คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : One heart One love :: 24
One Heart One Love
-Twenty-Four-
การที่เราจะลืมใครสักคน... ไม่ใช่เรื่องง่าย
ทางเดินในสวนสาธารณะยามเย็นแบบนี้เข้ากับแบคฮยอนอย่างไม่น่าเชื่อ ร่างเล็กเหวี่ยงแขนไปมาเหมือนเด็กเพิ่งได้ออกมาพบสิ่งใหม่ๆในโลกกว้าง ดวงตาเรียวรีทอประกายสุกสว่างพร้อมกับดวงอาทิตย์ที่คล้อยต่ำลงเรื่อยๆและหายลับสายตาไปในอีกไม่กี่นาที
แบคฮยอนเงยหน้ามองท้องฟ้าสีส้มแดงด้วยความสุขล้นปรี่ บรรยากาศไม่ร้อนหรือหนาวเกินไปของกรุงโซลในเวลานี้น่าทิ้งตังลงบนเตียงเสียเหลือเกิน ขาสองข้างออกเดินต่อไปอย่างไร้จุดหมาย ยิ่งดวงอาทิตย์หม่นแสงลงมากเท่าไรภาพความทรงจำที่เขาพยายามลบมันออกจากสมองก็ฉายชัดขึ้นมา... ช่วงเวลาที่เคยมีทั้งทุกข์และสุขเรียกรอยยิ้มบางๆที่เดาไม่ถูกว่ามีความสุขหรือโศกเศร้าบนใบหน้าอ่อนกว่าวัย ริมฝีปากขบกัดกันแน่นเพื่อสะกดกลั้นน้ำตาแห่งความคิดถึงที่กำลังจะถูกนำออกมาใช้งานอีกครั้งนับตั้งแต่หนึ่งปีที่แล้ว
ปาร์คชานยอล...
จังหวะการก้าวเดินช้าลงเรื่อยๆจนหยุดลงในที่สุด... แบคฮยอนนั่งชันเข่า วางมือลงกับหน้าตักก่อนปล่อยหยดน้ำตาให้ไหลรินลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก
ในขณะที่แบคฮยอนพูดพร่ำเพ้อราวกับคนบ้าฝนห่าใหญ่ก็ค่อยๆโปรยปรายตามลงมา จากหยดสองหยด...เพิ่มเป็นหลายสิบหยด เสื้อตัวบางแนบไปกับร่างจนมองเห็นผิวเนื้อเนียนละเอียดชัดเจน ใบหน้าที่มักเต็มไปด้วยรอยยิ้มแม้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าหวาดกลัวมากแค่ไหนก็ตาม บัดนี้กลับเหลือเพียงใบหน้าของคนซึมเศร้าคนหนึ่งที่ใช้น้ำฝนบดบังน้ำตาของตัวเองไม่ให้ผู้คนที่เดินกางร่มผ่านไปมาได้เห็น...
กล่องความทรงจำที่เป็นดั่งกล่องแพนโดร่า...
เมื่อปิด...ทุกอย่างรอบตัวก็สดใสดังปกติ แต่เมื่อเปิดออก... ความเลวร้ายทุกอย่างก็จะถูกปลดปล่อย
แต่เมื่อเปิดออก...ความทรงจำมากมายก็ทะลักออกมาไม่หยุดดังเกลียวคลื่นยามท้องทะเลเต็มไปด้วยพายุโหมกระหน่ำ...
รอยยิ้มแสนสดใสของชานยอล....ความเป็นห่วงที่ชานยอลเคยมอบให้... และความรักที่มีให้กันและกันมาโดยตลอด...
