คีย์รักของหัวใจ - คีย์รักของหัวใจ นิยาย คีย์รักของหัวใจ : Dek-D.com - Writer

    คีย์รักของหัวใจ

    เรื่องราวระหว่างชายหนุ่มผู้เป็นครูสุดเนียบ ที่กำลังจะขอแต่งงานกับเธอผู้ที่เป็นนักเรียนของหัวใจ

    ผู้เข้าชมรวม

    183

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    183

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 พ.ค. 50 / 21:57 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      "วันนี้ พอแค่นี้แหละ"   กฤษณุ พูดขึ้นเขาคือครูสอนร้องเพลงให้กับ เรนุกา 

      "กว่าจะพอได้ซะที" เรนุกาเอ่ยขึ้นเบาๆ แต่คนหูดีก็ยังได้ยิน  จึงพูดต่อขึ้นว่า

      "แล้วจะเอาอีกมั้ยหล่ะ" 

      "พอได้แล้ว!! กลับๆไปซะที" ตอนนี้เรนุกาใกล้เหมือนปรอทที่กำลังจะปริแตกได้ทุกเมื่อแล้ว 
      เธอกำลังโกรธผู้เป็นทั้งครูทั้งศัตรูที่อยู่ตรงหน้า โดยที่เจ้าตัวไม่มีทีท่าว่าจะรีบร้อนแต่กลับลอยหน้าลอยตาค่อยๆเก็บอุปกรณ์การสอนต่างๆเข้ากระเป๋าซะงั้น

      "ผมกลับอยู่แล้วไม่ต้องห่วงหรอก  หรือว่า..อยากให้ผมค้างซะที่นี่ดีมั้ยหล่ะ"
       กฤษณุไม่เพียงตอบอย่างเดียวแต่เขากลับกวนประสาทเธอกลับซะอย่างงั้น 

      "นี่  คุณ...."
      เสียงเธอสั่นยังไม่ทันที่เรนุกาจะได้พูดอะไรต่อ ก็มีคนเดินเข้าในห้องดนตรี เขาคือแม่ของเธอนั่นเอง

      "เป็นไงบ้างลูกเรียนรู้เรื่องมั้ย  หวังว่าครูคงสอนดีเหมือนเดิมนะ เลิกเรียนแล้วใช่มั้ยจ๊ะ"
      แม่ของเธอถามเรนุกาและหันไปมองหน้าของชายหนุ่มเป็นเชิงถาม

      "ครับ"  กฤษณุตอบผู้ที่เป็นเจ้านายของตนอย่างนอบน้อม

      "เพิ่งจะเลิกเนี่ยแหละค่ะ  กว่าจะเลิกได้นานเป็นชาติ  แถมเขายังแกล้งหนู
      ให้ร้องแต่คีเดิมเป็นสิบๆรอบเลยด้วย เขาหาเรื่องแกล้งหนูชัดๆ" เรนุกาบ่นกระปอดกระแปดกับแม่ของตัวเอง

      "เราไปหาเรื่องอะไรเขาก่อนล่ะ….ไม่ต้องมาหน้าหงิกเลย  เออ...นี่ครูกฤษณุมีอะไรรีบมั้ยค่ะ ถ้าไม่มีอะไรรีบก็อยู่กินข้าวเย็นกันที่มีก่อนนะ"

