ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    12Tails: Tails Apocalypse Ⓣ (Turn Bringer Invasion)

    ลำดับตอนที่ #28 : Chapter 25 : ฆ่าอัลคาเซีย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 188
      2
      2 ธ.ค. 56

    Chapter 25 ฆ่าอัลคาเซีย

     

    ณ ค่ายอัศวินแพทย์แห่งภาคีอัศวินกาชาด ที่แห่งนี้เป็นดั่งศูนย์บัญชาการใหญ่ของหน่วยพยาบาล

    จึงมีกระโจมสำหรับพักผู้ป่วยตั้งอยู่มากมาย แม้แต่อุปกรณ์และเครื่องมือการรักษาก็จะถูกเก็บไว้

    ในค่ายแห่งนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ภายในค่ายยังมี ธนาคารเลือดตั้งอยู่ซึ่งจะมีการรับบริจาคเลือด

    จากชาวเมือง ส่วนบรรดาทหารและอัศวินจะบังคับให้มีการเก็บเลือดเป็นประจำปีละสองครั้ง

    เลือดทั้งหมดจะถูกนำมาเก็บรักษาไว้ที่ ธนาคารเลือดแห่งนี้

     

    เมื่อกี้เห็นท่านคามิโอ เข้ามาที่นี่ เขามาทำอะไรเหรอ?”

    มาเบิกเลือดน่ะ เอาไปหมดสต็อก หกถุงใหญ่เลยล่ะ

    หา! เบิกไปหมดสต็อกเลยเหรอ ญาติเขาบาดเจ็บสาหัสหรือไงกัน?ถึงต้องใช้เลือดมากขนาดนั้น

    เปล่า ที่มาเบิกไปน่ะไม่ใช่เลือดของเขาเองหรอก อีกอย่างท่านคามิโอ ไม่เคยเข้าบริจาคเลือดลเยนะ

    แล้วถ้างั้นเขาเบิกเลือดใครไปล่ะ?”

    เลือดของพาลาดินคนหนึ่งในภาคีอัศวินขัตติยะน่ะ ชื่อที่เขียนหน้าถุงถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะชื่อ ทอล นะ

     

    ----------------------------------------------------------------------------------------------

     

     

    อาร์คไนท์ เซอร์คามิโอ กินนัมกาแกป  สัตว์หางเผ่าอีกาผู้มีสองหน้า โฉมหน้าหนึ่งคือ อัศวินผู้ทรงเกียรติภูมิ

    และยังเป็นเสนาบดีคนสนิทของพระสันตะปาปาแห่งศาสนจักร แต่เขาก็มีอีกโฉมหน้าเป็น

    ผู้ขายข่าวหรือสายสืบให้กับลัทธิแห่งเงาด้วยเช่นกัน ทั้งสององค์กรที่เขาสังกัดด้วยนั้นเป็นปรปักษ์กัน

    โลกิ ซึ่งรู้ถึงสถานะของ คามิโอ ดีจึงได้เรียกว่านกสองหัว และบัดนี้ นกสองหัวตนนี้ ก็ได้เปิดเผยเจตนาที่แท้จริงของตน ต่อหน้าเทพีแห่งแสงสว่างอัลคาเซีย

     

    กระหม่อมอยากจะทูลแก่พระองค์ว่า ได้โปรดสิ้นพระชนม์ด้วยเถิดขอรับ

     

    บุรุษอีกา สะบัดชายผ้าคลุมออกแล้วแทงดาบในมือขวาออกไป

     

    เคร้ง!!!

     

    ดาบปะทะเข้ากับกำแพงใสก่อนที่จะเข้าถึงตัวของ เทพีแห่งแสง จนเกิดเสียงดังสนั่นห้อง

    บุรุษอีกา ชักดาบกลับพร้อมกับผงะถอยออกห่างทันที

     

    คิดจะทำอะไรน่ะเซอร์คามิโอ?”

