ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic reborn];;แย่ล่ะ เราหลุดมาในรีบอร์นได้ไง?!O_o

    ลำดับตอนที่ #24 : วันโลกาวินาศ 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 502
      6
      12 ส.ค. 59






    หากนี่เป็นความฝัน....ก็คงเป็นความฝันที่ประหลาดที่สุดที่เคยเจอมา


             ร่างบางของซาโยขยับกระชับผ้าห่มเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย  ในขณะที่คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันนิดๆเพราะได้ยินเสียงรบกวนบางอย่างแว่วมา ดังขึ้น ดังขึ้นจนกระทั่งเส้นความอดทนขาดดังผึ่ง

    "โว้ย โหวกเหวกโว้ยวายอะไรกันตั้งแต่เช้าวะ  อุ้บ"เจ้าของผมยาวสีเงินเปิดประตูออกไปดูพร้อมกับเสียงโว้ยวายประจำตัว  แต่แทนที่ตัวต้นเหตุจะสำนึกหรือบอกสาเหตุบ้างกลับรีบเอามือปิดปากเจ้าของห้องแล้วลากเจ้าของห้องกลับเข้ามาในห้องทันที

    "ชู่ววว  เงียบๆก่อน"โยรุในสภาพแต่งชายเรียบร้อยแล้วเอานิ้วแตะปากประกอบการพูด

    "ห๊ะ?"นั่นยิ่งทำให้ซาโยงงเข้าไปใหญ่ก่อนที่จะสะดุ้งเฮือกใจทิ้งดิ่งลงไปที่ตาตุ่มเมื่อเสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้นไม่ไกลนัก

    "คุคาบาระ เซย์อยู่ห้องไหน?"

    "O_o  ฮะฮิบาริ!?"ซาโยตวัดตากลับมามองเพื่อนที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับเหมือนกัน

    "อ่านในไลน์"

             คำตอบที่ได้มาทำให้ร่างบางรีบพุ่งตัวไปที่ฟูกนอนของตัวเอง  คว้าโทรศัพท์เครื่องสวยปลดล็อกแล้วเปิดดูข้อความต่างๆทันทีก่อนที่หน้าง่วงๆนั้นจะค่อยค่อยซีดลงตามลำดับเหตุการณ์

    00.00 น ; Akira : คู่บัดดี้ทั้งสองคู่กรุณามาโรงเรียนพร้อมกันด้วยนะจ๊ะ 555555555555

    02.17 น ; Hibari (add friend/Block) : ต้องเข้าเวรตรวจเด็กตอนเช้า  ตื่นหกโมง ไม่งั้นตาย

    "กรี๊ดดดดดดดด นี่มันบ้าอะไรกันนักหนาวะ T^T"ซาโยกรีดร้องแล้วเอามือทึ้งผมตัวเองอย่างเหลืออด

    "แกอย่าพึ่งสติแตก ตอนนี้ฮิบาริบุกมาถึงบ้านแล้ว  ชั้นไม่รู้นะว่าไอ้ชินิมันจะยื้อไว้ได้แค่ไหน รีบๆแต่งตัวซะ"

    "ละล็อกห้องเซ่  ล็อกห้องงงงง"ซาโยโว้ยวายในขณะที่ลนลานวิ่งหาที่รัดหน้าอก

    "ล็อกได้ที่ไหน  นี่ห้องญี่ปุ่น ประตูบานเลื่อนแบบคลาสสิคT^T"โยรุโอดครวญ ให้ตายสิห้องในบ้านนี้มีเยอะแยะที่ถูกปรับให้เป็นประตูแบบบานพับ  ทำไมไอ้ซาโยมันจะต้องติสแตกเลือกห้องสไตล์ญี่ปุ่นเก่าแท้ขนาดนี้ด้วย  รู้ไหมว่ามันแย่กับสถาณการณ์ตอนนี้สุดๆ

    "เอาไม้ตรงนั้นขัดประตูสิ   ชั้นไม่ได้อยู่ห้องนี้โดยไม่ได้หาวิธีล็อกหรอกนะ"หันไปพูดกับเพื่อน

    "ไหนวะ  อ้อ"ว่าแล้วโยรุก็คว้าเอาไม้ด้ามยาวใกล้ประตูมาเตรียมจะขัดประตู  แต่แล้วก็มีมือแกร่งสอดเข้ามาจะเปิดประตู

    กึก! 

    "-____- เซเซรินะ โย นายจะดันประตูปิดทำไม"เสียงเย็นเยียบของฮิบาริเล็ดลอดเข้ามา

    "อะ เออ ขอโทษทีมือมันไปเอง^____^;;"

    "งั้นก็ปล่อย...."

    "ขอโทษทีตอนนี้มือชั้นเกร็งซะแล้วสิ  กว่าจะคลายก็คงอีกสักสิบนาที"

    "อยากให้พังเข้าไปใช่ไหม....."ฮิบาริ คิ้วกระตุกเมื่อได้ยินเหตุผมประหลาดๆของโยรุ

    "พอแล้วโยรุ "ซาโยจับไหลเพื่อนแล้วให้ออกจากตรงตำแหน่งนั้น    วิกที่รีบใส่อย่างลวกๆอยู่ยุ่งเหยิงที่สำคัญคือร่างกายยังไม่เรียบร้อยดี!!

    "เฮ้ย  แต่"

    "ไม่เป็นไรๆ  หลบไป"ซาโยพูดพลางเอื่อมมือเลื่อนประตูเปิดเล็กน้อยพอที่จะโผล่หน้าออกไปปะทะกับฮิบาริได้ โดยร่างกายที่เหลือใช้ประตูบังเอาไว้

    "ว่าไงพ่อคนกินผัก"เสียงกวนประสาทของคุคาบาระ  เซย์ทำให้ฮิบาริเลิกดึงประตูแล้วตวัดสายตามามองหน้าเจ้าคนตื่นสาย

    "-_____-ยังไม่อาบน้ำอีกรึไง"

    "ช่ายยยย  ก็นายเล่นมาเช้าขนาดใครจะไปตื่นไหวละ"ว่าแล้วก็กลอกตาใส่ไปรอบนึงเรียกเส้นเลือดบนขมับของคู่สนทนาให้ปูดขึ้นมา

    "ขอเวลาห้านาที ได้มะ"ซาโยเลิกคิ้วข้างหนึ่งถาม

    "นั้นแหละะะะะ   ฮิบารินายไปนั่งที่ห้องรับแขกก่อนนะเดียวชั้นเอาของว่างมาให้กิน"ชินิที่รีบวิ่งตามมาเอามือดันหลังฮิบาริให้กลับไปทางห้องรับแขก

    "แค่ห้านาทีนะเข้าใจ๋?"ฮิบาริหันมาพูดอีกรอบก่อนยอมเดินตามแรงผลักของชินิแต่โดยดี

    "จ้าๆ"


                     หลังจากที่ร่างของสองคนลับไปแล้ว ซาโยก็รีบปิดประตูแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

    "เชี่ย  คิดว่าจะไม่รอดซะแล้ว"ซาโยปาดเหงือบนหน้าผากตัวเอง

    "นั่นดิ  หมดปัญหากับฮิบาริแล้วเดี๋ยวชั้นไปปลุกเรนะก่อนนะ แกรีบๆอาบน้ำแล้วไปเสนอหน้าให้ฮิบาริเห็นก่อนที่พี่แกจะมาพังประตูห้องน้ำลากแกไปโรงเรียนก็แล้วกัน =_=;;"โยรุพูดพลางรีบออกจากห้องของซาโยไป



    .........................................

