คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #171 : Login 168: The Jungle Racing
Login
168: The Jungle Racing
“พล่ามมากจังนะแกเนี่ยตอนเป็นนรสิงห์ไม่ได้ขยันพูดแบบนี้เลยนี่”
แฟรนเซียมพูด
“…”
ออร์ทิเกสซาร์ไม่ได้ตอบกลับมาแต่มันจ้องมองเขาด้วยดวงตาที่ส่องแสงสีแดงเหมือนหลอดไฟพลางเอียงคอราวกับกำลังใช้ความคิด
มันพยายามทำความเข้าใจคำพูดเมื่อครู่อยู่
“แล้วก็เมื่อกี้น่ะแค่บลัฟ”
“หืม”
ออร์ทิเกสซาร์คราง
มันเริ่มระแวงรอบๆ คงรู้ตัวว่ากำลังถูกดึงความสนใจ
แต่ก็สายไปแล้ว
มีการโจมตีมาจากทางด้านหลัง
กว่าออร์ทิเกสซาร์จะรู้ตัวมันก็ถูกการโจมตีนั้นปะทะเข้าไปแล้ว
ลำแสง ธนู
ลูกกระสุน ระเบิด ทุกอย่างที่ประเคนเข้ามาทำให้มันถึงกับทรุดขาหลังลง
“อึก...ได้ยังไง...”
ร่างกายอันใหญ่โตที่ทรุดล้มลงทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน
“ไงล่ะท่านตัวตลกแห่งสวนศักดิ์สิทธิ์ถูกตลบหลังเข้าให้แล้วหัวเราะไม่ออกเลยรึ”
แฟรนเซียมพูด
หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงดังครืดๆ
ลั่นออกมาจากปากของออร์ทิเกสซาร์ มันกำลังขบกรามอย่างเจ็บแค้น นั่นคงไม่ใช่การแสดง
พวกเขาสามารถหักเหลี่ยมของเครื่องทำสวนผู้วิปริตได้เป็นครั้งแรก
ออร์ทิเกสซาร์เหลียวหลังกลับไปแล้วมันก็ได้เห็นผู้ที่จู่โจมมาคือกองกำลังของรูบิเดียมกับปีศาจอนันตายืนอยู่บนพื้นหาดที่กลายเป็นผลึกทั้งที่น่าจะโดนไฟย่างสดไปแล้ว…
แต่วัชพืชที่ว่านั่นก็ยังยืนอยู่ตรงนั้น
พื้นที่กลายเป็นผลึกสาเหตุน่าจะมาจากพลังของอาวุธติดตั้งอสุราที่มีความสามารถสร้างเขตแดนผลึกของบุตรแห่งแสงที่มีนามว่ารูบิเดียม
จะบอกว่าหล่อนใช้พลังของอสุราต้านทานการโจมตีที่เป่าท้องฟ้าให้หายไปนั่นได้อย่างนั้นหรือ
ไม่มีทางแน่
ถ้าอย่างนั้นก็ยิงพลาด ที่เห็นนั่นแค่ตาฝาดไป?
เป็นไปไม่ได้อยู่ดี
ไม่มีทางเกิดความผิดพลาดแบบนั้นกับเครื่องทำสวนซึ่งสมบูรณ์แบบมาตั้งแต่ต้น
“ไม่สิ
ตำแหน่งมันเคลื่อนจากเดิมไปนิดหน่อย…หรือว่า”
ออร์ทิเกสซาร์เพ่งสายตาที่สุกสกาวของมันไปยังจุดที่เคยเผาวัชพืชเหล่านั้น
เซนเซอร์ในดวงตาซูมภาพเข้าไปใกล้จนมองเห็นเศษผลึกกระจายอยู่บริเวณนั้นเต็มไปหมด
สมมติฐานอันน่าเหลือเชื่อแต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุดเท่าที่มันจะคิดได้ก็มีแค่วัชพืชที่มันได้ทำลายไปนั้นแท้จริงแล้วเป็นเพียงกระจกผลึกที่รูบิเดียมสร้างขึ้นมา
หล่อนใช้พลังอาวุธที่ว่าสร้างกระจกผลึกขนาดใหญ่และมีอำนาจหักเหแสงให้สะท้อนภาพจริงของพวกหล่อนที่ยืนอยู่อีกที่ไปปรากฏอยู่ตรงนั้น
“เป็นแผนซ้อนแผนที่น่าชื่นชมอะไรอย่างนี้
แต่ว่ายังเป็นแค่การแสดงชั้นสองอยู่ดี”
ออร์ทิเกสซาร์คำราม
แต่นั่นจะเป็นเพียงการข่มขู่เพื่อกลบเกลื่อนความจริงที่ว่าร่างของมันบอบช้ำเพราะการโจมตีร่วมของมนุษย์ต่างดาวกับอนันตาจนแทบจะยืนไม่ไหวแล้วหรือว่านี่ก็เป็นเพียงการแสดงของมันอีกกันล่ะ
แฟรนเซียมไม่สนใจว่าจะเป็นอย่างไหนทั้งนั้น
ตอนนี้ออร์ทิเกสซารืผ่อนแรงกดลงไปมากจนสามารถขยับเครื่องได้
จึงขัดขืนสุดแรงจนสามารถพาเครื่องทำสวนดิ้นหลุดออกมาจากอุ้งเท้าแล้วทะยายขึ้นไปชิงความได้เปรียบบนท้องฟ้า
“พล่ามไปก็เท่านั้น
จบกันแค่นี้แหละจัดการพร้อมกันเลย รูบิเดียม!”