    เทพีแห่งแสงสว่างตรัสถาม น้ำเสียงของนางไม่มีความหวั่นไหวใดๆเจือปนอยู่เลยนางรักษา

    อากัปกริยาสงบไว้ได้โดยไม่เปลี่ยนสีหน้า ซึ่งนั่นทำให้ คามิโอ รู้สึกไม่พอใจเขาหวังว่านางจะ

    แสดงออกอะไรบ้างเพื่อที่จะได้จับจุดนางได้ ทว่าเทพเจ้าคงจะไร้ซึ่งอารมณ์จริงๆอย่างที่เขาได้คิดไว้

     

    ท่านอัลคาเซีย ทรงรู้รึไม่ว่านามของกระหม่อม นั้นเป็นภาษาโบราณที่เรียกว่านอร์ส คามิโอ แปลว่า

    ผู้บุกรุก ส่วน กินนัมกาแกป นั้นมีความหมายว่าอาณาจักรอันว่างเปล่า

    บุรุษอีกา ดึงหมวกทรงสูงลงจากศีรษะแล้วล้วงมือลงไปหยิบของในหมวกออกมา

     

    เมื่อเอาทั้งสองคำมาแปลเป็นภาษาของชนเฝ่าไร้หาง ก็จะมีความหมายว่า ผู้บุกรุกจากโลกไร้ตัวตน

    หรือก็คือแอกเกรเซอร์ ออฟ เกเฮนน่า(Aggressor of Gehena) ไงล่ะขอรับ

     

    สิ่งที่บุรุษอีกาหยิบออกมาจากหมวกคือ ขวดฉีดเสปรย์ซึ่งข้างในบรรจุน้ำเลือดเข้มข้นเอาไว้เต็มขวด

     

    เจ้าเองก็เป็นหนึ่งในคนร้ายที่ก่อเรื่องกลางเมืองเมื่อหลายวันก่อนสินะ

    เทพีแห่งแสง ตรัส

     

    ขอรับที่พวกเขาหนีไปได้ก็เป็นฝีมือของกระหม่อมนี่แหละ กระหม่อมเป็นสาวกของสัจจะแห่งกาลเวลา

    อันดับสองจากสัจจะทั้งแปดแห่งเกเฮน่า พิษร้ายแห่งพระผู้เป็นเจ้าซามาเอล (Samael The Poison of God)ขอรับ

     

    เจ้ามีจุดประสงค์อันใด คามิโอ ทำไมถึงตั้งตัวเป็นกบฏกัน?”

     

    กบฏรึขอรับ กระหม่อมว่าท่านอัลคาเซียทรงทบทวนอีกครั้งเถิดพะย่ะค่ะ ว่าใครกันแน่ที่เป็นกบฏต่อราชอาณาจักรและศาสนจักรกันน่ะ

    บุรุษอีกา กล่าวจบจึงปักดาบลงกับพื้น แล้วใช้มือที่เคยถือดาบล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงชักเอาปืนพก

    ขึ้นมาเล็งยิง เขาเกนี่ยวไกทันที แล้ว ยกขวดฉีดสเปรย์ ขึ้นฉีดน้ำเลือดให้กระจายออกมา

     

    “1000 Shot”

    บุรุษอีกา กล่าวเสียงเรียบ มานาในบรรยากาศกลั่นตัวกลายเป็นละอองแสงไหลไปรวมเข้ากับเม็ดเลือด

    ซึ่งกำลังพ่นกระจายไล่หลังกระสุนปืนไป ฉับพลันเม็ดเลือดที่ได้รวมเข้ากับมานาแล้วเกิดปฏิกิริยา

    แตกตัวออกเป็นหนึ่งพันหยดและเปลี่ยนสภาพกลายเป็นกระสุนปืน กลายเป็นการใช้ท่า 1000 Shot

    เหมือนกับท่าของ แม่ทัพเหยี่ยวอิทารุส ไปในทันที

     

    บัญญัติปรับสกิล 1000 Shot ปรับแก้เป็น 0 ดาเมจ

    เทพีแห่งแสง กล่าวพระองค์ยกไม้คฑาคู่กายขึ้นแล้วชี้ไปยังพายุกระสุนที่กำลังจะโถมเข้าใส่

     

    ประกาศิตไร้เทียมทาน!!”

    สิ้นคำ แสงสว่างส่องประกายเจิดจ้าออกมาจากไม้คฑา กระสุนทั้งหนึ่งพันนัด ถูกแสงสว่างกลืน

    ให้หายไปทั้งหมด เมื่อแสงสว่างจางลง ไม่มีสิ่งใดได้รับความเสียหายจากกระสุนเหล่านั้นเลย

    แม้แต่น้อยราวกับว่ากระสุนทั้งหมดหายไปก่อน

     

    หึ!”

