เจมิไนVSมิทVSไมย่า
ทำขึ้นเพื่อส่งงานอีกแล้วครับ ^^;;
ผู้เข้าชมรวม
142
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
การประลองรอบที่ 2
เจมิไน VS มิท VS ไมย่า
ณ หุบเขากลืนวิญญาณ....
หุบเขากลืนวิญญาณ
สถานที่ที่ไม่ต่างอะไรกับสุสานเลยแม้แต่น้อย
วิญญาณแห่งนางไม้และธรรมชาติจะมาสิงสถิตอยู่ที่นี่เพื่อรอคอยเหยื่อ
พวกเจ้าทั้งสามต้องระวังตัวให้ดี
จะกำจัดพวกพ้อง!? หรือ ปีศาจที่จ้องจะทำร้ายเจ้าทั้งสาม!?
คือหน้าที่ที่เจ้าต้องเลือก
..
ณ ป้ายประกาศ....
“=_____=;;” เจมิไนยืนมองป้ายประกาศอย่างงงๆ ว่าตัวเองผ่านเข้ามารอบที่สองได้อย่างไร??
......คงจะเป็นเพราะว่า...โชคช่วยล่ะมั้ง....เขาคิดอย่างปลงๆกับตัวเอง ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ(ว่ะ)ว่าอยู่ดีๆก็ผ่านเข้ารอบสองได้เฉยเลย....แต่ก็เอาเหอะ... ผ่านเข้ามา รอบนี้คงจะโหดหินกว่าเดิมแน่ๆเลย....
“อืม......ชื่อของชั้นอยู่ไหนนะ......อ๊ะ!!เจอแล้ว เย้!!ชั้นผ่านเข้ารอบสองด้วยล่ะ!!” เด็กสาวคนหนึ่งยิ้มอย่างดีใจพลางชี้ไม้ชี้มือไปทางชื่อของเธอให้เพื่อนดู พร้อมๆกับจับคอเสื้อของเพื่อนแล้วเริ่มเขย่า....
.....สงสารหมอนั่นชะมัดเลยแฮะ....เจมิไนคิดอย่างเอือมๆ พลางชำเลืองมองไปทางต้นเสียง
“อืมๆ ฉันรู้แล้วๆ แล้วเธอก็เลิกเขย่าตัวฉันได้แล้ว” เด็กชายเริ่มรู้สึกเวียนหัว จึงร้องห้ามเพื่อนสาวของตัวเอง
เจมิไนรู้สึกคุ้นๆในน้ำเสียงของคนทั้งสอง จึงพยายามจ้องมองเจ้าของเสียง และพบว่าเธอคือ....
“มิท??” เขารู้สึกงุนงงเป็นรอบที่สองของวันนี้
“อ้าว......มืดนี่นา ทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ??” เสียงของเด็กสาวเจ้าของนาม ‘มิท’ อุทานอย่างตกใจ พลางปล่อยมือออกจากคอเสื้อของเรย์ เรย์เห็นดังนั้นจึงรีบกระเถิบออกห่างจากมิทยิ่งขึ้น เพื่อที่จะหายใจได้สะดวกๆ
เจมิไนหันไปสนใจเรย์แว่บหนึ่ง ก่อนที่จะหันมาชี้ไปยังป้ายประกาศแทนการตอบคำถามมิท
“เห???นายก็ลงสมัครด้วยเหรอเนี่ย??” มิทถามอย่างไม่เชื่อ เมื่อเรย์เห็นดังนั้นจึงรีบชี้แจงว่า....
“หมอนี่ก็ต้องลงสิ....เพราะรอบที่แล้ว คู่แข่งของเค้า...ก็คือฉัน” เรย์พูดพลางเอามือตบๆที่หน้าอกของตัวเองเบาๆ นั่นทำให้มิททำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยทีเดียว
“แพ้แล้วยังมีหน้ามาอวดคนอื่นเค้าอีกนะ -__-**” มิทอดไม่ได้ที่จะแขวะไปทีนึง...
“เง้อ!! =A=;; ใจร้าย!!” นั่นทำให้เรย์ร้องคร่ำครวญอย่างน่าตบ(?)ในสายตาของมิทเลยทีเดียว....
เจมิไนส่ายหน้าอย่างระอา พลางเริ่มหันไปสนใจป้ายประกาศอันใหม่ที่ยกมาตั้งตอนไหนไม่รู้แทน โดยปล่อยให้ทั้งคู่ปะทะฝีปากกันไป
เขาไล่นิ้วมือลงมาเรื่อยๆ แล้วก็หยุดอยู่ที่ชื่อของเขา....
ด้านมิทกับเรย์ที่ไม่มีใครยอมใคร ก็เริ่มที่จะเลิกทะเลาะกัน เพราะเริ่มรับรู้ได้ว่า บุคคลที่สาม ไม่ได้สนใจพวกเค้าเลยแม้แต่น้อย.....แต่ดันหันไปสนใจอย่างอื่นแทนซะได้....
......สนใจพวกชั้นมั้งก็ดีนะย่ะ!!!.....มิทเริ่มหน้าบูดเพราะว่าบุคคลที่สามไม่ยอมสนใจเธอเลย เธอหันไปมองเรย์ รู้สึกว่ารายนั้นก็ไม่ค่อยต่างกันซักเท่าไรเลย เธอเลยหันไปดูว่าเจมิไนกำลังดูอะไรอยู่ และเธอก็พบว่า......