    ............................

    .................

    ...........

    .....

    ..

                     ชินิรีบดันร่างสูงของฮิบาริให้กลับมาที่ห้องรับแขกที่ตอนนี้พี่ชายของเธอได้หายตัวไปเรียบร้อยแล้ว

    "นายนั่งอยู่ในนี้ก่อนละกันนะ เดี๋ยวจะไปหาอะไรมาให้กินรอไอ้เซย์"ชินิพูดพลางปัดมือเหมือนไล่ให้ฮิบาริไปหาที่นั่งเอาเอง

                      พฤติกรรมของชินิทำให้ฮิบาริขมวดคิ้วนิดหน่อย  เพราะนอกจากพวกวองโกเล่กับคุคาบาระ เซย์  นายยามานิชิ ชิน ผู้ชายหัวฟ้าคนนี้ก็ถือว่าแสดงท่าทางได้ไม่กลัวเขามากๆเลยทีเดียว

    "เอ้า  มีแค่นี้แหละ กินได้ก็กินกินไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน"ชินิวางจานใส่โอฮางิพร้อมกับถ้วยน้ำชาที่ส่งไอน้ำร้อนลอยกรุ่นลงที่โต๊ะรับแขกพลางร่างโปร่งติดจะบางไปในสายตาของฮิบาริก็นั่งลงเท้าแขนประจันหน้ากับเขาอย่างมึนๆ

    "กินสิ  รับรองว่าตายแน่นอน"ชายหนุ่มผมฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆและสายตาที่แพรวพราวจนฮิบาริเห็นภาพยามานิชิ รินโดซ้อนทับอยู่แว้บๆ

    "ขอบอกว่าอย่ากินจะดีกว่านะครับ  และผมก็รับรอบเหมือนกันว่าตายแน่"

                    รินโดเดินเข้ามาในห้องอีกครั้งในมือถือกระป๋องกาแฟเย็นที่เดินไปเอามาจากในห้องครัว เขาพึ่งจะสวนทางกับน้องที่เดินถือโอฮากิมาแค่แว้บเดียวเท่านั้น...ก็ว่าทำไมรอยยิ้มมันดูร้ายกาจผิดปกติ=_=^ พลางนั่งลงทางฝั่งประตูระเบียงแล้วฉีกยิ้มแพรวพราวให้ฮิบาริเหมือนน้องด้วย


                     ฮิบาริเลิกคิ้วอย่างสงสัยพลางสายตาเหลือบมองโอฮางิในจานแล้วถึงกับแอบสะดุ้งเมื่อโอฮางิที่ตอนแรกก็หน้าตาเหมือนขนมญี่ปุ่นธรรมดาที่สามารถทำกันเองได้ง่ายๆมีน้ำสีแดงข้นแปลกๆเจิ่งออกมา   

    "อะไรละเฮี้ย"

    "เฮียโว้ย  ไม่ใช่เฮี้ย"

    "เออ  เหมือนกันแหละ  ชั้นก็แค่เอาของที่ทำไว้มาให้ฮิบาริลอง  คนอื่นไม่ยอมกินนี่หน่า"ชินิยกมุมปากยิ้มนิดหน่อย ที่คนเป็นพี่รู้ดีว่าเป็นรอยยิ้มชั่วร้ายสุดๆแล้ว

                     รินโดกลืนน้ำลายเอื้อกเมื่อมองไปที่จานโอฮางิตรงหน้าฮิบาริ  เป็นที่รู้กัน....เขาเป็นพี่มันมา17ปีถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันมา3ปีเพราะถูกดูดมาที่โลกนี้ก่อน แต่ชินิก็ยังเป็นชินิอาหารที่มันทำนี่หมายังเมินพูดตรงๆ  แถมอานุภาพนี่ก็น้องๆอาวุธชีวภาพนี่เอง

    "........."ฮิบาริสบตากับรินโดแล้วก็เห็นประกายสายตาที่ส่งคำเตือนมาให้เขาเป็นนัยๆว่า  อย่ากินจะดีที่สุด  ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะยกชาขึ้นดื่มและพยายามไม่สนใจโอฮากิชุ่มเลือด(?)นั่น

    "คุณชินครับ"เสียงอีกเสียงดังขึ้นปรากฏเป็นชายในชุดสูตดำมาดเข้มที่คุ้นเคย

    "มีอะไรเหรอคุณอาเบะ"ชินิละความสนใจจากเหยื่อการทดลองทำโอฮางิครั้งที่สิบสามของตนไปที่ผู้มาใหม่

    "ผู้พิทักษ์สายหมอกของวองโกเล่มาหาครับ"

    "หา...อ้อ มุคุโร่ สับป้าอะนะ    นายก็พาหมอนั่นเข้ามาสิ-O-"ในตอนแรกเจ้าตัวเหมือนจะงงกับคำว่าผู้พิทักษ์ก่อนที่สมองจะประมวลผลแต่ในอีกเสี้ยววินาทีก้นึกขึ้นได้  ชินิพยักหน้าทำให้อาเบะเดินหายแปบนึงก่อนที่จะพาชายหนุ่มร่างสูงผมสีไพลินนัยน์ตาสองสีเข้ามาอีกคน

    "โย่ สับป้า-O-/"

    "มาย่ง มาโย่อะไรละ =_="มุคุโร่พูดในขณะที่สายตาเหลือบไปเห็นฮิบาริก่อนที่เจ้าตัวจะยิ้มสมเพชส่งมาให้ฮิบาริ

    "เอ็งไม่ต้องมาทำหน้าสมเพชตูเลยนะเฟ้ย   เอ็งก็เหมือนกันแหละ=___=!!!!"ฮิบาริตวาดใส่เมื่อเห็นหน้าตากวนบาทาของเพื่อน

    "เอาน่า    ว่าแต่มุคุโร่นายกินอะไรมารึยัง  โอฮางิไหม"ชินิยิ้มหน้าตายเปลี่ยนเป้าหมายจากฮิบาริไปเป็นโรคุโด มุคุโร่คู่รักคู่กัด(?) ยกจานโอฮากิหมายเลข13ไปให้คนตัวสูงกว่าแทน

    "หื้อ  หงับ"ยังไม่ทันทีมุคุโร่จะมองสภาพของโอฮางิดีๆ ขนมก็มาจ่อที่ปากและด้วยนิสัยเสียๆของเขาปากก็อ่างับเข้าไปโดยสมองยังไม่ได้ประมวลผล


                 ฮิบารินิ่งมองอดีตคู่แค้นในสมัยก่อนที่ตอนนี้กลับกลายเป็นเพื่อนซี้กัดโอฮางิเข้าไป ปากอ้าค้างเหมือนพยามจะห้ามแต่พูดไม่ทัน  .....ไอ้บ้ามุคุโร่  ไอ้นิสัยที่ใครเอาของกินอะไรมาจ่อปากก็กินเข้าไปโดยไม่ประมวลผลนี่.......กำลังจะทำพิษแกแล้วล่ะเว้ย.....