    บุรุษอีกาพ่นเสียงออกจมูกสายตาไม่สบอารมณ์กับสิ่งที่ เทพีแห่งแสงทำลงไป

     

    เป็นเทพเจ้านี่สะดวกดีนะขอรับ อยากจะปรับอยากจะแก้กฎเกณฑ์อะไรยังไงก็ได้

    ชี้นกเป็นไม้นกก็ต้องกลายเป็นไม้ สมัยที่ศาสนจักรต่อสู้กับกบฏแอสซาซิน ท่านก็ปรับแก้

     สกิล(Skill = วิชา,ความสามารถ)ของพวกเขาจนอ่อนแอลงสุดท้ายก็ถูกศาสนจักรปราบปรามจนหมดสิ้นรากเหง้า จากนั้นก็เลี้ยงแอสซาซินคนหนึ่งไว้ใช้งานแล้วค่อยปรับสกิลกลับ ไม่คิดว่าเผด็จการไปหน่อยหรือขอรับ

     

    ก่อนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขใดๆทุกสิ่งนั้นเราล้วนไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว เจ้าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เราตัดสินใจนั่นมันก็เป็นเพียงตรรกะส่วนตัวของเจ้ามิใช่หรือ การตัดสินใจของเรามาจากการตัดสินใจร่วมกันของไพร่ฟ้านะ

    เทพีแห่งแสง แย้งข้อกล่าวหาที่ถูกยัดเยียดให้

     

    ทั้งที่ตอนนั้นศาสนจักรปล่อยข่าวลวงในแง่ลบของฝ่ายแอสซาซินให้ประชาชนทราบเท่านั้นน่ะหรือขอรับ

    เฮะๆ

    บุรุษอีกา หัวเราะแห้งๆ ก่อนจะยกขวดสเปรย์ขึ้นมาฉีดใส่ เทพีแห่งแสง

     

    พระองค์เสด็จบรรทม ซักครู่ดีไหมพะย่ะค่ะ สลีป!(Sleep)

    มานาในอากาศกลั่นตัวรวมเข้ากับหยดเลือดที่กระจายตัวจากการฉีดพ่น และเกิดปฏิกิริยากลายเป็นไอควัน

    สีขาวแพร่ใส่ เทพีแห่งแสง ไอควันเหล่านี้มีฤทธิ์ทำให้สลบได้ทันทีแม้ไม่ต้องสูดดมมันก็สามารถซึมเข้าไปยังร่างกาย และจะชะลอการทำงานของระบบร่างกาย จนเกิดความอ่อนล้ารู้สึกง่วงนอนขึ้นมาในทันที

     

    ================Sleep=================

     

     

    บัญญัติปรับสกิล สลีป ไม่มีผลกับ เอลเลแมนท์(Element = พลังงานธาตุ) ประกาศิตไร้เทียมทาน! ”

    เทพีแห่งแสงยกไม้คฑาขึ้นแสงสว่างส่องจากหัวไม้คฑากลืนเอาไอควันให้หายไปราวกับเล่นกล

     

    เอาอีกแล้ว เอาอีกแล้ว…..นี่ถ้ากระหม่อมใช้หมดทุกสกิลที่มีในโลก พระองค์จะปรับแก้มันทั้งหมดเลยใช่ไหมขอรับ

     

    เทพีแห่งแสงมองเขาด้วยสายตาเคลือบแคลงพระองค์รู้สึกไม่ขอบมาพากลกับ ขวดสเปรย์ที่ บุรุษอีกา

    ใช้

     

    สิ่งที่บรรจุอยู่ในขวดสเปรย์นั่นคือสาเหตุที่เจ้าสามารถใช้ สกิลทั้งหมดโดยไม่ต้องเคยผ่านการฝึกฝนหรือเรื่องข้อจำกัดทั้งทางเผ่าพันธุ์หรือพรสวรรค์อย่างนั้นสินะ มันคืออะไรกัน?”

     

    บุรุษอีกาฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ หลังจากปะทะคารมกันมานานในที่สุด เทพีแห่งแสงก็เริ่มโต้ตอบ และนั่น

    ก็เป็นไปตามแผน เขายิ้มร่าอยู่ในใจเงียบๆ พระนางใกล้จะงับเหยื่อของเขาแล้ว

     

    สิ่งนี้คือเลือดขอรับ เป็นเลือดของสำคัญที่หาได้ยากยิ่งก่อนหน้านี้กระหม่อมลำบากแทบแย่เลยล่ะขอรับ

    เพราะว่าตัวอย่างเลือดที่มีเพียงน้อยนิดแล้วยังผลการทดลองที่ล้มเหลวทำให้เลือดปนเปื้อนจนเกือบใช้การไม่ได้แต่ก็ยังมีความโชคดีอยู่ในความโชคร้าย ที่มีคนเกิดจากครรภ์ของตัวทดลองที่ล้มเหลว คนๆนั้นกลายเป็นเครื่องมือสำหรับผลิตเลือดล้ำค่านี่จนได้มาตั้งมากมายเกินพอเลยล่ะขอรับ

