คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : - 8 - ( 100% )
널 보면 내 눈이 감겨
몰래 살짝 다가와 또 키스해줄래
เมื่อมองเธอ ฉันจึงหลับตาลง
ค่อยๆเข้ามา และมอบจูบให้อีกครั้งโดยไม่รู้ตัว
เช้าแล้ว
แต่ยังไม่อยากตื่น
ไม่อยากตื่นจากความฝันที่แสนสวย ฝันที่ว่าเรากำลังนอนกอดกัน ความฝันที่ผมกำลังซุกตัวเหมือนลูกแมวตัวน้อยอยู่ภายใต้อ้อมกอดอันอบอุ่นของเขา เราสองคนนอนกอดกันภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน สองนิ้วมือที่ผสานเข้าหากันและเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำไปพร้อมๆกัน
มันวิเศษสุดๆไปเลยละ
ครืน
คิ้วข้างซ้ายกระตุก (^_ _)
ครืน
คิ้วข้างขวากระตุก (_ _^)
ครืน
“อื้อรู้แล้วอย่าสั่นแรงนักสิเบาๆไม่ได้รึไง” มือเล็กควานหาโทรศัพท์ที่ในตอนนี้กำลังสั่นไม่หยุดหย่อนบนเตียงผืนกว้าง มือเรียวหยิบโทรศัพท์ของเซฮุนขึ้นมาดูเมื่อพบว่ามีคนโทรเข้ามาพลันคิ้วเรียวต้องขมวดเข้าหากัน
P.K. Calling
ใครกัน?
นัยน์ตาสวยเหลือบขึ้นมองใบหน้าคมของเซฮุนที่ยังคงนอนหลับแน่นิ่งมอบความอบอุ่นให้ร่างเขาผ่านท่อนแขนหนาและกายแกร่งที่แนบชิด ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน
จะรับแทนดีไหมนะ
หากเป็นในเวลาปกติถ้าโดนรบกวนการนอนลู่หานจะไม่สนใจใยดีแล้วนอนต่อ แต่ทว่าในครั้งนี้เหมือนกับมีแรงดึงดูดประหลาด ลางสังหรณ์แปลกประหลาดของสัญชาตญาณที่บอกให้ลู่หานต้องกดรับมัน
ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเป็นใคร รู้เพียงแค่ว่าต้องกดรับ…กดรับเพียงเท่านั้น
ลู่หานกลืนน้ำลายลงคอดังอึกหัวใจเต้นหนักหน่วงอย่างน่าพิศวงกับสายเรียกเข้าชื่อนี้ นิ้วมือเล็กเลื่อนขึ้นหมายจะสัมผัสหน้าจอเพื่อรับโทรศักท์หากแต่ทว่า…
“อื้อ~”
“อ๊ะ”
แรงกอดรัดที่เอวทำให้คนตัวเล็กปล่อยโทรศัพท์เงยหน้ามองใบหน้าคมที่ในขณะนี้ปรือตาขึ้นเผยให้เห็นดวงตาคมสีเฮเซลทรงเสน่ห์ที่ไม่ว่าสบกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็พาให้รู้สึกเขินอายเสมอ
คุณเนื้อคู่เพิ่งตื่นผมยุ่งๆตาปรือๆโคตรน่าแดกเลยอะ T////////T
“ตื่นมาก็เจอหน้านายเป็นคนแรก… เหมือนฝันเลย” ปากเล็กเม้มหากันแน่นแก้มใสขึ้นสีแดงระเรื่อกำปั้นน้อยยกขึ้นทุบอกแกร่งเบาๆแก้เขินอาย
ฝันถึงลู่หานหรอ ถ้าฝันถึงลู่หานก็ต้องฝันเปียกสิ (.///v////.)
“ฝันที่ไหนเล่าเรื่องจริงไม่อิงนิยายชัดๆ”
ก่อนนอนก็อยู่ในอ้อมแขนคุณเนื้อคู่ ตื่นมาก็ยังอยู่ในอ้อมแขนคุณเนื้อคู่ ก็แบบว่าเรา…อะจึ้กๆๆ นอนกอดกันทั้งคืน…… โอ้ยเขินจังเลยโอ้ยเขินจังเลยยยยยยยยยยยยยยยย \(/////∇//////)\
“หิวรึยัง”
ตอนแรกก็หิวนะ พอเขินเท่านั้นแหละอิ่มเลยยยยยยยยยยยย #อิ่มอกอิ่มใจฮิ! (>< )( ><)(>< )( ><)
“ยังอะ” คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นพลันต้องหยุดชะงักค้าง
เพียงวินาทีเดียวที่นัยน์ตาคู่สวยเผลอสบเข้ากับดวงตาสีเฮเซลที่จ้องมองมา กาลเวลาที่กำลังหมุนเดินก็ต่างหยุดชะงัก รับรู้ได้เพียงหัวใจที่เต้นรัวไม่เป็นส่ำเพียงเพราะลมหายใจที่รินรดปรางแก้ม สองปลายจมูกสัมผัสกัน ริมฝีปากที่ห่างกันเพียงหนึ่งฝ่ามือกั้น ความใกล้ชิดที่พาให้พายุหัวใจจุดขึ้นพัดกระหน่ำจนปั่นป่วนไปทั้งอก
ราวกับถูกตราตึงเพียงเพราะผู้ชายที่ได้เข้ามาในอาณาเขตหวงห้ามของหัวใจ
และลู่หานก็ไม่เคยคิดปฏิเสธตัวเอง
เขากำลังหลงผู้ชายคนนี้จนหัวปรักหัวปรำเชียวละ…
จุ้บ
ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มกดจูบลงบนริมฝีปากอุ่นร้อนของคนร่างสูงอย่างแผ่วเบา ไร้การสอดแทรก ไร้การรุกร้ำ มีเพียงแค่สองริมฝีปากที่สัมผัสแตะกันอย่างแผ่วเบาเนิ่นนาน จุมพิตบางเบาที่ร้อนรุ่มราวกับแผดเผาหัวใจที่กำลังเต้นไม่เป็นส่ำให้มอดไหม้ ริมฝีปากที่มอบความอบอุ่นถ่ายเทความนุ่มนวลให้แก่กันและกันราวกับเข้าไปยืนอยู่บนทะเลปุยนุ่น
ลู่หานผละจูบออกช้าๆนัยน์ตาเรียวสวยจ้องดวงตาสีเฮเซลก่อนจะอมยิ้มออกมาอย่างน่ารักทิ้งคำพูดให้ชายหนุ่มร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงต้องเผยรอยยิ้มกว้างออกมาอย่างไร้ข้อกังขา