                 พอโอฮางิเข้าปากไปจากที่หน้าตาสดใส(?) หน้าของมุคุโร่ก็ซีดขึ้นเรื่อยๆยิ่งเคี้ยวเข้าไปขนทั่วตัวก็ยิ่งลุกเกรียวจนน้ำตาจะไหล พอโอฮางิลงคอ มุคุโร่ขอสาบานว่าเขาได้ยินเสียง'มัน'่ร่วงลงกระเพราะดัง 'จ๋อม' ก่อนจะได้ยินเสียง 'ตู้ม' เล็กๆในท้อง

    "อุ๊ก นะ นี่อะไร รสชาติมัน...."มุคุโร่สบตาคนตัวเล็กกว่าที่ยิ้มร่าได้น่าฟาดมาก

    "โอฮางิไง^O^"

    "อุ๊...  ห้องน้ำ  ห้องน้าไปทางไหนครับคุณรินโด"มุคุโร่เอามือข้างหนึ่งปิดปากอีกข้างกุมท้องอย่างน่าสงสาร

    "ตรงทางเดินห้องที่สองครับ"รินโดเหงื่อตกแล้วรีบชี้ทางให้แขกทันที

    "กร้ากกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆ  ไม่เคยมีใครอยู่ๆก็งับเข้าปากไปแบบนั้นเลยนะ โอ้ย ขรรม"ชินิหัวเราะร่าพลางกุมท้องในขณะที่ฮิบาริสายหน้าเวทนาเจ้าของตาสองสี  และแอบโล่งใจที่ตัวเองไม่กินเข้าไป

    "=____=  จากนี้ไปพวกคุณก็ระวังของที่ไอ้ชินมันเอามาให้กินหน่อยละกันนะ"

    "=____= อืม"

    "ฮิบารี้ยยยยยย เสร็จแล้ววววว เกินห้านาทีนิดหน่อยแต่เสร็จแล้ววววว"เสียงของซาโยมาก่อนที่ตัวเจ้าของเสียงจะมาเสียอีก

    "ว่าแต่  ทำไมมุคุโร่ถึงหน้าซีดวิ่งเข้าห้องน้ำแบบนั้นละ-o-?"

    "กินโอฮางิไหมละ"ชินิที่ยกจานโอฮางิที่เหลือให้ดูพูดไปกลั้นหัวเราะไป

    "ไม่!!!!!"


    +++++++++++++++++++++++
    ตัดฉับ  ไว้พรุ่งนี้  (หรื่อไม่ก็อีกสองสามวัน)
    จะมาต่อนะค่ะ5555555

    กลับมาแล้วค่าาา

    ไอ้นิสัยกินของที่อยู่ๆก็มีคนยื่นมาให้ของมุคุโร่เนี้ย เราเอามาจากเพื่อนเราคนนึงเอง

    คือเรากินอะไรอยู่พอเรายื่นไปจ่อให้มันลองมันก็กัดโดยไม่ดูทุกทีว่าเป็นอะไร

    และนิสัยนั้นก็ทำพิษกับเพื่อนเรามาก5555  เห็นว่าน่ารัก(?)ดีเลยเอามาเล่นสักหน่อยค่ะ

    ต่อน่ะะ

    ++++++++++++++++++++++

    Rena:
     
                   เรนะเดินอิดออดเข้าห้องน้ำด้วยสภาพเบลอๆ ผมยาวสีน้ำตาลยุ่งเหยิงเพราะเจ้าตัวเป็นคนนอนดิ้นหนักมาก  หยุดมองสภาพตัวเองที่กระจกแล้วอยากจะกรีดร้องออกมาเป็นภาษาโปรตุเกสแต่ร่างบางก็ไม่มีแรงจะทำอะไรนอกจากเอามือที่ไร้เรี่ยวแรงบิดหัวก็อกเพื่อจะล้างหน้า เพื่อจะหายเบลอบ้าง แต่ดูท่าจะไม่ค่อยเป็นผลเท่าไหร่   เพราะตอนที่ร่างบางถอดเสื้อนอนออกนั้นเกือบจะสะดุดขากางเกงลงไปนอนตายเป็นผีเฝ้าห้องน้ำซะแล้ว   

                   ขณะที่ปล่อยให้สายน้ำไหลกระทบตัวมือเรียวก็กดขวดสบู่แบบปั๊มใส่มืออีกข้าง  ยกขึ้นแล้ว.....ขยี้ลงบนหัว....

    "เห้ย!"เรนะสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อสมองประมวลผลออก ถึงแม้จะประมวลช้ามากๆ....

                   ร่างบางรีบเอาแชมพูสระลงบนผมแทนแล้วกดสบู่ใหม่อีกรอบ  คราวนี้สะบัดหัวไล่ความเบลอเดินมาที่อ่างล้างหน้า  หยิบหลอดยาสีฟันขึ้นมาบีบใส่แปรงแล้วก็ต้องตาเหลือกอีกรอบเมื่อเห็นว่า หลอดที่บีบใส่แปรงสีฟันอยู่เป็นหลอดโฟมล้างหน้า

    "วันนี้มันบ้าอะไรวะ  ทำไมเบลอจัง=___="เรนะบ่นขณะที่เริ่มแต่งตัว


                   เมื่อเรนะแต่งตัวเรียบร้อยหมุดตัวเช็คดูว่าแต่งเป็นผู้ชายเป๊ะแล้วรึยังก็พยักหน้าให้ตัวเองหน้ากระจกตู้เสื้อผ้าอย่าพอใจรอบหนึ่งก่อนจะเก็บข้าวของเดินออกจากห้องนอนไปที่ห้องครัว  ที่คฤหาสญี่ปุ่นของเซอบีรัสมีห้องครัวและแยกห้องทานอาหารห้องรับแขกเยอะแยะจนขี้เกียจจำส่วนใหญ่เธอกับเพือนทั้งสามจึงชอบเข้าไปนั่งกินอะไรเบาๆในครัวเลยมากกว่าเพราะมีโต๊ะเล็กๆกับเก้าอี้พับสามสี่ตัวในห้อง    แต่วันนี้แปลกไปตรงที่พอไปถึงห้องครัวกลับเจอเพียงโยรุที่กำลังโซ้ยคอนเฟรคอย่างเอาเป็นเอาตาย

    "อ้าวแล้วไอ้ชินิกับซาโยอะ"

    "ไออ่อนแอ้ว"

    "กลื่นก่อนค่อยพูดก็ได้ยะ=___="เรนะค้อนเพื่อนที่พูดไปเคี้ยวไป

    "อึ้ก  โท่ดๆ  นึกว่าอยากได้คำตอบเร็วๆ"โยรุกลืนอาหารลงคอก่อนจะตอบชัดถ้อยชัดคำตามปกติแล้วยักคิ้วกวนๆตามฉบับกลับมา

    "แล้วทำไมไปก่อนแล้วละ"เรนะถามพลางเลื่อนเก้าอี้นั่งบ้าง มือหยิบชามกับช้อนแล้วเริ่มเอาคอนเฟรคกับนมเทลงไป

    "เพราะเรื่องคู่บัดดี้เวรตะไลน่ะ -v-"โยรุพูดพลางหัวเราะ เรนะพนันได้เลยว่ายัยบ้านี่กำลังสะใจอยู่แน่ๆ

    "หื้อ  ที่แปลกที่สุดคงเป็นไอ้ซาโยตื่นเช้าสินะ ฮ่าๆ"เรนะหัวเราะบ้างเมื่อนึกถึงหน้าเพื่อน

    "ตอนแรกเกือบไม่รอดฮิบาริมันบุกถึงห้องเลยนะเว้ย  ดีที่รีบไหวตัวทัน"

    "โชคดีไปสินะ  แต่ว่านะ...."เรนะหลุบตาลงต่ำแล้วเสียงก็แผ่วลง

    "หื้ม?"