     

    บุรุษอีกา ใช้มือซ้ายหมุนหัวฉีดสเปรย์แล้วดึงออกจากปากขวด

     

    มันเป็นสายเลือดของผู้อยู่เหนือพระเจ้าที่สร้างอาโพคาลิปส์ขึ้นมา และเลือดนี่ก็เป็นของผู้ที่สืบสายเลือดนั้นโดยตรง เลือดของหมาป่าดำที่ชื่อว่า ทอล ไงล่ะ

    สิ้นคำบุรุษอีกา โยนขวดเลือดนั้นเข้าไปหานาง พร้อมกับชักดาบที่ปักพื้นไว้ขึ้นมา ขว้างออกไป

    ดาบแทงทะลุขวดขาดเป็นสองเสี่ยงและเลยไปเสียบเข้ากับผนังห้องด้านหลัง เทพีแห่งแสง

    เลือดในขวดกระจายตกใส่ร่างของ เทพีแห่งแสง

     

    กรี้ดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    เทพีแห่งแสงแผดเสียงร้องลั่น เลือดซึ่งตกใส่ร่างกายของพระนางกลายเป็นสีดำและเริ่มกัดกินร่างกาย

    ไอควันร้อนฉ่า ลอยขึ้นมาจากจุดที่เลือดตกใส่ สร้างความทรมานสุดแสนสาหัส เทพีแห่งแสงสูญเสีย

    กำลังวังชาทั้งหมดไปแม้แต่คฑาในมือก็ไม่อาจรั้งไว้ได้ พระองค์ล้มลงเยี่ยงดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา

     

    ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า  !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

    บุรุษอีกา ลั่นเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่หลังจากหยุดหัวเราะ

     

    เท่านี้พระองค์ก็สิ้นฤทธิ์แล้ว เลือดนี้เป็นเลือดที่ขจัดทั้งมารร้ายและทวยเทพ มันเป็นสายเลือดของเจ้าคนที่ทระนงที่สุดที่อาจหาญฆ่าทั้งพระเจ้าและซาตาน  ไม่สนว่าพลังจะศักดิ์สิทธิ์หรือชั่วร้ายแค่ไหน เลือดนี้

    หากสัมผัสถูกตัวตนที่เป็นความบริสุทธิ์ไร้ซึ่งร่างเนื้อแล้วล่ะก็ มันจะกัดกินและสลายพลังเหล่านั้นไป

    จนหมดสิ้น เทพเจ้าทั้งหกเองก็ถือเป็นเอเลเมนท์นี่นะเป็นพลังงานบริสุทธิ์ไร้ร่างเนื้อ

    นี้มันได้ผลกว่าที่คาดไว้เสียอีก

     

    บุรุษอีกา ไม่อาจหักห้ามความรู้สึกที่เอ่อล้นจากดวงใจของตนไว้ได้อีกแล้ว เขาพึ่งโค่นล้มสิ่งที่ได้ชื่อว่า

    เป็นที่สุดอย่างเทพเจ้าลงด้วยวิธีการง่ายๆ ไม่มีคำพูดใดที่จะบรรยายความรู้สึกสะใจของ คามิโอ ได้เลย

     

    ปัง!!!!!!! ปัง!!!!!!! ปัง!!!!!!!

     

    เสียงปืนที่ดังขึ้นนั้นเป็นตัวกระตุ้นให้ บุรุษอีกา ยกผ้าคุมขึ้นปัดป้องกระสุนที่พุ่งเข้ามาผ้าคลุมของ

    เขาสามารถปัดกระสุนทั้งหมดทิ้งไปได้ง่ายๆโดยที่ไม่มีแม้แต่ริ้วรอยเหลือทิ้งไว้บนผ้าคลุม

    ผู้ที่ลั่นไกปืน เดินออกมาจากมุมมืดของห้องเขาพึ่งจะบินกลับมาถึงระเบียงห้องท้องพระโรง

    และเข้ามาพบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

     

    หัวเราะพอรึยังเจ้านกอุบาทว์!!”

