คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : One heart One love :: 23
One Heart One Love
-Twenty-Three-
งานศพของตระกูลโอถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายโดยมีแทยอนเป็นผู้จัดการทุกอย่างในงาน
เสียงกลั้นสะอื้นจากคนข้างกายกระทบเข้ามาในโสตประสาท มือหนาที่กำกันไว้บนตักแน่นยังคงไม่ยอมปล่อยออกจากกัน กระทั่งหยดน้ำไร้สีร่วงลงมาบนหลังมือนั่นแหล่ะมันถึงคลายจากกันเพื่อยกขึ้นปาดน้ำตาที่เลอะทั่วเปลือกตาออก
แทยอนทำเพียงเหลือบตามองเซฮุนที่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสักทีด้วยความสงสาร เธอรู้ดีว่าการสูญเสียมันเป็นยังไงเพราะพ่อกับแม่ในปัจจุบันของเธอก็ใช่ว่าจะเป็นผู้ให้กำเนิดที่แท้จริงสักหน่อย
ทั้งแทยอนและจงอินโตมาในบ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในโซลเนื่องจากช่วงที่จงอินเพิ่งเกิดมาลืมตาดูโลกได้ไม่นาน พ่อกับแม่ก็ประสบอุบัติทางรถยนต์จนเสียชีวิต ญาติๆทั้งหลายไม่อยากรับทั้งคู่มาเป็นภาระของตนจึงจัดแจงส่งสองพี่น้องมาอยู่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าแทน
กระทั่งแทยอนอายุ 6 ขวบก็มีหญิงชายคู่หนึ่งมารับเธอกับน้องชายไปเลี้ยง ไม่รู้ว่าถือเป็นโชคดีหรือเปล่าที่ผู้หญิงคนนั้นมีลูกไม่ได้จึงมารับเด็กกำพร้าไปเลี้ยง แถมยังดูแลราวกับว่าพวกเขาเป็นลูกแท้ๆอย่างไรอย่างนั้น
แทยอนเงยหน้ามองท้องฟ้าสีหม่น ก้อนเมฆลอยผ่านไปช้าๆ แสงอาทิตย์ลับสายตาไปแล้วพักหนึ่ง เสียงสวดมนต์ของบาทหลวงดังก้องไปทั่วบริเวณ โลงศพโลงสุดท้ายนับจากเจ็ดวันตั้งแต่ที่ครอบครัวตระกูลโอเสียชีวิตคาบ้าน... ลู่หาน
ศพของแทมิน คิมฮันวอล และโอจูยองถูกนำฝังไปตั้งแต่สี่วันที่แล้ว และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่แทยอนจะพาเซฮุนมาโบสถ์เพื่อประกอบพิธีฝังศพของคนที่เซฮุนรักที่สุด...
จริงๆแทยอนสามารถขอบาทหลวงให้ฝังลู่หานไปพร้อมๆกับอีก 3 คนได้ตั้งแต่สี่วันที่แล้ว แต่เธอเลือกจะไม่ทำ...
..เธอต้องการยื้อเวลาให้ร่างไร้วิญญาณของลู่หานได้อยู่บนโลกจนกว่าจะถึงเวลาแห่งการลาจากที่แท้จริง...
จนกว่าจะถึงเวลาที่เซฮุนจะตัดใจจากลู่หานได้เมื่อโลงศพขนาดกลางถูกฝังกลบลงไปใต้ผืนดินอันเป็นจุดกำเนิดแห่งชีวิตมนุษย์ทั้งโลก และเป็นจุดจุบของชีวิตที่ ‘เส้นด้ายสีน้ำเงิน’ ถูกตัดขาดไปแล้วเรียบร้อย...
‘เส้นด้ายสีน้ำเงิน’ คือสิ่งที่เชื่อมโยงร่างกายและวิญญาณให้เชื่อมถึงกัน และเมื่อใดก็ตามที่เส้นด้ายนี้ขาด นั่นก็หมายถึงห้วงเวลาที่จะใช้ชีวิตบนโลกใบนี้สิ้นสุดลงแล้วเช่นกัน...
หมดลงและเริ่มต้นใหม่ในภพที่คนทั่วไปมองไม่เห็น...
โลกแห่งความตาย...
