Sun&Apple (เศร้า)
ใบไม้สีเหลืองอ่อนค่อยๆ ร่วงหล่นลงมาช้าๆ หล่นสู่พื้นตามด้วยอีกหลายใบต่อมา ต้นไม้ทั่วทุกทิศเหมือนแต่งแต้มด้วยสีน้ำ พื้นหินแกรนิต ที่ปูอยู่ที่พื้น บัดนี้เหลือเค้าน้อยมากว่าเคยเป็นพื้นหิน แทบทุกส่วนของบริเวณเต็มไปด้วยใบไม้โทนสีแดง ไม่ว่าจะตามทางเดิน หรือ บริเวณ น้ำพุขนาดใหญ่  ใบไม้สีเหลือง เป็นสัญญาณของฤดูใบไม่ร่วงไม่มีดอกไม้ดอกไหนผลิบานในยามนี้  มีแต่หัวใจของคนสองคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก คนสองคนท่ามกลางต้นไม้ล้อมรอบตัว 
สวนสาธรณะแห่งนี้คงเป็นที่ๆคู่รักหนุ่มสาวหลายๆคู่มักจะมาเที่ยวกันเสมอ ไม่ว่าจะวันไหน เวลาใดก็ตาม  ณ ที่แห่งนี้ดูเหมือนเวลาจะเดินไปตามปกติในความเป็นจริง และในสายตาหลายๆคน
แต่สำหรับคน สอง คน เขาและเธอ ท่ามกลางต้นไม้สีเหลืองอ่อน บนถนนทางเดินสีเหลืองที่ทอดยาว
สำหรับพวกเขาทั้งสอง เวลาเหมือนได้เดินไปอย่างช้าๆ หรือแทบจะหยุดไปเลย 
    “นี่ฉันซื้อมาให้เธอ ที่จริง
.ฉันซื้อมาเก็บไว้ตั้งนานแล้วล่ะไม่รู้ว่าจะให้ตอนไหนดี จนมีโอกาสวันนี้แหละใส่ไปก่อนนะ  แล้ววันหลังจะซื้อเพชรแท้ให้”
ชายหนุ่ม  อายุประมาณ 19 ปี พูดขึ้น ขณะยื่นมือส่งสร้อยเพชรรูปหัวใจให้แฟนสาว
“ขอบใจนะ นายซื้ออะไรให้ฉันก็ชอบทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องไปซื้อของแท้มาหลอก มันแพงออก  นายเงินไม่พอหลอกน่า” หญิงสาวพูดขึ้น พร้อมกับหน้าที่แดงก่ำ
“ก็อยากซื้อให้นี่  ถ้าซื้อไห้แล้วต้องเอานะ ไม่งั้นน้อยใจแน่”  เขาพูดขึ้นต่อแล้วส่งยิ้มให้เธอ
“สร้อยเส้นนี้ดูก็คงแพงไม่เบาเหมือนกันนะ ซื้อมาเท่าไรเหรอ”  เธอพูดขึ้นพร้อมทั้งคลำสร้อยเส้นนั้นไปมา
“ก็แพงเหมือนกันแหละ ซื้อไปซะหมดเลย” เค้าพูดแล้วก็ยังยิ้มอย่างนั้นเช่นเคย    ส่วนแฟนสาวถึงกับอึ้งแล้วเงยหน้าขึ้นถามด้วยสีหน้าตกใจ
“หา ! ซื้อจนหมดเงินเลยหลอ  ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้นะ”
“เงินไม่หมด แต่หมดหัวใจต่างหาก” เค้ายิ้มแกมหัวเราะ 
“บ้าน่า อ้วกจะแตก”  เธอพูดขึ้นขณะหน้าแดงก่ำ ก่อนที่จะพูดตัดบทขึ้นมาอีกว่า
“นี่ฉันก็ซื้อของให้นายเหมือนกันนะ” เธอพูดขึ้นแล้วเอามือล้วงลงในกระเป๋าเสื้อ  ชายหนุ่มทำหน้างงๆแต่ก็ยังไม่พูดอะไร 