    เจ้าของเสียง หาใช่ใครอื่น แม่ทัพเหยี่ยว อาร์คไนท์ เซอร์อิทาลุส ผู้ที่เทิดทูล

    อัลคาเซีย ยิ่งกว่าใครๆได้มาเห็นภาพ การกระทำที่โหดร้ายเกิดขึ้นกับสิ่งที่เขารักและเทิดทูลยิ่งกว่าชีวิต

    ไม่อาจสรรหาคำพูดใดๆมาบรรยายความโกรธของแม่ทัพเหยี่ยวได้เลย ความโกรธของเขาเปรียบเป็นภูเขาไฟที่ปะทุไปแล้วยังนับว่าน้อยไป

     

    กลับมาเร็วจังนะเซอร์อิทาลุส ทันเห็นชอตเด็ดพอดีเลยสินะเนี่ย แล้วเป็นไงบ้างล่ะผลงานชิ้นเอกของข้าทำให้เจ้าเนื้อเต้นเลยใช่ไหมล่า

    บุรุษอีกา กล่าวยั่วยุโดยไม่มีความเกรงกลัว ต่ออารมณ์ของ แม่ทัพเหยี่ยวเลย

     

    ข้าจะเลาะเอาจะงอยปากโสโครกของเจ้ามาทำตะปูตอกฝาโลงเจ้าให้ได้

    แม่ทัพเหยี่ยว ลั่นวาจาด้วยโทสะ ร่างกายสั่นเทิ้มจนเนื้อเต้นตุบๆ ปืนพกอีกกระบอกถูกชักจากเอว

    มาเล็งยิง บุรุษอีกา มานากลั่นตัวไหลไปรวมกันที่ปากกระบอกปืน

     

    “1000 Shot!!”

     

    แม่ทัพเหยี่ยว เหนี่ยวโก่งไกด้วยความรวดเร็วต่อเนื่องจนกระสุนหมดแม็ก กระสุนปืนวิ่งผ่านมวลมานา

    ที่กระจุกอยู่บริเวณปากกระบอกก็ทำปฏิกิริยา แตกตัวเป็นกระสุนนับร้อย จนครบทั้ง หนึ่งพันนัด

    บุรุษอีกาไม่ได้แสดงสีหน้าทุกร้อนแต่อย่างใดเขากลับยืนนิ่งยืดอกรับพายุกระสุนโดยไม่มีความเกรงกลัว

     

    ไม่ได้…..อิทารุส ท่านั้นมัน….ถูกผนึก….”

    เทพีแห่งแสงฝืนพูดไปหอบไป ด้วยเรี่ยวแรงที่ยังพอมีเหลืออยู่ แต่ก็สายเกินไปไม้คฑาของพระนาง

    ซึ่งล้มอยู่ข้างๆ เริ่มทำหน้าที่ด้วยตัวมันเอง แสงสว่างส่องประกายจากหัวไม้คฑากลืนเอา

    กระสุนทั้งหมดให้หายไปก่อนจะเข้าถึงตัว คามิโอ

     

    หึๆๆ ก่อนที่เจ้าจะมาถึงที่นี่ องค์อัลคาเซียที่เจ้ารักนักหนาน่ะพึ่งจะปรับแก้สกิลเจ้าให้กลาย

    เป็นขยะไปเมื่อกี้เอง

    บุรุษอีกา แสยะยิ้มสีหน้าชิงชังของแม่ทัพเหยี่ยวสะท้อนในดวงตาสีขุ่นของเขานับเป็นอีกความรื่นรมย์

    ที่ได้เห็นผู้คนกำลังโกรธแค้นชิงชังตนเอง

     

    อย่าคิดว่ามันจะจบแค่นี้นะต่อให้ไม่ต้องใช้ 1000 Shot ข้าก็จะฆ่าเจ้าให้ได้

    แม่ทัพเหยี่ยวสบถเสียงกร้าวพร้อมกับ เปลี่ยนแม็กกระสุนอย่างร้อนรน

     

    โฮม!!!!!!!!”

    เสียงคำรามดังมาจากอีกฟากของประตูท้องพระโรง  ประตูถูกผลักออกอย่างรุนแรงจนกระเด็น

    ลอยข้ามห้องมาถึงที่ๆ คามิโอ ยืน ผู้มาเยือนรายใหม่ คือองครักษ์ไบซันนามว่า เอนกิดู และ นางแกะ
    ยุวราชแห่งแสง กษัตริยา

     

    เจ้ากำลังทำอะไรเซอร์คามิโอ คิดจะเป็นกบฏงั้นรึ!”

