ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apocalypse Online เกมโกงวันโลกาวินาศ

    ลำดับตอนที่ #141 : Login 138: การสัพยุทธหน้าพระเจดีย์ อารย-สนธยา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 255
      10
      11 ส.ค. 60

    Login 138: การสัพยุทธหน้าพระเจดีย์ อารย-สนธยา

               

                “แถวนี้ก็ยังมีคลื่นรบกวนอยู่ติดต่อกับพรรคพวกของดิฉันไม่ได้เลยค่ะ”

                โซเดียมพูดหลังจากพยายามติดต่อไปยังกองกำลังของตัวเองผ่านหน้าจอมาซักพักแล้ว

                ถึงตอนที่อยู่ในมิติของจอกศักดิ์สิทธิ์จะเคยสื่อสารระยะใกล้ๆ ได้ผลมาแล้วแต่พอออกมาข้างนอกกลับทำไม่ได้แม้แต่กับพวกพ้องในปาร์ตี้ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี่

                หน้าจอสื่อสารไม่มีสัญญาณตอบรับกับใครเลย

                อิงศรพยักหน้าให้คำพูดของราชครูสาวแล้วบอกผลการสื่อสารของทางตนกลับไปด้วย

                “ฉันเองก็เป็นห่วงเพื่อนอยู่เลยลองติดต่อไปแต่ก็ไม่ได้เหมือนกันคงจะเป็นเพราะเขตแดนของปีศาจที่ชื่อจาตุมหาราชิกกานั่นแหละ”

                ก่อนหน้านี้เกวตซัลโกอัตเคยพูดเอาไว้แบบนั้น

                บอกว่าเป็นเขตแดนที่มีไว้เพิ่มพลังให้ปีศาจ

                ทำให้มนุษย์คลุ้มคลั่งได้ง่ายขึ้น

                บางทีอาจจะมีไว้ป้องกันสัตว์เทวะด้วยเพราะมิกซ์บอกว่ามีเขตแดนที่คล้ายกับฮาบิแททพอยซ์ลดอัตราเกิดของสัตว์เทวะกางล้อมรอบ อารย-สนธยา

                “เอาเถอะถ้าไปถึงเจดีย์นั่นคงเจอใครมั่งแหละ”

                อิงศรพูดแล้วปิดหน้าจอสื่อสาร

                ถ้าหากว่าเป้าหมายของฝ่ายพันธมิตรคือการโค่นอารย-สนธยาแล้วคนอื่นๆที่กระจัดกระจายกันไปก็คงหาทางกลับไปที่เจดีย์ซึ่งเป็นที่มั่นสำคัญ

                ตอนนี้อยู่ระหว่างเดินไปที่เจดีย์ซึ่งเป็นที่มั่นหลักของศัตรูตามข้อมูลที่ได้จากมิกซ์บวกกับการคาดเดาเอาเองของเขาว่านรินทร์อาจจะถูกจับตัวไว้ที่นั่นรวมถึงโดโกบาร์ด้วย

                พวกเขายึดถือเอายอดของเจดีย์ทรงจานบินที่ลอยสูงพ้นแนวแมกไม้เป็นที่ตั้ง

                ระหว่างที่เดินอยู่นี้ทิวทัศน์รอบๆ ก็เปลี่ยนจากต้นไม้เป็นอาคาร พื้นดินลูกรังที่อยู่ระหว่างก่อสร้างกลายเป็นถนนลาดยาง ที่นี่น่าจะเป็นเขตการค้าหรืออะไรซักอย่างเพราะอาคารแต่ละหลังมีป้ายร้านติดอยู่

                ระหว่างที่เดินทัพกันอยู่พวกเขาก็ไม่ได้รักษาความเงียบกันเลยแม้แต่น้อยกลับส่งเสียงเจื้อยแจ้วพูดคุยกันดังสนั่นแทนที่จะบอกว่าเป็นหน่วยรบน่าจะเรียกว่ากลุ่มทัศนศึกษาเสียมากกว่า

                ฟูยังคงลากมิกซ์ไปคุยเฟื่องเรื่องเก่ากับมิ่งขวัญราวกับเป็นวันเลี้ยงรุ่นอย่างไรอย่างนั้น

                พลอยที่เพิ่งฟื้นหลังจากเป็นลมเพราะตื่นเต้นมากเกินไปตอนนี้ก็คุยปร๋อกับนิวรอย่างกับชุมนุมแม่บ้านตอนเที่ยงวันอย่างไรอย่างนั้น

                “จะคึกกันเกินไปไหมเนี่ย”