เธอหยิบแหวนวงหนึ่งขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อ  มันเป็นแหวนเงิน เงินแท้ๆ เรียบๆไม่มีลายอะไร  มีแต่ตัวอักษรสลักคำสั้นๆว่า “ Sun & Apple “ เธอยื่นแหวนวงนั้นให้เค้า เค้ารับมันมาสวมทันที่แล้วยิ้มให้เธออีก
เธอทำท่าเหมือนจะพูดอะไรซักอย่าง แต่ก็ต้องเงียบไปเพราะเค้าพูดแทรกขึ้นก่อนว่า
“ฉันชอบอยู่แล้วล่ะ “แล้วก็ส่งยิ้มให้เธออีก
แล้ว  เธอไม่พูดอะไรต่อแค่ส่งยิ้มกลับ
แล้วเค้าทั้งสองก็เดินจากไป
..จากตรงนั้น
    ซันกับแอปเปิลคบกันมาได้ 7 เดือนแล้วเค้าสองคนบังเอิญ เจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง วันนั้นเค้าทั้งสองสั่งอาหารชนิดเดียวกัน แถมพร้อมกันอีก แต่ทางร้านไม่สามารถทำออกมาสองจานได้เพราะของไม่พอจึงทำได้แค่จานเดียว  และด้วยความเห็นแก่กินของเค้าทั้งสอง พวกเค้าจึงตัดสินใจมานั่งกันโต๊ะเดียวกันซะเลย และนั้นแหละจุดเริ่มต้นของความรักซึ่งออกจะแปลกๆไปซะหน่อย
    ซันเป็นคนอารมณ์ดีแต่พูดน้อยไปหน่อย ไม่หน่อยล่ะพูดน้อยมากๆเลย เค้าเป็นคนค่อนข้างเงียบๆดูออกจะเย็นชา แต่เค้าเป็นคนที่ชอบยิ้ม เอะอะอะไรก็ยิ้ม วันๆเอาแต่ยิ้ม  รอยยิ้มที่อบอุ่น ต่างกับแอปเปิลที่เป็นคนค่อนข้างใจร้อน คิดมาก ขี้งอน เอาแต่ใจ(นิดหน่อย) และอีกสารพัดที่จะจุกจิกได้  แต่ไม่ว่ากี่ครั้งกี่หนที่แอปเปิลทำตัวงี่เง่าน่ารำคาญใส่ซัน สิ่งเดียวที่เธอจะได้รับจากเค้าก็คือ รอยยิ้ม รอยยิ้มที่อบอุ่นเหมือนเคย
    ความรักของเค้าทั้งสองราบรื่นมาโดยตลอด แต่แล้ว ก็ถึงวันหนึ่ง  จากที่คบกันมานาน
.
1 ปีต่อมา  13 มีนาคม  8.00น.
“ฮัลโหล ซันเหรอ” แอปเปิลวิ่งไปรับโทรศัพท์ทันทีที่มันดัง
“เอ่อ
ไม่ใช่ครับนี่พี่ เซ็น นะ คือเรื่องที่ซันเค้าจะพาไปเที่ยวน่ะ เค้าคงพาไปไม่ได้แล้วล่ะ”
“อ้าว! อีกแล้วหลอคะ หือ ช่วงนี้ผิดนั้นบ่อยจังนะคะ”
“คือ ก็ต้องขอโทษแทนซันเค้าด้วยนะ  น้องชายผมเค้ามีธุระจริงๆน่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกคะ ถ้าว่างวันไหน ค่อยไปใหม่ก็ได้”
“เอ่อ
แล้ว
แต่ช่วงนี้คงจะไม่ค่อยได้เจอเค้าหรอกนะครับ”
“ทำไมเหรอคะ?”
