ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] The 13 Prince ศึกชิงรักนิรันดร์ [BumYe HanKyu.Etc]

    ลำดับตอนที่ #2 : The 13 Prince...2 เดินทาง

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 54







    The 13 Prince…2 เดินทาง







    ย่ามใบขนาดย่อมภายในนั้นไม่ได้บรรจุเสื้อผ้าเอาไว้สักชิ้น แต่เอาไว้ใช้ใส่สมุนไพรป่าตามที่ผู้พบเห็นและให้ความสนใจต้องการ ด้วยเจตนาอย่างนี้ทำให้ผู้เต็มใจไปอย่างไปไม่ขัดขืน(หรอ)รีบเก็บข้าวเก็บของ เพื่อออกเดินทางในวันรุ่งขึ้น เพื่อฝึกวิชาให้กับองค์ชายตัวน้อยๆอย่างโจวคยูฮยอนไปในตัวด้วย

     

    หลังจากที่ทราบว่าผู้ที่ตนโยนออกไปนอกวังอย่างไม่ใยดีแถมทำร้ายร่างกายไปอีกด้วย คือองค์ชยรัชทายาทจากเมืองทางด้านเหนือของสวรรค์ ถึงกระนั้นเยซองที่ไม่เคยสนใจความเป็นไปของโลกเสียเท่าไร มีหรือจะสนใจใครที่ไหนก็ไม่อาจทราบได้หรือเพราะตัวเองไม่ขวักไขว่ที่จะรู้ก็ ไม่ทราบ

     

    มาต่อกันด้วยความซึ้งที่ไม่อาจจะลืมเลือนไปเมื่อสวรรค์นั้นลิขิตให้ทั้งคู่ เกิดมาเพื่อกันและกัน พระบิดาและมารดาจึงจัดการเป็นธุระให้ทั้งสองสมรสกันเป็นหมั้นเป็นเหมาะมา ตั้งแต่แบเบาะโดรที่ไม่มีใครรู้ตัว หนึ่งคนยินดีและเต็มใจที่จะร่วมชีวิต อีกหนึ่งเบื่อโลกอย่างกับแบกมันไว้ทั้งใบแต่ก็ไม่ได้ออกปากปฏิเสธอะไรไป เพราะถึงอย่างไรก็ทำอย่างนั้นไม่ได้ ไม่เมืองไหนต่อเมืองไหนก็ต้องเสียหน้าก็เป็นได้

     

    ท่านพี่ท่าจะรีบเก็บไปใย เราออกเดินทางกันตั้งวันพรุ่งใบหน้าเจ้าเล่ห์โผล่พ้นออกจากใต้โต๊ะไม้เนื้อ ดีก่อนพูดเหมือนรู้จักกันมานานแสนนาน

     

    “...”เยซองยังคงนิ่งเงียบมือเล็กๆจัดการเก็บมีดพกอาวุธมีคมทุกชนิดที่สามารถจัดการกับอันตรายที่รายล้อมอยู่รอบตัวของตนได้

     

    ท่านพี่ทำอะไรอยู่หรอ ข้าจะมาบอกท่านด้วยว่าท่านพ่อกับท่านแม่ของข้ามาถึงแล้วนะ ท่านเป็นถึงว่าที่สะใภ้จะไม่ไปต้อนรับหน่อยรึยิ้นแป้นแล่นล้อเล่นคนแก้ม ป่องที่มาด้วยสายตาน่ากลัว แต่ก็ไม่กระทบระบบประสาทส่วนใดของคยูฮยอนเลยสักนิด ทั้งยังคิดอีกว่า ใครจะได้ชายาที่สง่างามเช่นข้าบ้างเนี่ย ในใต้หล้าคงหาได้ยากยิ่ง

     

    เจ้าออกไปซะ...อย่ามายุ่งกับข้าน้ำเสียงนิ่งๆทำเอาคยูฮยอนเกิดในแป้วขึ้นมาเสียอย่างนั้น จู่ๆเสียงสวรรค์น้อยๆก็โผล่มาอีกระรอก

     

