ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Crystal War, When I must Drive Lolis.[สงครามผลึก, เมื่อผม ต้องขับโลลิ]

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 1 - 2 -ได้รับ-

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 58


    - 1 ชม. ผ่านไป

                    หลังจากตัดสินใจกล่าวลา และเดินทางกลับหอพักอย่างเดียวดาย ไม่ต่างจากฉากพลัดพรากของสอง... สาม สี่... ห้าเรา ในสไตล์การ์ตูนดราม่า ขมขื่นหัวใจ

                    ไม่นะ พวกท่านอาจจะคิดว่าผมคิโม่ยมาก แต่ผมก็แค่คิดเท่านั้น ผมไม่ได้ไปตะโกนพูดปาวๆให้ใครเห็นสักหน่อย มันจะคิโม่ยไปได้ยังไง! พวกคุณเข้าใจไหม? คำว่าจินตนาการสำคัญกว่าความหื่นหน่ะ? ผมก็แค่จินตนาการเพื่อความจรรโลงใจก็เท่านั้น! มันผิดด้วยเหรอ? เลิกเข้าใจผิดสักที

                    แกรก ... ตึง

                    ผมเปิดประตูหอพักเข้ามาภายในห้องขนาด 3.5*3.5 เมตร การจัดวางห้องมาตรฐาน ตู้เสื้อผ้าชิดมุม เตียงทรงสูงฐานโล่งตรงกลางไร้ซึ่งหมอนแต่กลับมีกล่อง ข้าวของ สมุดหนังสือและคอมพิวเตอร์วางเอาไว้บนเตียง ส่วนพื้นด้านล่างฝั่งติดหน้าต่างตรงข้ามประตู มีฟูกนอนผ้าคลุมหมอนและผ้าห่มลายอนิเมะปูเอาไว้แทน แน่นอนว่าผมไม่ได้ใช้เตียงในการนอนแต่ใช้เตียงเอาไว้วางของ แล้วนอนที่พื้นแทน

                    เพราะอะไรหน่ะเหรอ? มันประหยัดค่าซื้อโต๊ะเก้าอี้ ยังไงเล่า!

                    ส่วนรอบทั้งห้อง ก็ประดับประดาไปด้วยโปสเตอร์ สาวน้อยโลลิจากในการ์ตูนเรื่องต่างๆ มากมายเต็มทั้งห้อง

                    ใช่แล้ว ใครที่ดูมาถึงจุดนี้ ก็เดาได้แล้วสินะ ว่าผมชอบอะไร!!! ใช่แล้วครับ โลลิยังไงหละ โลลิหน่ะ โลลิ!! ดังคำกล่าวที่ว่า โลลิคือผ้าขาว! ที่ช่วยซับความเหนื่อยล้าในใจของผมได้เป็นอย่างดี

                    - กลับมาแล้วเหรอคะ โอนี่จัง

                    "อ่าฮะ กลับมาแล้วจ้า กลับมาแล้ว"

                    ผมเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้น แล้วเริ่มนั่งหางานที่จะเดินทางไปสมัครในอีก 2-3 วันข้างหน้าใหม่ เพราะไม่อยากเปลืองค่าเดินทางให้มากนักจึงพยายามจัดเวลา แล้วไปสมัครในวันเดียว จัดเรียงตาราง ส่งเมล์เพื่อนัดเวลาเสร็จสรรพ

                    [inbox เมล์ใหม่ 0 ฉบับ]

                    "ว่าแต่ งานฟรีแลนซ์ไม่มีเข้ามาเลยแฮะ" ผมบ่นขึ้นมาเมื่อเข้าไปเช็คเมล์ ในส่วน inbox แล้วพบว่าไม่มีงานจ้างวาดใหม่ใดๆเข้ามา ว่าก็ว่าเถอะ มันน่าเศร้าพิกลจริงๆ ที่เงินขาดแบบนี้

                    สุดท้ายเมื่อจัดการภารกิจที่ควรจะทำหมด ผมก็เริ่มต้นชีวิตของคนไม่มีงานขึ้นทันที

                    ดูอนิเมะ วาดรูป ฟังดราม่าซีดีของเหล่าสาวโลลิ วาดรูป แต่งนิยาย และสุดท้ายก็เล่นเกมMMORPGโดยเล่นเป็นตัวละครโลลิสุดแสนจะโมเอะน่ารักสวมชุดเกราะวับๆแวมๆ เวลาวิ่ง หรือกระโดด เข้าโจมตี กระบังเกราะด้านหลังก็จะเปิดเห็นแก้มก้นและกกน!!! ก้นโลลินี่แหละสุดยอด!