“คู่แข่งรอบสองเป็นมืดกับพี่ไมย่าเหรอ???” มิทอุทานขึ้นมาเบาๆกับตัวเอง ก่อนที่จะเหลือบไปมองคนข้างๆ ที่บัดนี้ได้เก็บของใส่กระเป๋า เตรียมพร้อมสำหรับการประลองเรียบร้อยแล้ว....
“หืม...สู้ๆก็แล้วกันนะมิท ฉันจะคอยเป็นกำลังใจให้” เรย์พูดพลางยิ้มให้มิท
“อืมๆ ขอบใจนะ” เด็กสาวเอ่ยปากขอบคุณกลับไป พลางเหล่มองเจมิไนที่ตอนนี้ได้เดินหายเข้าไปในหุบเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว....
มิทยืนมองป้ายประกาศอีกรอบ ก่อนที่จะตัดสินใจเก็บของอย่างรวดเร็ว แล้วเดินตามเจมิไนเข้าไป.....
‘การประลองรอบที่สอง’
‘เจมิไน VS มิท VS ไมย่า’
‘สถานที่ประลองคือ....’
‘หุบเขากลืนวิญญาณ’
ด้านเจมิไน....
เจมิไนมองไปทางซ้ายที ขวาทีอย่างใช้ความคิด และความคิดแรกที่แว่บเข้ามาในหัวของเขาคือ.....
......ที่นี่มีกลิ่นอับชะมัดเลย - -;......
เจมิไนส่ายหน้านิดๆ พลางไม่สนใจบรรยากาศรอบข้างที่มีแต่หุบเขา ก้อนหิน ต้นไม้ที่เขาไม่ทราบชื่ออีกมาก (เขาคาดเดาเอาไว้ว่ามันคงจะเกิดมานานมากแล้ว)
....ก็ยังดี....ที่มีสีอื่นนอกจากสีดำ.... เขาคิด ในขณะที่หางตาเหลือบไปเห็นสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ซึ่งแปลกจากหุบเขาโดยรอบเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่ามันมีแต่สีดำ และไม่มีต้นไม้งอกเลยแม้แต่ต้นเดียว!!!
“แปลก???” เขานึกถึงสาเหตุว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น.... เจมิไนชั่งใจอยู่แปบหนึ่ง จึงตัดสินใจที่จะเข้าไปสืบหาต้นตอของความผิดปกติในครั้งนี้!!!
ในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง......
“ง้า....ไปไหนแล้วอ่า T^T” เด็กสาวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาเสียทีเดียว เนื่องจากว่าเธอรีบตามเจมิไนเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ทัน!!! นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยทีเดียว.....
มิทมองซ้ายขวาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของบุคคลที่ต้องการเลยแม้แต่น้อย!!
“จะไปตามหาที่ไหนดีล่ะเนี่ย T^T” เธอเริ่มรู้สึกว่าอยากร้องไห้ชะมัดเลย....แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ทำอะไรก็เหลือบไปเห็นที่ๆหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ที่มีแต่สีดำล้วน นั่นทำให้เธอรู้สึก......
“อ๊ะ!! สีดำ!!!*O*” ฉับพลัน!!!ดวงตาของมิทก็โตขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุและดูเหมือนกับจะเปล่งประกายปิ้งๆได้ (เอ่อ.....)
“สวยจางงงงง *__*” และแล้ว มิทก็ถูกเสน่ห์ของสีดำ และความบ้าสีดำเข้าขั้นโรคจิตของเธอครอบครองสติไปจนหมด (มิท:-__-^^) นั่นทำให้เธอเดินเข้าไปข้างในอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว.....
ทางด้านของไมย่า....
“ที่นี่มันใช่.......หุบเขากลืนวิญญาณรึเปล่านะ???” ไมย่าร้องอุทานอย่างตกใจ พลางมองเข้าไปข้างในตัวหุบเขา เธอหวังว่าจะได้อะไรซักอย่างที่สามารถยืนยันความคิดของเธอได้...
และแล้วเธอก็ได้เห็น.....
เธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกวักมือเรียกเธอให้เข้าไปข้างใน ในตอนแรกมีแค่คนเดียว เธอตกใจเล็กน้อย และแทบจะไม่เชื่อสายตาของตัวเอง แต่เมื่อเธอลองขยี้ตาแล้ว เธอกลับพบว่าจำนวนคนเพิ่มมากขึ้นจนน่ากลัว!!!
เธอตกใจมากจนก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย!! แต่เธอก็ตั้งสติ ในหัวของเธอคำนวณถึงอัตราการรอดจากหุบเขาแห่งนี้ และแล้วเธอก็พบว่าเปอร์เซ็นมันช่างน้อยนิดเสียนี่กระไร นั่นทำให้เธอกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
ไมย่าฝืนตัวเองโดยการรวบรวมความกล้าบวกกับความบ้าบิ่นในตัวเธอที่ปกติแล้วแทบจะไม่มีเลย แต่บัดนี้มันกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และนั่น!!ทำให้เธอตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปยังหุบเขากลืนวิญญาณทันที!!!
.....เอาว่ะ เป็นไงเป็นกัน!!!.....
