ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - la fondue au chocolate ♡ hunhan -

    ลำดับตอนที่ #11 : - 10 - ( 100% )

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 57












    갈수록 짙어져간 그리움에 잠겨

    시간을 거슬러 갈순 없나요

    จมอยู่ในห้วงแห่งความคิดถึง ซึ่งนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

    ให้ฉันย้อนเวลากลับไปได้ไหม?

     





     

                “นี่นักเรียนใหม่ นายเป็นใครทำไมถึงได้เข้ามากลางเทอมได้”

                “นายพูดกับฉันหรอ”

                “พูดกับพื้นหญ้าม๊างงงง ถึงนายจะหล่อแต่ฉันไม่ให่อภัยหรอกนะ กวนตีนคุณลู่แบบนี้รู้ไหมว่าโทษมันหนัก!! เร็วๆตอบมาว่าเป็นใครกันแน่”

                “ฉันงั้นหรอก็คงเจ้าชายที่หนีอพยพมาจากเกาหลีละมั้ง”

                “เจ้าชาย? เพ้อเจ้อใหญ่แล้วไอ้หล่อ!!!!!

     

                    บทสนทนาในวันวานลอยเข้ามากระแทกสมองของลู่หาน นัยน์ตากลมเย็นยะเยือกแข็งกร้าวขึ้นในบัดดลเมื่อเห็นร่างสูงยืนเด่นสง่าอยู่ตรงหน้า

                    บุคคลที่ตอกตะปูความทรงเลวร้ายฝังลึกลงในหัวใจ

                    “นายมาเรียนที่นี่งั้นหรอลู่หาน” เสียงห้าวใหญ่ดังขึ้นปลุกภวังค์ความคิดลู่หาน คนตัวเล็กยืนนิ่งใบหน้านิ่งเฉยราวกับไร้ความรู้สึกก่อนเปล่งเสียงในลำคอ

                    “อืม”

                    ลู่หานนึกโมโหตัวเองที่ไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อนมาเกาหลี ไม่คิดเอะใจถึงคำพูดที่เคยได้ยินจากปากคริสเรื่องที่อีกฝ่ายเป็นเจ้าชาย ไม่คิดเอะใจเรื่องที่อีกฝ่ายมีเชื้อสายเจ้าเช่นเดียวกับเซฮุน และถ้าหากเซฮุนรู้ความจริงขึ้นมาจะโกรธเขาไหม ความสัมพันธ์ที่กำลังโรยไปด้วยกลีบดอกไม้จะปลิวหายไปหรือไม่ ถ้าหากเซฮุนได้รู้

                    ความจริงที่มาเกาหลีเพราะต้องการหลบหนีชายผมน้ำผึ้งตรงหน้า

                    “ไม่ได้เจอกันนานเลยสบายดีไหม”

                    “อืม” ลู่หานยังยืนตีสีหน้าไร้อารมณ์ด้วยท่าทางเย็นชาจนอีกฝ่ายรู้สึกใจเสีย ใบหน้าใสที่แต่ก่อนเคยมีรอยยิ้มน่ารักประดับกลับเหลือเพียงขีดเส้นตรง ดวงตาสวยที่เคยแพราวพราวสวยสดใสกลับเหลือเพียงความมืดมิดที่หนาวเหน็บ ควรทำอย่างไรอีกคนถึงยอมให้อภัยในความผิดใหญ่หลวง ในตอนนี้คริสยอมทำทุกอย่างแม้กระทั่งขายวิญญาณแลกก็ตาม

                    “หรอฉันดีใจนะที่ได้เจอน

                “แต่ฉันไม่”

                    เสียงแข็งดังแทรกเสียงห้าวใหญ่ คริสยืนนิ่งค้างหัวใจแตกสลายเมื่อคนตัวเล็กตรงหน้าตัดเยื้อใยเปลี่ยนไปราวกับคนไม่เคยรู้จักกัน เย็นชาใส่เสียจนน่ากลัว หากแต่ในก้นลึกของหัวใจกลับร้องกล่าวว่านี่คือผลกรรม

                    มันสมควรแล้วกลับสิ่งที่เขาได้รับ

                    “งะงั้นหรอ”

                    เกิดความเงียบปกคลุมขึ้นรอบพื้นที่ คริสหัวเราะเยาะใส่ตัวเองกับสายตาแข็งกร้าวดั่งหอกแหลมที่พุ่งเข้าแทงกลางหัวใจให้รู้สึกเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่เป็นดั่งผลกรรมจากการกระทำโหดร้ายของตนกำลังสนองผล ทว่าความเจ็บแค่นี้มันคงเทียบไม่ได้สักนิดกับที่ลู่หานเคยได้รับ มันแตกต่างตรงที่ว่า

                    คริสยังไม่ทันได้เตรียมใจ

                    “งั้นฉันไปก่อนก็แล้วกัน”

                    นัยน์ตาสวยตามติดคริสที่ก้าวเดินออกจากห้องจนหายลับออกไป มือเรียวกำเข้าหากันแน่นจนขึ้นข้อขาว นึกโมโหเครียดแค้นตัวเองที่เลือกหนีออกมาแล้วแต่ไฉนพระเจ้าถึงกลั้นแกล้งให้ต้องพบเจออีก ความโกรธขึ้งของลู่หานที่ลุกเป็นไฟสะสมจนกลายเป็นความเกลียดชัง เกลียดเสียจนไม่คิดอยากจะเชียดกายเข้าใกล้แม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าจะ

                เคยรักมากจนยอมมอบความรักหมดหัวใจเลยก็ตาม

     

                “ลู่หาน”

                    ฝ่ามือหนาแตะลงที่ลาดไหล่เล็กจนเจ้าตัวสะดุ้ง ลู่หานกลบแววตาฉุนเฉียวก่อนหมุนตัวกลับไปหาอีกคนแล้วฉีกยิ้มออกมาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น  หากแต่ก็ไม่สามารถปกปิดอีกคนได้

                    “รู้จักกับคริสหรอ”

                    ชั่วขณะที่กายเล็กสั่นไหวไปเล็กน้อยก่อนจะสลัดออกจนหมดสิ้น ปากเล็กเบะออกจ้องมองดวงหน้าคมจดจ้องรายละเอียดทุกสัดส่วนของโครงหน้าหล่อ พลันหัวใจที่เคยเต้นรัวเพราะเกรี้ยวโกรธก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความกระดากอาย

