[Fic Gintama]Mother's Day
เมื่อเวลาผ่านพ้นมาจนถึงวันแม่ เหล่านักรับจ้างสารพัดจึงพยายามหาทางทำอะไรให้สมกับในวันแม่!!
ผู้เข้าชมรวม
770
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
วันแม่แห่งชาติ
วันแม่แห่งชาติในประเทศไทย ปัจจุบันตรงกับวันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยเริ่มใช้วันดังกล่าวเป็นวันแม่แห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2519 ก่อนหน้านั้นเคยใช้วันที่ 10 มีนาคม, 15 เมษายน, และ 4 ตุลาคม
สัญลักษณ์ที่ใช้ในวันแม่คือ ดอกมะลิ ซึ่งมีสีขาว ส่งกลิ่นหอมได้ไกลและได้นาน อีกทั้งยังออกดอกได้ตลอดทั้งปี โดยตีความเปรียบกับความรักบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูกไม่เสื่อมคลาย
ที่มา : http://th.wikipedia.org/
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Name : Mother’s Day
Author : Bloody Wolf
Pair : -
Rate : G
[*หมายเหตุ-ในนี้จะยึดเอาวันแม่ของญี่ปุ่นแทนของไทยนะครับ ซึ่งจากข้อมูลที่หาแบบเร่งด่วนและลวกๆ รู้สึกจะเป็นวันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคม ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะครับ]
จิ๊บๆๆ...
เสียงนกน้อยดังขึ้นเมื่อรุ่งอรุณของวันใหม่มาถึง ปีกเล็กๆสองคู่ของนกสองตัวพานกน้อยสีน้ำตาลทั้งสองมาเกาะอยู่ที่ขอบหน้าต่างไม้พร้อมกับส่งเสียงร้องไพเราะปลุกหนุ่มผมเงินยุ่งเหยิงที่ยังนอนซุกที่นอนอุ่นให้ลุกขึ้นมารับอรุณวันใหม่
หากเป็นปกติ ร่างสูงคงจะดึงผ้าห่มมาคลุมโปงแล้วนอนต่อ แต่ครานี้ร่างสูงกลับหันหัวไปมองต้นเสียงที่ยังส่งเสียงอย่างสบายอารมณ์ ดวงตาสีทับทิมเรียบเฉยที่ดูกวนประสาทกวาดไล่ไปทั่วห้อง จนไปสะดุดกับปฏิทินที่ติดอยู่ข้างฝา
ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่สองของเดือนนี้...
เดือนพฤษภาคม...
นัยน์เนตรสีเลือดหม่นแสงลงชั่วขณะ ก่อนจะเปลี่ยนกลับมาเรียบเฉยเช่นเดิม ร่างสูงลุกจากที่นอนก่อนจะเดินไปอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย หันมาคว้าโทยะโกะคู่ใจเหน็บไว้ข้างเอว ก่อนที่มือหนาข้างหนึ่งจะเลื่อนประตูห้องนอนเปิดออกเพื่อเดินออกไป
"อ้าว? เพิ่งตื่นหรือน่อ อากินจัง"
