ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { exo } mischance in destiny (chanbaek feat.kris)

    ลำดับตอนที่ #11 : "ความบังเอิญ" - การเดินทางวันที่ 9

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.17K
      22
      12 ก.ค. 58

             

          การเดินทางวันที่ 9

    D-6

    (chanyeol part)

    เฮ้ย มึงอาบน้ำเสร็จยังเนี่ย

     ผมยืนพิงประตูห้องน้ำและหลับตางัวเงียไปด้วย มือก็เคาะประตูไปพลางด้วยความอ่อนแรง ทั้งอาการมึนเมาจากเมื่อคืนและอาการงัวเงียโจมตีผมอย่างรุนแรง แทบจะยืนกันไม่ได้เลยทีเดียว

    แปปนึงดิ

     “กูจะอาบน้ำบ้าง

    ผ่าง!

    แบคฮยอนกระชากประตูห้องน้ำให้เปิดออก พร้อมๆกับร่างขาวที่ออร่าความวิ๊งปะทะสายตาผมพอดี หยดน้ำเกาะแพรวพราวทั่วทั้งร่างเนียน อีกทั้งใบหน้าขาวใสที่มุ่ยทุ่ยเพราะผม

    ทั้งหมดทั้งมวลนั่น..เรียกเสียงหัวใจของผมให้มีชีวิตอีกครั้ง

    ยั่วเช้ายั่วเย็นเลยนะมึง” ผมพูดเล่นๆ และมันก็ไม่ได้สนใจฟังอะไร

    อาบพร้อมกันแม่งเลยไหม เร่งจัง” เขากระทืบเท้าเดินออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะใช้ผ้าขนหนูขยี้หัวไปพลาง

    ท้ากูใช่ไหม

    จัดไปดิเพื่อน

    ผมเอื้อมตัวไปคว้าแขนเล็ก ก่อนจะเหวี่ยงเขาเข้าไปในห้องน้ำเหมือนเดิมทันที ร่างเล็กที่เปลือยท่อนบนถูกผมกระชากเข้ามาในห้องน้ำอย่างแรงจนเกือบลื่น ดีที่ผมยังจับตัวเขาไว้อยู่ ไม่งั้นได้มีหัวร้างข้างแตกกันบ้าง

    เฮ้ย

    ปัง!

    ผมใช้เท้าหลังดันประตูให้ปิดลง ก่อนจะดึงผ้าเช็ดตัวที่คาดเอวออกและพาดไว้บนราวด้านข้าง แบคฮยอนยกขาขึ้นถีบผมเบาๆ ปากก็ด่าไปนู้นไปนี่ แต่เจ้าตัวก็รีบดึงผ้าม่านที่กั้นระหว่างโซนอาบน้ำกับอ่างล้างหน้าไว้

    ส่วนผมก็เปิดฝักบัวอาบน้ำไปเงียบๆ ขณะที่แบคฮยอนก็กำลังวุ่นวายอยู่กับการบำรุงสุขภันฑ์ผิวหน้าตัวเอง ผมเหลือบไปมองไอน้ำที่เกาะตัวอยู่ข้างๆผ้าม่านสีขาวจนมันเกิดฝ้า จากนั้นก็ลองเป่าลมร้อนๆที่ออกมาจากอุณภูมิในร่างกายลงไปบนผ้าม่านที่ขึ้นไอน้ำนั่น ก่อนจะจรดนิ้วเขียนลงเป็นตัวอักษรหัวกลับ จากซ้ายก็เขียนกลับไปทางด้านขวาทั้งหมด..

    บ อ ช

    แบคฮยอน หันมานี่ดิ

    ผมอยู่หลังผ้าม่านสีขาวขุ่นๆ ที่จะมองเห็นอะไรจากด้านนอกไม่ค่อยชัด แต่ก็ขึ้นเป็นภาพลางๆพอให้เดาท่าทางออก

    อะไรมึง

    ให้ทายกูเขียนว่าไร

    ผมลบที่เขียนตอนแรกออก ก่อนจะจรดนิ้วเขียนลงไปใหม่ แบคฮยอนมองค้างอยู่อย่างนั้นเหมือนพยายามเพ่งเล็งว่าผมกำลังเขียนว่าอะไร

    เขียนอะไรวะ..เตี้ย?” เขาทวน ซึ่งผมก็หัวเราะร่วนทันที แบคฮยอนหันไปคว้าที่ฉีดก้นออกมากดน้ำและอัดใส่หน้าผม แต่ดีที่มีผ้ากั้น ไม่งั้นผมได้ออกไปอัดมันทั้งแก้เปลือยนี่แน่ๆ

    คำนี้อ่ะ

    ขี้แง..? ไอ้ห่า เขียนด่ากูทั้งนั้นเลยอ่ะ

    นี่ๆ คำนี้..”

    ผมอมยิ้มออกมาบางๆ ขณะที่ค่อยๆจรดนิ้วลงไปช้าๆ..

    อะไรวะ...ช้าง? .อ่าง? ตัวสุดท้ายอะไรอ่ะ..มึงเขียนดีๆดิ” ผมตั้งใจเขียนหวัดๆเอง เพราะไม่อยากให้เขาอ่านมันเข้าใจ กำลังจะเขียนตัวสุดท้ายแต่ก็ตัดสินใจลบออก

    เอ้าตัวสุดท้ายอะไรอ่ะ มึงเขียนว่าไร บอกกูบ้างดิ

    ผมไม่ได้ตอบอะไร หันไปอาบน้ำล้างตัวต่อเงียบๆ พอเสร็จธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว ผมก็แหวกผ้าม่านออก ก่อนจะเอื้อมตัวไปหยิบผ้าขนหนูมาพาดเอว ขณะที่ขาก็ก้าวเข้าไปใกล้ๆแบคฮยอนซึ่งกำลังหลับตาและวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าที่มีแต่โฟมเต็มไปหมด

    เมื่อเขาล้างหน้าจนโฟมออกหมดเกลี้ยงแล้ว เจ้าของใบหน้าหวานก็ลืมตาขึ้น เงยหน้ามองกระจกที่มีผมยืนซ้อนและยิ้มแฉ่งอยู่ด้านหลัง

    เฮ้ย ตกใจหมด ไอ้เหี้ยนี่!” เขาสาดน้ำใส่หน้าผมและผลักอกออกแรงๆ แบคฮยอนหยิบผ้าขนหนูมาซับหน้าไปพลางขณะที่มองผมด้วยสายตาหวาดๆ

    อาบเสร็จก็ออกไปแต่งตัวดิ” มันชะงักมือที่กำลังซับหน้าลงก่อนจะเดินถอยหลังหนีผมที่เข้าต้อนเรื่อยๆ แบคฮยอนเบี่ยงหน้าหลบเมื่อผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเขา..

