ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( fic exo ) 'ลูกหมายอล เลี้ยงไม่ยากหรอก' - krisyeol

    ลำดับตอนที่ #2 : ♡ chapter two ; สถานรับเลี้ยงหมา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.62K
      18
      3 ก.ค. 57

    C h a p t e r    t w o

     

     สถานรับเลี้ยงหมา

     

     

     

    โอ้ยยยยยย อยากจะสกรีมออกมาดังๆเหมือนได้ไปดูคอนเสิร์ต linkin park =[]= !!! นี่มันเพิ่งจะเจ็ดโมงเองนะเว้ย ขอกูใช้เวลาอันแสนสุขบนที่นอนนุ่มๆอย่างนี้ไม่ได้หรือไร ~~ 

     

     

    "ลงไปจากที่นอนกูนะ !!" 

    แผล็บ แผล็บ ~

     

     

    "กูสนุกกับมึงมั้ยเนี่ยยย ไอ้หมาเน่าข้างถนน!" หมดความอดทนเต็มทีแล้ว ทั้งชีวิตผมไม่เคยมีอะไรมาก่อกวนขนาดนี้ ถ้าเป็นคนก็พอคุยรู้เรื่องนะ แต่นี่หมาครับหมา ทำเป็นอยู่อย่างเดียวคือเห่าไง -  -;




    ผมชันตัวลุกขึ้นมองรอบๆห้องพบว่าทุกอย่างยังปกติดี ไอ้หมานั่นสงสัยจะเพิ่งตื่นเหมือนกัน ผมเห็นกล่องที่ห่อมันมาเมื่อคืนนอนตะแคงอยู่ที่พื้น หลังจากที่ผมตวาดมันไป ดูท่าจะจ๋อยไปครับมันลงไปนั่งที่พื้นแล้วแห่นๆแทะๆกล่องของมันไป

     

     

    ผมตาสว่างแล้วล่ะคงนอนต่อไม่ไหว อีกอย่างผมก็ไม่มั่นใจว่ามันจะเกิดซนไปกัดงานผมหรือไม่ คิดไปคิดมาเลยลุกไปเก็บของแก้เซ็งซะเลย ไหนๆก็มีเรียนบ่ายอยู่แล้ว 

     

     

    ผมหยิบนั่นหยิบนี่ไปเรื่อย จนเรียกได้ว่าทั้งห้องเกือบจะสะอาดนี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่ผีขยันเข้าสิ่งร่าง -,-

     

    คร้อกกกก ~

     

     

    ผมลูบท้องตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามื้อสุดท้ายของเมื่อวานคือแอลกอฮอล์ ผมหันรีหันขวาไปในครัวก่อนจะหยิบจาจังมยอนซองสุดท้ายออกมา แต่แล้วขณะที่กำลังแกะซอง ก็รู้สึกถึงสายตามุ้งมิ้งที่ส่งมา

    แฮ่ก แฮ่ก

    "หึ หิวล่ะสิท่า" ผมกระตุกยิ้มอย่างมีชัย (เอ้ะ?) แล้วเดินไปกดน้ำร้อน กลิ่นหอมๆของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลอยโชยมา ผมไม่รอช้าวางมันลงที่โต๊ะทานข้าวแล้วจัดการอาหารตรงหน้าทันที 

     

     

    "ซูดดดดดด ~" 

    ('')

     

    "โกร๊กกกกกกก อา..หร่อยว่ะแ ม่ง"

    ('')

     

     

     

    "แจ้บ แจ้บ.."

    เดี๋ยวนะ..รู้สึกถึงแรงกดดันบางอย่าง
    ('')

     

    "ฮึ้ยยย ไอ้จงอินกูเกลียดมึง !" ผมร้องระบายออกมาอย่างเหลืออด นึกออกแล้วที่มันนั่งตาแป๋วอยู่นี่เพราะหิวแน่นอน ไอ้ผมก็ลืมไป...นั่งยัดจาจังมยอนจนอิ่มแปล้ 

     

     

     

    ปึง !
    ผมลุกพรวดก่อนจะกระชากประตูตู้เย็นออกหาวัตถุดิบ รื้อๆค้นๆอยู่นานก็เจอผักเน่า นมบูด ขนมปังขึ้นรา และอีกมากมาย เกือบสิ้นหวังแต่สุดท้ายก็เจอแพ็คไส้กรอกที่เขาลดราคา จำได้ว่าเพิ่งซื้อเมื่อสองวันก่อน

     

     

     

    ผมฉีกซองมันออกแล้วยัดเข้าไมโครเวฟ รอเพียงสองนาทีสัญญาณติ๊งก็ดัง ควันลอยฉุยออกมาแม้แต่ผมที่อิ่มแล้วยังอยากกินอีก ผมวางจานนั้นลงและคิดว่าจะไม่ใช้จานนั้นอีกตลอดกาล ก่อนที่ไอ้ตัวดีจะวิ่งปรี่มาดมตามเสต็ปหมา

     

    งับ !
    "หงิงงงงง ~!"

