คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #89 : Login 86: บทเพลงสวดส่งสู่แดนชำระ
Login
86: บทเพลงสวดส่งสู่แดนชำระ
สี่ปีก่อนมิ่งขวัญได้เผชิญหน้ากับความสิ้นหวังเป็นครั้งแรก
ท่ามกลางความล่มสลายของโลกมิ่งขวัญเหลือแค่พี่ชายคนเดียวแล้วพี่ชายก็ตายเพราะเอาตัวเข้าแลกเพื่อปกป้องเขาที่เอาแต่ขลาดกลัวจนไม่กล้าต่อสู้กับสัตว์เทวะ
แม้อิงศรรอดมาจากตอนนั้นได้แต่บาดแผลยังคงฝังลึกอยู่ในใจ
มิ่งขวัญกดข่มบาดแผลนั้นเอาไว้แล้วใช้ชีวิตโดยตั้งมั้นว่าจะเข้มแข็งขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องแบบนั้นอีก
โดยพื้นฐานแล้วมิ่งขวัญเป็นเด็กที่รู้จักเข็ดหลาบ...
เด็กหนุ่มสามารถปรับตัวเพื่อป้องกันความผิดพลาดซ้ำได้จนเกินพอดีด้วยเหตุนั้นเมื่อถูกสถานการณ์บีบบังคับมิ่งขวัญก็จะทำลายตัวตนเดิมแล้วกลายเป็นคนใหม่
ในวัยเด็กเพราะทำตัวอ่อนแอเลยถูกแกล้งพอเข้าใจถึงเรื่องนี้วันต่อมาเขาก็กลายเป็นคนใหม่ที่ไม่ยอมให้ใครมารังแก
พอทำแบบนั้นมากๆ
เข้าก็กลายเป็นเด็กเกเรจึงถูกต่อว่าแล้ววันต่อมาเขาก็กลายเป็นคนใหม่ที่คอยปกป้องคนอ่อนแอคนอื่นในห้อง
แต่มันก็ทำให้เขากลายเป็นคนโดดเดี่ยวไปเพราะทุกคนเข้าใจว่ามันเป็นแค่การเสแสร้งทำตัวเป็นฮีโร่เพื่อให้คนอื่นยอมรับ
มิ่งขวัญเข้าใจสาเหตุและเปลี่ยนแปลงตัวเองในวันถัดมา
'เธอปรับตัวและพัฒนาได้รวดเร็วเกินไปจะเรียกว่านี่คืออุดมคติของการก้าวเดินไปข้างหน้าในแบบที่เหล่าแอดมินิสเทรเตอร์ต้องการก็ว่าได้'
ชายผู้เรียกตัวเองว่าผู้ถูกลืมเลือนได้กล่าวคำพูดเช่นนั้นเอาไว้ในความฝันหลายครั้งที่ได้เจอกัน
ณ ห้องเก่าโทรมแห่งนั้น
มิ่งขวัญดำเนินชีวิตเหมือนเกิดเป็นคนใหม่อยู่ทุกวันแต่สังคมของมนุษย์มันจมปรักอยู่กับที่การเปลี่ยนแปลงจึงไม่รุนแรงนักจนกระทั่ง...
โลกได้ล่มสลายลง
ในโลกที่ไม่มีสังคมไม่มีกฎเกณฑ์
มนุษย์จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและมิ่งขวัญก็ก้าวรุดหน้าเกินไปมาก
หลังจากอิงศรเกือบตายเพราะตนเป็นสาเหตุ
มิ่งขวัญก็ทำลายอัตตาตัวตนเดิมที่ขี้ขลาดและอ่อนแอในโลกที่ล่มสลายทิ้งไปแล้วกลายเป็นคนใหม่
คนที่เข้มแข็งและมีความกล้าที่จะบุกตะลุยกับทุกอย่างกลายเป็นคนที่เหมาะสมกับยุคสมัยอันโหดร้าย
บ้าบิ่นพอจะแลกชีวิตเพื่อปกป้องเหล่าคนสำคัญที่เรียกว่าครอบครัว
แต่มนุษย์ต่างดาวก็บุกมาและทำลายอัตตาตัวตนที่เข้มแข็งนั่นจนไม่เหลือชิ้นดี
เมื่อเจอกับพลังมหาศาลเหนือจินตนาการในโลกเก่า
อัตตาตัวตนใดๆ ของมนุษย์ไม่อาจตอบสนองความปรารถนาที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้
เว้นเสียแต่คำตอบเพียงคำตอบเดียวนั่นก็คือ...
