday

              02.00 PM

     

              แช๊ะ!

     

                เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นเป็นสิบยี่สิบรอบ ตากล้องหนุ่มที่ขมวดคิ้วให้กับหนุ่มนายแบบที่ยังคงเก๊กให้กล้อง ความจริงมันควรเสร็จไปตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้วซะด้วยซ้ำ

                แต่นายแบบอย่างซองยอลกลับไม่พอใจรูปที่แอลถ่ายเลยสักรูป แถมยังไม่พอใจกับการรีทัชรูปของโฮวอนอีกต่างหาก

     

                ดูก็รู้ว่าแกล้งกัน..

     

                พอแล้วครับเสียงของตากล้องเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิด ใบหน้าที่นิ่งมองไปทางนายแบบแต่รัศมีความรำคาญก็พุ่งไปหาซองยอลด้วยเช่นกัน

                แอลถอยออกจากกล้องตัวโปรดก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆโฮวอน เช่นกันคนที่ทำหน้าที่นี้อย่างโฮวอนก็กลับไม่พอใจหนุ่มนายแบบสุดๆ

     

                เอาแต่ใจซะน่ารำคาญ..

     

                ฉันว่ามันยังไม่ดี เสียงของซองยอลเอ่ยขึ้นหลังจากที่เขากอดอกเดินมาดูรูปของเขาบนหน้าจอสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ หนุ่มปูซานที่เริ่มเดือดพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงก่อนจะหันไปมองหน้าหนุ่มนายแบบ

                อยากจะด่าออกมาดังๆ แต่สายตาของหนุ่มนายแบบซองยอลกลับข่มคนที่มีหน้าที่อ่อนกว่า ถึงอย่างนั้นจะฐานะหน้าที่อะไรก็แล้วแต่คนอย่างแอลไม่ยอมง่ายๆหรอก

     

                งั้นไปซื้อกล้องสักตัว แล้วก็มาตั้งกล้องถ่ายเองสิครับถ้าไม่พอใจนักพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆแต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ ตั้งวันที่แอลทำอะไรแบบนั้นกับซองจงแถมยังเลี้ยงไก่ทอดด้วย เขาก็ไม่ได้คุยกับซองจงอีกเลย

               

                หมายถึงจูบกันน่ะ..

     

              นอกจากจะไม่ได้คุยกับคุณเลขาแล้วยังต้องมาเจอไอนายแบบน่ารำคาญแบบนี้ทุกวันอีก นายแบบนี่จะถ่ายแบบทุกวันเลยหรอ มาเพื่อถ่ายแบบหรือไม่หาคุณเลขากันแน่นะ

               

                นายมีปัญหาหรือไง นายแบบถลึงตาใส่แอลก่อนหนุ่มตากล้องจะยักไหล่ใส่ แน่นอนนอกจากจะเจอกันทุกวันแล้วยังต้องมาตีกันทุกวันอีกต่างหาก

               

                เอาเถอะ คนไม่มีฝีมือนั่นแหละเนอะ ซองยอลพูดดูถูกฝีมือแอลอีกแล้ว หุ่นนายแบบหันหลังก่อนคนที่เริ่มหมดความอดทนจะลุกขึ้นมือหนาเอื้อมไปจับคอเสื้อของซองยอลไว้อย่างไม่พอใจ นอกจากจะทำเอาหนุ่มนายแบบอย่างซองยอลตกใจแล้ว เหล่าพนักงานในสตูตกใจยิ่งกว่า

                แค่ดูภายนอกพนักงานส่วนมากก็รู้อยู่แล้วว่าสองคนนี้ไม่ชอบหน้ากันขนาดไหน ยิ่งเจอกันก็ยิ่งมีแต่แรงเกลียด ไม่เคยเห็นสองคนนี้จะพูดดีใส่กันเลยสักครั้ง

     

                ยกเว้นว่าตอนที่ซองจงลงมาคุมนั่นแหละ..