                อิงศรกล่าวเปรยๆ กับตัวเอง

                ตอนนี้ก็ปาเข้าไปตีสองแล้วอีกสี่ชั่วโมงพระอาทิตย์ก็จะขึ้นแต่พยกเขาที่ต่อสู้มาตลอดทั้งคืน ความเหนื่อยล้าน่าจะสะสมแถมยังเพิ่งพักกินข้าวกันมาน่าจะง่วงจนอยากนอนเต็มแก่

                แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้น…

                นอกจากจะไม่ง่วงแล้วยังรู้สึกกระปรี้กระเปร่าเล็กน้อย

                หรือจะเป็นผลจากเขตแดนปลุกเร้าอารมณ์

                ไม่สิอาจจะเป็นเพราะก๋วยจั๋บแวมไพร์ที่กินกันไปนั่นก็ได้บางทีปีกจอบมิกซ์อาจจะมีสารกระตุ้นให้รู้สึกสดชื่นหรือไม่ก็พวกเขาติดเชื้อกลายเป็นแวมไพรืกันหมดจนไม่รู้สึกง่วงอีกต่อไป

                “ฟุ้งซ่านแหะเราเนี่ย”

                รู้สึกทึ่งตัวเองอยู่ไม่น้อยที่หย่อนยานได้ขนาดนี้หากเป็นปกติตนคงจะตะหวาดพวกงี่เง่าที่อยู่ตรงนี้ว่า อยากจะให้ศัตรูรู้ที่อยู่กันนักรึไง

                แต่เพราะมิกซ์ซึ่งล้วงข้อมูลจากพวกอารย-สนธยามาก่อนจะทรยศบอกว่าเส้นทางที่กำลังเดินเป็นจุดบอดของการคุ้มกันเขาเลยปล่อยให้ทุกคนทำตัวตามสบายไป

                แต่แบบนี้อาจจะดีก็ได้เพราะอีกเดี๋ยวถ้าต้องสู้แล้วจะเครียดกันเกินไปให้รู้สึกผ่อนคลายเอาไว้น่าจะดีกว่า

                อิงศรเดินควบคู่ไปกับราชครูสาวถัดไปเป็นฟู มิกซ์ มิ่งขวัญ ถัดไปอีกเป็นกวินทร์กับอิซานามิ และ กลุ่มที่เดินรั้งท้ายคือพลอย เน็กส์ และนิว

                กวินทร์กำลังคุยเรื่องจริงจังกับอิซานามิ

                เห็นว่าเป็นเรื่องการใช้ดาบ หล่อนเองก็ใช้ดาบเป็นอาวุธหลังจากรวมร่างกับอลิซที่เจอตอนอยู่ที่รากอาคาชิกเรคคอร์ดแถมยังเป็นเทพเจ้าของประเทศที่สร้างดาบญี่ปุ่นซึ่งดาบในร่างเวพอนไนซ์ของกวินทร์ก็เป็นดาบแบบญี่ปุ่นทำให้หล่อนกำลังสั่งสอนรุ่นน้องอยู่

                “เทนกะโกเค็นของเจ้ายังเข้าไม่ถึงแก่นเลยนะรู้ไหม”

                อิซานามิพูดพลางเชิดหน้าขึ้นเป็นการวางตัวอยู่เหนือกว่า แต่รุ่นน้องผู้ไร้เดียงสาเหมือนจะไม่ได้สังเกตท่าทีเช่นนั้น

                “จะว่าไปคุณอิซานามิใช้คาตานะสินะครับวิธีจับดาบด้วยสองมือนี่ผมไม่ค่อยถนัดเลยแถมยังใช้สลับกับดาบคู่อีกรู้สึกยังจับเก้ๆ กังๆ ยังไงไม่รู้”

                พอกวินทร์พูดแบบนั้นเทพมารดรก็ยิ้มย่องอย่างพอใจแล้วชักดาบที่เอวขึ้นมาสอนท่าทางการจับดาบ

                “ก่อนอื่นเลยท่าทางการจับดาบกับท่ายืนเป็นสิ่งสำคัญวิชาดาบคู่ของเจ้าข้าเห็นว่ามันดีอยู่แล้วนะแต่ดาบเดี่ยวยังแย่อยู่เพราะเอาท่าร่างแบบเดียวกันมาใช้ปนกันไม่ได้”

