ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] The 13 Prince ศึกชิงรักนิรันดร์ [BumYe HanKyu.Etc]

    ลำดับตอนที่ #1 : The 13 Prince...1 ไข่มุกชีวิต/ข่าว

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 54


     



    The 13 Prince…1 ไข่มุกชีวิต/ข่าว

     

     

    เช้ง ควับ ฉับ ฉึก

     

    เสียงอาวุธกระทบกันอย่างดัง ใบหน้าของผู้ต่อสู้ทั้งสองถึงจะไม่ได้เหมือนกันแต่ทั้งคู่ก็เป็นพี่น้องที่ โตขึ้นมาด้วยกัน ต่างคน ต่างมารดร ทั้งคู่คือคนที่มาจากบิดาคนเดียวกัน

     

    สองร่างยังคงกระหน่ำฟาดฟันอาวุธมีคมใส่กันไม่หยุด เพียงวาดดาบผ่านไปเพียงนิดเลือดแดงฉานก็ไหลลงมาจากแขนของคนเป็นพี่ ก่อนร่างนั้นจะทรุดลงไปกองกับพื้นมือบางจับไปที่แขนด้านซ้ายที่มีเลือดไหล ซึมไม่หยุด แต่แล้วชายใบหน้าสวยอีกคนก็วิ่งเข้ามาด้วยความร้อนใจว่าคนผู้นี้จะเป็นอะไร มั้ย

     

    ประคองร่างที่บาดเจ็บก่อนมองไปที่หน้าผู้กระทำอย่างโกรธๆ

     

    แค่ซ้อมวิชากันทำไมท่านจึงต้องดูจริงจังนัก ท่านก็รู้ว่าท่านพี่ของท่านน่ะไม่อยากเอาจริงเอาจังกับท่านกลัวว่าท่านจะ เป็นอะไรไป แต่ดูที่ท่านทำกับเขาสิ...บ่นยืดยาวแต่มือบางของอีกคนยื่นมากันไว้ให้หยุด พูดเสียก่อน

     

    ไม่เป็นอะไรข้าบอกให้เขาทำได้เต็มที่เองนั่นแหละอย่าไปโทษเขาเลย วันนี้เจ้าเก่งมากนะเยซองมอง ด้วยสายตาชื่นชมเด็กคนนี้ต้องเป็นนักรบและเจ้าชายที่ดีได้แน่ๆ คนอย่างเรามันเข้าใจถึงหัวอกกันและกันดี ถูกทักนู่นท้วงนี่อยู่เป็นประจำ ไม่บ่อยนักที่จะถูกปล่อยให้ทำอะไรด้วยตัวเอง

     

    ข้าขออภัยที่ทำให้ท่านต้องเจ็บตัวองค์รัชทายาท ขอโทษท่านด้วยท่านพี่สะใภ้ที่ทำให้ท่านตกใจ ==”ก้มหัวนิดหน่อยก่อนจะเดินออก เกรง ว่าจะโดนลูกหลงจากพี่สะใภ้เข้าเสียก่อน หลังออกมาได้ไม่นานเสียงแว๊ดๆทั้งสองเสียงก็เริ่มต่อสู้กันทางริมฝีปาก ก่อนจะถูกกลืนกินด้วยบางสิ่งบางอย่างทำให้เสียงนั้นหายไปโดยสิ้นเชิง

     

     




     

     

    เยซองเดินออกมาด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับร่างบางก้าวเดินไปยังสวนสมุนไพรที่เจ้า ตัวปลูกไว้มากมาย ตาคมมองไปทั่วแดนสวรรค์ ดินแดนที่แม้แต่ชาวนรกก็ยังอยากอยู่ แต่มันก็ไม่ได้สุขสบายอย่างที่ใครๆคิดหรอกอยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน ตาคมหันกลับมามองทางที่ตนจะเดินจะเดินแล้วมุ่งหน้าไปยังสวนสนุนไพร

     

    มือเล็กผลักประตูอย่างเบามือดั่งกลัวว่าใครได้ยิน เปล่าเลยต้นไม่นั้นก็เป็นสิ่งที่มีชีวิต แม้ไม่สามารถเดินได้ด้วยตัวเอง ก็มีความสามารถมากพอที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้ เยซองผายมือขึ้นก่อนในมือจะเกิดรังสีประหลาด รังสีนั้นค่อยรวมตัวก่อนแล้วแจกกระจายออกแล้วกลับมารวมกันอีกเป็นอย่างนี้ไป อีกหลายครั้ง ผลสุดท้ายก้กลายเป็นไข่มุกสีขาวนวล ปากสวยกระตุกด้วยความยินดีนานๆครั้งมันจะออกมาไวอย่างนี้

     