                    เพราะผู้ชายคนนี้ คือคนที่ลู่หานรัก

                    ใช่ตอนนี้ลู่หานรักโอเซฮุน และในวันข้างหน้าลู่หานก็ยังเลือกที่จะรักผู้ชายคนนี้ตลอดไป

     

                ไม่ใช่เจ้าชายไร้หัวใจที่เคยสร้างบาดแผลเน่าเฟะคนนั้นอีกต่อไป

     

                    “อื้อรู้จักกันเราเคยเรียนอยู่ห้องเดียวกันตอนอยู่จีนน่ะ”

                    เซฮุนไม่ใช่คนโง่ที่เดาสถานการณ์ของคนทั้งคู่ไม่ออก ดวงตาของคริสสะท้อนทุกอย่างออกมาว่าคิดอย่างไรกับคนตัวเล็กของเขา ถามว่ากลัวไหม? ตัวเซฮุนเองก็ไม่ใช่เทพเจ้าที่สามารถบังคับจิตใจของใครได้ หากแต่เมื่อได้สบผสานดวงตาสวยของลู่หานความหวั่นกลัวทั้งหมดกลับสลายหายไป

                    หน้าต่างของหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแสงแห่งความรัก

                    “งั้นหรอกหรอ”

                    ลู่หานยืนนิ่งคิดตระหนักอยู่ในใจว่าจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้คนตรงหน้าดีหรือไม่ หากแต่หัวใจที่เต้นดังโครมครามเพียงเพราะได้อยู่ใกล้ผู้ครอบครองหัวใจกลับเป็นตัวบ่งบอกอย่างดีว่าสมควรที่จะต้องพูดออกไป

    คนรักกันก็ไม่สมควรที่จะมีความลับต่อกันมิใช่หรือ

    “ฉับกับเขา เราเคยคบกันมาก่อน”

    ผลึกตาสีเฮเซลปรายมองคนตัวเล็กเก็บความสงสัยไว้ในใจเลือกที่จะยืนฟังคนตัวเล็กต่อไปอย่างชาญฉลาด เพราะหากเป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ การเก็บอารมณ์และไม่โวยวายคือสิ่งที่ดีสุด เซฮุนจะไม่ยอมโง่ในเรื่องความรักเพื่อเสียคนคนนี้ไปเป็นแน่

    “แต่ฉันกับเขาจบกันไม่ค่อยสวย ไม่สิจบกันเหี้ยเลยแหละ แทบไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีกด้วยเลย แต่มันก็แค่อดีตแหละเนอะ เพราะในตอนนี้หัวใจของฉันอะ

    แผงคิ้วหนาเลิกขึ้นอย่างสงสัย ใบหน้าคมอมยิ้มทอดมองอีกคนด้วยแววตาอบอุ่น

    คิดถูก เซฮุนคิดถูกที่ยอมมอบกุญแจให้คนตัวเล็กได้มีสิทธิย่างกายเข้ามาในหัวใจ ลู่หานไม่เคยคิดจะปกปิดกลับยอมพรั้งพรูความจริงออกมาจนหมดเปลือก

    “เพราะในตอนนี้หัวใจของฉันมันมีแต่คุณเนื้อคู่ไปหมดเลยนะเซ่!! รู้ปะเนี่ยว่ามันมีคุณเนื้อคู่เต็มไปหมดเลยโฮ้วววT////v////T

    “ฮึ”

    เสียงทุ้มหลุดหัวเราะในลำคอยกแขนกำยำขึ้นรั้งกายเล็กเข้ามาในอ้อมกอด ใบหน้าคมแหงนขึ้นฟ้าก่อนเผยรอยยิ้มออกมากว้าง มันเป็นรอยยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่เซฮุนจะสามารถฉีกได้ หัวใจพองโตกับคำพูดเล็กๆน้อยๆที่ฟังแล้วรู้สึกชื่นใจ

    “งื้อคุณเนื้อคู่

    “อะไร” เสียงทุ้มเก๊กนิ่งกดใบหน้าสวยชิดแนบอกมากขึ้นเพื่อกันไม่ให้อีกคนเห็นรอยยิ้มแห่งความสุขของเขา หากแต่เสียงใสที่หลุดถามออกมากลับทำให้ฝ่ามือหนาต้องยกขึ้นปกปิดใบหน้าทั้งรอยยิ้มแทบในทันที

    “หัวใจคุณเนื้อคู่เต้นแร๊งแรง มันเต้นจนเหมือนจะตบหน้าฉันอยู่แล้วเนี่ย!” กำลังเขินอยู่เหมือนกันใช่เป่างะ #กัดผ้ากั้นความฟินT/////T

    เซฮุนหลุดหัวเราะในลำคอสักพักก่อนจรดริมฝีปากบนเรือนผมสีคาราเมลแผ่วเบา ไม่คิดปฎิเสธตัวเองในข้อหาที่หัวใจกำลังเต้นแรงและพร้อมยอมรับแต่โดยดี



    ที่หัวใจฉันเต้นแรงเพราะ…”

     
     

     

    “มันกำลังบอกรักนายอยู่ต่างหาก”


     


    1

    2

    3

    หวีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ตู้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

                   ไอ้เหี้ยยยยโอ้ยยยย เหี้ยเอ่ยเหี้ยยยยยยยยยยย คุณเนื้อคู่แอบหลอกบอกรักกูหรอ! นี่ถ้าไม่ปัมปั้มกันแล้วก็ไม่คิดจะบอกช้ะ? ไม่เป็นไรเห็นว่าหล่อดีเลยยอม นี่แทบร้องไห้ออกมาเป็นสายรุ้งละไอ้ห่าเอ่ย ฮรึก!!!