                หล่อนหยุดเดินแล้วเริ่มกางขายกดาบขึ้นในท่าแบก

                “เพลงดาบที่ใช้กับคาตานะหรือดาบญี่ปุ่นทั่วไปต้องอาศัยการวางน้ำหนักเท้าอันดับแรกเลยเท้าของเจ้าจะต้องมั่นคงเพราะดาบมีน้ำหนักมากกว่าดาบทั่วไปจึงไม่เน้นการฟันแบบผาดโผนแต่เน้นการสังหารแบบเล็งผลมากกว่าและเพราะน้ำหนักมากกับตัวดาบที่ยาวทำให้ใช้ป้องกันได้ดีกว่าการใช้ดาบคู่ที่สลับฟันดาบหนึ่งป้องกันดาบหนึ่งวิธีสู้แบบนั้นจะเสริมเรื่องความคล่องตัวเพื่อให้หลบหลีกได้เป็นหลักเท้าของเจ้าจึงไม่ได้กางออกแต่ยืนชิดเท้าเพื่อให้ออกตัวได้รวดเร็วยังไงล่ะ”

                จากนั้นกวินทร์ก็ตั้งท่าแบบเดียวกับหล่อนบ้าง

                “แบบนี้เหรอครับ”

                “ใช่ๆ แบบนั้นแหละ”

                เพราะสองคนนี้กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มแถวเลยหยุดเดินไปด้วย

                “…”

                อิงศรมองกวินทร์กับอิซานามิด้วยสายตาจริงจัง

                ที่จริงควรจะต่อว่าที่ทำให้เดินแถวช้าแต่เรื่องที่อิซานามิพูดมาก็น่าสนใจอยู่เหมือนกัน แล้วก็เป็นโอกาสดีที่กวินทร์จะได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ

                “ทำตัวมีประโยชน์กับเขาเป็นเหมือนกันนี่”

                อิงศรพึมพำแบบนั้น อิซานามิจึงหยุดชะงักพลางหันมามองด้วยสายตาเคืองๆ

                “เดี๋ยวซี่ข้าก็ทำประโยชน์ให้ตลอดนั่นแหละน่าคิดว่าใครกันที่ช่วยเจ้าจากโลกิน่ะหืม”

                จริงตามที่หล่อนพูด เขาเป็นหนี้ชีวิตหล่อนอยู่ครั้งหนึ่งตอนอยู่ที่รากอาคาชิกเรคคอร์ด

                “ก็ใช้คืนไปแล้วนี่คิดว่าใครกันที่ลำบากเกือบตายถึงจะฆ่าเฟนริลได้ล่ะ”

                ถึงคนที่ลงดาบจะเป็นเมอร์คาบาห์ก็เถอะแล้วเขาก็ยังไม่รู้ว่าการที่เมอร์คาบาห์ออกมาในตอนนั้นเป็นเพราะตัวเขาเองหรือว่ามีใครชักนำให้เป็นแบบนั้น

                ผู้บงการที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใครยังคงหลบซ่อนอยู่ในเงามืดที่เขามองไม่เห็น

                อิซานามิยืนเท้าสะเอวและชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ

                “จ้า พ่อคนมีประโยชน์”

                อิงศรยิ้มรับคำประชดนั้น

                “ก็ตามนั้นแหละ เอ้า ทีนี้จะไปกันต่อรึยังใกล้จะถึงเจดีย์กันแล้วนะ”

                ระยะทางเหลือแค่เดินออกจากเขตร้านค้าไปก็จะเจอลานกว้างหน้าพระเจดีย์แล้ว ที่นั่นคือสถานที่ซึ่งพวกเขาถูกจับแยกกันจนกระจัดกระจายไป

                จากตอนนั้นก็ผ่านมาหลายชั่วโมงควรจะมีการสู้รบกันไปบ้างแต่ว่า…

                ไม่ได้ยินอะไรเลย

                ตลอดทางที่เดินเข้าใกล้พื้นที่รอบเจดีย์ไม่มีเสียงการสู้รบหรือเสียงเคลื่อนไหวเลยแม้แต่นิดเดียวซึ่งไม่น่าเป็นไปได้แต่จะบอกว่ามีแค่พวกเขาที่รอดกลับมาถึงตรงนี้ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้อีกเหมือนกัน ในกองทัพของเมตไตรยมีพวกทูตสวรรค์ที่ปลอมเป็นมนุษย์ปะปนมาด้วย ไหนจะพวกมนุษย์ต่างดาวก็มีชั้นราชครูอย่างซีเซียมที่เป็นอันดับสองอยู่อีกตนมันไม่มีทางจะเงียบได้ขนาดนี้

                ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปในลานกว้าง

                กลิ่นไอความตาย

                กลิ่นคาวเลือด ก็ลอยโชยมา

                ที่เบื้องหน้าพวกเข้า เบื้องหน้าทางเข้าเจดีย์ กองซากศพซึ่งเป็นคำตอบของคำถามที่ว่าทำไมสนามรบจึงดูเงียบผิดปกติ