เจมิไนที่เดินเข้ามาในหุบเขากลืนวิญญาณเหมือนกัน แต่เขากลับไม่พบสิ่งมีชีวิตอะไรแม้แต่ตัวเดียว....
.....ที่นี่มันสุสานรึเปล่านะ???....เขาเริ่มคิดถึงความเป็นไปได้
.....มีความเป็นไปได้ถึง8ใน10ที่จะเป็นสุสานของอะไรซักอย่าง หรืออาจจะไม่ใช่....
เจมิไนขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด และในระหว่างนั้นเอง!!!!
“มืดดดดดดดดดดด” เสียงร้องปริศนา(?)ก็ดังขึ้น ทำให้เขาหลุดจากความคิดในตอนนั้นทันที!!
เจมิไนหันไปทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว แล้วเขาก็ต้องเบิกตากว้าง เพราะว่า.....มีวัตถุประหลาดกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง(?)ตรงมาทางเขาอย่างน่ากลัว!! -___-;
ด้วยสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดของนักฆ่าที่เขาเคยลิ้มลองมาก่อนแล้ว.... มันทำให้เขาดีดตัวออกไปทางขวาอย่างรวดเร็ว!! แต่วัตถุนั้นก็พุ่งตามเขามาอย่างไม่ลดความเร็วลงแม้แต่น้อย!!!
.....นี่มันอะไรกันแน่นะ???.... ในขณะที่เจมิไนกำลังวิเคราะห์ว่าควรจะรับมือยังไงดี วัตถุนั้นก็เปล่งเสียงออกมาว่า....
“นี่ชั้นเอง มิทไง” พร้อมๆกันนั้น วัตถุประหลาด(?)ก็เผยออกกลายเป็นร่างของมิทที่ถูกปกคลุมด้วยผ้าคลุมสีทะมึน
“เธอ???ตามฉันมาเหรอ??” เจมิไนในโหมดกึ่งมืดขมวดคิ้วมุ่ย ปากก็เอ่ยถามอย่างแปลกใจ พลางชี้มือไปทางมิท
เมื่อมิทเห็นดังนั้นจึงพยักหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายทันที!!
ฝ่ายเจมิไนเมื่อได้รับคำตอบ เขาก็ทำหน้าปั้นยากขึ้นมาทันทีเช่นกัน มิทเห็นดังนั้นจึงแหวออกมาอย่างฉุนๆ
“อะไรเล่า....ฉันเดินตามหานายตั้งนานนะมืด!! ขอบคุณซักคำก็ไม่มีให้” มิททำปากย่นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยปากบอก
“จำเป็นต้องพูดด้วยเหรอไง ฉันไม่ได้ขอร้องให้เธอเดินตามมาซักหน่อย.....ไร้สาระ!” เจมิไนที่บัดนี้เริ่มเข้าสู่โหมดมืดกว่า 90% ตอบอย่างเย็นๆ นั่นทำให้มิทเริ่มรู้ตัวว่าไม่ควรจะไปยุ่งกับเขาในตอนนี้...
“นั่นนายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ” มิททำหน้างงแกมสงสัย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังก้มๆเงยๆอยู่
“ตรวจดูตัวอย่างของหินแถวๆนี้ จะได้รู้ว่าอยู่ที่ไหนกันแน่....” เจมิไนตอบพลางจับก้อนหินขึ้นมาก้อนหนึ่ง ฉับพลัน!! ก้อนหินก้อนนั้นก็สลายหายไปปะปนกับอากาศเบื้องสูงเกือบจะทันทีที่เขาสัมผัสมัน
..นี่มันอะไรกัน....เจมิไนขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด เขาหันไปมองหน้ามิทอย่างขอความคิดเห็น และเขาก็พบว่า....
มิทเบิกตากว้างพลางชี้มือไปทางด้านหลังของเขา นั่นทำให้เขารีบหันไปสนใจด้านหลังของตัวเองทันที!!! และแล้วเขาก็พบกับ....
“ผู้หญิงงั้นเหรอ??” ด้านหลังของเขาที่แต่ก่อนนั้นไม่มีอะไรอยู่เลย แต่ตอนนี้กับพบว่ามีหญิงสาวกำลังนอนอยู่ เขาเริ่มรู้สึกว่ามันแปลกๆเพราะว่าตั้งแต่ที่เขาเข้ามาภายในนี้ เขายังไม่พบสิ่งมีชีวิตแม้แต่ชนิดเดียว!!! เขากำลังจะเอ่ยปากร้องห้ามมิทที่ตอนนี้เดินเข้าไปใกล้ผู้หญิงคนนั้นแล้ว แต่ก็ไม่ทัน!!!