    นั่นก็คือไข่มุกชีวิตมีมันแล้วไม่ว่าอะไรก็สามารถมอบชีวิตให้ได้ทั้งนั้น และทุกครั้งที่ผลิตมันได้เยซองก็จะนำมาทุบจนมันแตกออกเป็นผุยผง แล้วจริงนำมาโปรยในสวนของตน ทำให้สมุนไพรนั้นเจริญงอกงาม

     

    เรื่องนี้ถูกเก็บไว้เป็นความลับหากใครรู้ว่าใครที่สามารถผลิตไข่มุกชิวิตนี้ล่ะก็ ไม่ว่าจะมีสักกี่ร้อยทิศคงต้องแห่หันมาเพื่อขอไข่มุกนี้เป็นแน่ ถ้าหากถามว่าทำไมถึงต้องทำได้ก็คงจะบอกไม่ได้อีกเช่นเดียวกันรู้ไว้แค่ว่า มันเป็นเพียงเคล็คลับ

     

    พวกเจ้าทุกต้นโตไวกันจังนะ คิกๆหัวเราะอย่างมีความสุข รอยยิ้มที่หาได้ยากยิ่งแต่มันกลับเห็นบ่อยครั้งเมื่อเจ้าตัวต้องมาสัมผัสกับ พืชพรรณธรรมชาติโดยเฉพาะเจ้าสมุนไพรที่ตนคลั่งไคล้นี่ก็เช่นเดียวกัน หนึ่งในความภาคภูมิใจ หนึ่งเดียวในความรักด้วย

     

    องค์ชายเจ้าค่ะ องค์ราชาให้คามไปพบเจ้าค่ะสาวรับใช้เดินเข้ามาบอก รอยยิ้มที่เคยมีหายไปจากใบหน้ากลมทันที ร่างบางพยักหน้าเล็กน้อยไล่ให้หญิงสาวออกไปก่อน กลับมาดูแลต้นไม่อีกสักพักก่อนรีบทำความสะอาดตน แล้วรีบไปพบผู้เป็นบิดาทันที

     

     





     

     

    ท่านจะเอาจริงๆหรอ

     

    ใช่เพค่ะท่านพี่องค์ชายยังเด็กเกินไปหรือเปล่า

     

    พวกเจ้าทั้งคู่หยุดได้แล้ว ต่อให้กล่อมข้ายังไงข้าก็ตัดสินใจไปแล้ว กษิตริย์อย่างข้าตรัสแล้วไม่คืนคำเด็ดขาดชายมีอายุหรือผู้เป็นราชาของแดน สวรรค์โดยเฉพาะเอ่ย เพื่อหยุดราชินีและสนมของตนที่กำลังพยายามเกลี้ยกล่อมให้พระองค์ทรงล้มเลิก ความคิดที่จะส่งตัวองค์ชายเยซองหรือรัชทายาทอันดับ2 ไปเข้าร่วมกันเฉลิมสัมพันธไมตรีต่อแดนสวรรค์และนรก

     

    ถึงไม่เต็มใจนักที่จะต้องให้ลูกชายคนเล็กต้องไปฝ่าฟันอุปสรรคแต่ก็เห็นว่าเป็น ทางออกที่ดีที่สุด ลำพังถ้าส่งตัวองค์ชายแจจุงรัชทายาทอันดับ1 ไปอาจจะแย่ก็ได้ไม่ใช่กลัวว่าแจจุงจะเป็นอะไรแต่คนคนนี้เก่งแค่เรื่องการรบ แถมยังมีหลายๆอย่างให้ต้องดูแลได้แล้ว ในเมื่อตัวขององค์ราชาเองแรงกำลังก็ลดลงไปเสียทุกทีทำงานอะไรหนักๆไม่ค่อยจะ ไหว

     

    สิ่งมีชีวตมีเกิดก็ต้องมีดับสูญไปพวกเจ้าทั้งคู่ต้องเข้าใจ ตัวของเยซองเองก็เก่งไม่แพ้แจจุง แถมความรู้ยังมากกว่าแจจุงเป็นไหน ไหวพริบก็ดีเจ้ายังต้องหัวอะไรแค่นี้เอาทั้งสองพระองค์เงียบไป

     

    แต่นั่นลูกชายของหม่อมชั้นนะเพคะองค์ราชินีพูด ใช่เยซองคือลูกชายแท้ๆขององค์ราชินี แต่พระองค์ทรงครรภ์ยากจึงมีลูกช้ากว่าพระสนมไปเสียหลายปี จากความเห็นชอบแล้วราชินีก็ยินดีจะให้แจจุงนั้นขึ้นครองราชต่อแทนราชาได้ โดยให้ลูกของตนนั้นเป็นรัชทายาทอันดับ2 เพราะไม่อยากให้ลูกของตนต้องรับภาระที่มากเกินไป แต่ทำไมตอนนี้มันกลับดูย่ำแย่กว่าเดิมอย่างนี้