“มอร์นิ่งคิสนะคุณเนื้อคู่ของลู่หาน”
คุณเนื้อคู่ของลู่หานงั้นหรอ
น่ารักดีแห๊ะ
ฝ่าเท้าหนาก้าวเข้าไปในห้องน้ำที่มีคนตัวเล็กหนีเข้ามาก่อนหน้าแล้ว นัยน์ตาคมเหลือบมองลู่หานที่ยืนอยู่หน้ากระจกพลากยืนแปรงสีฟันที่บีบยาสีฟันเสร็จสรรพมาตรงหน้า มือหนายื่นออกมารับก่อนจะถือเข้าปากแล้วแปรงฟันพร้อมคนตัวเล็กหน้ากระจก
ได้แปรงฟันพร้อมกับคุณเนื้อคู่ด้วยแหละพวกเอ็งงงงงง อัพลงทวิตประกาศความฟินดีไหมอะฮื้ออออ #จิกแขน (T///∇///T)
“คุณเนื้อคู่วันนี้เราจะไปเที่ยวไหนกันดี” ลู่หานเอ่ยถามคนข้างกายทั้งที่ฟองเต็มปาก คนตัวสูงเหลือบมองเล็กน้อยก่อนเอ่ยตอบ
“อยากไปไหนเป็นพิเศษรึเปล่า”
“ไปที่ไหนก็ได้ที่มีคุณเนื้อคู่” คนตัวสูงหลุดยิ้มออกมากับคำพูดของร่างเล็กก่อนจะเอ่ยต่อ
“งั้นไปอาบน้ำ ฉันจะพาไปกินข้าวก่อนแล้วค่อยคิดว่าจะไปไหนต่อ”
ลู่หานพยักหน้าก่อนจะก้าวเดินออกจากห้องกลับห้องตัวเองไป เซฮุนยืนแปรงฟันอยู่อีกสักพักก่อนจะป้วนทิ้ง เท้าหนาก้าวเดินออกจากห้องน้ำคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วหายเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง
และเพียงไม่นานคนตัวสูงก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าเช็ดตัวพันรอบเอว หยาดน้ำเกาะพราวตามแผ่นอกหนาที่มีซิกแพค แขนเรียวยาวเอื้อมเปิดตู้เสื้อผ้าคว้าชุดขึ้นมาสวมใส่ก่อนจะก้าวเดินไปตู้หน้ากระจกเพื่อจัดแต่งทรงผมและสวมเครื่องประดับ
เมื่อตรวจเช็คการแต่งตัวเสร็จเท้าหนากำลังก้าวเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่เพื่อดูวิวภายนอกของโรงแรมหากแต่ประตูห้องที่ถูกเปิดพรวดเข้ามาทำให้ต้องหมุนตัวกลับไปมอง
“คุณเนื้อคู่รอนานไหม!!!!!”
นัยน์ตาคมมองคนตัวเล็กที่วันนี้ใส่เสื้อยืดแยนสั้นสีขาวและกางเกงยีนสีซีดรองเท้าผ้าใบคู่โตดูน่ารัก หากแต่มีบางสิ่งที่สะดุดตา…
“เสื้ออะไรน่ะลู่หาน”
เสื้อยืดสีขาวที่สรีนใบหน้าของเขา…
“อ๋อก็ใส่ไว้ให้คนอื่นรู้ว่ามีเจ้าของแล้ว เดี๋ยวมีคนเข้ามาจีบแล้วคุณเนื้อคู่จะหึง (._.)”
เสื้อที่มีข้อความใต้รูปว่า ‘เนื้อคู่ขอผมหล่อใช่ม้ะ’
“ฮึ…ฉันจะหึงไปทำไม”
ใบหน้าคมนิ่งเฉยเมื่อเห็นคนน่ารักตีสีหน้าบูดบึ้งจึงหมุนตัวกลับไปด้านหลังต่อตามเดิม
หากแต่ทว่า…
“ทำไมถึงไม่หึงละ ต้องหึงสิเราเป็นเนื้อคู่กันนะ!!!”
เมื่อพ้นสายตาคนตัวเล็กใบหน้าคมกลับเผยรอยยิ้มกว้างออกมาอย่างฉุดไม่อยู่ รอยยิ้มที่มาพร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นโครมครามอย่างบ้าระห่ำ รอยยิ้มแฉ่งที่กว้างเสียจนเห็นฟันเกือบครบทุกซี่จนฝ่ามือหนาต้องยกขึ้นปกปิดรอยยิ้มนั้น รอยยิ้มแห่งความสุขที่บ่งบอกว่าหัวใจกำลังพองโตมากแค่ไหน
เนื้อคู่ของผม… เขาเป็นคนที่…
“ไปกินข้าวกันเถอะ”
ท่อนแขนหนายกขึ้นล็อคคอคนตัวเล็กที่เดินเข้ามางอแงใส่อยู่ด้านหลังแล้วก้าวเดินออกจากหน้าห้องพร้อมกับเสียงใสที่ร้องโวกเวกโวยวายใส่ตลอดทาง
“อะไรอะคุณเนื้อคู่พูดออกมาเลยนะว่าหึงหรือไม่หึง! แต่ไม่รู้ละยังไงก็ต้องหึงนะ! บังคับว่าให้หึง!!!!”
คนอะไร น่ารักจนน่าโมโห ❤️
( - la fondue ♡ au chocolate - )
แกร๊ก
“ทำไมไม่รู้จักเคาะประตูก่อน คนไร้มารยาท”
ไหล่หนาของปาร์คชานยอลยกขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่สนใจกับคำด่าทอของบยอนแบคฮยอนที่จู่ๆเขาก็เปิดประตูพรวดเข้ามาไม่ให้สุ่มไม่ให้เสียง นัยน์ตาคมมองคนตัวเล็กที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเก้าอี้ในมือถือเอกสารอยู่สองฉบับส่วนตรงหน้าก็คือโน็ตบุคที่เปิดไฟล์งานคาทิ้งไว้
ทำแต่งานอีกละ ให้ตายสิ-_-
“เลิกทำงานได้แล้วนี่เรามาพักผ่อนกันนะ ดูสิที่นี่ที่ไหนญี่ปุ่นนะเว้ย เที่ยวกันเหอะ” ขายาวมุ่งตรงไปหาแบคฮยอนเอื้อมฝ่ามือไปหมายมั่นจะหุบหน้าจอโน็ตบุคลงแต่ถูกมือเรียวห้ามไว้
“ย๊า! ฉันต้องส่งรายงานให้คณะกรรมการพรุ่งนี้คงไปกับนายไม่ได้หรอก! นี่อย่ามายุ่งกับงานของฉันนะ!!”
