ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Secret handsome

    ลำดับตอนที่ #38 : พลิกบทละคร(2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 470
      3
      19 ก.ค. 58



    'ปัง! ปัง! ปัง!!' กระสุนสามนัดสุดท้ายจากปืนBeretta 92 fs. สีเงินในมือนักธุรกิจหนุ่ม ฝังลงบนศีรษะชายสวมสูทเนื้อดีห้าคนอย่างแม่นยำ เลือดและไขสมองไหลนองพื้นสีขาวสะอาด กลิ่นคาวคละคลุ้งชวนสะอิดสะเอียน ร่างเล็กถูกดึงออกมาหนีภาพที่สบยดสยองนั่น กัมปนาทดังสนั่นขึ้นหลายนัดขณะเดียวกับที่เธอวิ่งออกมาอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง 
     
    "ตามล่ามัน!!!" เสียงหวานตะเบ็งจากในร้านพร้อมโทรศัพท์สั่งงานลูกน้องตน
     
    "ยิงมันทันที อย่าให้รอดไปได้!" อลิเซียหัวเสียอย่างหนักเมื่อแพทริกใช้จังหวะที่เขากอดยูมิแอบหยิบปืนในสูทออกมาและกระหน่ำยิงจนเธอไม่ทันตั้งตัวและหนีออกไป ดีที่เธอมีคนเป็นโล่กำบังอยู่
     
    น้ำข้นสีแดงสดค่อยๆไหลจนจวนจะถึงรองเท้าหนังสีดำ เธอก้าวเท้าหนีอย่างไม่ใส่ ครั้งนี้เธอจะแพ้ไม่ได้ หากเธอแพ้ ชีวิตเธอจะจบ เธอจะกลายเป็นผู้ศิโรราบ พ่อของเธอจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ความพยายามที่เธอทำเพื่อผู้เป็นพ่อจะสูญเปล่า เธอต้องชนะเท่านั้น!
     
    / 'ปัง ปัง!' เสียงกัมปนาทดังไล่หลังมาเรื่อยๆ ขาเธอเริ่มล้าจากการวิ่งมานานกว่าสิบนาทีโดยไม่พัก กล้ามเนื้อเหมือนจะฉีกขาดเอาให้ได้ ในขณะที่คนตัวโตวิ่งอย่างสุดชีวิตจนเหมือนลากเธอ ผู้คนในเมืองใหญ่ลอบมองเป็นระยะและวิ่งหนีเมื่อเขาวิ่งผ่าน เนื่องจากเป็นช่วงเย็น เลยไม่ค่อยมีใครมาเผ่นผ่านแถวนี้ ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ไม่ต้องมีใครมาโดนลูกหลง 
     
    "จับมันให้ได้!" ชายชาวยุโรปสั่งคนอื่นๆที่วิ่งตามมาติดๆขณะที่ตนก็วิ่งเต็มกำลัง หากเขาทำงานพลาด ไม่ใช่แค่เขาที่ต้องตาย แต่รวมถึงครอบครัวเขาด้วย ทุกคนนั้นล้วนมีคนที่รักและห่วงใยอยู่เบื้องหลังรออยู่เสมอ..
     
    'ปัง!' 
     
    "อั่ก!" ร่างสูงแทบล้มลงหากก็ยึดคนตัวเล็กไว้ กระสุนเจาะลงบนเชิงกรานด้านขวาของแพทริก เสื้อสีขาวเริ่มมีเลือดซึมออกมาเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ เขาฝืนกัดฟันวิ่งให้เร็วที่สุดต่อไป ความปวดแปลบคล้ายจะหักกระดูกเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
     
    "นาย...โดนยิงนี่!" ยูมิใช้แขนแกร่งข้างหนึ่งพาดคอตัวเองไว้ มือซ้ายกำข้อมือใหญ่ไว้แน่น
     
    "วิ่งต่อไป! อย่าหยุด!" เขาเตือนสติก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างจากกระเป๋าเสื้อ
     
    "โทมัส ส่งคนที่ไว้ใจได้ให้มากที่สุดมาตามพิกัดโทรศัพท์ฉันเดี๋ยวนี้ มีคนกำลังตามฆ่าฉัน!"
     