    โฟมติดหน้า…”

    ผมหัวเราะเสียงขึ้นจมูกก่อนจะใช้นิ้วปาดโฟมสีขาวจุดเล็กๆที่ติดอยู่ตรงข้างขมับเขาออกเบาๆ จากนั้นก็เปิดประตูเดินออกไปแต่งตัวข้างนอก..

    และเมื่อพ้นสายตาเขาแล้ว จิตวิญญาณเรกเก้สการ์ก็เข้าสวมทันที!!

    ตึกตักตึกตัก

    ผมกระโดดลงไปดิ้นบนเตียงและขยี้หัวตัวเองด้วยความบ้าคลั่ง ยิ่งมองหน้าแบคฮยอนใกล้ๆแบบนั้น ยิ่งทำให้ผมเป็นบ้าหนักไปกว่าเดิม

    นี่กูชอบมันเหรอ

    กูชอบผู้ชายจริงๆเหรอ

    เออ ช่างแม่ง จะผู้หญิงหรือผู้ชายขอแค่เป็นแบคฮยอนก็พอแล้ว!!

     “มึงเป็นห่าไรวะน่ะ

    ผมกระเด้งตัวขึ้นมายืนและจ้องหน้าเขาด้วยสีหน้าที่ปั้นไม่ถูก แบคฮยอนเลิกคิ้วขึ้นถามอีกรอบจนผมต้องยิ้มแหยๆกลับไป ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อขึ้นมาใส่กลบเกลื่อน เหลือบไปมองแบคฮยอนที่เกาหัวตัวเองงงๆเหมือนไม่เข้าใจในกิริยาของผม

    จะเก้าโมงล่ะ รีบไปเหอะ

    ผมหันไปมองเขาที่กำลังนั่งเตรียมของและหันหลังให้ แอบกระโดดโลดเต้นอยู่ข้างหลังคนเดียวโดยที่เขาไม่รู้เรื่อง เมื่อแบคฮยอนตงิดว่ามีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ด้านหลัง เขาจึงหันหน้ากลับมามอง ส่วนผมก็ทำเป็นออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายแทน

    เมื่อยๆเนอะ” ผมหัวเราะกลบเกลื่อน ส่วนแบคฮยอนก็หรี่ตามองผมแบบจับผิด

    เป็นอะไรเมื่อย…”

    เขินมึงนั่นแหละ

    แบกมึงเยอะเกินอ่ะ นี่กูหลังไม่เคล็ดก็บุญแล้วสัด” แบคฮยอนทำท่าจะขว้างหนังสือใส่ผมแต่ก็วางไว้ ก่อนที่เจ้าตัวจะหันกลับไปเก็บข้าวของของตัวเองที่วางเกลื่อนกลาดอยู่ทั่วทั้งห้อง

    ผมค่อยๆหุบรอยยิ้มลงช้าๆ เมื่อมองร่างเล็กที่กำลังเดินไปทั่วทั้งห้องเพื่อเก็บข้าวของใส่กระเป๋า ข้าวของที่ตอนแรกมันวางคู่กับของๆผมค่อยๆหายไปทีละอย่างทีละอย่าง

    จนเหลือแค่ของๆผมที่วางอยู่อย่างโดดเดี่ยว

     “มึงจะกลับจริงๆเหรอวะ

    ผมยืนนิ่งๆและถามแบคฮยอนที่กำลังเก็บกวาดไส้ดินสอบนพื้น ร่างเล็กชะงักมือที่กำลังเก็บดินสอสองบีทั้งหมดลงกระเป๋าก่อนที่เขาจะค่อยๆยืดตัวขึ้นมามองหน้าผมช้าๆ..

    ก็จริงดิวะ..”

    ไม่ไปไม่ได้เหรอมึงไม่ไปได้ไหม

    อ๋อ..เออๆ

    ก็ได้แต่เรียกร้อง..อยู่ในใจเท่านั้น

    ถึงกูจะเริ่มชอบมึงแค่ไหน มึงก็ไม่มีวันรู้ใช่ไหมวะ

    งั้นเดี๋ยวกูช่วยเก็บล่ะกัน..”

     (chanyeol part end)

    จังหวัดสตูล

    เกาะหลีเป๊ะ

    พวกเขาทั้งคู่ก้าวลงจากรถสองแถวที่นั่งต่อจากในเมืองเข้ามาภายในตัวหาด หลังจากเดินไปจ่ายตังค์ค่ารถค่าราเสร็จเรียบร้อย แบคฮยอนก็เดินนำหน้าเข้าไปทันทีโดยมีชานยอลที่ยืนละล้าละลังอยู่ข้างหลัง

    แบคฮยอนชะงักเมื่อไม่มีเพื่อนร่วมทางคู่ใจเดินมาขนาบข้างกันอย่างที่ควร เจ้าของร่างเล็กและใบหน้าขาวใสหันไปทำหน้าหงิกหน้างอใส่เจ้าของใบหน้าคมคายที่บัดนี้ฉายไปด้วยความกังวลเต็มไปหมด

    ข้ามมาดิ” เสียงทุ้มเล็กตะโกนบอกจากอีกฝั่ง ชานยอลวิ่งเยาะๆข้ามไปหาแบคฮยอน ก่อนที่มือหนาจะจับที่สายคล้องกล้องแน่นๆ เหมือนกำลังนึกถึงใครบางคนที่เป็นต้นเหตุทำให้เขามายืนอยู่จุดๆนี้

    ชานยอลไม่กล้าออกเดิน ด้วยความกลัวที่คืบคลานเข้ามาตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้กลิ่นอายของทะเลสีใส ภาพความทรงจำวันร้ายๆจากเมื่อตอนเด็กๆผุดขึ้นมาทำให้เขารู้สึกกลัว..