     



     

    "มันร้อนเนี่ย มึงก็ด่วนกินจังงง" ผมสบถอีกครั้ง มองภาพไอ้หมาน้อยคายไส้กรอกออกมา ไม่วายครางหงิงๆนั่นอีก เหนื่อยใจชิบหายแต่สุดท้ายผมก็ต้องมานั่งบิมันออกเป็นชิ้นเล็กๆให้เพื่อระบายความร้อน

    ดีเนาะ..คนกินบะหมี่ซอง หมากินไส้กรอกยี่ห้ออย่างดี

     

     

     

    หลังจากอิ่มท้องแล้วผมก็เปลี่ยนมานั่งเช็คงาน อ่านชีทความรู้เมื่อวานซ้ำอีกหน่อย ฆ่าเวลารอไปมหาลัย ผมตั้งใจว่าจะไปกินข้าวเที่ยงที่นู่นเลย จะได้ไม่ต้องลำบากหา เมื่อกวาดสายตาลงไปสองสามครั้งพอให้ผ่านตาเรียบร้อยแล้ว ผมเลยลุกขึ้นเก็บชีทเข้าที่เดิมซึ่งแน่นอนว่าผมเปลี่ยนตำแหน่งให้ของสำคัญอยู่สูงขึ้นจากเดิมเพื่อป้องกันไอ้หมามาทำลาย 

     

     

    ~ ไอ้จงอินกาก is calling ~

     

    "แสนรู้มากครับเพื่อน ได้โปรดมารับกูที" 

    [กูคิดค่าน้ำมัน]

    "ไอ้งก รอรถกูออกจากอู่ก่อนเถอะ"

    [เออๆ เดี๋ยวซิ่งไปหา]

    กริ้ก !

     

     

     

    ผมถอนหายใจออกอย่างเซ็งๆ รถก็ดันซวยจอดอยู่มหาลัยดีๆก็โดนอะไรไม่รู้ตกใส่ กระจกนี่หักกระดอน ไฟหน้าแตก อย่าให้พ่อรูเนะว่าเป็นใคร ฮึ่มมมมจะเรียกเงินเอาให้แม่ งไม่มีไว้ซื้อข้าวกินเลย

     

     


    "เออ..แล้วถ้ากูไปมึงอย่าซนนะเว้ย อย่าเสียงดังด้วย" ผมชี้หน้ามัน เสี้ยวหนึ่งมันมองผมเหมือนเข้าใจแต่สุดท้ายก็กลายเป็นแววตาซุกซนเหมือนเดิม ผมตรวจสิ่งของเล็กน้อยก่อนจะออกจากห้อง ไม่ลืมที่จะล็อคประตูข้างนอกอย่างแน่นหนา ถ้าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ผมคงต้องระเห็จเตร็ดเตร่หาหอใหม่เป็นแน่

     

     

    "หมาเป็นไงมั่งวะมึง?"

     

    "กูตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงอะ.."

     

     

    "พาหมาไปเดินเล่น?"

     

    "เดินเล่นบ้านมึงสิครับ !! มันขึ้นที่นอนมาปลุกกูเนี่ย เลียจนหน้ากูจะขึ้นสิวแล้ว" แหยะ พูดแล้วหยะแหยงว่ะ หน้าผมนี่ราคาสูงนะใช้หากินได้ -.-

     

    "เห้ยแ ม่งแสนรู้ หมาบ้านกูยังฝึกตั้งนาน"

     

    "มึงก็เอาไปเพิ่มอีกตัวดิ รวมของเก่าเป็นสี่ครบคู่นะเว้ยย" ผมเกลี้ยกล่อมมันเต็มกำลัง แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นเสียงเนือยๆของไอ้จงอินแทน

     

    "ไม่ใช่กูไม่อยากเอานะเว้ย แต่ที่บ้านแม่กูเลี้ยงคนเดียวไง พี่สาวกูก็ต้องไปทำงาน"