'เลิกเป็นมนุษย์ไปซะ'
แล้วมิ่งขวัญก็กลายเป็นมนุษย์ต่างดาวแม้จะไม่ต้องการแต่ภายในจิตใจลึกๆ
แล้วเขารู้สึกว่าต้องการพลังมากกว่านี้เพื่อที่จะได้ปกป้องอิงศรที่ถูกพรากจากไป
แต่หากจะแข็งแกร่งขึ้นก็จำเป็นต้อวละทิ้งความเป็นมนุษย์ไปแล้วความกลัวที่ว่าตนอาจจะไม่เหลือใครอีกเลยแม้แต่อิงศรก็อาจจะรัวเกียจที่เขาไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้วก็ได้ขัดขวางไม่ให้ละทิ้งความเป็นมนุษย์ไป
สามปีที่ผ่านมามิ่งขวัญอยู่เพื่อปรับตัวให้รับกับความปรารถนาอันสิ้นหวัง
ยืนอยู่บนเชือกเส้นเดียวที่แบ่งแยกระหว่างความปรารถนากับความปรารถนาอีกอย่าง
เพื่อไม่ให้จิตใจต้องรับภาระหนักจนเกินไปจึงได้ปิดผนึกความทรงจำอันเลวร้ายแล้วเหลือไว้แค่เหตุผลในการมีชีวิตด้วยเหตุนั้นครั้งแรกที่ได้พบกับฟูจึงไม่สามารถนึกออกได้ว่าเป็นใครแม้จะได้พบกับมิกซ์อีกคนก็ตามแต่ที่รู้ก็มีแค่ว่า...
'เรารู้จักคนพวกนี้'
รู้อยู่เพียงแค่นั้นจริงๆ
จนกระทั่งการปรากฏตัวของเด็กสาวที่ใช้ชื่อว่าพลอยกับคู่เด็กชายหญิงที่มากับเธอ
มิ่งขวัญมองไปที่เด็กคู้นั้นแล้วพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว
"เน็กซ์...นิว...อึก"
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่มิ่งขวัญได้แต่ย้ำถามตัวเองแบบนั้น
อยู่ๆ
ก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาเหมือนหัวใจถูกบีบอย่างแรงจนแทบแหลกสลาย
ในหัวเริ่มมีภาพที่คุ้นตาซ้อนทับลงบนร่างของเด็กหนุ่มสาวเหล่านั้น
บาดแผลในอดีตกำลังหวนกลับมา
หยาดน้ำตาไหลรินอย่างควบคุมไม่ได้
มิ่งขวัญพูดชื่อของครอบครัวที่น่าจะตายไปแล้วแต่กลับมายืนอยู่ต่อหน้า
"ฟู มิกซ์ พลอย
เน็กซ์ นิว"
แต่จิตสำนึกด้านเหตุผลกำลังต่อต้านความเป็นจริง
"ทุกคน...ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ"
พลอยเป็นคนที่ตอบคำถามนั้นด้วยคำพูดทิ่มแทงหัวใจ
"ใช่พวกเราตายไปแล้วเพราะขวัญใช้พวกเราเป็นโล่ให้ตัวเองรอดตายไงล่ะ"
จู่ๆ
ภาพที่มองเห็นก็เหมือนถูกย้อมเป็นสีแดง จมูกก็ได้กลิ่นคาวเลือดทั้งที่มันไม่มีอยู่ตรงนี้
เด็กหนุ่มรู้สึกมึนหัวอย่างแรงราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังหมุนเหวี่ยงไปมาจนเผลอก้มหน้าลงแล้วเขาก็เห็นสิ่งที่ไม่น่าจะมีอยู่ที่นี่
ศพของครอบครัวที่ถูกมนุษย์ต่างดาวฆ่าตายในวันนั้นกำลังจับขาของเขาอยู่
"เหวอ!!"