เด็กสาวร่างบางผมสีส้มในชุดกี่เพ้าหันมาถามเขา ร่างสูงตอบรับก่อนที่สายตาจะสำรวจเห็นกับข้าวและข้าวสวยวางเรียงไว้บนโต๊ะเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งที่ร้อยวันพันปีร่างบางไม่เคยตื่นมาทำอาหารแต่เช้า แถมยังเป็น'อะไร'ที่ไม่ใช่ข้าวโปะไข่ดิบอีกต่างหาก จะว่าเป็นฝีมือของหนุ่มแว่นสุดเรียบร้อยประจำร้านก็ไม่น่าใช่ เพราะประสาทสัมผัสที่ที่การรับรู้สุดยอดแม้จะไม่ต้องพยายามไม่รู้สึกถึงตัวตนของบุคคลที่สี่เลยเลย รวมซาดะฮารุซึ่งนอนอยู่ใกล้ประตูบ้าน
"วันนี้เกิดอะไรเธอถึงมาทำกับข้าวได้ล่ะนี่ แถมยังไม่ใช่ข้าวโปะไข่ดิบอีกตะหาก"
ร่างสูงพูดเนือยๆ เดินมานั่งลงที่โซฟาที่ประจำ ก่อนที่ร่างบางจะยื่นชามข้าวที่มีข้าวสวยร้อนๆส่งกลิ่นหอมฉุยให้
"ก็วันแม่ไงล่ะน่อ"
"วันแม่น่ะฉันรู้แล้ว หรือเธอจะบอกว่าวันนี้พยายามทำตัวเป็นคุณแม่จ๋าซักวัน"
"อย่างอั๊วไม่ต้องพยายามก็เป็งอาม๊าล่ายอยู่เลี้ยวน่อ"
ถึงคำพูดจะออกแนวหลงตัวเอง แต่ท่าทีที่ไม่สนใจอย่างอื่นนอกจากการเดินไปหยิบไม้ขนไก่ขึ้นมาปัดฝุ่นตามตู้นั้นก็สร้างความแปลกใจให้ร่างสูงไม่ใช่น้อย
"วันนี้ดูเธอแปลกไปนะ เป็นไข้รึไง"
"ก็ไม่มีอะไรนี่น่อ รีบๆเจี๊ยะเข้า อั๊วจะได้เอาจานไปล้างน่อ"
แม้จะสงสัย แต้เสียงร้องขออาหารจากกระเพาะก็ทำให้ร่างสูงเลิกสน แล้วหันมาคีบข้าวกับผักกาดเข้าปาก ปฏิเสธไม่ได้ว่ารสชาติมันใช้ได้ทีเดียว
"สวัสดีครับคุณกิน~ คางุระจัง~"
เสียงอีกเสียงของหนุ่มแว่นสุดเรียบร้อยประจำร้านดังขึ้นที่ประตูพร้อมกับหัวดำๆโผล่เข้ามาที่ห้องนั่งเล่นตรงกลาง นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลภายใต้แว่นสายตาฉายแววงุงงงเล็กน้อยเมื่อเห็นอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะตรงกลาง
"นี่ใครเป็นคนทำครับเนี่ย? น่าทานจัง"
"อั๊วทำเองล่ะน่อ"
ร่างบางเดินออกมาจากระเบียงด้านหลังพร้อมตะกร้าที่ใส่ผ้าเต็ม ยิ่งทำให้หนุ่มแว่นงงขึ้นไปอีก แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร
"อาชินปาจิมาก็ลีเลี้ยวน่อ เดี๋ยวอั๊วจะออกไปข้างนอก เย็นๆอั๊วถึงจะกลับน่อ"
ร่างบางพูดรวดเดียวก่อนที่มือบางจะคว้าร่มคู่ใจแล้วเดินออกไปจากร้านพร้อมกับสุนัขสีขาวตัวโตที่วิ่งตามไป
หนุ่มแว่นร่างบางเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย แต่ก็เดินไปตักข้าวมากินกับร่างสูงที่ยังกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย เนื่องจากเมื่อเช้าเขาต้องออกจากบ้านทันทีเพราะพี่สาวพยายามให้เขากินไข่เจียวฝีมือเธอ เขาจึงต้องอ้างว่ารีบมาทำงาน จึงยังไม่ได้กินอะไรเลย
"โห~ อร่อยจังครับ! คางุระจังเป็นคนทำจริงๆเหรอครับเนี่ย!"