    #นั่งไขว่ห้างดูพลุจุดขึ้นบนหัวด้วยความฟินเงร้ (T//////////////////////T)

     

    เซฮุนอมยิ้มมองคนตัวเล็กที่ปรางแก้มใสขึ้นสีแดงจัดจนอดใจไม่ไหวก้มลงฉกความหอมเสียงดังฟอด เสียงทุ้มหลุดหัวเราะในลำคอเมื่อพบว่าแก้มใสขึ้นสีแดงหนักกว่าเดิมก่อนจะวางคางพาดเรือนผมสีคาราเมล

    “อ๋อฉันคงยังไม่ได้บอกนาย”

    นัยน์ตาสวยเหลือบขึ้นจ้องเซฮุนอย่างสงสัย มือเรียวเลื่อนเกาะชายเสื้อคนตัวสูง

    “ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปนายต้องอยู่กับแบคฮยอนบ่อยขึ้นนะ”

    หืม

    “แบคฮยอนจะติวพิเศษกฏการเป็นดัชเชสให้นายก่อนถึงเทศกาลเฮเลเนี่ยน”

    ห๊ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    ติวพิเศษกฏการเป็นดัชเชส!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    #ตาลุกวาว *O*

    “คุณเนื้อคู่สอนแทนไม่ได้หรอ (' ')”

    ก็ไม่อยากห่างอะ อยากอยู่ใกล้เข้าใจกูเป่า ฮรึก #รั้งห้าย T 3 T

    “ฉันมีงานต้องทำ”

    ลู่หานเบะปากอย่างจำยอม ใบหน้าสวยหมองลงจนเซฮุนต้องยกยิ้ม

    เชอะไม่สอนก็ไม่สอน!!!!!! ไม่ต้องสอนหรอกไอ้กฎการเป็นดัชเชสอะไรเนี่ย!!!!!!!!!!


    มาสอนคำว่าฟองดูบนเตียงกันดีกว่า อร๊ายยยย #ลู่หานเป็นโคนใจ๋ใจ๋โน๊ะ (*//////////////*)

    #แรดสิบตัววิ่งตามมา

     



     

    และในขณะเดียวกัน

     


     

    สองเสียงที่ส่งเสียงคุยกันเจื้อยแจ้วดังรอดออกมากระทบประสาทหูแก่ชายผมน้ำผึ้งที่ยืนดักฟังอยู่หลังบานประตู กายแกร่งเอนพิงผนังอย่างรู้สึกเหนื่อยอ่อนหัวใจราวกับถูกสูบฉีดวิญญาณ ข้อมือหนากำเข้าหากันแน่นจนเส้นเลือดขึ้นปูดนัยน์ตาคมเหม่อลอยออกไปไกล ไม่มีใครสามารถคาดเดาความคิดและความรู้สึกของชายหนุ่มได้เลยแม้แต่คนเดียว

    “จะเป็นใครก็ได้ แต่อย่าเป็นเขาได้ไหมลู่หาน”



    “อย่าเป็นผู้ชายคนนั้นที่เหมือนดั่งน้องชายของฉัน








     

    ( - la fondue  au chocolate - )



     

    หอสมุด

                    ปึง!

                    กองหนังสือมหึมาถูกตั้งลงตรงหน้าลู่หานจนกายบางสะดุ้ง คนตัวเล็กกระพริบตาปริบๆอย่างมึนเมาก่อนเหลือบขึ้นมองแบคฮยอนที่ยืนค้ำหัวด้วยสีหน้าจริงจัง

                    สงสัยเส้นทางการเป็นดัชเชสของอิลู่คงจะไม่ง่ายแล้วสินะ #มุดกะลา T_T

                    “นี่คือสิ่งที่มึงต้องเรียนรู้ขั้นเบื้องต้นทั้งหมด กฎของเฮเลเนี่ยนมีมาแต่ยาวนานเพราะฉะนั้นกฎจึงสำคัญกว่าทุกสิ่งแม้กระทั่งอำนาจของดยุคเองก็ตาม!” แบคฮยอนเว้นช่วงก่อนอธิบายต่อ “ เล่มนี้สำคัญมากมึงต้องจำให้ได้ทุกบรรทัด! เพราะมันอธิบายทั้งหมดเกี่ยวกับกฎการเป็นดัชเชส! และเล่มนี้คือกฎของเฮเลเนี่ยนอย่างละเอียด! ส่วนเล่มนี้คือรายชื่อเครือข่ายและบุ

                    “พอ!!!” เสียงใสเหวออกมาดังลั่นแทรกคำพูดของแบคฮยอน ลู่หานยกมือเรียวขึ้นขยี้กลุ่มผมคาราเมลอย่างคนคลุ้มคลั่งกับกองหนังสือนับสิบเล่มที่หนาจนปาหัวหมาตายคาที่ได้

                    “มันเยอะขนาดนี้แค่สองอาทิตย์กูจะจำได้ยังไงวะ”

                    “มึงค่อยๆเรียนรู้ก็ได้ แต่ภายในสามวันนี้มึงต้องท่องกฎการเป็นดัชเชสให้ขึ้นใจ! กูติวให้มึงเองกับตัวก็ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้นเพราะกูเคยติวให้ดัชเชสคนก่อนมาแล้ว ฉะนั้นเรื่องแค่นี้กล้วยๆ” แบคฮยอนพูดพลางยักไหล่อย่างไม่คิดตกอะไร หากแต่ลู่หานกลับจ้องหน้าแบคฮยอนนิ่ง

                    “มึงบอกว่าเคยติวให้ดัชเชสคนก่อนงั้นหรอ?”

                    แบคฮยอนชะงักค้างนึกอยากตบปากตัวเองแรงๆที่เผลอหลุดพูดสิ่งที่ไม่ควรออกมา

                    “มึงเล่าให้กูฟังได้ไหมว่ากูกับดัชเชสคนก่อนใครน่ารักกว่ากัน!!! แล้วคุณเนื้อคู่รักใครมากกว่ากัน!!!!!

                    คำถามของลู่หานทำให้แบคฮยอนโล่งอกราวกับยกเทือกเขาออกไป ไม่รู้ว่าลืมนิสัยของลู่หานไปได้อย่างไร นิสัยของลู่หานที่คงไม่มีวันขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตกาลเป็นแน่

                    “มึงเป็นเพื่อนกูกูก็ต้องเลือกมึงสิ”

                    ทว่าคำถามที่ท่านดยุครักใครมากกว่ากัน

                แบคฮยอนก็ยังไม่มั่นใจ

                “เออแต่จะว่าไปอดีตดัชเชสหายไปไหนละ?”