    ท่านแม่เสร็จมาหาถึงที่นี่เลยหรอขอรับมุดออกจากใต้โต๊ะวิ่งร่าไปหามารดาพร้อม กอดที่เอวอวบอย่างสุดรัก ส่วนอีกคนก็ละมือจากการจัดอุปกรณ์จำเป็นอย่างเสียไม่ได้ พร้อมทำความเคารพโดยการก้มหัวให้พอเป็นพิธีกับรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์อย่างที่ เจ้าชายควรจะมีส่งไปให้แก่ราชินี ซึ่งนางก็ยิ้มตอบกลับด้วยความเอ็นดู

     

    ถวายบังคมข้าเยซองรัชทายาทอันดับ2

     

    อืม ข้ารู้แล้ว...รู้มาแต่เจ้าแบเบาะแล้วยิ้มอย่างเป็นมิตร ซุบซิบบางอย่างกับลูกชายแสนซนก่อนเจ้าตัวจะล่าถอยออกไป

     

    เชิญนั่งก่อนขอรับราชินีชิงจับมือเล็กแล้วจูงไปนั่งด้วยกัน เยซองก็ไม่ได้ขัดชืนอะไรเพราะไม่ชอบใช้กำลังอยู่แล้ว จะใช้ในเฉพาะเหตุจำเป็นเท่านั้น

     

    ที่มาที่นี่ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วย เจ้าจะช่วยได้หรือไม่กุมมือของเยซองแน่นอย่างมีความหวังนัยตาสีเข้าทอประกายอย่างอ้อนวอน

     

    เรื่องอันใดขอรับ

     

    ดีมากข้าขอบใจเจ้าที่ช่วยข้า เจ้าก็รู้จักกับลูกชายของข้าแล้ว แล้วก็คงจะไม่ชอบใจสักเท่าไรที่ลูกข้านั้นมีนิสัยอย่างนี้ หนำซ้ำเจ้าต้องรับภาระดูแลลูกชายข้าอีกในฐานะคู่ครองอันนี้เจ้าต้องรู้ดี แต่เรื่องนี้สำคัญเจ้าก็เห็นคยูฮยอนไม่ได้มีฝืมือในด้านการรบหรือด้านไหน เลย...เว้นระยะหายใจสักพักก่อนจะพูดต่อ

     

    เพราะลูกข้าเป็นโรคที่ไม่มีใครสามารถรักษาได้โหรบอกว่ารอเพียงเวลา แต่ข้ารอไม่ได้ข้ากลัวว่าคยูฮยอนจะจากเราไป แล้วไม่นานข้าก็ได้ข่าวว่าเซอิน(แม่เยซอง)ได้มีลูกที่ปราดเปรื่องเช่นเจ้า เพราะเจ้าสนใจทางพืชพรรณสมุนไพรดังนั้นช่วยคิดหาสูตรที่ช่วนรักษาลูกเข้าที่ ได้ไหมในเวลาแบบนี้เจ้าคือคนที่ข้าไว้ใจที่สุด...ได้หรือเปล่า

     

    แม้ไม่มีน้ำตาสักหยดมาให้เชยชมแต่หัวใจของคนเป็นมารดานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความ รักที่ยากจะหาที่ใดเปรียบ ทีนี้เยซองคงต้องคิดหนักเสียหน่อยมันไม่ใช่เรื่องยากที่จะรักษาเทพ แต่ไม่รู้เหตุที่แน่นอนของโรคแบบนี้มัน...

     

    แล้วที่มีของโรคหรือลักษณะของโรคจะเป็นอย่างไรขอรับ

     

    ไม่รู้สิข้าไม่รู้อะไรเลย ในหนึ่งวันคยูฮยอนนั้นไปมาหลายที่นัก เค้าหนีออกไปโดยพนักการจึงไม่รู้เหตุที่มา แต่อาการของโรคก็คล้ายๆโรคหอบ นอกนั้นข้าไม่รู้แล้วบีบมือเล็กแน่นเข้าไปอีกหวังว่าคนตรงหน้าจะยอมช่วย เหลือหรือไม่ก็ช่วยบรรเทาอาการลงไปบ้างเพื่อรอเวลาตามที่โหรบอก

     