หนุ่มร่างบางพูดขึ้นเมื่อตักข้าวคำแรกเข้าปาก แทบไม่อยากเชื่อว่าคนที่ทำอาหารที่เขากำลังกินนี้เป็นคนเดียวกับเด็กสาวบ้าบ๊วยแผ่นปากเสียคนนั้น
"เออๆ อย่ามัวแต่พูด เอาจานไปล้างด้วยล่ะชินปาจิ"
"คร้าบๆ"
ร่างสูงลุกจากโซฟาไปนั่งที่เก้าอี้หลังโต๊ะทำงานที่ประจำ นัยน์เนตรสีทับทิมเหม่อมองไปยังท้องฟ้า สมองหวนนึกไปถึงบางอย่างที่ยังติดแน่นอยู่ในความทรงจำ
"กินจัง! ไปเล่นที่ไหนมาจ๊ะ? มอมแมมไปหมดเลยนะเนี่ย"
"ผมขอโทษครับแม่ คาจิชวนผมเล่นเพลินไปหน่อย"
"เอาเถอะจ้ะ รีบไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวคุณพ่อจะกลับมาแล้วนะ"
"ฮะ! คราวนี้ผมต้องให้พ่อสอนดาบผมให้ได้เลย!"
"จ้าๆ"
ครอบครัว...
ความทรงจำของครอบครัวที่เลือนลางเต็มที หากแต่ก็ไม่เคยลืมออกไปจากความทรงจำ
ความทรงจำที่บางคราก็ฝันถึง ได้เห็นทุกเรื่องราว ทั้งสุข ทุกข์ และการจากไปของครอบครัว โดยที่ตนเองไม่อาจช่วยอะไรได้สักนิด
ไม่...
ก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่นึกถึง! ทำไมถึงยังไม่ลืม!
ร่างสูงสะบัดหัวไปมาแรงๆราวกับต้องการสลัดความทรงจำนั้นออก ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ทำงาน ก่อนจะเดินเร็วๆออกจากร้านไป
"คุณกินครับ!? จะไปไหนกันครับ!"
"ขับรถเล่น ดูร้านให้ดีล่ะ"
**********
ร่างเล็กบางของเด็กสาวผมส้มเดินเรื่อยๆไปตามถนน แสงแดดและสายลมยามเช้าทำให้ใจสงบได้พอควรทีเดียว อินุงามิตัวโตด้านหลังเดินตามมาเงียบๆ ส่ายจมูกเปียกๆสีดำดมกลิ่นอากาศยามเช้าไปทั่วอย่างอารมณ์ดี
ภายนอกเด็กสาวอาจดูเรียบนิ่ง หากแต่ภายในกลับเหม่อลอยด้วยหวนถึงอดีตบางอย่าง
ถึงตอนนั้นจะยังเล็ก...แต่ก็ยังจดจำได้ดี...
"หม่ามี๊! ทำอารายอยู่อ่ะน่อ?"
"อ้าว? คางุระ กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ? ไม่ไปเล่นเหรอ?"
"อั๊วไปเล่นแล้วน่อหม่ามี๊ แต่ปาปี๊พาอั๊วกลับบ้านเพราะอั๊วม่ายล่ายกางร่มระหว่างเล่นน้ำฝนน่อ"
"ไม่ได้นะจ๊ะคางุระ ไปเล่นแบบนั้นเดี๋ยวก็เป็นหวัดเอาพอดี งั้น...ไปเรียกอาเฮียกับอาป๊าให้แม่หน่อยนะจ๊ะ อาหารจะเสร็จแล้ว"
"ล่ายเลยน่อหม่ามี๊!"
ริมฝีปากบางเผยรอยยิ้มบางขึ้นมา จำได้ว่าเคยเป็นลูกมือช่วยแม่ทำอาหารอยู่หลายครั้ง จึงได้ทำอาหารเก่งพอควร แต่พอแม่เสีย เธอก็เลิกทำงานบ้าน เลิกทำอาหาร อยู่อย่างเดียวดายไร้แก่นสาร
จนได้มาเจอกับพวกเขา...
เหล่าผองเพื่อนที่ทำให้เธอได้สัมผัสคำว่าเพื่อน คำว่าครอบครัวอีกครั้ง
ขอบคุณ...