                ศพเหล่านั้นประกอบไปด้วย ทหารของเมตไตรย มนุษย์ต่างดาว ซากร่างของปีศาจและทูตสวรรค์ที่ถูกฆ่าแล้วยังสลายไปไม่หมดกระจัดกระจายเกลื่อนลานกว้าง

                ศพส่วนใหญ่สภาพไม่สมประกอบซักรายไม่หัวขาดก็ลำตัวหายไปครึ่งหนึ่งหรือไม่ก็เหลือแต่ท่อนล่าง เลือดจากกองเนื้อพวกนั้นอาบพื้นจนแดงฉาน แล้ว...

                บนกองซากศพก็มีเงาคนปรากฏอยู่ด้วยกันห้า...ไม่สิหกตนต่างหาก

                เงาเหล่านั้นไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นปีศาจ

                นี่คือตำตอบว่าทำไมถึงเงียบสงบ เพราะว่าทัพพันธมิตรถูกฆ่าจนหมดแล้วนั่นเอง

                เสียงร้องเหมือนกับจะร้องไห้ของพลอยดังมาจากทางด้านหลัง

                โหดร้าย

                พอเหลือบสายตาไปมองก็เห็นหล่อนทำเรื่องเสียเปล่าอย่างการพยายามจะปิดตาเน็กส์กับนิวที่ยังเด็ก ทำแบบนั้นไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะอีกเดี๋ยวจะต้องต่อสู้กับพวกโหดร้ายที่ว่านั่นก็อาจจะเห็นอะไรที่มันเลวร้ายยิ่งกว่านี้อีก

                “…”

                รู้สึกได้ว่ากวินทร์ที่อยู่ด้านข้างกำลังตัวสั่น

                กลัวเหรอ

                เปล่าครับ....สั่นสู้น่ะ

                ดูก็รู้ว่าโกหก ตอนนี้กระทั่งขวัญที่เป็นมนุษย์ต่างดาว แม้แต่ฟูกับมิกซ์ที่เป็นเดโมนอยด์

                เหล่าเด็กหนุ่มที่กลายเป็นสัตว์ประหลาดก็ยังแสดงอาการหวาดผวาออกมาให้เห็นกัน

                “…”

                ไม่อยากยอมรับ แต่ว่าเขาเองก็เหมือนกัน

                ต้นขาสั่นเล็กน้อยเพราะว่าความตายกองอยู่เบื้องหน้า

                ซากศพน่าแขยงกองเกลื่อนสนามรบ

                ภาพพวกนั้นกระตุ้นสัญชาตญาณเอาตัวรอดจนแสดงออกมาเป็นความหวาดกลัว

                ใจเย็นไว้ทุกคน! ความรู้สึกหวาดกลัวนี่เป็นอาคมของพวกปีศาจ

                อิงศรรู้ตัวแล้ว

                ในความหวาดกลัวพวกนั้นมันมีสิ่งแปลกปลอมปะปนมาเป็นความรู้สึกเหมือนกับบีบบังคับจนเกินเหตุ เพราะว่าตัวเขาไม่มีทางหวาดกลัวกับอีแค่เห็นซากศพของคนที่ไม่ใช่พวกพ้องนอนเกลื่อนอยู่ตรงหน้า

                พอทุกคนได้ยินที่พูดไปก็เริ่มปรับอารมณ์กับความรู้สึกกันใหม่

                ความหวาดกลัวหายไปแล้วมันกำจัดทิ้งได้ง่ายเพราะเป็นสิ่งจอมปลอม

                แค่ตั้งสมาธิ ตั้งสติ มนต์มายาก็จะคลายออกเอง

                พวกเขามองตรงไปยังศัตรูเบื้องหน้า

                มีสี่ตนที่รูปร่างเหมือนมนุษย์ปกติ เป็นชายแก่ร่างสูงใหญ่ไว้เครายาวถึงอกกันทุกตน

                แต่ละตนมีใบหน้าแตกต่างกันไปแต่จะคงสี่หน้าแบบเดิมไว้ตลอด

                ใบหน้าโกรธ

                ใบหน้าบึ้งตึง

                ใบหน้ายิ้มแย้ม

                ใบหน้าสงบนิ่ง

                เครื่องแต่งกายเป็นชุดเกราะหนังแบบเอเชียไม่มีหมวกเหล็ก

                ลักษณะของทั้งสี่ที่เหมือนเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันนั้นทำให้คิดว่าน่าจะเป็นปีศาจที่เรียกว่า มหาจาตุราชิกกา หรือสี่ราชันย์สวรรค์นั่นเอง

