คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #275 : Extra Log 271: ตัวจริงของเมอร์คาบาห์
Extra Log 271: ตัวจริงของเมอร์คาบาห์
เสียงโลหะแหลมสูง
เสียงปะทะของคมดาบ ดัง เคร้ง เคร้ง
แต่ผู้ที่จับดาบกวัดแกว่งใส่กันกลับเป็นตัวเองของกันและกัน
อิงศร
กับ เมอร์คาบาห์
เด็กหนุ่มแห่งโชคชะตา
กับ โชคชะตาของเด็กหนุ่ม กำลังฟาดฟันกัน
ที่มันกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะโชคชะตาที่มีชื่อว่า
‘บท’ ‘บทบาท’ ‘บทละคร’ ซึ่งล้วนถูกกำหนดโดยบางสิ่งที่มีอำนาจมากล้น
สิ่งที่มีตัวตนเหนือกว่า โชคชะตาและความเป็นไปได้ทั้งหมด
สิ่งที่ว่านั่นก็คือ
‘ซูลวาน’ หัวใจของอาคาชิกเรคคอร์ด
อิงศรคือส่วนหนึ่งของสิ่งนั้น
และถูก ‘บท’ ชักใยให้เดินตามแบบแผนที่ถูกกำหนดเอาไว้
ด้วยเหตุนั้นเองเขาจึงไม่มีทางเอาชนะ เมอร์คาบาห์ได้เพราะมันได้ถูกกำหนดเอาไว้ใน
‘บท’ แล้ว
ใบดาบของเทวทูตหวดเข้ามาอิงศรรับไว้ด้วยคันธนู
”อึก”
ผลคือตัวเขากระเด็นลอยละลิ่ว
อิงศรพลิกตัวกลางอากาศแล้วเหยียดเท้าลงพื้นเพื่อทรงตัว
เขาถูกซัดมาไกลจากจุดเดิมพอสมควร
ข้าวหลามกับวิเชียรมาศวิ่งตามกันออกมา
สองคนนั่นล้มเลิกที่จะช่วยแฟรนเซียมที่โดนส่งไปยังมิติแห่งความตายแล้วเพราะว่ามันไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว
รวมถึงพวกพ้องคนอื่นๆ ที่ถูกส่งตัวไปที่นั่นก็ด้วยเหมือนกัน
วิธีเดียวที่จะกอบกู้สถานการณ์นี้ก็คือโค่นเมอร์คาบาห์ลงเท่านั้น
ตอนนั้นเอง
“เมสไซอาร์บัสเตอร์”
เมอร์คาบาห์ก็ประกบใบดาบแล้วเหวี่ยงมันมาที่นี่
“ชิ”
อิงศรเดาะลิ้นแล้วกระโจนตัวจะหลบ
แต่ถ้าหลบเฉยๆ ก็จะถูกติดตามจึงขว้างดาบออกไปให้มันปะทะกับบัสเตอร์
ดาบถูกตัดขาดเป็นสองท่อน แต่มันก็ทำให้เขาหลบการโจมตีได้สำเร็จ
บัสเตอร์พุ่งเป็นเส้นตรงเพราะปะทะวัตถุแล้วจึงไม่สามารถเบี่ยงเส้นทางได้อีก
ที่รู้ก็เพราะว่ามันเคยเป็นพลังที่เขาใช้เองกับมือ ทั้งใช้ผ่านเมอร์คาบาห์
หรือใช้โดยพลังของ อาคานาร์ เดอะ ทาวเวอร์ก็ตาม
“ราธ
ออฟ ธันเดอร์ก็อด”
เมอร์คาบาห์สะบัดมือไล่ตามเขาที่เบี่ยงหลบบัสเตอร์มาพลางปลดปล่อยสายฟ้าทองคำ
นั่นเป็นท่าของโอดินจากอาคานาร์
เดอะ แฮงค์แมน
ดูเหมือนว่าเมอร์คาบาห์จะใช้อาคานาร์ทั้งหมดที่ยึดไปจากเขาได้ตามใจชอบ
อิงศรออกตัวตั้งแต่ตอนที่เมอร์คาบาห์ร่ายชื่อสกิลแล้ว
เพราะไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางที่จะหลบสายฟ้าทองคำที่รวดเร็วขนาดนั้นได้
อิงศรแนบแผ่นยันต์กับธนู
เขาควักเตรียมเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ปาดาบทิ้งไป
