ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My lovely cool guy. เผลอไปรักได้ไง โอ้ย! โรคหัวใจจะกำเริบ

    ลำดับตอนที่ #10 : ความเจ็บปวด

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 58


    วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีที่แสนน่าเบื่อ เพราะอะไรน่ะเหรอ ฮึ! ก็เพราะว่าฉันต้องใส่ชุดพละมาโรงเรียนน่ะสิทำไงได้ล่ะก็มันมีวิชาเรียนในวันนี้นี่นา

    “ฮึบ!

    ฉันยืดเส้นยืดสายในห้องเรียนคนเดียวตั้งแต่เช้า ส่วนอีตายูกิน่ะขอตัวไปไหนสักที่ตั้งแต่เข้ามาส่งฉันแล้วล่ะ ไม่รู้มีงานยุ่งอะไรนักหนา

    “ฮ้าววว!

    ฉันอ้าปากหาวอย่างไม่เกรงใจใคร =()= ดีนะที่ในห้องยังไม่มีใครยกเว้นฉันน่ะ

    ฟุ่บ!

    ออกกำลังกายเบาๆ เสร็จ ฉันก็นั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเองและเอามือขวาเท้าคางไว้พร้อมๆ กับทอดสายตาไปทางหน้าต่างอย่างเหม่อลอย

    เฮ้อ... ท้องฟ้ายามรุ่งอรุณนี่ มันสวยดีนะ...

    พ่อคะ แม่คะ อีกไม่นานหนูคงต้องตามพ่อกับแม่ไปอยู่บนนั้นด้วยคนแล้วนะคะ ตั้งแต่หนูรู้ว่าหนูเป็นอะไรหนูก็เตรียมใจยอมรับมันดีแล้วล่ะค่ะ แต่ว่านะคะ...

    ทั้งที่เมื่อก่อนหนูเคยคิดว่าถึงจะอยู่ไปคงไม่มีประโยชน์อะไร และทำใจยอมรับในโชคชะตา หากแต่ว่า...ตอนนี้หนูรู้สึกกังวลอย่างหนึ่ง หนูกังวลว่าถ้าตายไปแล้วหนูอาจจะไม่ได้เจอกับเขาคนนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง...

    อีกทั้งยังไม่อยากจากเขาคนนั้นไปเลยค่ะ หนูควรจะทำยังไงดีคะช่วยบอกหนูหน่อยได้ไหม...

    แหมะ! แหมะ!

    “ฮึก!!!” หยดน้ำใสๆ ค่อยๆ หยดลงบนโต๊ะและเริ่มไหลอาบแก้มจนเปรอะเปื้อนไปหมด ทั้งๆ ที่ฉันพยายามกลั้นเอาไว้สุดชีวิตแล้วเชียว... ทำไมกันนะ

    ทำไมฉันถึงไม่อยากจากเขาไป ทำไมฉันถึงอยากอยู่กับเขานานๆ ทำไมๆๆๆ นี่คงไม่ใช่ความรักหรอกมั้ง

    ไม่ใช่แน่นอน...

    ฟุ่บ!

    ฉันฟุบหน้าลงบนโต๊ะอย่างเหนื่อยหน่าย เฮ้อ! อีตาบ้าเอ้ย... ไปไหนของเขากันนะ

    แอ้ด!

    เสียงเปิดประตูทำเอาฉันสะดุ้งแทบหงายหลัง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองบุคคลปริศนา

    บุคคลที่ฉันเพิ่งนึกถึง... อีตายูกิ... เป็นคนเปิดประตู แต่รู้สึกเหมือนกับว่าจะมีส่วนเกินข้างลำตัวที่เกาะแขนเขาแน่น ห้ะ...!

    เธอเป็นผู้หญิงผมบ๊อบสั้น ใส่ชุดยูนิฟอร์มคนละแบบกับโรงเรียนนี้ มีดวงตาที่กลมโต ปากกระจิริด จมูกเชิดหน่อยๆ ผิวขาวอมชมพู กับส่วนสูงที่น่าจะประมาณร้อยห้าสิบกว่า

    ยะ... ยัยนี่เป็นใครกันน่ะ!

    “อะ... เอ่อ” ฉันยังไม่ทันได้ปริปากพูดอะไร ยัยหน้าสวยนั่นก็แทรกพูดขึ้นมาก่อน ทำอย่างกับฉันไม่มีตัวตนอย่างนั้นแหละ ชิ!

    “พี่ยูกิคะ ริกกะมาส่งแค่นี้นะคะ บ๊ายบาย”

    “อืม... ตั้งใจเรียนนะ”

    “...”