     

                เฮ้ย.. โฮวอนที่ไม่คิดว่าเพื่อนของตัวเองจะทำขนาดนี้ถึงกับต้องลุกขึ้นมาห้ามไว้ สายตาของแอลที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน เขาโกรธซะแทบอยากจะชกหน้าซองยอลให้เละๆไปซะ

     

                ถึงแม้ว่าโฮวอนจะสนิทมาแค่ไหนแต่ก็เพิ่งจะสนิทตอนทำงานร่วมกันอยู่ดี เขาไม่รู้นิสัยที่แท้จริงของแอลด้วยซ้ำ แต่เท่าที่รู้ๆก็มีแต่ แอลไม่ชอบให้ใครมาดูถูกความสามารถของตัวเอง

     

                เพราะแบบนี้นี่แหละแอลถึงไม่เคยมีแฟนสักที..

     

                ไม่ใช่แค่แอลไม่ชอบให้ใครมาดูถูกความสามารถตัวเอง แต่เขาไม่ชอบทุกอย่างที่มาถูกความเป็นเขานั่นแหละ แถมช่วงไฮสคูลเขายังเคยมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนตอนเล่นบาสอีกต่างหาก

                สรุปแล้วแอลเป็นคนที่ค่อยข้างหัวรุนแรง แต่การใช้กำลังของเขามันก็พอมีเหตุผลที่จะต้องทำ เขาควบคุมมือของเขาไม่ได้ตอนมีคนมาพูดหมาๆแบบนี้กับเขานั่นแหละ หรือพูดไม่ดีกับคนที่เขาแคร์เอามากๆ

     

                โคตรเกลียด

     

                อย่ามาดูถูกความสามารถของคนอื่นถ้านายมันยังเป็นเหมือนลูกหมาหัดว่ายน้ำ..

     

                คำพูดที่ทำเอาซองยอลอึ้งไปพร้อมๆกับเหล่าพนักงานที่กำลังมองเหตุการณ์ แอลปล่อยคอเสื้อของหนุ่มนายแบบที่ต้องเก็บไว้ถ่ายต่อออก รอยคอเสื้อที่ยับจนรู้ว่าแรงจับของแอลมันแรงแค่ไหน

                อยากจะชกหน้าไอตากล้องนี่แต่เหมือนจะไปต่อไม่ถูก เขาอึ้งกับคำพูดที่แรงที่สุดที่เคยได้ยินมาจากปากแอล แอลที่กำลังมีไฟอยู่ในหัวถอนหายใจก่อนเขาจะรีบเดินออกจากห้องนั้นทันที

               

                ถ้าอยู่ต่อเขาคงต้องโดนไล่ออกจากงานแน่ๆ

     

                ไอบ้าเอ๊ย.. หนุ่มตากล้องเดินพึมพำกับตัวเองเบาๆ มือหนาที่กำแน่นขึ้นพยายามดับไฟในหัวเขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงก่อนเพื่อนสนิทของเขาจะรีบวิ่งออกมาตามเช่นกัน

     

                เกือบแล้วนายน่ะ!”

                ก็ฉันไม่ชอบนี่หว่า!” ใบหน้าหล่อที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจมือของโฮวอนยกขึ้นมาตบบ่าเขาเบาๆพอที่จะให้เขาระงับอารมณ์โมโหตอนนี้ได้

     

                ใจเย็นๆสิวะ..

                “…”

                ทำไม อารมณ์หงุดหงิดขนาดนี้ไม่ได้เจอคุณเลขาหรอ พูดจบหนุ่มตากล้องรีบหันมามองหน้าหนุ่มปูซาน เขาทำตาลอกแลกก่อนจะยักไหล่เบาๆ

     

                เปล่า.. แอลตอบสั้นๆ

     

                เปล่าอีกแล้ว นายคิดอะไรอยู่ทำไมฉันจะไม่รู้ โฮวอนหัวเราะกับท่าทางของเพื่อนตัวเองที่เหมือนเด็กโกหกพ่อแม่ โกหกยังไงแต่มันก้ไม่ได้เนียนเอาซะเลย

     

                ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เจอซองจงมาสองสามวันแล้ว แต่ด้วยความที่เราชอบหรือรักใครสักคนได้เจอแค่เงาทุกวันก็ดีใจแล้ว ตาที่ดูระห้อยของแอลทำเอาโฮวอนแทบอยากจะล้มลงไปหัวเราะซะให้ขาดใจ

     

                คนมีความรักนี่เหมือนเด็กจริงๆด้วย

     

