คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #122 : Login 119: สมานแผล
Login
119: สมานแผล
[Overlord]
Helel
Alignment:
Chaos
Detail:
เจ้าไม่เห็นหรอกหรือ
ความตายที่พร้อมจะกลืนกินความหวังทั้งหมดกำลังขวางทางเจ้าอยู่...
Ability:
"Morning Star" เมื่อเรียกออกมาจะทำให้เดม่อนสกิลทั้งหมดไร้ผล]
รายละเอียดของปีศาจปรากฏขึ้นบนแว่นตาแห่งลาพาส
ซากิริซึ่งสวมมันอยู่ก็ส่งเสียง
“อืม
หรือว่านี่จะเป็น...”
อย่างใช้ความคิดพลางจ้องเขม็งไปยังเป้าหมาย
...
อิงศรจ้องมองไปที่ร่างของน้องชายซึ่งถูกโอบอุ้มไว้ด้วยปีกของปีศาจที่ออกมาจากอาคานาร์
ปีศาจมีใบหน้าเหมือนกับเจ้าของราวกับเป็นฝาแฝด
แล้วที่เอวของมิ่งขวัญก็มีฟันเฟืองสีขาวเหมือนกระดูกโอบล้อมไว้ราวกับวงแหวนของดาวเสาร์
ตอนที่เกิดกับเมอร์คาบาห์เฟืองก็ปรากฏออกมาเช่นกันแต่ลักษณะของเฟืองกลับต่างออกไปนอกจากนี้คลิฝอธที่เห็นก่อนหน้าก็เหมือนกัน
นี่อาจจะเป็นเหตุการณ์แบบเดียวกันก็ได้
เสียงของซากิริดังมาจากหน้าจอสื่อสาร
‘โอเวอร์ลอร์ดเฮเลลประเภทเคออสมีพลังที่จะทำให้เดม่อนสกิลเป็นโมฆะได้’
หล่อนน่าจะกำลังพูดถึงรายละเอียดของปีศาจที่มิ่งขวัญเรียกออกมาคงจะได้ข้อมูลมาจากลาพาสอีกที
ซากิริยังคงพูดต่อไปว่า
‘ตอนแรกก็เรื่องร้องไห้ได้คราวนี้ก็ปีศาจอีกสองอย่างนี้น่ะมนุษย์ต่างดาวไม่ควรจะมีได้เลยหรือไม่ก็นี่อาจจะเป็นผลมาจากฟันเฟืองก็ได้ล่ะมั้ง’
“เฟืองที่ว่าน่ะมันทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ”
อิงศรถาม
‘ไม่รู้สิตอนนี้สันนิษฐานได้แต่แบบนั้น’
“เดาสุ่มอีกแล้วสินะ”
แต่ซากิริแย้ง
‘ไม่ใช่เดาเป็นการตั้งสมมติฐานต่างหาก’
หล่อนพูดแก้ตัวเหมือนตอนที่ฟันธงเรื่องมิ่งขวัญตัวปลอมไม่มีผิด
ตอนนั้นเองปีศาจที่มิ่งขวัญเรียกออกมา
เฮเลลก็ผละตัวออกห่าง
โบยบินด้วยปีกทั้งหกพลางยืดแขนออกมาข้างหน้า
มือของปีศาจเปล่งแสงสว่างวาบ
แสงตรงเข้าอาบร่างของมิ่งขวัญจากนั้นแขนของมิตราพุทธะก็คลายออกและหายไป
มองเห็นออร่าสีแดงขับออกมาจากตัวมิ่งขวัญ
ออร่าเหล่านั้นไปรวมตัวกันเป็นมิตราพุทธะ
มันถูกขับออกมาด้วยพลังของเฮเลล
คิดได้แต่เหตุผลแบบนั้น
มิตราพุทธะคำราม
“ทำไมข้าถึงถูกขับออกมาได้
ไม่น่าจะมีสิ่งใดต่อต้านศาสตราอสุราได้นี่นา”
แต่ไม่มีใครสนใจ
มิ่งขวัญสีหน้าดีขึ้นหันไปบอกขอบคุณปีศาจที่ช่วยเอาไว้
“ขอบใจนะ”
ปีศาจพยักหน้า
“…”
จากนั้นสายตาของทั้งคู่ก็เปลี่ยนเป็นจริงจังแล้วจ้องเขม็งไปที่มิตราพุทธะ
“ที่นี้ก็มาสะสางเจ้านี่กันเถอะ”
มิ่งขวัญดึงหอกขึ้นจากพื้น
เฮเลลย้ายลงมาอยู่ด้านหลังคอยสนับสนุน
จากนั้น...