“ชาร์คชู้ต”
แล้วปลดปล่อยมวลน้ำรูปฉลาม
เมื่อสัมผัสกับพื้นฉลามก็ระเบิดในทันทีกระแสน้ำที่สะท้อนกลับมาจึงดันร่างของอิงศรให้พุ่งไกลออกไปอีกเล็กน้อย
ส่วนมวลน้ำที่กระจายไปอีกทางก็ช่วยดึงสายฟ้าเบี่ยงไปอีกทาง
หลังเอาตัวรอดจากวิกฤตมาได้อิงศรก็ลุกขึ้นเปลี่ยนคันธนูเป็นหน้าไม้
“เทคนิคัลเวพ่อน”
ตอนนั้นเอง
บัสเตอร์ที่ยิงออกมาก่อนย้อนกลับไปหาเมอร์คาบาห์พอดี
“ทำไงดี”
อิงศรพึมพำ
ตอนนี้ไม่มีดาบแล้ว จะสู้ด้วยสกิลของ ‘แบทเทิลเรนจเอร์’
ก็ไม่ได้เพราะงั้นถึงเปลี่ยนมาใช้ เทคนิคัลเวพ่อนที่เป็นหน้าไม้แทน
แต่นั่นก็ยังไม่ช่วยเพิ่มความได้เปรียบแค่กันไม่ให้ตัวเองเสียเปรียบไปมากกว่านี้
“เฮ้ย
ศรข้างบน มองไปข้างบน!!”
จู่ๆ
ข้าวหลามก็ชี้ไม้ชี้มือขึ้นไป เขาลองมองตามมือนั้น
“ออร์ฟี่”
ทรงกลมใสที่ขังออร์ฟี่ไว้ข้างในกำลังลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
มันมุ่งหน้าไปหา
ดวงตะวันที่เกิดจากการรวมกันของต้นไม้สำคัญของสวนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองต้น
อิงศรสบถใส่เมอร์คาบาห์
“จะทำอะไรกับออร์ฟี่น่ะ”
“เขาคือไกปืนยังไงล่ะ”
“ไกปืน...งั้นเหรอ”
“ใช่
หรือก็คือคนที่จะสับสวิตซ์ให้พิธีกรรมเริ่มทำงานเมื่อถึงตอนนั้นไกปืนจะกลายเป็นเครื่องสังเวยให้กับการคืนชีพส่วนเธอก็จะกลายเป็นซูลวานเพราะงั้นก็รีบๆ
เข้าไปนอนในแคปซูลได้แล้ว”
เมอร์คาบาห์พูดแล้วพุ่งเข้ามา
อิงศรลั่นไกหน้าไม้ยิงลูกดอกออกไปแบบต่อเนื่องแต่มันก็ไร้ผล
เมอร์คาบาห์หลบได้ทุกนัดแล้วเข้ามาประชิดตัวพร้อมกับหวดลูกเตะ
“อั่ก”
ลูกเตะซัดเข้าที่ท้อง
อิงศรทรุดเข่าลง แต่เมอร์คาบาห์ไม่ยอมให้เวลาพัก
มือของเทวทูตจับที่ใบหน้าแล้วดันจนเขาหงายหลัง
อิงศรถูกกดศีรษะกระแทกกับพื้นจนเกิดเสียงดัง
ตูม
“…”
อิงศรหมดสติลงในตอนนั้น
เมอร์คาบาห์อุ้มตัวอิงศรแล้วบินขึ้นไปหาดวงตะวันที่ตอนนี้มีเงาเหมือนกังหันหมุนวนทับอยู่
เมอร์คาบาห์ใส่อิงศรลงไปในดวงตะวันโดยดันผ่านกังหันสีดำนั่นจนกระทั่งเหลือแต่หัวที่โผล่พ้นออกมาตรงใจกลางกังหัน
จากนั้นเทวทูตก็หันเหสายตาลงไปด้านล่าง
ที่นั่นคุกแก้วที่ขังออร์ฟิอูคูมันนาร์ไว้ลอยอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก
เมอร์คาบาห์ขยับเข้าไปใกล้
จนกระทั่งอีกฝ่ายรู้สึกตัว
“คิดจะทำอะไรกันแน่”
ออร์ฟี่ตะโกนพร้อมกับทุบผนังกระจก
แต่ก็ไม่มีสุรเสียงใดเล็ดลอดออกไปเลยแม้แต่น้อย เสียงทั้งหมดสะท้อนก้องไปมาอยู่ภายในคุกแก้ว
แต่กลับมีเสียงอื่นดังแว่วเข้ามา
“คนที่ต้องทำก็คือเธอต่างหาก”
เสียงนั่น....