    เป็นครั้งแรกที่เอนกิดู พูดออกมาเป็นภาษาและพูดเสียงดัง โดยปกติแล้วหากไม่จำเป็น

    เอนกิดู จะทำเพียงแค่คำรามสั้นๆเท่านั้น เพราะการพูดมันลำบากเกินไปที่จะออกเสียง

    แต่หนนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับอัลคาเซีย นั้นทำให้เขาโกรธไม่แพ้แม่ทัพเหยี่ยวอิทารุส เลย

    อัลคาเซีย เป็นทั้งแม่ของเพื่อนหรือจะเรียกว่าน้องบุญธรรมก็ยังได้ หรืออีกนัยหนึ่ง

    อัลคาเซียก็เปรียบเสมือนแม่ของเขาด้วยเช่นเดียวกับ กษัตริยา

     

    เอนกิดู ไม่อยากคิดเลยว่าขนาดเขายังโกรธได้ถึงเพียงนี้แล้วกษัตริยาที่เป็นเสมือนลูกแท้ๆของ

    อัลคาเซียเล่าจะโกรธขนาดไหน

     

    แหมๆไม่ได้คิดจะทรยศซักหน่อยขอร้าบ กระผมน่ะยังอยู่ข้างศาสนจักรและราชอาณาจักรเสมอมานั่นแล

    บุรุษอีกาเปรยเสียงเรียบ แล้วส่งสายตาข้ามหัว เอนกิดู ไปสบตากับ ยุวราชแห่งแสงที่ยืนอยู่ด้านหลังสุด

     

    เนอะฝ่าบาทกษัตริยา…..”

     

    อ๊ากกกกก!!!!!!!!!!!!

     

    เอนกิดู แผลเสียงคำรามลั่นด้วยหน้าอกของเขานั้น ถูกดาบทองคำแทงทะลุอก ออกมา

    สายตาของไบซันร่างใหญ่ย้ายกลับไปด้านหลังเขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำไป

    น้องสาวของเขา กำลังแทงเขาด้วยดาบทองคำ

     

    อย่างที่คามิโอ พูด จากวันนี้ไปข้าจะเป็นผู้ปกครองนครแห่งแสงนี้เอง ใครที่ไม่เข้าข้างข้าถือเป็นกบฏ

    ไบซันร่างใหญ่ล้มลงจมกองเลือดที่ไหลออกมาจากอกของเขา และทอดสายตามองตามหลังของ กษัตริยา ผู้เป็นดั่งน้องสาวที่เดินข้ามเขาไปอย่างไม่แยแส

     

    กษัตริยา นี่ท่าน?!”

    แม่ทัพเหยี่ยว สบถเขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตาเห็นเลย ดศกนาฏกรรมที่กำลังดำเนินไปนี้

    เรียกได้ว่าเป็นการชิงบัลลังค์อย่างแท้จริง

     

    ท่านแม่ไม่เคยเข้าใจข้าเลย ไม่สิทรงไม่เคยเข้าใจในตัวไพร่ฟ้าของพระองค์ด้วยซ้ำไป

    กษัตริยา ตรัสเสียงเรียบนางเดินเข้าไปหา คามิโอ แล้วรับเอาขวดสเปรย์บรรจุเลือดของทอล

    อันสำรองมาจาก คามิโอ

     

    หุบปากเดี๋ยวนี้นะ กษัตริยา ท่านอัลคาเซีย น่ะทรงเข้าใจมาตลอด พระองค์เข้าใจหัวใจของ

    สัตว์หางทุกคน!ไม่อย่างนั้น ข้าคงจะไม่ได้เป็นตัวข้าเช่นทุกวันนี้!!”

     

    แม่ทัพเหยี่ยว ลั่นเสียงภาพอดีตหลั่งไหลออกมาจากจิตใต้สำนึก จนเอ่อล้นหัวใจ

    ตั้งแต่อิทารุส จำความได้ เขากำพร้าและเป็นสัตว์หางที่มีความแปลกประหลาดที่สุด เขามีลักษณะ

    ที่คล้ายกับชนเผ่าไร้หางที่ยังพอมีความเป็นสัตว์หางบ้างก็มีแค่ช่วงขาที่เป็นแบบนกเหยี่ยว และปีก

    เท่านั้นปมด้อยนี้ทำให้เขาถูกรังแกและถูกเหยียดอยู่บ่อยๆ ครั้งหนึ่งอัลคาเซีย ได้เชิญเขาไป

    เข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ พระนางเข้าใจความทุกข์ของเขา และมอบหมวกหัวนกเหยี่ยวให้แก่เขา