วงแหวนเพลิงด้านหลังกับฟันเฟืองที่โอบล้อมรอบเอวก็เริ่มหมุดกวัดแกว่ง
มิตราพุทธะบินหนีขึ้นไปด้านบนสูงถึงขนาดที่การโจมตีไปไม่ถึง
แต่มิ่งขวัญในตอนนี้สามารถบินได้เพราะความสามารถของโกลด์กาแลนต์
น้องชายกับเฮเลลทะยานไล่ตามไปอย่างสุดกำลัง
ทั้งสองฝ่ายต่างขับเคี่ยวกันด้วยความเร็วระดับเครื่องบินเจ็ท
มิตราพุทธะเร่งเครื่องจนบินกลับหัวข้ามมิ่งขวัญไปอยู่ด้านหลังได้แล้วถอนเขี้ยวหน้าคู่ออกพลางใช้มันโจมตีหวังฝากรอยแผลไว้บนหลังมิ่งขวัญ
แต่เด็กหนุ่มก็ใช้ความเร็วหักหลบได้ทัน
“อัสนีราโอ!”
มิตราพุทธะร่ายสกิลปลดปล่อยสายฟ้าผ่านทางดาบเขี้ยว
แต่มิ่งขวัญก็ตั้งโล่ในมือขึ้น
“โฟตอนการ์ด”
แล้วร่ายสกิลทำให้แสงสว่างเปล่งออกมาเป็นกำแพงต้านสายฟ้าไว้
สายฟ้าปะทะเข้ากับกำแพงแสงดังเปรี้ยงแล้วกระดอนออก
ความเสียหายจากสายฟ้าลดลงครึ่งหนึ่ง
มิ่งขวัญ Lv. 91 (Gold Garant)
[/////17750:17850////.]
มิ่งขวัญเปิดฉากโจมตีกลับ
เขาเล็งหอกแล้วพุ่งเข้าหามิตราพุทธะ
แต่อีกฝ่ายโยกตัวหลบทำให้หอกหลุดเข้าไปในปากของงู
มิ่งขวัญกดหอกสุดแรงจนเสียบทะลุหัวงูแล้วลากมันออกจากตัวของมิตราพุทธะ
“หนอยแน่ะ”
มิตราพุทธะสบถแล้วตวัดเขี้ยวดาบทั้งสองเฉือนหัวไหล่กับบริเวณท้องมิ่งขวัญจนได้แผล
เลือดที่ไหลทะลักถูกสายลมพัดจนลอยหายไปมิ่งขวัญกัดฟันทนต่อจนกระทั่งลากเอางูที่พันร่างของมิตราพุทธะออกมาได้สำเร็จจึงทำให้มันหมุนติ้วไปหลายตลบ
มิ่งขวัญ Lv. 91 (Gold Garant)
[/////17350:17850///..]
งูสิ้นใจคาหอกทั้งแบบนั้น
มิ่งขวัญดึงมันออกแล้วทิ้งไปจากนั้นจึงบินตีลังกาทำด็อกไฟท์ (Dogfight) ลอยข้ามมิตราพุทธะไปอยู่ด้านหลัง
ระหว่างนั้นวงแหวนไฟก็ลอยข้ามมาอยู่ข้างหน้า
อยู่ในสภาพเตรียมพร้อมที่จะเผด็จศึก
“แทคีออนสไลเซเอร์!”