ร่างไร้เงายืนมองเซฮุนอยู่ข้างๆ ดวงตากลมใสที่เคยว่างเปล่ากลับมีน้ำตาคลอเบ้า ริมฝีปากสั่นระริกและซีดเผือด ใบหน้าที่เคยมีเลือดสูบฉีดและแดงเรื่อตลอดเวลาขาวซีดราวกับกระดาษ
햇살처럼 뜨겁게만 날 안아준 그대여
คนที่คอยโอบกอดฉันไว้อย่างอบอุ่นดุจดั่งแสงอาทิตย์
มือบางเอื้อมไปจะคว้าไหล่ของเซฮุน แต่ก็ได้กลับมาเพียงความว่างเปล่า... มือของเขาไม่อาจจับต้องมนุษย์ได้อีก เขาเป็นเพียงแค่วิญญาณดวงเล็กๆที่ไม่ยอมไปสู่อีกภพภูมิที่ดีกว่า เพราะว่าหัวใจของเขายังคงรู้สึกถึงความรักที่เซฮุนมอบให้...
หัวใจของเขายังผูกพันกับหัวใจของเซฮุน...
아름답게 반짝이며 날 비춰준 그대여
คนที่งดงามและสดใส คนที่มอบแสงสว่างให้กับฉัน
ราวกับสายใยบางๆที่ตัดกันไม่ขาด...
เซฮุน... หยุดร้องไห้ได้ไหม
ลู่หานขยับริมฝีปาก แต่กลับไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมา น้ำตาหยดเล็กร่วงลงบนไหล่ของเซฮุนและจางหายไปอย่างรวดเร็ว...เพราะว่ามันเป็นน้ำตาของวิญญาณ ไม่ใช่น้ำตาของมนุษย์ที่พอไหลลงบนตัวใครก็ตามที่ยังมีเลือดเนื้อ มีจิตวิญญาณครบถ้วนแล้วจะรู้สึกถึงมันได้
ลู่หานพยายามตั้งสติและหยุดร้องไห้ แต่เพราะน้ำตาของเซฮุน.. เขาถึงยังไม่ยอมไปไหน ไม่ยอมตาม ‘ผู้ถือดวงวิญญาณ’ ไปในที่ที่เขาควรอยู่และเหมาะสมกับเขาที่สุด...
“พี่ลู่หาน... ได้โปรดกลับมาหาผม”
“ได้โปรดบอกผมทีว่าทุกอย่างเป็นแค่เรื่องโกหก...”
“บอกผมทีว่าพี่ยังไม่ตายและตอนนี้พี่ยืนอยู่ข้างๆผม”
ลู่หานกัดฟันตัวเองแน่น ความรู้สึกที่แฝงอยู่ในคำพูดของเซฮุนกำลังทำลายความคิดจะไปสู่อีกภพหนึ่งของลู่หานไปแทบสิ้น หยดน้ำไร้สีร่วงลงสู่พื้นโลก... เม็ดฝนตกกระทบลงบนไหล่และมือของเซฮุนพร้อมๆกับโลงศพของลู่หานที่ถูกฝังลงไปใต้เม็ดดินละเอียดพวกนั้นแล้วเรียบร้อย
...การจากลาโดยสมบูรณ์แบบ
ตัดขาดและหยดน้ำตา
ผู้คนมากมายที่มาร่วมงานศพรวมทั้งแทยอนรีบวิ่งเข้าไปหลบในโบสถ์ แทยอนตะโกนเรียกเซฮุนให้ไปอยู่ด้วยกัน แต่ร่างสูงกลับปฎิเสธและเดินตรงไปยังตำแหน่งที่ลู่หานกำลังนอนหลับอยู่
ใช่ พี่ลู่หานแค่นอนหลับ
แค่นอนหลับไปตลอดกาลเท่านั้นเอง...