    (ได้ครับคุณแพทริก!) เสียงทุ้มกรอกใส่โทรศัพท์หรูสีดำก่อนเก็บมันลงกระเป๋าเสื้อกั๊กสีขาวด้านในเพราะสูทสีเข้มถูกถอดออกเพื่อความคล่องตัว แพทริกวิ่งไปเรื่อยๆและเลี้ยวเข้าตรอกแคบๆประมาณสามคนผ่านได้ระหว่างตึกเก่าๆที่มีกลิ่นอับชื้นและเสียงลอดผ่านเพียงน้อยนิด ทั้งสองคนวิ่งช้าลงจนกลายเป็นเดินเหยาะๆ ใบหน้าลูกครึ่งอเมริกัน-เอเชียมีเหงื่อผุดพรายเต็มหน้าผาก ผมสีน้ำตาลทองเปียกชุ่มและยุ่งเหยิง
     
    "นาย ไหวใช่ไหม" เธอถาม
     
    "ถาม..ตัวเอง..ก่อนเหอะ" น้ำเสียงทุ้มขาดกระท่อนกระแท่น มือข้างขวาที่กดแผลไว้ทั้งถือปืนมีเลือดเปรอะเปื้อนจนเต็มมือและหยดลงมาเป็นทางบนพื้นคอนกรีต
     
    เธอและเขาเดินวกวนจนแน่ใจว่าจะถ่วงเวลาให้คนของเขามาช่วยก่อนที่คนของอลิเซียจะหาเขาเจอ แพทริกนั่งลงพิงพนังเย็นชื้นพร้อมยูมิกาในช่องเล็กๆที่มีกองขยะบังอยู่ด้านหน้า ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเริ่มล้าเนื่องจากเขาเสียเลือดมากเกินไป และถ้าเขาหลับ เขาคงไม่ได้ตื่นอีกแน่!
     
    ยูมิบีบแขนเขาแน่นเพื่อกระตุ้นไม่ให้เขาหลับ เธอใช้มือนึงปัดผมยาวตัวเองให้ไปด้านหลังก่อนจะค่อยๆหายใจยาวๆเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจนเหมือนปอดจะทะลุออกมานอกร่างกาย
     
    "อดทนไว้นะแพทริก นายจะตายไม่ได้นะ!"
     
    "หนี..ไป" เสียงแผ่วเบาพยายามเปล่งออกมาจากลำคอ 
     
    "นายพูดเรื่องอะไร!" เธอโพล่งกลับ
     
    "เธอ..ไม่ใช่..เป้าหมาย..หลัก..หนี.ไป..เธอ.จะ..รอด..แต่.ถ้า..อยู่..ที่นี่..เราจะ..ตาย...กันหมด." ร่างกายปวดร้าวทรมาณจากบาดแผล สติสัมปชัญญะเริ่มขาดไปเป็นช่วง
     
    "ไม่!ฉันจะไม่ไปไหน จะไม่มีใครไปไหนทั้งนั้น เพราะเราจะต้องรอด จะต้องรอดไปด้วยกันเข้าใจไหม!!"
    ในดวงตาสีเข้มมีความมุ่งมั่นอยู่เต็มร้อย เขาเห็นแก่ตัวเสียจริง เขากลัวการที่ต้องเสียเธอ กลัวการที่ต้องอยู่โดยไม่มีเธอ กลัวว่าเธอต้องมาตายเพราะเขา
     
    "..."
     
