ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #89 : Login 86: บทเพลงสวดส่งสู่แดนชำระ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 488
      21
      9 มี.ค. 60

    Login 86: บทเพลงสวดส่งสู่แดนชำระ

     

                สี่ปีก่อนมิ่งขวัญได้เผชิญหน้ากับความสิ้นหวังเป็นครั้งแรก

                ท่ามกลางความล่มสลายของโลกมิ่งขวัญเหลือแค่พี่ชายคนเดียวแล้วพี่ชายก็ตายเพราะเอาตัวเข้าแลกเพื่อปกป้องเขาที่เอาแต่ขลาดกลัวจนไม่กล้าต่อสู้กับสัตว์เทวะ

                แม้อิงศรรอดมาจากตอนนั้นได้แต่บาดแผลยังคงฝังลึกอยู่ในใจ

                มิ่งขวัญกดข่มบาดแผลนั้นเอาไว้แล้วใช้ชีวิตโดยตั้งมั้นว่าจะเข้มแข็งขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องแบบนั้นอีก

                โดยพื้นฐานแล้วมิ่งขวัญเป็นเด็กที่รู้จักเข็ดหลาบ...

                เด็กหนุ่มสามารถปรับตัวเพื่อป้องกันความผิดพลาดซ้ำได้จนเกินพอดีด้วยเหตุนั้นเมื่อถูกสถานการณ์บีบบังคับมิ่งขวัญก็จะทำลายตัวตนเดิมแล้วกลายเป็นคนใหม่

                ในวัยเด็กเพราะทำตัวอ่อนแอเลยถูกแกล้งพอเข้าใจถึงเรื่องนี้วันต่อมาเขาก็กลายเป็นคนใหม่ที่ไม่ยอมให้ใครมารังแก

                พอทำแบบนั้นมากๆ เข้าก็กลายเป็นเด็กเกเรจึงถูกต่อว่าแล้ววันต่อมาเขาก็กลายเป็นคนใหม่ที่คอยปกป้องคนอ่อนแอคนอื่นในห้อง

                แต่มันก็ทำให้เขากลายเป็นคนโดดเดี่ยวไปเพราะทุกคนเข้าใจว่ามันเป็นแค่การเสแสร้งทำตัวเป็นฮีโร่เพื่อให้คนอื่นยอมรับ

                มิ่งขวัญเข้าใจสาเหตุและเปลี่ยนแปลงตัวเองในวันถัดมา

     

                'เธอปรับตัวและพัฒนาได้รวดเร็วเกินไปจะเรียกว่านี่คืออุดมคติของการก้าวเดินไปข้างหน้าในแบบที่เหล่าแอดมินิสเทรเตอร์ต้องการก็ว่าได้'

                ชายผู้เรียกตัวเองว่าผู้ถูกลืมเลือนได้กล่าวคำพูดเช่นนั้นเอาไว้ในความฝันหลายครั้งที่ได้เจอกัน ณ ห้องเก่าโทรมแห่งนั้น

                มิ่งขวัญดำเนินชีวิตเหมือนเกิดเป็นคนใหม่อยู่ทุกวันแต่สังคมของมนุษย์มันจมปรักอยู่กับที่การเปลี่ยนแปลงจึงไม่รุนแรงนักจนกระทั่ง...

                โลกได้ล่มสลายลง

                ในโลกที่ไม่มีสังคมไม่มีกฎเกณฑ์ มนุษย์จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและมิ่งขวัญก็ก้าวรุดหน้าเกินไปมาก

                หลังจากอิงศรเกือบตายเพราะตนเป็นสาเหตุ มิ่งขวัญก็ทำลายอัตตาตัวตนเดิมที่ขี้ขลาดและอ่อนแอในโลกที่ล่มสลายทิ้งไปแล้วกลายเป็นคนใหม่

                คนที่เข้มแข็งและมีความกล้าที่จะบุกตะลุยกับทุกอย่างกลายเป็นคนที่เหมาะสมกับยุคสมัยอันโหดร้าย บ้าบิ่นพอจะแลกชีวิตเพื่อปกป้องเหล่าคนสำคัญที่เรียกว่าครอบครัว