                    แบคฮยอนแข็งทื่อตัวชาวาบกับคำถาม นัยน์ตาสั่นระริกอย่างหวาดกลัวว่าหากลู่หานได้สืบค้นเรื่องราวในอดีตขึ้นมาเฮเลนี่ยนที่เคยสงบสุขอาจได้ลุกเป็นไฟขึ้นอีกครา

                    “มึงเริ่มอ่านได้แล้ว! กฏการเป็นดัชเชสมีสองพันเจ็ดร้อยหกสิบหน้า! เพราะฉะนั้นเริ่มท่องได้แล้ว ถ้าวันนี้จำไม่ได้ร้อยหน้าก็ไม่ต้องนอน!!!!!!

                    แบคฮยอนจะไม่ยอมให้เพื่อนได้รู้ ไม่ยอมอย่างเป็นอันขาด

                    เหตุผลที่ดัชเชสคนก่อนหายไป เหตุผลที่ท่านดยุคเฝ้าจมปลักกับความหลัง เหตุผลที่เจ้าชายต้องระเห็จหนีไปจีน


                    ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทั้งหมดนั้นคือกฎเก่าแก่ที่ไม่ว่าใครก็ห้ามฝ่าฝืน แม้กระทั่งอำนาจก็ไม่สามารถทำลายล้างกฎที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์อัปยศเหล่านั้นได้


                    “อย่าโหดสิ! รู้แล้วท่องแล้วก็ได้เชอะ -^-!”ลู่หานเบ้ปากคว้าหนังสือตรงหน้าเปิดกางออก นัยน์ตาเรียวกวาดมองอ่านแต่ละบรรทัดอย่างตั้งใจ

                                    7 กฎหลักของการเป็นดัชเชส

                            บุคคลนั้นต้องมีร่างกายที่บริษุทธิ์ ไม่เคยผ่านมือผู้ใดมาก่อน

                            บุคคลนั้นต้องเคารพกฎเฮเลเนี่ยนเก่าแก่อย่างเคร่งครัด

                            บุคคลนั้นต้องรัก ซื่อสัตย์ และมอบหัวใจให้เพียงแค่ดยุคเท่านั้น

                            บุคคลนั้นต้องถูกยอมรับโดยดยุคและคณะกรรมรักษากฎการเฮเลเนี่ยน    

                            บุคคลนั้นต้องพร้อมที่จะยืนเคียงข้างกายดยุค ไม่ว่าจะผ่านอุปสรรคใดก็ตาม

    บุคคลนั้นห้ามพูดปดโดยเด็ดขาด

                            บุคคลนั้นต้องมีร่างกายที่แข็งแรง

                “มึง

                    แบคฮยอนปรายสายมองอีกคนเชิงให้พูดต่อ

                    “กูไม่ผ่านกฎหลักอยู่ข้อหนึ่งวะ

                    “จริงหรอ!!!” แบคฮยอนผุดลุกขึ้นจ้องหน้าลู่หานอย่างกังวล

                    “คือกะกูไม่บริสุทธิ์ กูเพิ่งดะโดนคุณเนื้อคู่อึ๊บไปอะ (.///////.) ”

                    นี่ไม่อยากจะบอกใครเลยว่าไม่บริษุทธิ์แล้ว แต่พอดีไม่เคยอายใครไง เกิดมาก็ถกกางเกงเปิดโจะโมะโชว์เด็กข้างบ้านแล้ว (._.)

    แบคฮยอนหย่อนสะโพกนั่งลงที่เดิมมองลู่หานที่จู่ๆก็หน้าแดงอย่างนึกปลงตก ให้ตายเถอะ ท่านดยุคคิดผิดคิดถูกที่เอาไอ้นี่มาเป็นดัชเชส ถ้าลู่หานเป็นดัชเชสหน้าที่ดูแลมันคงตกมาที่เขาอย่างไม่ต้องสงสัยแน่ๆ โอ้ยอีแบคกลุ้ม TAT

    ลู่หานยังคงกวาดสายตาอ่านทุกบรรทัดและทำความเข้าใจอย่างละเอียดถี่ถ้วนไม่ให้ขาดตกบกพร่อง หากเป็นอ่านหนังสือเรียนป่านนี้สาบานได้เลยว่าคงนอนฟุบหลับคาหนังสือไปแล้ว แต่เพราะลู่หานเฝ้าคิดว่านี่คือการทำเพื่อเซฮุนเพียงเท่านั้นก็มีกำลังใจและฮึดสู้ต่อไป

    “แบคฮยอน” เสียงใสเอ่ยถามอีกคน “คนที่มีอำนาจรองลงมาคือเจ้าชายอย่างนั้นหรอ?”

    “ใช่ ดยุคคือทายาทอันดับหนึ่งของเฮเลเนี่ยนกรุ๊ปเพราะฉะนั้นย่อมมีอำนาจมากที่สุดเป็นธรรมดา ส่วนรองลงมาก็คือเจ้าชาย และคนที่เป็นเจ้าชายได้ต้องมีศัพดิ์เป็นญาติดยุคเท่านั้น” แบคฮยอนหยุดพูดเพียงอึดใจก่อนเอ่ยต่อ “แต่นั่นมันก็กฎสมัยก่อน เพราะในสมัยนี้เจ้าชายแทบไม่มีอำนาจหลงเหลืออยู่มีเพียงแค่ยศนำหน้าชื่อบ่งบอกถึงสายเชื้อเจ้าเท่านั้น”

    “ถ้างั้นเจ้าชายก็เป็นเหมือนกับนักเรียนธรรมดางั้นหรอ? ที่ไม่มีอำนาจอะไรเลย”

    “จะบอกว่าไม่มีอำนาจเลยก็คงไม่ถูก ต้องบอกว่ามีอำนาจแต่ไม่สามารถตัดสินใจได้ ถึงยังไงเด็กที่นี่ก็ยังเคารพเจ้าชายเช่นเดียวกับดยุคเหมือนกัน”

    แบคฮยอนมองลู่หานที่นั่งเหม่อลอยราวกับคิดอะไรบางอย่าง จึงอดไม่ได้ที่จะถามสิ่งที่คาใจ “มึงกับเจ้าชายคริสเคยคบกันหรอ”

    “มึงรู้ได้ไง?” เสียงเรียบเอ่ยออกมาไม่มีอาการตกใจอะไร

    “ชานยอลเล่าให้ฟัง หวังว่าคงไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรตามมาหรอกนะ กูเชื่อใจมึง”

    ลู่หานอมยิ้มกับคำพูดแบคฮยอนก่อนเอ่ยตอบ

    “แน่น๊อน ก็กูฟองดูกับคุณเนื้อคู่แล้วนิ ถ้าฟันแล้วทิ้งกูไม่ยอมหรอก!!!!!!!!