“แต่นี่มันวันเที่ยว!!” ชานยอลโพล่งออกพลางแย่งโน็ตบุคออกมาถือไว้ในอ้อมแขน
“ก็ไปเที่ยวสิฉันจะทำงาน! เอามานี่นะชานยอล!!!”
“ไม่เอาเราไปด้วยกันเถอะ” ชานยอลว่าพลางแย่งเอกสารที่อยู่ในมือของแบคฮยอนออกแล้วหันมาดึงคนตัวเล็กให้ยืนขึ้น
“ย๊าชานยอล!!! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่มีงานการทำรึไงวะ!!!!!!!!!”
“ถ้ามีแล้วจะมาชวนนายเที่ยวหรอ?”
“ก็บอกว่ากูไม่ไปไง!!!!”
“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ :( ”
“ฮึ้ย ไม่ไปเฝ้าท่านดยุกรึไง”
“ท่านไปแล้วละ”
“ห๊า!!!!!! ไปไหน!!!?” แบคฮยอนโพล่งขึ้นอย่างตกใจนัยน์ตาเรียวใสเบิกกว้างจ้องอีกคนอย่างคาดคั้นคำตอบ หากแต่ชานยอลกลับตีสีหน้าเรียบเฉยอย่างไม่รู้สึกอะไร
“ไปกับเพื่อนนายนั่นแหละ ท่านยกเลิกคำสั่งให้คนติดตาม บอกว่าจะไปกับเพื่อนนายแค่สองคน”
“บะบ้าน่า… ท่านดยุกเนี่ยนะ? ไปกับลู่หานแค่สองคนงั้นหรอ”
“ดูท่าทางว่าเพื่อนนาย… จะได้สิทธิพิเศษเยอะเหลือเกินนะ” ชานยอลมองหน้าแบคฮยอนที่ยังคงมีสีหน้าตื่นตูมไม่หายพลางลอบยิ้มออกมา
น่ารักแห๊ะ
“ฉันหวังว่าในวันงานเฮเลเนี่ยนคงไม่…”
“ใช่เลยแหละ คนนี้นี่แหละ รับใช้มาหลายปีก็น่าจะรู้จักนิสัยท่านดีนี่” ชานยอลพูดแทรกขึ้น
“เฮ้อ ทำไมฉันถึงมีลางสังหรณ์ไม่ดี” ชานยอลยืนนิ่งกับคำพูดของแบคฮยอน ไม่บ่อยนักหรอกที่แบคฮยอนจะพูดเช่นนี้ และเป็นใครก็คงต้องนึกหวาดกลัวในเมื่อใครๆก็ต่างรู้ดีว่า…
ลางสังหรณ์ของแบคฮยอนแม่นยิ่งกว่าคำทำนายจากหมอดูชื่อดังเสียอีก
“อย่าคิดมากสิ ปะไปเที่ยวกันเถอะ” ชานยอลว่าพลางดึงมือคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นยืนหากแต่แบคฮยอนกลับสะบัดทิ้งก่อนจะยืนขึ้นจ้องหน้าอีกฝ่ายตาเขียว
“บอกว่าไม่ไปไงโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไงวะ -_-!!!!!!!!!!! #โมโห
ชานยอลยืนแคะหูกับเสียงของแบคฮยอนที่ตะโกนใส่หน้าดังลั่นยักไหล่ขึ้นเล็กน้อยก่อนจะลากคนตัวเล็กออกไป แต่ยังไงแบคฮยอนก็ยังคงเป็นแบคฮยอนอยู่วันยังค่ำ มือเล็กเกาะขอบโต๊ะแน่นเป็นการต้านแรงดึงของชานยอลจนต้องยอมปล่อยแล้วหันมาจ้องคนตัวเล็กแทน
“จะไม่ไปสินะ?”
“เออ!”
ไม่ไปหรอกโว้ยยังไงก็ไม่ไป !!
“จะอยู่ทำงานที่นี่สินะ?”
“เออ!!!”
ยังไงก็ไม่ไป คำสัตย์ของแบคฮยอนยังไงก็ไม่มีวันเปลี่ยน!!!
หากแต่ทว่า…
จุ้บ
“ไปกันเถอะ”
มือเรียวยกขึ้นกุมแก้มข้างซ้ายเมื่อถูกหอมโดยไม่ทันตั้งตัว เพียงเสี้ยววินาทีที่จมูกโด่งสัมผัสแก้มใสของแบคฮยอนร่างทั้งร่างก็นิ่งค้างราวกับถูกแช่แข็ง ก่อนที่หัวใจจะกระหน่ำเต้นรัวไม่หยุดหย่อน แบคฮยอนไม่สามารถรับรู้อะไรได้นอกเสียจากเสียงหัวใจที่เต้นแรงไม่เป็นส่ำเพราะความหวั่นไหว กว่าจะมารู้ตัวอีกทีก็ถูกชานยอลจูงมือลากออกไปข้างนอกเสียแล้ว
ขาเล็กก้าวเดินตามชานยอลที่จูงมือนำอยู่ด้านหน้า นัยน์ตาเรียวใสมองแผ่นหลังกว้างพลันหัวใจต้องสั่นไหวอย่างห้ามไม่อยู่ และในวินาทีต่อมาหัวใจที่เต้นแรงเพราะความหวั่นไหวกลับต้องแปรเปลี่ยนเป็นความปวดร้าวเมื่อความเป็นจริงที่เฝ้าย้ำตัวเองอยู่ร่ำไปได้เข้ามาแวะเยือน…
ชานยอล…
เพื่อนกันเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอกนะ
( - la fondue ♡ au chocolate - )
ชินจุกุ
“มันเหมือนไอติมที่เกาหลีเลย”
“แต่รสชาติไม่เหมือนนะ ลองกินดูสิ”
ลู่หานส่งลิ้นออกมาเลียไอศกรีมโคนที่ถืออยู่ในมือ หากแต่เมื่อได้ลิ้มรสของมันใบหน้าหวานกลับต้องเบ้ออกมาเมื่อความเผ็ดจี๊ดของวาซาบิแล่นขึ้นสมอง
“อยี๊! นี่มันรสวาซาบินิ แค่กๆ โอ้ยจี๊ดอะมันจี๊ดขึ้นสมองแล้วคุณเนื้อคู่โอ้ยเผ็ด!!!”