    หมวกนั้นไม่ได้ทำให้เขากลมกลืนไปกับสัตว์หางตัวอื่นๆ แต่มันเป็นเครื่องหมายว่าเขาได้รับการยอมรับโดย

    เทพเจ้า สัตว์หางตนอื่นๆจึงยอมรับเขาและเลิกเหยียดไปในที่สุด อิทารุส ซาบซึ้งน้ำพระทัยของอัลคาเซีย

    เป็นอันมากนั่นทำให้เขาตัดสินใจถวายทั้งชีวิตที่มีเพื่อปกป้อง พระนางตลอดไป

     

    อิทารุส! สัตว์หางหน้าตาพิกลพิการอย่างเจ้าไม่เข้าใจความทุกข์ของพวกเราสัตว์หางแท้ๆหรอก

    กษัตริยา ตรัสแย้งคำพูดของแม่ทัพเหยี่ยว

     

    นานมาแล้วเทพเจ้าปกครองพวกเราด้วยอะไร ไม่ใช่ด้วยอำนาจงั้นหรือ? ตอนที่เกิดสงครามกับกลุ่ม

    แอสซาซิน ก็ปรับสกิลพวกเขาจนหมดทางสู้ คิดดูสิหากซักวันหนึ่งเป็นพวกเราชาวอาณาจักรและศาสนจักรที่จะกลายเป็นศัตรูของเทพเจ้าล่ะจะเป็นยังไง พวกเราได้ถูกกำจัดจนหมดแน่  พวกเขากดขี่เรามานานเกินพอแล้ว พวกเราสัตว์หางไม่อยากถูกปกครองโดยเทพเจ้า เราอยากปกครองตัวของเราเอง

     

    กษัตริยา ยกขวดสเปรย์ที่บรรจุเลือดของทอล ขึ้นมาเพื่อเตรียมที่จะใช้มัน

     

    และในที่สุดข้าก็ทำสำเร็จ  ได้ทั้งเกเฮน่ามาไว้ในกำมือแล้วอีกเดี๋ยวข้าก็จะได้ ผู้สืบทอดสายเลือดผู้อยู่เหนือพระเจ้ามาอีกทีนี้เราก็ไม่ต้องกลัวอีกแล้วทั้งเทพเจ้าหรือเซเวอร์ ข้าจะขึ้นปกครองอาณาจักร ไม่สิปกครองโลกทั้งใบต่างหาก และทอล จะเป็นพระสวามีเคียงคู่กับข้า นี่ล่ะคือแผนการเจเนซิส(Genesis)

     

    หยุดนะ!......กษัตริยาไม่ว่าเจ้าคิดจะทำอะไรก็ตามเจ้าจะฆ่า….แม่ตัวเองไม่ได้…..มันเป็นบาป…”

    เอนกิดู เค้นแรงเฮือกสุดท้ายที่มี ร้องห้ามนางเอาไว้ แต่กษัตริยากลับส่งยิ้มให้และพูดด้วยน้ำเสียง

    เย็นชา

     

    ข้าไม่ทำเองอยู่แล้วเอนกิดูสบายใจได้ เพราะคนที่จะฆ่าท่านแม่ก็คือ อิทารุส เจ้านั่นล่ะ

    กษัตริยา ตรัสจบจึงโยนขวดสเปรย์ไปทางอิทารุสทันที

     

    “ราชาผู้หลับไหลในศิลาหิน ผู้ผูกพันด้วยสัญญา ข้าขอน้อมรับชัยชนะตามคำสัตย์ของท่าน….. ”

     

    ==========Divinity Sword==========

     

    หลังจาก กษัตริยาร่ายคาถา เกิดรอยกระเพื่อมของมิติขึ้นในอากาศ ดาบทองสองเล่มไหลออกมาจาก

    รอยกระเพื่อมนั้น และเสียบเข้าใส่ขวดสเปรย์พร้อมกันทั้งสองเล่ม ขวดสเปรย์ฉีกขาดเลือดที่บรรจุอยู่ข้างใน

    เทหกกระจายใส่แม่ทัพเหยี่ยว

     

    ทันทีหลังจากได้อาบเลือดของทอล ภาพทุกอย่างที่เห็นผ่านดวงตาเกิดการพร่ามัวและมืดสนิทลง

    ร่างกายของแม่ทัพเหยี่ยว เกิดการเปลี่ยนแปลง ปีกถูกเลือดดำห่อหุ้มแล้วย้อมให้กลายเป็นสีดำไปด้วย

    เลือดดำของทอล ยังแพร่กระจายไปทั่วทั้งร่างและย้อมขนสีน้ำตาลของเขาให้ดำสนิท เสื้อผ้าและชุดเกราะ