    "ชั้นไม่อยากปลอมเป็นผู้ชายอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆเลย  มันอึดอัด ลำบากด้วย"

    "ก็ช่วยไม่ได้อะนะ  แกอยากขัดพี่รินโดรึไง"พอพูดประโยคนี้มา ก็ทำให้เรนะขนลุกซู่

    "ไม่ดีกว่า"

    "พวกนั้นไปเช้าเกิ๊น  ชั้นก็เลยอยู่รอแกตื่นเนี้ยแหละ เดี๋ยวเราไปด้วยกัน"

    "ได้ๆ ขอกินให้หมดก่อน"เรนะพูดพลางตักคอนเฟรคเข้าปาก

    "เออ  ชินิมันฝากไว้ให้"โยรุพูดขณะที่หยิบจานโอฮางิออกมาวางตรงหน้าเรนะ

                      มือเรียวของเรนะตวัดไปคว้าน้ำมันรอนสันที่เอาไว้เติมไฟแช็กกับปืนไฟสำหรับจุดเตาแก๊สมาราดลงบนโอฮางิแล้วจุดไฟเผาทันที

    "อึ๊ย....ปฎิกริยารุนแรงแล้วรวดเร็วมาก"

    "ใครจะไปแดรกของมันวะ  แล้วได้โน๊ตสีชมพูน่ารักคิคุนี่มันอะไร๋"

                      เรนะพูดเสียงสูงปรี๊ดขณะที่นิ้วสั่นระริกด้วยความโกรธหรือกลัวหรือขยะแขยงก็ไม่ทราบชี้ไปที่กระดาษโพสอิทสีหวาน เขียนด้วยลายมือหวัดๆตามสไตล์ชินิว่า "โอฮางิหมายเลขสิบสามสื่อรัก จากชินิ"ปิดท้ายด้วยรูปหัวใจ ทีกำลังไหม้ไปพร้อมกับโอฮางิรสชาติสยองลิ้น

    "อารมณ์ขันแปลกๆของมันละมั้ง=____="

    "โอ้ย  เขียนอะไรแปลกๆด้วยลางร้ายแต่เช้าเลยเว้ย"เรนะสะบัดหัวขณะที่เอาจานทั้งหมดไปกองไว้ที่ซิ้งล้างจาน  

    "เดี๋ยวป้าล้างเองจ้า  คุณหนูสองคนไปเรียนเถอะ โฮะๆๆๆ"ป้าหัวหน้าห้องครัวเดินเข้ามาแล้วบอกับพวกเรนะ

    "อ๊ะ  ก็ได้ค่ะ งั้นพวกหนูไปก่อนนะค่ะ ป้าคุมะซาว่า"เมื่อมีคนอาสาทำให้สองสาวก็กล่าวลาแล้วหยิบกระเป๋าออกจากบ้านน้อย(?)กลอยใจเพื่อจะไปโรงเรียน

    ...................................

    .......................

    ...............

    .........

    ...


                     โกคุเดระ ฮายาโตะ อายุ17ปีชายหนุ่มผู้เป็นมือขวาของบอสวองโกเล่รุ่นที่10ยังคงทำภารกิจเดิมมาตลอดสามปีที่เข้าวองโกเล่มา  นั่นก็คือ  รอไปโรงเรียนพร้อมรุ่นที่10!!!!   โกคุเดระฉีกยิ้มร่าเมื่อเห็นร่างสูงของบอสเดินหน้าตางัวเงียลงมาจากชั้นสองของบ้าน

    "รุ่นที่สิบคร้าบบบบ อรุณสวัสดิคร้าบบบบ"

    "=____=  โกคุเทระคุง  อีกแล้วเหรอ"สึนะถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจนี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนเขาอาจจะคิดว่าไอ้ผมเงินหัวปลาหมึกที่เป็นสตอกเกอร์ก็ได้  แม่-งมาได้ทุกวันไม่มีเหนื่อยจริงๆ

    "รุ่นที่สิบวันนี้ดูไม่ค่อยสดใสเลยนะครับ  นอนไม่พอเหรอครับ"โกคุเดระพูดไม่ได้สนใจบรรยากาศที่สึนะปล่อยออกมาเลยสักนิดถามต่อ

    "อืม  นิดหน่อยนะ"สึนะพูดพลางหาว นัยตาสีน้ำตาลคมหรี่ลงเล็กน้อยขณะที่น้ำใสๆคลอขอบตา

                     เมื่อคืนเขาเอาแต่คิดเรื่องเพื่อนใหม่สี่คน...ใช่  ไอ้พวกแสบจากเซอบีรัสนั่นแหละ  ลางสังหรของเขามันร้องเตือนแปลกๆ เขารู้สึกได้ว่าพวกนั้นปิดบังบางอย่างอยู่ตั้งแต่แรก  แต่แปลกที่เมื่อวานตอนที่สี่คนนั้นถูกเกมของพี่น้องโซโนซากิเล่นงานให้แต่งชุดประหลาดๆ เขากลับไม่รู้สึกถึงการปิดปังอะไรบางอย่าง   หรือว่าไอ้พวกนี้มันเป็นพวกเบี่ยงเบนทางเพศวะ =_____= หน้าพวกมันยิ่งสวยเกินชายกันอยู่ด้วย   ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือความรู้สึกที่ว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ของพวกนั้น  ถือว่าเป็นเรื่องแปลกมากทีเดียวที่อยู่ๆสุดยอดลางสังหรของวองโกเล่มามีปฎิกิริยาอะไรแปลกๆที่เขาเองก็ไม่เข้าใจ

    ..................................

    ...................

    .........

    .....

    ..


    "หื้ม     มีคนรู้สึกตัวด้วยแฮะ  ลางสังหรของวองโกเล่นี่ดูถูกไม่ได้จริงๆด้วยสิ ฮ่าๆๆ"


                        วิเวียนหัวเราะอย่างถูกใจ เส้นผมสีเงินยาวถึงสะโพกสะบัดเบาๆยามที่ร่างกายสั่นคลอนเพราะหัวเราะ  นัยน์ตาสีฟ้าดูลึกลับยังคงมองที่อ่างน้ำหินอ่อนสลักเหมือนเด็กน้อยมองดูของเล่นใหม่

    "คุณวิเวียนคะ เลิกเล่นแบบนี้เถอะค่ะ  สงสารคนที่โดนโยนไปที่มิติอื่นบ้าง  โลกนั้นมันไม่ใช่ที่ของเด็กพวกนั้นนะค่ะ"

                        เรย์พูดขณะที่สายตาจับจ้องไปที่ตุ๊กตาห้าตัวที่ถูกทำให้มีลักษณะคล้ายกับ ผู้ถูกเจ้านายของเธอดึงเข้าสู่วงเวียนแห่งความโกลาหล   เซเซรินะ โซยูกิ เซเซรินะ โยรุ  ยามานิชิ รินโด  ยามานิชิ ชินิ  คุคาบาระ ซาโย  และ โอคิตะ เรนะ......