“เอ้าๆน้ำตาไหลแล้วลู่หานอร่อยขนาดนั้นเลยหรอ? ฮ่าๆๆๆๆ” เซฮุนหลุดหัวเราะออกมาเมื่อใบหน้าของลู่หานบิดเบี้ยว ดวงตาสวยแดงก่ำเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาเพราะความเผ็ดจี๊ดของรสวาซาบิ
ไอติมที่เซฮุนแนะนำให้ลู่หานกินเพราะรู้ถึงรสชาติของมันเป็นอย่างดี ไอติมที่เขารู้ดีว่าหากคนตัวเล็กกินไปจะมีอาการอย่างไร ก็แค่อยากแกล้งก็แค่อยากเห็นคนตัวเล็กโวยวายก็เท่านั้น
ใครสั่งใครสอนให้น่าแกล้งนักละ โทษตัวเองก็แล้วกันนะลู่หาน
“คุณเนื้อคู่นิสัยไม่ดี!! ไม่กินมันแล้ว!!!!” ใบหน้าเล็กหงอลงจนเซฮุนหลุดหัวเราะหึในลอคอ ขายาวก้าวเข้าใกล้คนตัวเล็กก่อนจะล็อคคออีกคนไม่ให้หนี
ร่างเล็กของลู่หานปลิวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของคนตัวสูงกว่าทันที เซฮุนย่อตัวลงเอนใบหน้าพิงหัวเล็ก
“อย่างอนนะ”
“ไม่ได้งอน!!!!”
เป็นอีกครั้งที่เซฮุนหลุดหัวเราะในลำคอ นัยน์ตาคมเหลือบมองคนในอ้อมแขนก่อนจะพูดลอยๆเหมือนไม่ใส่ใจให้อีกคนได้ยิน
“ง้อนะครับ”
อิลู่หานหน้าแดงหาพ่อเธอหรือ (.//////.)
“ไม่ได้งอนซะหน่อยแต่ว่า… หายก็ด้ะ"
ก็แบบว่าเห็นหน้าหล่อๆแล้วใจละลาย \(///∇///)\
สองร่างเดินอิงแอบแนบชิดในเมืองชินจุกุ สถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักพวกเขา สถานที่ที่ไม่ต้องระวังว่าจะถูกใครจับตามอง ต่างคนต่างเดินโดยหันหน้าหากันหัวเราะใส่กันส่งเสียงคุยกันงุ้งงิ้งใส่กันตลอดทาง
เส้นทางที่มีเพียงแค่เซฮุนและลู่หาน…
นัยน์ตาคมเหลืยมองคนข้างกายก่อนยกฝ่ามือขึ้นกดหมวกลงให้กันแดดมากขึ้นแล้วผละออก ต่างจากลู่หานที่ยืนนิ่งแทบหยุดหายใจอยู่รอมร่อกับการกระทำที่เอาใจใส่ชวนให้หัวใจเต้นแรง
งื้อคนบ้า เป็นห่วงเป็นใยไม่อยากให้ร้อนใช่ไหมละ รู้ทันนะ ฮื้อๆๆๆ ( ><)(>< )( ><)(>< )
สองเท้าที่กำลังก้าวเดินจู่ๆก็หยุดชะงักเมื่อเซฮุนรั้งมือเรียวให้เปลี่ยนทิศทางเดินก้าวเข้าไปด้านข้างแทน ลู่หานเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องนึกฉงนในใจ ร้านสเก็ตบอร์ด?
เมื่อก้าวเข้ามาในร้านลู่หานแทบร้องว้าวออกมา นัยน์ตากลมกวาดมองรอบร้านอย่างตื่นเต้นเมื่อร้านนี้เต็มไปด้วยสเก็ตบอร์ดหลายชนิดและหลายรุ่น แต่ยังไงเขาก็ไม่รู้หรอกว่ามันแตกต่างกันยังไง ก็มันเหมือนกันไปหมดเลยนี่-_-!!!
“นี่คือdeck ที่คุณตามหารึเปล่า บอร์ดอันนี้ของ jason lee ที่ผมประมูลได้มาที่นิวยอร์ค คุณสนไหมละ?”
เท้าเล็กก้าวเข้าไปหาเซฮุนที่กำลังยืนคุยกับเจ้าของร้าน นัยน์ตาเรียวเหลือบมองใบหน้าคมก็พอเดาได้ว่าอีกคนชอบสเก็ตบอร์ดมากแค่ไหน ก็ในเมื่อดวงตาสีเฮเซลวาววับขนาดนั้นนี่
ชอบสเก็ตบอร์ดได้แต่ห้ามชอบมากกว่าลู่หานนะ ไม่งั้นจะจับเผาทิ้งให้หมด -^-!!!
“ราคาละ?”
“ผมจำคุณได้ คุณเคยมาที่ร้านเราสองสามครั้งแล้วใช่ไหม ถ้าคุณซื้อผมให้คุณ 611,000 เยน”
“ห๊าหกแสนเยน!!!!!!!!” กลับกลายเป็นลู่หานเสียเองที่โพล่งออกมาดังลั่นอย่างตกใจกับราคาที่แพงแสนแพงของสเก็ตบอร์ดตรงหน้าซึ่งต่างจากเซฮุนที่ยืนนิ่งเฉยราวกับไม่รู้สึกอะไร
หะหกแสนเยน…เท่ากับหกล้านสองแสนกว่าวอน อะอีสเก็ตบอร์ดนี่จะแพงไปไหนวะเนี่ย =[]=!!!!