    อะเฮ้ย! นั่นใช่อีตายูกิคนเดิมที่ฉันรู้จักมั้ยเนี่ย เขายิ้มอ่อนโยนให้กับผู้หญิงคนนั้น แถมยังเอามือไปลูบหัวอย่างเอ็นดูอีกต่างหาก ทีกับฉันล่ะ...

    ฉันไม่ควรจะเสียใจใช่มั้ย?...

    ฉันมองดูชายหญิงคู่นั้นล่ำลากันเสียนาน ทำอย่างกับว่าไม่สนใจฉันที่นั่งหัวโด่อยู่ในห้องคนเดียว เมินกันหรือไงนะ...

    “อ๊ะ! เดี๋ยวค่ะ” ยัยผู้หญิงที่ชื่อริกกะอะไรนั่นหยุดเดินชะงักเหมือนนึกอะไรได้แล้วหมุนตัวเข้ามาหอมแก้มอีตายูกิเฉยเลยอะ...!

    จะเป็นลม...

    “คิกๆ ตั้งใจเรียนนะคะ”

    “อืม...” อีกฝ่ายก็ใช่ย่อยหอมแก้มกลับคืนอีก กร๊าซซซ! มันจะมากไปแล้วนะ อีตาบ้า!!

    ปัง!

    ฉันตบโต๊ะดังปังก่อนจะเดินไปทางสองคนนั้น

    ตุบ!

    “...” ฉันเดินชนไหล่ยัยนั่นอย่างแรงเลยล่ะ สะใจนิดๆ อยู่นะ

    “ใครอะ แฟนเหรอ” ฉันหันไปถามอีตายูกิโดยไม่ได้มองหน้าคนที่ฉันเดินชนเลยแม้แต่น้อย เฮอะ! เธอทำได้ฉันก็ทำได้เหมือนกัน

    “คือ...”

    “คราวหลังพามาให้ฉันรู้จักด้วยล่ะ”

    “เอ่อ...”

    “อ้อ อีกอย่างนะถ้าคิดจะแสดงความรักต่อกันน่ะ ควรแสดงในที่ๆ ลับตาคนหน่อย ไม่ใช่มาแสดงต่อหน้าให้ฉันเห็น พอดีว่าฉันเป็นคนไม่ค่อยชอบดูอะไรแบบนี้ซะด้วยสิ”

    “คือว่า”

    “ฉันไม่ได้พูดกับเธอ” ฉันมองยัยผู้หญิงคนนั้นตาขวางเมื่อเธอกำลังจะปริปากพูด ทำให้อีกฝ่ายหุบปากเงียบสนิท

    “...”

    “เข้าใจแล้วนะ ฉันขอตัวไปก่อนล่ะ” ฉันเดินผ่านตัวเขาไปนิดหน่อย “อีกอย่างนะอย่าเล่นจ้ำจี้กันนานนักล่ะ เดี๋ยวเพื่อนๆ คนอื่นนอกจากฉันมาเห็นเข้ามันจะดูไม่ดีเดี๋ยวจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมาอีก”

    ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วเดินจากไปเชิดๆ เริดๆ อย่างกับนางร้ายในละครหลังข่าวเลย... ฮือๆ ไม่ใช่สักหน่อย ฉันต้องเป็นนางเอกต่างหากล่ะ!

    แต่... ถ้าอีตายูกิเป็นพระเอกฉันยอมเป็นนางร้ายดีกว่า เจ็บน้อยกว่าเยอะ ยังไงซะพระเอกก็ไม่เคยมองนางร้ายเลยนี่นา ในสายตาเขามีแต่นางเอก...

    นั่นสิ... เขาไม่เคยมองฉันเลย

    กึก!

    “โอ๊ะ!” อีกแล้ว... อาการแบบนี้กำเริบอีกแล้ว ฉันพยายามหายใจเข้าออกช้าๆ และลึกๆ เผื่อว่าอาการนี้มันจะทุเลาลงไปหากแต่ก็ไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่

    ใจเอ๋ย... ทำไมต้องเจ็บ... ใจเอ๋ย... ทำไมต้องปวด... ถ้ามีหัวใจแล้วต้องเจ็บปวดแบบนี้ล่ะก็... ฉันยอมไม่มีซะยังจะดีกว่า

    ฉันเดินมาถึงห้องน้ำหญิงแล้วมองตัวเองผ่านกระจก พลางมือก็หมุนก๊อกน้ำให้เปิด

    ซ่า ซ่า...