แบคฮยอนมองตรงไปข้างหน้า... มองผ่านร่างของชานยอลที่ยืนอยู่ตรงหน้าไปอย่างไม่ใยดี... มองผ่านไปราวกับเขาไม่มีตัวตน
เม็ดฝนปะปนไปกับน้ำตาจนแยกไม่ออกว่าอะไรคืออะไร ชานยอลยืนนิ่งคล้ายโดนสาปให้ทำได้แค่นั้น ดวงตาภายใต้แว่นกันแดดปิดบังรอยคล้ำใต้ตาทอประกายแห่งความอึดอัดล้นปรี่ หัวใจแทบแหลกสลายเมื่อแบคฮยอนไม่แม้แต่จะมองมาทางเขา เหมือนกับทุกครั้ง...ตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อนที่ได้พบกัน แบคฮยอนก็จะมีปฏิกิริยาแบบนี้เสมอที่ได้เผชิญหน้ากันตรงๆ
มองผ่านเลยไปราวกับเขาเป็นแค่อากาศธาตุไร้แก่นสาร...ไร้ตัวตน
“แบคฮยอน”
แบคฮยอนก้มหน้างุด ก่อนจะลุกขึ้น ร่างเล็กพยายามยืนตัวตรงแต่กลับรู้สึกเวียนหัวขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ในวินาทีที่คิดว่าตัวเองจะล้มลงวงแขนของชานยอลก็เข้ามารับเขาไปไว้ในอ้อมกอดได้ทันท่วงที
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ...
แบคฮยอนชักสีหน้าก่อนสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดอุ่นๆของชานยอลอย่างแรง ขาสองข้างวิ่งออกจากตรงนั้นไปด้วยความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เสียงฟ้าผ่าแทรกเข้ามาในโสตประสาท...ความกลัวครอบงำหัวใจจนไม่กล้าก้าวเดินต่อไป ดวงตาเรียวทั้งบวมช้ำและแดงก่ำ ริมฝีปากสั่นน้อยๆเพราะความหนาวที่ค่อยคืบคลานเข้ามา
แบคฮยอนกอดอกตัวเองแน่น แม้มันจะไม่อบอุ่นเท่ากอดของอีกคน... แม้จะไม่รู้สึกปลอดภัยเท่าเวลาที่ใบหน้าซุกเข้ากับแผ่นอกของอีกคน
แม้จะเหน็บหนาวมากแค่ไหน...เขาก็ต้องเดินต่อไปด้วยตัวเอง
ปาร์คชานยอล...หลานชายของเจ้าของบริษัทสิ่งทอที่ร่ำรวยที่สุดในแผ่นดินจีนกับผู้ชายที่มีแต่ตัวอย่างเขา... ไม่เหมาะสมกันเลยสักนิด
หลังข่าวเรื่องแบคฮยอนหลอกทุกคนว่าตัวเองความจำเสื่อมแพร่งพรายออกไปถึงหูเหม่ยฉี มีหรือที่คนเป็นหลานชายอย่างชานยอลจะไม่ทราบเรื่อง ชานยอลบินรีบกลับมาเกาหลีทันทีเพื่อทวงหัวใจและชีวิตอีกครึ่งหนึ่งของเขากลับคืน...ทว่าเหม่ยฉี ผู้ผ่านประสบการณ์ต่างๆมามากมายกลับล่วงหน้ามาหาแบคฮยอนเสียก่อนเพื่อขอร้องในสิ่งที่แบคฮยอนไม่อยากได้ยินมากที่สุด
‘อย่ากลับมาหาชานยอลอีกเลยได้ไหม... ลุงต้องการให้ชานยอลไปทำงานให้บริษัทของลุงที่ต่างประเทศและแต่งงานกับผู้หญิงที่ลุงจัดหาให้ในเร็ววันนี้ ถ้าเขายังหาลู่ทางมาพบกับแบคฮยอน เขาจะไม่มีวันยอมทำตามคำสั่งของลุง... ได้โปรดเถอะนะหนูแบคฮยอน’
คำขอร้องของเหม่ยฉีดังก้องในสมอง...
