ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #190 : Login 187: ความทรงจำที่ลืมเลือน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 177
      7
      2 ม.ค. 61

    Login 187: ความทรงจำที่ลืมเลือน

     

                กาลครั้งหนึ่งเคยเป็นมนุษย์

                เป็นสิงห์ ธุวดารกะ

                เป็นคนทรยศ

                เป็นราชามนุษย์ต่างดาว

                แล้วตอนนี้ก็เป็นแฟรนเซียม ผู้คิดต่อต้านคำสาปของผู้สร้างหรือแอดมินิสเทรเตอร์หรืออาจจะเรียกว่าพระเจ้าที่ได้สาปใส่มนุษย์เอาไว้

                คำสาปที่มีชื่อว่าชะตากรรม

                แล้วชะตากรรมที่ว่าก็กำลังจะสำเร็จโทษตนที่คิดต่อต้านอำนาจซึ่งไปควรไปเกี่ยวข้องด้วย

                แสงสว่างเจิดจ้า แสงแห่งการลงทัณฑ์ซึ่งเผาไหม้ทุกสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน

                ไฟชำระที่แอดมินิสเทรเตอร์ลูนาริสได้ทิ้งลงมายังสวนที่เรียกว่าโลกกำลังแผ่ขยายและเคลื่อนเข้ามาหาเขาที่ไม่สามารถขยับตัวได้

                “บ้าเอ้ย

                ทำได้แค่สบถอย่างเจ็บใจเท่านั้น ก่อนหน้านี้เป็นเพราะพลังกดดันของแอดมินิสเทรเตอร์ที่กดร่างกายทุกคนบนชายหาดให้นอนฟุบดินอยู่แบบนี้ แต่ตอนนี้แรงที่ว่าหายไปแล้วเพราะแอดมินิสเทรเตอร์ไม่ได้อยู่ที่นี่ คงจะกลับไปยังสรวงสวรรค์ที่เรียกว่า อาคาชิกแซงทัวรี่สถานที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเซิฟเวอร์ส่วนกลางซึ่งควบคุมโลกเอาไว้

                แต่ถึงแม้จะไม่มีแรงกดดันนั่นแล้วเขาก็ยังลุกไม่ไหว เป็นเพราะบาดเจ็บหนักจากที่ถูกดึงฟันเฟืองออกไปจากร่างตำแหน่งของฟันเฟืองที่ถูกดึงออกไปคือตรงบริเวณท้ายทอย การที่มันแหวกผิวหนังจนทะลุทำให้เลือดไหลออกมามาก เมื่อรวมกับที่เสียเลือดไปกับการใช้ดาบมังกรเทวะด้วยทำให้ในร่างกายแทบจะไม่มีเลือดเหลือมากพอให้รักษาชีวิตได้ถ้าหากเขายังเป็นมนุษย์ก็คงได้ขาดเลือดตายไปแล้วแต่สำหรับมนุษย์ต่างดาวที่แข็งแกร่งที่สุดมันเพียงแค่ทำให้ขยับตัวไม่ได้

                แต่นั่นก็ทำให้ถึงตายได้เหมือนกันหากไม่รีบหนีออกจากที่นี่จะต้องถูกไฟชำระนั้นคลอกจนกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอน

                ก่อนหน้านี้ไฟได้เคลื่อนเข้าหาอิงศรกับพรรคพวกก่อนแต่เจ้าพวกนั้นจู่ๆ ก็ถูกแสงห้อมล้อมแล้วหายตัวไป

                คงจะหนีไปแล้ว แฟรนเซียมคิดได้ว่านั้นคงจะเป็นฝีมือของซีเซียม

                แล้วในตอนนั้นเอง

                “สิงห์!

                เสียงของข้าวหลามดังขึ้นที่ข้างหูแต่ไม่รู้ว่าหมอนั่นมาอยู่ข้างๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่

                เขาอยากจะหันไปมองแต่ก็ทำไม่ได้ ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรงพอให้ทำแบบนั้น

                รู้สึกเหมือนถูกยัดอะไรเข้ามาในมือ

                “ท่านสิงห์ขออภัยค่ะ

                เสียงนั่นฟังดูเหมือนวิเชียรมาศ แต่น้ำเสียงแหบต่ำเสียเหลือเกิน ฟังดูเหมือนกับเสียงของงู