    "อะไรกัน  เห็นว่าชั้นกำลังเล่นอยู่เหรอเนี้ยเรย์จัง"วิเวียนยิ้มหน้าเดียวเอียงคอสี่สิบห้าองศาอย่างน่าตบ 

    "ก็ใช่นะสิค่ะ!!!"เรย์ตวัดเสียงอย่างฉุนๆ  เธอไม่ชอบเลยที่เจ้านายของเธออยู่ๆก็ชอบดึงคนนู้นคนนี้มาโดยไม่ไถ่ถามว่าเจ้าตัวอยากรึไม่อยาก เอาจริงๆหนึ่งในนั้นก็คือเธอนั่นแหละ!

    "ครั้งนี้ชั้นไม่ได้เล่นหรอกนะ  แต่ว่านี่เป็นโชคชะตาของพวกนั้น"วิเวียนยิ้มบางๆหลับตาสีครามลงอย่างแผ่วเบาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงล่องลอยแต่ก้องกังวาน

    "เป็นโชคชะตาที่สองโลกจะถึงคราวบรรจบกัน นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วละก่อนที่มิติใดมิติหนึ่งจะต้องล่มสลาย"


    .................................................

    ................................

    ....................

    ............

    ......

    ..

    "นี่เราจะเดินไปจริงๆเหรอ โยรุ=_____=;;;"เรนะเอ่ยทำลายความเงียบขณะที่เหงื่อเม็ดโตผุดพรายขึ้นบนหน้าผาก

    "โดนเฮียรินคาดโทษเพราะครั้งที่แล้วชั้นทำสีรถพี่แกถลอกนะสิ=_____=;;;"โยรุตอบในขณะที่เหงื่อก็ไหลเป็นน้ำตกไม่แพ้เพื่อน  ยิ่งต้องมาใส่กางเกงขายาวแบบพวกผู้ชายแล้วมันยิ่งร้อนนัก โว้ยยยย ร้อนนนนน หงุดหงิดดดดด


    "อ้าว  เฮ้ย!เจ้าเปี๊ยกโหด"เสียงคุ้นๆตะโกนทักทายมาด้วยความเป็นมิตร  แต่สายตาของเรนะที่ตวัดกลับไปนี่สิไม่เป็นมิตรสุดๆ=___=;;;  ทั้งคู่เดินเข้าไปหาอีกสองคนข้างหน้าที่หยุดยืนรออยู่

    "ใครเปี๊ยกวะ!!!"

    "ใจเย็นน่า"โกคุเดระหัวเราะเล็กน้อยพลางชูมือสองข้างขึ้นระดับหูแสดงท่าทางยอมแพ้แบบเล่นๆ

    "อ้าว โกคุเดระ  สึนะ บังเอิญจังแฮะ"โยรุรีบเดินมาบังเรนะก่อนที่เรนะอาจจะหลุดเอากำปั้นซัดเข้าใต้คางโกคุเดระ ฮายาโตะผู้ไม่เคยคิดจะจำว่า 'เปี๊ยก'เป็นคำต้องห้ามสำหรับคนตัวเล็ก(ที่สุดในกลุ่มหนุ่มปลอม)

    "ที่แปลกนะพวกนายต่างหากปกติเห็นแอบขับรถไปจอดไว้หลังโรงเรียนนี่"สึนะพูด เล่นเอาโยรุสะดุ้ง

    "อึ๊ย  เห็นด้วยเหรอ"

    "บางครั้งนะ"สึนะยิ้ม  นัยน์ตาคู่คมหรี่ลงเล็กน้อยตามรอยยิ้มนั้น  


                         โยรุกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ เธอไม่เคยชอยสึนะเลยในตอนแรกที่อ่านรีบอร์นนั้นเธอออกจะแอบรำคาญสึนะด้วยซ้ำ ที่เอาแต่ปฏิเสธเรื่องเป็นบอสวองโกเล่แต่ในภายหลังของเรื่องมุมมองที่เธอมีต่อตัวละครตัวนี้คือเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวและอบอุ่นพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเพื่อนพ้องตามหลักการการ์ตูนผู้ชายสมัยนิยมในตอนนั้นโยรุคิดว่าสึนะเองก็ถือว่าเป็นพระเอกการ์ตูนที่ดีเรื่องนึง ที่มีการเติบโตทางอารมณ์ไปเรื่อยๆ     แต่.....ที่อยู่ตรงหน้าของเธอตอนนี้ไม่ใช่การ์ตูนแต่เป็น'ของจริง'แถมเป็น'ของจริง'ที่เธอไม่สามารถคาดเดาได้เหมือนในการ์ตูนที่เคยๆอ่านมา   ในโลกนี้ช่วงเวลาสามปีที่หายไปสามปีที่ไม่มีการบันทึกใส่หน้ากระดาษทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงแปลกไป
                           
                          คนตรงหน้าไม่ใช่ซาวาดะ สึนะโยชิที่พวกเธอรู้จักจากหน้ากระดาษ หากแต่ต้องทำความรู้จักด้วยตัวเอง และในความรู้สึกของโยรุนั้นไม่ว่าจะวองโกเล่คนไหนก็ไม่น่ากลัวเท่าสึนะอีกแล้ว เขาเป็นคนเดียวที่มีบุคลิกเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนที่สุด....จนน่ากลัว......ยิ่งเจ้าตัวอยู่ในฐานะของบอสวองโกเล่รุ่นที่สิบอย่างเต็มภาคภูมิแล้วด้วย   

                          ทุกครั้งที่นัยน์ตาสีน้ำตาอบอุ่นคู่นั้นมองมาเธอรู้สึกเหมือนถูกมองออกอย่างทะลุปรุโปร่งราวกับไม่มีอะไรปิดบังเขาได้ นั่นทำให้เธอรู้สึกว่าต้องระวังตัวเวลาคุยกับสึนะถ้าหากไม่อยากให้เรื่องที่ปลอมตัวแตกละก็.....

    "เป็นอะไรละ กลัวเหรอ"เสียงทุ้มนุ่มถามด้วยน้ำเสียงโทนเดียวไม่มีต่ำสูงทั้งที่เป็นประโยคคำถามแต่กลับเหมือนเขากำลังบอกว่าเธอคิดอะไรอยู่   

                          โยรุสะดุ้งเฮือก  สบนัยตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นภาพของพรีโม่บอสวองโกเล่รุ่นแรกกลับมาซ้อนทับที่ภาพของสึนะ

    "กะ กลัวบ้าอะไรละฮะ"โยรุหยิกต้นขาตัวเองเรียกสติก่อนที่จะหลุดไป

    "ฮ่าๆๆๆๆๆๆ  ดูหน้านายดิ  ตลกเป็นบ้า  แค่พูดเล่นแค่นี้ทำไมต้องทำหน้าแหยขนาดนั้นด้วยละ"สึนะหัวเราะร่าขณะที่โยรุคลายอาการเกร็งในขณะที่เรนะเองก็สัมผัสได้ถึงความกดดันจนทำหน้าเลิกลักมองสลับระหว่างเพื่อนกับสึนะ