                    อะๆ! แต่ผมไม่ได้เนียนแอ๊บแบ๊วเป็นสาวน้อยไปขอของใครนะเออ ยังพูดเหมือนชายปกติ เพียงแต่การมองบั้นท้ายสาวน้อยโลลิระหว่างเล่นเกม มันดีกว่านั่งมองกล้ามก้นอยู่แล้ว

                    หรือไม่จริง? ถ้าพวกคุณเป็นสาวๆ ก็อาจจะอยากมองกล้ามก้นกันอยู่หรอก แต่ผู้ชายหน่ะ เขาไม่อยากมองสันแข็งๆของด้านหลังผู้ชายด้วยกันหรอก มันต้องก้นเด้งๆของสาวๆ ไม่ก็ของโลลิเซ่!!

    - 21.24 .

                    ["Overheat!!!!!"

                    [ตู้ม

                    ["ก๊าซซซซซซซ!!!"

                    [แถ็ด แทแด้ด แทแด้

                    ["Level Up!!!"

                    เอาเถอะ ใครจะคิดอย่างไรก็ช่าง ในระหว่างที่ผมว่างงาน ผมก็นั่งเก็บเลเวลตัวละครอยู่ตลอดจนตอนนี้ แทบจะเป็น Top ของเซิฟเวอร์แล้ว นี่ถ้าไม่ได้เล่นตัวละครโลลิแสนโมเอะ คงหมดแรงเล่นไปตั้งแต่สามนาทีแรกแล้ว! ฮ่าๆ ฮ่าๆ ฮ่าๆ .... ฮาๆ ฮา....

                    เล่นเกมไป บ่นสัพเพเหระไป ก็เหมือนหลอกตัวเองไป จริงๆผมอาจจะเป็นพวกขี้เกียจ ที่ไม่หนักเอาเบาสู้ก็เป็นได้ แค่หนีออกมาจากชีวิตที่โดนเพื่อนรังเกียจ ไม่ค่อยมีคนคบ ญาติผู้ใหญ่ที่ดูถูกดูแคลน แถมหันหลังให้กับความลำบากของครอบครัวก็เท่านั้น

                    "พี่นี่มันแย่จังเลยนะ จริงไหมชิโนบุจัง" ผมหันไปพูดกับหมอนข้างลายสาวน้อยผมทองน่ารัก ดวงตาคมดูดึงดูด ผิวขาวตัวเล็กผอมบางพร้อมด้วยเขี้ยวแบบผีดูดเลือดแสนจะน่าหลงใหล ก่อนจะเอี้ยวตัวลงนอนกอดหมอนข้างเอาไว้

                    ง่วงแล้วแฮะ นอนสักงีบแล้วค่อยตื่นขึ้นมาอาบน้ำดีกว่า

                    "ขอพี่กอดพวกเธอทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำนะ ชิโนบุจัง อายะจัง ชิโฮะจัง เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปอาบน้ำด้วย ......"

                    ตึดึ้ง!