                จากนั้นร่างกายของเขาก็ถูกจับยกขึ้น ภาพทิวทัศน์เปลี่ยนเป็นมองข้างล่างจากมุมสูง

                เขาเห็นข้าวหลามกับวิเชียรมาศที่กลายเป็นงูยักษ์กำลังมองขึ้นมา

                พวกมนุษย์ต่างดาวบางส่วนที่กำลังคลานหนีแสงไฟชำระกันสุดชีวิต แต่ไม่เห็นรูบิเดียม ยัยนั่นคงจะชิงถอยไปก่อนตั้งแต่ตอนที่เห็นเค้าลางว่าแอดมินิสเทรเตอร์จะปรากฏตัว

                ถ้าอย่างนั้นทุกคนที่ยังอยู่ที่นี่ก็ไม่มีใครรอดกันหรอกถึงจะจับเขาเหวี่ยงขึ้นมาข้างบนนี่ก็คิดว่าคงตั้งใจให้ลอยออกห่างจากไฟ แต่ว่าไฟนั่นก็เคลื่อนที่ไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว มันกลืนข้าวหลามกับวิเชียรมาศ

                กลืนพวกมนุษย์ต่างดาว

                กลืนชายหาด

                กลืนทะเล

                กลืนทุกสิ่งอย่างแปรเปลี่ยนมันเป็นเถ้าธุลีสีขาวบริสุทธิ์

                ยกเว้นเขา

                ในตอนสุดท้ายของความทรงจำ แสงสว่างห้อมล้อมตัวเขาจากนั้นสติก็ขาดหายไปกลางคัน

     

                “…”

                แล้วตื่นขึ้นมาที่ไหนซักแห่ง

                บนเนินสูงหรืออาจจะเป็นไหล่ภูเขาที่ไหนซักแห่งบนเกาะกลางทะเลที่ห่างไกล

                เขามาอยู่ที่นี่เพียงลำพัง สาเหตุคงจะเป็นเพราะสิ่งที่ข้าวหลามยัดใส่มือเขามา

                หลังจากได้พักซักเล็กน้อยก็มีแรวพอจะขยับตัวได้ สิ่งแรกที่แฟรนเซียมทำคือเอาของที่ข้าวหลามยัดใส่มือขึ้นมาดู

                กระดาษแผ่นเล็กสีขาวแบบเดียวกับที่พวกอิงศรรับแจกมาจากซีลอร์ดกับซีเซียม

                เจ้านี่คงจะเป็นไอเท็มสำหรับทำการเคลื่อนย้ายฉุกเฉิน

                “…”

                แฟรนเซียมขยำกระดาษแผ่นนั้น กำมือจนแน่นซีดเป็นสีขาว

                จากนั้นจึงลุกขึ้น กวาดตามองไปรอบๆ จนกระทั่งไปสะดุดกับจุดหนึ่งของท้องฟ้าที่มีแสงสีขาวตีเป็นเส้นตัดลงมาราวกับจะแบ่งผืนฟ้าออกเป็นสองซีก

                ที่นั่นคือที่ๆ เราจากมาสินะ

                เขาบอกกับตัวอย่างนั้นแล้วกระโดดลงไปจากเนิน

                วิ่งตะลุยป่าที่อยู่ด้านล่างของภูเขา ฝ่าไปจนถึงชายหาด

                แค่ทะเลยังหยุดเขาไม่ได้ แฟรนเซียมวิ่งไปบนผิวน้ำด้วยความเร็วสูง มุ่งหน้ากลับไปยังสนามรบ

                เจ้าพวกนั้น

                แล้วนั่นก็เป็นช่วงเวลาก่อนที่อิงศรจะฟื้นจากหมดสติจนกระทั่งผ่านการต่อสู้กับจ่าฝูงสัตว์เทวะ

               

                หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปสามวัน

                มีนาที่มีอาการสูญเสียความทรงจำ ที่จริงหล่อนเป็นมากกว่านั้น อาการหนักถึงขั้นความจำในปัจจุบันเสื่อมทันทีที่เวลาผ่านไปไม่ถึงห้านาที

                มิ่งขวัญไม่ได้อยู่เฝ้าอาการหล่อนร่วมกับทุกคนแต่ออกมาหาเสบียงด้วยกันกับกวินทร์สองคนเท่านั้น

                ที่จริงก็ยังมีฟูกับมิกซ์ที่ออกมาหาเสบียงพร้อมกันแต่แยกไปหาในป่าบนภูเขาแล้วก็ตักน้ำดื่นที่ลำธารข้างบน ดังนั้นเขากับกวินทร์จึงออกมาหาปลาที่ทะเล

                ที่เขตน้ำตื้นหน้าชายหาดโดยที่ใส่มาแค่กางเกงว่ายน้ำซึ่งยืมอิงศรมาแล้วพกแต่อาวุธลงมายืนในน้ำที่สูงแค่หน้าอก ดูเหมือนจะเป้นของที่ผลิตขึ้นใช้ในกองทัพของเมตไตรย เพราะกวินทร์ก็มีอยู่ตัวหนึ่งเหมือนกัน

                ขวัญมันกระโดดไปทางนั้นแล้ว!”