    จับมือกูดิ

    แบคฮยอนยื่นฝ่ามือเล็กออกมาตรงหน้าร่างสูง ชานยอลก้มมองมือขาวเนียนนั่นด้วยความรู้สึกแปลกๆในจิตใจ คล้ายว่าหัวใจกำลังจะหยุดเต้นไปเพราะการกระทำของคนตรงหน้า

    ไม่รู้ว่าความกลัวที่อัดแน่นไปทั่วทั้งใจค่อยๆเลือนหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่

    อาจจะเป็นตอนที่เสียงหัวใจแทรกเข้ามาแทนที่อาการหวาดกลัวนั่นก็ได้..

    จับไม่ปล่อยเลยเอาเปล่า” ชานยอลยักคิ้วที่พาดเฉียงได้รูปขึ้นข้างเดียวแบบกวนๆก่อนจะยื่นมือไปจับฝ่ามือคนตรงหน้าช้าๆ

    จับแน่นๆก็พอล่ะ” แบคฮยอนมุ่ยหน้าใส่ชานยอล ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินจับมือกันและมุ่งหน้าไปทางหาดทรายขาว

    เกาะหลีเป๊ะเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางอย่างหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสตูล ซึ่งตั้งอยู่ที่เกาะทางใต้มีชื่อว่าเกาะอาดัง จุดเด่นของสถานที่ท่องเที่ยวนี้คือความเป็นธรรมชาติของปะการังรอบๆเกาะ มีอ่าวที่โค้งตัวซัดเซาะไปตามผืนทรายอันขาวละเอียดเกิดความสวยงามแก่สายตา

    โคตรของโคตรพ่อสวยเลยว่ะ…”

     ชานยอลเอ่ยออกมาด้วยความตกตะลึงไปกับความงามของธรรมชาติ ทันทีที่ฝ่าเท้าสัมผัสลงที่ผืนทรายสีขาวละเอียด ความนุ่มนิ่มของเม็ดทรายทำให้เขารู้สึกเพลิดเพลินกับการเดินเล่นไปเรื่อยๆ

    ความกลัวค่อยๆบินหายไป กลับกลายเป็นความตื่นเต้นแทนที่

    ไม่เห็นน่ากลัวอย่างที่คิด..

    สวยเนอะ…”

    ทั้งคู่หันมามองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ ชานยอลกุมฝ่ามือเล็กแน่นก่อนจะแกว่งไปมาช้าๆด้วยความสุขที่เอ่อล้นภายในหัวใจ

    ไม่คิดว่าจะสวยขนาดนี้นะเนี่ย

     แบคฮยอนย่อตัวลงนั่งเล่นกับทรายสีขาวละเอียด มือเรียวเอื้อมไปแตะที่ผิวน้ำทะเลใสๆซึ่งไม่อาจหาได้ง่ายๆจากทะเลอ่าวไทย โดยที่มืออีกข้างก็ยังจับอยู่ที่มือหนา ซึ่งก็ไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยออกเหมือนกัน

    ร่างสูงก้มหน้าลงมองร่างเล็กที่กำลังพยายามคว้าหอยทะเลซึ่งลอยละล่องไปตามคลื่นของน้ำ เขาหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะยกขาขึ้นเตะที่ก้นเล็กอย่างหยอกล้อ

    ทำอะไรของมึงอ่ะชานยอลถามพลางกลั้วหัวเราะ เขาโยกศรีษะเล็กไปมาเบาๆพร้อมกับหัวเราะไปด้วย แบคฮยอนจึงออกแรงดึงให้ชานยอลย่อตัวลงมานั่งข้างๆกัน

    ทั้งคู่นั่งดื่มด่ำกับธรรมชาติด้วยความสุขขีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ชานยอลเองก็หัวเราะออกมาดังๆเหมือนๆกับแบคฮยอนเช่นเดียวกัน ทั้งคู่ดูมีความสุข..

    ความสุข..ที่กำลังจะจบลงในไม่ช้า

    โดยที่พวกเขาสองคนต่างก็รู้ดี..ว่าความสุขที่กำลังมี

    มันไม่ใช่ตลอดกาล..

    ทรายขาวกว่าที่คิดไว้อีก นุ่มด้วย

    ชานยอลพยักหน้าลงก่อนจะลุกขึ้นยืน เห็นอย่างนั้นแบคฮยอนจึงออกแรงฉุดมือหนาเป็นแรงยึดจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนข้างๆชานยอล พลางมองไปรอบๆเกาะที่สวยงามราวกับอยู่ในความฝัน

    แบคฮยอนถอนหายใจออกมาพร้อมๆกับรอยยิ้มบางๆ กวาดสายตาเรียวโตไปทั่วทุกส่วนด้วยความตื่นตาตื่นใจ

    ฮาคยอง เราอยู่เกาะหลีเป๊ะแล้วนะ

    แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นไปมองร่างสูงที่กำลังคุยโทรศัพท์กับคนสำคัญอยู่ด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม เพียงเท่านั้นก็ทำให้แบคฮยอนค่อยๆดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของฝ่ามือหนา ทว่า..

    ฝ่ามือหนาอบอุ่นกลับจับอุ้งมือเล็กไว้แน่นกว่าเดิมคล้ายกับเป็นการบอกนัยๆว่าไม่ให้ไปไหน

    อื้อ..สวยจริงๆแบบที่เธอบอกนั่นแหละ..”