วงแหวนไฟเร่งรอบหมุนของมันให้เร็วยิ่งยวด
ทว่ามันก็ยังเสียเวลาในการรวบรวมพลังมากเกินไปเป็นเหตุให้มิตราพุทธะกลับตัวได้สำเร็จ
ปีศาจตวัดดาบเขี้ยวมาพร้อมๆ
กัน คมเขี้ยววิ่งเข้าหาลำคอ
เสียงตัดดัง
ฉัวะ อวัยวะนั้นน่าจะขาดกระเด็น
แต่นั่นไม่ใช่ศีรษะของมิ่งขวัญหากแต่เป็นแขนของเฮเลลที่ยื่นเข้ามาปกป้องเจ้านายไว้
ตอนนั้นเองวงแหวนเพลิงก็เปล่งแสงแล้วมิ่งขวัญก็โจนทะยานข้ามมัน
เด็กหนุ่มกลายเป็นแสงพุ่งทะยานผ่านร่างของมิตราพุทธะ
“อ๊ากกกก!!!”
ปีศาจคำรามและกรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราดตรงหน้าอกของมันที่มิ่งขวัญพุ่งทะยานผ่านไปนั้นเกิดรูกลวงโหว่ขนาดใหญ่
ตรงใจกลางรูโหว่นั่นเองที่หลุมดำก่อตัวขึ้นและดูดกลืนร่างที่เหลือเข้าไป
หลุมสีดำขยายตัวผ่านไปไม่กี่วินาทีมิตราพุทธะก็ถูกกลืนหมดจากนั้นหลุมดำก็เริ่มหดตัวจนกระทั่งหายไป
มิ่งขวัญกลับลงมาบนพื้นจากนั้นก็คลายร่างอัศวินทองคำแล้วหันไปกล่าวกับเฮเลล
“ขอบใจนะที่ช่วยเอาไว้”
มิ่งขวัญพูดกับปีศาจด้วยสายตาเป็นห่วง
เขาจ้องมองแขนทั้งสองข้างที่ถูกตัดขาดด้วยความรู้สึกผิดแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าบาดแผลเพียงแค่นี้ทำอะไรปีศาจไม่ได้ก็ตาม
“…”
เฮเลลพยักหน้าให้จากนั้นจึงหายตัวไป
เฟืองที่โอบรอบเอวของมิ่งขวัญก็เช่นกันหายไปพร้อมกับปีศาจราวกับเป็นตัวตนเดียวกัน
จากนั้นมิ่งขวัญก็มองมาทางนี้…ตรงที่อิงศรยืน
แต่มิ่งขวัญไม่เดินเข้ามา
“…”
จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกตั้งแต่มาที่นี่
ครั้งแรกที่ได้พบหน้ากันโดยไม่ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่บีบบังคับให้แยกกัน….อิงศรคิดอย่างนั้น
แล้วก็คิดต่อไปอีกว่าสาเหตุที่น้องชายไม่ยอมเข้ามานั่นอาจจะเป็นเพราะเลเวล
มิ่งขวัญเลวเล 91
ซึ่งก้าวข้ามขีดจำกัดพลังจากหกเท่าของมนุษย์ขึ้นมาเป็นสิบสองเท่า
ห่างไกลจากความเป็นมนุษย์
ห่างไกลจากตัวตนดั้งเดิม
“แล้วมันจะทำไมเล่า”
อิงศรเดินเข้าไปหาเอง
แต่มิ่งขวัญกลับผละถอยก้าวไปข้างหลังเหมือนกับจะหนี
“ขวัญ!”