แฟรนเซียมพูดแล้วให้สัญญาณรูบิเดียมที่ตอนนี้สร้างยูนิทสำหรับใช้ท่าไม้ตายออกมาได้จำนวนหนึ่งแล้วจากเวลาที่ดึงเอาไว้จนถึงตอนนี้
การโจมตีของเครื่องทำสวนเซปทรูสตาร์กับเทคนิกรุกด้วยท่าไม้ตายฮาร์ดอัลติเมทแทคติกของรูบิเดียมน่าจะทำลายออร์ทิเกสซาร์ให้แหลกเป็นชิ้นได้
“บัลลิสต้าพันนิชเชอร์!!”
รูบิเดียมร่ายสกิลพร้อมกับขว้างดาบผลึกที่ใช้สกิล
‘คิงฟอร์ม’ เปลี่ยนมันขึ้นไป
ดาบผลึกเปล่งแสงและขยายตัวออก
เขตแดนอันมืดมิดราวกับอวกาศแผ่ขยายออกมาจากดาบผลึกที่กำลังเฉิดฉายนั่น
เขตแดนซึ่งยับยั้งการเคลื่อนที่ของทุกสรรพสิ่ง
หยุดยั้งได้กระทั่งกาลเวลา เขตแดนลุกลามมาถึงจุดที่ออร์ทิเกสซาร์ล้มลง
ส่วนแฟรนเซียมบังคับเครื่องทำสวนหนีออกจากระยะไปก่อนแล้วเพื่อให้โจมตีพร้อมกันได้
แต่ออร์ทิเกสซาร์เมินแฟรนเซียม
ทั้งที่น่าจะเป็นภัยต่อตัวเองมากกว่าแล้วหันไปพูดกับรูบิเดียมที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร
“ไหวพริบดีนี่
ใช้สกิลที่ขอยืมพลังจากเครื่องทำสวนมาสู้กับข้าแต่การที่มันหยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่างรวมถึงตัวพวกเจ้าด้วยกำลังจะเป็นภัยเอานะ”
มันพูดแล้วยันร่างกายขึ้นราวกับไม่เจ็บปวดจากบาดแผลก่อนหน้านี้
แต่ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือมันกำลังขยับตัวในห้วงเวลาที่ทุกอย่างหยุดนิ่งต่างหาก
“แล้วข้าก็กำลังรอให้เจ้าใช้มันเพราะว่าข้าสามารถเคลื่อนไหวได้ในช่วงเวลาที่ว่านั่นยังไงล่ะ”
แถมยังประกาศอย่างภาคภูมิใจที่ซ้อนแผนหลอกต้มพวกเขาอีกจนได้
อาการบาดเจ็บที่มันแสดงให้เห็นก่อนหน้านี้เป็นแค่การแสดง
บ้าน่ะ…
มองเห็นรูบิเดียมทำปากแบบนั้น
จากตรงจุดนี้แฟรนเซียมคิดว่าคงไปช่วยไม่ทัน
แต่ถ้าโจมตีแล้วทำลายออร์ทิเกสซาร์ได้เรื่องก็จบ
เป้าหมายไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย
จนถึงตอนนี้มันก็อ้าปากชาร์จพลังงานเพื่อจะยิงตอบโต้ใส่รูบิเดียมเท่านั้น
“โซเดียราโอ!”