    "นายอย่าหลับนะ เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยแล้ว" เสียงใสสั่นระริก เธอพยายามข่มความกลัวเอาไว้ เธออดทนไม่ให้น้ำตาไหล เพราะถ้าเป็นอย่างงั้น สติเธอจะขาดผึง ชายหนุ่มพยักหน้าช้าๆอย่างเหนื่อยอ่อน เลือดข้นยังไหลจากบาดแผลด้านขวา เสื้อสีขาวเปื้อนเป็นวงกว้าง ริมฝีปากชายหนุ่มซีดเซียวไม่มีสีเลือด
     
    "หาทุกซอกทุกมุม!" เสียงห้าวทุ้มดังสะท้อนในตรอกแคบพร้อมเสียงฝีเท้าปะทะกับพื้นคอนกรีตถี่ๆ บ่งบอกว่าเขากำลังวิ่ง เสียงนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนยูมิเผลอกลั้นหายใจไปช่วงหนึ่ง 
     
    "อ้ะ" อยู่ดีดีแขนของตนข้างตัวก็โอบไหล่เธอดึงเข้าหาแผงอกกว้าง มือหนาลูบไล้ผมสีเข้มที่ยุ่งเหยิงเบาๆราวสมบัติล้ำค่า เธอเป็นโลกอีกใบ โลกที่ต่างจากโลกของเขา  โลกที่เขาจะไม่มีทางหาเจออีก
     
    "พ่อแม่ฉัน..เพื่อนฉัน..พวกเขาจะเป็นยังไงบ้าง...." เสียงกระซิบเบาๆเปล่งออกมา 
     
    "พวกเขา...จะปลอดภัย ฉัน..มั่นใจว่า...คนของฉัน..จะคุ้มครอง...พวกเขา" เสียงทุ้มเริ่มเว้นช่วงยาวขึ้นตามเวลาที่เดินไปและเลือดที่ยังคงไหลไม่หยุด
     
    คนของเขางั้นหรือ คนของเขาจะไปทันที่คนของอลิเซียจะลงมืองั้นหรือ เขาแค่ปลอบใจเธอรึเปล่า และมั่นใจอะไรขนาดนั้น.
     
    "..." เธอไม่ซักไซ้ถามเมื่อเห็นอาการแพทริก เขาคงไม่พร้อมที่จะตอบสักเท่าไหร่
     
    "แล้วนายล่ะ" แต่ยังมีคำถามนึงที่เธอจำเป็นต้องถาม
     
    "?.." คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อย
     
    "นายจะไม่เป็นไรเหมือนกันใช่ไหม..." เธอช่วยกดแผลที่ซี่โครงขวา โชคดีที่เลือดเริ่มไหลช้าลงตามธรรมชาติของร่างกาย
     
    "ใช่...ฉันไม่เป็นไร กระสุน...แค่ฝัง..ซี่โครง..เชิงกรานขวา" 'แต่เลือดที่ไม่ยอมหยุดไหลทำให้เขาแย่อยู่เหมือนกันและถ้าความรู้สึกเขาไม่คลาดเคลื่อน กระดูกเขาน่าจะหักไปนิดนึงด้วย' แพทริกตอบไม่หมดเพื่อความสบายใจของหญิงสาว 
     
    'ปัง ปัง ปัง!' เสียงกระสุนดังก้องจนแสบแก้วหู ก่อนชายผิวขาวห้าคนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาพร้อมอาวุธในมือ
     
    "ไปเร็วครับ ผมจัดการพวกที่อยู่ตรงทางออกแล้ว" โทมัสพูดเป็นภาษาอังกฤษรัวเร็วพร้อมพยุงร่างเจ้านายตนขึ้น เมื่อได้ดูใกล้ๆจึงเห็นว่าเขาน่าจะเป็นชาวยุโรปหรือไม่ก็อเมริกัน ผมสีน้ำตาลกับไรเคราสีเดียวกันดูน่าเกรงขาม ดวงตาถูกบดบังด้วยแว่นสีดำ เช่นเดียวกับอีกสี่คน พวกเขาล้วนมีสีผิวและผมสีอ่อน
     
