คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : CH 1
CH 1
HRKxGMXIII
Aek Talk:
เสียงพระสวดยังคงดังต่อเนื่องอย่างไม่หยุดหย่อน ผมจากที่นั่งหลังตรงเริ่มจะคร่อมลงตามกาลเวลา(?)จากที่อยู่นิ่งก็เริ่มอยู่ไม่สุขผมหันซ้ายหันขวายังดีที่พวกผมอยู่แถวหลังๆจะได้ไม่ต้องมีใครมามองให้โดนจิกตา รำคาญ~~
“เอกอยู่เฉยๆสิ”
คนข้างๆดุผมพร้อมสงสัยตาปรามมาให้ ก็อยากอยู่น่ะแต่มันน่าเบื่ออะทำไมต้องมางานศพของยัยนี้ด้วยน่ะรู้งี้ไม่น่าสั่งให้ไอออยไปฆ่าเลยลงมือเองยังดีซะกว่า ผมคิดอย่างเหนื่อยอ่อนเหนื่อยทั้งกาย(เพราะต้องนั่งปวดก้นปวดหลัง)เหนื่อยใจ(ที่ต้องมานั่งทนสายตาปรามจากคนข้างๆ)
“เบส”
คนข้างๆผมหันมามองเป็นเชิงว่ามีอะไรแม้สายตาจะแสดงความไม่พอใจออกมาก็เถอะ ผมรีรอที่จะพูดต่อเบสอ้าปากกำลังออกคำถามก็เงียบลง อ่ะๆอย่าพึ่งคิดไปทางนั้นน่ะคร้าบผมยังไม่รุกตอนนี้
“เอก....”
ผมได้ยินเสียงเบสจากด้านบน ก็ผลงมานอนตักเบสนี้นอนแบบไม่เกรงใจใครเลยด้วย เหอะเหอะเหอะ(-..-) [ไหนบอกไม่รุก?//คนอ่าน(-_-* )] ผมแอบมองด้านบนเห็นใบหน้าขาวๆของเบสขึ้นสีแดงอ่อนๆ อ่า... น่ารักจัง(=,.=)
“ลุกเดี๋ยวนี้น่ะเอกนี้ในงานน่ะ”
ใครจะสน ผม(ไม่)ยอมทนกับงานสำคัญที่วัด เพราะที่นี้มีอาหารเลี้ยงหรอกน่ะผมถึงมา(โห...ดูพ่อคุณ..)ไม่งั้นปานนี้ผมคงนั่งเฮฮาปาจิงโกะหน้าคอมสุดเลิฟเล่นกับหมาเมฆ(กระต่าย)สุดที่รักของผมอยู่ในหอแล้ว หรือไม่ก็ใช้ลูกอ้อน อ้อนเบสให้อยู่เป็นเพื่อนกันส่วนงานศพค่อยไปตอนเผาก็ได้
“เอกขอนอนหน่อยน้า~”
“ไม่ได้”
“น้า~ๆๆ เอกง่วงเอกต้องคอยจัดการเรื่องมางานนี้ให้เบสคนเดียวเลยน่ะเหนื่อยก็เหนื่อย”
“แล้วทำไมมึงไม่ปลุกกู?”
“ก็เอกเห็นเบสหลับสบายก็ไม่อยากปลุกอ่ะ เบสตอนนอนทำตัวน่าก(อ)ดมากเลยรู้อะเปล่า”
ผมไม่ได้เสียงตอบอะไรจากข้างบนแต่สิ่งที่ได้คือฝ่ามือ อรหันต์สำนักคุณเกรย์แมนสิบสามเป็นคำตอบ แต่เบสก็ไม่ได้ไล่ให้ผมนั่งเหมือนเดิมเบสคงเห็นใจผมละมั้ง เอาเถอะได้นุนตักนุ่มของเบสผมก็ฟิน เอ๊ย ดีใจแล้ว
ระหว่างที่ผมกำลังดิ่งเข้าสู่ห่วงนิทราก็สัมผัสถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านอยู่บนศรีษะ มันทั้งอบอุ่นและอ่อนโยนผมรวบรวมสติครั้งสุดท้ายปรือตามองด้านบน เบสกำลังยิ้ม....ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ผม กระซิบประโยคบางอย่างโดยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่ผมก็พอได้ยิน จึงยกยิ้มรับดวงตาปรือปิดสนิทเหนื่อยล้าจวนเจียนจะลุกได้อีกในตอนนี้...
.
.