                ให้ถูกคือมาล่าสัตว์เทวะเพื่อเอาไอเท็มอาหารจากพวกมัน ที่เบื้องหน้าตอนนี้งูทะเลขนาดเท่าเสาไฟฟ้ากำลังโก่งคอเงื้อเขี้ยวพุ่งลงมา

                มิ่งขวัญไม่มีท่าทีตกใจ เด็กหนุ่มเพียงแค่จ้องมองสัตว์เทวะนั่นด้วยสายตาเหม่อลอยครุ่นคิด

                เขาครุ่นคิดถึงเรื่องของมีนาที่เป็นหนึ่งในพวกพ้องของพี่ชาย

                อิงศรบอกว่าเธอเป็นอัลไซเมอร์ซึ่งมีผลมาจากที่ขึ้นไปขับเครื่องทำสวนซีเซียมก็ยืนยันแบบนั้น แต่ว่าเขากับอิงศรก็ขึ้นไปขับมาเหมือนกันทำไมถึงไม่เป็นอะไรเลย

                หรือว่าอาการยังไม่แสดงกันนะ

                มิ่งขวัญเอาแต่ครุ่นคิดด้วยความกังวลว่าตนกับพี่อาจจะได้รับผลกระทบมาเหมือนกัน ไม่ได้กำลังเป็นห่วงพวกพ้องของพี่ชายที่ไม่ได้รู้จักเลย

                เขี้ยวของงูทะเลเข้ามาถึงระยะดาบพอดี มิ่งขวัญตวัดเรเปียด้วยความเร็วระดับมนุษย์ต่างดาวชั้นครู

                หัวของงูทะเลลอยกระเด็นขึ้นไปตกบนชายหาด ของเหลวสีเขียวข้นพุ่งออกมาจากรอยของร่างที่โดนตัดหัว มิ่งขวัญยกโล่ขึ้นกำบัง ของเหลวสีเขียวจึงรดใส่โล่ดำของเขา เกิดเสียงเดือดดังฉู่ฉ่า หยดของเหลวที่ไหลลงลงในน้ำทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย คิดว่าคงไม่มีพิษหรือไม่ก็กางเกงว่ายน้ำที่ยืมอิงศรมาช่วยป้องกันพิษให้เห็นอวดสรรพคุณมาว่ามีความสามารถป้องกันพิเศษที่สูงมาก

                ยังสุดยอดเหมือนเดิมเลยนะขวัญ

                กวินทร์วิ่งลุยน้ำเข้ามา เมื่อย่างเท้ามาถึงจุดที่ของเหลวสีเขียวละลายผสมอยู่ก็หยุดฝีเท้าไปดื้อๆ

                โอ๊ะๆๆ

                แล้วทำท่ายกแข้งยกขาถอยหลังกลับไป

                แน่นอนว่าน้ำบริเวณนี้ร้อนจัดเหมือนกับอยู่ในหม้อต้มแต่สำหรับเขาที่เป็นมนุษย์ต่างดาวผิวคงหนาเกินไปจนรู้สึกเหมือนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำอุ่นมากกว่า

                ไม่นานนักของเหลวสีเขียวก็ระเหยไป ที่จริงมันเหมือนกับเหือดหายไปเองมากกว่า

                ระบบของเกมได้ยืนยันว่าพวกเขาจัดการสัตว์เทวะลงแล้วจึงเปลี่ยนร่างกายกับของเหลวของมันเป็นไอเท็ม

                ห่อถุงผ้าซึ่งบรรจุของไม่ทราบชนิดกับเหรียญทองและขวดบรรจุยาจำนวนมาก ปรากฏออกมาหลังจากที่ร่างของสัตว์เทวะหายไป ของพวกนั้นไม่ไหลแล้วก็ไม่จมไปกับน้ำแต่ลอยอยู่ห่างจากผิวน้ำไม่กี่เซนติเมตร

                เข้ามา

                มิ่งขวัญยื่นมือไปสูบเอาไอเท็มเหล่านั้น ไอเท็มทั้งหมดจะถูกเก็บเข้าไปในคลังโดยอัตโนมัติ