มิ่งขวัญกรีดร้องและสะบัดขาเพื่อมือเหล่านั้นหลุดออกแต่ก็เสียหลักจนล้มก้นคะมำพื้นไปด้วย
ซากศพเหล่านั้นยังคงคืบคลานเข้ามาหา
มิ่งขวัญร้องอย่างหวาดผวาเขากวาดมือเพื่อดันให้ร่างถอยห่างออกจากศพ
"อย่าทำร้ายขวัญนะ!"
เสียงของมิกซ์ดังขึ้นจากนั้นก็มีเสียงปืนตามมา
ศพที่อยู่บนพื้นถูกยิงแล้วจึงสลายเป็นควันไอ
มิ่งขวัญได้สติคืนมาอีกครั้ง
ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นภาพหลอนจากความรู้สึกผิดในจิตใจมันควรจะเป็นอย่างนั้น
แต่ทว่า...
"นี่มันตัวอะไรเนี่ย"
กวินทร์ก็ช่วยพูดความรู้สึกในใจออกมาให้แล้ว
พวกซากศพที่ยังเหลืออยู่เริ่มเคลื่อนไหวอีกพอมองดูดีๆ
แล้ว
เจ้าพวกนี้ก็ไม่ได้มีหน้าตาเหมือนเหล่าครอยครวเลยซักนิดเดียว
ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ก็คงเป็นภาพลวงตาที่เจ้าพวกนี้สร้างขึ้น
มิกซ์ตอบคำถามเมื่อครู่ให้
"พวกมันคือปีศาจที่อวโลกิตะส่งมาน่ะ"
แต่มือที่จับปืนของเด็กหนุ่มกลับสั่นเหมือนคนเป็นไข้
"แย่ล่ะ
พวกนายระวังกระสุนนะผมเริ่มต้านคำสั่งไม่ไหวแล้ว...อึก"
มิกซ์พูดโดยที่มือค่อยๆ
ยกปืนเล็งมาที่พวกเขาบางทีคงจะถูกควบคุมโดยใครซักคน
ปืนของมิกซ์ลั่นเสียงปะทุกระสุนดังสะท้อนก้องกังวานไปทั่วทั้งห้องโถงแต่มิ่งขวัญเอี้ยวตัวหลบทันเพราะได้รับคำเตือนก่อนขณะเดียวกันฟูก็เริ่มออกอาการด้วย
"เหวอ
คราวนี้ตาฉันแล้วพวกนายหลบกันให้ดีๆ นะเว้ย!!"
เด็กหนุ่มพูดด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะฝืนออกแรงต้านร่างกายตัวเองเต็มที่แต่มือกลับยังยกค้อนขึ้นขาก้าวเข้าหา
หลังจากนั้นฟูก็พุ่งเข้ามาแต่เหมือนถูกค้อนลากตามมามากกว่าเพราะขาของหมอนั่นลอยไม่ติดพื้น
ปลายค้อนเล็งทุบใส่กวินทร์แต่เขาหลบมันได้ค้อนจึงฟาดลงที่พื้นห้องทำให้มันยุบตัวแตกในทันที
ต่อจากนั้นการโจมตีของกลุ่มพลอยก็เริ่มขึ้น
เน็กซ์
เด็กชายผู้มีเส้นผมสีดำสั้นเกือบเกรียนใบหน้าเยาว์วัยแต่สีหน้ากลับเรียบเฉยราวกับหุ่นเชิดซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการถูกควบคุมเหมือนกับฟูและมิกซ์
เน็กซ์เริ่มควงไม้เท้าพร้อมกับร่ายสกิล
"มหาวาโย"
อากาศรอบตัวเด็กชายเกิดการแปรปรวนกะทันหันเกิดสายลมรุนแรงพัดโกรกล้อมรอบแล้วเมื่อเน็กซ์สะบัดไม้เท้าที่ควง
สายลมเหล่านั้นก็แผ่พุ่งออกมาอย่างรุนแรง
สายลมเสียดสีกับอากาศเกิดเป็นคมมีดอากาศนับร้อยเล่ม
มีดล่องหนที่มองไม่เห็นซัดกระหน่ำปูพรมมาทางด้านหน้ายากจะหลบได้แต่ว่าแบบนี้...