    “…”

    เข้าใจแล้วว่าทำไมเธออยากมานักหนาฮ่าๆ รู้แล้วน่า

    “…”

    เดี๋ยวถ่ายไปให้และส่งให้คืนนี้เลยนะ เตรียมเปิดเมล์รอได้เลย

    “…”

    อาการโคม่าอีกแล้วเหรอแล้วตอนนี้ว่างมาคุยโทรศัพท์ได้ยังไง

    น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยกรีดลึกลงที่หัวใจของแบคฮยอนช้าๆราวกับมีดที่คมกริบ

    ต่างคนต่างก็มีเชือกผูกที่ข้อเท้าทั้งคู่สินะไม่รู้ว่าวิ่งออกมาไกลขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ยิ่งวิ่งก็ยิ่งรั้งคนที่ถือเชือกไว้ให้เจ็บปวดไปเรื่อยๆ

    ความรู้สึกผิดของแบคฮยอนเข้ามาคืบคลานทันทีที่ยืนฟังบทสนทนาของทั้งคู่มานานหลายนาที ร่างเล็กอมยิ้มบางๆอีกครั้งขณะที่เงยหน้ามองคนหน้าหล่อคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

    แบคฮยอนค่อยๆดึงมือตัวเองออกจากฝ่ามือหนา ก่อนที่เขาจะหันหลังเดินห่างออกไปอีกทาง เพื่อคุยโทรศัพท์เช่นกัน 

    (ไอ้ลูกหมา..ว่าไง ถึงแล้วเหรอ)

    อื้อ..สวยจนพูดไม่ออกเลยล่ะพี่คริส

    (ของจริงนี่เหมือนกับในรูปไหม)

    ก็คล้ายๆนะ แต่ถ้ามีโอกาสมายืนดูของจริงจะดีกว่าเยอะเลยล่ะ สวยมากๆ สวยมากจริงๆ

    (ไว้รอพี่หายดีสักพัก..เราค่อยไปด้วยกันนะ)

    แบคฮยอนพยักหน้าลงช้าๆก่อนจะปาดน้ำตาที่ไหลอาบหน้าลงมาเงียบๆออก

    รู้สึกผิด..

    เขาทำร้ายคนดีๆแบบนี้ไปได้ยังไง เขาฆ่าผู้ชายที่แสนดีคนนี้ลงไปได้ยังไงกัน..

    “…”

    (แบคฮยอนร้องไห้หรอ)

    พี่คริส..” เขาสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะกลั้นเสียงตัวเองไม่ให้สั่นไหว เบือนหน้าไปมองพระอาทิตย์ดวงใหญ่ที่ไม่ค่อยเจิดจ้าอย่างที่ควรเป็นมากนัก ถึงแม้จะเป็นตอนกลางวันก็ตาม

    (..ครับ)

    เดี๋ยวพี่ก็จะกลับมาเดินเล่นกับผมได้แล้วใช่ไหม…”

    ()

    ใช่ไหมพี่คริสจะกลับมาเดินกับผมได้เหมือนเดิมใช่ไหม..”

    (..ตอนนี้เราก็เดินอยู่ข้างๆกันแล้วไม่ใช่เหรอไง)” ปลายสายหัวเราะตามมาเป็นนิสัยทำให้แบคฮยอนค่อยๆเผยอยิ้มออกมาด้วยความสบายใจขึ้น

    อื้อ..จริงด้วยเนอะ

    (เห็นไหม..เราจับมือกันแน่นเลย)

    พี่คริสอย่าเดินเร็วสิ

    (พี่ก็เดินปกติแล้วนะ เรานั่นแหละมัวแต่สนใจอย่างอื่น!)

    แบคฮยอนขำออกมาเสียงดัง ก่อนที่ทั้งคู่จะพูดคุยกันตามปกติด้วยความคิดถึงที่ไม่ได้เจอกันกว่าหนึ่งอาทิตย์เต็ม

    ได้มาหลายรูปเลยนะพี่คริส แต่ที่เกาะหลีเป๊ะนี่แบคฮยอนจะวาดสวยๆเลย

    (ดีมาก..เดี๋ยวมีรางวัลให้สำหรับคนเก่งของพี่ครับ)

    จริงเปล่าเหอะ พี่คริสชอบขี้โม้!”

    (เดี๋ยวขอกอดก่อนหนึ่งทีให้ชื่นใจ ไม่ได้เจอตั้งหนึ่งอาทิตย์เลยเนอะเรา)

    คิดถึงอ่า..แต่แบคไม่มีของฝากให้หรอกนะ ไม่มีเงินแล้ว ฮ่าๆ

    (เอารูปมาฝากให้ได้ก่อนก็พอละไอ้ลูกหมา)

    รู้แล้วน่า งื้ออออ

    (กลับพรุ่งนี้ใช่ไหมแบคฮยอน)

     เสียงเข้มดูหนักแน่นแปลกๆทำให้แบคฮยอนเอ๊ะใจขึ้นมาตงิดๆว่าทำไมคนปลายสายถึงย้ำหนักย้ำหนาว่าให้กลับเร็วๆ ทั้งที่ก่อนมาก็บอกซ้ำๆว่าจะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ แล้วแต่จะเบื่อ..

    ก็ใช่..พี่คริสบอกให้กลับพรุ่งนี้นี่นา ความจริงยังเที่ยวไม่ทั่วกระบี่เลยนะ

    (ไปแค่เกาะหลีเป๊ะก็พอแล้ว)

    ก็มาแล้วนี่ไงเล่า…” แบคฮยอนยื่นปากล่างงุ้มงอเหมือนขัดใจเล็กๆ ก่อนที่ขาเรียวจะกระโดดไปรอบๆเพราะรู้สึกสนุกที่ได้เหยียบย่ำบนผืนทรายนุ่มๆ

    (พี่รักเรามากนะ..)

    “…”

    (และพี่ก็จะไม่ยอมปล่อยให้แบคฮยอนไปไหนง่ายๆแน่ๆ..นอกจากแบคฮยอนจะอยากไปเอง พี่ก็ไม่ห้ามหรอกนะ)

    “…”

    (แค่แบคฮยอนบอก พี่ก็ทำให้หมดนั่นแหละ..)