ชานยอลต้องแต่งงานกับคนที่มีฐานะและหน้าตาในสังคนทัดเทียมกัน... เขาต้องใช้อีกครึ่งชีวิตที่เหลือร่วมกับผู้หญิงที่เหม่ยฉีจัดหาให้ ไม่ใช่มาจมปลักอยู่กับเด็กไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างแบคฮยอน
ขอบคุณสำหรับอดีตอันแสนสวยงาม...
ขอบคุณทุกความรักที่นายมีให้กับฉัน...
ขอบคุณที่ทำให้คนคนนี้รู้จักคำว่า ‘ความอบอุ่น’
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแบคฮยอนถึงมีแรงเดินกลับบ้านของตัวเองโดยมีชานยอลแอบตามไปส่งถึงที่บ้าน... แม้ว่าจะโดนอีกคนเฉยชาใส่แต่ชานยอลก็ยังดื้อรั้นที่จะตามแบคฮยอนอย่างนี้ไปตลอด
ขอเวลาแค่สองวันกับการได้อยู่กับแบคฮยอนที่เกาหลีแล้วผมจะรีบกลับไปจีนนะครับลุง...
ชานยอลล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบลูกอมเม็ดเล็กออกมา เขายื่นมันให้กับแบคฮยอนก่อนที่อีกคนจะเดินเข้าบ้าน ร่างเล็กมองลูกอมผ่านๆแล้วปัดมันทิ้งโดยที่ไม่แคร์ว่าชานยอลจะรู้สึกยังไงกับการกระทำของตัวเอง
“ทำไมอากาศวันนี้มันร้อนจังเลยนะ ฝนก็ตกอยู่แท้ๆ ทำไมถึงร้อนขนาดนี้เนี่ย!?” แบคฮยอนสะบัดมือแทนพัดแล้วเปิดประตูเข้าบ้านไป ชานยอลมองตามด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย... แบคฮยอนแกล้งทำเป็นสะบัดมือให้เกิดลมเพื่อให้ชานยอลรู้ว่าที่ตนสะบัดลูกอมเม็ดเมื่อกี้ไปก็เพราะตนร้อน... แกล้งทำเป็นว่าไม่ได้มองสักนิดว่าชานยอลยื่นลูกอมให้ตัวเองอยู่จึงเผลอปัดมันไป
นายเป็นอะไรไปแบคฮยอน...
ทำไมถึงทำตัวห่างเหินกับฉันขนาดนี้...
ชานยอลถอนหายใจด้วยความอึดอัด ทิ้งตัวลงบนพื้นปูนใกล้ประตูบ้านด้วยความเหนื่อยล้า มองฝนที่ตกกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตาพลางกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองไว้... หลับตาลงเพื่อจะได้มองไม่เห็นอะไรอีก
มือหนากำชายเสื้อชื้นๆจนยับยู่ยี่ ขาเหยียดออกไปข้างหน้าคลายความเมื่อยล้า เขาค่อยๆคลายมือออกอย่างแผ่วเบาพร้อมกับจมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งนิทราในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา...
“นายทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร”
แบคฮยอนจับผ้าม่านสีครีมที่ถูกแง้มไว้แน่นเพื่อใช้เป็นหลักยึด ดวงตากลมใสยังเต็มไปด้วยน้ำตาเอ่อล้น พยายามจะหยุดร้องไห้แต่ก็ทำไม่ได้เพราะคนที่นอนอยู่หน้าประตูบ้านของเขา...
หนาวขนาดนั้น... ถ้าไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไง
ความเป็นห่วงเหลือล้นเป็นแรงผลักดันให้แบคฮยอนเดินขึ้นไปหยิบผ้าห่มผืนหนาที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าลงมา สองขาเดินตรงไปที่ประตูก่อนหมุนเปิดมันเบาๆไม่ให้รบกวนการนอนของอีกคน ค่อยๆคลุมผ้าห่มในมือให้กับชานยอลที่เสื้อผ้าบางส่วนเริ่มแห้งแล้ว มองร่างสูงนอนคุดคู้เพราะอากาศที่เริ่มติดลบด้วยดวงตาฉายแววเป็นห่วง แบคฮยอนยั่งยองๆตรงหน้าของชานยอลก่อนจะแตะริมฝีปากลงบนหน้าผากแล้วเลื่อนมาปิดริมฝีปากของชานยอลไว้แนบแน่น...