ลู่หานมองตามเซฮุนไปด้วยความไม่เข้าใจ ร่างสูงเปียกไปทั้งตัว เส้นผมสีเข้มลู่ลงมาปรกหน้าผาก ดวงตาแดงก่ำเพราะน้ำตาและเม็ดฝนซึ่งไหลลงมารวมกันที่เปลือกตา
เซฮุนทิ้งตัวลงหน้าแผ่นหินที่ประทับชื่อลู่หานให้เห็นชัดเจน มือหนาสั่นจนเจ้าของควบคุมไม่ได้แต่ก็ยังฝืนแล้วลูบแผ่นหินตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ดินชื้นๆเนื่องจากฝนห่าใหญ่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อเซฮุนเลยแม้แต่น้อย ริมฝีปากหยักลึกก้มลงจูบแผ่นหินอย่างอ่อนโยนราวกับว่านั่นคือใบหน้าของลู่หาน...ราวกับว่าแผ่นหินที่สลักชื่อเสี่ยวลู่ของเขาไว้อย่างงดงามคือริมฝีปากแดงระเรื่อที่กำลังเชิ้อเชิญให้เขาลิ้มลองความหวานละมุนอย่างคนไม่รู้จักพอ
ลู่หานซึ่งยืนซ้อนอยู่ด้านหลังย่อตัวให้เท่ากับเซฮุน ก่อนจะแนบใบหน้าเข้ากับแผ่นหลังกว้าง... ส่งความอบอุ่นและความรู้สึกสุดท้ายที่ยังตกค้างเป็นตะกอนขุ่นมัวในหัวใจให้กับเซฮุน
언제나 그댄 늘 빛이 나는 사람이기를
ขอให้เธอเป็นคนที่เปล่งประกายได้เสมอไม่ว่าเวลาไหน
ร่างสูงสั่นไปทั้งกาย เพราะเสื้อที่ชุ่มน้ำทำให้ตัวของเขาหนาวเหน็บ และในขณะที่รู้สึกว่าแขนและขาแทบขยับไม่ไหวเขาก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากใบหน้าของใครบางคนที่แนบอยู่กับแผ่นหลัง
อุ่นวาบไปทั่วร่าง...เหมือนกับเวลาที่ลู่หานกอดเขา
เซฮุนไม่หันมองด้านหลังตามที่สมองสั่ง ตอนนี้เขาต้องการทำตามเสียงเรียกร้องจากหัวใจเท่านั้น... เขาต้องการนั่งอยู่อย่างนี้ไปจนกว่าความอบอุ่นและอ่อนโยนนี้จะจางหายไป...
ร่างสองร่างที่นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นเรียกให้น้ำตามากมายไหลมารวมอยู่บนดวงตาได้อย่างง่ายดาย...
แทยอนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย ริมฝีปากสีอ่อนจนเกือบซีดพึมพำอะไรสักอย่างก่อนจะเม้มเข้าหากัน มือเล็กยกขึ้นปิดใบหน้าของตัวเองไม่ให้ใครเห็นน้ำตา
วิญญาณของลู่หานปรากฏแก่สายตาของทุกคนที่มองไปยังจุดเดียวกัน แม้ว่าจะไม่ชัดเจนแต่ก็มองเห็นเป็นรูปเป็นร่าง...
ลู่หานกับเซฮุนกำลังวอนขอพระเจ้าให้อยู่ด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนการลาจากจากความรักทั้งหมดที่มีให้กันจะกลายเป็นเพียงอดีตที่มีค่าให้จดจำไปจนกว่าลมหายใจสุดท้ายจะพรากวิญญาณของเซฮุนออกจากตัว... เพื่ออยู่เคียงข้างลู่หานตลอดไป
ยาวนาน... กว่าความอบอุ่นจะจางหายเป็นเพียงแค่อากาศที่ผ่านมาเพียงครู่ เซฮุนล้มลงแทบจะทันทีกับที่ลู่หานค่อยๆสลายตัวเองเป็นหมอกบางๆแล้วลอยไปรวมกลุ่มกับสายลมวูบเล็กที่ลอยมาโดนตัวของเซฮุนพร้อมกับสติอันน้อยนิดและเปลือกตาหนักอึ้งที่ปิดสนิทลงท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงโหวกเหวกของผู้คนที่ยืนดูเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่จากที่ไกลๆ
“เซฮุน!!!”
이제는 안녕 잘 가
ตอนนี้ต้องจากกันแล้ว ขอให้โชคดี
내 사랑 내 소중한 사람아
เธอผู้เป็นดั่งความรักของฉัน เธอผู้เป็นดั่งคนสำคัญของฉัน
안녕
...ลาก่อน...
“คิดว่าผมไม่ได้ยินหรอว่าก่อนพี่จะไป... พี่พูดว่าพี่รักผม...
.
.
.