Best Talk:
“ฝันดีน่ะ เอก”
ผมกระซิบให้คนข้างใต้ฟังเสียงลมหายใจเข้าออกปกติและช้าลงตามลำดับของคนเข้าสู่การนอนหลับผมยกยิ้มมือที่ลูบสัมผัสกับเส้นผมสีน้ำตาลเข้มยกขึ้นมาพนมมืออีกครั้ง
หมาป่ายามหลับก็เหมือนสุนัขเชื่องๆตัวนึง
ผมคิดอย่างขำขันลอบมองเอกที่พลิกตัวเข้าหาผมนอนคดเหมือนสุนัขที่ต้องการผ้าอุ่นๆ(ดูผมเปรียบเทียบ) ผมเลยต้องถอดชุดสูทนอกคลุมตัวเอก ตัวก็ใหญ่กินก็เยอะไม่ได้เอาไปเผาผลาญเป็นพลังงานสร้างความอบอุ่นรึไง
นั่งฟังพระสวดไปเรื่อยๆตาสีวอลนัทของผมก็สะดุดกับบุคคลคนนึง เขาดูตัวเล็กกว่าผมนิดหน่อยผมสีดำซอยประดับกับโครงหน้าเนียนจนสู้ผมได้ดวงตาสีนิลมองตรงไปยังด้านหน้า ผมหันมองตามสายตาของเขา ชายหนุ่มคนนั้นกำลังมองชาย(ใกล้)วัยชราใบหน้ายกยิ้มน้อยเหมือนไม่อยากให้ใครเห็นแต่มันก็ปิดบังผมไม่มิดจากประกายแห่งความปริติในดวงตา
ถ้าผมจำไม่ผิด คนคนนั้นคงเป็นลุงของฟ้า...
ผมเคยได้ยินฟ้าพูดถึงคุณลุงคนนี้บ่อยๆไม่ใช่ว่าชายคนนั้นจะใจดีจนต้องเอามาเล่าปากต่อปากแต่เพราะวีรกรรมด้านติดลบจนฟ้าเล่าไม่หมดต่างหาก ผมไม่เล่าหรอกน่ะเพราะไม่คิดจะรำลึกมัน
รู้แค่ว่าคุณลุงคนนี้จะได้รับมรดกร้อยล้านเมื่อฟ้าตายไปก็พอ
ผมแค่หัวเราะหึในลำคอเพราะลุงคนนั้นคงลืมไปแล้วละสิว่าฟ้ายังมีน้องชายชื่ออิคคิวอยู่ ผมตวัดตามองร่างเด็กหนุ่มผมสีครามที่นั่งข้างๆแล้วข้างๆตัวคิวก็มีออยอยู่...... หือ!? ผมเพ่งมองอีกครั้งแต่ต่อให้จะเพ่งดูจนตาถลนลงมากลิ้งบนพื้นสองสามตลบแล้วกลับมามองใหม่มันก็ออยชัดๆ! เออ...ที่ตรงนั้นมันสำหรับญาติของผู้เสียชีวิตไม่ใช่เหรอ
ผมมัวแต่คิดมากเกินไปรึเปล่าเลยไม่ทันสังเกตชายหนุ่มเหยียดมือไปทางชายชราคนนั้นในมือถือมีดสั้นขนาดเหมาะมือของทหารไว้มั่นรอยยิ้มเย็นประดับบนใบหน้าขาวเนียนของเขา ผมเหลือบเห็นประกายแวบจากปลายคมๆของมัน
เขาคงไม่คิดจะแสดงโชว์การขว้างมีดหรอกน่ะ?
ผมหัวเราะแกมเยาะเย้ยเบาเสมือนเสียงกระซิบ แต่แล้วตาผมก็ต้องเบิกกว้างเพราะมีดในมือเขาแปรเปลี่ยนเป็นแผ่นชิพสีเงินขยับขยายใหญ่เท่าช่วงแขนของผมเห็นจะได้แล้วกลับมาประกอบกันลักษณะของมันเป็นปืนกระบอกยาวติดสโค๊ปสีดำซึ่งตัดกับลวดลายสีเงินและลายหยดเลือดสีแดง
ปัง!!!
เสียงของมันดังกังวานเหมือนคนร้องโอเบร่าในโรงละคร ทุกสายตาหันจับจ้องปลายทางของวิถีกระสุนมันเจาะกลางกระหม่อนลุงของฟ้าอย่างพอดิบพอดี ผู้หญิงคนในงานกรี๊ดลั่นด้วยความตื่นตนกและหวาดกลัวไม่รอช้าผู้คนในงานก็วิ่งกันชุลมุนเหมือนหนูสกปรกที่วิ่งหาทางรอด
ผมจะก้มไปปลุกเอกแต่ก็ต้องลุกขึ้นยืนก็เพราะมันไม่ได้นอนบนตักผมแล้วนี้ ผมหันซ้ายหันขวามองไปทางไหนก็เห็นแต่คนที่วิ่งหนีหาทางรอดในใจผมร้อนรนในหัวมีคำพูดคือ เอก มึงอยู่ที่ไหน?
หมับ
“เบส กูอยู่นี้ไม่เป็นไรมึงมากับกูนี้”
สัมผัสร้อนผ่าวแต่ก็อบอุ่นลงมาปิดที่ตาของผมเสียงทุ้มต่ำไพเราะดังอยู่ข้างหูชวนให้จั๊กจี้ เอกยังอยู่ข้างๆแต่ทำไมเขาถึงต้องปิดตาผมด้วย?
สัมผัสต่อมาคือความนุ่มเหมือนผ้าโปะอยู่แถวจมูกผมเผลอสูดมันเข้าไปทีนึงความวิงเวียนและงัวเงียเข้าครอบงำชั่วขณะก่อนตาจะปรือปิดลงครั้งสุดท้ายคือประโยคกระซิบเสียงแผ่วจากเอก...
“หลับซะน่ะ”
.
.
.
.
________________________To be continute_________________________
ความคิดเห็น