                แล้วอีกสองตนที่เหลือก็คือมหากาฬ ปีศาจของเมษา กับ เวตาล ปีศาจของมีนา

                หนึ่งในจาตุมหาราชิกกามองเห็นพวกเขาแล้วจึงพูดว่า

                ยังมีมนุษย์เหลืออยู่อีกรึ

                ปีศาจตนนั้นมีใบหน้ายิ้มแย้ม ต่อมาปีศาจที่มีใบหน้าสงบนิ่งก็

                นั่นมันผู้มีฟันเฟืองไม่ใช่รึ

                พูดแล้วชี้มาที่เขา

                ปีศาจหน้าโกรธตะเบ็งเสียงดังลั่น

                พวกมันมาอยู่นี่ก็หมายความว่าจัดการอวโลกิตะไปแล้วสิ หนอยแน่เป็นแค่มนุษย์แท้ๆ

                ปีศาจใบหน้าบึ้งตึงพูด

                ดูเหมือนว่าจะมีพวกลูกมนุษย์ที่อวโลกิตะเลี้ยงไว้ติดสอยมาด้วยนี่....พวกมันทรยศสินะ

                จังหวะนั้นเองอิงศรก็สั่งให้โจมตี

                บุกเลย!”

                ด้วยคำสั่งนั้นทุกคนก็พากันวิ่งขึ้นไปข้างหน้าโดยมีเขาเป็นคนนำขบวน

                ต่อมา มิ่งขวัญ กวินทร์ ฟู ก็วิ่งแซงขึ้นไป

                อิงศรหยุดเท้าลงหลังจากวิ่งไปได้อีกสองสามก้าว มิกซ์หยุดยืนเคียงข้างเขา

                พวกพลอย อิซานามิ เน็กส์ นิว รอสนับสนุนอยู่ด้านหลังอีกที

                เน็กส์ใช้แอพพลิเคชั่นปีศาจเรียกเมลคีเซเดคออกมาสวมแว่นตาวิเคราะห์ข้อมูลจากนั้น

                ช่วยทีนิวให้ฉันเข้าไปสิงพี่ศรเลย

                นิวพยักหน้าแล้วร่ายสกิลพร้อมกับผลักเด็กชายออกไป

                มาริโอเน็กซัส

                เน็กส์เข้ามาสิงในร่างของอิงศร

                รู้สึกว่าพลังเพิ่มสูงขึ้น สัมผัสได้ถึงสายลมของเน็กส์

                อิงศรสั่งว่า...

                พาพี่อ้อมไปอยู่ข้างหลังเจ้ายักษ์นั่นที

                ‘ข้างหลังมหากาฬนะฮะ

                ดูเหมือนว่าแอพพลิเคชั่นปีศาจของเน็กส์จะยังคงทำงานแม้จะเข้ามาสิงร่างแล้วก็ตามไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางรู้ชื่อปีศาจของเมษาที่เพิ่งจะไปอยู่กับพวกอารย-สนธยาได้แน่นอน

                วินาทีนั้นเองเน็กส์ที่สิงอยู่ในร่างก็ร่ายสกิล

                วินด์วาร์ป

                วินาทีถัดมาอิงศรก็ลอบมาอยู่ข้างหลังของมหากาฬเป็นที่เรียบร้อย

                เด็กหนุ่มเหวี่ยงธนูออกไป มีดบนธนูเฉือนหลังของปีศาจเป็นแผลลึก

                มันกรีดร้อง

                อ๊าก...หนอยเจ้ามนุษย์

                แล้วหันกลับมายกแขนทั้งสี่ข้างเงื้อดาบขึ้นพร้อมกันหมายจะสับเขาเป็นชิ้น

                เน็กส์พาพี่ขึ้นข้างบนเลย

                สตอร์มวาร์ป

                ทันใดนั้นเองก็บังเกิดลมหมุนพัดโหมอย่างรุนแรง ปีศาจตัวใหญ่ก็จริงแต่ก็ถูกลมนั่นพัดจนเซถลาเสียหลักไปเหมือนกัน

                อิงศรหายตัวไปด้วยสกิลนั้นแล้วโผล่ขึ้นด้านบนพลางเล็งคันศรโดยขึ้นดาบแทนลูกธนู

                ไวลด์วูล์ฟ!!”