    “เออ! แต่ดูท่าทางเหมือนเจ้าชายเขายังมีใจให้มึงอยู่เลย มีผู้ชายสองคนมารุมล้อมนี่เสน่ห์แรงนะมึง”

    “อีห่า มึงถามกูสิว่ากูเครียดไหม กูก็ไม่ได้อยากให้ความหน้าตาดีของกูมาทำให้พี่น้องทะเลาะกันหรอกนะ มันไม่ใช่วิถีที่นางฟ้าแบบกูควรทำ เข้าใจปะ?”

    ถ้ารู้ว่าการเกิดมาหน้าตาดีแล้วจะเป็นภาระคนอื่นกูจะไม่เลือกเกิดมาเลยจริงๆ อย่าแย่งลู่หานเลยนะ ลู่หานมีหัวใจแค่ดวงเดียว ฮรึก #ซับน้ำตาที่หางตา (T////////////T)

    “หยุดมโน!!! ท่องหนังสือไปไม่งั้นคืนนี้ไม่ต้องนอน!!!!!!

    ลู่หานเบ้ปากอีกครั้งมองแบคฮยอนที่ดุเขาพลางเปิดหนังสืออ่านต่อ หากทว่าก็มีเสียงที่สามขัดขึ้น

    “ขอโทษนะครับคุณลู่หาน” เจ้าของชื่อหันไปด้านหลังก็พบกับชานยอลที่ยืนโค้งหัวลงราวกับคำนับ

    อุต๊ะ! นี่ยังไม่ทันได้เป็นดัชเชสเลยนะ ไม่ต้องมาคงมาโค้งหัวหร๊อกกกก (T////////////T)

    “แบคฮยอน ท่านดยุคถามว่ายื่นเอกสารประชุมส่งให้คณะกรรมการหรือยัง”

    ชานยอลยืดตัวขึ้นพลางถามแบคฮยอนที่นั่งเบิกตาโพลงราวกับระลึกได้ว่าลืมทำสิ่งที่สำคัญไป

    “เห้ยลืมสนิทเลย!!!! ไอ้ลู่อยู่คนเดียวไปก่อนนะเดี๋ยวกูมาอ่านไปละอย่าอู้!!!!

    ลู่หานนั่งกระพริบตาปริบๆมองตามแบคฮยอนและชานยอลที่ก้าวออกไปก่อนจะหันกลับมาสนใจหนังสือตรงหน้าอีกครั้ง กฎการเป็นดัชเชสจ๋าทำไมจำยากจำเย็นแบบนี้ละ !!!!!!

    แต่กูต้องไฟท์เพื่อคุณเนื้อคู่ ฮรึก T______T #วิ่งไปร้องไห้มุมห้อง

     

     

    เขตตะวันตก

                    ฝ่ามือหนาเอื้อมดึงดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าจากแจกันขึ้นมาถือไว้ในมือ นัยน์ตาคมจ้องมองความงามของบุปผาพลางหมุนก้านไปมาอย่างช้าๆ ราวกับเหม่อลอย  ความหมายแอบแฝงของดอกไม้ที่แสนเศร้าซึ่งต่างจากความวิไลของมันอย่างสิ้นเชิง

                ได้โปรดเห็นใจความรักของฉันบ้าง

                เรื่องราวของดอกไฮเดรนเยียที่เซฮุนเคยมอบแด่ใครคนหนึ่งในการตัดพ้อความรัก ใครคนหนึ่งที่เคยมอบหัวใจให้ทั้งดวงทว่าอีกฝ่ายกลับไม่สนใจใยดีและเหยียบย้ำจนมันด้านชา

                    ฟึบ

                    ดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าสง่านอนแน่นิ่งในถังขยะเมื่อถูกโยนโดยร่างสูงโปร่งของเซฮุน กายแกร่งหมุนตัวก้มลงหยิบกลุ่มดอกเดซี่สีแดงสดขึ้นมา ใบหน้าคมฉีกรอยยิ้มกว้างนัยน์ตาเรียวจดจ้องช่อดอกเดซี่สีแดงด้วยแววตาเป็นประกายก่อนเสียบก้านลงในแจกันใบโปรดแทนที่ช่อเก่าที่หายไปนอนแน่นิ่งในถังขยะ

    ดอกเดซี่สีแดงกับความหมายที่พาให้หัวใจดวงแกร่งต้องสั่นไหว

                ผมตกหลุมรักคุณโดยไม่รู้ตัว

     
     

                    ฝีเท้าหนาก้าวเดินไปตามทางตรงเข้าสู่หอสมุด นัยน์ตาคมกวาดมองทั่วพื้นที่ก่อนหยุดอยู่บริเวณมุมห้องเมื่อเห็นคนตัวเล็กที่กำลังตามหานั่งสับปงกศรีษะจนหวั่นว่าใบหน้าสวยจะดิ่งลงโต๊ะอยู่รอมร่อ

                    เซฮุนหย่อนสะโพกนั่งข้างกายลู่หานที่ยังคงนั่งสับปงกอยู่ท่าเดิม มือหนาจับศรีษะเล็กที่กำลังดิ่งลงสู่โต๊ะเอนซบลาดไหล่กำยำของตัวเอง ใบหน้าคมผุดรอยยิ้มเมื่อกายเล็กเบียดซุกเข้าหาคลับคล้ายแมวน้อยขี้อ้อนก่อนฝ่ามือหนาจะดึงหนังสือที่กางอยู่ปิดลงจัดเรียงไว้มุมโต๊ะ