คงไม่มีคำไหนที่จะบอกได้มากกว่าคำนี้อีก ดวงตาสีไพลินกวาดมองรอบกาย ยังไงวันนี้เธอก็ว่างทั้งวัน ไปหาซื้อของหน่อยดีกว่า
**********
ร่างสูงผมสีเงินเดินลงมาจากบันไดขึ้นร้านรับจ้างสารพัด ก่อนจะสบตากับหญิงแก่ท่าทางโหดนิดๆผู้เป็นเจ้าของบ้านเช่าของเขาและเจ้าของสแน๊คโอโทเซะ
"จะไปไหนแต่เช้า กินโทกิ เออ ว่าแต่ค่าเช่าบ้านเดือนที่แล้วยังไม่จ่ายเลยนะ!!"
"ยุ่งน่าป้าแก่ ก็มันยังไม่มีนี่! เดี๋ยวมีแล้วก็เอามาจ่ายเองล่ะน่ะ!!"
"ทำยังกับแกเอามาจ่ายฉันจริงๆ!! เฮ้ย!! จะไปไหนกันกินโทกิ!!"
"ไปข้างนอก! อย่างน้อยก็หนียายแก่หน้าเหี่ยวขี้บ่นแล้วกัน!!"
ว่าจบร่างสูงก็ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซคู่ใจก่อนจะออกรถออกไปทันที
โอโทเซะมองตามร่างสูงผมเงินที่ขับรถออกไปอย่างดื้อรั้นอย่างเอือมระอา ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในร้านสแน๊คโอโทเซะ ยังไงวันแม่นี้ เธอก็ไม่หวังอะไรจากเจ้าพวกไร้แก่นสารที่อยู่ชั้นสองบ้านเธออยู่แล้ว
มั้ง...?
ทางด้านร่างสูงที่ขับรถออกมา ก็เริ่มออกรถตะลอนไปทั่วเมือง ด้วยความที่เป็นนักท่องเอโดะตัวยง จึงใช้เวลาไม่นานในการหาทางลัดไปถึงร้านปาจิงโกะเจ้าประจำแล้วนำเงินค่าจ้างครั้งก่อนหลังจากแบ่งเงินเดือนแล้วไปผลาญเล่น
หลังจากเล่นไปเรื่อยๆจนเงินหมดและพอใจ ในที่สุดร่างสูงก็เดินออกมาจากร้านปาจิงโกะด้วยท่าทีเซ็งๆ มือหนึ่งล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงพอเจอเศษเหรียญไม่กี่เหรียญก่อนจะควักออกมาดู
"สามสิบ... สี่สิบ... ห้าสิบเยน ทำไมวันนี้ดวงตกอย่างงี้ฟะ"
ร่างสูงพึมพำอย่างหงุดหงิด เดินไปที่รถมอเตอร์ไซคันเก่งเพื่อจะกลับบ้าน
พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นบางอย่าง...
**********
ครืด...
เสียงเลื่อนประตูเปิดหน้าร้านสแน๊คโอโทเซะดังขึ้นเรียกให้หญิงแก่ผู้เป็นเจ้าของร้านหันไปมอง วันนี้ลูกจ้างทั้งสองของเธอไม่อยู่ร้าน ทามะไปเช็คเครื่องประจำปีกับเก็นไง ส่วนแคทเทอรีนลากลับบ้านไปหาแม่ที่ดาวบ้านเกิด
"อ้าว ชินปาจิ ยัยหนู มีอะไรล่ะ ถ้าบอกว่ามาขอยืมเงินล่ะก็ไม่เอาหรอกนะ"
"เปล่าครับคุณโอโทเซะ"
"พวกเราม่ายล่ายมาขอยืมเงินหรอกน่อ..."
คำตอบที่ได้รับทำให้หญิงแก่เลิกคิ้วอย่างสงสัย แต่ก็ได้รับคำตอบในวินาทีต่อมาเมื่อเห็นเด็กสาวกับเด็กหนุ่มรุ่นลูกทั้งสองยื่นดอกคาร์เนชั่นให้
"นี่...?"
"วันนี้เป็นวันแม่... แต่ว่า... พวกเราไม่มีแม่ เลยไม่รู้จะให้ดอกคาร์เนชั่นนี้กับใคร..."
