คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter II
Chapter II
9.46 PM at Newyork International Airport
มีสามคำวนอยู่ในหัวฉันตอนนี้ ง่วง หิว และรำคาญ
เสียงโหวกเหวกโวยวายอยู่รอบตัวฉัน มีคนหลายคนลงจากเครื่องแล้ววิ่งไปกระโดดกอดพวกญาติๆ(ฉันเดาเอง) หลายคนเดินลากกระเป๋าช้าๆแล้วยิ้มให้สนามบิน (เพื่ออะไรวะ) บางคนลงจากเครื่องก็กางแผนที่ทันที ( ไม่สิ ฉันเห็นเขาดูมาตั้งแต่บนเครื่องแล้ว อยากถามจังว่ายังดูไม่เสร็จอีกหรือไง) บางคนก็เดินลากกระเป๋าดุ่มๆแล้วขึ้นแท็กซี่ไปเลย (ฉันอยากทำแบบนั้น แต่อย่างที่คุณรู้ พ่อแม่ฉันอยู่ในจำพวกกลุ่มคนที่ยิ้มให้อากาศในสนามบิน)
ยังไงก็ช่าง ถ้าตอนนี้ฉันไม่หิวและง่วง ฉันเดาว่าภาพน่ารักๆพวกนี้คงทำให้ฉันยิ้มได้ แต่ตอนนี้ฉันง่วงและหิวมากโว้ยยย
“แม่คะ ซักทีเถอะ” ให้เดาว่าฉันพูดภาษาอะไร
“ให้เกียรติสถานที่หน่อยเธญ่า นี่นิวยอร์คจ้ะ” ถูกเผง ฉันพูดภาษาฝรั่งเศส
พ่อหัวเราะหึๆแล้วโอบไหล่แม่ แอบเห็นพ่อกระซิบอะไรซักอย่างที่ข้างหูแล้วแม่ก็หน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาทันที ฉันหันหน้าหนี ภาพนั้นเพิ่มอารมณ์หงุดหงิดฉันขึ้นมานิดหน่อย ฉันอยากใช้โทรศัพท์ แต่ตอนนี้ฉันยังไม่มีซิมส์ใหม่ มันคงไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่ถ้าฉันจะโทรศัพท์ข้ามประเทศขนาดนั้น
“ซื้อซิมส์ใหม่ให้หนูก่อนกลับบ้านนะคะ หนูต้องใช้โทรศัพท์”
…
ก่อนถึงบ้านเราแวะห้างกันนิดหน่อยเพื่อซื้อของใช้จำเป็น แม่ซื้อพวกอาหารแห้งสำหรับพรุ่งนี้เช้า เราซื้อแค่มื้อเดียวเพราะตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะออกมาซื้อรอบใหญ่อีกที ส่วนฉันซื้อซิมส์โทรศัพท์ใหม่ แต่พอใส่เข้าไปมันดันบอกว่าให้รอจูนสัญญาณ ในประเทศที่แสนเจริญนี่การหาคลื่นมันยากขนาดนั้นเลยหรอวะ ฉันรอจนมันขึ้นข้อความให้ปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่ พอลองทำแบบนั้นปรากฏว่าแบตฯหมด เวรเหอะ ฉันแหกตารอเพื่ออะไร
“แม่คะ โทรศัพท์บ้านใช้ได้รึยัง”
“ได้จ้ะ แม่นึกว่าเราหลับไปนานแล้วซะอีก”
“ไม่ง่วงค่ะ” เออ ฉันโกหก
“หรอจ๊ะ โทรข้ามประเทศมันแพงนะ เบาๆหน่อยแล้วกัน” ฉันหยุดกึก..