                ธนูดาบพุ่งทะลวงร่างของมหากาฬจนเกิดรูกลวงกลางหน้าอกเป็นวงกว้างและทำให้มันถึงแก่ความตายในทันที

                ร่างของปีศาจเกิดการสลายตัว เดาว่ามันคงจะกลับไปที่แอพพลิเคชั่นของเมษา

                ช่วงที่กำลังโล่งใจเพราะจัดการไปได้ตัวหนึ่ง ตอนนั้นเอง

                ตูม!! เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องขึ้น

                มิ่งขวัญ กับ ฟู ตัวลอยละลิ่วกระเด็นไปถึงอีกฟาก ทั้งสองลงไปกองอยู่หน้าพวกพลอย

                “เกิดอะไรขึ้นน่ะ

                จากนั้นเน็กส์ก็คงใช้พลังของเดม่อนแอพฯ ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น

                ‘’เมื่อกี้เป็นการโจมตีของปีศาจสี่ตัวฮะเป็นสกิลมหาอัคคีสี่ครั้งซ้อนเลย

                เพราะอย่างนั้นถึงได้เกิดระเบิดขึ้นสินะ ตรงจุดที่ว่ายังมีเปลวไฟตกค้างอยู่เลย

                พาพี่ตรงนั้นที

                เหลือแค่ไต้ฝุ่นวาร์ปนะฮะจากนั้นต้องรอคูลดาวน์วินด์วาร์ปกับสตอร์มวาร์ปอย่างละสี่สิบวินาทีกับหนึ่งนาทีฮะ

                หมายความว่าหลังจากนั้นจะไม่สามารถเคลื่อนที่พริบตาได้จนกว่าสกิลจะฟื้นพลังเสร็จในอีกสี่สิบวินาที

                อืม จัดการเลย

                อิงศรพูด

                ไต้ฝุ่นวาร์ป!!’

                พริบตาที่เน็กส์ร่ายสกิลร่างของอิงศรก็หายวับไปและเกิดพายุลูกใหญ่หมุนพัดบริเวณโดยรอบแต่ไม่มีใครหรืออะไรอยู่ทำให้มันสูญเปล่าไป

                แต่แลกกับการเหาะไปช่วยพวกพ้องได้ในทันทีถือว่าเป็นการแลกที่คุ้มค่า

                อิงศรปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าสี่ราชันย์สวรรค์แล้วแต่ถึงอย่างนั้นพลังของเขาก็ไม่พอจะรับมือปีศาจระดับสูงทีเดียวสี่ตนไหว ดังนั้น...

                ลุยเลยเมอร์คาบาห์

                จึงเรียกปีศาจออกมา ปีศาจจากอาคานาร์มหาโชคชะตา

                เมอร์คาบาห์ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับแสงสว่างเจิดจ้าทำให้พวกปีศาจตาบอดกันไปครู่หนึ่ง

                อิงศรจึงร่วมมือกับปีศาจใช้จังหวะนั้นประเคนอาวุธฟันใส่เทพที่มีใบหน้าบึ้งตังอยู่ตลอด

                ธนูเฉือนเนื้อบนหน้าอกแขวะเป็นทางส่วนดาบสั้นแทงเข้าที่คอและใบมีดบนแขนของเมอร์คาบาห์ผ่าครึ่งลำตัวออกเป็นสองท่อน

                หนึ่งในสี่ราชันย์สวรรค์สิ้นลมหายใจลงตรงนั้น

                เวสสุวัณ!”

                เหล่าเทพที่เหลือพากันเรียกชื่อของเทพที่ถูกฆ่าไป

                บังอาจทำร้ายเทพเจ้างั้นรึปล่อยไว้ไม่ได้แล้วเจ้าลูกมนุษย์!”

                เทพผู้มีใบหน้าโกรธขึงอยู่ตลอดเวลาลั่นวาจาด้วยโทสะเต็มเปี่ยมแล้วบุกเข้ามาพร้อมกับเงื้อตะบองขึ้นหมายจะฟาดอิงศรให้จมธรณี

                ดราโกนิกเบลด!”

                แต่กวินทร์ก็แทรกเข้ามาป้องกันไว้ให้ ดาบของเด็กหนุ่มถูกเคลือบไว้ด้วยชั้นหินมรกตที่มีพลังของมังกรสถิตอยู่

                ดาบกับตะบองปะทะกันส่งเสียงทื่อๆ ดัง เคร้ง แล้วยันกันอยู่อย่างนั้น

                เทพใช้มือเดียวจับตะบองไว้แล้วยื่นมือที่ว่างออกมา มันตั้งใจจะจู่โจมทั้งอย่างนั้น

                ไหม้เป็นจุลไปเถอะมนุษย์เอ๋ย มหาอัค...