    "รุ่นที่10คร้าบ ถ้าเราไม่เดินต่ออาจจะสายนะครับแล้วไอ้เจ้าฮิบารินั่นมันต้องหาเรื่องอีกแน่เลย  ช่วงนี้ไม่รู้มันไปหงุดหงิดกินผึ้งที่ไหนมาเห็นหาเรื่องกันจัง ฮึ้ย"โกคุเดระผู้ไม่ได้รู้สึกถึงบรรยากาศอึดอัดอะไรเลยพูดขึ้นขณะออกเดินต่อ

    "ฮะเฮ้ย รอด้วยสิเจ้าหัวปลาหมึก"เรนะรีบชิ่งหนีโดยการก้าวยาวๆออกจะกึ่งวิ่งตามหลังโกคุเดระไป

    "เราก็เดินกันต่อดีกว่า..นะ..เนอะ"โยรุยิ้มแหยๆแล้วเริ่มขยับเท้าจะก้าวเดิน


                      เมื่อร่างบางเดินห่างออกมาได้สักระยะสองสามก้าวร่างสูงของสึนะก็ก้าวตามมาอย่างไม่เร่งรีบ  จนกระทั้งกลายเป็นทั้งสองเดินอยู่ข้างกัน

    "รู้ไหม  ว่าชั้นไม่ชอบเวลาคนมีความลับ"เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขึ้นมาลอยๆเรียกให้นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงเหลือบมองได้ไม่อยาก

    "โดยเฉพาะพวกที่เป็นพันธมิตรกันแต่กลับทำตัวมีลับลมคมใน"

    "อะเออ  เซอบีรัสก็ไม่ได้ทำตัวลับลมคมในซะหน่อยนะ ฮ่าๆ=O=;;"

    "นั่นสินะ"สึนะยกมุมปากยิ้มคราวนี้รอยยิ้มนั้นไม่ใช่รอยยิ้มอบอุ่นตามปกติของเขาอีกต่อไป

    "ที่ลับคมคมในมันไม่ใช่เซอบีรัสแต่เป็นพวกนายต่างหาก  กุมมันไว้ให้ดีละกันนะความลับน่ะ  ก่อนที่จะถูกกระชากจนขาดคามือ"มือหนาเอื้อมมาจับหัวมนดึงให้เข้าใกล้ในขณะที่เสียงทุ้มนุ่มกระซิบเอ่ยถ้อยคำเชือดเฉือนเบาๆแค่ได้ยินเพียงสองคนผ่านเข้ามาในโสตประสาท  

    "อึ๊ก"โยรุแทบสะอึกเมื่อได้ยินและเห็นการกระทำที่น่าจะเรียกได้ว่า'เชือดนิ่มๆ'ของสึนะ

                 สึนะระแคะระคายแล้วจริงๆด้วย(ถึงจะเป็นความลับค่อนจะไร้สาระก็เถอะ แต่มันคอขาดบาดตายสำหรับพวกเธอนะเพราะมันเป็นคำสั่งของบอส[พี่]ของพวกเธอนี่หน่า)  ทำไมมันน่ากลัวจังวะ  แบบนี้มาแบบขู่กรรโชกแบบฮิบาริยังดีกว่า Y____Y


                  แค่นี้ร่างบางก็อยากจะบอกเรื่องปลอมตัวให้มันรู้แล้วรู้รอด......ไม่บอกก็กลัวสึนะแต่ถ้าความลับแตกเฮียรินโดก็จะเล่นงาน  โอ้ยชีวิตคนสวยทำไมเครียดงี้วะะะะะะะะะะ 

    ++++++++++++++++++++++++++

    ตัดฉับบบบบ  

    80%แล้วนะคะ

    อีกนิดเดียวก็100แล้ว55555555


    กลับมาแล้วค่าาาาาา

    ช่วงนี้ว่าง555รีบมาอัพก่อนไม่มีเวลาอัพดีกว่า

    พูดเลยว่าชอบ คาร์แร็กเตอร์สึนะมาก  แต่งไปนี่แอบกรี๊ดคู่ สึนะxโยรุ

    #ทีมสึนะ เลยละค่ะ มาแบบเชือดนิ่มๆ55555

    เอาจริงๆของสาราภาพว่าคู่โปรดเราเองคือ ฮิบาริ x ซาโย เพราะว่าซาโยนางกวนดี

    ชอบที่นางเรียกฮิบาริว่า คนกินผัก

    รองลงมาก็ มุคุโร่ x ชินิ  เราชอบคาร์แร็กของชินิที่กวน ฮา แถมฮาร์ดคอร์อีกตะหาก

    พอตอนนี้ เป็นคู่สึนะโยรุมาตามๆเลยค่ะ55555 

    คู่อื่นๆรอไปก่อนเน้อออ  ตอนนี้พยามๆค่อยๆจบไปเป็นคู่ๆให้ได้ก่อนละตัวนางรองเสริมจะค่อยๆ

    //เรนะนางเอกคนที่สี่เราคิดโมเม้นยากมาก เป็นคู่ที่แต่งยากในความรู้สึกเราเลยแหละ

    เวิ่นมาเยอะแล้ว

    ต่อดีกว่าค่ะ  เดี๋ยวจะโดนรีดเดอร์ฆ่าเอา

    ++++++++++++++++++++++++++



                       โยรุรีบวิ่งหน้ามึนตามมาเดินเทียบข้างเรนะทันทีหลังจากตั้งสติได้ โกคุเทระเหลือบมองผู้ที่เป็นทั้งบอสและเพื่อนที่เดินทอดน่องตามอยู่ด้านหลังแถมยังส่งรอยยิ้ม 'แห่งหายนะ' มาอีกตะหาก  ไอ้รอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรสุดๆแต่กลับส่งกระแสอำมหิตออกมาแบบนี้เขาเองก็ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักหรอกแต่ขอบอกเลยว่า สยองสุดๆ!!  ร่างสูงชะโงกหน้าถามโยรุอย่างสงสัยปนผวา

    "โยแกคุยอะไรกับรุ่นที่สิบฟะ...."

    "ไม่มีอะไรนี่๋ยยยยยย"โยรุตอบแล้วรีบเบนสายตาหนีทันที.......​

    ...ไอ้นี่ จะโกหกทั้งทีก็ให้มันเนียนๆหน่อยสิว้อย....

    "แล้วทำไมรุ่นที่สิบยิ้มอย่างนั้ละฟะ"

    "ชะ ชั้นจะไปรู้บอสแกเหรอ ไปคุยกันเองสิ T_____T"โยรุกัดฟันพูด  เธอยังรู้สึกเสียวสันหลังเมื่อคิดว่าเมื่อกี้สึนะพูดอะไรออกมา

    "ไม่ละ"โกคุเดระเหลือบมองสึนะที่ตอนนี้กลับมาเป็นปกติ คือยิ้มปกติไม่มีอะไรแฝงแถมยังทำท่าไม่รู้ไม่ชี้จนหน้าหมั่นไส้อีกต่างหาก .....ขืนไปถามทั้งที่เจ้าตัวที่'ยิ้ม'แบบเมื่อกี้ละก็  ความชิบหายมาเยือนเขาอีกคนแน่



                        เมื่อถึงโรงเรียน  บรรยากาศอึมครึมก็หายไปสึนะทำตัวปกติมากราวกลับเมื่อกี้ไม่ได้ทำอะไรใครทั้งสิน  โยรุหายใจเข้าปอดปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ  เธอจะต้องปกติ...พูดปกติ...ถ้าแสดงสึนะเห็นว่าเธอกลัวเธอมีความลับ  มันจะยิ่งแย่....เอาละลืมซะ....สึนะคือเพื่อนที่เธอสามารถเกรียนใส่ได้เหมือนปกตินั่นและ....โอเค...