“คงไม่แพงเท่าค่าเครื่องบินแล้วก็ค่ายัดหนูกลางเทอมที่นี่หรอกค่ะ หนูไม่ได้อยากมาด้วยซ้ำ”
“อยู่บนความเป็นจริงหน่อยเธญ่า ลูกอยู่ที่นั่นคนเดียวไม่ได้หรอก เอาเถอะ จะโทรก็โทร เราไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันเรื่องนี้หรอกนะ เราคุยกันแล้วนี่นา”
“ค่ะ เราคุยกันแล้ว หนูเลยคิดว่าแม่จะเข้าใจถ้าค่าโทรศัพท์หนูคงแพงมาก”
แม่ถอนหายใจใส่ฉันแล้วเดินขึ้นห้องไป ฉันมองตามนิดหน่อยก่อนจะหันมากดโทรศัพท์ตรงหน้า ไม่จำเป็นต้องมีสมุดโทรศัพท์เพราะฉันจำเบอร์นี่ได้แม่นสุดๆเลยล่ะ
Rrrrrr.. Rrrrrr..
“ใครน่ะ” ฉันลองเงียบ “เธียหรอ.. ใช่เธอหรือเปล่า” ยิ้มแล้ว J
“อาฮะ”
“ปลอดภัยใช่ไหม ฉันพยายามโทรหาเธอแต่ไม่ติด” ฉันชอบน้ำเสียงเป็นห่วงของเขา J
“แบตฯหมดน่ะ”
“อืม เธอมีเบอร์ใหม่หรือยัง เบอร์นี้เบอร์บ้านใช่ไหม เบอร์มือถือเธอล่ะ”
“นี่เบอร์บ้าน เบอร์มือถือเดี๋ยวใช้โทรไปพรุ่งนี้แล้วกัน”
“โอเค อยากนอนไหม นั่งเครื่องบินเหนื่อยน่าดู ฮ่ะๆ”
“.. นี่” ฉันเรียกเขาเบาๆพร้อมกับนึกถึงใบหน้าของเขา รอยยิ้มหวานของเขา แล้วน้ำตาก็รื้นขึ้นมา
“หืม” เสียงเขาอบอุ่นสำหรับฉันเสมอ
“…” ฉันพูดไม่ออก แต่ว่า..
“ฉันรู้เธีย ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกัน” น้ำตาฉันไหลออกมา โทเบียสคือแฟนคนแรกของฉัน คนที่ทำให้ฉันยอมเปิดรับเขาเข้ามาอยู่ในโลกของฉัน ใครๆก็บอกว่าฉันเข้าใจยาก ฉันไม่ค่อยพูดแต่โทเบียสเหมือนมีมนต์วิเศษ เขาอ่านใจฉันออก เขารู้ว่าฉันรู้สึกอะไร ทุกครั้งที่มีเขาอยู่ข้างๆฉันก็รู้ว่าฉันไม่ต้องการอะไรอีก ทุกครั้งที่เรากอดกันฉันได้ยินเสียงหัวใจเขาและฉันเต้นดังเสมอ มันทำให้ฉันรู้สึกพิเศษ ทุกอย่างในตัวเขาทำให้ฉันกลายเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก
“อยากกอดนายชะมัด”
“ฉันจะไปหาเธอ จำได้ใช่ไหม”
“อืม”
“เข้มแข็งนะเธีย อยู่ที่นั่นเธอต้องพูดบ้างรู้ไหม ไม่มีใครเข้าใจเธอง่ายๆเหมือนฉันหรอกนะ”
“…”
“เธอโทรหาฉันได้ตลอดเวลาเลยนะ ไม่ต้องสนหรอกว่าจะกี่โมง ฉันมีเวลาให้เธอตลอดอยู่แล้ว” ฉันเดาออกเลยว่าตอนเขาพูดประโยคนี้สายตาเขาจะอบอุ่นขนาดไหน นั่นทำให้ฉันทรมานกว่าเดิม
“…”
“ฉันรักเธอนะ เจ้าหญิง”
ใช่ ฉันคือเจ้าหญิง แล้วเขาก็คือองครักษ์ เขาบอกฉันแบบนั้นเสมอ J
ความคิดเห็น