แฟรนเซียมร่ายสกิลแล้วยิงลำแสงจากดวงตาของเซปทรูสตาร์ใส่
ทว่า
กลับมีสัตว์เทวะซัลฟูลเรี่ยนสองตัวพุ่งมาจากทางไหนไม่รู้
พวกมันรับลำแสงแทนแล้วระเบิด จากนั้นก็กลายเป็นวงแหวนเพลิงหมุนกวัดแกว่ง
“…”
แฟรนเซียมจ้อไปที่ใบหน้าของออร์ทิเกสซาร์
มองเห็นมันเหลือบสายตามาทางนี้แวบหนึ่ง แค่แวบเดียวจริงๆ
มันแทบไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา
เพราะว่าพลังต่างกันเกินไป
เพราะยังไม่ทิ้งสติไปจึงยังครอบครองพลังทั้งหมดของเครื่อวทำสวนไม่ได้…แฟรนเซียมคิดอย่างนั้น
แต่ก็ยั้งตัวเองไว้ด้วยความมีสติ
หากตนเอาทุกอย่างแลกกับพลังตอนนี้ทุกอย่างที่ทำมาก็จะสูญเปล่า
ตอนนั้นเองวงแหวนเพลิงที่ออกมาจากพวกซัลฟูลเรี่ยนที่ถูกทำลายก็พัดบ่วงเพลิงใส่จนเซปทรูสตาร์ต้องถอยออกห่าง
ฝั่งรูบิเดียมเครื่องทำสวนรูปร่างม้าที่เคยเห็นตอนอยู่ที่ค่ายกรุงเทพเพิ่งจะโผล่มาส่งเครื่องยิงธนูให้
จนกว่าเวลาแสดงความอลังการของสกิลจะจบพวกหล่อนจะต้องยืนเป็นเป้านิ่งอยู่แบบนั้น
จุดเด่นของกลยุทธ์ท่าไม้ตายได้กลายมาเป็นคมดาบที่บาดใส่ตัวเองซะแล้ว
แฟรนเซียมกำมือแน่นพลางคิดว่า…
ถึงจะเสี่ยงไปหน่อยแต่คงต้องสละเครื่องทำสวนแล้วออกไปสู้ด้วยดาบเทวะแทน
แม้ด้านพลังจะเทียบกับการขับเครื่องทำสวนในตอนนี้ไม่ได้ก็ตามแต่การมีกลยุทธ์ที่พลิกแพลงได้มากกว่าพลังแบบทื่อๆ
คงจะเป็นประโยชน์กว่า
…แล้วถ้านั่นเป็นสิ่งที่มันต้องการให้เขาคิดล่ะ…
จากที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดเจนว่าออร์ทิเกสซาร์เจ้าเล่ห์เพียงใด
มันคงรอโอกาสที่จะกดดันให้เขาสละเครื่องทำสวนออกไปแล้วชิงฆ่าทิ้งในทันที
หรือจะบอกว่ามันไม่ได้สนอยู่แล้วว่าเขาจะอยู่ในเครื่องทำสวนหรือไม่อยู่
จะอย่างไหนก็ไม่เป็นภัยกับมันทั้งนั้นแบบนี้ก็เป็นข้อเท็จจริงเรื่องหนึ่งเหมือนกัน
เขาทำอะไรไม่ได้เลยทั้งที่ได้พลังมาแล้ว
แต่นั่นก็เป็นพลังที่ได้มาจากอีกฝ่ายนั่นแหละ
ดังนั้นตอนนี้จึงถูกพลังที่ว่าหักหลังเอาแล้วกลายเป็นตัวตลกของสนามรบนี้ไป
เวลาเพิ่งจะผ่านไปเพียงวินาทีเดียว
ลำแสงก็ทำท่าจะพุ่งออกจากปากของออร์ทิเกสซาร์
แสงสีแดงสุกสกาวพองตัวขยายออกจากปากที่เต็มไปด้วยคมเขี้ยว
ราวกับยมทูตสีแดงที่มุดออกจากปากสิงโตเพื่อไปลากคนบาปลงนรก
รูบิเดียมกับพวกที่อยู่ตรงนั้นไม่มีทางรอดแล้ว
“…”
จู่ๆ
ออร์ทิเกสซาร์ชะงักไป ยมทูตสีแดงหดตัวลงเล็กน้อยควเพราะพลังงานที่ส่งไปขาดตอนกะทันหันแต่ถึงเป็นแบบนั้นก็ยังยิงได้อย่างไม่มีปัญหา
เพียงแต่…
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้มันต้องชะงักไปนั้นคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงตามไปด้วย
บัลลิสต้าพันนิชเชอร์…
มีธนูที่มาจากสกิลแบบนัน้พุ่งมาจากอีกทาง
พุ่งออกมาจากป่าตรงตีนเขาที่อยู่ถัดไปจากชายหาดแห่งนี้
ออร์ทิเกสซาร์จึงหันไปยิงลำแสงใส่ลูธนูยักษ์นั่นแทนแล้วมันก็ทำลายได้สำเร็จด้วย
ทำลายพลังของสกิลที่ยืมพลังเครื่องทำสวนมาอีกทีคงเพราะความต่างชั้นกันของระดับพลัง
ขณะเดียวกันธนูของรูบิเดียมก็ได้ช่วงเวลานั้นช่วยเอาไว้จึงยิงตามออกมา
ออร์ทิเกสซาร์ครางอย่างหัวเสีย
มันไม่มีเวลาพอจะรวบรวมพลังเพื่อยิงทำลายลูกธนูได้
แต่แค่นี้ยังไม่พอจะต้อนตัวตลกแห่งความวิบัติให้จนมุมอยู่ดี
ออร์ทิเกสซาร์เงื้อคมเขี้ยวของมันไปยังซัลฟูลเรี่ยนตัวหนึ่ง
กัดขย้ำให้แตกสลายในครั้งเดียว ทำแบบนั้นจึงได้พลังงานสำหรับยิงต่อต้าน
แผ่นหลังของมันลุกโชนด้วยเพลิงสีฟ้าครามที่พุ่งขึ้นมาตามช่องลายพาดกลอน
“โซเดียแมทีเรียลเกย์เซอร์!”