“เธอๆ นี่เธอเป็นอะไรรึเปล่า” มิทเอ่ยปากถาม พลางเอื้อมมือไปจับที่บ่าของเธอคนนั้น ฉับพลัน!!เธอก็เบิกตาขึ้นอย่างรวดเร็ว มิทตื่นตกใจกับอาการที่เกิดขึ้นนั้น เธอจึงก้าวถอยหลังเล็กน้อย แต่หญิงคนนั้นก็คว้าข้อมือของมิทเอาไว้แน่น
“เธอจะทำอะไรน่ะ ปล่อยฉันนะ” มิทพยายามแกะมือของหญิงสาวตรงหน้าออก แต่เธอกลับพบว่า เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย
.....ทำไมกันนะ....ยัยนี่ทำไมแรงเยอะยังงี้ล่ะเนี่ย -__-^^ นี่หล่อนกินไรเข้าไปกันย่ะ แรงถึงได้ควายอย่างนี้....มิทแอบสบทด่าหญิงข้างหน้าในใจ
“โอ๊ย!!” มิทร้องออกมา เพราะว่าผู้หญิงตรงหน้าบีบข้อมือเธออย่างแรง เธอรู้สึกเจ็บปวดมากเหมือนข้อมือเธอจะหักให้ได้ยังไงยังงั้นเลย
ทางด้านของเจมิไนที่เห็นดังนั้นจึงหยิบมีดออกมาหนึ่งเล่มแล้วซัดเข้าไปที่มือของหญิงปริศนาคนนั้นทันที!!
ได้ผล!!ปรากฏว่าเธอคนนั้นปล่อยมือออกจากข้อมือของมิท พลางกุมมือที่อาบไปด้วยเลือดที่มีสีน้ำเงิน!! เมื่อข้อมือถูกปลดปล่อย มิทก็รีบกระเถิบออกห่างจากผู้หญิงคนนั้นไปหาเจมิไน
“เลือดสีน้ำเงิน เธอไม่ใช่มนุษย์สินะ....” เจมิไนเอียงคอเล็กน้อย ก่อนจะสรุปออกมาตามที่เห็น ฝั่งมิทเมื่อเห็นเขาพูดเช่นนั้นจึงรีบหันกลับไปมองที่มือของผู้หญิงคนนั้น เธอเบิกตากว้างก่อนที่จะรีบใช้ความคิดเพื่อคาดเดาว่าเธอที่อยู่ตรงหน้าเป็นตัวอะไรกันแน่!!
หญิงสาวไม่ตอบ แต่กลับมองมาทางเจมิไนด้วยสายตาเคียดแค้นยังกับว่าพวกเขาทั้งสองเป็นศัตรูกันมาแต่ชาติปางก่อนก็มิปาน
ทันใดนั้นเอง!!!ร่างกายของหญิงสาวก็เริ่มเปลี่ยนไป จากที่เคยมีร่างกายคล้ายกับมนุษย์ก็เปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัว!! จากความงดงามก็กลับกลายเป็นความน่าเกลียดน่ากลัว จนไม่อยากแม้จะเหลือบตามอง
มิทอ้าปากค้างพลางมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อในสายตาตัวเอง.....
.....นี่มันตัวอะไรกันแน่นะ อี๋!! นี่มัน น่าขยะแขยงชะมัดเลย =[]=!!.....มิทสรุปภาพตรงหน้าออกมาได้แค่นั้นเพราะว่าความคิดของเธอถูกหยุดเอาไว้ด้วยกำปั้นขนาดมหึมาที่ตรงมาทางเธอ!!
“อย่ามัวแต่เหม่อสิ มิท” เจมิไนไม่พูดเปล่า เขาดึงคอเสื้อมิทของมิทให้หลบไปทางซ้ายด้วยกันอย่างฉิวเฉียด!!
“แค่กๆๆ ไอ้บ้า!! เห็นไหมน่ะ ว่านายทำอะไรไป ฉันเกือบตายแล้วเห็นไหม” หลังจากที่มิทหายอึ้ง เธอก็รีบหันไปแขวะเจมิไนทันที
“นี่....ถ้าฉันไม่ช่วยเธอ ป่านนี้เธอแหลกไปแล้ว” เจมิไนตอบกลับอย่างฉุนนิดๆ
.....ทำคุณบูชาโทษอีกนะ หึ!! สงสัยว่าคราวหน้าคงจะไม่ต้องช่วยก็ได้มั้ง -*-.... เจมิไนเริ่มหงุดหงิดขึ้นมากกว่าเดิมแล้ว...
“โอเค คราวหน้าฉันจะไม่ช่วยเธอก็แล้วกัน เก่งนักนี่....” เขาเบือนสายตามองเล็กน้อย พลางตอบกลับไปพร้อมทั้งจิกกัดมิทเล็กน้อย
เมื่อมิทเห็นดังนั้นเธอรู้สึกกระอักกระอวนเล็กน้อย แต่ก็ยอมเอยปากขอโทษแต่โดยดี...
“ง่า.....ขอโทษนะมืด =[]=;;”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ อยากทำอะไรก็ทำ...” เจมิไนตอบกลับพลางยักไหล่อย่างไม่แคร์สื่อ(?)ให้ ด้านมิทเองเมื่อเห็นดังนั้น เธอจึงคิดว่า.....
......ผู้ชายอะไรขี้งอนชะมัดเลย..... มิทคิดอย่างปลงๆกับตัวเอง พลางเหม่อมองไปด้านเจมิไน
(ถ้ามีเวลาว่างมากมาคุยกันถึงขนาดนี้เนี่ย....ช่วยสนใจนางไม้ซักติ๊ดก็จะดีนะ =[]=!!:เสียงใครซักคนคร่ำครวญ(?))