    "=____= เอ่อ....ทำไมชั้นเห็นไอ้เซย์อยู่หน้าโรงเรียนด้วยละ"โยรุถามขึ้นแล้วเหลือบถามสึนะที่หยุดมองเหมือนตัวเอง  

    "=_____= นั่นสิ"สึนะพูด  สายตาเหลือบมองคนตัวเล็กกว่าเล็กน้อย  รู้สึกแปลกใจที่เจ้าตัวปรับอารมณ์เก่งจนทำให้เขารู้สึเหมือนเมื่อกี้เขาไม่ได้'ขู่'อะไรไปเลย  แถมยังทำตัวปกติสุดๆด้วย

    "โอ้ยยยย ทำไมวันนี้คุณฮิบาริต้องเป็นเวรด้วยนะ สร้อยข้อมือชั้นโดนยึดแน่เลยT_T"เสียงของหญิงสาวมัธยมปลายคนนึงบ่นง้องแง้งขึ้น

    "ทำไมดีละเนี้ย  เครื่องแบบชั้นก็ผิดระะเบียบด้วยสิ"

    "*(&^%$#$@())_)_"

    "...."

                      และอีกสารพัด    จนเรนะแอบขำเด็กพวกนั้นที่กลัวฮิบาริขนาดนี้....เอาจริงๆเธออาจจะกลัวก็ได้แต่ตอนนี้คติดเชื้อไอ้ซาโยกับชินิมาก พอพวกนั้นไม่กลัวเธอก็เลยไม่กลัวไปด้วยซะอย่างนั้น

                       พวกเด็กผิดระเบียบรวมกลุ่มน้อยๆอยู่อย่างไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้ประตูโรงเรียน จนกระทั่งซาโยที่ยืนหน้ามุ้ยอยู่หน้าประตูโรงเรียนฝั่งขวา  ในขณะที่ฮิบาริยังคงทำหน้าเคร่งขรึมตรวจคนผิดระเบียบทางประตูฝั่งซ้ายหันมาเห็น   ร่างบางที่สูงกว่ามาตรฐานผู้หญิงญี่ปุ่นจึงทำให้ง่ายต่อการปลอมเป็นชายเดินก้าวฉับๆเข้ามาที่กลุ่มเด็กพวกนั้นโดยมีสายตาของพวกเรนะมองตามอย่างสงสัย  ในขณะที่กลุ่มเด็กผิดระเบียบสะดุ้งเฮือกเพราะจำได้ว่าคนที่เดินมาหาคือ 'คุคาบาระ เซย์' หนึ่งสมาชิกสภานักเรียน

    "ว่าไง  ทำไมไม่เข้าโรงเรียนละ"ซาโยยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่จนทำให้พวกคนผิดระเบียบเหงื่อตก

    "อะเอ่อ...."

    "สร้อยข้อมือสวยดีนะ"ซาโยทักขึ้นอย่างอารมณ์ดีผิดกับเจ้าของสร้อยข้อมือที่สะดุ้งเฮือก

    "คะ...ค่ะ"

    "เอ้า  เข้าโรงเรียนไปได้แล้ววว  เดี๋ยวก็สายหรอก"ซาโยพูดพลางกวักมือให้ตามเธอไป

    "อะเออ....แต่ว่าพวกเรา..."

    "หื้อ.. จะบอกว่าแต่งัวผิดระเบียบเหรอ"ซาโยหรี่ตาลงเล็กน้อยขณะที่พูดทำให้ยิ่งเหมือนกำลังจับผิดคนจนพวกผิดระเบียบเกร็ง

    "ช่างมันสิ   กฏนะมันมีไว้แหก รีบๆไปได้แล้วก่อนที่ไอ้คนกินผักมันจะหาว่าพวกเราเป็นสัตว์กินพืชกำลังสุมหัว"ซาโยพูดไปเบะปากไปทำท่าล้อเลียนฮิบาริ จนมีคนหลุดขำออกมา

    "เอ้าไปเร็ว!"

    "ขอบคุณค่ะ/ครับรุ่นพี่คุคาบาระ!!!"ว่าแล้วพวกผิดระเบียบทั้งหลายก็รีบๆเนียนเดินตามซาโยเข้าไป

    กว่าฮิบาริจะรู้ตัว.....ไปพวกนั้นก็แจ้นเข้าตึกเรียนไปหมดแล้ว

    "คุคาบาระ เซย์!!!  นี่ให้มาตรวจระเบียบไม่ใช่เห็นใครก็ปล่อยลอยชายไปเฉยๆนะว้อย"ฮิบาริพูดพลางส่งสายตาจิกมาทางซาโยที่ยืนไม่รู้ไม่ชีอยู่อีกฝากประตู

    "หื้ม   ก็นายให้ตรวจ ชั้นตรวจของชั้นสำหรับชั้นมันไม่ผิดระเบียบนิ"ว่าแล้วก็ยกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นอย่างกวนประสาท...แน่สิ....เธอไม่ได้อยากจะมายืนเฝ้าหน้าประตูตรงนี้ซะหน่อยข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กิน...แล้วดูไอ้คนกินผักนี่มันมาบังคับให้เธอมายืนคุมด้วย  หงุดหงิดค่ะ!!! และนี่คือการแก้แค้นเงียบๆของซาโย

    "ไง เซย์  แปลกจังแกตื่นเช้าเป็นด้วย"เรนะเดินไปทักทายแล้วหลิ่วตาล้อเลียนเพื่อน

    "ไม่ได้อยากตื่นว้อย"

    "อย่าหน้าบึ้งไปเลยพ่อหนุ่ม   เรากินข้าวเช้าส่วนของนายไปหมดแล้ว"โยรุพูดเสริม แล้วทั้งโยรุกับเรนะก็ประสานเสียงหัวเราะแหลมสูงไม่เป็นธรรมชาติใส่เพื่อนเพื่อกวนประสาท

    "อรุณสวัสดิครับคุณฮิบาริ"สึนะพูดยิ้มๆแล้วเหลือบไปมองซาโบที่ยืนทะเลาะ(?)กบเพื่อนอยู่

    "พี่อากิระให้ทำถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย"เจ้าของผมสีน้ำตาลถามต่อแอบหลุดขำเล้กน้อยที่เห็นประกายตาความไม่พอใจของคนผมดำ

    "เออสิ  ไอ้บ้านี่ใครจะอยากให้มันมาตรวจตรารักษาระเบียบวะ เป็นตัวแหกเองเลยแท้"ฮิบาริสบถ

    "เอาน่า   ยังไงซะแฟมมิลี่ของเราก็เป็นพันธมิตรกัน  สนิทๆกับเขาไว้หน่อยก็ดีผมว่าคุ๊ฮิบาริกับเขาก็ดูสนิทกันดีออกนี่"สึนะเกือบจะหลุดหัวเราะเมื่อเขาพูดคำว่า'สนิท'  ออกมาฮิบาริก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นเบะหน้าแหยๆแทน 