ขอครั้งสุดท้ายที่จะทำแบบนี้...
ไม่ใช่ดีพคิสหรือจูบเร้าอารมณ์แบบทุกที... แค่ริมฝีปากแตะกันธรรมดาๆแต่กลับมีความหมายมากเกินกว่าที่คนทั่วไปมองเห็น
จูบที่เต็มไปด้วยความหวานละมุน ความเป็นห่วงเหลือคณา และความรักที่ยังคงมีอยู่เต็มหัวใจ...
แบคฮยอนรีบผละออกมาเมื่ออีกคนขยับตัวยุกยิก เขาลุกขึ้นแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว... ทำราวกับว่าเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ขอโทษที่ต้องทำแบบนี้”
นายจะรีบหนีเข้าบ้านไปทำไม...
รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยหรอ...
ชานยอลยังคงหลับตาอยู่อย่างนั้น จุดรอยยิ้มเยาะเย้ยตัวเองที่มุมปาก ความรู้สึกน่าสมเพชและเกลียดตัวเองถาโถมเข้ามาจนหัวใจและสมองตั้งรับไม่ทัน... สัมผัสเบาบางที่ริมฝีปากยังไม่จางหายไปไหน กลิ่นสบู่อ่อนๆจากร่างของแบคฮยอนประทับแน่นอยู่ในประสาทการรับรู้ ผ้าห่มที่แบคอยอนเอามาคลุมให้ถูกดึงขึ้นมาจนถึงปลายคาง
ถึงจะเกลียดกันแต่นายก็ยังอุตส่าห์เอาผ้าห่มมาคลุมให้..
ขอบคุณนะแบคฮยอน
ชานยอลเผยยิ้มแห่งความสุขก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้น กระพริบถี่ปรับโฟกัสสายตาแล้วล้วงเอาอะไรบางอย่างจากกระเป๋ากางเกงอีกข้างขึ้นมา เขาลุกยืนเต็มความสูง พับผ้าห่มให้เรียบร้อย วางมันไว้หน้าประตูบ้านข้างกับกระดาษแผ่นเล็กที่เขาหยิบขึ้นมาเมื่อครู่ ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองบานประตูสีน้ำตาลเข้มนั่นอีก
ไว้พรุ่งนี้จะมาหาใหม่นะ...
----------------------------------------
ยาวนาน... กระทั่งแสงแดดยามรุ่งเช้าส่องลอดผ้าม่านเข้ามาแบคฮยอนที่อยู่ในชุดลำลองสำหรับนอนก็ยังนั่งกอดเข่าตัวเองบนเก้าอี้ทำงานอยู่อย่างนั้น
ขอบตาแดงช้ำและเริ่มคล้ำเนื่องจากอดนอนมาทั้งคืนกระพริบปริบๆสู้กับแสงแดดที่แยงสายตา ขยับกายนิดหน่อยให้ร่างกายได้ปรับตัวก่อนจะค่อยๆลุกยืนตัวตรง ก้าวตรงไปยังโต๊ะเขียนหนังสือแล้วเปิดลิ้นชักกลางออก... รูปคู่ของเขากับชานยอล
มือเล็กสั่นน้อยๆขณะหยิบมันออกมา ไล้นิ้วไปตามกรอบไม้ที่เริ่มมีฝุ่นเกาะแผ่วเบา รอยนิ้วมือสองรอยที่ประทับน้ำหมึกเป็นรูปหัวใจตรงมุมกรอบเรียกน้ำตาให้รินไหลอีกครั้งอย่างง่ายดาย ห้วงความทรงจำและภาพเหตุการณ์ต่างๆจากทุกสถานที่และทุกช่วงเวลาค่อยๆหลั่งไหลเข้ามาในสมอง... ทุกประสาทการรับรู้ต่างนิ่งค้างอยู่อย่างนั้นเพื่อให้แบคฮยอนได้เก็บเกี่ยวความรู้สึกทั้งหมดที่เคยมีไว้ให้มากที่สุด