    เยซองมองที่ใบหน้าอวบเหมือนอยากจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง อันที่จริงนั้นช่วยได้อยู่แล้วเพียงแต่ติดว่าข้อมูลที่ได้ไม่เพียงพอ ยังไงก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ตัวเขาเองก็เคยเพียงปรุงยาจากสมุนไพรและมันใช่ยาที่ดีนักแต่ก็เป็นที่ต้อง การไปทั่วทรราชกับแค่ปลูก รักษา ดูแลต้นสมุนไพรให้เจริญเติบโตด้วยไข่มุกชีวิต การช่วยชีวิตคงจะไม่ยากเท่าไรหรอกมั้งลอกสักครั้งในชีวิตเพื่อเป็น ประสบการณ์คงไม่เสียหาย

     

    ข้าจะพยายาม

     








     

     

    ขบวนม้าขนาดย่อยค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากปราสาทขนาดใหญ่จุดมุ่งหมายคือปราสาทกลาง ที่ที่เรียกประชุมการใหญ่เกี่ยวกับเรื่องดินแดน การสานสัมพันธ์กันระหว่างสวรรค์กับนรก

     

                    ขบวนม้ายังคงเคลื่อนตัวออกมาเรื่อยๆจนถึงป่าขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างจะไร้แสงสว่าง เพราะเป็นป่าทึบมีเพียงต้นไม้สูงๆปลกคลุมไปทั่วพื้นที่ แล้วเป็นการยากที่รถม้าจะสามารถเคลื่อนออกไปตามทางจึงต้องใช้ทางอ้อมซึ่งไกล พอสมควร

     

                    ไม่ต้องอ้อมหรอกที่เหลือเราจะเดินทางไปเองเยซองชะโงกศีรษะออกมาพูดทำเอาทหาร ที่ติดตามมาด้วยมองหน้ากันเลิกลั่น เพราะนอกจากจะกลัวว่าองค์ชายของพวกตนจะได้รับบาดเจ็บแล้วก็ยังกลัวโดนอาญา เมื่อกลับไปสู่วังหลวงในเวลาที่ผ่านไปไม่ถึงสองชั่วยามด้วยซ้ำ

     

                    แต่องค์ชายหน้าที่ของกระหม่อนคือคุ้มครององค์ชายเพื่อเดินทางไปสู่ปราสาทกลางนะ ขอรับ กระหม่อมมิอาจละจากหน้าที่ของพวกกระหม่อมได้ทหารนายหนึ่งทลบอก มีหรือที่อีกคนจะให้ความสนใจรีบออกมาจากรถม้าหลวงทันทีโดยมีคยูฮยอนตามมา ติดๆ

     

                    งั้นนำนี่ไป หวังว่าคงพอสำหรับพวกเจ้าทุกคนในการหาที่พักแรมกันสักวันสองวันแล้วค่อยกลับ สู่วังหลวงโยนถุงที่บรรจุแก้วมรกตนับสิบเม็ดไปให้ แก้วมรกตคือเงินตราที่เทพในสรวงสวรรค์ใช้ในการสัญจรซื้อขาย มูลค่าของแต่ล่ะเม็ดมีมากกว่าทองคำหนึ่งแท่งเสียอีก

     

                    เหล่าทหารก็ต้องหันหน้ากลับมามองกันอีกครั้งราวกลับจะปรึกษาถึงเรื่องนี้ไอ้ได้ รับเครื่องประทานเป็นแก้วมรกตก็ดีอยู่หรอก ถึงยังไงหน้าที่ก็คือหน้าที่ เป็นทหารรับใช้กษัตริย์ก็ต้องรับใช้ให้ถึงที่สุดนั่นคือความภาคภูมิใจสูงสุด ของพวกเขามื่อการปฏิบัติหน้าที่ต้องมาเป็นลำดับหนึ่งทำให้คนทั้งหมดเลี่ยง ที่จะรับแก้วมรกต

     

                    ข้าดูแลตัวขอข้าเองได้ตอนนี้เจ้าได้ส่งข้าถึงที่แล้วเชิญเจ้ากลับไปได้แล้ว

     