                แต่มนุษย์ต่างดาวก็บุกมาและทำลายอัตตาตัวตนที่เข้มแข็งนั่นจนไม่เหลือชิ้นดี

                เมื่อเจอกับพลังมหาศาลเหนือจินตนาการในโลกเก่า อัตตาตัวตนใดๆ ของมนุษย์ไม่อาจตอบสนองความปรารถนาที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เว้นเสียแต่คำตอบเพียงคำตอบเดียวนั่นก็คือ...

                'เลิกเป็นมนุษย์ไปซะ'

                แล้วมิ่งขวัญก็กลายเป็นมนุษย์ต่างดาวแม้จะไม่ต้องการแต่ภายในจิตใจลึกๆ แล้วเขารู้สึกว่าต้องการพลังมากกว่านี้เพื่อที่จะได้ปกป้องอิงศรที่ถูกพรากจากไป

                แต่หากจะแข็งแกร่งขึ้นก็จำเป็นต้อวละทิ้งความเป็นมนุษย์ไปแล้วความกลัวที่ว่าตนอาจจะไม่เหลือใครอีกเลยแม้แต่อิงศรก็อาจจะรัวเกียจที่เขาไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้วก็ได้ขัดขวางไม่ให้ละทิ้งความเป็นมนุษย์ไป

                สามปีที่ผ่านมามิ่งขวัญอยู่เพื่อปรับตัวให้รับกับความปรารถนาอันสิ้นหวัง

                ยืนอยู่บนเชือกเส้นเดียวที่แบ่งแยกระหว่างความปรารถนากับความปรารถนาอีกอย่าง

                เพื่อไม่ให้จิตใจต้องรับภาระหนักจนเกินไปจึงได้ปิดผนึกความทรงจำอันเลวร้ายแล้วเหลือไว้แค่เหตุผลในการมีชีวิตด้วยเหตุนั้นครั้งแรกที่ได้พบกับฟูจึงไม่สามารถนึกออกได้ว่าเป็นใครแม้จะได้พบกับมิกซ์อีกคนก็ตามแต่ที่รู้ก็มีแค่ว่า...

                'เรารู้จักคนพวกนี้'

                รู้อยู่เพียงแค่นั้นจริงๆ จนกระทั่งการปรากฏตัวของเด็กสาวที่ใช้ชื่อว่าพลอยกับคู่เด็กชายหญิงที่มากับเธอ

                มิ่งขวัญมองไปที่เด็กคู้นั้นแล้วพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว

                "เน็กซ์...นิว...อึก"

                มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่มิ่งขวัญได้แต่ย้ำถามตัวเองแบบนั้น

                อยู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาเหมือนหัวใจถูกบีบอย่างแรงจนแทบแหลกสลาย

                ในหัวเริ่มมีภาพที่คุ้นตาซ้อนทับลงบนร่างของเด็กหนุ่มสาวเหล่านั้น

                บาดแผลในอดีตกำลังหวนกลับมา

                หยาดน้ำตาไหลรินอย่างควบคุมไม่ได้

                มิ่งขวัญพูดชื่อของครอบครัวที่น่าจะตายไปแล้วแต่กลับมายืนอยู่ต่อหน้า

                "ฟู มิกซ์ พลอย เน็กซ์ นิว"

                แต่จิตสำนึกด้านเหตุผลกำลังต่อต้านความเป็นจริง

                "ทุกคน...ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ"

     

                พลอยเป็นคนที่ตอบคำถามนั้นด้วยคำพูดทิ่มแทงหัวใจ

                "ใช่พวกเราตายไปแล้วเพราะขวัญใช้พวกเราเป็นโล่ให้ตัวเองรอดตายไงล่ะ"

                จู่ๆ ภาพที่มองเห็นก็เหมือนถูกย้อมเป็นสีแดง จมูกก็ได้กลิ่นคาวเลือดทั้งที่มันไม่มีอยู่ตรงนี้

                เด็กหนุ่มรู้สึกมึนหัวอย่างแรงราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังหมุนเหวี่ยงไปมาจนเผลอก้มหน้าลงแล้วเขาก็เห็นสิ่งที่ไม่น่าจะมีอยู่ที่นี่

                ศพของครอบครัวที่ถูกมนุษย์ต่างดาวฆ่าตายในวันนั้นกำลังจับขาของเขาอยู่

                "เหวอ!!"