                กวินทร์มองมาทางนี้แล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

                ยิ้มอะไรของนายน่ะ

                เปล่า... ก็แค่คิดว่ามันแปลกดีนะ

                อะไร

                ก็ผมน่ะตอนที่ได้ยินเรื่องของขวัญจากพี่ศรก็คิดมาตลอดว่าจะต้องเป็นเพื่อนกับขวัญให้ได้เลย

                แล้วไง คิดจะพูดเรื่องอะไรกันแน่

                หมอนี่มันแปลก...ตั้งแต่ตอนที่เจอกันที่วัดอารย-สนธยา ก็รู้สึกว่ากวินทร์ให้ความสนใจในตัวเขามากกว่าปกติ หรือจะบอกว่านั่นเพราะอยากจะเป็นเพื่อนแค่นั้นน่ะเหรอ

                ตอนแรกผมคิดว่ามันอาจจะต้องใช้เวลานานแล้วก็คงจะยากเย็นน่าดูเพราะครั้งแรกที่พวกเราเจอกันก็หันดาบเข้าหากันเลยนี่นา

                ครั้งแรกที่เจอกันตอนนั้น ไม่ใช่แค่กวินทร์แต่ เมษา มีนา นรินทร์ แล้วก็ศร ที่ยังไม่รู้ว่าเขาได้กลายเป็นมนุษย์ต่างดาวไปนั้นต่างก็เข้าห้ำหั่นกัน

                ตัวเขาที่ตั้งใจแค่จะไปช่วยศรออกมาจากเมตไตรย คิดแค่ว่าช่วยพี่ชายออกมาแล้วจะหนีไปด้วยกันแค่สองคนพี่น้อง ตอนนี้กลับมายืนแช่น้ำกับเพื่อน แล้วก็ยังมีพวกพ้องที่ฝากท้องรอเสบียงอีกเป็นสิบ อยู่ที่รีสอร์ทร้างบนเกาะข้างหลัง

                ดูเหมือนซีเซียมจะเลือกเป้าในการเคลื่อนย้ายตอนที่หนีตายจากการลงทัณฑ์ของแอดมินิสเทรเตอร์เป็นที่นี่โดยเล็งเรื่องที่พักอาศัยกับการหาอาการเอาไว้แต่แรก

                แต่แล้วก็มีเรื่องนู้นเรื่องนี้เกิดขึ้นเยอะแยะไปหมดรู้ตัวอีกทีเราสองคนก็กลายเป็นเพื่อนกันไปซะแล้ว

                ...จู่ๆ พูดอะไรของนายฟระ

                มิ่งขวัญรู้สึกว่าใบหน้าตัวเองแดงขึ้นมาเล็กน้อยจึงหลบหน้า ทั้งที่คนที่พูดประโยคหน้าอายพรรค์นั้นอย่างกวินทร์ต่างหากที่ควรจะรู้สึกเขินแบบนี้

                ช่างเหอะรีบไปล่าตัวต่อไปได้แล้วศรบอกว่าคืนนี้จะจัดงานสำคัญด้วยให้ฃ่ามาเยอะๆ นี่ก็เกือบเย็นแล้วขืนไม่รีบเดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก

                มิ่งขวัญพูดตัดบทแล้วเดินตัดหน้ากวินทร์ กะว่าจะมุ่งหน้าลงน้ำลึกไปหาพวกสัตว์เทวะที่ตัวใหญ่กว่านี้แล้วลงไปใต้น้ำกวินทร์จะได้เลิกพูดซะที

                แต่ ทว่า...

                ฮะฮะฮะ นี่นายเขินเหรอ!”

                กวินทร์กระโจนเข้ามารวบจากด้านหลัง

                อะ เฮ้ย อย่ามากอดกันสิเว้ยเดี๋ยวจม!!”