                หากว่ามันร่ายสำเร็จกวินทร์คงจะถูกไฟคลอกจนได้รับบาดเจ็บหนัก

                อิงศรอยากที่จะช่วยแต่ว่าเขาใช้พลังไปเกือบทั้งหมดกับการจัดการปีศาจถึงสองตนทำให้เคลื่อนไหวได้ช้าลง

                แสงสว่างปะทุขึ้นตรงด้านหน้ามือของเทพที่หันเข้าหากวินทร์

                ตอนนี้ยังร่ายไม่เสร็จดีไฟจึงยังไม่ออกมา

                ทว่า เด็กหนุ่มนั้นกลับเผยรอยยิ้มให้เห็น

                แก! ร่ายสกิลใส่ผมแล้วสินะ

                กวินทร์พูดตอบโต้กลับไปแล้วร่ายจึงร่ายสกิลสวนกลับ น่าจะเป็นสกิลประเภทเดียวกับที่ใช้ตอนจับคู่ซ้อมกันตอนนั้น

                เอาพลังชีวิตไปสองพันแล้วซัดมันให้ปลิวเลย ดราโกนิคจัดจ์เมนท์!! อึก...

                สิ้นคำพลังชีวิตของกวินทร์ก็ลดลงไป ได้ยินเสียงครางเหมือนทรมานในตอนท้ายของการร่ายสกิลนั่น

     

    กวินทร์ Lv.75 [/////8200:10200///..]

     

    [Dragonic Judgement Lv(1/1)

    Element: Dragon

    Attribute: Counter , Physical Attack

    (Cast Condition) ร่ายสวนกลับเมื่อถูกร่ายสกิลใส่ตัวเอง ;

    (Cast Cost) สละ Buffs ธาตุมังกรที่มีชื่อ Saber หรือ Blade , จ่ายพลังชีวิต 2000 ; พลังของมังกรตอบโต้ได้อย่างรวดเร็วเสียยิ่งกว่าสายฟ้า ยกเลิกสกิลนั้นแล้วโจมตีสวนกลับด้วยเพลิงมังกร]

     

                พริบตาถัดมาแสงของสกิลที่ปีศาจร่ายก็กลับหายไปแล้วหินที่เคลือกดาบของกวินทร์ก็ลุกโชนเป็นไฟแทน

                กวินทร์ตวัดดาบออกไปทั้งอย่างนั้น เพลิงไฟบนดาบก็พุ่งทะยานเป็นมังกรกระแทกเทพผู้โกรธขึงจนร่างกระเด็นลอยออกไป

                บริโอแน็กส์!”

                เสียงร่ายสกิลของมิ่งขวัญดังขึ้นมาในตอนนั้น เทพที่ลอยละลิ่วไปก็ถูกหอกแสงที่ยืดออกจากเรเปียของมิ่งขวัญแทงทะลุร่างพอดี

                ย้าก!!”

                มิ่งขวัญกดดาบลงฟันมันลงมาทั้งอย่างนั้น ร่างของเทพขาดเป็นสองเสี่ยงและสิ้นใจกลางอากาศ

                วิรูปักษ์!!”

                เทพที่เหลือพากันเรียกชื่อของเทพที่เพิ่งถูกฆ่าไปอีกตนว่าแบบนั้นด้วยน้ำเสียงหวาดผวา

                มิ่งขวัญเดินเข้าไปขวางหน้าพวกเทพที่เหลือแล้วตั้งโล่ขึ้น อิงศรเห็นดังนั้นก็เข้าใจสิ่งที่น้องชายตั้งใจจะทำได้ทันที

                เทคนิคัลเวพ่อน!”

                เขาเปลี่ยนธนูเป็นหน้าไม้เพราะว่าสกิลเรียกยันต์อาคมขึ้นมาใช้งานแบบอัตโนมัตินั้นเป็นสกิล กลุ่มเทคนิคัล ทำให้ใช้หน้าไม้จะยิงศรอาคมได้เร็วกว่าแล้วเขาก็ติดตั้งสกิล ‘Auto Reload’ ที่เป็นแพสซีฟอีกอย่างหนึ่งสำหรับยิงหน้าไม้ได้โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาดึงคันชักใหม่ซึ่งก็แสดงให้เห็นไปแล้วตอนที่จับคู่ซ้อมกับกวินทร์

                อิงศรลั่นลูกดอกอาคมออกไปห้าครั้งสร้างเขตแดนล้อมรอบเทพทั้งสองจากนั้น

                มหาเขตแดนตรวนผนึกหมาป่าไกรนิลพ์!”

