ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    i d e a. ♥

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter II

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8
      0
      31 ส.ค. 57

    Chapter II

              9.46 PM at Newyork International  Airport

              มีสามคำวนอยู่ในหัวฉันตอนนี้  ง่วง  หิว  และรำคาญ

              เสียงโหวกเหวกโวยวายอยู่รอบตัวฉัน  มีคนหลายคนลงจากเครื่องแล้ววิ่งไปกระโดดกอดพวกญาติๆ(ฉันเดาเอง)  หลายคนเดินลากกระเป๋าช้าๆแล้วยิ้มให้สนามบิน (เพื่ออะไรวะ)  บางคนลงจากเครื่องก็กางแผนที่ทันที ( ไม่สิ  ฉันเห็นเขาดูมาตั้งแต่บนเครื่องแล้ว  อยากถามจังว่ายังดูไม่เสร็จอีกหรือไง)  บางคนก็เดินลากกระเป๋าดุ่มๆแล้วขึ้นแท็กซี่ไปเลย (ฉันอยากทำแบบนั้น  แต่อย่างที่คุณรู้  พ่อแม่ฉันอยู่ในจำพวกกลุ่มคนที่ยิ้มให้อากาศในสนามบิน) 

              ยังไงก็ช่าง  ถ้าตอนนี้ฉันไม่หิวและง่วง  ฉันเดาว่าภาพน่ารักๆพวกนี้คงทำให้ฉันยิ้มได้  แต่ตอนนี้ฉันง่วงและหิวมากโว้ยยย

              “แม่คะ  ซักทีเถอะ”  ให้เดาว่าฉันพูดภาษาอะไร

              “ให้เกียรติสถานที่หน่อยเธญ่า นี่นิวยอร์คจ้ะ”  ถูกเผง ฉันพูดภาษาฝรั่งเศส

              พ่อหัวเราะหึๆแล้วโอบไหล่แม่  แอบเห็นพ่อกระซิบอะไรซักอย่างที่ข้างหูแล้วแม่ก็หน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาทันที  ฉันหันหน้าหนี  ภาพนั้นเพิ่มอารมณ์หงุดหงิดฉันขึ้นมานิดหน่อย  ฉันอยากใช้โทรศัพท์  แต่ตอนนี้ฉันยังไม่มีซิมส์ใหม่ มันคงไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่ถ้าฉันจะโทรศัพท์ข้ามประเทศขนาดนั้น

              “ซื้อซิมส์ใหม่ให้หนูก่อนกลับบ้านนะคะ  หนูต้องใช้โทรศัพท์”

              …            

     

     

     

              ก่อนถึงบ้านเราแวะห้างกันนิดหน่อยเพื่อซื้อของใช้จำเป็น  แม่ซื้อพวกอาหารแห้งสำหรับพรุ่งนี้เช้า  เราซื้อแค่มื้อเดียวเพราะตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะออกมาซื้อรอบใหญ่อีกที  ส่วนฉันซื้อซิมส์โทรศัพท์ใหม่  แต่พอใส่เข้าไปมันดันบอกว่าให้รอจูนสัญญาณ  ในประเทศที่แสนเจริญนี่การหาคลื่นมันยากขนาดนั้นเลยหรอวะ  ฉันรอจนมันขึ้นข้อความให้ปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่  พอลองทำแบบนั้นปรากฏว่าแบตฯหมด  เวรเหอะ  ฉันแหกตารอเพื่ออะไร

              “แม่คะ  โทรศัพท์บ้านใช้ได้รึยัง”

              “ได้จ้ะ  แม่นึกว่าเราหลับไปนานแล้วซะอีก”

              “ไม่ง่วงค่ะ”  เออ ฉันโกหก

              “หรอจ๊ะ  โทรข้ามประเทศมันแพงนะ เบาๆหน่อยแล้วกัน”  ฉันหยุดกึก..