                ทะเลาะกันอีกแล้วครับ วันนี้แรงกว่าวันอื่นด้วย เสียงชายหนุ่มดังขึ้นในห้องทำงานของหนุ่มเลขาที่กำลังก้มหน้าก้มตาเขียนเอกสารบนโต๊ะ ใบหน้าสวยค่อยๆเงยขึ้นมามองหนุ่มพนักงานใหม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า

     

                ก็ดงอูนั่นแหละ นอกจากจะเป็นเด็กใหม่แล้วยังต้องมาทำตัวเป็นสายลับแอบมองสถานการณ์ของสองคนนั้นแทบทุกวัน

               

                แรงกว่าวันอื่นนี่ยังไง เสียงใสดังขึ้นใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยความจริงจังเขาจ้องไปที่ดงอูอย่างไม่ละสายตา ถูกต้องแล้วซองจงถึงแม้จะไม่ได้ออกไปดูการทำงานหรือไม่ได้ออกไปเจอทั้งแอลและซองยอลแต่เขาก็รู้แทบทุกเรื่องของสองคนนี้

     

                ปล่อยไว้ไม่ได้เลย

     

                ก็เกือบจะ.. พูดจบดงอูก็ทำท่าทางชกมวยไปมา ซองจงจากที่ดูใจเย็นกลับหัวร้อนขึ้นมาอย่างนั้น เขาไม่คิดว่าสองคนนั้นจะแทบตบตีกัน แต่ความคิดเขามันไม่ได้เป็นจริงเลย

     

                ใครเริ่มก่อน

     

                อันนี้ผมก็ไม่รู้ครับ ถ้าเป็นคำพูดอาจจะเป็นคุณซองยอล

                “..”

                แต่ถ้าการกระทำเป็นแอลก่อนครับ หนุ่มเด็กใหม่พูดจบร่างบางที่ยังคงนั่งกับเก้าอี้ทำงานรีบลุกขึ้น เขาเดินออกไปอย่างรีบร้อนไม่คิดจะฟังดงอูพูดต่อให้จบ

     

                ร่างบางเร่งฝีเท้าอย่างเร็วเพื่อเดินลงไปหาคนเจ้าปัญหา ไม่จำเป็นต้องใช้ลิฟต์เลยด้วยซ้ำ พนักงานคนไหนที่เดินผ่านขนาดเขาทักทายซองจงยังไม่คิดจะสนใจเลย

                คุณเลขาซองจงเดินตรงมาที่หนุ่มตากล้องที่ยืนคุยกับเพื่อนของตัวเอง ท่าทางที่ไม่พอใจของซองจงทำเอาโฮวอนที่เห็นมาแต่ไกลๆรีบวิ่งเข้าห้องไปโดยไม่บอกไม่กล่าวหนุ่มตากล้องเลยสักคำ

     

                นี่!” เสียงที่ดังมาแต่ไกลทำเอาหนุ่มตากล้องรีบหันไปมองตามทันที ใบหน้าสวยที่ดูโกรธเอามากๆสวนทางกับหนุ่มตากล้องโดยสิ้นเชิง ใบหน้าหล่อจากที่นิ่งๆกลับกลายเป็นยิ้มอย่างดีใจซะอย่างนั้น

     

                นายไปทำอะไรเอาไว้!” น้ำเสียงที่ดูจะหงุดหงิดเอามากๆแต่แอลก็ไม่ได้สนใจอะไร เหมือนจะไม่ได้สนใจคำพูดของซองจงด้วยซ้ำ เขายิ้มให้และจ้องใบหน้าสวยอยู่อย่างนั้นเหมือนหุ่นขี้ผึ้งไปเลย

     

                มยองซู!” ซองจงพูดเสียงดังขึ้นกว่าเดิมจนแอลที่ยิ้มอยู่อย่างนั้นกลับมาได้สติอีกครั้ง ใบหน้าหล่อที่เพิ่งรู้สึกออกอาการเอ๋อนิดๆ

     

                อะไรนะครับแอลทวนคำถามอีกครั้งก่อนคนที่ยืนกอดอกอยู่จะกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ ความไม่พอใจที่แฝงความเป็นเด็กออกมาทำเอาหนุ่มตากล้องหลุดยิ้มอีกครั้ง

     

                วันนี้นายไปทำอะไรไว้!”