    “…”

    (เที่ยวให้สนุกเถอะ มีความสุขจากที่นั่นให้มากๆ กลับมาจะได้ผ่อนคลายนะ)

    ครับ..บ๊ายบายพี่คริส เดี๋ยวโทรหาใหม่อีกรอบนะ..”

    แบคฮยอนเก็บโทรศัพท์ของตัวเองลงด้วยความรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ยังไม่แน่ใจในความคิดตัวเองสักเท่าไหร่ เพราะส่วนหนึ่งอาจจะเป็นความคิดมากที่มีมากเกินไปของเขาก็เป็นได้

    แต่ถ้าตอนนี้มีใครสักคนเดินจับมือไปเรื่อยๆก็ดีนะ

    ฟึ่บ..

    ไหนบอกจะไม่ปล่อยมือกูไง

    ชานยอลนั่นเองที่วิ่งเข้ามาจับมือแบคฮยอนและยักคิ้วกวนๆ ร่างเล็กยกมือขึ้นเขกศรีษะร่างสูงแรงๆอย่างหมั่นเขี้ยวแต่ก็ไม่ได้ชักมือออก ทั้งคู่จับมือกันแน่นๆพร้อมทั้งเดินไปเรื่อยๆรอบเกาะที่เรียกว่าสวรรค์ดีๆนี่เอง

    ฮาคยองเป็นไงบ้าง

    หนึ่งเดือน..” สีหน้าชานยอลดูหม่นหมองลงช้าๆ เขาบีบมือแบคฮยอนแน่นและแกว่งไปมาเรื่อยๆ

    หนึ่งเดือน?”

    หนึ่งเดือนที่เขาจะมีชีวิตอยู่กับกู

    แบคฮยอนรู้สึกตกใจกับคำตอบของคนตรงหน้า ร่างเล็กไม่รู้ว่าจะพูดยังไงเป็นคำปลอบใจที่ดีที่สุดนอกจากการจับมือกันไปเรื่อยๆแบบนี้

    แย่เนอะ…”

    อย่าเศร้าดิ เดินไปตรงนู้นกัน

     ชานยอลกลืนความรู้สึกแย่ๆที่รุมเร้าเขาลงไปก่อนจะดึงมือเล็กให้วิ่งไปตรงโคนต้นไม้ต้นใหญ่ที่มีชิงช้าห้อยอยู่

    มันเป็นเชือกที่ทำจากเถาวัลย์ซึ่งมีความหนาแน่นและมั่นคงพอๆกับเชือกผ้าธรรมดา ที่นั่งถูกทำด้วยตอไม้ซึ่งถูกขัดเกาจนเป็นแผ่นหนาๆพอให้นั่งได้กว้างๆประมาณสองคน

    มึงแกว่งให้กูหน่อย

    แบคฮยอนวิ่งไปนั่งลงบนชิงช้าที่ใครสักคนทำไว้ด้วยความตื่นเต้น แต่เมื่อชานยอลยืนกอดอกมองห่างๆและไม่ยอมเดินไปไกวตามที่ร่างเล็กบอก เจ้าของใบหน้าหวานใสก็มุ่ยทุ้ยทันที

    เพื่อนปะ

    ชานยอลขมุบขมิบปากตามอย่างล้อเลียนก่อนจะวิ่งเข้ามาจับที่เชือกเถาวัลย์ทั้งสองข้างและออกแรงไกวแรงๆเพื่อแกล้งร่างเล็ก

    เฮ้ย เบาๆ ไอ้สัดชานยอล กูจะหล่นแล้วโว๊ย!!!”

    ชานยอลหัวเราะร่วนก่อนที่เขาจะค่อยๆผ่อนแรงที่ไกวชิงช้าด้วยความรุนแรงลง และเปลี่ยนเป็นการไกวแบบเชื่องช้าให้คนที่นั่งอยู่เกิดความสบาย

    ทั้งคู่เงียบไปเหมือนตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง ร่างสูงเดินไปซ้อนอยู่ข้างหลังแบคฮยอนที่กำลังถูกไกวให้เคลื่อนตัวไปข้างหน้า แต่จู่ๆร่างเล็กก็เล่นพิเรนทร์ด้วยการแหงนหน้าขึ้นมาข้างบน ประจวบเหมาะกับเจ้าของใบหน้าคมคายที่ก้มลงไปมองพอดิบพอดี

    สองสายตาประสานกันอย่างไม่ตั้งใจ เป็นเสี้ยววินาทีที่มีความหมายที่สุดสำหรับพวกเขาสองคน และเสี้ยววินาทีที่เหมือนโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุนนั้น ชานยอลก็ไม่สามารถห้ามใจตัวเองให้หยุดเคลื่อนหน้าลงไปใกล้ๆริมฝีปากบางได้..

    ดวงตาเรียวโตของแบคฮยอนจ้องที่ดวงตาคมกริบด้วยความตื่นเต้น เมื่อใบหน้าคมคายโน้มลงมาใกล้ๆ ขณะเดียวกันที่มือหนาก็หยุดรั้งเชือกเถาวัลย์ทั้งสองข้างให้อยู่นิ่งๆ ริมฝีปากสีซีดของชานยอลเฉียดกลีบปากบางไปเพียงเสี้ยวเพราะเขาตั้งใจจะจูบลงที่คางมน..

