ขนนกกับไม้ขีดไฟ
เรื่องราวของความฝัน มิตรภาพ และความเสียสละของตัวละครแฟนตาซีอย่าง "ขนนก" และ "ไม้ขีดไฟ" ถ้าหาก"ขนนก"สามารถมีความฝันแล้วบทสรุปสุดท้ายของความฝันนั้นจะเป็นเช่นไร ติดตามชม
ผู้เข้าชมรวม
346
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เมื่อ ขนนก ต้องการที่จะมี น้ำหนักตัว
เมื่อ ไม้ขีดไฟ ตกลงใจที่จะช่วย
บทสรุปของการเดินทางจะเป็นเช่นไรโปรดติดตาม
ติดตามเรื่องราวซึ้งๆอื่นได้ที่ www.facebook.com/Gookgookka ค่ะ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ขนนกกับไม้ขีด
ณ ดินแดนแห่งหนึ่ง ในป่าใหญ่ มีขนนก และไม้ขีดไฟ เป็นเพื่อนรักกัน ทั้งสองอยู่ด้วยกันตลอดเวลา และต่างก็มีความสุข แต่ในความสุขนั้นมีปัญหาที่แก้ไม่ได้ของขนนกอยู่อย่างหนึ่ง คือ ตัวของมันมีน้ำหนักเบา เมื่อลมพัดมาขนนกก็จะปลิวไปตามลมถ้าปราศจากความช่วยเหลือของไม้ขีดซึ่งคอยดึงตัวมันเอาไว้
ไม้ขีดไฟล่วงรู้ถึงความกลุ้มใจของเพื่อนรักดี วันหนึ่งมันจึงชวนขนนกไปพบผู้เฒ่าแห่งป่าเพื่อหาทางช่วยขนนกแก้ปัญหาของมัน หลังจากไปพบและแจงปัญหาให้ผู้เฒ่าฟัง ผู้เฒ่าจึงกล่าวว่า “ขนนกเอ๋ย เจ้าจงไปที่ถ้ำตอนใต้ของป่า สุดถ้ำจะมีดินวิเศษซึ่งเมื่อเจ้าสามารถนำมาทาร่างกายของเจ้าเพื่อให้เจ้ามีน้ำหนัก และไม่ปลิวไปตามลมอีก” “แต่ข้าจะเตือนเจ้าว่า ในถ้ำนั้นเจ้าอาจจะต้องสูญเสียบางสิ่งเป็นการแลกเปลี่ยนกับดินวิเศษนั้น ขนนกเอ๋ยเจ้ายังจะอยากไปหรือไม่” “แน่นอนข้าต้องการจะไปเพื่อความฝันสูงสุดของข้า ขอบคุณมากท่านผู้เฒ่า” ขนนกตอบ
ดังนั้นขนนกและไม้ขีดไฟจึงออกเดินทาง เมื่อมาถึงวันที่สามไม้ขีดไฟถามขนนกว่า “ขนนกเพื่อนรัก ตั้งแต่เดินทางมา เราต้องคอยหนีสัตว์ร้ายมากมายทั้งสิงโตไฟ เสือเขี้ยวเพชร และหมีพระจันทร์ เพื่อนยังอยากจะไปต่อหรือไม่” ขนนกตอบว่า “แน่นอน แม้ว่าตัวเราต้องเปรอะเปื้อนหรือต้องเสี่ยงอันตรายอีกสักเท่าไหร่ เราก็ยังอยากไปต่อ” ทั้งสองจึงเดินทางต่อ
ล่วงมาถึงวันที่เจ็ดในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าถ้ำ ไม้ขีดไฟเอ่ย “ในถ้ำนี้ ผู้เฒ่าเตือนว่าเพื่อนอาจต้องเสียอะไรบางอย่างไป เพื่อนยังอยากจะไปต่อหรือไม่” “แน่นอน แม้การเดินทางครั้งนี้จะทำให้เรามีทั้งรอยเปื้อน รอยบิ่น หรือถ้าแม้ว่าเราอาจต้องสูญเสียอะไรเพิ่มเราก็ไม่กลัว”
ทั้งสองจึงเข้าไปในถ้ำ และถ้ำก็เริ่มมืดลงๆเมื่อทั้งสองเดินเข้าถ้ำลึกขึ้นๆ ไม้ขีดไฟจึงถามว่า “ในถ้ำนี้มืดมากเราอาจต้องเจออันตรายถ้าจะไปต่อท่ามกลางความมืดเช่นนี้ ดังนั้นเราขอถามเพื่อนว่าเพื่อนยังอยากไปต่ออีกหรือไม่” “ใช่เพื่อนเอ๋ย เรายังคงอยากไปต่อ” ฉับพลันไม้ขีดไฟจุดตัวเองกับพื้นถ้ำยังผลให้แสงไฟส่องสว่างไปทั่ว โดยการนำทางของไม้ขีดไฟเช่นนี้ ทั้งสองจึงมาถึงปลายทาง ขนนกนำดินวิเศษทาร่างกายตนเองอย่างยินดีและทั้งคู่ก็เริ่มเดินทางกลับ
ครั้นใกล้ปากถ้ำขนนกจึงชำเลืองมองไม้ขีดเป้นครั้งแรก แล้วมันก็เริ่มร้องไห้เมื่อรู้ว่าไม้ขีดไฟเริ่มสั้นลงและกำลังจะมอดดับไป ไม้ขีดไฟกล่าวปลอบโยนเพื่อนของมัน “อย่าร้องไห้เพื่อนรัก เพื่อนได้เลือกเดินทางตามความฝันของเพื่อนแล้ว และเป็นตัวเราที่เลือกจะช่วยให้ฝันนั้นเป็นจริง ต่อไปนี้แม้จะไม่มีเรา เพื่อนก็สามารถจะไปไหนมาไหนด้วยตัวเองได้แล้ว จงมีความสุขเถิด เพื่อนรัก” แล้วไม้ขีดไฟก็มอดลง
ขนนก ร้องไห้และออกจากถ้ำด้วยน้ำหนักของตนเอง เพียงเพื่อจะเดินทางกลับบ้านด้วยรอยเปื้อน รอยบิ่นและคราบน้ำตาอยู่เพียงลำพัง
“ในชีวิตของเรานั้นกี่ครั้งที่เราละเลยต่อคำเตือนด้วยความหวังดีจากผู้อื่น เราอาจจะมองข้ามอันตรายที่เราต้องเผชิญ เพียงเพื่อจะตอบสนองความฝันหรือความต้องการของตนเอง
กี่ครั้งที่เราทำตัวเหมือนขนนกที่มีแต่คำว่า “ตัวเรา” “ตนเอง”
กี่ครั้งที่เราเลือกที่จะเป็นเหมือนไม้ขีดไฟที่ใส่ใจในความต้องการของผู้อื่น และแม้กระทั่งยอมเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น
บางครั้งเราต้องแยกแยะให้ออกระหว่าง “การทำตามความฝัน” และ “การอยู่โดยหลงลืมความเป็นจริง”
เราต้องไตร่ตรองว่าการจะก้าวทะยานไปเพื่อเป้าหมายของเรา อาจทำให้เราต้องสูญเสีย “อะไร” หรือ “ใคร” ในชีวิตไปหรือเปล่า
เพราะเราคงไม่อยากให้ใจของเรา “เปื้อนโคลน”, “มีรอยบิ่น” หรือ “ต้องร้องไห้อยากโดดเดี่ยว” หรอก ถูกมั้ย
ผลงานอื่นๆ ของ โซ่เบาๆ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ โซ่เบาๆ
ความคิดเห็น