    ฉันวักน้ำล้างหน้าตัวเองสองครั้ง พอมองกระจกอีกทีใบหน้าของฉันก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ และถูกแทรกแซงด้วยน้ำ... จากตาของฉันเอง

    “ฮะๆ นั่นสินะ หน้าตาแบบนี้จะมีใครมาสนใจล่ะ สู้ยัยริกกะอะไรนั่นก็ไม่ได้”  ฉันยิ้มเศร้า

    “ขี้เหร่ นิสัยก็ไม่ดี ขี้โรค แถมยังกำพร้าอีก คนอย่างนายคงไม่มาสนใจฉันหรอก...”

    ฮึก! น้ำตาที่ถูกน้ำกลบเกลื่อนค่อยๆ ไหลลงมาอาบแก้มมากขึ้นเรื่อยๆ จนดูออก

    นี่ฉัน... ทำไมถึงได้อ่อนแอขนาดนี้เนี่ย แค่เพียงคิดว่าเขาไม่ได้สนใจฉันแค่นี้ฉันต้องเสียใจด้วยเหรอ

    ไม่ได้ๆๆๆ ฉันต้องไม่เสียใจ ไม่เสียใจเด็ดขาด เอาล่ะพยายามสะกดกลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วเดินเข้าห้องเรียนดีกว่า

    กึ้ด

    ฉันชะงักกึกก่อนจะยกมือขึ้นมากุมบริเวณหน้าอก ทำไมอีกล่ะก็ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรนี่นา ทำไมมันถึงได้เจ็บจี๊ดอีกแล้วล่ะเนี่ย

    ตึกตัก ตึกตัก...

    หรือว่า... ความรู้สึกที่แท้จริงของฉันจะตรงข้ามกับความคิดกันนะ... ไม่หรอกมั้ง

    คิ๊งต่องงงงงง

    ฉันหลบอยู่ในห้องน้ำนานมากจนเข้าแถวเคารพธงชาติ ฉันถึงยอมเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วไปเข้าแถว ตลอดการเข้าแถวนั้น... ฉันไม่ได้เหลียวไปมองหน้าอีตายูกิเลยแม้แต่ครั้งเดียว...

    ยิ่งพอได้นั่งเรียนโต๊ะข้างๆ กัน มันทำให้ฉันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ให้ตายสิวันนี้ทั้งวันฉันเรียนไม่รู้เรื่องเลยอะ T_T

    หลังเลิกเรียน

    ตอนนี้ฉันกำลังนั่งอยู่บนรถสุดหรูของอีตายูกิ ที่ตอนนี้ทำหน้าที่คนขับรถที่ดี แต่เราทั้งคู่ก็ไม่มีใครยอมปริปากพูดอะไรออกมาเลย

    เอี้ยด! เสียงรถเบรกเบาๆ อันเป็นสัญญาณว่าถึงบ้านแล้ว ฉันรีบคว้ากระเป๋าก่อนจะเปิดประตูรถก้าวขาเดินตัวปลิวเข้าไปในบ้านโดยไม่เหลียวหลังไปมองอีกฝ่าย

    ปัง!

    ฉันปิดประตูห้องตัวเองแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มอย่างแรง ส่วนมือก็คว้ามอนใบใหญ่มากดทับหน้าตัวเองเบาๆ

    “ฮึกๆ”

    เสียงสะอื้นดังเล็ดลอดออกมาเล็กน้อย... ทั้งที่คิดว่าจะไม่ร้องไห้เพื่อนายอีกแล้ว แต่ก็ทำไมได้สักที...

    นายมันบ้าที่สุดเลย ยูกิ...

    ทั้งที่นายแสดงท่าทีว่าเย็นชาขนาดนั้น ทำไมกับผู้หญิงคนนั้นนายถึงอ่อนโยนขนาดนั้นล่ะ แต่พอกับฉัน...

    ทำไมนายถึงไม่พูดล่ะ โกหกก็ได้ฉันพร้อมจะรับฟัง ฉันไม่ชอบเวลานายเงียบเลย นายรู้หรือเปล่า...

    ตุบๆ

    ฉันทุบเตียงสองสามที และร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหนัก นายทำให้ฉันเจ็บ... เจ็บมากๆ เลย ยูกิ

    ...

    คืนนั้น...

    ในขณะที่หญิงสาวเผลอหลับไปด้วยความเพลีย ประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมๆ กับร่างของชายหนุ่มร่างสูงที่ค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้เตียงของเธอ

    เขาลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน “ฉันขอโทษที่ทำให้เธอเสียใจ ขอโทษที่ทำให้เธอร้องไห้ ขอโทษที่เงียบไปตอนที่เธอถาม แต่สักวัน... เธอจะรู้ความจริง”

    ก่อนจะก้มลงจูบเบาๆ ที่หน้าผาก ราวกับของรักของหวง รอยจูบนั้นทำให้หญิงสาวที่กำลังหลับสนิทอยู่เผลอยิ้มบางๆ ออกมา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×