“แบบนี้จะโดนพวกเดียวกันไปด้วยนะ!”
มิกซ์ตะโกน
“เอาน่าเดี๋ยวค่อยรักษาก็ได้เนอะ”
ตอนที่ได้ยินพลอยตอบมาอย่างนั้นมิ่งขวัญก็เข้าใจได้แล้วว่าควรจะทำอะไรในตอนนี้
มิ่งขวัญร่ายสกิลพร้อมกับเอื้อมมือซ้ายไปข้างหน้า
“โปรโตชิลด์!”
[Proto
Shield Lv(4/4)
Element:
Light
Attribute:
Buffs, Enhance, Item, Shield
(Cast
Cost) สวมใส่ไอเทม Shield; สร้างบาเรียที่จะลดทอนความเสียหายให้ครึ่งหนึ่งตอนที่ร่ายสกิลนี้ออกมาเป็นเวลา
2 วินาที
จากนั้นได้รับบัพ Def + 100 , Special Def + 50; ห่อหุ้มโล่ด้วยแสงแห่งวิทยาการจงกรุยทางสู่อนาคต]
กำแพงแสงขยายตัวกว้างประมาณหนึ่งช่วยป้องกันคมดาบสายลมให้กับทุกคนแต่กำแพงแสงไม่ได้ทำให้คมมีดหายไปหรือสะท้อนแต่ทำให้มันมีขนาดเล็กลงและช้าลงพอถูกปะทะจึงเกิดแค่รอยถลอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สองวินาทีหลังจากนั้นกำแพงแสงก็ยุบตัวเข้ามาห่อหุ้มโล่และเพิ่มค่าพลังกับแสดงเป็นสถานะขึ้นบนแถบพลังชีวิต
มิ่งขวัญ Lv. 90 (Proto Shield)
[/////16000:16000/////]
ตอนนี้พลังป้องกันของมิ่งขวัญเพิ่มขึ้นแถมยังลดทอนความเสียหายลงไปได้มากดูเหมือนฝ่ายเขายังคงได้เปรียบอยู่ตแตอนนี้มันมีเรื่องที่ควรจะแก้ให้ตกเสียก่อน
เน็กซ์ใช้สกิลได้...
ทั้งที่ตอนนี้ระบบของเกมถูกหยุดเอาไว้และมีแต่เขากับอิงศรเท่านั้นที่ใช้สกิลได้มันควรจะเป็นอย่างนั้น
“ทำไมถึงใช้สกิลได้ล่ะ”
ไทเทเนียมที่ยืนอยู่ข้างหลังพูดขึ้นด้วยความสงสัย
มิกซ์เป็นคนที่ตอบคำถามนั้นให้
“ปลอกคอที่พวกเราสวมอยู่ได้พลังจากอวโลกิตะทำให้ยังใช้สกิลได้น่ะแต่ว่าระบบพลังชีวิตยังคงไม่ทำงานอยู่ดี”
ไม่รู้ว่าทำไมถึงยอมตอบคำถามให้คนแปลกหน้าอย่างไทเทเนียมแต่ข้อมูลที่บอกมาก็ทำให้รู้แล้วว่าทำไม
อารย-สนธยา ถึงกล้าหยุดระบบของเกมโดยที่ไม่กลัวผลกระทบต่อพวกตัวเองด้วย
ตอนนั้นเองนิวก็ทำเสียงจุ๊ๆ
แทรกเข้ามา
“ไม่ดีเลยนะคะพี่มิกซ์ไปบอกข้อมูลให้ศัตรูได้ไง”
ฟูแย้งคำพูดนั้นกลับไปว่า
“ศัตรูอะไรกันเล่า
นิวนี่ขวัญนะจำไม่ได้รึไง!”