ออร์ทิเกสซาร์ยิงคลื่นบ่วงเพลิงออกไปพร้อมกับพ่นลำแสงสีแดงจากปาก
การโจมตีนั่นช่วยให้มันรอดจากธนูของสกิลท่าไม้ตายมาได้และหันความสนใจไปยังป่าตรงตีนเขาที่ซึ่งลูกธนูปริศนาพุ่งออกมา
มีเสียงเครื่องยนต์รถคำรามดังแว่วมา
วินาทีถัดจากนั้นก็มีรถมอเตอร์ไซพุ่งออกจากป่า บนนั้นมีเด็กหนุ่มซ้อนอยู่สองคน
คนหนึ่งที่ซ้อนท้ายถือคันธนูเล็งมาทางนี้
คันธนู...บาลิสต้าพันนิชเชอร์นั้นเป็นสกิลท่าไม้ตายประจำอาชีพเรนเจอร์
ถ้าอย่างนั้นเด็กหนุ่มที่ถือคันธนูนั่นก็คือเจ้าของลูกธนูเมื่อครู่อย่างไม่ต้องสงสัย
“บัพแอโรว์!!”
เด็กหนุ่มแผดเสียงตะโกนแล้วแผลงศร
ลูกธนูนั่นลุกไหม้และขยายตัวกลายเป็นมหิงสาเพลิงพุ่งเข้าหาออร์ทิเกสซาร์
แต่มหิงสาเพลิงก็สลายไปก่อนจะทันเข้าถึงตัวเพราะสัมผัสถูกอนุภาคทองคำที่ล่องลอยอยู่รอบๆ
อนุภาคโซเดียมซึ่งลดทอนพลังของสกิลจากอมฤตได้
ถ้าพลังไม่มากพอไม่มีทางที่จะฝ่าทะลวงม่านอนุภาคเหล่านี้ได้เลย
มอเตอร์ไซพุ่งลงมาบนหาด
เสียงเบรกดัง ‘เอี้ยด’ ทรายบริเวณนั้นโดนล้อที่ดูแล้วหมุนด้วยความเร็วสูงคว้านขึ้นมา
รถคันนั้นวิ่งอย่างรวดเร็วภายในป่าที่มีแต่ต้นไม้ขึ้นรกชัน คนขับคงจะมีฝีมือมาก
อย่างไรก็ตามคนที่ซ้อนท้ายอยู่ต่างหากที่สำคัญกว่า
ออร์ทิเกสซาร์เพ่งสายตามองไปที่ใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้น
“มนุษย์ผู้ถูกฟันเฟืองเลือกที่ซีลอร์ดกำลังจับตาดูอยู่รึ”
หลังจากลงพื้นแล้วก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
แต่มีเสียงตะหวาดดังมาจากสองคนบนมอเตอร์ไซคาดเดาจากบทสนทนาแล้วเหมือนว่ากำลังทะเลาะกันอยู่
“ก็บอกว่าอย่าซิ่งให้มันเร็วนักไงเล่าจะขับผาดโผนทำไมนักหนา!”
“ไม่เห็นเป็นไรเลยก็มาถึงเร็วๆ ดีกว่านี่ขวัญก็ขับดีไม่ใช่รึไง!”
“แต่ฉันต้องเล็งธนูไม่มีมือจับรถไว้เมื่อกี้เกือบร่วงไปแล้วนะ!”
“ก็ไม่เห็นจะร่วงซักหน่อย!”
ไม่รู้ทำไมสองคนนั้นถึงได้ทะเลาะกันไม่ดูสถานการณ์แต่ออร์ทิเกสซาร์ก็รวบรวมพลังงานเพื่อยิงลำแสงแล้ว
“โซเดียราโอ...”
สิ้นคำลำแสงก็แผดเผาใส่ทั้งสอง
ความคิดเห็น