เสียงของเมอร์คาบาห์งั้นเหรอ
“...”
ออร์ฟี่จ้องเขม็งไปยังเทวทูตที่อยู่อีกฟากของผนังกระจก
จ้องมองสิ่งที่เคยเข้าใจว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับอิงศรมาโดยตลอด
แต่ว่ามันยังไงกันแน่นะ
เมอร์คาบาห์ที่อยู่ต่อหน้าตอนนี้ไม่ได้ให้รู้สึกคล้ายอิงศรเลยซักนิดเดียว
ตรงกันข้ามสัมผัสที่ปล่อยออกมาค่อนข้างเย็นชาละม้ายคล้ายกับ...
“ลูนาริส....โซลาริส”
ทำไม
ทำไมถึงจับสัมผัสที่คล้ายกับแอดมินิสเทรเตอร์ได้จากเมอร์คาบาห์กันล่ะ
เทวทูตปรายยิ้มให้อย่างเลศนัยแล้วกล่าวทะลุคุกแก้วที่เสียงจากทางฝั่งเขาส่งออกไปไม่ได้
“เพราะแต่เดิมแล้วทุกอย่างก็มาจากซูลวานยังไงล่ะ”
ดูจากคำพูดแล้วฝ่ายนั้นน่าจะได้ยินเสียงภายในนี่ทั้งหมดอย่างแน่นอน
ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไปถึงไหนกันแล้ว
ตั้งแต่ที่การทดสอบเริ่มขึ้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเร็วเกินจนทำความเข้าใจไม่ทัน
แต่ออร์ฟี่มั่นใจอยู่อย่างหนึ่ง
ตอนนี้
เมอร์คาบาห์คือศัตรู ไม่สิที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ใช่เมอร์คาบาห์ที่รู้จัก
ไม่ใช่อิงศรนั่นเอง
“อะ”
ระหว่างที่คิดอยู่นี่ก็มีไพ่อาคานาร์ลอยออกมาจากดวงตะวันที่โอบอุ้มอิงศรเอาไว้
ไพ่อาคานาร์จำนวน
2 ใบ
ดูจากหน้าไพ่ที่กำลังหมุนติ้วขณะร่วงหล่นลงมานั้น....
“เดอะซัน
กับ เดอะ มูน คือโซลาริส กับ ลูนาริส งั้นสินะ”
ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมสัมผัสของเมอร์คาบาห์ถึงได้รู้สึกคุ้นเคย
มันคือสัมผัสแบบเดียวกับแอดมินิสเทรเตอร์รุ่นก่อนนั่นเอง
“เมอร์คาบาห์เธอถูกพลังของอาคานาร์สองใบนั่นควบคุมอยู่ใช่ไหม”
แต่แล้ว..