                    เซฮุนเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าต้องไปเสียแล้ว ฝ่ามือหนาค่อยๆชอนไชหัวเล็กยกขึ้นวางลงที่โต๊ะโดยใช้หนังสือรองแทนหมอนอย่างเบามือ นึกอยากอยู่กับลู่หานให้นานกว่านี้ทว่างานที่คั่งค้างก็ทอดทิ้งไม่ได้เช่นกัน

                    ผลึกตาสีเฮเซลจ้องดวงหน้าสวยหวานของลู่หานด้วยหัวใจที่พองโตจนอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลงจรดริมฝีปากทาบทับกลีบปากบางอย่างแผ่วเบาแช่นิ่งค้างเพียงอึดใจแล้วผละออก ใบหน้าคมอมยิ้มยีเรือนผมคาราเมลมอบความอ่อนโยนส่งท้ายก่อนหมุนตัวจากมา

                    และเพียงไม่นานเปลือกตาบางก็ปรือขึ้นอย่างช้าๆ ปากเล็กหาววอดอย่างสะลึมสะลือชูแขนขึ้นบิดขี้เกียจไปมา

                    “นี่เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

                    กำปั้นเล็กยกขึ้นขยี้ตาตัวเองก่อนจะรู้สึกฉงนเมื่อกองหนังสือตรงหน้าถูกจัดวางไว้เป็นระเบียบที่มุมโต๊ะ

                    “ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าวางสุมๆไว้ข้างหน้านิน่า

                    หากแต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ตกเสียทีจนเลิกสงสัย เปิดกางหนังสือต่อเพื่อท่องกฎการเป็นดัชเชสต่อไป และในขณะนั้นเองริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มเม้มเข้าหากันเมื่อรู้สึกถึงไออุ่นร้อนบริเวณกลีบปากบางจนอดไม่ได้ที่จะยกฝ่ามือขึ้นแตะสัมผัสบางเบา

                    “ทำไมความฝันเมื่อครู่นี้ถึงได้คล้ายว่าเกิดขึ้นจริง



                “ฝันที่ว่าถูกจูบ”












     

                สายลมพัดผ่านผิวหน้าทว่าชายหนุ่มร่างสูงโปร่งของคริสก็ยังยืนอยู่ที่เดิม นัยน์ตาคมสาวตรงไปยังสวนดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าหวานสวยสะดุดตา พื้นที่กว้างขวางหลายร้อยตารางเมตรถูกเนรมิตให้กลายเป็นสถานที่ต้องห้ามที่มีเพียงแค่บุคคลใกล้ชิดดยุคเท่านั้นที่สามารถย่างกายเข้ามาได้

                    ถึงแม้ดอกไม้จะสวยงามน่าแตะต้องมากเพียงใดทว่าก็ไม่สามารถดึงดูดใบหน้าคมให้แต่งแต้มรอยยิ้มได้แม้แต่น้อย คริสเพ่งพิจารณาสวนดอกไฮเดรนเยียตรงหน้าราวกับเป็นเพชรเม็ดงาม สวนดอกไม้ที่ไม่ต้องคาดเดาก็หยั่งรู้ได้ทันทีว่าถูกดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี และนั่นก็ยิ่งจุดประกายความคิดให้ชายหนุ่มแน่ใจมากขึ้น

                    โอเซฮุนยังไม่เคยลืมเลือนรักแรกเลยแม้แต่วินาทีเดียว

                    “ฮึ น่าขำชะมัด”

                    เสียงห้าวใหญ่หลุดหัวเราะกับตัวเอง ไม่รู้ว่าป่านนี้เจ้าของสวนดอกไม้ที่แท้จริงจะรู้ตัวบ้างหรือยังว่ามีคนเฝ้าคิดถึงขนาดปลูกดอกไม้ให้ทั้งสวนเช่นนี้

    ความรักสามารถเสกสรรคนฉลาดให้กลายเป็นคนโง่ได้

                    คริสเพิ่งได้ตระหนักถึงมันก็ในวันนี้

     
     

                    ยามท้องฟ้าผันเปลี่ยนเป็นสีมืดครึ้มเท้าหนาของคริสก้าวเดินตามทางยาวอย่างไร้จุดหมาย เขาไม่รู้แม้กระทั่งหนทางของปลายเท้าจะหยุดลง ณ ที่ใด คริสกวาดสายตามองรอบโรงเรียนตลอดทางเดินซึ่งไม่มีส่วนใดเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย

    หากจะเปลี่ยนก็คงมีแค่จิตใจ

                    เท้าหนาที่กำลังก้าวเดินหยุดชะงักเมื่อเหลือบไปเห็นร่างเล็กคุ้นตากำลังเดินตรงมาทางนี้

                    “ลู่หาน”เสียงห้าวใหญ่ร้องเรียกร่างเล็กที่กำลังก้มหน้าเดินหอบหนังสือจ้ำอ้าวตรงมา ลู่หานสะดุ้งกับเสียงเรียกหากทว่าเมื่อเห็นใบหน้าเจ้าของเสียงก็หมุนตัวหมายจะเดินหนีไปทันที

                    หมับ

                    “จะไปทางนี้ไม่ใช่หรอ” คริสคว้าข้อมือเล็กไว้ก่อนเอ่ยถาม ลู่หานหมุนตัวกลับมาตีสีหน้านิ่งเฉยไม่ตอบอีกฝ่าย สะบัดมือออกก้าวเท้าหมายจะเลี้ยวเดินหนี หากแต่คริสก็จับข้อมือรั้งไว้อีกครั้ง

                สัมผัสที่แสนคิดถึง

                    “นายเป็นดัชเชสงั้นหรอ”

                    “อืม”

                    บทสนทนาเรียบง่ายแต่กลับสร้างความอึดอัดแผ่ไปรอบด้านได้อย่างน่าประหลาด กายโปร่งสั่นไหวเล็กน้อยเพียงเพราะน้ำเสียงเย็นชาของคนที่รักสุดหัวใจ ถึงแม้จะทำใจกับเรื่องนี้มาบ้างแล้ว ทว่าพอสัมผัสจริงๆก็ไม่ชินชาเสียที