                มิ่งขวัญกรีดร้องและสะบัดขาเพื่อมือเหล่านั้นหลุดออกแต่ก็เสียหลักจนล้มก้นคะมำพื้นไปด้วย

                ซากศพเหล่านั้นยังคงคืบคลานเข้ามาหา

                มิ่งขวัญร้องอย่างหวาดผวาเขากวาดมือเพื่อดันให้ร่างถอยห่างออกจากศพ

                "อย่าทำร้ายขวัญนะ!"

                เสียงของมิกซ์ดังขึ้นจากนั้นก็มีเสียงปืนตามมา

                ศพที่อยู่บนพื้นถูกยิงแล้วจึงสลายเป็นควันไอ

                มิ่งขวัญได้สติคืนมาอีกครั้ง

                ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นภาพหลอนจากความรู้สึกผิดในจิตใจมันควรจะเป็นอย่างนั้น

                แต่ทว่า...

                "นี่มันตัวอะไรเนี่ย"

                กวินทร์ก็ช่วยพูดความรู้สึกในใจออกมาให้แล้ว

                พวกซากศพที่ยังเหลืออยู่เริ่มเคลื่อนไหวอีกพอมองดูดีๆ แล้ว

                เจ้าพวกนี้ก็ไม่ได้มีหน้าตาเหมือนเหล่าครอยครวเลยซักนิดเดียว ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ก็คงเป็นภาพลวงตาที่เจ้าพวกนี้สร้างขึ้น

                มิกซ์ตอบคำถามเมื่อครู่ให้

                "พวกมันคือปีศาจที่อวโลกิตะส่งมาน่ะ"

                แต่มือที่จับปืนของเด็กหนุ่มกลับสั่นเหมือนคนเป็นไข้

                "แย่ล่ะ พวกนายระวังกระสุนนะผมเริ่มต้านคำสั่งไม่ไหวแล้ว...อึก"

                มิกซ์พูดโดยที่มือค่อยๆ ยกปืนเล็งมาที่พวกเขาบางทีคงจะถูกควบคุมโดยใครซักคน

                ปืนของมิกซ์ลั่นเสียงปะทุกระสุนดังสะท้อนก้องกังวานไปทั่วทั้งห้องโถงแต่มิ่งขวัญเอี้ยวตัวหลบทันเพราะได้รับคำเตือนก่อนขณะเดียวกันฟูก็เริ่มออกอาการด้วย

                "เหวอ คราวนี้ตาฉันแล้วพวกนายหลบกันให้ดีๆ นะเว้ย!!"

                เด็กหนุ่มพูดด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะฝืนออกแรงต้านร่างกายตัวเองเต็มที่แต่มือกลับยังยกค้อนขึ้นขาก้าวเข้าหา

                หลังจากนั้นฟูก็พุ่งเข้ามาแต่เหมือนถูกค้อนลากตามมามากกว่าเพราะขาของหมอนั่นลอยไม่ติดพื้น

                ปลายค้อนเล็งทุบใส่กวินทร์แต่เขาหลบมันได้ค้อนจึงฟาดลงที่พื้นห้องทำให้มันยุบตัวแตกในทันที

                ต่อจากนั้นการโจมตีของกลุ่มพลอยก็เริ่มขึ้น

                เน็กซ์ เด็กชายผู้มีเส้นผมสีดำสั้นเกือบเกรียนใบหน้าเยาว์วัยแต่สีหน้ากลับเรียบเฉยราวกับหุ่นเชิดซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการถูกควบคุมเหมือนกับฟูและมิกซ์