                ทำอะไรหรอครับ ร่างสูงกอดอกล้อเลียนคนตรงหน้าเขายิ้มเหมือนไม่ได้ไปทำคดีอะไรไว้ก่อนนิ้วเรียวจะยกคิ้วมาจับไว้ที่ติ่งหูของหนุ่มตากล้องแล้วบิดแรงๆ

     

                โอ้ย!” จากที่กอดอกอยู่ก็รีบยกมือขึ้นมาจับมือเล็กเอาไว้ แรงบิดจากที่แรงอยู่แล้วกลับแรงขึ้นกว่าเดิม การกระทำของคนเป็นเลขาทำเอาพนักงานที่ผ่านไปผ่านมากลั้นขำแทบไม่อยู่

     

                นายมีเรื่องอะไรกับพี่ซองยอล!” เสียงแว๊ดๆของเลขาของซองจงทำเอาแอลชะงักเขารีบดึงมือบางออกจากติ่งหูของตัวเอง ใบหน้าหล่อที่ค่อยๆขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

     

                รู้ด้วยหรอครับ

                หืม หืมของหนุ่มตากล้องที่มาพร้อมหน้าตาสะกิดเท้าของคุณเลขา เหมือนว่าคนที่ชื่อซองจงจะทำให้แอลมีความสุขขึ้นจริงๆด้วย

     

                รู้แล้วกัน.. ซองจงตอบก่อนจะกอดอกอีกครั้ง เขามองใบหน้าหล่อด้วยสีหน้าที่จริงจัง คิ้วขมวดเป็นปมอย่างไม่พอใจ

     

                งั้นถ้าพี่รู้แล้วผมก็ไม่ต้องบอกใช่ไหมครับหนุ่มตากล้องเอียงคอนิดๆก่อนจะฉีกยิ้มกว้างอีกครั้ง เขาดูไม่แคร์กับการกระทำของเขาเลยสักนิด

     

                นายทำทำไม

                พี่ชอบคนที่พูดดูถูกพี่ไหมล่ะครับ

                “…” จบประโยคของแอลซองจงถึงกับชะงักทันที สีหน้าของหนุ่มตากล้องจากที่ดูยิ้มแย้มก็กลายเป็นสีหน้าที่จริงจังอีกครั้ง ดวงตาเรียวสวยที่จ้องไปที่นัยน์ตาของหนุ่มตากล้อง เขาก็จ้องกลับมาเช่นกัน

     

                เพิ่งรู้ว่าเป็นคนที่จริงจังกับชีวิตขนาดนี้..

     

                ถ้าพี่ไม่ชอบพี่จะทำยังไงครับ ยิ่งคนคนนั้นพูดแบบนี้กับเราทุกวัน..

     

                พี่จะอยู่เฉยๆ.. หรือหาของแข็งไปกระแทกปากเขาละครับ.. เสี้ยงทุ้มของแอลเอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนซองจงจะพยักหน้าเข้าใจ

                คนอย่างคิมมยองซูที่ดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจกับชีวิตประจำวัน เหมือนคนง่ายๆ ซองจงคิดแบบนี้ แต่พอเห็นคำพูดของแอลวันนี้เหมือนซองจงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่อีกครั้ง

     

                ฉันคงชกปากคนคนนั้น เหมือนชกปากนายไง!” ซองจงรีบพูดก่อนจะยกกำปั้นตรงไปที่หน้าของหนุ่มตากล้อง มือหนาที่จับข้อมือเล็กไว้อย่างเร็ว เร็วจนซองจงตกใจ

     

                ดีเลย.. งั้นก็ไปชกปากคุณซองยอลให้ผมสิครับพูดจบริมฝีปากหยักก็ค่อยๆฉีกยิ้มกว้างออกมา ยิ้มที่ดูมีเสน่ห์จนซองจงถึงกับหน้าแดงถึงหู แอลปล่อยมือบางก่อนยืนพิงกำแพงมองหนุ่มเลขาอย่างสบายใจ

     

                พอเห็นว่าซองจงไม่ด่าก็ดูจะมีความสุขมากจริงๆ

     

                พูดอะไรบ้าๆ ซองจงพูดสั้นๆ

     

                บ้ารักพี่นั่นแหละครับ.. คำพูดที่แผ่วเบาแต่ซองจงกลับรู้สึกได้ว่าคนข้างๆเขากำลังพึมพำอะไรบางอย่าง เขาเหลือบมองหนุ่มตากล้องก่อนจะจิ๊ปากใส่เบาๆ