     

    ข้ารู้ แต่จะให้ข้าส่งแจจุงไปก็ไม่ได้เช่นกันองค์ราชินีทรงเริ่มร้องไห้อย่างหนัก เมื่อคิดว่าภายภาคหน้าลูกชายของตนต้องไปลำบากลำบน อยู่กับชาวแดนนรกจากที่ไหนก็ไม่สามารถทราบได้อย่างนี้หรือ


     

    ท่านพ่อมีอะไรกับข้า แล้วท่านแม่ท่านเป็นอะไรเยซองรีบเดินเข้าไปหาผู้เป็นแม่ทันที พร้อมกับโอบกอดเบาๆซึ่งก็ถูกกอดกลับอย่างแรงราวกับคนตรงหน้าจะหลุดหายไป พร้อมเสียงร้องไห้ฮือดังออกมาไม่ขาด ร่างเล็กได้แต่มองด้วยความงงงวยอยากรู้สาเหตุใจจะขาดแต่ก็ไม่อาจถามได้

     

    แม่ของเจ้าแค่ร้องไห้ที่เจ้าต้องไปทำกิจที่ต่างเมืองน่ะยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก ตาคมหันมามองพระสนมเพื่อหาทางช่วยพูดให้เขาเข้าใจ

     

    คือ...องค์ชายต้องถูกส่งตัวไปประกอบราชกิจที่ราชวังกลาง แต่องค์ราชานิท่านทรงไม่ยอมน่ะเพคะเมื่อบอกเสร็จใบหน้ากลมพยักหน้าเล็กน้อย เข้าใจดีว่าการประกอบกิจนี้อาจเป็นเรื่องใหญ่ก็ได้ แค่เคยจะเดินทางไปเพื่อร่วมงานเฉลิมฉลององค์ราชินีก็ทรงร้องไห้อย่างนี้เช่น กันจึงจำต้องยกเลิกการเดินทางเป็นส่งตัวราชทูตไปแทน

     

    ฮึก..ลูกของแม่ยังเด็กนัก...ฮ ฮึ เจ้าจะไปได้อย่างไรที่สำคัญแม่จะอยู่กับใครมือบางที่เริ่มหยาบกร้านจากการ ประกอบราชกิจหลายอย่างลูบใบหน้าลูกชายอย่างมีหวังว่าจะต้องปฏิเสธอย่างแน่ นอนกลอุบายนี้ถูกใช้มาหลายครั้งหลายคราแล้ว ใช่ว่าไม่รู้แต่เพราะขัดใจผู้เป็นแม่ไม่ได้

     

    ท่านพ่อมันสำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ ถ้าหากไม่โปรดท่านส่งคนอื่นไปเถิดร้องอ้อนวอนผู้ที่อยู่บนบัลลังก์ ผลที่ตอบกลับมาคือ...ไม่ หากเป็นอย่างนี้เรื่องนี้คงจะต้องสำคัญมากเป็นแน่

     

    เยซองก็แอบน้อยใจอยู่ลึกๆว่าทำไมผู้เป็นพ่อของตนไม่ค่อยจะมาดูดำดูดีอะไรตน บ้าง ไม่เหมือนท่านพี่แจจุงที่ได้รับความรักอย่างเต็มที่แต่เขาไม่ได้อะไรเลย

     

    งั้นข้าจะคุยกับท่านแม่เองโปรดท่านวางใจ ข้าจะไป!!!”ประกาศในน้ำเสียงที่ออกจะเกรี้ยวกราดนิดๆเพราะความเผลอตัวและน้อยใจ

     

    เยซอง!!!”ราชินี แทบจะทรุดลงไปเสียตรงนั้น ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะโดนลูกชายฏิเสธเลย ส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจน้ำตาเริ่มที่ไหลรินอีกครั้ง มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาให้ ส่งรอยยิ้มอ่อนโยนไปให้ราวกับจะบอกว่าไม่เป็นไร

     

    อย่าหัวไปเลยยังข้าก็ไม่ให้ลูกไปคนเดียวแน่ เจ้ายังจำคยูฮยอนได้ รึไม่ล่ะเมื่อราชาพูดขึ้นราชินีที่พร้อมจะรองรับความทุกข์ของลูกไว้เองก็ ต้องหันมามองด้วยความสนใจ บัดนี้บนหน้าสวยของหญิงมีอายุชักงุนงงพลางคิดไปถึงชื่อที่คุ้นแสนคุ้น ก่อนดวงตาจะเบิกกว้างขึ้นและมีรอยยิ้มในที่สุด

     

    ใครคือคยูฮยอนขอรับท่านแม่ถามองค์ราชินีด้วยความสนใจเช่นเดียวกัน นางหัวเราะด้วยความอารมณ์ดีไม่เศร้าเหมือนเมื่อสักครู่เลย