หยดน้ำไร้สีตกกระทบภาพคู่ในมือ แผ่กระจายไปทั่วใบหน้าของแบคฮยอนที่มีรอยยิ้มประดับไว้และกำลังขยายไปถึงใบหน้าของชานยอลที่โน้มเข้ามาใกล้แก้มใสพร้อมกดริมฝีปากลงไปเต็มที่
กรอบรูปในมือสั่นเร็วแรงเพราะแรงสะอื้นที่แบคฮยอนควบคุมไม่อยู่ ในขณะที่มือเล็กพยายามกำกรอบรูปสี่เหลี่ยมไว้แน่น เสียงกดออดหน้าบ้านก็ดังขึ้นจนแบคฮยอนสะดุ้งตกใจพร้อมกับกรอบรูปที่ตกลงพื้นอย่างแรงเศษกระจกแหลกละเอียดกับใบหน้าของชานยอลที่บิดเบี้ยวไปทำให้แบคอยอนเริ่มใจไม่ดี…
หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชานยอล...
เร็วกว่าความคิดขาทั้งสองก็ออกวิ่งลงมาข้างล่าง ผลักประตูบ้านออกไป ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆเพื่อหาร่างของชานยอลที่น่าจะนอนอยู่แถวนั้น แต่กลับว่างเปล่า ร่างเล็กรีบวิ่งต่อไปโดยไม่สนว่าบุรุษไปรษณีย์ร่างสูงที่ยืนถือจดหมายหลายฉบับในมือจะล้มลงไปอย่างแรงจากการโดนผลักจนกระเด็นไปไกล ตอนนี้สมองมันคิดออกแต่ว่ากำลังเกิดเรื่องไม่ดีกับชานยอลและเขาต้องรีบออกตามหา
ต้องหาชานยอลให้เจอโดยเร็วที่สุด...
ลมแรงๆตีหน้าของแบคฮยอนจนรู้สึกแสบไปหมด แต่เขาก็ไม่สนใจเพราะว่าเป้าหมายที่เขากำลังตามหาอยู่อีกฝั่งของถนนแล้ว
ชานยอลยืนพิงเสาไฟข้างทางพร้อมกับดูดกาแฟแก้วเล็กในมือไปด้วย สายตาที่ล่องลอยไปไกลเหลือบมองด้านข้างก็พบกับร่างของแบคฮยอนที่กำลังวิ่งข้ามถนนโดยไม่ทันระวังรถบรรทุกคันใหญ่ที่พุ่งตรงมาด้วยความเร็วสูงและขับซิกแซกไปมาจนเดาได้ว่าคนขับอาจจะเกิดอาการหลับในเนื่องจากตื่นมาทำงานแต่เช้าตรู่ก็เป็นได้
ไม่เสียเวลาคิดอะไรต่อให้มันซับซ้อน แก้วกาแฟในมือก็ถูกเขวี้ยงลงพื้นพร้อมกับร่างของชานยอลที่พุ่งไปคว้าแบคฮยอนเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ส่วนตัวเองกลับโดนรถบรรทุกคันนั้นขับชนอย่างแรง!
ความเจ็บปวดจากแรงกระแทกแปรเปลี่ยนเป็นอาการชาที่ลามไปทั่วกระดูกสันหลัง ชานยอลกระอักเลือดออกมาอย่างหนัก ขาแทบขยับไม่ได้เพราะติดอยู่ใต้ล้อรถคันที่ขับชนเขา เปลือกตาค่อยๆปิดสนิทจนในที่สุดสติก็หายไปหมดสิ้นพร้อมเสียงกรีดร้องราวขาดใจของแบคฮยอนที่ดังก้องไปทั่วบริเวณ...