“อืม
ก็คุยกับเค้าทางเน็ตไปก่อนแล้วกัน เช็คเมลล์บ่อยๆแล้วกันนะครับ”
“อ่า
ก็ได้คะ แค่นี้ก่อนนะคะ”
“หวัดดีครับ”
เธอวางโทรศัพท์ลงพร้อมสีหน้าที่สลด ช่วงนี้ซันผิดนัดบ่อยมาก แล้วก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลย ได้แต่คุยกันทางเน็ตมือถือมีก็ไม่ค่อยได้โทรเหมือนเค้าจะหนีหรือหลบหน้าแอปเปิลยังไงยังงั้น หลายครั้งที่เธออดคิดแบบนั้นไม่ได้เพราะเค้าเงียบหายไปจริงๆ  หลายครั้งที่แอปเปิลต้องแอบร้องไห้อยู่ในห้องเพราะกลัวซันจะทิ้งเธอไป  แต่นั้นแหละเธอก็ยังไม่รู้อะไรเพิ่มจากเค้าอยู่ดี
3 อาทิตย์ต่อมา
ขณะที่แอปเปิลกำลังเช็คเมลล์
“แอปเปิล ขอโทษจริงๆนะที่ไปหาไม่ได้เลย ผมติดธุระจริงๆน่ะ อย่าโกรธกันเลยนะ ไม่ได้เจอกันตั้ง 3 อาทิตย์
คิดถึงเธอที่สุดเลย พรุ่งนี้ผมจะพาไปเที่ยวแล้วกันนะ ที่สวนสาธารณะที่เดิม 10 โมงเช้า คราวนี้ผมสัญญาจะไปไห้ได้เลย “
เธอปิดเมลล์นั้นลงสีหน้าไม่แสดงอารมณ์  ทุกสิ่งในห้องนั้นเงียบลงไม่มีเสียงใดทั้งสิ้น นอกจากเสียง  ร้องไห้พร้อมน้ำตาที่ไหลลงเลอะคีบอร์ด
   
รุ่งขึ้น
บรรยากาศมืดครึ้ม  เมฆสีทึบปกคลุมไปทั่วบริเวณ นี่เป็นฤดูฝนแล้ว ใบไม้สีเหลืองอ่อนหายไป เหลือแต่ต้นไม้เขียวขจีที่เปียกชุ่มไปด้วยหยดน้ำ
    คู่หนุ่มสาวแทบทุกคู่กลับกันไปหมดแล้ว เพราะกลัวเปียกฝน เหลือแต่แอปเปิล ที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม  ตรงม้านั่งที่เป็นจุดนัดหมาย
    เธอนั่งตรงนี้ มา 2 ชั่วโมงแล้ว ตั้งแต่สิโมง จนถึงเที่ยง แต่ ซัน ก็ยังไม่มา  แต่เธอก็คงไม่คิดอะไรมากอีกแล้ว เพราะช่วงนี้ ซัน ผิดนัดซะจนเธอชินแล้ว เธอก็คิดๆอยู่ว่าเค้าคงไม่มาแล้ว แต่ก็ไม่กล้ากลับเพราะกลัวว่าถ้าเธอกลับแล้วเค้ามาพอดี  คงจะไม่ได้เจอกันอีกแน่
    ในใจเธอก็ ภาวนา ภาวนาขอให้ฝนตกเร็วๆ เพื่อที่จะได้ไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังร้องไห้ 
5 นาทีต่อมา  เม็ดฝนเม็ดเล็กๆก็ค่อยๆล่วงหล่นลงใบหน้าของเธอ  แล้วค่อยๆตกหนักขึ้นจนตัวเธอเปียกโชกแต่ถึงตอนนี่ ซันก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมาซักที  แต่เธอก็ยังคิดจะรอ รอเค้าอยู่ตรงนี้
13.00น.
ฝนยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก แต่ดูเหมือนมันจะยิ่งตกหนักขึ้นทุกที ทั่วบริเวณไม่มีผู้ใดอยู่เลย มีแต่สาวน้อยคนเดิมคนที่นั่งอยู่ที่เดิม
.นั่งร้องไห้อยู่ที่เดิม 
    ถึงแม้ผ่านมา 1 ชั่งโมงแล้ว ซันก็ยังไม่มาซักที  ใบหน้าของแอปเปิลเปียกโชกไปหมด จนดูไม่ออกว่าน้ำตา หรือน้ำฝน
เธอลุกขึ้นเพราะหมดความอดทน ก่อนจะเดินไปตามทาง เพื่อออกจากสวน แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็มีมือข้างหนึ่งคว้าแขนเธอไว้
ซัน นั่นเอง  ร่างกายของเค้าเปียกโชกไปหมด ท่าทางดูเหนื่อยหอบและอ่อนล้า  แอปเปิลโผเข้าไปกอดเค้าทั้นที ซันก็โอบเธอเอาไว้
“ทำไมถึงมาช้าล่ะ”
“ทำไม”
“ทำไม ตอบฉันสิ ทำไม”
ไม่มีเสียงตอบกลับ  เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเค้า เธอเห็นปากเค้าขยับพูดว่า “ขอโทษ”  แต่ก็ไม่มีเสียงเลยซักนิด  คงจะเป็นเพราะว่าฝนตกหนักมากเธอจึงไม่ได้ยินเสียงของเค้า แต่ดูท่าเค้าก็ไม่พยายามจะตะโกนไห้เธอได้ยิน
อีกปีต่อมา  28 มกราคม
นับจากวันนั้น ที่แอปเปิลและซันได้เจอกันที่สวนสาธารณะตอนฝนตก  ซันก็ไม่พูดกับแอปเปิลเลย สักคำ คำเดียวก็ไม่มีเค้า
ไม่พูดเลย! ในตอนนี้เค้าก็เหมือนคนใบ้ ที่ไม่ยอมพูดอะไรเลยซักคำ เค้าไม่ยอมพูดกับแอปเปิลเลย มือถือที่มีก็ไม่ได้ใช้มาเป็นปีแล้วมีแต่ติดต่อกันทางเน็ตแอปเปิลพยายามถามซันว่าทำไมไม่พูด แต่ซันก็มักจะตอบกลับมาเหมือนๆเดิมก็คือ
“ซักวันฉันจะบอกเธอเอง  รอหน่อยนะคนดี”
แล้วเมื่อไรล่ะ? แอปเปิลมักมีคำถามนี้อยู่ในใจเสมอ เค้าไม่ยอมพูดกับเธอมาเป็นปีแล้ว  เธอต้องยอมทนรับความเจ็บปวดจากอาการเฉยเมยและดูเย็นชาจากคนที่เธอรัก ถ้าไม่รักกันแล้วก็น่าจะพูดออกมาตรงๆ ขออย่ายืดเวลาแล้วทำเป็นไม่สนใจแบบนี้
จะบอกว่าเลิกไปเลยมันก็ยังดี เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมเค้าถึงไม่ยอมพูดเลยซักคำ  เธอไม่รู้ว่าเค้าจะทรมาณเธอไปถึงไหน เธอไม่กล้าเป็นฝ่ายบอกเลิก เพราะเธอรักเค้ามากเกินกว่าจะพูดออกมาว่าไม่รักได้  สิ่งเดียวที่เธอจะทำได้คือ ร้องไห้ 
5 กุมภาพันธ์  สวนสาธารณะ 9.00น
ซันกับแอปเปิลยืนจับมือกันอยู่ที่สวนสาธารณะ  พวกเค้าสองคนแทบจะไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำ  แอปเปิลก้อมหน้ามองพื้น ก่อนที่จะเหลือบดูมือข้างซ้ายของซันที่จับมือเธออยู่   
แหวนที่เธอให้ เค้าถึงตอนนี้ถ้าดูที่นิ้วมือ จะไม่มีวี่แววเลยซักนิดว่าเค้าเคยสวมใส่มัน  มันไม่ได้อยู่ที่นิ้วเค้าอีกแล้ว แอปเปิลกัดฟันฝืนทนความปวดร้าวเธอก้มหน้ามองพื้นอีกแล้ว และก็ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาอย่าง เงียบ
เงียบ
น้ำตาหลายหยดตกลงสู่พื้น มันตกลงไปพร้อมกับการทำใจยอมรับ ปลายทางของความรัก เธอปล่อยให้มันไหลอยู่อย่างนั้น ก่อนที่จะปาดน้ำตาของตนเอง แล้ว
“ นี่ซัน..ฉันขอกลับก่อนนะ ง่วงนอนอยากกลับบ้านน่ะ ไม่ต้องไปส่งล่ะ ฉันกลับเองได้”
เธอก็ปล่อยมือเค้าแล้วเดินจากไป
10 กุมภาพันธ์  ที่ร้านหนังสือ  14.15น.