                ด้วยพลังของเมอร์คายาห์จึงละขั้นตอนการบริกรรมคาถาขณะร่ายออกไปทั้งหมดและทำให้สกิลที่ต้องเสียเวลาเตรียมการสกิลนี้กลายเป็นของที่ใช้ได้จริงๆ เเป็นสกิลผนึกการเคลื่อนไหวในสไตล์ของเขาเองไปโดยสมบูรณ์แบบ

                โซ่มนตราห้าเส้นพุ่งออกมาจากวงเวทบนพื้นมัดร่างเทพเจ้าตรึงเอาไว้อย่างนั้น

                มิ่งขวัญที่เห็นเข้าก็ยิ้มและสบตาเขาราวกับจะชื่นชมแล้วร่ายสกิลที่จะปลิดชีพ

                เอลิเชี่ยนฟินาเล่!”

                โล่เปล่งแสงสว่างวาบออกมา แสงนั้นเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ

                แต่ทว่า...

                นี่ๆ น้องสาวน่ารักที่ยืนถือไม้เท้าเวทมนต์คนนั้นน่ะชื่ออะไรหรือจ๊ะ

                เวตาล ปีศาจคนแคระตัวจิ๋วมีพังพืดเป็นปีกเหมือนค้างคาวก็บินลงมาขวางทางยิงแล้วพ่นอุบายใส่พลอยที่อยู่อีกฟากของทางปืนของมิ่งขวัญ

                อิงศรนึกถึงเดม่อสกิลที่มีนจาเคยใช้ขึ้นมาก็เข้าใจอุบายนั้นในทันทีและตั้งใจจะเตือนพลอยแต่ว่า..

                หา?”

                อย่าไปตอบมันนะพลอย!!”

                ช้าไป เขาตอบสนองช้าเกินไป

                พลอยขานรับอุบายของเวลตาลไปแล้ว

                ฟุ่บ เกิดเสียงแบบนั้นขึ้นแล้วเด็กสาวก็หายตัวมาอยู่ตรงที่เวตาลอยู่พอดี มันจับตัวพลอยไว้

                เอ้าๆ แกจะยิงพวกเดียวกันด้วยเหรอ

                แล้วกล่าวใส่มิ่งขวัญแบบนั้น

                มิ่งขวัญเดาะลิ้น

                ชิ เล่นสกปรกนี่หว่า

                แต่ก็จำต้องยอมหยุดอยู่แค่นั้นเพราะไม่งั้นจะยิงโดนพลอยไปด้วย

                ไม่ต้องไปกลัวยิงต่อไปเลย

                แต่กลับมีเสียงบอกให้ยิงดังแว่วมา

                ทันใดนั้นเองก็มีเงาสีดำพุ่งเข้ามาคว้าเงาของพลอยไว้แล้วก็มีเงาอีกหนึ่งเป็นกำปั้นเหวี่ยงซัดเงาของเวตาล

                ผลคือร่างจริงของเจ้าของเงาก็เป็นไปตามเงาด้วย

                เวตาลปลิวกระเด็นไปส่วนพลอยถูกดึงออกมาจากทางปืน

                มิ่งขวัญที่เห็นแบบนั้นเข้าก็เร่งพลังจนปล่อยลำแสงมฤตยูสังหารสี่ราชันย์สวรรค์ที่เหลือในอึดใจเดียว

                ภายหลังจากเสียงระเบิดกัมปนาท ศัตรูที่เหลืออยู่ก็มีแค่เวตาล

                ปล่อยข้านะ!!”

                แต่มันก็ตกไปอยู่ในมือของผู้ที่ช่วยพลอยเอาไว้

                กลับไปหามีนาได้แล้วเจ้าบ้า!”

                เด็กหนุ่มพูดแบบนั้นแล้วบีบขยี้เวตาล

                อ๊ากกก!”

                มันกรีดร้องโหยหวนแล้วก็ถูกบีบจนแหลกคามือและสลายไป กลับไปหาเดม่อนแอพฯของมีนา

                นาย...

                อิงศรมองหน้าของผู้ที่แทรกเข้ามาในการต่อสู้ของพวกเขา

                จ้องมองใบหน้าของเด็กหนุ่มผมสีแดงร่างกำยำในเครื่องแบบของเมตไตรยที่เป็นที่คุ้นตา

                เฮ้ อย่าจ้องกันแบบนั้นสิมันชวนสยองนะเว้ย

                เมษานั่นเอง !!



    ***พบกันใหม่วันอังคารหน้าคร้าบ~~***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×