                เน็กซ์เริ่มควงไม้เท้าพร้อมกับร่ายสกิล

                "มหาวาโย"

                อากาศรอบตัวเด็กชายเกิดการแปรปรวนกะทันหันเกิดสายลมรุนแรงพัดโกรกล้อมรอบแล้วเมื่อเน็กซ์สะบัดไม้เท้าที่ควง สายลมเหล่านั้นก็แผ่พุ่งออกมาอย่างรุนแรง

                สายลมเสียดสีกับอากาศเกิดเป็นคมมีดอากาศนับร้อยเล่ม

                มีดล่องหนที่มองไม่เห็นซัดกระหน่ำปูพรมมาทางด้านหน้ายากจะหลบได้แต่ว่าแบบนี้...

                “แบบนี้จะโดนพวกเดียวกันไปด้วยนะ!

                มิกซ์ตะโกน

                “เอาน่าเดี๋ยวค่อยรักษาก็ได้เนอะ

                ตอนที่ได้ยินพลอยตอบมาอย่างนั้นมิ่งขวัญก็เข้าใจได้แล้วว่าควรจะทำอะไรในตอนนี้

                มิ่งขวัญร่ายสกิลพร้อมกับเอื้อมมือซ้ายไปข้างหน้า

                “โปรโตชิลด์!

     

    [Proto Shield Lv(4/4)

    Element: Light

    Attribute: Buffs, Enhance, Item, Shield

    (Cast Cost) สวมใส่ไอเทม  Shield; สร้างบาเรียที่จะลดทอนความเสียหายให้ครึ่งหนึ่งตอนที่ร่ายสกิลนี้ออกมาเป็นเวลา 2 วินาที จากนั้นได้รับบัพ Def + 100 , Special Def + 50; ห่อหุ้มโล่ด้วยแสงแห่งวิทยาการจงกรุยทางสู่อนาคต]

     

                กำแพงแสงขยายตัวกว้างประมาณหนึ่งช่วยป้องกันคมดาบสายลมให้กับทุกคนแต่กำแพงแสงไม่ได้ทำให้คมมีดหายไปหรือสะท้อนแต่ทำให้มันมีขนาดเล็กลงและช้าลงพอถูกปะทะจึงเกิดแค่รอยถลอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

                สองวินาทีหลังจากนั้นกำแพงแสงก็ยุบตัวเข้ามาห่อหุ้มโล่และเพิ่มค่าพลังกับแสดงเป็นสถานะขึ้นบนแถบพลังชีวิต

     

     

    มิ่งขวัญ Lv. 90 (Proto Shield)

    [/////16000:16000/////]

     

                ตอนนี้พลังป้องกันของมิ่งขวัญเพิ่มขึ้นแถมยังลดทอนความเสียหายลงไปได้มากดูเหมือนฝ่ายเขายังคงได้เปรียบอยู่ตแตอนนี้มันมีเรื่องที่ควรจะแก้ให้ตกเสียก่อน

                เน็กซ์ใช้สกิลได้...

                ทั้งที่ตอนนี้ระบบของเกมถูกหยุดเอาไว้และมีแต่เขากับอิงศรเท่านั้นที่ใช้สกิลได้มันควรจะเป็นอย่างนั้น

                “ทำไมถึงใช้สกิลได้ล่ะ

                ไทเทเนียมที่ยืนอยู่ข้างหลังพูดขึ้นด้วยความสงสัย

                มิกซ์เป็นคนที่ตอบคำถามนั้นให้

                “ปลอกคอที่พวกเราสวมอยู่ได้พลังจากอวโลกิตะทำให้ยังใช้สกิลได้น่ะแต่ว่าระบบพลังชีวิตยังคงไม่ทำงานอยู่ดี

                ไม่รู้ว่าทำไมถึงยอมตอบคำถามให้คนแปลกหน้าอย่างไทเทเนียมแต่ข้อมูลที่บอกมาก็ทำให้รู้แล้วว่าทำไม อารย-สนธยา ถึงกล้าหยุดระบบของเกมโดยที่ไม่กลัวผลกระทบต่อพวกตัวเองด้วย