หากแต่สิ่งที่ทำให้ลู่หานนึกอึ้งมากกว่านี้คือ…
“ไม่ต้องใส่กล่องให้ผมนะครับ”เซฮุนเปิดกระเป๋าเงินออกก่อนจะหยิบบัตรเครดิตสีดำยื่นไปตรงหน้าอย่างไม่คิดไตร่ตรองอะไร
หะหกล้านวอน… TOT!!!!
เมื่อชำระเงินเสร็จเซฮุนถือสเก็ตบอร์ดที่เพิ่งได้มาไว้ในอ้อมแขนข้างหนึ่งก่อนที่มืออีกข้างจะส่งไปกอบกุมมือเรียวของลู่หานพลางกระตุกเบาๆให้คนตัวเล็กเดินตาม
“คะคุณเนื้อคู่…ทำไมไอ้สเก็ตบอร์ดนั่นมันถึงแพงแบบนี้ละ!!!!”
เซฮุนหลุดหัวเราะออกมากับท่าทีตกใจของคนตัวเล็กก่อนจะอธิบายให้ฟัง
“สเก็ตบอร์ดนี่เป็นของJason lee เขาเป็นดาราฮอลลีวูดคนที่บุกเบิกสเก็ตบอร์ดให้ดังไปทั่วโลกยังไงละ เพราะฉะนั้นราคามันก็เลยสูง แต่ก็แพงแค่เฉพาะรุ่นเท่านั้นแหละ”
ลู่หานพยักหน้าอย่างเข้าใจทั้งๆที่ก็ไม่เข้าใจนักหรอกว่ามันสมเหตุสมผลยังไง แต่จะยังไงก็เถอะ คุณเนื้อคู่ของเขาเล่นสเก็ตบอร์ดเป็นด้วยหรอ \(T///∇///T)\!!!! #ตาเป็นรูปหัวใจ ♥_♥
“คุณเนื้อคู่เล่นเป็นด้วยหรอ?”
“ถ้าเล่นไม่เป็นจะซื้อมาทำไมละ”
แหมกวนตีน…
แต่ไม่เป็นไร หล่อให้อภัย ♥_♥
“งั้นสอนเล่นหน่อยสิ *v*”
วิธีนี้แหละ…
“งั้นก็ไปสิ”
วิธีนี้แหละที่จะทำให้ใกล้ชิดคุณเนื้อคู่วววววววววววววววววววววว >O< #อร๊าง
สวนสาธารณะใจกลางชินจุกุ
ครืน
“ค่อยๆใช้ปลายเท้าข้างซ้ายไถลพื้นไปช้าๆ อย่างนั้นแหละ ช้าๆ”
“คะคุณเนื้อคู่มันสั่นอะมันสั่น!!!”
“ฉันบอกว่าใช้ปลายเท้าไถลไงอย่าเอาลงเต็มเท้าสิ!!”
เสียงเอ๊ะอะโวยวายดังมาจากสองร่างที่ยืนถกเถียงกันบนสเก็ตบอร์ด ก่อนที่คนตัวสูงจะจับมือคนตัวเล็กสอนเล่นสเก็ตบอร์ดต่อไปอย่างหัวเสีย ก็จะไม่ให้หัวเสียได้ยังไงละ!!
“ลู่หานยืนตัวตรงๆสิ เอียงไปเอียงมาจะบังคับทิศทางได้ยังไง!!”
“ก็มันเอียงเองนิโอ้ย!!!”
โครม
อีกครั้ง
“อย่าเกร็งสิปล่อยตัวไปสบายๆใช้เท้านำทาง ฉันบอกว่าอย่าลงเต็มเท้ายังไงเล่า!!!”
“ก็มันบังคับได้ที่ไหนเล่าโอ้ย!!!”
โครม!
และอีกครั้ง…
“นั่นแหละค่อยๆไถลไปช้าๆ เห้ยลู่หานฉันบอกว่าให้ช้าๆไงเล่า!!!!!”
“ก็ทางมันลื่นนี่โอ้ย!!!!!!”
โครม!!!!!!
“ไม่ – เล่น – มัน – แล้ว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ลู่หานเหวออกมาดังลั่นเมื่อนี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ล้มลงไปกับพื้น ปากเล็กเบ้ออกอย่างรู้สึกขัดใจเมื่อสเก็ตบอร์ดราคาหกล้านนี่มันเล่นยากเล่นเย็นจนนึกหงุดหงิด
“เป็นอะไรไหม” แม้ปากจะบ่นจะว่าคนตัวเล็กหากแต่เมื่อล้มปุ๊บเซฮุนก็จะวิ่งเข้ามาหาลู่หานโดยเร็วเสมอ คิ้วเรียวขมวดเข้าเป็นปมยกแขนเล็กของลู่หานเช็คบาดแผลไปมาจนกระทั่งเห็นรอยถลอกเลือดออกซิบที่เข่าขวา
“โอ้ย” ลู่หานหลุดเสียงร้องออกมาเมื่อนิ้วมือหนาสัมผัสเข้ากับบาดแผล
“ลองเล่นอีกครั้งไหม” เซฮุนเอ่ยถามก่อนจะล้วงหยิบปลาสเตอร์ยาในกระเป๋ากางเกงออกมาแปะลงที่หัวเข่าเล็กต้องขอบคุณความรอบคอบของเขาที่มีมากพอถึงได้พกปลาสเตอร์ติดกระเป๋ามา
“ไม่เล่นแล้วเจ็บจนจะตายแล้วเนี่ย!”
“จะตายเลยงั้นหรอ”เซฮุนหลุดหัวเราะออกมากับคำพูดของลู่หานก่อนจะพยุงคนตัวเล็กให้ยืนขึ้น
“ก็มันเล่นไมได้สักทีนิ -^-!!!”
“อยากเล่นเป็นไหม?” ใบหน้าเล็กพยักขึ้นลง ถึงแม้มันจะเล่นยากขนาดไหนแต่เขาก็ไม่คิดจะโกหกตัวเองที่ว่าอยากเล่นสเก็ตบอร์ดได้เหมือนกัน
ก็มันเท่ออก แล้วอีกอย่างคุณเนื้อคู่เล่นได้ก็อยากเล่นได้เหมือนกันนี่!! คนมันคู่กันอะเข้าใจปะ!!