“พูดถึงอะไรอยู่น่ะ”
อาคานาร์ทั้งสองใบนั้นกลับหายเข้าไปในตัวเมอร์คาบาห์
นั่นมันหมายความว่ายังไงกันแน่
เมอร์คาบาห์พูด
“แต่เดิมแล้วอาคานาร์ก็คือโชคชะตาที่แตกหน่ออกมาจากรูปแบบดั้งเดิมที่มีอยู่สิบสองรูปแบบอยู่แล้ว
เดิมทีแล้วซูลวาน ก็คือโชคชะตาคืออาคานาร์ทั้งปวงมาตั้งแต่ต้น”
เทวทูต
ไม่สิตอนนี้น่าจะเรียกว่า ซูลวาน มากกว่า ซูลวานยื่นมือมาสัมผัสกับกระจก
“เป้าหมายของเราทุกคนก็คือจัดการกับราหู
ซูลวาน เองก็ปรารถนาแบบนั้นเช่นกัน”
เมื่อเมอร์คาบาห์พูดเสร็จ
ที่เบื้องหน้าออร์ฟี่ก็มีหน้าต่างระบบกระเด้งตัวเปิดขึ้นมา
หน้าต่างนั้นแสดงคำถามและตัวเลือกสองตัวเลือก
หากการแยกจากคือหนทางเดียวที่จะกอบกู้ทุกสิ่งเธอจะเลือกมันไหม
[ใช่]
[ไม่]
“นี่มันอะไร”
ออร์ฟี่ถาม
“เรื่องนั้นเธอน่าจะรู้ดีอยู่แล้ว”
เมอร์คาบาห์ตอบกลับมาเช่นนั้น
ซึ่งมันก็ตามที่พูดมาเขาเข้าใจสิ่งที่คำถามบนหน้าจอนั่นต้องการจะถามจริงๆ
นั่นแหละเพราะดูเหมือนมันจะสะท้อนความลังเลของเขาออกมา
คำถามบนหน้าจอนั่นบอกให้เขาเลือกระหว่างทิ้งความคิดที่จะช่วยเหลือ
อดัม หรอืไม่ก็สูญเสียอิงศรกับทุกคนไป
เมอร์คาบาห์พูด
“หนทางที่จะกอบกู้สถานการณ์ในตอนนี้คือเธอซึ่งเป็นแอดมินิสเทรเตอร์
จะต้องเลือกก้าวเดินต่อไปข้างหน้าหากล้มเลิกความยึดติดที่มีอยู่ไม่ได้ผู้ติดตามของเธอทั้งหมดจะต้องร่วงหล่นไปสู่ดินแดนแห่งความตายตลอดกาล”
แล้วผายแขนขึ้นไปยังทิศที่ดวงตะวันซึ่งเกิดจากการวมตัวของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง
ที่ๆ อิงศรถูกคุมขังอยู่ภายในนั้น
“รวมถึงเขาด้วย
จงเลือกซะแอดมินิสเทรเตอร์ เลือกที่จะทิ้งทุกอย่างตรงนี้แล้วจมอยู่กับอดีต
หรือจะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าแล้วไขว่คว้าอนาคต”
“ทำไม”
ออร์ฟี่ถาม
“....”
“ถ้าผมเลือกไปแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น
ไม่สิก่อนหน้านั้นช่วยตอบมาก่อนได้ไหม”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“แต่เดิมแล้วความคิดที่จะให้ทุกคนเข้ารับการทดสอบจากต้นไม้แห่งชีวิตผมเป็นต้นคิดเองเพราะผมรู้อยู่แล้วว่าเหล่าเครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์ต่างก็ย้อนกลับไปที่นั่น
ผมรู้ว่าจะขอยืมพลังได้จากพวกเขาเพื่อการต่อสู้กับราหูที่กำลังจะเกิดขึ้น
แต่แล้วทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ล่ะ นี่ก็คือการทดสอบด้วยเหรอ”
“อา
มันคือการทดสอบที่กำหนดเอาไว้แล้ว”
“หมายความว่ายังไงกัน”
“แอดมินิสเทรเตอร์
เมื่อเธอก้าวขึ้นมารับตำแหน่งนั้นแล้วก็คงเข้าใจได้เองสินะว่าเครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์มีไว้เพื่ออะไรแล้วก็ได้รู้วิธีที่จะสร้างมันขึ้นมาด้วย”
ใช่ เขารับรู้ถึงขั้นตอนของมันนับตั้งแต่วันที่ได้เป็นแอดมินิสเทรเตอร์
พอเป็นแอดมินิสเทรเตอร์แล้ว
ขึ้นควบคุมบังเหียนของ บัลลังก์สวรรค์ก็จะได้รับความรู้ในการเป็นแอดมินิสเทรเตอร์มา
แล้วสิ่งหนึ่งที่ได้รู้มานั้นก็คือขั้นตอนการสืบทอดเครื่องทำสวนศักดิ์สิทธิ์ไปยังรุ่นต่อไปนั่นเอง
ดังนั้นจึงให้พวกอิงศรเข้ารับการทดสอบเพื่อสืบทอดพลังที่ว่า
แต่แล้วเมอร์คาบาห์ก็พูดขัดความคิดเขา
“แล้วความรู้ที่ได้รับถ่ายทอดนั่นมันมาจากไหนกันล่ะ
บัลลังก์สวรรค์ใช่ไหม”
งั้นเรอะ
ที่แท้มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง
ออร์ฟี่พูด
“ทั้งหมดเป็นแผนสินะ
ซูลวานคงวางแผนเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ผมขึ้นเป็นแอดมินิสเทรเตอร์เลยงั้นสิ”
“ทั้งหมดเป็นไปตามบท
แม้แต่แอดมินิสเทรเตอร์คนก่อนก็ร่วมเดินทางในบทนี้เช่นกัน”
ถึงแม้เมอร์คาบาห์จะยืนยันเช่นนั้น
แต่ก็ยังน่าแปลก?