     

                ผมไม่ได้ด่าพี่นะครับ.. อย่าทำเสียงแบบนั้นสิหนุ่มตากล้องที่เหมือนกำลังง้อคนข้างๆของเขาอยู่ คำพูดที่ดูน่ารักทำเอาซองจงต้องทำตาลอกแลกทันที

     

                อือ

     

                พี่เป็นหุ่นยนต์หรอครับ. เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง

     

                ทำไม

     

                พี่ชอบตอบคำถามผมสั้นๆ อือบ้างล่ะ แถมยังมาถามกลับเหมือนเมื่อตะกี้อีก

     

                “…”

                ดูผมสิ ตอบพี่ยาวจนน้ำลายแห้งหมดแล้ว แถมตอนนี้พี่ยังปล่อยให้ผมพูดคนเดียวอีกต่างหาก

     

                “…ขี้บ่น นายนี่เป็นเด็กยังไงมาบ่นคนที่โตกว่าแบบนี้เนี่ย จบประโยคของซองจงเสียงจิ๊ปากก็ดังขึ้นทันที ร่างบางขมวดคิ้วใส่อย่างไม่พอใจก่อนแอลจะหลุดยิ้มออกมาอีกครั้ง

     

                ทีหลังตอบผมยาวๆแบบนี้บ้างนะครับพี่ซองจง พูดจบแอลค่อยๆขยับตัวไปใกล้ๆกับหนุ่มเลขาที่เพิ่งกอดอกพิงกำแพงตามเขา แอลยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนประตูของห้องสตูดิโอจะเปิด

     

                ซองจง!” เสียงของนายแบบเจ้าปัญหาดังขึ้นก่อนเขาจะรีบเดินมาแทรกกลางระหว่างแอลกับซองจง เสียงพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงจนซองจงต้องหันไปมอง เขายักไหล่ใส่หนุ่มตากล้องพร้อมกับหันไปหาหนุ่มเลขาที่กอดอกมองซองยอลอย่างไม่พอใจ

               

                ขัดจังหวะ..

     

                มีอะไรจะคุยกับพี่หรือเปล่าครับ มารอหน้าห้องแบบนี้ซองยอลถามซองจงทันทีพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างตามมา ประโยคที่ซองจงพูดออกมาทำเอาแอลต้องเบะปากใส่อย่างไม่พอใจ

     

                หลงตัวเองเหอะ..

              เขามาหาฉันต่างหาก..

     

              ครับ มี

                ไปทำงานเถอะแอล ซองจงตอบคำถามของซองยอลก่อนจะรีบบอกหนุ่มตากล้องที่ยืนเพ่งมองหนุ่มนายแบบอย่างไม่พอใจ เขาจำเป็นต้องเรียกหนุ่มตากล้องอย่างมยองซูว่าแอล เพื่อความเรียบร้อยของตำแหน่งเลขา

     

                คำสั่งที่หนุ่มตากล้องยอมทำตามอย่างโดยดี เขาส่งยิ้มให้คุณเลขาก่อนจะรีบถอยหลังเดินเข้าไปในห้องทำงานเหมือนเดิม ใบหน้าสวยที่มองไปทางหนุ่มตากล้องรีบกลับมามองหนุ่มนายแบบอย่างซองยอลทันที

     

                มีอะไรหรอซองจง หน้าดูเครียดๆ

                ไอตากล้องนั่นทำอะไรนายอีก

                เดี๋ยวพี่ไป..

     

                พี่นั่นแหละครับไปทำอะไรแอล พูดไม่ทันจบประโยคซองจงก็รีบพูดตัดหน้าทันที ใบหน้าที่เริ่มเครียดกว่าเดิมบวกกับความไม่พอใจ

     

                นายนั่นต่างหากจะทำพี่ ซองยอลรีบค้านก่อนมือหนาจะรีบกุมมือบางเอาไว้ เหมือนซองจงจะไม่ได้ค้านแค่สายตาของเขาก็ข่มจนมือหนาต้องยอมปล่อย

     

                งั้นก็อธิบายมาร่างบางรีบเข้าเรื่องต่อ ซองยอลที่กำลังอ้ำๆอึ้งๆยิ่งทำให้ซองจงมั่นใจยิ่งกว่าเดิมว่าซองยอลเป็นคนไปหาเรื่องเขาก่อน

     

                เหมือนจะอธิบายไม่ได้ พูดจบซองจงรีบหันหลังก่อนจะก้าวขาออกไปแต่ก็ต้องชะงักกับคำตอบของซองยอลขึ้นมาทันที

     

                ก็นายนั่นฝีมือไม่ได้เรื่องเลย พี่ก็แค่ติไปนิดเดียว

                ก็มันแย่จริงๆนะ

     

                ...