...ลู่หานรักเซฮุน... เซฮุนก็รักลู่หานเหมือนกัน”
----------------------------------------
หลังจากเซฮุนฟื้นแล้วแทยอนก็รีบขับรถบึ่งมาที่โบสถ์อีกโบสถ์หนึ่งซึ่งห่างจากโบสถ์ที่ใช้ฝังศพครอบครัวของเซฮุนราวยี่สิบกิโลเพื่อร่วมพิธีฝังศพของน้องชาย...คิมจงอิน
พ่อแม่บุญธรรมรีบวิ่งเข้ามากอดแทยอนทันทีที่ได้พบหน้าสูกสาวที่ทั้งคู่รักราวกับลูกแท้ๆ... แม้ระยะทางจากอเมริกากับเกาหลีจะห่างกันมาก แต่พวกท่านก็รีบเคลียร์งานทั้งหมดแล้วบินกลับมาเกาหลีเมื่อรู้ว่าจงอิน...ลูกชายคนเดียวของท่านเสียชีวิต
น้ำตาของผู้เป็นแม่ไหลลงมาไม่ขาดสายเช่นเดียวกับน้ำตาของแทยอน ทั้งคู่กอดกันแน่นและร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ เสียงบทสวดมากมายลอยเข้ามาในโสตประสาท แต่แทยอนไม่คิดจะสนใจฟังเพราะตอนนี้สมองเธอรับรู้ได้อยู่อย่างเดียวคืออีกไม่นานน้องชายของเธอจะต้องลงไปอยู่ใต้ผืนดินที่ตนกำลังเหยียบยืนชั่วนิจนิรันดริ์
เซฮุนมองคนสองคนซึ่งกอดกันร้องไห้แล้วรีบหลบมายืนอยู่ใต้ต้นไม้ ก่อนจะทิ้งดิ่งลงไปกับความคิดที่เวียนซ้ำแค่เรื่องของลู่หานไม่ยอมหยุดเหมือนกดปุ่มรีเพลย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
ไม่กี่นาทีต่อมาเสียงของบาทหลวงก็จบลง... โลงทั้งสองโลงซึ่งตั้งเคียงกันถูกยกขึ้นก่อนจะลงไปอยู่ในหลุมที่ขุดรอไว้เรียบร้อย
ดอกกุหลาบสีแดงสดนับสิบดอกถูกโปรยลงบนโลงทั้งสอง บาทหลวงก้าวเขามาใกล้กับหลุมทั้งสองหลุม พึมพำบทสวดอโหสิกรรมตามวิธีฝังศพของหลักคริสตศาสนา ก่อนดินมากมายที่ถูกขุดขึ้นมาจะกลับลงไปอยู่ในที่ของมันดังเดิม... ฝังกลบเสร็จก็เป็นอันสิ้นสุดพิธีและสิ้นสุดความสัมพันธ์ระหว่างวิญญาณทั้งสองดวงกับโลกแห่งความจริงที่สมบูรณ์ที่สุด...และงดงามที่สุด...
เส้นด้ายแห่งพี่น้องสะบั้นลงพร้อมกับร่างของแทยอนที่กระตุกสั่นไม่หยุด... ไหล่บางสั่นรุนแรงเพราะบ่อน้ำตาที่กักเก็บๆไว้อีกส่วนหนึ่งถล่มออกมาจากดวงตาคู่สวยอย่างหนัก
จงอิน....พี่ไม่ให้นายไป
แทยอนย้ำกับตัวเองซ้ำๆว่าจงอินจากไปแล้ว... แต่ก็ยังมีเสียงแทรกเข้ามาให้เธอนึกหลอกตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าจงอินยังอยู่กับเธอ
จงอินยังมีลมหายใจ มีชีวิต มีจิตวิญญาณ มีความรู้สึก และมีหัวใจรักที่บริสุทธิ์...
วิญญาณของจงอินกับคยองซูลอยมาอยู่ข้างแทยอน มือที่กุมประสานผละจากกันเพื่อให้จงอินได้กอดลาแทยอนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะไม่มีโอกาสได้พบกันอีกเลยนับจากนี้
แทยอนหลับตาพริ้มเมื่อรู้สึกถึงแรงกอดจากด้านหลังพร้อมเสียงกระซิบที่แสนคุ้นเคย ร่างเล็กหยุดร้องไห้และเอ่ยเบาๆให้สายลมอันแสนอ่อนโยนที่ช่วยประคองร่างให้ตั้งตรงได้รับรู้ถึงคำบอกกล่าวที่เธอต้องการให้จงอินได้ยินก่อนวิญญาณสองดวงจะแตกสลายไปตามกฏแห่งโลกความเป็นจริงที่เธอคัดค้านมาโดยตลอด
“พี่รักจงอินนะ... ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เราได้เป็นพี่น้องกัน และมีพ่อแม่เดียวกันเหมือนชาตินี้อีก สัญญานะ...น้องชายของพี่”
“ครับพี่แทยอน... ลาก่อนนะครับ”
เสียงสุดท้ายพร้อมสายลมวูบหนึ่งพัดผ่านร่างแทยอนไป...
...ตลอดกาล...
“เราต้องได้เป็นพี่น้องกันอีกแน่นอน... ผมสัญญา”
----------------------------------------
ความคิดเห็น