      เรนุกายังหงุดหงิดที่แม่ตัวเองไม่เข้าข้างแถมยังไปชวนอีตานี่มากินข้าวกับเราอีก แล้วพอเห็นชายหนุ่มตอบรับด้วยความยินดี จึงทำให้เธอยิ่งหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้น  
        กฤษณุเป็นชายหนุ่มที่กำลังศึกษาอยู่ปี4 เขามาทำงานพิเศษเพื่อหารายได้โดยการสอนร้องเพลงและเมื่อปีที่แล้ว เรนุกาลูกของเจ้าของร้านผ้าแพรรายใหญ่เกิดอยากร้องเพลงขึ้นมา เธอจึงขอมารดาของเธอไปเรียนร้องเพลง แต่แม่ของเธอไม่อยากให้ออกไปข้างนอก จึงว่าจ้างครูสอนร้องเพลงมาสอนเธอถึงที่บ้าน เขาก็คือกฤษณุนั่นเอง
      กฤษณุเป็นหนุ่มร่างสูงและมีหน้าตาที่นับได้ว่าดีทีเดียว  เขาสอนร้องเพลงให้เธอตั้งแต่ปีที่แล้ว  จึงเข้าใจนิสัยเธอดี  เรนุกาอายุไม่ห่างจากเขาเท่าไหร่เธอก็พึ่งจะขึ้นปี 3อายุจึงห่างกันเพียวแค่ปีเดียว  

      ทั้งคู่เกิดความผูกพันธ์กันเข้าในระหว่างที่กฤษณุมาสอนเธอร้องเพลง ทั้งพ่อแม่ของเรนุกาก็เห็นดีเห็นงามไปด้วย เพราะเขารู้จักนิสัยของกฤษณุดีแล้ว
       
      จนวันหนึ่งก็มีแฟนเก่าของชายหนุ่มมาปรากฏตัว เขาบอกเธอว่าไม่มีอะไร และขอให้เธอเชื่อใจเขา    แต่แล้วภาพที่เธอเห็นนั้นกลับไม่ใช่อย่างที่เขาพูดไว้ชายหนุ่มโอบกอดแฟนเก่าของเขาอย่างที่อากาศไม่สามารถแทรกผ่านทั้งสองไปได้ 
      เขาพยายามเชื่อกฤษณุ และหวังว่าเขาคงจะมาเล่าให้ฟังแต่เปล่าเลย จนถึงตอนนี้เขาก็ไม่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันจึงทำให้เธอยิ่งอารมณ์เสียเข้าไปอีก 

      "ขอบคุณนะครับ สำหรับอาหารมื้อนี้" กฤษณุขอบคุณและเอ่ยลาขอตัวกลับหลังจากที่รับประทานอาหารเย็นเสร็จ

      วันนี้ก่อนกลับกฤษณุบอกเรนุกาว่าเขาจะมารับไปทานอาหารเย็นพรุ่งนี้  เธออยากปฏิเสธ แต่เธอก็เลยถือโอกาสว่าจะบอกเลิกเขาเสีย ถ้าเขายังไม่คิดอธิบายให้เธอฟังอีก

      รถบีเอ็มซีรี่ย์เจ็ดเข้ามาจอดเทียบริมประตูรั้วที่ทำด้วยไม้อย่างประณีต

      โดยมีหญิงสาวยืนอยู่ก่อนแล้ว กฤษณุลงจากรถแล้วอ้อมมาเปิดประตูให้หญิงสาวเข้าไปนั่ง จากนั้นเขาจึงกลับไปประจำตำแหน่งคนขับรถและขับออกไปยังท้องถนน 

      "ตกลงตามนี้นะครับ"เด็กที่จดรายการอาหารกล่าวก่อนไป
      ตั้งแต่เขาขับรถมาจนถึงร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ไกลออกจากตัวเมืองไม่มากนักทั้งคู่ยังไม่แม้จะปริปากพูดกันเลยต่างคนต่างเงียบ จนชายหนุ่มจึงต้องเริ่มบทสนทนาขึ้น"วันนี้อาหารร้านนี้ท่าทางจะอร่อยนะครับ เรนเห็นด้วยมั้ย" กฤษณุพูดพลางมองบรรยากาศรอบๆร้าน เธอไม่ตอบคำถามเขาแต่ย้อนถามเขากลับ

      "คุณจะไม่อธิบายให้ฉันฟังเลยใช่มั้ย ว่าคุณทำอะไร"
      เรนุกาบอกกับตัวเองว่าเขาคงจะอธิบายเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นให้เธอฟังแล้วเราก็ยังคงเป็นอย่างเดิมและไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