ถ้าทั้งหมดเป็นแผนจริงๆ
แล้วล่ะก็ตัวเลือกพวกนี้มันคืออะไรกันล่ะ
ออร์ฟี่จ้องมองหน้าจอที่แสดงตัวเลือกอันหนักอึ้ง
ที่ไม่ว่าเลือกทางไหนก็ต้องทิ้งสิ่งสำคัญของตัวเองไปอยู่ดี
“ที่บอกว่าแอดมินคนก่อนก็ร่วมเดินทางในบทแบบเดียวกันนั่นน่ะจะบอกว่าโซลาริสกับลูนาริสก็รู้เห็นเกี่ยวกับแผนนี้ด้วยงั้นเหรอ”
แต่คราวนี้เมอร์คาบาห์กลับนิ่งเงียบ
“…”
“พูดอะไรบ้างสิ”
“เลือกซะ”
“.....”
“ถ้าไม่รีบล่ะก็ จะไม่สามารถเลือกอะไรได้อีกแล้วนะ”
เมอร์คาบาห์พูดเหมือนกับจะเร่งเร้าจบก็ถอยห่างออกไป
ออร์ฟี่พยายามเรียกอีกฝ่ายไว้
“เดี๋ยวก่อนสิ”
แต่ตอนนั้นเองคุกแก้งก็เริ่มถูกโอบล้อมโดยความมืดที่ไม่รู้ที่มา
รู้สึกตัวอีกทีรอบด้านก็ถูกความมืดปกคลุมไปทั้งหมด
มองเห็นแต่ตัวเองกับหน้าจอตัวเลือกเท่านั้น
“…”
ถูกบีบทางเลือกเข้าให้แล้ว
ที่ปิดกั้นสภาพภายนอกก็เพื่อจะบีบให้กดตัวเลือกพวกนี้สินะ
ถ้าเลือกแล้วอีกทางที่ไม่ได้เลือกจะเกิดอะไรขึ้นก็ยังไม่รู้
แต่ตอนนี้อิงศรกับพรรคพวกถูกจับเป็นตัวประกันของเมอร์คาบาห์กันหมด ให้เลือกส่งๆ
ไปคงจะไม่ได้
ที่ผ่านมาตัวเขาเอาแต่ไล่ต้อนให้อิงศรเลือกหนทาง
แต่ตอนนี้ตัวเองกลับต้องมาเป็นคนเลือกหนทางซะเอง น้ำหนักของการตัดสินใจมันหนักอึ้งขนาดไหนก็เพิ่งจะได้รับรู้เป็นครั้งแรก
แล้วออร์ฟี่ก็ตระหนักว่า
“ไม่ได้”
เขาไม่สามารถเลือกระหว่างอดัมกับพวกพ้องได้เลย
***ลงสายอีกแล้ว = = ตอนนี้สั้นหน่อยนะฮะ
ไว้รับชมต่อยาวๆกันวันเสาร์ไม่ก็อาทิตย์เน่อ น่าจะจบ Act Zurvan เร็วๆ นี้ล่ะ โอเมก้า!***
ความคิดเห็น