“ชานยอล!!!”
----------------------------------------
แบคฮยอนเงยหน้ามองฝ้าเพดานสีขาวสว่างด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่า ตามแขนขาถูกผ้าพันแผลปิดทับไว้ รอยถลอกตรงแก้มขวาที่ขูดกับพื้นถนนบ่งบอกถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เพิ่งผ่านพ้นไปได้อย่างดี
ตอนที่คนขับรถบรรทุกคันนั้นโทรเรียกรถพยาบาลแบคฮยอนทำได้แค่เขย่าร่างไร้สติของชานยอลอย่างกับคนบ้า น้ำตาที่รินไหลออกมาเปรอะเปื้อนไปทั้งใบหน้าของตัวเองและชานยอล เลือดสีสดบนตัวของร่างสูงถูกแบคฮยอนเช็ดออกให้แรงๆจนมือเล็กแสบไปหมด
ประมาณสิบนาทีต่อมารถพยาบาลก็ถึงจุดเกิดเหตุ ชานยอลถูกหามขึ้นรถไปโดยมีแบคฮยอนนั่งอยู่ข้างๆคอยจับมือชานยอลไว้เพื่อไม่ให้อีกคนรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว บุรุษพยาบาลที่นั่งมาด้วยกันทำเพียงแค่มองชานยอลและแบคฮยอนด้วยความสงสารแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ กระทั่งชานยอลถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน และเหม่ยฉีรุดมาถึงโรงพยาบาลพอดีแบคฮยอยถึงหยุดร้องไห้... หยุดร้องไห้และหยุดการทำงานของร่างกายทุกส่วนไปชั่วขณะท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคนที่อยู่รอบด้าน
ชานยอลจะเป็นยังไงบ้างนะ...
คำถามเดิมผุดขึ้นในใจเพราะแบคยอนไม่มีแรงพอจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูด
เวลาผ่านไปเรื่อยๆโดยที่แบคฮยอนทำได้เพียงนอนอยู่เฉยๆรอผลการรักษาของชานยอลที่ไม่รู้ว่าจะดี...หรือจะเลวร้ายจนถึงขนาดที่ว่าเขาทนรับไว้ไม่ไหว
ห้องที่เงียบสนิทราวกับห้องปิดตายกับร่างที่นอนนิ่งๆซึ่งถ้ามองเผินๆก็เหมือนศพที่ยังคงสภาพดีอยู่เพิ่มความน่ากลัวและความน่าอึดอัดมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ
“แบคฮยอน!”
แบคฮยอนเด้งตัวขึ้นแทบจะทันทีกับที่เหม่ยฉีพรวดพราดเข้ามาในห้อง
“ชานยอลเป็นยังไงบ้างครับ!?”
“ตอนนี้หมอต้องการเลือดอย่างเร่งด่วน ชานยอลเลือดกรุ๊ปเอแต่เป็นเอแบบ RH Negative ซึ่งหาได้ยากมากในคนทั่วไป แถมคนที่มีกรุ๊ปเลือดแบบ Negative อย่างนี้รับเลือดได้แค่คนที่มีเลือดเป็นRH Negative เหมือนกันเท่านั้น ทางโรงพยาบาลกำลังขอเลือดจากโรงพยาบาลอื่นให้อยู่ รอก่อนนะแบคฮยอน... ชานยอลต้องไม่เป็นอะไร หนูใจเย็นๆนะ”
แบคฮยอนแทบไม่เป็นตัวของตัวเองเมื่อรู้อาการของชานยอล..
“ชานยอล!”
“แบคฮยอน ใจเย็นๆ!”
“ปล่อยผม! ผมจะไปหาชานยอล ปล่อยสิ! ปล่อย!!”