                ตอนนั้นเองนิวก็ทำเสียงจุ๊ๆ แทรกเข้ามา

                “ไม่ดีเลยนะคะพี่มิกซ์ไปบอกข้อมูลให้ศัตรูได้ไง

                ฟูแย้งคำพูดนั้นกลับไปว่า

                “ศัตรูอะไรกันเล่า นิวนี่ขวัญนะจำไม่ได้รึไง!

                แต่เด็กหญิงผู้มีทรงผมสีดำหยิกหยักศกใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักไร้เดียงสาแต่กลับมีรอยยิ้มที่เย็นชาราวกับนางมารก็ตอบกลับมาว่า

                “พี่ฟูก็ทำตัวไม่ดีเหมือนกัน ดื้อๆ แบบนี้เดี๋ยวหม่าม๊าอวโลกิตะโกรธเอาไม่รู้ด้วยนะคะ

                แล้วนิวก็ปรายยิ้มอย่างชั่วร้ายพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นแล้วเริ่มละเลงขยับนิ้วไปมาราวกับกำลังชักใยอะไรบางอย่าง...

                “เหล่าตุ๊กตาของหนูจงเริงระบำ…”

                แต่มองเห็นเส้นใยแล้ว...

                มิ่งขวัญมองเห็นเส้นใยโยงออกจากนิ้วมือของเด็กหญิงโยงมาที่

                ร่างของฟู...

                ร่างของมิกซ์...

                นิวกระชากเส้นใยเหล่านั้นแล้วเริ่มใส่ท่วงท่าในการชักเชิดร่างของผู้ที่ถือเป็นพี่ชายทั้งสองคนของเธอด้วยใบหน้าสนุกสนาน

                “พับเพ็ทแดนซ์!

                สกิลถูกร่ายออกมาแล้วแต่เหมือนจะยังไม่เกิดอะไรขึ้นแม้แต่ฟูกับมิกซ์เองก็เหมือนจะยังไม่รู้ว่าร่างของตัวเองถูกผูกมัดด้วยเส้นใย

                แล้วตอนที่กำลังคิดว่ามันกำลังจะเกิดอะไรขึ้นนั่นเอง

                “ขวัญระวัง!

                เสียงตะโกนของฟูก็ดังขึ้น

                มิ่งขวัญหันไปเพราะคิดว่าฟูคงจะถูกควบคุมให้โจมตีเหมือนทุกทีแต่ทว่าการเคลื่อนไหวกลับรวดเร็วขึ้นผิดกับก่อนหน้านี้ลิบลับเป็นความเร็วขนาดที่เขาเองก็ยังหลบไม่ทันจนต้องใช้โล่รับเอาไว้

                ค้อนปะทะเข้ากับโล่เสียงโลหะแหลมสูงกรีดร้องก้องกังวาน แรงะทะมหาศาลส่งผ่านโล่มาจนรู้สึกเหมือนแขนจะหักไปทั้งยวง

                ร่างของมิ่งขวัญลอยกระเด็นไปไกลแต่ก็พลิกตัวกลางอากาศและลงพื้นได้อย่างปลอดภัย

                แต่แขนซ้ายก็แทบใช้การไม่ได้อีกแล้ว

     

    มิ่งขวัญ Lv. 90 (Proto Shield)

    [/////12440:16000//...]