     

                @@@

     

                อิงศรเข็นรถเข็นอยู่บนระเบียงมทางเดินที่นำไปสู่ห้องพยาบาล

                รถเข็นซึ่งทำขึ้นโดยเอาเบาะจากโซฟากับรถเข็นมาประกอบกัน เป็นวัสดุที่หาได้จากภายในรีสอร์ทเก่าบนเกาะแห่งนี้

                ตั้งแต่มาที่นี่ก็ผ่านมาสามวัน ช่วงสามวันนั้นพวกเขาไม่ได้อยู่เฝ้าไข้มีนาเพียงอย่างเดียวแต่ฝึกฝนและเพิ่มเลเวลด้วยการล่าสัตว์เทวะมาประทังชีวิตไปด้วย

                เพียงแค่สามวันนี้นรินทร์กับเมษาที่เลเวลตามหลังก็รุดหน้าตามคนอื่นๆ ทัน ดูเหมือนซีเซียมที่เป็นคนเลือกปลายทางเป็นเกาะนี้จะตระเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมสรรพ

                สถานที่ที่เขาอยู่ตอนนี้คืออาคารหลักของรีสอร์ทที่มีล็อบบี้ต้อนรับลูกค้าไปจนถึงห้องพยาบาล

                มีนาอยู่ข้างหลังบานประตูห้องสีฟ้าบานนี้ เขาเปิดประตูแล้วจึงเข็นรถเข้าไป

                ภายในห้องเด็กสาวนอนหลับอยู่บนเตียงโดยที่มีเมษาคอยเฝ้าอยู่ข้างๆ แต่ดูเหมือนจะผล็อยหลับไปได้ซักพักแล้ว

                อิงศรมองภาพนั้นแล้วถอนหายใจ

                ต้องทำใจแข็งสินะเวลาแบบนี้จะมัวมารอคนถ่วงแข้งถ่วงขาไปมันก็ไม่ช่วยอะไร

                แล้วจอดรถเข็นที่ข้างเตียง อุ้มมีนาขึ้นมาจากเตียงโดยทำให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้หล่อนตื่น

                ตอนนี้ถ้าหล่อนตื่นก็จะเอาแต่ถามว่า

                ตัวเองเป็นใคร

                ที่นี่ที่ไหน

                คุณเป็นใคร

                วนซ้ำไปซ้ำมาพอตอบแล้วห้านาทีผ่านไปก็จะถามซ้ำอีก กระทั่งวิธีจะเดินหรือจะยืนหล่อนก็ลืมไปหมดแล้ว ดังนั้นจัดการให้เสร็จๆ ทั้งที่ยังหลับอยู่แบบนี้นั่นแหละดีที่สุด

                อิงศรวางมีนาลงบนรถเข็นแล้วเข็นออกจากห้อง ออกจากอาคารต้อนรับ เข็นผ่านทางเดินในป่าลงไปที่ชายหาดซึ่งไม่มีใครอยู่

                อะ

                มีนาตื่นขึ้นมาเพราะแรงกระแทกตอนที่เข็นรถข้ามท่อระบายน้ำที่ตัดขวางชายหาดกับทางเดิน

                เด็กสาวหันไปมาอย่างลนลานแต่พอหันไปทางชายหาดก็หยุดแล้วทำตาเคลิบเคลิ้มขึ้นมา

                พระอาทิตย์ตกสวยจังเลย

                แล้วพูดขึ้นมาแบบนั้น ทั้งที่อัลไซเมอร์จนแทบจะจำอะไรไม่ได้แล้วแต่ยังจดจำได้ว่าพระอาทิตย์ตกนั้นงดงาม

                ตอนนี้ก็เย็นมากแล้วควรจะรีบทำให้เสร็จๆ ไปก่อนที่ฟ้าจะมืด

                อิงศรจัดให้รถเข็นหันหน้าเข้าหาทะเลแล้วจึงเดินอ้อมรถเข็นออกไปยืนข้างหน้าโดยทิ้งระยะห่างพอสมควร

                คุณเป็นใครกันคะ

                มีนาเริ่มถามคำถามเดิมๆ ถ้าตอบไปเดี๋ยวเจ้าหล่อนก็ลืมอีก

                อิงศร

                แต่ถ้าไม่ตอบหล่อนก็จะเอาแต่ถามแล้วก็จะเกิดลนลานจนเสียเรื่องขึ้นมาอีก

                งั้นเหรอคะ

                แต่สามวินาทีถัดมาก็...

                คุณเป็นใครกันคะ

                ความเร็วในการอัลไซเมอร์มันเพิ่มขึ้นทุกวันๆ จากหน้านาทีเริ่มจะลดหลั่นลงมา โดยเฉพาะวันนี้ลดลงมาเหลือแค่หลักวินาทีไปแล้ว

                เธอไม่ต้องรู้หรอก

                เอ๋

                อิงศรชักปืนออกมาจากกระเป๋า เล็งไปที่มีนาซึ่งขยับตัวหนีไม่ได้

                ยินดีต้อนรับกลับมีนา

                ปัง! เสียงปืนดังกึกก้องแต่ก็ถูกลมทะเลพัดกลบไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×