    ทั้งคู่กลับมาตั้งสติได้และต่างก็เบือนหน้าหนีใส่กัน แต่ชานยอลก็ยังคงไกวเชือกไปด้านหน้าและหลังช้าๆเหมือนเดิม พร้อมๆกับความเงียบที่อึดอัดแปลกๆ

    มึงแม่ง…” แบคฮยอนพูด ขณะที่ก้มหน้ามองขาตัวเองซึ่งกำลังแกว่งเล่นไปมา

    กูทำไม

    แม่งบ้า” แบคฮยอนหันมาบีบจมูกโด่งอย่างหมั่นเขี้ยว และช่วงจังหวะที่กำลังจะหันกลับไปนั้น ชานยอลก็จับข้อมือเล็กไว้ ทำให้แบคฮยอนต้องทำหน้าเหวอด้วยความงงงวย

    กูก็ว่ากูบ้ามาสักเกือบอาทิตย์ล่ะ” คำพูดที่สื่อความหมายของชานยอลทำให้แบคฮยอนต้องรีบดึงข้อมือตัวเองกลับและกระโดดลงไปบนพื้นทราย

    มึงแม่งบ้ามาตั้งแต่วันแรกแล้วต่างหาก

    พวกเขาทั้งคู่เดินเรียบไปกับหาดทรายขาวเงียบๆ มองโขดหินที่ขึ้นระเกะระกะตามชายหาดด้วยความตื่นตาตื่นใจ รวมไปถึงท่อนไม้ที่มีรูปร่างลักษณะแปลกตาชวนดึงดูด

    ถามจริง วันนั้นมึงนึกยังไงไปขับเลนส์ซ้ายวะ” ชานยอลกลั้นขำไว้สุดชีวิตแต่ก็ต้องปล่อยก๊ากออกมาดังลั่น แบคฮยอนชักสีหน้าใส่เขาแต่ก็บอกความจริงมาในที่สุด

    ไอ้เหี้ย จริงๆแล้วกูจะแซงมึง แต่มึงดันขับเร็วกว่าพอกูจะหักเสียบหน้า มึงก็พุ่งมาอย่างกับกำลังขับหนีเจ้าหนี้ อีเหี้ย

    ควาย ถ้ารู้ว่ากูขับเร็วกว่าก็ไม่ควรจะตีคู่ต่อป่ะวะ ไอ้สัด” ชานยอลกลั้วหัวเราะไปด้วยขณะที่พูด เขาก้มตัวไปหยิบกิ่งไม้เล็กๆขึ้นมาเขี่ยนู่นนี่เล่นตามประสาคนมือว่าง

    มึงก็ไม่ควรขับเร็วเกินร้อยยี่สิบขนาดนั้นดิ!”

    เออ กูผิดครับกูผิด” ชานยอลเคาะก้านไม้เรียวๆลงบนศีรษะแบคฮยอนเบาๆก่อนจะเบ้ปาก

    ไม่นึกเลยเนอะ ว่ากูต้องมาเจอมึงอีกที่นี่

    เออ คิดว่าจะตายๆห่าจากกันที่โรงบาลละ

     “มึงดิตายคนเดียว

    แบคฮยอนฟาดฝ่ามือไปบนแผ่นหลังกว้างแรงๆ จนชานยอลต้องกระเถิบตัวถอยห่างร่างเล็กทันที

    มึงชอบทำร้ายกูอ่ะ ตอนนั้นก็ต่อยกู ดีแค่ไหนกูไม่เอาคืน

    ก็มาต่อยกูคืนดิ

    บอกว่าไม่ทำคนไม่มีทางสู้ไง

    ชานยอลยักคิ้วกวนประสาทส่งให้ร่างเล็กก่อนจะวิ่งหนีแบคฮยอนที่ทำท่าจะกระโดดถีบเขา ทั้งคู่วิ่งเล่นกันไปมาพร้อมๆกับเสียงหัวเราะที่ดังก้องไปทั่วหาดทรายอันแสนจะเงียบสงบไร้ซึ่งสิ่งรบกวนใดๆ

    ไปดำน้ำกันปะ” ชานยอลชวน ซึ่งทำให้แบคฮยอนต้องหันขวับมามองทันที

    หะ?

    ดำน้ำไง ที่นี่เขาขึ้นชื่อเรื่องปะการังนะมึง” ชานยอลพยักหน้ารัวๆเพื่อเชิญชวนแบคฮยอน ร่างเล็กเดินหนีทันทีและส่ายหัวพรึ่บๆ

    ไม่เอาด้วยอ่ะ กูกลัวจมน้ำตาย

    ครั้งหนึ่งในชีวิตเลยนะเว้ย!”

    แล้วมึงไม่กลัวเหรอวะ

    แบคฮยอนยิงคำถามที่ทำให้ชานยอลเงียบไปสักพักก่อนที่เจ้าของใบหน้าหล่อจะส่งรอยยิ้มกลับมาหนักแน่นพลางส่ายหัวช้าๆ มือหนาคว้าฝ่ามือเล็กไปกุมไว้และชูขึ้นมาท่ามกลางสายตาของคนทั้งคู่

    มึงก็จับมือกูอยู่ จะกลัวอะไรวะ

    แบคฮยอนละสายตาจากมือของตัวเองและหันไปมองร่างสูงข้างๆช้าๆ ทั้งคู่ส่งสายตาแปลกๆให้กันสักพักก่อนที่แบคฮยอนจะเป็นคนกระชากมือตัวเองกลับมา

    อยากขี่หลัง” อ้อนด้วยคำพูดไม่พอ หนำซ้ำยังกระพริบตาปริบๆมองชานยอลที่แกล้งมองนกมองไม้และพูดเรื่องอื่น

    วันนี้อากาศดีเนอะ

    แบคฮยอนถอยหลังกลับไปตั้งหลักก่อนจะออกแรงวิ่งและกระโดดขึ้นไปเกาะแผ่นหลังกว้างที่เดินนำหน้าอยู่ก่อนแล้ว

    หมับ!

    เชี่ยเอ๊ย กูว่าแล้ว

    ชานยอลเบี่ยงหน้ามาคุยกับแบคฮยอน แต่เขาก็ไม่ได้ย่อตัวให้แบคฮยอนลงไปจากหลังแต่อย่างใด ร่างสูงกระชับอ้อมแขนแน่นๆก่อนจะออกเดินไปเรื่อยๆ

    กูว่าเกาะนี้สวยกว่าที่พังงากับกระบี่อีกว่ะ

    ชานยอลพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะหันหน้ากลับมาคุยกับแบคฮยอนบ้าง ริมฝีปากกระจับได้รูปของแบคฮยอนก็ดันแตะลงที่แก้มเนียนของชานยอลพอดี..