      "ถ้าเรนเชื่อใจผม เราก็ยังคงเหมือนเดิม แล้วผมก็ไม่มีอะไรที่ต้องอธิบาย"
      เธอชะงักไป เธอไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีกับเหตุการณ์ตรงหน้าแต่เธอก็เชื่อใจเขาแม้เขาจะบอกเพียงนี้ ทั้งคู่เริ่มคุยกันเหมือนเดิมจนกระทั่งรับประทานอาหารเสร็จ

      "เรน แต่งงานกับผมนะ" คำพูดของกฤษณุเล่นเอาเรนุกาสำลักน้ำที่พึ่งดื่มเข้าไปทันที

      "อะไรนะ คุณพูดว่าอะไรนะ" เธออยากได้ยินอีกรอบว่าเธอไม่ได้หูฝาดไป

      "แต่งงานกับผมนะเรน ผมรักคุณ"
       ตอนนี้เธอได้ยินชัดแล้วว่าไม่ได้ฟังผิดไปแล้วเขาก็เอาช่อดอกไม้ช่อใหญ่ที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนมอบให้เธอ

      "เอ่อ......" เธออ้ำอึ้ง เพราะมันเป็นเรื่องกะทันหันจึงไม่รู้ว่าจะตอบเขายังไงดี

      "เรนลองเอาไปคิดแล้วกัน ไม่ต้องบอกผมวันนี้ก็ได้.."
       เขาเริ่มเศร้าไป

      "เอ่อ...งั้นเดี๋ยวเรนมานะขอไปเข้าห้องน้ำก่อน คุณอย่าพึ่งไปไหนนะ"

      เธอพูดจบก็รีบเดินออกไปทันที ตอนนี้เธอสับสนไม่รู้จะตอบเขาไปยังไง
      เธอเข้าห้องน้ำไปและล็อคประตูขังตัวเองไว้อยู่คนเดียว เธอรักเขาไม่ใช่หรอ
      ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเธอรักเขามาตลอดไม่ใช่หรอ แล้วตอนนี้เขาก็ขอเธอแต่งงานแล้ว
      เธอก็ควรจะดีใจแล้วตอบตกลงเขาไปไม่ใช่หรอ เธอออกจากร้านอาหารแล้วเดินไปตามถนน
      เธอเดินไปคิดไปจนไปถึงสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง มีคนขายลูกโป่งและเด็กที่ยืนร้องไห้งอแงอยู่ข้างๆ เธอเดินไปหาแล้วจึงรู้ว่าเด็กสาวร้องเพราะอยากได้ลูกโป่งแต่ไม่มีเงิน เธอซื้อให้เด็กคนนั้นสองสามลูกแล้วเด็กคนนั้นก็เอ่ยขอบคุณเบาๆแล้วจากไป

      เธอย้อนไปนึกถึงตัวเองที่งอแงอยากได้ลูกโป่งเหมือนเด็กๆจนกฤษณุต้องซื้อให้ นึกถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา แล้วเธอก็เรี่มออกวิ่ง วิ่งกับไปยังร้านอาหารร้านนั้นอีกครั้ง

      "ไปทำอะไรมาน่ะเรน ทำไมไปนานจัง แล้วทำไมเหงื่อเยอะอย่างนั้นล่ะ ผมเป็นห่วงนึกว่าจะเป็นอะไรไปซะอีก" ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นเรนุกาวิ่งมาทั้งเหงื่อที่เกาะพราวอยู่ตามใบหน้า
      เธอไม่ตอบแต่วิ่งเข้าไปกอดชายหนุ่มแน่น จนเขาแปลกใจ

      "ฉันตกลงค่ะ เราจะแต่งงานกัน ฉันรักคุณ"
      เธอตอบเพียงแค่นั้น และยิ้มให้กับชายหนุ่ม ไม่ว่าจะเรื่องอะไรถ้าเธอมั่นใจว่าเขาคือคนที่เธอรักและรักเธอเพียงแค่นั้นเธอก็พอใจแล้ว

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×