“งั้นมานี่”
เซฮุนใช้เท้าดันสเก็ตบอร์ดมาตรงหน้าก่อนจะพยุงคนตัวเล็กให้ขึ้นไปยืนด้านบนโดยให้เท้าทั้งสองยืนอยู่บนแผ่นกระดาน กายแกร่งอ้อมไปยืนซ้อนหลังเล็กยื่นฝ่ามือไปด้านหน้าจับมือบางทั้งสองข้างไว้มั่น ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งวางบนแผ่นสเก็ตบอร์ดแล้วใช้เท้าอีกข้างดันพื้นเพื่อส่งแรงให้ล้อเลื่อนไปข้างหน้า
สเก็ตบอร์ดที่ค่อยๆเคลื่อนตัวไปพร้อมกับคนสองคน และหัวใจทั้งสองดวง
ลู่หานยืนตัวตรงฉีกรอยยิ้มกว้างออกมามือเล็กกุมฝ่ามืออบอุ่นของเซฮุนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังแน่น นัยน์ตาเรียวใสพราวระยิบระยับจ้องมองทางข้างหน้าอย่างคนมีความสุข ใบหน้าคมเผยรอยยิ้มเมื่อได้ยินเสียงใสของลู่หานหลุดหัวเราะออกมา
เพราะนี่คือสิ่งที่เซฮุนต้องการจะรักษาไว้
“คราวนี้ยังไม่อยากเล่นอยู่อีกไหม”
“ไม่แล้ว พาฉันเล่นแบบนี้ไปเรื่อยๆเลยนะ”
“กลับเกาหลีแล้วให้พาไปเล่นอีกยังได้เลย”
ลู่หานอมยิ้มออกมากระชับฝ่ามือที่กอบกุมกันอยู่แน่น หัวใจดวงน้อยกำลังพองโตขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงการเอาใจใส่ของเซฮุน ระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาที่ได้อยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้ยิ่งทำให้ลู่หานมั่นใจในความรู้สึกมากขึ้นทุกที
แค่เพียงได้ยินชื่อหัวใจก็เต้นแรงแล้ว ถ้าไม่ได้มีความรักอยู่คงคิดว่าตัวเองต้องเป็นบ้าแน่ๆ ที่จู่ๆก็หัวใจเต้นแรงแบบไร้เหตุผล
ลู่หานเป็นคนตรงคิดอะไรก็จะพูดออกมาอย่างไม่ปิดบัง ลู่หานเป็นคนที่รักใครแล้วจะทุ่มเต็มร้อยโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แม้ว่าเวลาจะยาวนานมากแค่ไหนก็ไม่เคยย่อท้อหากหัวใจบอกว่ารัก และลู่หานก็ไม่รีรอเช่นกันที่จะเอ่ยปากถามออกไป คำถามที่ทำให้สเก็ตบอร์ดของเซฮุนหยุดชะงัก
“คุณเนื้อคู่เริ่มชอบฉันบ้างรึยัง?”
กึก
“ชอบฉันบ้างไหม? รู้สึกชอบฉันบ้างสักนิดรึเปล่า…”
บรรยากาศรอบด้านเงียบสงัดจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงของสายลมที่พัดผ่านใบหน้า ลู่หานเม้มริมฝีปากเล็กน้อยก่อนทำใจกล้าหันหลังเผชิญหน้ากับเซฮุนพลันต้องรู้สึกใจเสียกับใบหน้าที่นิ่งเฉยไม่สามารถคาดเดาความรู้สึกใดๆได้
คำถามของเขา… มันหาคำตอบยากขนาดนั้นเชียวหรือ?
เพราะสิ่งที่ลู่หานต้องการ… คือคำว่าสักนิด
ขอแค่สักนิดเพื่อเป็นแรงผลักดันให้ก้าวเดินต่อไป
“ชอบฉันบ้างสักนิดรึเปล่า แค่สักนิด…”
นัยน์ตาเรียวจ้องดวงตาสีเฮเซลอย่างคาดหวังคำตอบ ดวงตาสีเฮเซลที่สวยสง่าแต่ทว่าลู่หานกลับรู้สึกว่ามันช่างมืดมิดเสียเหลือเกิน ความมืดมนของหนทางที่ยากนักจะค้นพบคำตอบตามที่ต้องการ ความรู้สึกของอีกคนที่ไม่เคยได้รับรู้
“ตอบฉันมาสิ”
ยิ่งคาดคั้นกลับยิ่งสับสน ความรู้สึกของอีกฝ่ายที่ยากนักต่อการเข้าใจ หัวใจดวงนี้ทุ่มไปแล้วเต็มรักหากไม่ได้รับกลับมาบ้างย่อมเสียกำลังใจ ไม่มีใครบนโลกใบนี้ที่รักใครแล้วไม่หวังให้เขารักตอบ และลู่หานก็เช่นกัน ขอเพียงแค่สักนิดให้หัวใจได้ลิ้มรสน้ำทิพย์ เพียงเท่านั้นหัวใจก็พร้อมจะสู้และพยายามในรักอีกครั้ง
“ทำไมไม่ตอบละ”
นัยน์ตาเรียวเพ่งมองคนตรงหน้านิ่ง ยิ่งสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆมีเพียงแค่นัยน์ตาที่ยากต่อการคาดเดายิ่งรั้งแต่จะไม่เข้าใจ จนในที่สุดก็เลือกยอมแพ้หลุบสายตาหนีลงต่ำ
หรือบางที…อาจคิดไปเองทั้งหมด
หรือจะร้ายแรงกว่านั้นคือไม่มีหวังตั้งแต่แรกแล้ว…
“ถ้าไม่ชอบกันเลยสักนิด ถ้าไม่มีใจให้กันเลยสักนิด ฉันจะได้ไม่พยายามต่ออ๊ะ!”