แต่เด็กหญิงผู้มีทรงผมสีดำหยิกหยักศกใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักไร้เดียงสาแต่กลับมีรอยยิ้มที่เย็นชาราวกับนางมารก็ตอบกลับมาว่า
“พี่ฟูก็ทำตัวไม่ดีเหมือนกัน
ดื้อๆ แบบนี้เดี๋ยวหม่าม๊าอวโลกิตะโกรธเอาไม่รู้ด้วยนะคะ”
แล้วนิวก็ปรายยิ้มอย่างชั่วร้ายพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นแล้วเริ่มละเลงขยับนิ้วไปมาราวกับกำลังชักใยอะไรบางอย่าง...
“เหล่าตุ๊กตาของหนูจงเริงระบำ…”
แต่มองเห็นเส้นใยแล้ว...
มิ่งขวัญมองเห็นเส้นใยโยงออกจากนิ้วมือของเด็กหญิงโยงมาที่
ร่างของฟู...
ร่างของมิกซ์...
นิวกระชากเส้นใยเหล่านั้นแล้วเริ่มใส่ท่วงท่าในการชักเชิดร่างของผู้ที่ถือเป็นพี่ชายทั้งสองคนของเธอด้วยใบหน้าสนุกสนาน
“พับเพ็ทแดนซ์!”
สกิลถูกร่ายออกมาแล้วแต่เหมือนจะยังไม่เกิดอะไรขึ้นแม้แต่ฟูกับมิกซ์เองก็เหมือนจะยังไม่รู้ว่าร่างของตัวเองถูกผูกมัดด้วยเส้นใย
แล้วตอนที่กำลังคิดว่ามันกำลังจะเกิดอะไรขึ้นนั่นเอง
“ขวัญระวัง!”
เสียงตะโกนของฟูก็ดังขึ้น
มิ่งขวัญหันไปเพราะคิดว่าฟูคงจะถูกควบคุมให้โจมตีเหมือนทุกทีแต่ทว่าการเคลื่อนไหวกลับรวดเร็วขึ้นผิดกับก่อนหน้านี้ลิบลับเป็นความเร็วขนาดที่เขาเองก็ยังหลบไม่ทันจนต้องใช้โล่รับเอาไว้
ค้อนปะทะเข้ากับโล่เสียงโลหะแหลมสูงกรีดร้องก้องกังวาน
แรงะทะมหาศาลส่งผ่านโล่มาจนรู้สึกเหมือนแขนจะหักไปทั้งยวง
ร่างของมิ่งขวัญลอยกระเด็นไปไกลแต่ก็พลิกตัวกลางอากาศและลงพื้นได้อย่างปลอดภัย
แต่แขนซ้ายก็แทบใช้การไม่ได้อีกแล้ว
มิ่งขวัญ Lv. 90 (Proto Shield)
[/////12440:16000//...]
