ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Crystal War, When I must Drive Lolis.[สงครามผลึก, เมื่อผม ต้องขับโลลิ]

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 1 - 8 -ของเด็ก-

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 58


    - 8.00 .

                    ในที่สุดผมก็ส่งงานตรงตามเวลา แบบเป๊ะๆ เส้นยาแดงผ่าแปด แม้งานจะเผาสุดๆ แต่ลูกค้ากลับพึงพอใจ นั่นนับว่าเป็นเรื่องดีมากๆ

                    ส่วนสิ่งที่ผมถอนหายใจโล่งๆไม่ออกเลยก็คือ

                    เปรี้ยะๆๆ ....

                    ปิ้กาจูสาวที่ยืนจับสายไฟเปลือยๆ เพื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงทั้งห้อง ตั้งแต่ ตีห้า ยันเช้า

                    ผมชักจะเชื่อหน่อยๆซะแล้วสิ ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา แต่! จะให้เชื่อว่าเธอเป็นมนุษย์ต่างดาวเนี่ย มันก็ยังไงๆอยู่นะ

                    อย่างไรก็แล้วแต่ คงต้องขอบคุณเธอจากใจจริงๆนั่นแหละ

                    "งานเสร็จแล้ว ขอบพระคุณคุณมากๆจริงๆนะครับ" ผมเอ่ยออกไปพร้อมปิดคอมแล้วลุกขึ้นเดินไปใกล้ๆเธอ

                    แต่เธอไม่ตอบกลับ ได้แต่ยืนจับสายไฟนิ่งดวงตาแข็งลืมตาค้างไร้ความรู้สึกใดๆ แหม่มองๆไปอย่างกับโดนไฟดูดตายไปแล้วเลย.....

                    ไม่ตลกแล้วเว้ย!!! โดนไฟฟ้าช๊อตตายแล้วเหรอฟระ!!!

                    "นี่คุณ!! คุณ!!! เป็นอะไรหรือป่าวคุณ!!!" ผมตะโกนเสียงดังใหญ่ แล้วรีบ เอาไม้กวาดปัดมือเธอออกจากสายไฟเปลือยทันที

                    ตุ้บ!

                    เธอหลุดออกมาจากสายไฟเปลือยเรียบร้อย พร้อมหล่นจากเก้าอี้ ผมก็รีรอที่จะพุ่งเข้าไปช่วยจับตัวเธอเอาไว้ไม่ให้บาดเจ็บ

                    หมับ! ผมรับตัวเธอได้....

                    เปรี้ยะ!!! เปรี้ยะๆๆๆๆ

                    ทันใดนั้น ผมก็รู้สึกได้ถึง อะไรบางอย่างที่ไหลแล่นไปทั่วร่างกายจนขนทั้งร่างกายของผมลุกพรึบ

                    "อ้าก!!! ฟะ ไฟ ไฟ ฟะฟะ" ผมได้แต่ร้องไม่กี่คำ ก่อนที่ปากของผมจะเกร็งจากไฟฟ้าจนพูดไม่ออก

                    ในช่วงเวลานั้นเอง ผมก็ได้มองเห็นภาพต่างๆ ทั้งภาพครอบครัว ภาพชีวิตที่ผ่านมา ภาพความต้องการ ภาพความฝัน ภาพสมัยเรียน และภาพปัจจุบัน อ่า .... รู้สึกเหมือนเธอคนนี้จะมีกระแสไฟฟ้ารอบตัวจริงๆ และตอนนี้ผมก็กำลังโดนไฟฟ้าช๊อตอยู่สินะ แล้วแบบนี้ผมจะทำอย่างไร ต่อไปดี ....

                    .

                    .

                    .

                    "ตื่นแล้วเหรอ ?"

                    เสียงของหญิงสาวดังขึ้นระหว่างที่ผมรู้สึกตัวอีกครั้ง

                    "อ่า ..." ผมครางเสียงสั่นเล็กน้อย พร้อมพยายามดันตัวขึ้น แต่เหมือนร่างกายจะยังไม่พร้อมลุกทำให้ได้แต่นอนแหมะอยู่บนเตียงแบบนั้น

                    หลังจากที่เมื่อครู่ ผมคิดว่าต้องตายไปแล้วกับการโดนปิ๊กาจูตัวแม่ ช๊อตไฟฟ้าแสนโวลท์ใส่ แต่ผมก็รอดมาได้แล้ว น่ายินดีจริงจังมาก ไม่สิ ว่าแต่เมื่อกี้เธอไม่ตายเรอะ!