“ตูม!!!!!” เจมิไนและมิทพร้อมใจพากันโดดออกคนละข้าง เมื่อเห็นกำปั้นลอยมาอีกรอบ
“จะเอาไงดีล่ะเนี่ย....” เจมิไนพูดขึ้นมาเชิงถามความเห็นของมิทไปในตัว
“ก็จะให้เอายังไงเล่า!! ก็สู้เด่!!” มิทตอบคำถามอย่างยากลำบาก เพราะว่าตอนนี้เธอกำลังหลบกำปั้นที่มีทิศพุ่งเข้ามาหาเธอ!!
......ได้ข่าวว่ามืดเป็นคนทำแกเจ็บไม่ใช่เหรอ(ว่ะ) แล้วทำไมแกไม่ไปทางโน้นเล่า มาแต่ทางนี้ทำมายยยยยย TT^TT.......
อีกด้านหนึ่ง.....
“อึ๊ย!!ที่นี่น่าขนลุกชะมัดเลยอ่ะ T^T ทำไมท่านเฟย์ย่าถึงต้องให้ข้ามาสู้ที่นี่ด้วยล่ะเนี่ย ถึงแม้ว่าข้าจะชอบธรรมชาติก็เถอะนะ....” ไมย่าพูดขึ้นกับตัวเองเบาๆอย่างเดือดๆ
“แต่นี่มันก็เกินกว่าที่ข้าจะรับได้นะ!!!” ในที่สุดเธอก็ทนต่อไปไม่ไหวจนต้องร้องตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงอันดัง ทำให้เหล่านางไม้ที่สถิตอยู่ในบริเวณแถบนั้นต้องยกมือขึ้นมาปิดใบหู พลางสอดส่ายสายตาหาเจ้าของเสียงที่ปลุกพวกหล่อนจากห้วงนิทรา!!!
เมื่อเหล่านางไม้พบกับตัวการที่ปลุกพวกนางขึ้น จึงรีบบินไปยังทิศทางที่ไมย่าอยู่ด้วยความรวดเร็วทันที!!!
ฝ่ายไมย่าเองเมื่อได้ตะโกนออกไปแล้วก็เกิดความโล่งใจขึ้นมาจากเดิมมาก แต่เธอกลับไม่ทราบเลยว่า เหตุการณ์เมื่อซักครู่นั้น...จะมีผลทำให้เธอต้องรับมือกับศึกหนัก!!!
“แกรกๆ.....”
“เอ๊ะ!!เสียงอะไรน่ะ” เธอเกิดความสงสัยเล็กน้อย จึงหันหลังกลับไปดู และนั่นทำให้เธอก็ต้องส่งเสียงกรีดร้องออกมา.....
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!!!!”
“หือ??? เสียงอะไรน่ะมืด??” มิทเอ่ยปากถามเขาอย่างหมดเรี่ยวแรง หลังจากที่พวกเขาทั้งสองคนร่วมมือกันจัดการกับสัตว์ประหลาด(?)ตรงหน้า
“ไม่รู้สิ ฉันก็อยู่กับเธอไม่ใช่เหรอไง” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆตามแบบฉบับของมืดเต็มตัว
“ฉันว่านะ...มันเหมือนกับเสียงกรีดร้องเลยนะ เราไปดูกันหน่อยดีกว่า เผื่อว่าจะมีใครโชคร้ายแบบเราอีก....” มิทมีสีหน้าที่กังวล เพราะเกรงว่าจะมีคนตกเป็นเหยื่อของเจ้าตัวแบบนี้อีก
“.......” เจมิไนไม่ตอบ แต่เก็บของใส่กระเป๋า มิทเห็นเช่นนั้นจึงรีบเก็บของลงกระเป๋าอย่างรวดเร็ว
เมื่อทั้งสองคนต่างก็พร้อมแล้วจึงรีบมุ่งหน้าไปยังทิศทางของต้นเสียงนั้นทันที!!!
ระหว่างทาง มิทได้ถามเขาถึงตัวประหลาดเมื่อครู่นี้ เขาก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่ามันคือตัวอะไรกันแน่ แต่ที่เขารู้ๆก็คือมันไม่ได้มาดีแน่ๆ!!
ในระหว่างที่เขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อครู่....ก็มีเสียงร้องดังขึ้นอีกรอบ
“กรี๊ดดดดดดดด!!!! ใครก็ได้ช่วยชั้นด้วย....” เขาเหลือบมองใบหน้าของคนข้างกาย พลางพยักหน้าให้แล้วดีดตัวด้วยความเร็วสูง!! ฝ่ายมิทเห็นดังนั้นจึงรีบเร่งความเร็วตามไปทันที
ในตอนนี้ไมย่าเกิดความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เพราะเธออยู่ท่ามกลางวงล้อมของเหล่าหญิงสาวที่สักครู่นั้นงดงาม แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นตัวประหลาดสุดที่จะพรรณนาได้
.......นั่นมัน นางไม้นี่นา O[]o;; แต่ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่กันนะ.... ไมย่าคิดอย่างรวดเร็ว แต่ความคิดของเธอก็สะดุดลง เมื่อเธอต้องหลบการโจมตีของนางไม้ตนหนึ่ง
.....อึ๊ย!! จะรอดไหมเรา T^T ต้องโดนกินแน่ๆเลย.... ไมย่าเริ่มคิดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
นางไม้ตนหนึ่งพยายามจะจับตัวเธอไว้ แต่เธอก็หลบได้อย่างฉิวเฉียด นางไม้ตนอื่นๆจึงพร้อมใจกันโจมตีเธอทันที!!