    ถูกเลือดดำห่อหุ้มและเปลี่ยนรูปลักษณ์กลายเป็นชุดเกราะใหม่มีรูปลักษณ์ที่ชวนให้หวาดหวั่น

    ราวกับปีศาจ เช่นเดียวกันเลือดดำซึมเข้าไปถึงภายในอาบย้อมใจภักดีให้แปดเปื้อนด้วยมลทิล

     

    ไม่….ไม่นะ….ข้า….ข้ามีชีวิตเพื่อท่านอัลคาเซีย….ไม่ข้าทำไม่ได้ไม่

    แม่ทัพเหยี่ยว คร่ำครวญ จิตใจของเขาค่อยๆถูกกัดกิน สมองกำลังสั่งให้เขาทำในสิ่งที่เลวร้ายที่สุด

    เกินกว่าจะทำได้ลงคอ เขาพยายามต่อสู้กับมัน เขาเชื่อว่าความภักดีต่ออัลคาเซียของเขาไม่

    แพ้สิ่งใครอย่างแน่นอน

     

    ยิ่งรักมากเท่าไหร่ก็ยิ่งแค้นมากเท่านั้น ความภักดีก็ไม่ต่างกัน หรือเจ้าจะบอกว่าความภักดีของเจ้าไม่ได้แกร่งไปกว่าตัวเจ้าอย่างนั้นหรือในเมื่อตัวเจ้ายึดมันกับความภักดีนั้นและนั่นแหละที่ทำให้เจ้าไม่มีวันเอาชนะความภักดีนั่นได้

    คามิโอ กล่าว สองโฉดมองดู แม่ทัพเหยี่ยวดิ้นรนไม่ให้ตกสู่ด้านมืด ด้วยความรู้สึกน่าอภิรมย์

     

    ท่าน….อาคาเซีย…..”

    แม่ทัพเหยี่ยวคร่ำครวญ  มโนภาพของ เทพีแห่งแสงกำลังยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน ค่อยๆถูกเลือดสีดำ

    อาบย้อมมโนภาพทั้งหมดกลายเป็นความมืดมิด

     

     

    ==========Shadow Italus============

     

    แม่ทัพเหยี่ยวหยัดตัวลุกขึ้นแววตาของเขากลายเป็นสีดำสนิท บัดนี้ไม่หลงเหลือสิ่งที่เรียกว่าจิตใจอีกแล้ว

    กลายเป็นเพียงเครื่องจักรที่ทำตามสัญชาตญาณ  แม่ทัพเหยี่ยว เล็งปืนไปยัง เทพีแห่งแสงซึ่งลมหาย

    ใจรวยริน พระนางไม่สามารถที่จะหลบหลีกหรือป้องกันอะไรได้อีกแล้ว เลือดดำที่กัดกินนางได้กร่อนพลัง

    ทั้งหมดจนสูญสิ้น

     

     

    เพื่อท่านอัลคาเซีย…..”

    โก่งไกปืนถูกเหนี่ยว กระสุนซึ่งอาบไว้ด้วยออร่าสีดำ พุ่งตัวเจาะผ่านช่องท้องของเทพีแห่งแสง ร่างกายของพระนางแหลกเละเป็นเสี่ยง พร้อมๆกับแสงสว่างของนครแห่งแสงได้ดับมืดลง

     

    มีเพียงเสียงหัวเราะด้วยความยินดี ของลูกทรพี ซึ่งลุในอำนาจแล้ว เท่านั้นที่ดังก้องออกจากท้องพระโรง

    ฮ่าๆๆ นับแต่วันนี้ไปพวกเราสัตว์หางจะปกครองโลกใบนี้อย่างแท้จริง ฮ่าๆๆ!!!!”

     

     

    ********************โปรดติดตามตอนต่อไป**************************

     

     

    เนื่องจากอยู่ดีๆที่ออฟฟิศก็หยุดงานซะงั้น(ปัญหาการเมืองนั่นแหละ) อยู่บ้านว่างๆเลยนั่งปั่นตอนใหม่ออกมาได้อีกตอน บทนี้ค่อนข้างดาร์คพอสมควรเหอๆ รวมทั้งหงายเงิบสุดๆด้วยเลยล่ะขอรับ =w=’
    ลูน่าจัง มาเห็นจะเงิบไหมเนี่ย ไรเตอร์เขียนเองยังเงิบเองเบย(เอ๊ะยังไง?)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×