                    "แล้วเมื่อกี้ เธอตัวแข็งไปเลย ชั้นนึกว่าเธอตายไปแล้วซะอีก"

                    "แฮะๆ ขอโทษทีนะพอดีเห็นว่านาน ก็เลยเปิดให้ร่างนี้ทำงานแบบอัตโนมัติ แล้วตัวชั้นเองก็ไปนั่งเขียนใบสมัครงานเตรียมไว้ให้นายหน่ะสิ"

                    โอโห จินตนาการล้ำเลิศ ... เอะ ไม่สิ จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกแค่เรื่องไฟฟ้า ยังเป็นจริง แล้วเรื่องอื่นๆ อาจจะจริงก็ได้ ต้องทำใจเย็นๆ แล้วอธิบายเธอไปตรงๆ

                    "คืองี้ บนโลกที่ผมอาศัยอยู่เนี่ย ไมได้มีพวกพลังพิเศษ หรือสิ่งล้ำยุคอะไรเลย มันเลยทำให้เชื่อยากว่าเรื่องที่คุณพูดเป็นเรื่องจริง พอจะเข้าใจที่ผมบอกไหม ?"

                    หลังจากอธิบาย เธอก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่กลับทำสีหน้าสนใจมากขึ้นด้วย

                    "แสดงว่า นายไม่รู้ตัวเลยเหรอ เวลานายมาที่ยานชั้น"

                    "เอาเข้าจริงๆ ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าเคยไปที่ยานของคุณ"

                    "ไม่จริงน่า จำไมได้เลยเหรอ ?"

                    "จริงๆ จำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เธอจำผิดคนหรือป่าว"

                    ผมตอบอย่างตรงไปตรงมา เพื่อไม่ให้เสียเวลามากนัก ว่าแต่จะยื่นหน้าเข้ามาเรื่อยๆระหว่างถามทำไมหละครับนั่น เล่นเอาเขินหมดเลยนะ

                    "เห้อ" เธอถอนหายใจออกมาอย่างเสียไม่ได้ "แต่จากการใช้ข้อมูลแสกนพื้นฐานกับตัวนายแล้ว มันถูกตัวไม่ต้องสงสัยเลยนะ!"

                    อื้อหือ ผมเป็นตัวอะไรครับ แสกนได้ด้วย

                    "ทั้งๆที่นาย เป็นคนพูดคำพูดที่แทงใจชั้น จนทำให้ชั้นจิตใจหวั่นไหวขนาดนั้น แต่กลับจำไม่ได้ ไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ" เธอทำหน้าดุโมโหบวกกับงอนใส่ผมเต็มๆ จะว่าน่ารักก็น่ารักจริงๆนั่นแหละ นี่ถ้าเธอเป็นเด็กผู้หญิงผมคงพุ่งกอดไปแล้ว!

                    "ขอโทษจริงๆ แต่ช่วยบอกผมสักหน่อยได้ไหม ว่าผมพูดไปว่ายังไง ?"

                    เธอที่ได้ยินผมบอกแบบนั้น ก็ค่อยๆดันตัวเข้ามาหาผมที่นอนอยู่ จ้องดวงตาของผม แล้วเอ่ยออกมาด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลอหน่อยๆนั่น

                    "นายบอกว่า จะช่วยชั้นอีกแรง เพราะดูท่าทางชั้นเหงา ...."

                    ผมนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เหมือนจะนึกได้ลางๆ ว่านั่นมันเป็นคำพูดที่ผมพล่ามออกไป ระหว่างที่กำลังฝันอยู่ คำพูดนั่นเป็นคำพูดที่ผมใช้พูดกับสาวน้อยโลลิ โคตรน่ารักบนยานลำนั้น เพราะทุกๆครั้งที่ผมฝันว่าได้ไปยืนมองดูเธอ เธอได้แต่เล่นสนุกบนยาน มองการต่อสู้ที่เกี่ยวกับสงครามเพียงลำพัง จนอดไม่ได้ ที่จะพูดเพราะอยากช่วยเหลือออกไป

                    เดี๋ยวนะ บนยาน ไปเจอกันบ่อยๆ

                    เห้ยๆ ไม่เอาน่า

                    "เดี๋ยวก่อน นั่นมันฝันไม่ใช่เหรอ ?"