“ขนาดมีบัพจากโปรโตชิลด์ยัง...อีก”
มิ่งขวัญมองแขนซ้ายตัวเองที่ตอนนี้ห้อยต่องแต่งไปมาโดยที่ควบคุมไม่ได้กระดูกภายในคงแตกละเอียดหมด
กวินทร์ที่เห็นแบบนั้นก็หน้าเสียพลางพูดขึ้นว่า
“นี่เร็วขึ้นกว่าเมื่อกี้อีกไม่ใช่เหรอเนี่ย”
“พับเพ็ตแดนซ์ไงล่ะ
มันคือสกิลของบิลด์คลาสมาริโอเน็ตต้าที่เป็นสายหนึ่งของอาชีพสเปลเลอร์เป็นสกิลที่จะทำให้ควบคุมการเคลื่อนไหวของพวกเดียวกันได้และทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นแต่ขอบเขตการเคลื่อนไหวก็จะลดลงแล้วถ้าผู้ใช้ตอบสนองได้ไม่ดีสกิลนี้ก็จะกลายเป็นขุดหลุมฝังตัวเอง”
ไทเทเนียมเป็นคนตอบข้อสงสัยอย่างละเอียด
หล่อนรอบรู้สกิลมากถึงเพียงนั้น
พลอยมองมาที่ไทเทเนียมแล้วพูด
"รู้ดีเหมือนกันนะแล้วจะรู้จักสิ่งนี้ด้วยรึเปล่าน้า~"
จากนั้นก็ตั้งไม้คฑาขึ้นโดยจับที่คอไม้ใต้หัวที่ประดับด้วยหยกก้อนแล้วใช้มือรูดตั้งแต่ตรงนั้นไปจนถึงปลายพลางร่ายสกิล
"เทคนิคัลเวพ่อน"
เมื่อสกิลทำงานตั้งแต่ส่วนกลางไปจนปลายไม้คฑาก็เปล่งแสงออกมา
มันยืดตัวยาวและขยายออกกลายเป็นใบดาบสีดำสนิทส่วนลำคอไม้ที่จับเอาไว้ตอนแรกก็กลายเป็นด้ามจับไป
"เมื่อเอื้อนเอ่ยถึงจุดจบเจ้าจะได้รับการชำระจากบาป
นี่คือบทเพลงส่งวิญญาณแห่งไฟชำระ ดาบมารแห่งการสูญสิ้นเพิร์กเรเควี่ยม! (Purge Requiem)"
พลอยตวัดดาบนั่นออกแล้วจับด้วยสองมือแทน
ดาบมารส่งเสียงกรีดร้องเป็นเสียงโหยหวนน่าสยดสยอง
ไทเทเนียมถลึงตาจ้องมองดาบสีดำนั่นด้วยอาการตกใจ
"ดาบนั่นคือเพิร์กเรเควี่ยมงั้นเหรอ!"
แล้วพูดมาแบบนั้น
ด้วยความสงสัยจนลืมไปว่านั่นคือไทเทเนียมแต่จนแล้วจนรอดกวินทร์ก็พูดกับหล่อน
เขาถามไปว่า
"ดาบนั่นมันทำไมเหรอ?"
"เคยได้ยินมาว่ามีไอเทมอัลติเมทแรร์ที่ใช้กับสกิลเทคนิคัลเวพ่อนอยู่กลุ่มหนึ่งจะทำให้ได้รับสกิลที่ไม่สามารถหาซื้อมาได้ตามปกติน่ะ
ถ้านั่นคือเพิร์กเรเควี่ยมจริงเดี๋ยวก็คงจะได้เห็นของแปลกแน่ๆ"
ไทเทเนียมตอบ
"ถูกต้อง"
พลอยพูดแทรก
"แล้วก็จงดูให้เต็มตาซะนี่แหละพลังของเพลิงแห่งไฟชำระ"
เด็กสาวประกาศกร้าวพร้อมๆ
กับชูดาบมารขึ้นไป
เพลิงไฟสีดำลุกโชนห่อหุ้มใบดาบแล้วเสียงกรีดร้องก็ยิ่งทวีความดังของมันจนบาดลึกเข้าไปถึงโสตประสาทแต่ไม่นานนักมันก็หยุดกรีดร้อง
"จัดการเลยนิว"