พอส่งเสียงตวาดออกไปแบบนั้นเท้าของมิ่งขวัญก็หยุดก้าว
อิงศรเร่งฝีเท้าจนกระทั่งเข้าไปถึงตัวน้องชายแล้วจับหัวไหล่ทั้งสองบีบบังคับให้เผชิญหน้าตรงๆ
“นายร้องไห้เหรอ”
พลางถามคำถาม
ที่ขอบตายังมีคราบน้ำตาที่ยังไม่แห้งเกาะอยู่
“แต่มนุษย์ต่างดาวน่ะไม่ร้องไห้นั่นเป็นเรื่องจริงรึเปล่า”
อิงศรพูด
“…”
ดูเหมือนว่ามิ่งขวัญเองก็จะเพิ่งรู้สึกตัวถึงเรื่องนี้
น้องชายทำหน้าตื่นเล็กน้อย
“จริงด้วยทั้งที่เมื่อก่อนน้ำตาก็ไม่เคยไหลออกมาเลยแท้ๆ”
“แล้วจำได้รึเปล่าว่าเริ่มร้องได้ตั้งแต่เมื่อไหร่หรือว่ามีอะไรทีน่าจะเกี่ยวข้องไหม”
มิ่งขวัญทำหน้านึกอยู่ครู่หนึ่งก็พูดออกมา
“จริงสิจะว่าไปมีครั้งหนึ่งที่ถูกรูบิเดียมทำให้เฟืองออกมารู้สึกว่าหลังจากตอนนั้นล่ะมั้งที่น้ำตาเริ่มจะไหลออกมาน่ะ”
“งั้นเหรอ…ที่แท้ก็เป็นอย่างนั้นเอง”
บางทีสันนิษฐานของซากิริอาจจะถูกต้อง...อาจจะเป็นเพราะเฟืองจริงๆ
ก็ได้
มันคงจะเปลี่ยนอะไรบางอย่างในตัวหลังจากที่ตื่นขึ้นมาในร่างกายของพวกเขา
บางอย่างที่จะทำให้โลกนี้ไปถึงจุดจบที่ล้ำลึกยิ่งกว่าหรือไม่ก็…
บางอย่างที่จะช่วยกอบกู้มนุษย์เอาไว้
เพราะอย่างนั้นมิ่งขวัญจึงร้องไห้ได้ใช้อาคานาร์ได้ทำตัวเหมือนเป็นมนุษย์ได้
“พี่ศร ขวัญ”
ฟูที่เพิ่งจะคืนร่างมนุษย์กำลังเดินมาทางนี้
ติ๊ง!
เสียงเลเวลอัพดังขึ้น
พอมิตราพุทธะถูกกำจัดไปค่าประสบการณ์จึงถูกโอนให้กับทุกคนในปาร์ตี้ที่อยู่ในบริเวณนี้
แถมยังเป็นค่าประสบการณ์จำนวนมหาศาลเลเวลของพวกเขาเพิ่มขึ้นรวดเดียวเกือบ
20 เท่า
อิงศร Lv.90 [/////5900:10320.....]
มิ่งขวัญ Lv.99 [/////20000:20000/////]
ฟู Lv.80 [/////11000:11000/////]
เน็กส์ Lv.80 [/////8910:8910/////]
ยกเว้นซากิริเพราะหล่อนไม่ได้เข้าร่วมปาร์ตี้ด้วยในตอนที่ต่อสู้กับไทเทเนียมและโซเดียมก็ไม่ได้อยู่ในปาร์ตี้อีกอย่างหล่อนเป็นราชครูเลเวลจึงเต็มอยู่ตั้งแต่แรก
ซากิริ Lv.20 [/////1000:1000/////]
Sodium Lv.144
[/////49500:49500/////]
ส่วนอิซานามินั้นเป็นปีศาจจึงไม่มีเลเวล
คนอื่นๆ
ที่ไม่ได้อยู่ที่นี่มีแต่ชื่อปรากฎอยู่บนหน้าจอแต่ไม่สามารถตรวจสอบสถานะได้
นั่นคือผลสรุปทั้งหมดของกลุ่มในตอนนี้
มิ่งขวัญยังคงทำหน้าเสียขวัญกับการเลเวลอัพอยู่
เจ้าน้องบ้านี่ยังคิดมากเรื่องนั้นอยู่อีกจะเรียกว่าเติบโตขึ้นได้รึเปล่านะทั้งที่เมื่อก่อนเป็นแค่เจ้าบื้อที่คิดอะไรตื้นๆ
เสมอ
อิงศรง้างกำปั้นแล้วเขกหัวน้องชายไปทีหนึ่ง
“โอ้ย
ทำอะไรน่ะ...เจ็บนะ”