เขาทำท่าจะลุกขึ้นจากเตียงแต่ก็โดนเหม่ยฉีพุ่งเข้ามากดร่างลงไปอย่างเดิมเสียก่อน แบคฮยอนทั้งดิ้นทั้งโหวกเหวกโวยวายจนพยาบาลหลายคนรีบเข้ามาดูเหตุการณ์ในห้อง พยาบาลวัยกลางคนคนหนึ่งซึ่งน่าจะมีประสบการณ์มากกว่าคนอื่นๆสั่งให้พยาบาลรุ่นน้องที่ยืนอยู่ด้านข้างออกไปตามบุรุษพยาบาลสองสามคนเข้ามาในห้องพร้อมเข็มยานอนหลับและผ้าสีขาวสี่ผืนเพื่อเอาไว้ตรึงร่างของแบคฮยอนลงกับเตียง
“คุณจะทำอะไร!? ปล่อยผม!”
ร่างเล็กโวยวายเสียงดังเมื่อผ้าทั้งสี่ผืนถูกนำมาใช้มัดแขนขาของเขาไว้กับเตียงอย่างแน่นหนา แบคฮยอนกรีดร้องราวกับคนเสียสติ มองเข็มฉีดยาซึ่งตรงเข้ามาใกล้ร่างของตัวเองด้วยความกลัว ตั้งใจจะสะบัดเข็มแหลมนั่นออกไปไกลๆแต่ก็โดนบุรุษพยาบาลและพยาบาลสาวหลายคนล็อคร่างไว้ไม่ให้ดิ้นหนี
“ไม่! ปล่อยผม! ผมไม่ฉีดยา ไม่เอา!!!”
ของเหลวใสในหลอดยาค่อยๆส่งเข้าไปในเส้นเลือดบริเวณต้นแขนขวา แบคฮยอนเคลื่อนไหวช้าลงเรื่อยๆกระทั่งหลับสนิทไปในที่สุด...
ชานยอล....
----------------------------------------
“ชานยอลจากเราไปแล้วนะ...”
“…”
“ชานยอลทิ้งเราไปแล้ว...”
“…”
“...ชานยอล เสียชีวิตแล้ว”
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการได้ยินเมื่อตื่นขึ้นมา...
แบคฮยอนนอนร้องไห้ไปพร้อมๆกับร่างของเหม่ยฉีที่ทรุดตัวลงกอดเข่าตัวเองอยู่ที่พื้น...
ชานยอล...
...จากไปแล้ว...
หมอยื้อลมหายใจชองชานยอลต่อไปไม่ได้... หมอหาเลือดกรุ๊ป A Negative ให้ชานยอลไม่ได้...
หมอปล่อยให้ชานยอลจากเขาไป... หมอใจร้าย
แบคฮยอนไม่พูดอะไรออกมาสักคำ น้ำตาที่ไหลรินลงมาตามหางตากระจายเป็นวงกว้างจนเลอะหมอนไปหมด ผ้าที่เคยมัดเขาไว้กับเตียงถูกคลายออกไปแล้วเพราะทางพยาบาลเชื่อว่าแบคฮยอนคงไม่มีแรงอาละวาดอีกแน่นอน
แบคฮยอนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาฉายแววแห่งความว่างเปล่าและหมดสิ้นกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อ
แสงสว่างที่นำทางชีวิตเขามาตลอดตั้งแต่พบกันครั้งแรกดับไปแล้ว......ตลอดกาล
“ปาร์คชานยอล...”
“อย่าทิ้งฉันไป...”
“กลับมา...”
“กลับมาอยู่ด้วยกัน...”
“ฉันขอโทษที่ทำเป็นมองไม่เห็นนาย ขอโทษที่ทำเหมือนนายไม่มีตัวตน ขอโทษ ขอโทษจริงๆ...”
“พระเจ้าครับ... ได้โปรด...
ส่งชานยอลกลับคืนมาให้ผมด้วยเถอะครับ”
--------------------------------------
ความคิดเห็น