    เฮ้ย มึงหันมาไม่บอกอ่ะ!!” แบคฮยอนเฉไฉก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

    อยากหอมแก้มกูก็บอก

    เพ้อเจ้อนะมึง

    ทั้งสองคนกลับมาหยุดยืนอยู่ที่จุดๆเดิมจากตอนที่ลงรถมาตอนแรก ชานยอลเหลือบไปเห็นกระดานไม้ของแบคฮยอนที่วางพิงอยู่สภาพเดิมไม่มีใครแตะต้อง ก่อนที่เขาจะหันมาพูดกับแบคฮยอนด้วยความสงสัย

    แล้วมึงไม่วาดรูปเหรอ

    เดี๋ยวค่อยว่ะ ไม่ค่อยมีรมณ์” แบคฮยอนส่ายหน้าช้าๆก่อนจะตอบเสียงเบา

    กลับกันเหอะ

     ทั้งแบคฮยอนและชานยอลตระเวนไปตามสถานที่ต่างๆของเกาะหลีเป๊ะด้วยความวุ่นวายตลอดทาง เพราะมีเรื่องราวแปลกๆมากมายเกิดขึ้นกับพวกเขาสองคน ไม่ว่าจะเป็นการเจอคนบ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า หรือจะเป็นการเดินทางของพวกเขาสองคนที่แสนจะธรรมดาแต่เต็มไปด้วยความสุขแปลกๆ

    ใกล้จะตกเย็นเข้าไปทุกที และตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่ที่จุดรอรถเพื่อกลับที่พักเดิม

    ได้รูปมาเยอะเลยว่ะ กูว่ากูถ่ายดีขึ้น” ชานยอลยื่นกล้องของฮาคยองไปให้แบคฮยอนดู ซึ่งแบคฮยอนก็พยักหน้าส่งๆไปอย่างนั้นก่อนจะหันกลับไปดูรถต่อ

    โห่ ไรว้า ไม่ตั้งใจดูของกูเลย ใจร้าย” แบคฮยอนแกล้งชะโงกหน้าเข้ามาดูรูปใกล้ๆแบบประชดประชันก่อนที่เขาจะเบ้ปากเหมือนปกติที่ชอบทำจนติดเป็นนิสัย

    มึงก็ร่างภาพไว้หลายมุมเลยดิ” ชานยอลถาม หลังจากเก็บกล้องลงกระเป๋าสพาย แบคฮยอนพยักหน้าหงึกๆและหยิบออกมาโชว์ร่างสูง

    มีชิงช้า แล้วก็ท่อนไม้ตรงนั้น

    ชานยอลทึ่งไปในความสวยงามของภาพวาดจากแบคฮยอน เขาลองหยิบกล้องออกมาเทียบกับภาพร่างของคนข้างๆด้วยความทึ่งเล็กๆ ก่อนจะพบว่ามันออกมาใกล้เคียงกันเล็กน้อย โดยที่มีความต่างจากจุดเล็กๆนิดหน่อย

    มึงเจ๋งว่ะ วาดสวยเหี้ยๆอ่ะ

    เออ กูก็ว่าอันนี้กูตั้งใจสุด มันเลยออกมาแบบนี้แหละ

    ตั้งใจให้พี่คริสมึงอ่ะดิ..” ชานยอลพูดเสียงเบาแต่ก็ตีสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนปกติ แบคฮยอนไม่ได้พูดอะไร ดูเหมือนจะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

    ตั้งใจอยากจะวาดเพราะมึงด้วยนั่นแหละ..

    แบคฮยอนพูดในใจ

    รถมาแล้ว

     ชานยอลจูงมือแบคฮยอนให้ขึ้นรถประจำทางที่จะต่อยาวไปถึงภูเก็ตในอีกหลายชั่วโมง ตัวร่างสูงตั้งใจจะไปที่ร้านลุงคนสนิทของเขาก่อน ซึ่งแบคฮยอนก็เออออตามน้ำ เพราะเจ้าตัวยังไงก็ได้อยู่แล้ว

    อีกหลายชั่วโมงต่อมาทั้งคู่ก็ลงรถที่ภูเก็ตซึ่งจะต้องนั่งรถแท็กซี่ต่อเข้าไปที่โรงแรมอีกรอบ และนั่นก็เรียกความเมื่อยล้าจากร่างกายพวกเขาได้เป็นอย่างดี

    โอ๊ย เมื่อยหลังสัด นี่ถ้ามึงไม่กลับพรุ่งนี้กูจะหาที่นอนที่สตูลสักคืนนะเนี่ย

    ชานยอลยกมืออ้อมไปทุบหลังตัวเองเบาๆ ขณะที่พวกเขาทั้งคู่ก็พยายามลากสังขารตัวเองให้เดินกลับไปถึงห้องให้ได้

    กูไม่ไปไหนละ เมื่อย

     ชานยอลบ่นอิดโอย พลางเปิดประตูห้องเข้าไปและกระโจนลงที่เตียงทันที ส่วนแบคฮยอนก็เลื้อยตัวไปนอนบนฟูกข้างล่างช้าๆด้วยความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน

    อีกไม่กี่นาทีต่อมา ผ้าขนหนูผืนหนาก็ถูกโยนมาคลุมหัวชานยอล ก่อนที่เสียงเล็กจะบ่นตามมาราวกับบทสวด

    ไปอาบน้ำไป

    แปป

    ไปอาบน้ำ” เสียงทุ้มเล็กกดน้ำหนักเสียงเบาๆคล้ายการข่มขู่

    ขี้เกียจอ่ะ..”

    แบคฮยอนเขย่าร่างสูงทั้งสองมือด้วยท่าทางเนือยๆจนร่างสูงยาวที่นอนแผ่ไปทั้งเตียงต้องยันตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่งเพื่อตัดความรำคาญ

    ไปอาบน้ำไปชานยอล” ชานยอลนั่งจ้องหน้าแบคฮยอนสักพัก ก่อนที่อยู่ๆเขาก็ทะลึ่งตัวลุกไปเข้าห้องน้ำทันทีอย่างไม่มีปลี่ไม่มีขลุ่ย

    อะไรของมึงวะ

    จนทั้งคู่เวียนอาบน้ำกันเสร็จเรียบร้อย เวลาก็เดินไปเรื่อยๆตามหน้าที่ของมันจวบจนจะเที่ยงคืนเข้าทุกที..