แอปเปิลกำลังเดินเลือกหนังสืออยู่ที่ร้าน PAPA  ร้านหนังสือที่เธอชอบมาที่สุด ซันไม่ได้มาด้วย เธอมาคนเดียว  ในขณะที่เธอกำลังเลือกหนังสืออยู่นั้น เธอได้มองออกไปที่ร้าน ขายเครื่องประดับที่อยู่ตรงข้าม 
   
ภาพที่เธอเห็นอาจสร้างความกระจ่างชัดให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับซันมา 2 ปี 
เธอเห็นซันในร้านนั้น
กับผู้หญิงน่าตาน่ารักอีกคนหนึ่ง
เค้าสวมสร้อยเพชรรูปหัวใจให้ผู้หญิงคนนั้น
แบบเดียวกันกับที่เคยให้แอปเปิลเมื่อสองปีก่อน
ต่างกันตรงที่
นั้นเป็นเพชรแท้ที่ซันเคยสัญญาว่าจะซื้อให้
แอปเปิล
น้ำตาหยดใสๆ ไหลลงมาจากตา
ใบหน้าที่เย็นชา กับหัวใจที่แตกสลาย 
ความจริงที่ข้องใจ ในที่สุดถูกคลี่คลาย
มันไม่สายเกินไปหลอก
ถ้าเธออยากจะบอกว่าไม่รักกัน
13 กุมภาพันธ์
“ ฮัลโหล”
“ แอปเปิลนี่พี่เซ็นนะ”
“คะ”
“คือ พรุ่งนี้ไปหาซันที่ร้านอาหารที่เดิมนะ”
“ไปไม่ได้คะ”
“อ้าวทำไมงะ นะๆๆๆๆๆไปหน่อยนะ”
“ไม่คะ”
“พรุ่งนี้นะ สุดท้ายแล้ว เรื่องมันจะได้จบซักที”
“เรื่องอะไรคะ”
“โธ่! พี่รู้นะว่าที่ซันไม่ยอมพูด เธอก็ต้องข้องใจสงสัยเป็นธรรมดา พรุ่งนี้ก็จะได้รู้กันแล้ว”
“พี่พูดมาให้หนูฟังเลยดีกว่า” 
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ซันมันก็พูดกับเธอเองแหละน่า ไปนะๆ”
“ ก็ได้คะ”  แล้วเธอก็กระแทกหูโทรศัพท์ลงทันที
“ในที่สุดมันก็จบกันซักทีความรักของเรา”
14 กุมภาพันธ์  ที่ร้านอาหาร 11.00น.
แอปเปิลนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร เธอนั่งรอซันเหมือนเดิม ซันเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอย่างช้าๆแอปเปิลพยายามหลบสายตาเค้าและพยายามคิดว่าตนเองจะทนฟังคำบอกเลิกของเค้าได้ไหม ยิ่งคิดยิ่งเจ็บเธอก้มหน้าลงกับพื้น คิดๆอยู่ว่าจะปล่อยให้เค้าพูดคำนั้นออกมาดีไหมหรือเธอจะพูดเองแล้วรีบๆเดินออกจากร้านนั้นซะ ความคิดมากมายวนเวียนอยู่ในหัวสมองของเธอ ก่อนที่ซันอ้าปากกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แอปเปิลก็กัดฟันแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมคราบน้ำตา
“นายไม่ต้องพูดอะไรแล้ว!  ฉันไม่อยากฟัง “ ซันเกิดอาการตะกุกตะกัก พูดอะไรไม่ออก แล้วก่อนที่เค้าจะพยายามพูดอะไรอีกแอปเปิลก็พูดออกมาทั้งๆที่ยังก้มหน้าร้องไห้
“เราจบกันแค่นี่เถอะ!!”  เธอพูดมันออกไปจนได้ ก่อนที่จะวิ่งออกไปหลังร้านทันที ซันพยายามรั้งเธอเอาไว้ แต่เธอก็ผลักเค้าออกไปจนได้  เธอวิ่งออกมาทางหลังร้านพร้อมใบหน้าที่โชกไปด้วยน้ำตา แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร
“ฮัลโหลครับ”
“พี่เซ็นคะ ขอโทษด้วยนะคะ (สะอื้น) เราเลิกกันแล้วคะ”
“อ้าว!เฮ้ยทำไมงะ ซันบอกเลิกเธอหลอ”
“หนูพูดเองคะเค้าไม่ได้พูดอะไรเลย”
“โธ่! เอ้ย ทำไมไม่ฟังเค้าพูดเล่า เธอรู้ไหม 2 ปีมานี้เค้าทำเพื่อเธอขนาดไหน!  รู้ไหมทำไมเค้าไม่พูด ก็เพราะเมื่อสองปีก่อน เค้าเป็นโรคเกี่ยวกับกล่องเสียงที่หาสาเหตุไม่ได้! ทำไห้เค้าพูดไม่ได้ แต่หมอบอกว่ามันจะหายเองได้ แล้ววันเนี้ย! เค้าพึงหายจากโรคนี้ เค้ากะจะเก็บคำพูดคำแรกในรอบ 2 ปีไว้ไห้เธอในวันนี้ แล้วที่เค้าไม่ยอมบอกเธอก็เพราะกลัวเธอรับไม่ได้
และรู้ไหมที่เค้ามักไม่มีเวลาให้กับเธอก็เพราะเค้าเอาเวลาทั้งหมดไปทำงานพิเศษเพื่อซื่อเพชร แท้ให้เธอ!!!  แล้วที่วันนั้นเค้ามาหาเธอช้าจนเธอต้องเปียกฝนก็เพราะ หมอนัดเค้ากระทันหัน รู้บ้างไหม!!เค้าทำเพื่อเธอตลอดเลย ขนาดเมื่อวันก่อนเค้าไปร้านขายเครื่องประดับ เพื่อหาซื้อสร้อย
ให้เธอ! เค้าให้พนักงานร้านลองใส่ดูตั้งหลายคนแต่ก็ไม่ถูกใจซักที  โธ่!เว้ย!  รู้บ้างไหมว่าเค้าทุ่มเท่ให้เธอขนาดไหนแล้วทำไมเธอถึงทำกับเค้าแบบนี้!  รู้ไหมเค้ารักเธอแทบตาย!!!
..” แอปเปิลไม่อาจฟังพี่ชายซันพูดจนจบได้เธอปล่อยโทรศัพท์ร่วงลงจากมือ แล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปในร้าน 
แต่เค้าไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว!  แอปเปิลรีบวิ่งออกไปหน้าร้าน เธอเห็นเค้าอยู่อีกฟากของถนน  เธอหยุดมองเค้าก่อนที่จะค่อยๆยิ้มทั้งน้ำตา  เธอวิ่งข้ามถนนไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เธอวิ่งเข้าใกล้เค้าทุกทีๆ  ก่อนจะถึงตัวเค้า
มีรถคันหนึ่ง วิ่งตรงมาที่ทางสายนั้น มันพุ่งตรงมาที่เธอ คนขับเบรกไม่อยู่
.