ชั่วพริบตาที่เสียงใสถูกกลืนกินหายไปเพราะริมฝีปากร้อนที่บดขยี้ลงมา ริมฝีปากอุ่นร้อนที่ต้องการดูดกลืนคำพูดเหล่านั้น นัยน์ตากลมเบิกโพลงอย่างตกตื่นนึกอยากจะขัดขืนหากแต่ความอ่อนโยนที่ถูกสาดจากอีกคนทำให้ความคิดนั้นปลิวหายไป ริมฝีปากอุ่นร้อนดูดเม้มกลีบปากบางอย่างละเอียดอ่อน ดูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนคนตัวเล็กเข่าอ่อนยกฝ่ามือเกาะไหล่หนาเป็นที่พึ่ง
ลิ้นชื้นส่งมาแตะกลีบปากบางเชิงขออนุญาติ ริมฝีปากเล็กเผยอขึ้นรับอาคันตุกะเข้ามาฉกชิมความหวานฉ่ำภายใน และทันทีที่เข้ามาลิ้นชื้นก็ตวัดเกี่ยวรัดลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อนทันที ความร้อนจัดที่ถูกจุดขึ้นจนแทบแผดเผาร่างทั้งร่างของลู่หานให้แหลกเป็นจุน
“อื้อ~”
เสียงหวานร้องครางกระเส่าเมื่อลิ้นร้อนยังคงไล่ต้อนไม่หยุดหย่อน ความหวานล้ำภายในที่เซฮุนได้โยนเชื้อเพลิงเข้าไปให้กองไฟลุกโชน ความร้อนรุ่มที่ลามไปทั่วทั้งกายจนสั่นสะท้านหากไร้อ้อมแขนของเซฮุนที่คอยประคองร่างเล็กคงต้องล่วงกองอยู่ที่พื้นเป็นแน่
ลิ้นร้อนดูดดึงลิ้นเล็กอย่างไม่รู้จักพอ ราวกับลิ้นเล็กของลู่หานคือเกสรดอกไม้ที่ผลิตน้ำหวานออกมาให้แมลงได้ฉกชิม และลิ้นของเซฮุนนั้นก็คือแมลง แมลงที่โง่เง่าหลงงมงามแหล่งน้ำหวานแห่งนี้ไม่รู้เบื่อ ชิมแล้วชิมเล่ากลืนกินแล้วกลืนกินเล่าก็ไม่รู้จักอิ่ม
สำหรับลู่หาน มีแต่ต้องการและต้องการ
“อ๊ะอื้อ~”
มือเรียวยกทุบไหล่แกร่งเป็นเชิงขอหยุดหายใจ หากแต่เซฮุนที่เปรียบดั่งราชสีห์เวลาลิ้มรสอาหารอันโอชะมันจะไม่มีวันหยุดกินจนกว่าจะอิ่ม… คนตัวสูงถอนลิ้นออกเปลี่ยนเป็นดูดเม้มกลีบปากล่างสีเชอร์รี่อย่างลุ่มหลง ลิ้นชื้นแตะเลียกลีบปากบางผลัดดูดเม้มไปมา และเหมือนเป็นโอกาสของลู่หานเมื่อพญาราชสีห์กำลังพักคนตัวเล็กก็กอบโกยอากาศเข้าหายใจทันที
“อื้อ!”
แต่ก็กอบโกยเพียงได้ไม่นานเมื่อราชสีห์ต้องการลิ้มรสอาหารแสนหวานนี้อีกครั้ง เซฮุนบดจูดลงมาอย่างไม่ทันให้ลู่หานได้ตั้งตัว ลิ้นชื้นสอดแทรกเข้าโพลงปากบางตวัดเกี่ยวดึงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ความร้อนดั่งเปลวเพลิงถูกจุดขึ้นอีกครั้ง กองไฟลูกใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางหัวใจจนร้อนระอุไปทั่วทุกอณูผิว
ฝ่ามือหนาลูบแก้มใสที่สัมผัสได้ถึงความร้อน เกลี่ยเล่นในขณะที่จุมพิตยังคงดำเนินต่อไป สองลิ้นฉกสู้กันภายในโพลงปากอย่างดุเดือดดูดเม้มจนเกิดเสียงจ้วบจ้าบ ความร้อนครั้งใหญ่ที่แทบพรากลมหายใจออกจากร่าง
ความร้อนที่แทบหลอมละลายหัวใจดวงนี้ให้กลายเป็นธุลี
“อื้ม…”
เสียงประท้วงที่ร้องดังขึ้นจากลำคอลู่หานทำให้เซฮุนต้องละจูบออกมาอย่างเสียดายแต่ก็มิวายส่งลิ้นเลียกลีบปากบางเป็นการส่งท้าย คนตัวเล็กหอบหายใจจนตัวโยนภายใต้อาณัติที่แข็งแกร่งของเซฮุน กลีบปากบางเคลือบไปด้วยน้ำใสจนเซฮุนอดไม่ได้ต้องส่งลิ้นออกมาเลีย
นัยน์ตาคมสบดวงตากลมใสที่สั่นระริกอย่างรุนแรงของคนในอ้อมแขน นัยน์ตาคมที่หากจ้องมองดีๆจะพบกับความโดยนัยซ้อนอยู่ จุมพิตครั้งนี้ที่เซฮุนจงใจให้ร้อนแรงเป็นพิเศษ ร้องแรงปางตายเพื่อเป็นการลงโทษคนตัวเล็กที่พูดให้รู้สึกขัดใจ
ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มช้าๆเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กยังคงไม่หยุดหอบหายใจ หัวใจดวงน้อยที่เต้นแรงจนคนหูดีอย่างเซฮุนได้ยิน และมันต้องเต้นแรงมากกว่าเดิมเมื่อ…
“ที่ถามว่าฉันชอบนายรึเปล่า…”
“แฮ่กๆ”
“จูบคือคำตอบ”
ภายในห้องพักของโรงแรมเซฮุนหย่อนสะโพกนั่งลงกับโซฟา ใบหน้าคมคายหล่อเหลาประดับรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา ในเวลานี้เขารู้สึกไม่ต่างราวกับคนบ้าที่ไม่ว่าจะเดินไปไหนมาไหนก็ยิ้มตลอดเวลา
นิ้วมือหนาเคาะเบาะโซฟาไปมาเป็นทำนองเพลง ดวงตาคมสีเฮเซลที่สวยงามอยู่แล้วกลับดูมีเสน่ห์มากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวเมื่อในเวลานี้กำลังแพรวพราวระยิบระยับไปด้วยประกายแห่งความสุข