     

                “ขนาดมีบัพจากโปรโตชิลด์ยัง...อีก

                มิ่งขวัญมองแขนซ้ายตัวเองที่ตอนนี้ห้อยต่องแต่งไปมาโดยที่ควบคุมไม่ได้กระดูกภายในคงแตกละเอียดหมด

                กวินทร์ที่เห็นแบบนั้นก็หน้าเสียพลางพูดขึ้นว่า

                “นี่เร็วขึ้นกว่าเมื่อกี้อีกไม่ใช่เหรอเนี่ย

                “พับเพ็ตแดนซ์ไงล่ะ มันคือสกิลของบิลด์คลาสมาริโอเน็ตต้าที่เป็นสายหนึ่งของอาชีพสเปลเลอร์เป็นสกิลที่จะทำให้ควบคุมการเคลื่อนไหวของพวกเดียวกันได้และทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นแต่ขอบเขตการเคลื่อนไหวก็จะลดลงแล้วถ้าผู้ใช้ตอบสนองได้ไม่ดีสกิลนี้ก็จะกลายเป็นขุดหลุมฝังตัวเอง

                ไทเทเนียมเป็นคนตอบข้อสงสัยอย่างละเอียด หล่อนรอบรู้สกิลมากถึงเพียงนั้น

                พลอยมองมาที่ไทเทเนียมแล้วพูด

                "รู้ดีเหมือนกันนะแล้วจะรู้จักสิ่งนี้ด้วยรึเปล่าน้า~"

                จากนั้นก็ตั้งไม้คฑาขึ้นโดยจับที่คอไม้ใต้หัวที่ประดับด้วยหยกก้อนแล้วใช้มือรูดตั้งแต่ตรงนั้นไปจนถึงปลายพลางร่ายสกิล

                "เทคนิคัลเวพ่อน"

                เมื่อสกิลทำงานตั้งแต่ส่วนกลางไปจนปลายไม้คฑาก็เปล่งแสงออกมา มันยืดตัวยาวและขยายออกกลายเป็นใบดาบสีดำสนิทส่วนลำคอไม้ที่จับเอาไว้ตอนแรกก็กลายเป็นด้ามจับไป

                "เมื่อเอื้อนเอ่ยถึงจุดจบเจ้าจะได้รับการชำระจากบาป นี่คือบทเพลงส่งวิญญาณแห่งไฟชำระ ดาบมารแห่งการสูญสิ้นเพิร์กเรเควี่ยม! (Purge Requiem)"

                พลอยตวัดดาบนั่นออกแล้วจับด้วยสองมือแทน

                ดาบมารส่งเสียงกรีดร้องเป็นเสียงโหยหวนน่าสยดสยอง

                ไทเทเนียมถลึงตาจ้องมองดาบสีดำนั่นด้วยอาการตกใจ

                "ดาบนั่นคือเพิร์กเรเควี่ยมงั้นเหรอ!"

                แล้วพูดมาแบบนั้น

                ด้วยความสงสัยจนลืมไปว่านั่นคือไทเทเนียมแต่จนแล้วจนรอดกวินทร์ก็พูดกับหล่อน เขาถามไปว่า

                "ดาบนั่นมันทำไมเหรอ?"

                "เคยได้ยินมาว่ามีไอเทมอัลติเมทแรร์ที่ใช้กับสกิลเทคนิคัลเวพ่อนอยู่กลุ่มหนึ่งจะทำให้ได้รับสกิลที่ไม่สามารถหาซื้อมาได้ตามปกติน่ะ ถ้านั่นคือเพิร์กเรเควี่ยมจริงเดี๋ยวก็คงจะได้เห็นของแปลกแน่ๆ"

                ไทเทเนียมตอบ

                "ถูกต้อง"

                พลอยพูดแทรก

                "แล้วก็จงดูให้เต็มตาซะนี่แหละพลังของเพลิงแห่งไฟชำระ"

                เด็กสาวประกาศกร้าวพร้อมๆ กับชูดาบมารขึ้นไป

                เพลิงไฟสีดำลุกโชนห่อหุ้มใบดาบแล้วเสียงกรีดร้องก็ยิ่งทวีความดังของมันจนบาดลึกเข้าไปถึงโสตประสาทแต่ไม่นานนักมันก็หยุดกรีดร้อง

                "จัดการเลยนิว"

                พลอยหันไปสั่งน้องสาวที่ยืนอยู่เคียงข้าง

                นิวพยักหน้ารับคำสั่งนั้นแล้วเริ่มละเลงนิ้วที่กำลังชักเชิดเหล่าพี่ชาย

                "ซิลูเอ็ดแดนซ์"