    ซันวิ่งออกมา  แล้วคว้าตัวแอปเปิลไว้ เค้าเหวี่ยงเธอจนกระเด็น  รถคันนั้นยังพุ่งเข้ามา
แล้วก็พุ่งชนซันเข้าอย่างจัง
รถหยุดลงทันที แอปเปิลไม่เป็นอะไรเลย แต่ซันยังไม่ลุกขึ้นมา  เธอวิ่งไปกอดเค้า แล้วร้องไห้ โฮ..
“ซัน  นี่อย่าเป็นอะไรไปนะ นายต้องแข็งใจไว้นะ”  เธอพูดทั้งๆที่ร้องไห้ พูดสารพัดที่จะพูดได้  เจ้าของรถ รีบโทรศัพท์ไปที่โรงพยาบาลบรรยากาศ รอบๆตัวของซันออกจะวุ่นวาย เค้าคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดด้วยซ้ำ เค้าไม่ได้ยินแม้แต่เสียงของแอปเปิลเค้าเห็นปากเธอขยับ เห็น
เธอร้องไห้  เห็นน้ำตาของเธอไหลลงบนหน้าของเค้า แต่เค้าก็ไม่ได้ยินอยู่ดี แล้วภาพทุกอย่างก็ค่อยๆ ขาวขึ้นๆ แล้วสติความคิดเฮือกสุดท้ายของเค้าก็พยายามสั่งการ ให้เค้าพูด พูดคำที่เค้าเก็บมานานถึง 2 ปี คำแรกที่เค้าอยากจะพูดในรอบ 2 ปี คำพูดที่เค้าเก็บไว้สำหรับเธอคนเดียวคนนี้ของเค้าเท่านั้น และเป็นคำสุดท้ายของชีวิตนี้
“ ฉัน รัก -- เธอ”
แล้วภาพที่เค้าเห็นก็คือภาพ เค้าและแอปเปิล ยืนอยู่ในสวนสาธารณะ ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ที่มีใบเป็นสีเหลืองอ่อน ยืนอยู่บนถนนที่เต็มไปด้วยใบไม้ มันเป็นภาพนั้น ภาพเดิมตอนที่เค้าให้ของขวัญแอปเปิล แล้วเค้าก็เห็นรอยยิ้มอันแสนสุขของเธอ กับรอยยิ้มของตนเอง  แล้วทุกๆอย่างมันก็ค่อยๆมืดลงๆ จนหายไปในที่สุด
   
แอปเปิลยังร้องไห้ไม่เลิกเธอพูดว่า ขอโทษ ซ้ำๆเป็นร้อยๆครั้ง ก่อนที่จะสังเกตเห็นสร้อยเพชรในมือเค้า สร้อยเพชรที่เค้าเฝ้าอุตสาห์ ซื้อมาให้เธอ 
   
เพชรน้ำงามที่หลายคนโหยหากลับมีค่าไม่ถึงครึ่งเมื่อเทียบกันหยาดน้ำตาที่ไหลรินจนอาบหน้าของเธอ สิ่งที่ได้มาเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เสียไป เธอเห็นแหวนวงนั้น วงที่เธอเคยให้เค้า ใส่สร้อยห้อยไว้ที่คอของเค้า เค้าไม่เคยไม่ทิ้งมันไปเลย แต่เก็บมันไวกับตัวตลอด ความรักที่เค้ามีให้ไม่เคยจะน้อยลงซักนิด แต่เพราะอะไรเธอถึงไม่ไว้ใจเค้าขนาดนี้ หัวใจของเค้าหยุดเต้นแต่ความรักของเค้ามันไม่ได้ตายไปด้วยเลย มันยังอยู่ตรงนี้ ที่แหวน ที่สร้อย และในหัวใจของเธอ
   
จนถึงตอนนี้ แม้หัวใจเค้าจะหยุดเต้นไปแล้ว แต่รอยยิ้มที่เค้ามักมีให้เธอนั้นยังอยู่ เค้ายังยิ้มให้เธออยู่เสมอ รอยยิ้มแบบเดิม ที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น ความห่วงใย และความ รัก
.
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น