                    แต่...อ้อ ก ขอรับกระหม่อมทูลลาเหล่าทหารคลื่อนตัวออกไปอย่างช้า คยูฮยอนที่เงียบอยู่นานมองด้วยความสงสัยเหตุใดพวกทหารถึงได้เปลี่ยนใจง่าย ดายเช่นนี้ เมื่อมองไปที่เยซองก็พอกับคฑาสีขาวบนยอดประดับด้วยเพชรสีนวลที่ตอนนี้เปล่ง ประกายเรืองรองงดงามก่อนละอองเพชรจะหายไป

     

                    ท่านพี่ทำอะไรคนพวกนั้น?”ถามด้วยความสงสัย คยูฮยอนเองนั้นก็รู้สึกเบื่อหน่ายที่จะต้องนั่งรถม้าตลอดการเดินทาง แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่สำคัญเท่าทำไมต้องไปด้วยตนเอง?

     

                    นี่เป็นโอกาสดีนะคยูฮยอนที่ข้าและเจ้าจะได้ศึกษานอกสถานที่แบบนี้พูดอย่างมีความนัยไม่ได้สนใจอีกคนเลยสักนิด

     

                    ข้ารู้ว่าท่านชอบศึกษาแต่มันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย

     

                    ข้อแรก คือทำไมข้าต้องปกป้องเจ้าตลอดเวลา ข้าไม่จำเป็นต้องปกป้องเจ้าตลอดเวลาที่ข้าบอกว่าเป็นโอกาสดีเพราว่าทั้งข้า และเจ้าจะได้ฝึกตัวเองไปด้วย เพื่อประสบการณ์ ความรู้ในการรบทั้งเจ้าและข้าต้องออกรบด้วยกันทั้งคู่

     

                    ท่านแม่ไม่ยอมให้ข้ารบหรอกคยูฮยอนค้านขึ้น

     

                    เมื่อเจ้าโตขึ้นกว่านี้เจ้าจะรู้ว่าชีวิตจริงๆของเจ้าชายมันเป็นอย่างไร

     

                    ข้าจะใช่ชีวิตตามปกติของข้าตอบหน้าตายแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจเรื่องที่เยซองสอน

     

                    หาก จะกล่าวตามจริงแล้ว คยูฮยอนแทบจะไม่ต้องทำอะไรเมื่ออยู่ที่ปราสาทของตัวเอง วันๆก็เอาแต่เที่ยวเล่นไปทั่ว เรียกได้ว่าสร้างแต่ปัญหา พอถึงเวลาเรียนเข้าจริงๆจังๆก็ไม่เคยที่จะตั้งใจเรียนเหมือนคนอื่นเขาดีแต่ แกล้งทวยเทพไปวันๆ ส่วนใหญ่แล้วเรื่องที่สร้างล้วนเป็นเรื่องใหญ่โตทั้งนั้นตามจัดการตามแก้กัน แทบจะไม่ทัน

     

                    แต่ ชีวิตปกติของเจ้าคือชีวิตที่วุ่นวายของข้าตอนนี้เจ้าอยู่กับข้าช่วยสงบ เสงี่ยมด้วย หากเมื่อใดถึงปราสาทกลางเจ้าจะใช่ชีวิตยังไงนั่นก็อีกเรื่องมองหน้าผู้อ่อน เยาว์กว่าด้วยสายตาเย็นชา

     

                    ไม่ๆๆ พอถึงปราสาทกลางข้าจะปกป้องท่านพี่เอง ได้ข่าวว่าที่นั่นมีแต่บุรุษข้าไม่ยอมให้ท่านพี่เป็นอะไรหรอกพูดได้เต็มปาก เต็มคำแบบไม่ยั้งคิด อย่างนั้นเมื่อถึงปราสาทกลางคยูฮยอนจะดูแลแต่นี่อยู่ที่ใดก็ไม่รู้แสดงว่า ตอนนี้เยซองต้องดูแลคยูฮยอนว่าอย่างนั้นเถอะ

     

                    ท่านพี่คิดถูกแล้วใบหน้ากลมเงยมองอย่างสงสัยนี่คยูฮยอนรู้ความคิดของเค้าด้วยอย่างนั้นหรือ?