     

              เหมือนจะต้องพิจารณาคนที่ชื่อซองยอลใหม่แล้วล่ะมั้ง

     

                ซองจงค่อยๆหันกลับมามองหนุ่มนายแบบช้าๆ สีหน้าที่เริ่มไม่พอใจมากกว่าเดิมคิ้วที่ขมวดติดกันเป็นปม

     

                เหมือนแอลจะเริ่มก่อนจริงๆนะครับ ซองจงตอบก่อนหนุ่มนายแบบจะค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา แต่เหมือนซองจงจะไม่ยิ้มด้วยเลยด้วยซ้ำ

     

                ถ้าผมเป็นแอล

                “…”

                ผมก็จะชกปากพี่เหมือนกัน พูดจบซองจงรีบหันหลังใส่หนุ่มนายแบบก่อนจะเร่งฝีเท้าออกไปจากตรงนั้นทันที

               

                เหมือนกับที่แอลบอกไม่มีใครชอบให้คนอื่นมาดูถูกตัวเองหรอก ถ้าซองจงโดนก็คงจะรู้สึกแบบแอลด้วยซ้ำ ตั้งแต่เป็นเลขาเขาไม่เคยคิดว่าจะได้เจอเหตุการณ์แบบนี้เลย ไม่คิดว่าซองยอลจะเป็นคนแบบนี้อีกด้วย

     

                แล้วก็ไม่เคยเข้าข้างใครเลยด้วย..

     

                ..มั้ง

     

     

     

     

     

     

                Monday

              12.00 PM

     

              คิดยังไงถึงเอารามยอนมากินบนห้องนี้ล่ะครับพี่เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่กำลังนั่งจิ้มเส้นรามยอนอยู่ข้างๆเขา

                แหงล่ะตั้งแต่มีเรื่องแบบนั้นซองจงถึงต้องยอมทิ้งร้านอาหารดีๆมานั่งกินรามยอนไม่กี่บาทเพื่อเฝ้าไอคนเจ้าปัญหาทั้งสองคน

     

                ฉันอยากไล่นายออกจากบริษัทพ่อฉันมากเลยรู้ปะ

                วุ่นวาย ซองจงทำขวางใส่คนที่กำลังยื่นส้อมมาไว้ที่ถ้วยรามยอนของเขา มือบางรีบยกขึ้นฟาดมือหนาอย่างแรง

     

                เจ็บแล้วคร้าบ พูดจบแอลรีบขยับมือออกจากถ้วยรามยอนของคุณเลขาตรงหน้า ริมฝีปากหยักค่อยๆอ้าปากงับส้อมของตัวเองไว้

     

                ของตัวเองก็มี..

                อยากชิมเฉยๆครับ

                ไม่ให้

     

                เรื่องอาหารพี่ขี้งกแบบนี้ตลอดเลยนะครับเนี่ย หนุ่มตากล้องพูดแซวคุณเลขาส้อมที่อยู่ในมือของคุณเลขาง้างขึ้นก่อนมือหน้าจะรีบจับไว้

     

                แต่พี่ไล่ผมออกไม่ได้หรอกครับแอลพูดต่อ

     

                ทำไม คิ้วค่อยๆขมวดอย่างไม่เข้าใจซองจงเอียงคอด้วยความสงสัย ริมฝีปากหยักค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะวางส้อมไว้บนถ้วยรามยอนของตัวเอง

     

                เพราะว่าพ่อพี่ชอบผม

     

                “…”

     

                ถ้าพ่อพี่ชอบผม..