                พลางร่ายสกิลแล้วจึงกระชากเส้นใยอย่างแรงดึงเอาบางอย่างออกจากร่างของฟูและมิกซ์

                เงาของทั้งสองคนนั่นถูกดึงให้มีตัวตนขึ้นมาภายใต้กันชักเชิดของนิว

                "อึก...ทำไมทำแบบนี้ล่ะนิว"

                ฟูพูดขณะที่ล้มลงอย่างไร้เรี่ยวแรงซึ่งมิกซ์ก็ออกอาการเช่นเดียวกัน

                "อยู่ๆ แรงก็...หายไป...หมด"

                นิวพูดตอบโต้กับเหล่าพี่ชายของเธอว่า

                "ไม่ต้องห่วงค่ะซิลูเอ็ดแดนซ์แค่แบ่งพลังชีวิตพวกพี่ๆ มาเท่านั้นเองนี่ก็เพื่อให้พี่พลอยมีเครื่องสังเวยที่เหมาะสม"

                ขอบใจจ้ะ

                พลอยพูดแล้วเดินเข้าไปหาร่างเงาที่ถูกกระชากออกมาเงื้อดาบขึ้นแล้วฟันลงไป

                ดาร์คแซคริไฟซ์ (Dark Sacrifice)

                ดาบสะบั้นคอเงาขาดอย่างง่ายดายทำให้พวกมันสลายไป จากนั้นลูกไฟยูนิทสีดำทมิฬก็ลอยออกมาจากดาบมารด้วยกันถึงสี่ลูก

                “ฟู มิกซ์เมื่อกี้ตอนที่โดนสกิลของเน็กซ์ยังเจ็บอยู่สินะแถมโดนดึงเงาออกมาด้วยเพราะงั้นจะฟื้นพลังให้

                พลอยพูดขณะเดียวกันก็ปักดาบลงบนพื้น

                จ่ายหนึ่งยูนิทร่ายดาร์คฮีล!”

     

    [Dark Heal Lv(2/2)

    Element: Dark

    Attribute: Heal, Technical, Special Attack, Awakening

    (Cast Cost) 1 Awakening Black Unit; ฟื้นฟูพลังชีวิตแก่เป้าหมายรอบตัวด้วยพลังแห่งความมืดแต่จะสร้างความเสียหายให้กับธาตุแสงแทน]

     

                หลังจากร่ายสกิลแล้วลูกไฟยูนิทลูกหนึ่งก็ถูกสูบเข้าไปในดาบ

                ออร่าสีดำแพร่กระจายจากดาบปกคลุมอาณาบริเวณโดยรอบ

                ไม่เพียงแต่ฟูกับมิกซ์ที่ถูกออร่านั่นช่วยสมานบาดแผลให้แต่กวินทร์กับไทเทเนียมก็ได้รับผลของการฟื้นฟูเช่นกัน

                แต่มิ่งขวัญกลับแผดเสียงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมาน

                อ๊ากกก!!”

                ร่างของเด็กหนุ่มกำลังถูกไฟดำแผดเผา

     

    มิ่งขวัญ Lv. 90 (Proto Shield)

    [////.9120:16000.....]

     

    ***สำหรับวันนี้อาจจะน้อยไปหน่อยเพราะโดนตอนที่แล้วดูดหน้าไปบานเบอะเลยครับ

    ทีแรกสกิลในตอนนี้ตั้งใจจะแปะรายละเอียดหมดทุกสกิลไปๆมาๆ ตัดเหลือแค่นี้พอเพราะมันทำให้หน้าบวมโดยไม่จำเป็นไปครับ(=w=') พวกสกิลที่แค่บรรยายผลก็เข้าใจสกิลได้แล้วเลยตัดรายละเอียดทิ้งไปน่ะครับ

    ไว้เจอกันใหม่วันจันทร์หน้าเน่อ***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×