     

    ฮิฮิ แม่น่ะไม่อ้อมค้อมที่จะบอกหรอกนะ ถ้าลูกจำไม่จริงๆแม่จะบอกบัดนี้ ^^”นางพูดคุยอย่างสนุกปากจึงทนยืนเล่าไม่ไหวลากลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไปที่ห้องตนทันที

     

     






     

    หลังจากทราบว่าแท้จริงแล้วคยูฮยอนคือใครเยซองก็คิดอยากจะเปลี่ยนคำพูดตัวเองเสีย เดี๋ยวนั้น หากชีวิตโสดของตัวเองหายไปจะทำยังไงดี คนคนนั้นถึงจำไม่ได้ว่าเป็นใคร(ท่านแม่บอกว่าเจอกันตอนเป็นทารก ==)

     

    สวัสดีขอรับร่างบางยืนขึ้นทันทีที่นี่เป็นเขตหวงห้าม ห้ามผู้ใดนอกจากคนในราชวงศ์เข้ามา เด็กหนุ่มคนนี้กล้าเข้ามาได้อย่างไร?

     

    เจ้าเป็นใคร?”ถามเสียงเรียบ อีกคนยิ้มกริ่มอย่างหื่นๆมันช่างเป็นรอยยิ้มที่น่ามองหากนายหรือนางสวรรค์มา เห็นหรอกนะ แต่มันใช้ไม่ได้กับคนอย่างเยซองหรอก ร่างบางค่อยๆก้าวถอยหลังช้าๆใช้จังหวะที่มันผู้นั้นไม่ตามมาวิ่งหลบไปอีก ทางอย่างไม่ไว้ใจ อีกคนหัวเราะคิกคักกับท่าทางตื่นกลัวนั่นเสียไม่ได้ก่อนก้าวเท้าตามไปหมายจะ แกล้ง ก้าวไปเพียงไม่กี่ก้าวปลายของดาบขนาดพอดีก็มาจ่ออยู่ตรงลำคอระหงแล้วจิกลึก เข้าไป สายตาตื่นตัวเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

     

    หึหึ ท่านเก่งนี่ผิดกับข้าผู้ไม่มีวิชาใดใดยกมือค้างกลางอากาศให้รู้ว่าตนนั้น ไม่มีทางสู้ ดาบคมกริบถูกลดลงแล้วปักลงไปกับพื้นดินพลันธรณีนั้นก็สูบดาบนั่นกลับลงไปดัง เดิม(?)

     

    ว้าว ท่านทำอย่างนั้นได้ด้วยรึ โอ๊ะ นี่ นี่ท่านทำอะไนข้าเนี่ยร่างของชายหนุ่มลอยขึ้นสูงเหนือพื้นเจ้าตัวดิ้นขัด ขืน ออกแรงเท่าไรไอ้พลังที่หุ้มตัวของเขาไว้ก็ยิ่งรุนแรง จนเจ็บไปถึงกระดูกดำอยู่แล้ว ร่างที่ลอยคว้างค่อยๆเคลื่อนไปยังส่วนหน้าของปราสาท เมื่อถึงประตูบานใหญ่ก็ถูกโยนส่งออกไปด้านนอก

     

    ข้าจะทำเป็นไม่เห็นว่าเจ้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ในนี้ไปซะพูดแค่นั้นก่อนจะกลับเข้า ไปด้านใน ทำเอาคนที่ต้องล้มลุกคลุกคลานเปล่งเสียงเรียกไม่ทัน

     

    โอ้ย ทำไมชีวิตข้าต้องซวยตลอดด้วยนะ ไหนท่านแม่บอกว่าข้าจะเจอกับคนใจดี แต่ไหงดันเจอหญิงสาวผู้ใจร้ายโยนทิ้งเหมือนข้าเป็นสิ่งของด้วยนะ TT”โอดครวญอย่างหน้าสงสารเข้าไปด้านในก็ไม่ได้แล้วแล้วจะไปไหนดี สมแล้วที่ข้าได้ฉายาว่าคยูฮยอนเจ้าชายผู้ยากไร้ ==








         

     




    สวัสดีค่ะอันที่จริงเรื่องนี้ก็เปิดไว้สักพักนึงแล้ว

    เพิ่งจะได้ฤกษ์มาอัพเนี่ยแหละคะ

    แหะๆต้องขอโทษที่ช้าด้วยค่ะ แต่งสดมันไม่ใช่ง่ายๆเลยอ่ะ
    TT
    ถ้าผิดตรงไหนช่วยบอกไรเตอร์หน่อยนะคะ
    ^^
    ทั้งนี้คอมเม้นให้ไรเตอร์ด้วยก็ดีค่ะดีมากๆด้วย






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×