                พี่ก็ต้องชอบผมด้วยนะครับ พูดจบใบหน้าสวยค่อยๆแดงขึ้นเขาอ้าปากค้างกับประโยคหวานๆของแอล ไม่นานเหมือนซองจงจะได้สติกลับมาเขารีบทำท่าทางฟึดฟัดใส่แอลอย่างไม่พอใจ

     

                ไม่มีวัน!” พูดจบซองจงรีบก้มหน้าก้มตาจัดการกับรามยอนตรงหน้า ใบหน้าหล่อที่ยังคงจ้องมาที่คุณเลขา จ้องแบบไม่ละสายตา

                ซองจงยอมรับว่าแอลเป็นคนที่หล่อจริงๆ หล่อกว่านายแบบหลายๆคนด้วยซ้ำ ถ้าโดนจ้องแบบนี้มันก็ต้องเขินเป็นธรรมดา

     

                ยิ่งซองจงไม่เคยโดนอะไรแบบนี้..

     

              ทุกอย่างต้องเป็นแอลคนแรกตลอดเลยหรือไง..

     

     

                L’s Part

     

              เหล่าพนักงานค่อยๆทยอยเข้ามากันแล้ว แน่นอนครับทุกคนที่เพิ่งเข้ามาสำหรับผมคือผู้ขัดจังหวะหมด เว้นซะแต่โฮวอนที่นั่งอยู่ในห้องมาตั้งนานนม ถึงจะเงียบแค่ไหนแต่สายตาของเพื่อนตัวดีไม่เคยละไปจากผมกับพี่ซองจงเลย

     

                ผมจะทำงานแล้วนะครับพี่ ผมบอกกับพี่ซองจงก่อนเขาจะค่อยๆหันมามอง ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า แต่สีหน้าพี่เขาก็ดูเหมือนจะไม่อยากให้ผมไปเลยสักนิด

     

                เวลาเราชอบใครเราก็อยากให้ความคิดของเรามันเป็นจริงใช่ไหมล่ะครับ งั้นผมจะคิดซะว่าพี่ซองจงไม่อยากให้ผมไปทำหน้าที่ของตัวเองนั่นแหละ

     

                ตั้งใจทำงานด้วย คุณเลขาคนสวยตอบผมแต่ผมรู้สึกว่าคำพูดนี้มันดูน่ารักมากจริงๆ พี่เขาแทบไม่เคยพูดแบบนี้กับผม เหมือนผมจะทุบกำแพงให้พังไปได้อีกชั้นนึงแล้ว

     

                ขอบคุณที่ให้กำลังใจครับคุณเลขา ผมเอ่ยก่อนจะค่อยๆโค้งตัวให้คนที่นั่งอยู่ เขาเหลือบตามองผมพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ ผมเดินมาเช็คกล้องตัวโปรดของผมที่ตั้งไว้กับขาตั้งกล้อง แต่ผมพอจะรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังมองผมอยู่

     

                ผมไม่เห็นหรอก แต่ผมก็รู้สึก..

     

                ประตูของห้องดังขึ้นอีกครั้ง แน่นอนว่ามีคนมาครับและคนที่มาก็เป็นใครไม่ได้นอกจากคนที่ชอบดูถูกคนอื่นอย่างนายแบบซองยอลหน้าตาเห่ยๆนั่นแหละ

     

                แต่วันนี้เหมือนจะมาแปลก นายนั่นถือดอกไม้ช่อโตเข้ามาให้สตูดิโอนี่แหละทำผมใจไม่ดีเอาซะเลยเพราะซองยอลเดินตรงไปหาคุณเลขาที่กำลังนั่งมองผมอยู่นั่นแหละ

     

                พี่ซื้อมาให้เราครับ เสียงของพ่อหนุ่มนายแบบขวัญใจสาวๆดังขึ้น ใช่แล้วครับเขาเอามาให้พี่ซองจง ผมขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจทันที คงไม่มีใครเข้าใจผมแล้วนอกจากโฮวอนที่มองสถานการณ์และมองผมสลับไปมา

     

                มยองซูต้องใจเย็นๆนะครับ..                       

     

                ผมกลับหัวร้อนมากกว่าเดิมคือพี่ซองจงเขารับไอดอกไม้ช่อโตๆนั้น อยากจะเดินไปแย่งแล้วก็โยนทิ้งมันไปซะ แต่ผมคงทำไม่ได้หรอกถ้าเผลอทำแบบนั้นจริงๆมือหนักๆของพี่ซองจงกระแทกเข้าหน้าผมแน่ๆ

     

                แต่ผมไม่ชอบจริงๆนะ..