              “คงไม่แพงเท่าค่าเครื่องบินแล้วก็ค่ายัดหนูกลางเทอมที่นี่หรอกค่ะ  หนูไม่ได้อยากมาด้วยซ้ำ”

              “อยู่บนความเป็นจริงหน่อยเธญ่า  ลูกอยู่ที่นั่นคนเดียวไม่ได้หรอก เอาเถอะ จะโทรก็โทร  เราไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันเรื่องนี้หรอกนะ  เราคุยกันแล้วนี่นา”

              “ค่ะ เราคุยกันแล้ว หนูเลยคิดว่าแม่จะเข้าใจถ้าค่าโทรศัพท์หนูคงแพงมาก”

              แม่ถอนหายใจใส่ฉันแล้วเดินขึ้นห้องไป  ฉันมองตามนิดหน่อยก่อนจะหันมากดโทรศัพท์ตรงหน้า  ไม่จำเป็นต้องมีสมุดโทรศัพท์เพราะฉันจำเบอร์นี่ได้แม่นสุดๆเลยล่ะ

              Rrrrrr..  Rrrrrr..

              “ใครน่ะ”  ฉันลองเงียบ เธียหรอ..  ใช่เธอหรือเปล่า”  ยิ้มแล้ว J

              “อาฮะ”

              “ปลอดภัยใช่ไหม  ฉันพยายามโทรหาเธอแต่ไม่ติด”  ฉันชอบน้ำเสียงเป็นห่วงของเขา J

              “แบตฯหมดน่ะ”

              “อืม  เธอมีเบอร์ใหม่หรือยัง  เบอร์นี้เบอร์บ้านใช่ไหม  เบอร์มือถือเธอล่ะ”

              “นี่เบอร์บ้าน  เบอร์มือถือเดี๋ยวใช้โทรไปพรุ่งนี้แล้วกัน”

              “โอเค  อยากนอนไหม  นั่งเครื่องบินเหนื่อยน่าดู ฮ่ะๆ”

              .. นี่”  ฉันเรียกเขาเบาๆพร้อมกับนึกถึงใบหน้าของเขา  รอยยิ้มหวานของเขา   แล้วน้ำตาก็รื้นขึ้นมา

              “หืม”  เสียงเขาอบอุ่นสำหรับฉันเสมอ

              ” ฉันพูดไม่ออก แต่ว่า..

              “ฉันรู้เธีย  ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกัน”  น้ำตาฉันไหลออกมา  โทเบียสคือแฟนคนแรกของฉัน  คนที่ทำให้ฉันยอมเปิดรับเขาเข้ามาอยู่ในโลกของฉัน  ใครๆก็บอกว่าฉันเข้าใจยาก  ฉันไม่ค่อยพูดแต่โทเบียสเหมือนมีมนต์วิเศษ  เขาอ่านใจฉันออก  เขารู้ว่าฉันรู้สึกอะไร  ทุกครั้งที่มีเขาอยู่ข้างๆฉันก็รู้ว่าฉันไม่ต้องการอะไรอีก  ทุกครั้งที่เรากอดกันฉันได้ยินเสียงหัวใจเขาและฉันเต้นดังเสมอ  มันทำให้ฉันรู้สึกพิเศษ  ทุกอย่างในตัวเขาทำให้ฉันกลายเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก

              “อยากกอดนายชะมัด”

              “ฉันจะไปหาเธอ จำได้ใช่ไหม”

              “อืม”

              “เข้มแข็งนะเธีย  อยู่ที่นั่นเธอต้องพูดบ้างรู้ไหม  ไม่มีใครเข้าใจเธอง่ายๆเหมือนฉันหรอกนะ”

             

              “เธอโทรหาฉันได้ตลอดเวลาเลยนะ  ไม่ต้องสนหรอกว่าจะกี่โมง  ฉันมีเวลาให้เธอตลอดอยู่แล้ว”  ฉันเดาออกเลยว่าตอนเขาพูดประโยคนี้สายตาเขาจะอบอุ่นขนาดไหน  นั่นทำให้ฉันทรมานกว่าเดิม

             

              “ฉันรักเธอนะ  เจ้าหญิง”

              ใช่  ฉันคือเจ้าหญิง  แล้วเขาก็คือองครักษ์  เขาบอกฉันแบบนั้นเสมอ J

     

     

     

     

     

     

     

    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×