    "คุณ?" โทมัสหันมามองยูมิอย่างฉงนเมื่อไม่รู้ว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
     
    "เธอ...ช่วยฉันไว้..." เพียงประโยคเดียวจบ ชายสองคนก็ปรี่เข้ามาประกบหลังเพื้อคุ้มกันเธอทันที เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคงไม่ปรานีคนที่ไม่ได้มีประโยชน์กับเจ้านายตน
    ระหว่างทางเดิน ร่างไร้วิญญาณหลายร่างนอนแน่นิ่งจมกองเลือด กลิ่นคาวและเศษเลือดเศษเนื้อนั้นทำให้ยูมิต้องเบือนหน้าหนี พวกเขาก็เป็นคน คนที่มีครอบครัว มีคนที่รัก มีจิตใจ มีความรู้สึก เธอไม่โกรธหรือเกลียดพวกเขาแม้แต่นิดเดียว เธอสงสาร สงสารที่เขาต้องตายโดยไม่มีใครใส่ใจ แม้แต่ศพอาจจะไม่ถึงครอบครัวตัวเองด้วยซ้ำ อาจจะถูกเก็บเพื่อไม่ให้ความลับรั่วไหล
     
    ไม่นานทั้งหมดก็มาถึงรถยุโรปสีดำสนิททั้งห้าคันที่จอดรอพร้อมชายชุดดำนับสิบคน แพทริกถูกพยุงโดยชายรูปร่างใกล้เคียงกันเข้าไปในรถหกประตู เมื่อเธอก้าวเข้ามาภายใน หญิงสาวคล้ายนางพยาบาลสองคนนั่งอยู่ริมสองข้าง รถทรงยาวถูกจัดแต่งคล้ายรถพยาบาล อุปกรณ์หลายชนิดที่เธอรู้จักบ้างไม่ร้จักบ้าง แพทริกนอนลงบนเตียงผู้ป่วย ก่อนใบหน้าจะถูกครอบด้วยเครื่องช่วยหายใจ มีการวัดความดัน ห้ามเลือด เช็คชีพจร  ขาสองข้างถูกจัดให้งอและสูงขึ้นขึ้นเล็กน้อยเพื่อไม่ให้แผลตึงและให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้มากขึ้น
     
    "คุณแพทริกมีอาการช็อกเพราะเสียเลือดมาก!" พยายาลสาวพยายามจับหาชีพจรที่ข้อมือ คอ แต่มันเบาจนแทบไม่รู้สึกถึงการเต้น เธอหยิบกล่องอุปกรณ์อย่างคล่องแคล่วก่อนจะใช้เข็มเจาะลงบนแขนใหญ่ทั้งสองข้างและเชื่อมต่อสายน้ำเกลือสองถุงเพื่อทดแทนเลือด
     
    "ความดันต่ำ" 
     
    "หาชีพจรไม่เจอแล้ว"
     
    ทำไมหล่ะ ไหนบอกว่าเขาจะไม่เป็นอะไร แต่อาการทั้งหมดที่เธอได้ยินมันเหมือนคนกำลังจะตายเลยไม่ใช่เหรอ มือเปื้อนเลือดที่แห้งกรังเอื้อมไปกุมมือใหญ่ไว้ เธอรับรู้ได้ถึงความเย็นชื้น เปลือกตาเขาปิดสนิท 
     
    'อย่าไปจากฉัน ได้โปรด อย่าทิ้งฉันไว้แบบนี้' เสียงเรียกร้องอ้อนวอนในใจแปลเปลี่ยนเป็นน้ำตาที่เธอพยายามอดกลั้นไว้ แต่ตอนนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องอดทนแล้ว แม้มันจะช่วยให้เขาฟื้นขึ้นมาตรงนี้ไม่ได้ก็เถอะ
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×