     

              End of L Part

     

                เอามาให้ผมทำไมครับ ซองจงเอ่ยถามทันทีเมื่อยื่นมือไปรับดอกไม้ช่อโต ซองยอลคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างๆคุณเลขาที่หันไปวางช่อดอกไม้ไว้บนโต๊ะ

     

                ซื้อมาขอโทษไง..”

                คนที่พี่ควรไปขอโทษคือแอลไม่ใช่ผม จบประโยคของซองยอลซองจงรีบพูดต่อทันที ใบหน้าสวยที่นิ่งไม่ยิ้มมองซองยอลด้วยความเอือมระอา

     

                ผมรับมันไว้เพราะเสียดายเงินที่พี่ใช้อย่างสิ้นเปลืองนะครับพูดจบซองจงลุกขึ้นเดินออกมาจากรัศมีซองยอล ร่างบางเดินไปเช็คงานต่างๆในสตูดิโอ เช่นกันกับแอลที่กำลังยืนรอหนุ่มนายแบบอย่างหงุดหงิด

     

     

                ชักช้าจริงๆแอลพึมพำเบาๆ ก่อนจะมองคนที่เดินมายืนในฉาก การถ่ายรูปที่ไม่มีความสุขเลยสำหรับแอล การถ่ายรูปที่ทำหน้าเบื่อหน่าย

     

                เขาไม่ชอบจริงๆนะ..

     

              แช๊ะ! แช๊ะ! แช๊ะ!

     

     

     

              Tuesday

              09.00 AM

     

              ร่างบางเดินออกมาจากรถเก๋งสีดำก่อนจะรีบก้าวขาเดินเข้าบริษัท พนักงานที่กล่าวทักทายคุณเลขาที่มาเข้างานแต่เช้า ใบหน้าสดที่ยิ้มให้พนักงานอย่างสดใส

     

                พี่ครับ เสียงที่คุ้นหู ซองจงค่อยๆหันไปก่อนจะเบิกตากว้างขึ้น วันนี้แอลมาทำงานปกติเช่นเดิมแต่ที่แต่กต่างจากเดิมคือเขาถือกุหลาบสีแดงดอกนึงไว้ เขาเดินเข้ามาใกล้ร่างบางก่อนมือที่ถือดอกกุหลาบไว้จะค่อยๆยื่นให้คนตรงหน้า

     

                ตึกตัก..

     

              ใบหน้าสวยที่ค่อยๆแดงขึ้นอีกครั้ง มือเรียวสวยค่อยๆยื่นมือไปรับก่อนจะมองดอกกุหลาบสีแดงสดที่หนุ่มตากล้องยื่นมาให้

     

                ดอกเดียว?

     

                ผมจะให้พี่วันละดอกเท่านั้นครับ

     

                บ้าจี้แบบพี่ซองยอลหรือไง

     

                ไม่ครับ ผมไม่ได้ใช้เงินสิ้นเปลืองสักหน่อย ดอกเดียวราคาไม่กี่บาทเอง

                ห้ามทิ้งครับ พูดจบแอลรีบเดินไปอีกฝั่งปล่อยให้คุณเลขาที่ยืนถือดอกกุหลาบสีแดงสด ใบหน้าที่แดงก่ำเขาหันไปมองร่างสูงที่รีบเร่งฝีเท้าเดินไปอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว

     

                ไอบ้านี่..

     

              ทำไมถึงชอบทำให้คนอื่นเขาใจสั่นอยู่เรื่อย..

     

     


    ϟ

     

     

         แชป8มาแล้วนะครับเฮ้ๆ เว้นไปวันนึงเพราะว่าไม่ทันจริงๆครับ ตอนแรกไม่เห็นคอมเมนท์อ่ะครับเลยน้อยใจนิดๆ 555 แต่ก็ยอมปล่อบแชป8ออกมานะครับ เข้าใจคนรอดี

         *ฝากคอมเมนท์ให้กำลังใจกันด้วยนะครับ แล้วก็ฝากสกรีมแท็ก #สตูดิโอแอลจง ด้วยนะค้าบ

         ps. ถ้าพิมพ์ผิดตรงไหนขออภัยด้วยครับ

    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×