พลอยหันไปสั่งน้องสาวที่ยืนอยู่เคียงข้าง
นิวพยักหน้ารับคำสั่งนั้นแล้วเริ่มละเลงนิ้วที่กำลังชักเชิดเหล่าพี่ชาย
"ซิลูเอ็ดแดนซ์"
พลางร่ายสกิลแล้วจึงกระชากเส้นใยอย่างแรงดึงเอาบางอย่างออกจากร่างของฟูและมิกซ์
เงาของทั้งสองคนนั่นถูกดึงให้มีตัวตนขึ้นมาภายใต้กันชักเชิดของนิว
"อึก...ทำไมทำแบบนี้ล่ะนิว"
ฟูพูดขณะที่ล้มลงอย่างไร้เรี่ยวแรงซึ่งมิกซ์ก็ออกอาการเช่นเดียวกัน
"อยู่ๆ
แรงก็...หายไป...หมด"
นิวพูดตอบโต้กับเหล่าพี่ชายของเธอว่า
"ไม่ต้องห่วงค่ะซิลูเอ็ดแดนซ์แค่แบ่งพลังชีวิตพวกพี่ๆ
มาเท่านั้นเองนี่ก็เพื่อให้พี่พลอยมีเครื่องสังเวยที่เหมาะสม"
“ขอบใจจ้ะ”
พลอยพูดแล้วเดินเข้าไปหาร่างเงาที่ถูกกระชากออกมาเงื้อดาบขึ้นแล้วฟันลงไป
“ดาร์คแซคริไฟซ์ (Dark
Sacrifice)”
ดาบสะบั้นคอเงาขาดอย่างง่ายดายทำให้พวกมันสลายไป
จากนั้นลูกไฟยูนิทสีดำทมิฬก็ลอยออกมาจากดาบมารด้วยกันถึงสี่ลูก
“ฟู
มิกซ์เมื่อกี้ตอนที่โดนสกิลของเน็กซ์ยังเจ็บอยู่สินะแถมโดนดึงเงาออกมาด้วยเพราะงั้นจะฟื้นพลังให้”
พลอยพูดขณะเดียวกันก็ปักดาบลงบนพื้น
“จ่ายหนึ่งยูนิทร่ายดาร์คฮีล!”
[Dark
Heal Lv(2/2)
Element:
Dark
Attribute:
Heal, Technical, Special Attack, Awakening
(Cast
Cost) 1 Awakening
Black Unit; ฟื้นฟูพลังชีวิตแก่เป้าหมายรอบตัวด้วยพลังแห่งความมืดแต่จะสร้างความเสียหายให้กับธาตุแสงแทน]
หลังจากร่ายสกิลแล้วลูกไฟยูนิทลูกหนึ่งก็ถูกสูบเข้าไปในดาบ
ออร่าสีดำแพร่กระจายจากดาบปกคลุมอาณาบริเวณโดยรอบ
ไม่เพียงแต่ฟูกับมิกซ์ที่ถูกออร่านั่นช่วยสมานบาดแผลให้แต่กวินทร์กับไทเทเนียมก็ได้รับผลของการฟื้นฟูเช่นกัน
แต่มิ่งขวัญกลับแผดเสียงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมาน
“อ๊ากกก!!”
ร่างของเด็กหนุ่มกำลังถูกไฟดำแผดเผา
มิ่งขวัญ Lv. 90 (Proto Shield)
[////.9120:16000.....]
***สำหรับวันนี้อาจจะน้อยไปหน่อยเพราะโดนตอนที่แล้วดูดหน้าไปบานเบอะเลยครับ
ทีแรกสกิลในตอนนี้ตั้งใจจะแปะรายละเอียดหมดทุกสกิลไปๆมาๆ ตัดเหลือแค่นี้พอเพราะมันทำให้หน้าบวมโดยไม่จำเป็นไปครับ(=w=') พวกสกิลที่แค่บรรยายผลก็เข้าใจสกิลได้แล้วเลยตัดรายละเอียดทิ้งไปน่ะครับ
ไว้เจอกันใหม่วันจันทร์หน้าเน่อ***
ความคิดเห็น