“นายนั่นแหละมัวกังวลเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่ได้ก็บอกไปแล้วนี่ไม่ว่านายจะกลายเป็นตัวอะไรไปเราก็ยังเป็นพี่น้องกันเป็นครอบครัวเดียวกันถ้าหากว่าเป็นฉันที่ตกอยู่ในสภาพนั้นนายคิดจะไม่ใยดีฉันรึไง”
แน่นอนว่ามิ่งขวัญปฏิเสธในทันที
“ไม่มีทางทำแบบนั้นอยู่แล้ว”
ถึงน้ำเสียงกับสีหน้าจะดูดีขึ้นมาบ้างแต่น้ำตาก็ยังไม่ยอมหยุดไหล
แล้วตกลงว่านั่นเป็นน้ำตาแห่งความปิติยินดีอย่างที่ซีลอร์ดพูดไว้ตอนที่มิ่งขวัญปลุกเฮเลลขึ้นมาหรือว่าเป็นแค่น้ำตาขี้แยกันแน่นะ
อิงศรยิ้มให้น้องชาย
“ถ้างั้นก็เข้าใจแล้วนะ”
พอทำแบบนั้นมิ่งขวัญก็แสดงสีหน้าไร้เดียงสาแบบปกติออกมา
ใบหน้าเหมือนเมื่อสามปีก่อน...มิ่งขวัญส่งเสียงตอบรับคำพูดอย่างว่าง่าย
“อื้อ”
ทันใดนั้นเองฟูก็แทรกตัวเข้ามาขัดจังหวะการสนทนาที่เพิ่งจะสิ้นสุดลง
กอดคอมิ่งขวัญไว้พลางใช้อีกมือขยี้หัวมิ่งขวัญอย่างสนิทสนมแล้วพูดว่า
“นายนี่มันชอบทำให้เป็นห่วงซะเรื่อยเลยนะเฟ้ย”
ที่ใบหูของฟูยังเป็นใบหูของหมาป่าอยู่ทั้งที่ร่างกายส่วนใหญ่กลับเป็นคนแล้ว
คืนร่างไม่สมบูรณ์เหรอ? หรือว่าเดโมนอยด์จะมีข้อจำกัดของการใช้ร่างปีศาจอยู่กันนะ...อิงศรคิด
มิ่งขวัญจับมือฟูที่ขยี้หัวอยู่ออก
“ไม่อยากโดนหมาพูดใส่หรอกนะแล้วมันเจ็บนะเฮ้ยหยุดยีหัวซะทีเซ่”
“ว่าใครเป็นหมากันห๊ะ!”
“เป็นหมาก็ต้องบอกว่าเป็นหมาเซ่”
“ว่าไงนะทีนายยังเป็นมะนาวต่างนุดเลย”
“ว่าไงนะเจ้าหมาปากหมานี่ลองพูดมาอีกทีเสะ”
มิ่งขวัญกับฟูแยกตัวออกจากท่ากอดคออย่างสนิทสนมเมื่อครู่แล้วตั้งท่าจะทะเลาะกันเต็มที่
ตอนนั้นเองสะพานหินที่เชื่อมแผ่นดินฝั่งนี้ไว้ก็เริ่มขยับ
สะพานเลื่อนไปเชื่อมกับแผ่นดินฝั่งที่พวกซากิริอยู่พอดี
อิงศรหันไปบอกทั้งสองคนที่ตอนนี้แข่งจ้องตายิงฟันใส่กันจนหน้าแทบจะแนบชิดติดสนิท
“นี่
เลิกทะเลาะกันได้แล้วรีบไปก่อนที่สะพานจะเปลี่ยนทิศเถอะ”
แล้วจึงออกเดินนำไปก่อน
ได้ยินเสียงทั้งสองคน เชอะ ใส่กันแว่วมาตามด้วยเสียงฝีเท้า
ราวกับว่าเวลาได้ย้อนกลับไปอีกครั้งหนึ่ง
ประหนึ่งบาดแผลในใจได้สมานตัวปิดอย่างสมบูรณ์และทำให้กล่าวคำพูดที่ครั้งหนึ่งมันเจ็บปวดจนอยากจะลืมไปเสีย
“ครอบครัวงั้นเหรอ”
เด็กหนุ่มกล่าวเช่นนั้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพลางแหงนหน้ามองไปยังแผ่นดินอีกฟาก
เครื่องแบบโทรมไปหมดแถมยังขาดวิ่น
มิ่งขวัญเองก็ไม่ต่างกัน
แต่บาดแผลใต้ชุดนั้นก็สมานตัวไปแล้วแน่นอนว่า...
บาดแผลในใจก็เช่นกัน
….