                อาจเป็นเพราะเสียงนี้คือน้ำเสียงของคนที่ยังตราตึงในหัวใจ

                    “รู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นพี่ชายของมัน”

                    ลู่หานเหลือบสายตาขึ้นมองอีกคนด้วยท่าทีสงสัย ทว่าแววตานั้นก็ยังอยู่ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่ง

                    “ลู่หานฟังฉันนะเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความจริง ฉันไม่ได้ทำเจ

                    “พอสักที!!!!!!! หยุดโกหกกันได้แล้ว!!!!!!!!!!! ข้อมือเล็กสะบัดออกจากการกอบกุมของคริส ดวงตาเรียวจ้องเขม็งอีกฝ่ายอย่างขึงโกรธ ราวกับมีคนมาสะกิดแผลเป็นให้พุพองอีกครั้ง แผลเป็นที่กำลังหายดีกลับถูกทำร้ายใหม่อีกครั้งให้หยั่งรากลึกว่าเดิม

                หัวใจดวงนี้จะแกล้งอวดเก่งไปได้อีกนานแค่ไหน

                    “ไม่! นายต้องฟัง!!!!!!” คริสยึดไหล่เล็กทั้งสองข้างของลู่หาน นัยน์ตาคมที่ประกายแววอบอุ่นทุกครั้งจ้องลึกเข้าไปในผลึกตาสีน้ำตาลเข้มเพื่อเผยปณิธาณอันแน่วแน่ของตัวเอง

                    หากเป็นเมื่อก่อนลู่หานคงได้ละลายไปกับสายตาคู่นี้เป็นแน่

                    “ฉันบอกว่าให้พอไง!!!!!!!! หยุดได้แล้ว!!! ฉันไม่อยากฟังค


              “ผลดีเอ็นเอบอกว่าลูกในท้องเจียไม่ใช่ลูกฉัน!!!!!!!!!


              ความจริงที่หลุดออกมาจากปากคริสทำให้กายบางแข็งทื่อ แววตาสวยพัดกระหน่ำความสั่นไหวรุนแรง ลมหายใจที่ผ่อนออกหยุดชะงักกะทันหันคลับคล้ายโดนดูดดึงวิญญาณ นัยน์ตาเรียวเงยสบผลึกตาสีน้ำผึ้งเพื่อค้นหาความจริง และก็พบว่าแววตาคู่นั้นแน่วแน่เสียใจหัวใจดวงเล็กกระตุก

                    “นะนายว่าอะไรนะ” เสียงสั่นเทาเอ่ยถามออกมาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

                    “ฉันแอบไปตวรจดีเอ็นเอมาไม่ให้ฝ่ายนั้นรู้ และผลก็ออกมาว่าลูกในท้องเจียไม่ใช่ลูกฉัน เธอสารภาพกับฉันว่าไม่เคยมีอะไรกับฉัน แม่ของเจียบังคับฉันให้ดูแลเธอบังคับฉันให้เลิกกับนายไม่งั้นท่านจะฟ้องร้องฉัน ทีนี้เข้าใจฉันหรือยังลู่หาน”

                    กายเล็กสั่นเทิ้มกับเรื่องราวทั้งหมด ราวกับยืนอยู่ท่ามกลางความมืดมิดอันเวิ้งว้างที่ไม่สามารถพบหนทางแสงสว่าง ความทรงจำในอดีตไหลเวียนแทรกซึมเข้าสู่หัวใจ ทำไมถึงเกิดเรื่องราวเช่นนี้กับเขา ทำไมในตอนนั้นถึงร้องไห้แทบตายเสียใจฟูมฟายไม่ต่างจากคนบ้า ทำไมถึงเล่นตลกกับชีวิตของลู่หาน ทำไมถึงเกลียดผู้ชายคนนี้ฝังลึกสุดโคนทั้งๆที่ในตอนนั้นหัวใจกลับพร่ำบอกรักกันและกันทุกวัน

    พวกเขาสองคนผิดอะไรงั้นหรือ ทำไมเธอถึงได้ทำลายความรักของเขาทั้งคู่ได้อย่างเลือดเย็น

                    “ฉันจะเชื่อนายได้ยังไงคริส

                    ถึงแม้จะเอ่ยถามราวกับไม่เชื่อ หากทว่าลึกๆแล้วเอนเอียงเข้าไปหาคริสสนิทใจ คริสใจชื้นเมื่อเห็นลู่หานมีท่าทีโอนอ่อนต่อเขาอยู่มาก นึกดีใจที่ตัดสินใจถูกเล่าความจริงออกมาเพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้เขาพบแสงแห่งความหวัง

                    “ฉันไม่เคยเลิกรักนายแม้สักวินาที กลับกันยิ่งนายหายไปจากชีวิตฉันยิ่งรักมากขึ้น ฉันรู้สึกเจ็บปวดที่ต้องทำร้ายนาย แต่ฉันไม่มีทางเลือก ฉันเฝ้าโทษตัวเองทุกวัน ฉันขอโทษ

                    ลู่หานหูอื้อตาลายคล้ายถูกผลักลงจากผาสูงชัน ชั่ววินาทีที่คำสาบานต่อฟ้าดินพังทลายลง คำสาบานที่จะเกลียดแค้นชายคนนี้ตลอดชีพ กำแพงความเข้มแข็งล้มละลายลงเพียงเพราะถ้อยคำบอกรักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนของอีกฝ่ายที่เคยได้ยินก่อนนอนทุกคืนจนหยั่งรากลึก

    ทว่ากลับเป็นความรู้สึกที่มาพร้อมกับความทรมาน

                    “ฉันไม่เคยดีใจที่เห็นนายร้องไห้ ฉันอยากเดินเข้าไปกอดนายแทบบ้าแล้วลูบหลังปลอบโยนบอกว่าไม่เป็นไรฉันอยู่ตรงนี้คนที่รักนายจะยืนอยู่เคียงข้างนายเสมอ แต่ฉันก็ไม่สามารถทำได้ฉันเหมือนคนบ้าที่เห็นนายร้องไห้แล้วอยากชกหน้าตัวเองแรงๆที่ทำอะไรไม่ได้ ฉันนั่งร้องไห้กับตัวเองทุกคืนแทนการนอนบอกรักนาย ฉันเหมือนกำลังจะตาย”