     

                    อื้ม ข้ารู้นี่อย่าบอกนะว่าตลอดมาท่านคิดว่าข้ายังเรียนไมจบเวทย์ขั้นที่ 3 น่ะคยูฮยอนรู้สึกหน้าตึงขึ้นมาในทันทีเมื่ออีกคนพยักหน้า เวทย์ขั้นที่สามเป็นที่แยกหวมดออกไปจากเวทย์พื้นฐานก็คือเวทย์การอ่านใจคน ไม่ใช่เรื่องยากที่จะฝึกเพียงแค่พลังจิตที่แน่วแน่และพลังแห่งการหยั่งรู้ เป็นส่วนผสมเข้าด้วยกันก็สามารถที่จะอ่านใจใครก็ได้ไม่เว้นแม้แต่ชาวนรกหรือ สัตว์ป่า

     

                    เจ้า รู้ไหมว่าข้าเชื่อว่าเจ้าจบเวทย์ขั้นที่ 3 แล้วแต่ขั้นที่ 1 และ 2 เจ้ายังไม่จบรู้ได้ยังไง? นี่คือความคิดของคยูฮยอนซึ่งเจ้าตัวไม่ได้รู้เลยว่าตนก็กำลังโดนอ่านใจอยู่ เช่นเดียวกันซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เยซองใช้พลังในการยับยั้งการอ่านใจ ของคยูฮยอน พอมารู้ตัวอีกทีร่างบางๆก็เดินตัวปลิวเข้าไปในป่าเสียแล้ว

     

                    ป่า แห่งนี้ไม่น่ากลัวนักหากเทียบกับป่าในดินแดนนรก ป่าแห่งนี้อยู่มายาวนานไม่แพ้เวลาการก่อเกิดสวรรค์และนรก ป่าแห่งนี้มีพลังมากกว่าที่ใครๆคิดเพราะป่าแห่งนี้มีสิ่งมีชีวิตและมีชีวิต ข้อนี้คือสิ่งที่ใครๆต่างก็รู้ดีแต่กับองค์ชายทั้งสองแล้วประสบการณ์ก็ยัง ไม่มาก จะใช้ชีวิตอยู่ในบรรทัดฐานที่จะล่วงไปในภายภาคหน้าอย่างไร

     

                    ข้า เริ่มจะเบื่อแล้วที่เจ้าพูดมาก ในเมื่อเจ้ายังเรียนไม่จบหลักสูตรพื้นฐานข้าจะสอนเจ้าไหนลอง....แล้ว อาจารย์จำเป็นก็ต้องตากตรำสอนลูกศิษย์ผู้มีสมองช้ายิ่งกว่าลาเสียอีก ==

     







     

          ชาวสวรรค์สติไม่เต็มแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าเนี่ย ==”ร่าง หนึ่งรำพันกับตัวเอง ใบหน้าคมรับได้รูปกับจมูกโด่งเป็นสรร ริมฝีปากบางเฉียบเผยอขึ้นเล็กน้อยทำให้ภาพนั้นน่ามองอย่างไม่ต้องสงสัย เขาค่อยๆร่อนลงจากต้นไม้สูงจรดลงสู่พื้นดินที่ปกคลุมไปด้วยหญ้าพุ่มเตี้ยๆ มองตามสองร่างที่เดินทำเลาะกันไปตลอดด้วยความนึกขันในความเด็กและด้อย ประสบการณ์

     

                    ท่าน พูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะองค์ชายชายหนุ่มผู้มีใบหน้าคมคายอีกคนเดินออกมาจาก หลังต้นไม้สูงอายุหลายพันปี ก่อนจะเดินมายืนเคียงคู่กับชายหนุ่มที่ตัวเล็กกว่าเขาเล็กน้อย

     

                    ข้านึกว่าท่านจะล่วงไปปราสาทกลางแล้วเสียอีกเดินสะบัดผ้าคลุมออไปในทันทีเพื่อเดินทางสู่จุดหมายปลายทาง

     

                ...ปราสาทกลาง...









     

    เเฮ่ๆในที่สุดก็แต่งจบตอนแล้วนะคะดีใจเพียงใดไม่มีใครรู้
    อ่านแล้วก็เม้นกันบ้างนะคะเม้นน่ะเม้น
    ปีใหม่แล้วคนที่ไม่ค่อยเม้นกลับตัวกลับใจซะนะคะ









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×