ในขณะเดียวกัน
อีกด้านหนึ่ง…
สถานที่คือแผ่นดินลอยฟ้าแห่งหนึ่งในมิติของยฮวฮ
กวินทร์กับกลุ่มครอบครัวของอิงศรสามคน
มิกซ์ พลอย นิว และหัวหน้าหน่วยบุกจู่โจมที่เมตไตรยส่งมาพิจิก ธุวดารกะ
ทั้งห้าคนกำลังเผชิญหน้ากับไทเทเนียม
แต่พิจิกก็ตายไปแล้ว…ถูกสับโดยดาบเล่มเขื่องด้วยน้ำมือของไทเทเนียม
สภาพศพจึงแยกออกเป็นสองซีก
เครื่องในกับเลือดไหลลงมากองอยู่ตรงนั้นชวนสะอิดสะเอียน
คนอื่นๆ
ต่างก็สะบักสะบอมกันไม่น้อยเพราะฝีมือที่ห่างชั้นกันมาก
กระทั่งจำนวนคนยังถมช่องว่างที่ว่าไม่ได้
“นี่มันอะไรกันน่ะ
ชุดสกิลใหม่ของฉันเพิ่งจะได้โชว์ไปไม่กี่อย่างเองนะ”
มนุษย์ต่างดาวซึ่งเป็นอดีตพี่สาวกล่าวด้วยใบหน้าเสียดาย
กวินทร์มีบาดแผลมากที่สุดในกลุ่มเพราะว่าเขาพยายามเอาตัวเข้าปกป้องทุกคน
ดาบที่แยกออกเป็นสองเล่มด้วยสกิลเทคนิคัลเวพ่อนถูกใช้รับการโจมตีจากดาบยักษ์จนมีแต่รอยบิ่น
เด็กหนุ่มทรุดเข่าลงข้างหนึ่ง
ปล่อยแขนที่จับดาบลากพื้นและหอบหายใจรุนแรง
“…”
ไม่มีคำพูดจะโต้ตอบมนุษย์ต่างดาว
ลำพังแค่จะประคองสติยังยากเกินไปสำหรับกวินทร์ในตอนนี้
ประกายสดใสในดวงตาของเด็กหนุ่มหม่นหมองมืดมนพอๆ กับหนทางที่จะโค่นศัตรู
มิกซ์ที่จับกลุ่มอยู่กับครอบครัวอยู่ฟากตรงข้ามที่ไทเทเนียมหันหน้าเผชิญกวินทร์เริ่มพูด
“ยัยนี่มันตัวอะไรกันเนี่ยจัดชุดสกิลระหว่างที่สู้ไปด้วยยังทำได้ขนาดนั้น”
เป็นความจริงที่น่าเศร้าแต่พวกเขารวมกันยังเทียบอีกฝ่ายไม่ติด
เหมือนเป็นหยดน้ำเล็กๆ
สี่หยดที่พยายามจะถมหุบเหวลึกให้เต็มความต่างชั้นกันมันสูงถึงขนาดนั้น
ตั้งแต่เริ่มพวกเขาห้าคนฟื้นขึ้นมาพร้อมกันบนแผ่นดินอีกแห่งแล้วค่อยรวมกลุ่มกันเดินมาถึงที่นี่
ตอนที่มาถึงก็เห็นไทเทเนียมกำลังง่วนกับหน้าจอจัดการสกิลและได้กวินทร์ช่วยบอกเรื่องอาวุธที่หล่อนติดตั้งไม่สนับสนุนกับชุดสกิลปัจจุบันที่เป็นคลาสชาโดวเอ็นฟอร์สเซอร์ซึ่งใช้อาวุธเงาที่สร้างจากอัญมณี
ดังนั้นหล่อนจึงจัดสกิลชุดใหม่อยู่
พวกเขาได้ใช้โอกาสนั้นหวังโค่นหล่อนโดยไม่ให้ตั้งตัว
แต่คนที่ชื่อพิจิกซึ่งบุกนำไปก่อนกลับถูกสับตายในดาบเดียวโดยที่หล่อนไม่ได้หันหน้าออกจากจอเลยแม้แต่วินาทีเดียว
การโจมตีไม่ได้ชะงักลงแค่เพราะพรรคพวกคนหนึ่งตาย
ความตายของพิจิกไม่ได้สำคัญขนาดทำให้สะเทือนใจ
ทว่า
ไทเทเนียมกลับต่อต้านพวกเขาได้เพียงแค่กวัดแกว่งดาบอย่างสบายๆ
…แล้วในวินาทีถัดมา