หนุ่มแว่นพูดเขินๆเมื่อเห็นแววตาสงสัยของหญิงแก่ตรงหน้าที่มองมา
"จะได้มั๊ยครับ ถ้าเราอยากให้คุณโอโทเซะเป็นแม่ของพวกเราอีกคน"
คำพูดที่ทำให้ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ ก่อนที่ดอกคาร์เนชั่นทั้งสองช่อจะถูกหญิงแก่รับไปถือไว้แทน
"พวกเธอนี่...คิดอะไรบ้าๆ"
"?"
"ซื้อของพรรค์นี้มาให้น่ะนะ..."
"..."
"แค่ดอกเดียว ฉันก็ดีใจตายแล้ว"
ประโยคที่เรียกรอยยิ้มจากเด็กๆทั้งสอง โอโทเซะยิ้มบางๆก่อนที่เสียงเปิดประตูเลื่อนอีกเสียงหนึ่งจะดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงผมเงินที่ก้าวเข้ามา
ฟึ่บ...
ก่อนจะวางดอกคาร์เนชั่นสีแดงดอกหนึ่งลงบนช่อดอกไม้ของพวกเด็กๆ น้ำเสียงเรียบนิ่งดังขึ้นมา แต่ก็พอรู้ได้ว่าคนพูดนั้นพูดเพียงแค่กลบเกลื่อนความเขิน
"เอาไปซะป้าแก่ พอดีเอาเงินไปเล่นปาจิงโกะหมดแล้ว เหลือไว้ซื้อได้แค่นี้ล่ะ"
ถึงประโยคจะแข็งกระด้าง ไม่อ่อนหวานเหมือนกับคนอื่น แต่ทุกคนก็ยิ้มออกมา ก่อนที่โอโทเซะจะเอาดอกไม้ไปเก็บหลังบ้านแล้วเดินออกมา
"พวกแกซื้อมาเยอะขนาดนี้ ฉันจะหักค่าดอกไม้ออกจากค่าเช่าบ้านเดือนที่แล้วละกัน เอาเป็นว่าค่าเช่าบ้านเดือนที่แล้วไม่ต้องจ่าย มากินข้าวกันได้แล้ว!"
พูดจบก็ยกอาหารออกมาวางไว้ที่โต๊ะกินข้าว พวกเด็กๆร้องอย่างดีใจก่อนจะรีบพุ่งเข้ากินจนโอโทเซะต้องบ่นออกมาเป็นระยะ
นัยน์ตาสีทับทิมมองไปยังกลุ่มคนเบื้องหน้าด้วยแววตาอ่อนโยนที่สุด รอยยิ้มบางเบาปรากฏขึ้นบนใบหน้าคม ก่อนจะเดินเข้าไปแย่งเทมปุระที่ร่างบางผมส้มกำลังจะหยิบมาเข้าปาก
"อากินจัง! อันนั้งของอั๊วน่อ!!"
"แต่ฉันหยิบได้นี่"
"หนอย... เอาคืงมาน่อ!!!"
ถึงจะไม่ได้อยู่กับแม่ก็ไม่เป็นไรหรอก...
เพราะตอนนี้... พวกเขามีสิ่งล้ำค่ากว่าครอบครัวอยู่ตรงหน้าแล้ว...
...The End...
________________________________________
ยะฮู้ววววว~!!! ในที่สุดก็เสร็จซะที!! ฟิคอัพฉลองวันแม่!!
ยังจำกันได้มั๊ยคร้าบ ผมเป็นแอดมินวูล์ฟ รับผิดชอบเรื่องฟิคครับ!!
หวังว่าฟิคเรื่องนี้... ทุกคนคงจะชอบกันนะครับ
ส่วนดอกไม้ ญี่ปุ่นจะให้ดอกคาร์เนชั่นกับแม่ในวันแม่ของเขากันครับ
ขอบคุณคร้าบ~
Bloody Wolf
ผลงานอื่นๆ ของ Gintama ปี3 ห้องz ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Gintama ปี3 ห้องz
ความคิดเห็น