                      แต่ก็เหมือนที่เขาพูด.....ไม่มีใครพูดจิกกัดและก่อกวนฮิบาริให้อารมณ์ขึ้นๆลงๆอย่างนี้ได้นอกจากมุคุโร่ที่ฮิบาริสนิทที่สุดอีกแล้ว ส่วนเขาที่เป็นบอสเองก็มองคนที่เป็นทั้งผู้พิทักษ์เพื่อนร่วมสู้และเพื่อนรุ่นพี่ออกว่า เจ้าตัวฮิบาริเองก็ค่อนข้างเปิดใจกับเซย์ทีเดียว  ส่วนไอ้เรื่องที่พวกนั้นปิดบังเอาไว้.....ถ้าหากมันเป็นอันตรายต่อแฟมมิลี่และพวกพ้องของเขาขึ้นมา.....ซาวาะ สึนะโยชิ ก็พร้อมที่บดขยี้ให้เซอบีรัสแหลกแม้คนที่ต้องต่อกรด้วยจะเป็น ผู้ค้าอาวุธที่ใหญ่อันดับต้นๆของทวีปก็ตาม   แต่ในตอนนี้.....แค่สังเกตุการณ์ไปก่อนก็ได้...น่าสนุกดี......

    "นายกำลังไม่ไว้ใจพวกนั้น?"ฮิบาริเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง สายตายคมมองไปทางเรนะ ซาโย และ โยรุ

    "หื้ม  รู้ด้วยเหรอ"สึนะยิ้มอีกครั้งแต่เป็นรอยยิ้ม'หายนะ'น่ะนะ...

    "สัมผัสได้"

    "อื้ม  ก็อย่างนั้นแหละครับ  พวกนั้นกำลังปิดบังบางอย่าง  และความลับนั้นเราไม่อาจจะรู้ได้ว่าเป็นภัยต่อเซอบีรัสเอง หรือจะ ต่อเนื่องมาถึงเราด้วย  ยังไงผมก็อยากจะลองสังเกตุและจับผิดเองดูก่อน  ไม่อย่างนั้นก็คงต้องบีบให้รินโดยอมคายออกมาให้ได้"สึนะยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเหี้ยเกรียม

    "ให้ตายสิ  ไม่คิดว่าคนอย่างนายจะยิ้มแบบนี้เป็น"ฮิบาริพูด

    "ก็...เพราะมันเกี่ยวกับพวกคุณเกี่ยวกับคนของผม...เพื่อนของผม"

                        สึนะหลับตาขณะที่พูดเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งนัยน์ตาสีน้ำตาลคมเข้มกลับดูเศร้าสร้อยจนใบหน้าเหี้ยมกรียมเมื่อกี้มลายหายไป.....เหลือเพียงใบหน้าของชายผู้แบกรับทุกสิ่งพร้อมจะโอบล้อมทุกอย่าง...นถา....หากแต่เป็นนถาที่แสนเศร้า...

    "ผมจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์มันซำรอยอีกเด็ดขาด"นัยน์ตาสีน้ำตาลเด็ดเดี่ยวแต่ฉายแววประกายความเศร้าเจือปนสั่นไหวในขณะที่พูด

    "........"ฮิบาริเหลือบสายตาไปมองพวกตัวปัญหาอีกรอบ ก่อนจะถอนหายใจ .....ไม่ใช่แค่นายที่เสียใจนะซาวาดะ สึนะโยชิ  ทุกคนก็เหมือนกันแหละ.....


    "เฮ้!! มัวแต่คุยอะไรน่ะสึนะ  รีบขึ้นห้องเรียนเถอะเดี๋ยวเราจะมีประชุมเกี่ยวกับการแสดงตอนไปค่ายนะ"โยรุที่เดินไปในโรงเรียนแล้วตะโกนเรียก   

    "อ่าๆ  ลืมไปเลยแฮะ  งั้นผมขอตัวนะครับคุณฮิบาริ"สึนะเอานิ้วเกาข้างแก้มเหมือนเป็นนิสัยติดตัวเวลาตัวเองลืมอะไรหรือเก้อเขินอะไรบางอย่าง   ร่างสูงเจ้าของผมสีน้ำตาลยิ้มอีกครั้ง คราวนี้เป็นรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นและแฝงไปด้วยความสุขเล็กๆ...


                        เมื่อพวกสึนะลับายตาไปเหลือเพียงซาโยที่ยืนพิงประตูฝั่งขวาขมวดคิ้วหน้าาบูดบึ้งแถมยังบ่นงึมงัมอะไรสักอย่างเกี่ยวกับข้าว  ฮิบาริหันไปมองร่างติดจะบางของคุคาบาระ เซย์.....ให้ตายสิ! กลุ่มนี้ทำไมมันมีแต่ผู้ชายตัวบางๆวะ 

    "มองอะไร"ซาโยที่เริ่มโมโหหิวจนพาลถามเสียงห้วน

    "ไปกินข้าวไป"

    "หา จริงดิO_O"ซาโยถามด้วยเสียงตื่นเต้น

    "เออ"

    "แต๊งกิ้วววว บุญคุณนี้จะไม่ลืมมมม"ว่าแล้วเจ้าตัวปัญหาก็รีบวิ่งโกยเข้าโรงเรียนมุ่งหน้าไปทางโรงอาหารทันที

    ฮิบาริ๔อนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะยิ้มบางๆออกมา เป็นรอยยิ้มที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นนัก
                        
    "บางที่เจ้าพวกนั้นอาจจะไม่ได้ทำให้อะไรๆเลวร้ายลงหรอกซาวาดะ  มันอาจจะดีขึ้นก็ได้"ฮิบาริพูดกับตัวเอง  เขายังจำรอยยิ้มเมื่อกี้ิ้ที่ซาวาดะ สึนะโยชิยิ้มได้  เขาไม่เห็นประกายแบบนี้มานานแล้ว....แม้แต่ตัวเขาเอง....ก็ต้องยอมรับว่า..ตั้งแต่พวกเด็กใหม่พวกนี้เข้ามา  อะไรๆก็ดูมีสีสันขึ้นมาพอตัวทีเดียว



    +++++++++++++++++++++++++

    จบตอนแล้วค่าาาา

    มาทิ้งระเบิด55555

    มาปล่อยปมไว้  ให้ทายสิว่าปมนี้คืออะไร5555

    เรื่องเฉลยก็คงอีกสี่ห้าตอนข้างหน้านี่แหละค่ะ(มั้งนะ)

    บอกแล้วนะว่าฟิคนี้ครบรส5555

    เอารูปมาฝากด้วค่ะ

    เราวาดเล่น   พอนึกภาพฉากนี้แล้วมันขำยังไงไม่รู้

    ตอนนี้คู่เอกเราขอยกให้ สึนะโยรุ   รองลงมาที่ฮาปนน่ารักสำหรับเราก็มุคุชินินี่แหละค่ะ

    รีบวาดวาดเล่นตามฟิลลิ่งเลยไม่ได้ตัดเส้นดีๆ ลงเนี้ยบๆ เอามให้เห็นฟิลลิ่งเฉยๆ








    เจอกันตอนหน้าค่า   ขอบคุณที่ติดตามนะ  อ่านละก็เม้นด้วยยย

    เราขอกำลังใจจจจจ 








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×