                    คลื่นความรวดร้าวในหัวใจแปรเปลี่ยนเป็นความสั่นไหวขั้นวิกฤต หัวใจที่เคยสัตย์สาบานว่าจะไม่วกกลับไปหาชายคนนี้อีกกลับค่อยๆเร่งจังหวะขึ้น ระลึกย้อนวกถึงช่วงเวลาเหล่านั้นว่าหากไม่มีเรื่องอัปยศเกิดขึ้น เขาและคริสจะเป็นอย่างไร เขาและคริสยังคงนั่งจับมือกันเล่นที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งหรือเปล่า เขาและคริสคงยังจูบกันด้วยความรักหรือไม่

                    และคำตอบก็คือใช่ เขาและคริสยังคงรักกันไม่มีผิดแน่

                    หากทว่า

                    “นายเจ็บและฉันก็เจ็บไม่น้อยที่ไม่สามารถปกป้องนายได้ กว่าฉันจะกลับมาหานายได้ นายก็หายไปจากฉัน ฉันวิ่งตามหานายไปทั่ว วิ่งเหมือนคนบ้าเพื่อตามหาคนรักของตัวเอง

                    อดีตก็คืออดีต อดีตไม่ใช่ปัจจุบัน อดีตคือช่วงเวลาแห่งความทรงจำ

                    และหัวใจที่เต้นแรงเรียกร้องชายตรงหน้าคือความคิดถึง แค่คิดถึงในรักครั้งเก่าที่เคยวาดด้วยสีสันสวยงาม แต่ถึงกระนั้นในเวลานี้ลู่หานกลับได้มอบหัวใจให้ใครอื่นไปเสียแล้ว หัวใจทั้งดวงที่ยกมอบให้ใครอีกคนจนไม่เหลือแม้กระทั่งเศษเสี้ยวที่จะรักใครได้อีก

                    หากจะเหลือ


                    “ลู่หาน


                    ก็คงเหลือแต่เพียงความทรงจำ



                   “เรากลับมาคบกันใหม่เถอะนะ”





                    แต่ทำไม


                 ผมถึงรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา...













     

    ( "ฉันวิ่งตามหานายไปทั่ว ฉันวิ่งเหมือนคนบ้าเพื่อตามหาคนรักของตัวเอง" - Said by Prince Kris ❤️ )


    แชพเตอร์ที่สิบ 100% #ฟองดูฮุนฮาน

     

    Fonduehunhan


    รีปริ้นท์ #ฮนครม รอบที่1 มาแล้วจ้า

    http://my.dek-d.com/gingggg/writer/viewlongc.php?id=1004693&chapter=30

    นที่สุดก็มาถึงตอนที่สิบ ตอนที่มีเลขสองหลัก ^^
    รู้สึกแบบว๊าว มาได้เกือบครึ่งทางแล้ว ต้องขอบคุณแฟนฟิคทุกคนที่ให้กำลังใจเราเสมอมานะคะ
    สำหรับคนที่ถามถึงการรวมเริ่ม คาดว่านะคาดว่าจะเปิดจองตอนต้นมิถุนา - ต้นสิงหา เปิดเป็นระยะเวลาสองเดือนเต็มเหมือนเดิม
    ส่วนเรื่องราคามันอยู่ที่จำนวนหน้าคะ ถ้าหน้าเยอะราคาก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วยเหมือนกัน แต่ไม่ถึงสี่ร้อยแน่นอน
    น่าจะอยู่ในคา350ขึ้นไป รู้สึกจะมีสามร้อยยี่สิบหน้าอัพคะ รวมตอนพิเศษแล้ว
    แต่อะไรก็เปลี่ยนแปลงได้เสมอแหละเนอะ เพราะขนาดแค่สิบตอนรวมอินโทรก็ล่อไปสองร้อยยี่สิบหน้าแล้ว เริ่มเครียดเบาๆ -_-
    อ่อ มีคนถามมาอีกว่ากี่เล่มจบ สองเล่มจบจ้า

    อีกสองอาทิตย์สอบไฟนอล...
    จะพยายามอัพให้ตรงเวลาเหมือนเดิมนะคะ ฮื้ออออ
    รอบนี้มาลงเร็วเพราะตามสัญญาที่เม้นท์ครบเก้าร้อยแล้ว!!!!!!!
    ตอนนี้ก็ไม่รู้จะพูดอะไรฮ์้อ คริสขอลู่หานคบแล้ว และเหมือนลู่หานก็หวั่นไหวด้วย
    ลู่หานคงประมาณแบบ เออเลิกกันทำไม ทั้งๆที่คริสไม่ได้ผิดอะไร ไม่มใครผิด ความเกลียดก็หายไปแล้วด้วย
    ที่ลู่หานเกลียดคริสก็เพราะคริสบอกเลิก และก็โดยเจียที่จะจับคริสอะ ข่่มขู่ไรประมาณนี้
    เดี๋ยวตอนหน้าเป็นสเปย้อนความเนอะ ย้อนคริสลู่ เดี๋ยวจะใส่ไปให้หมดเลยยยยยย
    ใกล้วันเฮเลเนี่ยนแล้วน่า ^^
    เดี๋ยวเรามารอลุ้นกันว่าลู่หานจะตอบคริสไปว่าอะไร
    แต่อย่างว่าแหละน่า ถ่านไฟเก่ามันยังร้อนแรงงงงง
    แต่ถ้าเชื่อใจลู่หานก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เข้าใจปะถ่านไฟเก่ามันยังร้อนแรงงงง
    555555555555555555555555555555
    รออ่านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน อย่าลืมเม้นท์กำลังใจนะคะ <3


    สุดท้าย ขอพูดถึงแฟนฟิคทุกคน ^^
    จำหลายคนได้ว่าตามมาจาก ฮนครม ขอบคุณจากใจ
    ขอบคุณที่คอยเม้นท์ คอยโหวต คอย #ฟองดูฮุนฮาน
    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านถึงแม้เราจะไม่รู้จักกัน แต่ก็เป็นกำลังใจได้เสมอ
    รักคนอ่านเหมือนเดิมนะคะ เข้ามาคุยกันได้เสมอน่า ันดีค่า จุ้บๆ <3

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×