......กรี๊ด!!ใครก็ได้ ช่วยชั้นด้วย >_<.... เธอหลับตาปี๋พลางรอคอยสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอ แต่แล้วกลับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เธอจึงค่อยๆเปิดตาดูช้าๆ....
แล้วเธอก็ต้องพบกับ.....
“รุ่นพี่เจมิไน???” เธอเกิดอาการงงเป็นอย่างมาก
......เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันนะ แต่เดี๋ยวก่อน!! เขาเป็นคู่ต่อสู้ในรอบนี้ไม่ใช่เหรอ?? งั้นก็แสดงว่า.... ความคิดของเธอก็ต้องสะดุดอีกรอบ เนื่องจากว่าเจมิไนได้เหวี่ยงเธอออกไป
“ผลัก!! ตุบ!! โอ๊ย!!” ไมย่าร้องออกมาด้วยความเจ็บ เธอรีบหันไปค้อนใส่ผู้ซึ่งช่วยชีวิตของเธอเมื่อซักครู่ และเธอก็ต้องฉุนขาดกับคำพูดต่อมา....
“เกะกะ หลีกไป” เจมิไนพูดขึ้นพลางมองใบหน้าของไมย่าซึ่งตอนนี้ได้ส่งค้อนวงใหญ่ให้เขาหลายรอบแล้ว
.......หึ!ใครจะสนล่ะ -__-...... เจมิไนไม่สนใจกับสีหน้าและท่าทางของไมย่าแต่ถามเธอว่า
“นั่นมันตัวอะไรกันแน่” เขาถามพลางชี้มือไปยังนางไม้ตนหนึ่งที่ตอนนี้ต่อสู้อย่างดุเดือดกับมิท
ไมย่าปัดกระโปรงของเธออย่างลวกๆพลางตอบคำถามของเขา.....
“ก็นางไม้ยังไงล่ะคะพี่เจมิไน” จากนั้นเธอก็หันไปค้นหาอาวุธของเธอในกระเป๋า
เจมิไนเลิกสนใจเธอ แล้วหันไปสนใจกับนางไม้ตรงหน้าทันที!!!
เขารีบเก็บมีดสั้น(ที่มีความยาวไม่สมควรจะเรียกว่ามีดสั้น)ลงกระเป๋า แล้วร่ายมนตร์เรียกอาวุธคู่ใจเขาขึ้นมาแทน!!
“ข้าแต่ความมืดมิดที่กลืนกินจิตใจของผู้คน เจ้าจงให้ข้าได้ยืมพลังของเจ้าเพื่อสังหารศัตรูและช่วยเหลือเหล่าพวกพ้อง ขอเคียวแห่งความตายและการสาปแช่งจงปรากฏต่อหน้าข้าผู้เป็นนาย”
สิ้นเสียงของเขา ฉับพลัน!!บรรยากาศรอบข้างก็แปรเปลี่ยนไป!! จนเหล่านางไม้สังเกตได้ว่า มีศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าหญิงสาวตรงหน้าของพวกนางปรากฏตัวขึ้น!!!
เหล่านางไม้ต่างก็มองหน้ากันอย่างเลิกลั่ก เป็นเชิงว่าจะเอายังไงต่อไปดี
“หืม....นี่เจ้าเรียกข้าออกมางั้นเหรอ หึหึหึ” เสียงลึกลับดังขึ้น มิทกับไมย่ามองหน้ากันโดยอัตโนมัติ ก่อนที่จะหันไปทางเจมิไน เพื่อที่จะสื่อเป็นนัยว่าเป็นเสียงของใครกัน
“ใช่ ข้าเห็นเจ้าไม่ได้ออกมานานแล้ว กลัวจะคลั่งตายซะก่อน” เจมิไนตอบกลับไปอย่างเรียบๆพลางยืนกอดอกมองคนที่อยู่ตรงหน้า....
ตรงหน้าของเขาปรากฏชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งที่แลดูไม่สูงใหญ่เกินไป แต่ก็ดูตัวไม่เล็กเหมือนกัน กำลังเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนที่จะหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ยังงั้นเหรอ หึหึหึ งั้นก็แปลว่าข้าเชือดได้ใช่ไหม??” ชายหนุ่มลึกลับถามขึ้น พลางบุ้ยหน้าไปทางเหล่านางไม้ที่บัดนี้นิ่งสงบ เหมือนกับกำลังรอคอยอะไรซักอย่าง
“แน่นอน สตริงค์ เพราะว่านางไม่ใช่มนุษย์” เจมิไนตอบเสียงราบเรียบกลับไป ชายหนุ่มนามว่าสตริงค์ค่อยๆคลี่ยิ้มกว้าง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นแสยะยิ้มอย่างพอใจ
เขาพุ่งตัวเข้าไปข้างในกลุ่มของนางไม้ และโจมตีนางไม้ตนหนึ่งอย่างรวดเร็ว พวกเธอไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำว่าเขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร จนกระทั่งมีตนใดตนหนึ่งถูกโจมตีแล้วถึงได้รู้สึกตัว
เมื่อพวกเธอหายตะลึงแล้วก็พลันโจมตีกลับทันที!!!