                    "ฝัน?"

                    "ใช่ คำพูดนั่น ผมพูดในฝัน ฝันที่อยู่ๆตนเองก็ไปโผล่ในยานลำหนึ่ง ได้ไปเจอกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ทั้งน่ารัก และน่าสงสาร ที่อยู่ตัวคนเดียว แล้ว เหมือนได้คุยกัน ทะเลาะกันบ่อยๆ แล้วผมก็พูดแบบนั้นออกไป"

                    ตุ้บ!!!

                    "เหวอ!"

                    ผมตกใจทันที ที่เมื่อผมเล่าจบ เธอก็ตบหมอนข้างๆหัวของผมแล้วขึ้นคร่อม ผมทันที ใบหน้าของเธอแดงเรื่อๆ ยิ้มแฉ่งดูดีใจเป็นที่สุด

                    "ใช่เลย!! นั่นแหละ! นั่นแหละ!! นั่นแหละ!!! ชั้นเอง ใช่นายจริงๆด้วย แสดงว่านายกับชั้นต้องมีความรู้สึกอะไรเชื่อมโยงกันแน่ๆเลย เลยทำให้จิตของนายส่งไปถึงยานของชั้น!" เธอเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มหวาน เสื้อหลวมๆ มันก็ช่างเปิดให้ผมเห็นอะไรต่อมิอะไร

                    อืม.... แฟนตาซีจริงๆ ทั้งเนื้อหาที่เธอเล่า และเนื้อนมไข่ที่กระเด้งๆ

                    "สรุปเรามาเข้าเรื่องกันเลยนะ! เกี่ยวกับเรื่องเซ็นสัญญาทำงาน แล้วจะได้เริ่มงานกันเลย"

                    ต่อจากเรื่องฝัน แล้วมาจิตเชื่อมกัน แล้วเข้าเรื่องงานอีกแล้ว เห้อ~~~~ เอาเถอะ ยังไงกว่าจะต้องไปสัมภาษณ์อีกรอบก็อีก 2 วันข้างหน้า จะลองสัมภาษณ์กับคุณเธอก่อนก็ได้ เผื่อได้ค่าตอบแทนที่ น่าจะคุ้มค่า

                    "นั่งดีๆ แล้วค่อยๆพูดนะ เธอคร่อมชั้นแบบนี้มันพูดลำบาก"

                    "โอเค" เธอตอบรับแล้วขยับไปนั่งที่ พร้อมกับหลับตา

                    วิ้ง!!! วูบบบบบบ!!

                    ทันใด ภาพเบื้องหน้าผมและเธอ ก็บิดเบี้ยวขึ้นหมุนวนจนกลายเป็นหลุมอากาศ ขนาดเล็ก พร้อมมือของเธอที่ล้วงเข้าไป แล้วหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา

                    โว้ววววววววว!!! โคตรแฟนตาซีเลยเห้ย!!!

                    "นั่นมันอะไรกันนั่น!!"

                    "ประตูมิติขนาดเล็กชนิดหนึ่ง ซึ่งต้องใช้พลังงานขนาดย่อมเพื่อเปิด"

                    โอเคครับ ผมว่าที่เธอพูดมาตั้งแต่แรกๆ น่าจะเป็นความจริงแล้วหละ

                    "เอ้า นี่เลย!" เธอค่อยๆคลี่กระดาษทำสัญญาออก แล้วยื่นให้ผมอ่าน

                    มันเป็นกระดาษที่ถูกเขียนด้วยสีเทียน ลายมือแบบเด็กๆแต่อ่านออกง่าย มีภาพวาดมุ้งมิ้ง เป็นดอกไม้ พระอาทิตย์ยิ้มแฉ่ง และสัตว์หน้าตาแปลกๆ แต่ก็ดูน่ารักเช่น นกมีหางปลา หรือหมามี 8 ขา พร้อมหัวข้อที่มาเป็นภาษาเดียวกับประเทศเราซะด้วย! เมพโคตร โดยเขียนว่า "สัญญาสมัครงานระหว่างเราที่มีฉบับเดียวในจักรวาล \^o^/" 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×