                    "หือ?" ไม่ทันที่ผมจะได้กล่าวฝันดีกับชิโนบุจังเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นมา  ผมพยายามสลัดความง่วงแล้วดันตัวขึ้นอย่างตื่นเต้น และมันก็ใช่! แม้จะไม่ใช่การตอบรับสมัครงาน 100% แต่มันก็คือ ฟรีแลนซ์ แบบเซอร์เวย์ที่อยากจะให้ผมช่วยออกแบบสลากผลิตภัณฑ์ครีมเสริมความงามให้ โดยเป็นงานเร่งจะเอาพรุ่งนี้เช้าตอน 8.00. ทำให้ผมสามารถทำตัวหน้าเลือดกดราคา จากที่เขาเสนอ 600 เป็น 1500 ได้อย่างไม่ยากเย็น งานแบบนี้ เร่งทำมากๆไม่เกิน 8 ชั่วโมงก็น่าจะเสร็จ แถมถ้าเนื้องานดี ถูกใจเขามากๆ เขาอาจจะจ้างให้เข้าไปทำงานในบริษัทอีกด้วย

                    "สุดยอดเลยน้องๆที่น่ารัก! มีคนมาต่อชีวิตให้พวกเราอีกแล้ว!" ผมเอ่ยออกไป พร้อมด้วยจินตนาการที่เหล่าเด็กๆทั้งสามเอ่ยเชียร์

                    ::ชิโฮะ : เย้ ยินดีด้วยนะคะ โอนี่จัง แล้วอย่าลืมพาหนูไปเที่ยวด้วยนะ!
                    ::อายะ : ดีจังเลย แบบนี้พี่จ๋าก็จะได้มีกำลังใจต่อไปแล้วสินะคะ

                    ::ชิโนบุ : ..... แล้วอย่าลืมซื้อโดนัทให้กินด้วยหละ

                    "แน่นอนจ้าทั้งสามคน! พลังใจมาเต็มเปี่ยมแล้ว งั้นก็ลุยกันเลยดีกว่า ......."

                    .

                    .

                    ป๊อก!

                    "หะ?" ผมรู้สึกตัวขึ้นมาได้จากความเจ็บที่หัวไปกระแทกเข้ากับเมาส์ปากกา

                    "เผลอหลับไปเหรอเนี่ยตรู เห้อ" ผมถอนหายใจเบาๆแล้วดันตัวเงยหน้าขึ้นมาด้วยความงัวเงีย เพราะยังนอนไม่เต็มอิ่มไม่ได้หายง่วงเลยสักนิด สายตาของผมจับจ้องไปที่จอแล้วก็แอบเศร้าใจไม่น้อยที่งานเพิ่งจะทำไปได้ 20%

                    แต่ที่ยังง่วงอยู่แบบนี้ คงจะเพิ่งหลับไปได้ไม่นานหละมั้ง ก่อนที่ผมจะเหล่ไปมองนาฬิกา

                     3.25 .

                    อืมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม.....

                    !!!!!!!!!!

                    "ชิบหายแล้ว!!! เผลอหลับไปหกชั่วโมงเลยเหรอฟระ!!! หงตายห่านตาย แล้ว!!!"  ผมได้แต่ตะโกนเสียงดังลั่น แล้วรีบหันไปนั่งปั่นงานอย่างไม่คิดชีวิตในทันที

                     

                    *เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆ!!!

     

                    "ทำไมตรูต้องมาเผลอหลับตอนนี้ด้วยว้า รู้งี้อาบน้ำก่อนทำงานก็ดีหรอก" ผมได้แต่บ่นไปปั่นงานไปอยู่แบบนั้น ด้วยอารมณ์เซ็งสุดๆ

     

                    *เปรี้ยะ! แปร้บๆๆ เปรี้ยง!!!!

     

                    ตุบ........................

                    "........................."

                    และสิ่งที่ผมไม่คาดฝันมาก่อนก็ได้เกิดขึ้นทุกอย่างรอบตัวผมมืดมิดไปหมด ไม่มีความสว่างใดๆ ไม่มีเสียงใดๆอีก หลังจากเสียงดังตุบนั้น

                    ใช่ครับ

                    "ไอ้บ้าเอ้ย!!! ไหงไฟมาดับตอนนี้ฟระ สลัดข้าวโพด!!!!!!!!!!!!!!" ผมได้แต่ตะโกนเสียงดังลั่นออกมาแบบนั้น อย่างรับไม่ได้ แต่ก็ต้องจำใจรับมัน ด้วยการนั่งอดทนรออยู่ตรงนั้น จนกว่าไฟจะกลับมา

                    .

                    .

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×