สตริงค์ฉีกยิ้มร่า เมื่อเขาจินตนาการถึงตอนที่เขาทรมาณเหล่านางไม้เล่น(?) และเขาก็ดีใจอีกอย่างหนึ่งคือ เจ้านายของเขาก็อนุญาตให้เขาทำตามใจชอบซะด้วยสิ....สนุกล่ะงานนี้ ^^+
เมื่อเจมิไนหันกลับมาเผชิญหน้ากับทั้งสองคน เขาทำหน้าเรียบเฉยใส่พวกเธอทั้งคู่ นั่นทำให้ไมย่าปรี๊ดแตกทันที!!!!
“นั่นมันใครกันน่ะ?? อธิบายมาเดี๋ยวนี้เลยนะคะ!!พี่เจมิไน แล้วเขามาได้ยังไงกัน?? ละ...แล้วพี่รู้จักกับเขาตั้งแต่เมื่อไรกัน?? เขาเป็นพวกเราใช่ไหมคะ??” ไมย่ายิงคำถามเป็นชุดใส่เขาอย่างรวดเร็ว เขาเหลือบไปมองหน้าไมย่าแว่บนึงก่อนจะตอบกลับทุกคำถาม
“นั่นคือสตริงค์ ภูตแห่งความมืดที่ทำสัญญากับฉัน ฉันรู้จักกับหมอนั่นมาตั้งนานแล้ว และเขาเป็นพวกเรา” เขาจ้องหน้าไมย่า เผื่อว่าเธอจะมีคำถามอะไรอีก แต่คนที่ถามต่อดันกลายเป็นมิทแทน....
“แล้วนี่ตกลงว่าพวกเราต้องสู้กันไหมเนี่ย??” มิทถามอย่างเนือยๆเพราะเมื่อครู่เธอก็ซัดกับนางไม้มาหยกๆ นี่จะให้ซัดกันเองอีก เธอไม่ใช่ซุปเปอร์ไซย่านะจะได้มีพลังเหลือเฟือน่ะ!! -__-^^
เจมิไนไหวไหล่เล็กน้อยเป็นความหมายว่ายังไงก็ได้
มิทเห็นดังนั้นจึงโอดครวญขึ้นมาอีกรอบ....
“นี่ฉันพึ่งจะสู้กับนางไม้มาหยกๆนะ เหนื่อยก็เหนื่อย!! นี่ยังจะมาสู้กันเองอีกเหรอ???” มิทร้องตะโกนขึ้นมาอย่างเหลืออด ไมย่าเห็นเช่นนั้นจึงรีบพูดว่า....
“นะ...น้องมิทจ้ะ พะ...พี่ว่า....ระ...เราไม่ต้องสู้กันหรอกนะจ้ะ ^^;;” ไมย่าพูดอย่างตะกุกตะกักกับมิทเพื่อให้เธอหายจากอารมณ์โมโห....
“ทำไมล่ะคะ???” มิทรีบพูดขึ้นมาทันทีที่ไมย่าพูดจบ ไมย่าทำหน้ากระอักกระอวนเล็กน้อย
......จะให้บอกได้ยังไงล่ะ ว่าพี่กลัว!! T^T เง้อ...=A=;; ขนาดนางไม้เพียงตนเดียวพี่ยังไม่สามารถจะสู้ได้เลย นับประสาอะไรจะไปสู้กับคนที่สู้ชนะนางไม้ได้ยังไงเล่า!!! TT^TT .....
“ฉันว่าเราน่าจะรีบไปได้แล้วนะ ถ้าตกลงว่าจะไม่สู้กันเองน่ะ....” จู่ๆเจมิไนก็โพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย หลังจากที่เงียบมาตั้งนาน นั่นทำให้มิทและไมย่าหับขวับมาทางเขาทันที!!
“ทำไมล่ะ/ทำไมล่ะ” ทั้งสองคนเหมือนนัดกันพูดขึ้น เป็นเพราะว่าทั้งคู่ดันพูดประโยคเดียวกันเป๊ะเลย...
เจมิไนไม่ตอบแต่มือเขาชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง
ทั้งสองมองตามมือของเจมิไนไปและพบว่า.....
“นั่นมันอะไรน่ะ!!!” มิทอุทานขึ้นมาอย่างตกใจ!!!
“พระเจ้าช่วย!!!” ไมย่าร้องออกมา เพราะเธอพบว่าทางทิศที่เจมิไนชี้ไปนั้นมีนางไม้จำนวนมากมายกำลังตรงดิ่งมาทางพวกเธออย่างน่ากลัว!!
“จะไปกันเลยไหม??” เจมิไนถามอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน แตกต่างกับคนอีกสองคนที่ตอนนี้กำลังสติแตก(?)เป็นอย่างมาก
เมื่อเจมิไนไม่เห็นว่ามีใครตอบเขา เขาถามมิทด้วยคำถามใหม่
“เธอมีสัตว์เป็นพาหนะที่บินได้รึเปล่า??”
“เอ๋?” มิททำหน้างงแป๊บนึง ก่อนที่จะตอบกลับไปว่า....
“มีสิๆ” เธอพูดขึ้น พลางร่ายคาถาเชิญ ซักครู่...ก็ปรากฏมังกรสีส้มขนาดมหึมา
“ว้าววว!!!” ไมย่าร้องอุทานขึ้นมาอย่างตื่นเต้น เพราะเธอได้เห็นมังกรตัวเป็นๆ ไม่ใช่จากในหนังสือนิทานหรือหนังสืออื่นๆที่เกี่ยวข้องกับมังกร.... *O*
......เป็นปลื้ม ชาตินี้ตายก็ไม่เสียดายอะไรอีกแล้ว *O* แต่ยังไงซะ ฉันก็ยังไม่ยอมตายตอนนี้หรอกน่า!!..... ถึงแม้ว่าเธอจะปลื้มแค่ไหนก็ตาม แต่ในเวลานี้ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะมาชื่นชม!!