บางทีผมควรไปพบจิตแพทย์ ผมคิดว่าผมยิ้มจนใกล้เป็นบ้าแล้วละครับ
แกร๊ก
นัยน์ตาคมหันมองคนมาใหม่ที่เดินเข้าห้องเขาได้ง่ายดายอย่างลู่หานที่อยู่ในชุดนอนลายโดนัลดั๊กสีเหลืองพลันต้องหลุดอมยิ้ม ลู่หานก้าวเข้ามาหย่อนสะโพกนั่งลงข้างกายเซฮุนก่อนจะเม้มริมฝีปากบางมือเรียวเล็กขยำชายเสื้อนอนอย่างคนทำอะไรไม่ถูก
กะก็ก็ดะดะดีฟคิสแง้T_T ก็ดีฟคิสเมื่อตอนเย็นยังอยู่ในหัวมันก็เขินสิวะ!!!!! T///////T
ทั้งสองคนนั่งอยู่ข้างกันโดยไม่มีใครปริปากพูดออกมาแต่ที่น่าแปลกคือบรรยากาศกลับไม่กดดันเลยแม้แต่น้อย ทั้งสองต่างคนต่างนั่งอมยิ้มอยู่กับตัวเองโดยไม่หันมามองกัน ความรู้สึกจั๊กจี้หัวใจผิดปกติที่ค่อยๆขับเคลื่อนเข้าสู่กลางหัวใจ
เซฮุนค่อยๆเขยิบสะโพกเข้าหาลู่หานทีละนิดใบหน้าคมแสร้งทำเป็นมองเพดานซ้ายทีขวาที ลู่หานพยายามอย่างหนักที่จะไม่หลุดยิ้มออกมาทำได้เพียงแค่นั่งอมยิ้มเกร็งๆนิ้วมือเล็กเขี่ยพื้นโซฟาไปมาอย่างประหม่า
เบื่อตัวเอง ไม่รู้จะเกิดมาหน้าตาดีทำไม ดูสิคุณเนื้อคู่ยังทนไม่ไหวเลย (>///∇///<)
ในที่สุดสองร่างก็นั่งแนบชิดกันบนโซฟาตัวใหญ่แต่ก็ยังไม่มีใครเริ่มบทสนทนาเสียทีจนในที่สุดก็เป็นลู่หานเองที่ชวนอีกคนคุยก่อน
“พรุ่งนี้ก็กลับแล้วสินะ”
เซฮุนชำเลืองสายตามองคนข้างกายก่อนเอ่ยตอบ
“เอาะอ่อ ใช่พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว”
ลู่หานพยักหน้าก่อนที่ทั้งสองคนจะเงียบลงอีกครั้งจนเซฮุนพ่นลมหายใจออกมาแล้วเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาบ้าง
“นายเป็นคนน่ารักนะ”
“หะห๊ะ?” คนตัวเล็กหันขวับไปมองเซฮุนทันที นัยน์ตาเรียวเบิกเล็กน้อยอย่างตื่นตะลึงกับคำพูดของเซฮุน
ยะอยู่ดีๆก็มาชมว่าน่ารักกันเฉยเลย คนบร้าๆๆๆๆ ไม่ต้องพูดก็ได้รู้ตัวอยู่หรอก (.//////.) #แทะโซฟา
ฝ่ามือหนาข้างหนึ่งยกขึ้นโอบไหล่เล็กให้เข้ามาแนบชิดกายมากขึ้น และทันทีที่กลิ่นคุ้นเคยของเซฮุนลอยแตะจมูกปรางแก้มใสก็เห่อแดงขึ้นทันทีอย่างฉุดไม่อยู่
อยากซบอกอะ แต่เดี๋ยวโดนด่าว่าแรดไม่เอาหรอก ฮึ้บไว้นะลู่หานฮึ้บ!!! (T///∇///T)
“ตอนนายยิ้ม… ไม่สิ ไม่ว่าจะตอนไหน ไม่ว่าจะทำหน้ายังไงนายก็ดูน่ารักทุกครั้งเลย”
“คะคุณเนื้อคู่” ใบหน้าหวานหันมองใบหน้าคมด้านข้างที่ยังคงเอื้อนเอ่ยถ้อยคำที่พาให้หัวใจสูบฉีดแรง
“บางทีฉันก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันนะ”
ลู่หานนั่งนิ่งรับฟังคำพูดของเซฮุนอย่างตั้งใจด้วยหัวใจที่เต้นระรัว
“ฉันไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆว่าตั้งแต่เมื่อไหร่และทำไม…”
ฟึบ!
ภายในพริบตาร่างของลู่หานก็นอนราบไปกับโซฟาโดยฝีมือของเซฮุนที่ยกตัวขึ้นคร่อมจ้องมองดวงหน้าสวยด้วยแววตาที่จริงจังจนหัวใจดวงน้อยแทบระเบิดออกมาสู่โลกภายนอก
และคำพูดถัดมาที่จงใจแผดเผาร่างเล็กให้มอดไหม้…
“ทำไมฉันถึงชอบนาย”
ชะ ชอบ……..
คุณเนื้อคู่บอกชอบกูหรอ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
#ช็อค
( "ทำไมฉันถึงชอบนาย" - Said by Duke Sehun ❤️ )
แชพเตอร์ที่แปด 100% #ฟองดูฮุนฮาน
Fonduehunhan
รีปริ้นท์ #ฮนครม รอบที่1 มาแล้วจ้า
http://my.dek-d.com/gingggg/writer/viewlongc.php?id=1004693&chapter=30
ฝากฟิคเรื่องใหม่ Faded Image แด่ความทรงจำของฉัน
คำเตือน สำหรับคนที่ชอบอ่านฟิคดราม่าและฟิคจากเรื่องจริงเท่านั้น
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1142581
กรี้ดดดดดดดดดด ครอบร้อยแล้ว เหนื่อย 5555555555
สงสัยยังเพลียจากสงกรานต์อยู่
ตอนนี้ฮูนบอกชอบลู่หานแล้วกรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
แล้วดูไม่ยอมตอบว่าชอบลู่ไหมแต่ดันจับจูบ เออจย้า .//////.
ตอนหน้าถือว่าเด็ด แต่ไม่สปอยรออ่านเองเนอะ 555555555555555555555
ขอทอล์คน้อยนะคะ ไม่รู้จะพูโไร 5555555555555555555
ขอบคุณสำหรับเม้นท์ ขอบคุณโหวต ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณยอดวิว ขอบคุณ#ฟองดูฮุนฮาน
ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้กัน รักคนอ่านเสมอนะ จูบบบบบบบ <3
ความคิดเห็น