    ชานยอลถ่ายรูปจากกล้องของฮาคยองต่อจากไอโฟนเพื่อส่งไปทางอีเมล์ให้เธอตามที่สัญญาไว้ ก่อนที่เขาจะวางมันลงข้างๆหัวเตียงเพื่อเตรียมตัวนอน สายตาเหลือบไปเห็นคนตัวเล็กเดินออกมาจากห้องน้ำเมื่อเจ้าตัวล้างหน้าเสร็จ

    ชานยอลแกล้งนอนกางแขนกางขาไปทั่วทั้งเตียงเพื่อไม่ให้แบคฮยอนลงมานอนข้างๆเขาได้ และแปลกที่คนตัวเล็กกลับเดินไปทิ้งตัวนอนลงข้างล่างแบบเงียบๆโดยไม่มีอาการท้วงติงใดๆอย่างที่ควรเป็น

    เฮ้ย กูล้อเล่น มานอนข้างบนนี่มา” ชานยอลเอียงตัวไปสะกิดแบคฮยอนที่นอนตะแคงข้างหันไปอีกด้านแรงๆเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว

    มึง..มานอนข้างบนมา

    แบคฮยอนพลิกกายตัวเองให้หันมานอนหงาย ก่อนจะเอื้อมแขนเรียวขึ้นมาโอบรอบคอชานยอลไว้และใช้มันเป็นแรงยึดเพื่อพาร่างของเจ้าตัวขึ้นไปด้านบน

    ร่างเล็กของแบคฮยอนนอนก่ายอยู่บนลำตัวกว้างอย่างสบายๆ จนชานยอลต้องดันร่างเล็กออกเพื่อจัดแจงท่านอนดีๆให้สบายกันทั้งคู่ แต่กระนั้นแบคฮยอนก็ดึงดันจะนอนซบบนแผ่นอกกว้างต่อ ชานยอลยอมจำนนทุกหนทาง เขาบีบหัวไหล่เล็กๆให้ลงไปนอนราบกับเตียง

    นอนดีๆดิว่ะไอ้ห่านี่

    อยากเล่นโยกเยกอ่ะ..” แบคฮยอนช้อนตาขึ้นมองใบหน้าคมคาย ก่อนที่คนตัวเล็กจะค่อยๆยันแขนตัวเองกับที่นอนเพื่อลุกขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอน

    โยกเยกเหี้ยไรมึงวะ” 

    ชานยอลขมวดคิ้วเข้มด้วยความสงสัย แต่เจ้าของร่างเล็กที่มีกลิ่นกายหอมเตะจมูกเป็นเอกลักษณ์ก็แย้มยิ้มออกมาบางๆ ฝ่ามือเล็กประสานกับอุ้งมือใหญ่ช้าๆทั้งสองข้าง ก่อนที่แบคฮยอนจะขยับกายตัวเองให้ขึ้นไปอยู่บนลำตัวของชานยอลอย่างเนือยๆ

    เหมือนเป็นสัญชาติญาณหรืออะไรก็ตามแต่ ฝ่าเท้าเรียวยาวทั้งสองข้างของชานยอลค่อยๆดันหน้าท้องที่แบนเรียบของแบคฮยอนขึ้นช้าๆ ทำให้ร่างเล็กลอยคว้างอยู่กลางอากาศ โดยมีแขนแกร่งทั้งสองข้างของชานยอลที่ประสานกับมือเล็กไว้อย่างแนบแน่นคอยพยุงร่างเขาไม่ให้ร่วงหล่นลงมา

    แดกนมแม่ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับเพื่อน แก่จะตายห่าแล้วสัด” ชานยอลหัวเราะแต่ก็โอนเอนร่างเล็กไปซ้ายทีขวาทีอย่างเชื่องช้า

    ก็ยังไม่แก่เหมือนหน้ามึงอ่ะ

    แหนะ มึงอยู่ข้างบนนะครับ กูโยนมึงเมื่อไหร่ก็ได้นะครับ อย่า ไอ้สัด อย่า

    แบคฮยอนแลบลิ้นปลิ้นตาอย่างกวนประสาทก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาเมื่อชานยอลกระดิกนิ้วเท้าไปโดนเส้นบ้าจี้เข้า

    จะลงแล้ว!”

    ชานยอลค่อยๆดึงมือตัวเองกลับ ก่อนจะปล่อยให้ร่างเล็กโถมน้ำหนักลงมาที่ร่างตัวเองช้าๆ ทั้งๆที่ทั้งคู่ควรจะผละออกจากกันและพลิกตัวกลับไปนอนดีๆ แต่แบคฮยอนกลับนอนค้างไว้อยู่อย่างนั้นโดยที่ชานยอลก็ไม่ได้ผลักร่างเล็กออกเช่นกัน

    แบคฮยอนยันตัวเองให้ลุกขึ้นเพื่อมองใบหน้าคมคายนิ่งๆ เมื่อสองสายตาประสานกันท่ามกลางความเงียบโดยไม่มีสิ่งใดเอื้อนเอ่ย ราวกับไฟที่ถูกน้ำมันชนวนดีอย่างแบคฮยอนราดลงและเกิดกองเพลิงโชกโชน..

    เฮ้ย…”

    ชานยอลร้องท้วงและกดหัวตัวเองติดกับเตียงนอน เงยหน้ามองแบคฮยอนที่กำลังจะโน้มหน้าลงมาใกล้เรื่อยๆ สองมือเล็กและใหญ่ประสานคาไว้อย่างนั้นก่อนจะบีบเข้าหากันแน่นๆ ใบหน้าหวานเอียงเล็กน้อยเพื่อให้ได้องศาที่พอเหมาะ ก่อนที่กลีบปากบางจะแตะลงอย่างแผ่วเบาที่ริมฝีปากสีซีด




     

    CUT



    ตามไปใน Bio เลยแจ้ @glsr_

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×