“รีบขึ้นไปเร็วเข้า” เจมิไนสั่ง ทั้งสองคนรีบทำตามทันที เมื่อเห็นว่าทั้งคู่ขึ้นไปอยู่บนมังกรเรียบร้อยแล้ว เขาก็ตะโกนบอกสตริงค์
“พวกฉันจะออกไปจากที่นี่ นายจะไปด้วยรึเปล่า??” เขาพูดออกไป ผ่านไปซักครู่ก็มีเสียงตอบกลับมา
“พวกนายไปก่อนเลยก็ได้ ฉันไม่ได้สนุกอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว ยังไงๆคราวนี้ก็ขอแบบเต็มที่เลยล่ะกัน หึหึหึ!!!” สตริงค์แสยะยิ้ม(อย่างโรคจิต)ก่อนที่จะตอบกลับมา พลางโบกมือบ๊ายบายพวกเขาอีกตะหาก เจมิไนเมื่อเห็นเขาว่างั้นจึงกระโดดขึ้นหลังมังกรของมิท พลางบอกให้เธอสั่งให้มังกรบินขึ้นไปได้แล้ว
“ไปสิ” เจมิไนพูดสั้นๆ มิททำท่าเหมือนจะแย้งขึ้นมา แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากจะสั่งให้มังกรบินขึ้น ไมย่าเห็นดังนั้นจึงถามแทน
“ทำไมพี่เจมิไนถึงปล่อยคุณสตริงค์เอาไว้แบบนั้นล่ะคะ??” เธอถามขึ้นแทนมิทที่เหมือนจะอยากถามแต่ก็ไม่พูด เจมิไนเหลือบตามองเธอแว่บนึงก่อนจะตอบกลับ
“หมอนั่นไม่ได้ออกมานานแล้ว ปล่อยๆไปเถอะ ส่วนเธอก็อย่าถามอะไรมากนักได้ไหม ฉันขี้เกียจพูด” เจมิไนพูดด้วยสีหน้าเบื่อๆไมย่า เธอรู้สึกฉุนเขานิดๆแต่ก็ยอมสงบปากสงบคำไปตลอดทาง
ตลอดทางที่พวกเขาทั้งสามคนผ่าน แทบจะไม่มีนางไม้โจมตีพวกเขาเลย (มีเพียงสองถึงสามครั้งตลอดการเดินทางออกจากหุบเขาเท่านั้น) เมื่อออกจากหุบเขาได้แล้ว พวกเขาต่างก็โล่งใจกันทั้งนั้น
“ดีจังเลยนะคะที่พวกเราออกมาได้ แถมยังไม่ต้องมาสู้กันด้วย ^^” มิทพูดพลางยิ้มๆให้ไมย่าและเจมิไน
“นั่นสินะจ้ะ.....ดีแล้วล่ะ ^^” ไมย่ายิ้มพลางตอบกลับไป ส่วนเจมิไนเพียงแค่มองไปที่มิทพลางพยักหน้าให้เบาๆเท่านั้น
“เฮ้ออออออ.....แล้วยังงี้ใครจะชนะการประลองรอบนี้ล่ะคะ???” มิทถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะถามขึ้นมาอย่างสงสัย
ไมย่าตีมีสีหน้าที่เครียดขึ้นมาทันที ส่วนเจมิไนเพียงแค่ไหวไหล่เบาๆให้เธอ....
นั่นทำให้เธอรับรู้ได้เลยว่ายังไงๆรอบนี้ก็คงจะไม่มีผู้แพ้และผู้ชนะแน่ๆ
......ยังงั้นก็หมายความว่าไม่มีใครชนะสินะ เสมอกันหมดเลยงั้นเหรอ..... มิทคลี่ยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง
......เป็นยังงั้นก็ดีแล้ว....
วันรุ่งขึ้น ณ ป้ายประกาศ.....
‘การประลองรอบที่สอง...’
‘เจมิไนVSมิทVSไมย่า’
‘ผลคือ......’
‘เสมอกันทั้งสามคน’
อ่า......จบไปแล้วล่ะครับ =___=;;
ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับ สำหรับทั้งคู่ที่ผมไม่ได้โชว์ความสามารถของทั้งสองคนเลย แหะๆ รู้สึกผิดขึ้นมายังไงก็ไม่รู้สิครับ เหอๆ
ต้องขอโทษอีกครั้งจริงๆครับ เพราะว่าผมไม่มีเวลามากนัก จึงแต่งได้เพียงเท่านี้ครับ
(นี่ก็ปั่นสุดๆแล้วนะครับผม เห็นใจด้วยเต๊อะ!! TT^TT)
ผมก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านจบด้วยนะครับ ^^ ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย (โค้งให้)
ผลงานอื่นๆ ของ ดวงดาราบนฟากฟ้ายามกลางคืน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ดวงดาราบนฟากฟ้ายามกลางคืน
ความคิดเห็น