ชุดสกิลก็ถูกจัดเสร็จ
มนุษย์ต่างดาวแสดงความสามารถของดาบยักษ์ที่เรียกว่าอาวุธติดตั้งอสุราร่วมกับสกิลชุดใหม่ที่บิลด์เป็นคลาสเอเลเมนทัลเอ็นแชนท์เตอร์
คลาสเดียวกันกับกวินทร์ได้อย่างชำนาญ
แล้วก็กลายสภาพมาเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน…
พวกเขาเป็นรองเธอทุกทาง
หล่อนเป็นปีศาจไร้หัวใจที่มีความสามารถราวกับเทพเจ้าอาจจะเหนือกว่าอวโลกิตะที่เป็นอดีตเจ้านายของพวกเขาเสียอีก
แล้วเธอคนนั้นก็มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับกวินทร์แต่กลับลงมือโดยไร้ความลังเล
คงคิดจะฆ่ากวินทร์จริงๆ
ตอนนั้นเองไทเทเนียมก็โผล่ไปอยู่ด้านหลังกวินทร์รวดเร็วจนมองตามไม่ทัน
หล่อนจับดาบด้วยสองมือแล้วเงื้อมัน
มิกซ์คิดระหว่างที่สายตาจับจ้องใบดาบนั่นก็ถูกตวัดลงมาที่คอของกวินทร์
ถ้ามันเป็นอย่างที่คิด
ถ้าหล่อนไร้ความรู้สึกไร้ความปราณีจริงๆ
แล้วล่ะก็
กวินทร์ก็คงต้องตายลงที่นี่
ใบดาบพุ่งเข้าสู่ลำคอ
แต่กวินทร์ไม่ต่อต้านคงเพราะไม่หลงเหลือสติพอจะทำแบบนั้น
ทั้งที่หล่อนสามารถเคลื่อนไหวในระดับที่สายตามนุษย์มองไม่ทันแต่กลับมองเห็นเสี้ยววินาทีที่ลงดาบราวกับจงใจ
คงตั้งใจให้เห็นจริงๆ
นั่นล่ะ!
มิกซ์เบ้หน้า
เขาได้แต่จินตนาการความอำมหิตของมนุษย์ต่างดาวโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย
หัวของกวินทร์ขาดกระเด็น
มองเห็นช่องว่างที่เกิดขึ้นระหว่างลำคอไปแวบหนึ่ง
พลอยจับนิวส์ปิดตาในทันทีรวมถึงตัวเธอเองก็เบือนหน้าหนีเพราะทนรับความโหดร้ายนั่นไม่ได้
สายตาของมิกซ์ยังคงจับจ้องอยู่หัวของกวินทร์แม้แต่ในเสี้ยววินาทีที่มันกำลังจะหลุดกลิ้งลงมาจากบ่า
แต่แล้ว...
ก็มีสารอนินทรีย์สีขาวคล้ายกับพลาสติกทะลักออกมาจากลำคอ
สารสีขาวนั่นยึดจับกับศีรษะของกวินทร์ไม่ให้หลุดลอยออกไปแล้วคงรูปเป็นห่วงวงกลมมีแง่งเหมือนฟันยื่นออกมาเรียงเป็นซี่
ฟันเฟือง...
ฟันเฟืองสีขาวขุ่นเหมือนกระดูกกำลังหมุน
หมุนอยู่บนลำคอของเด็กหนุ่มที่ถูกเลือก
เพื่อไม่ให้ตาย
เพื่อชี้นำโลก....
“วัช...พืช”
และธำรงไว้ซึ่งกฎระเบียบของทุกสรรพสิ่ง
***ตอนแรกของสัปดาห์ในตารางเวลาใหม่!!! สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบตั้งแต่อาทิตย์นี้เป็นต้นไปเราได้เปลี่ยนตารางเวลาในการอัพตอนใหม่แล้วเจอกันอีกทีวัน พฤหัสและวันเสาร์นะคร้าบ***
ความคิดเห็น