    มันว่าอย่างจริงจัง ผมแม่ งก็คงทำไรไม่ได้ ทำเพียงพยักหน้าเห็นใจมันไปก็เท่านั้น

     

    "เดี๋ยวมันโตกว่านี้มึงค่อยเอาไปปล่อยก็ได้"

     

     

    โอ้มายเฟรนด์..กูจะนับวันรอเลยว่ะ 

     

     

     

    และแล้วช่วงเวลาอันแสนทรมานหัวใจก็ผ่านพ้นไปด้วยดี สามชั่วโมงเต็มๆกับการนั่งฟังบรรยายสลับกับเลคเชอร์ นี่บางทียังนึกอิจฉาทศกัณฐ์ที่ทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันได้ เฮ้อผมถอนหายใจเป็นรอบที่ล้าน วาดฝันไว้ว่าเมื่อถึงหอจะล้มตัวลงนอนแล้วหลับแบบทั้งชุดนักศึกษานี่แหละ =  =

     

     

    เห้ย คริสทางนี้ !!” ผมหันขวับทันทีเมื่อได้ยินคนเรียกชื่อของตัวเอง ผมปรือตาเหนื่อยๆแล้วเดินไปหาพวกไอ้จงอินที่อยู่ตรงม้านั่งหน้าคณะของผมเอง นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องอาศัยรถมันกลับบ้านผมจะแสร้งทำเป็นหูตึงแล้วเดินจากไปอะจริงๆ

     

     

    มาๆนั่งก่อนมันกวาดเอาขนมนมเนยทั้งหลายที่กินแล้วจนพร่องไปกว่าครึ่งไว้อีกฝั่งและเจียดที่นั่งอันน้อยนิดมาให้ผม

     

     

    ได้ข่าวว่าเก็บหมามาเลี้ยงเหรอ ?

     

    ไปเจอที่ไหนอ่ะ อยากเห็นนน

     

     

    เอาล่ะครับข่าวนี่ไวอย่างกับมีเหยี่ยวข่าวดาวกระจายมาอยู่ใกล้ตัว ผมชำเลืองมองมนุษย์ส่วนสูงไม่ถึงร้อยแปดสิบสองคนที่รัวคำถามทันทีที่ผมหย่อนก้นลงนั่ง ทำงานได้ดีจริงๆนะ

     

     

    ก็อืมเรียกว่าถูกยัดเยียดมากกว่าผมเหน็บแนมไอ้คนข้างๆสองคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วอย่างไอ้จงอินและไอ้เทา เหอะบังคับจิตใจผมไม่พอ ยังเอาข่าวไปแพร่ให้สุดที่รักของพวกมันฟังอีก

     

     

    ใจหล่อมากอะ งื้ออ > <”

     

     

    เอ๋อ..ที่บ้านหมีก็เลี้ยงตั้งสามตัวนะ ทำไมไม่เห็นชมแบบนี้มั่ง- -“ เอาล่ะครับ ไอ้จงอินผู้มีพลังวิเศษปล่อยรัศมีหึงได้ทุกที่กำลังแผ่กระจายออร่าอำมหิตออกมาซะแล้ว

     

    ก็เคยพูดไปแล้วไง จำไม่ได้เหรอ ?ไม่ยอมครับคยองซูคนดีหันขวับไปเถียงอย่างเป็นจริงเป็นจัง

     

     

    ไม่รู้อะ จะโกรธด้วย

     

    กูว่าพวกมึงเริ่มไร้สาระแล้วนะ

     

     

    ช่างดิ เค้าไม่ง้อหมีหรอก คนไม่มีเหตุผล!”

     

    เออ เอาเข้าไป - -

     

     

    แล้วหมามีชื่อยังอะ?ระหว่างที่ผมปล่อยให้ไอ้คู่รักหมีเอ๋อปะทะคารมกันด้วยเรื่องเท่าตูดมดกันไป แบคฮยอนแฟนจื่อเทาก็ชะโงกหน้ามาถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

     

     

    ยังอะ

     

     

    งั้นเดี๋ยวฉันช่วยตั้ง ชื่อปอร์เช่เป็นไง หรือเอาโตโยต้า โคโรล่า อัลติส..” กูว่าเริ่มเลยเถิดไปอีกคน

     

     

    ไม่เห็นเค้าท่าเลยป๋าย เอาแบบจีนๆดิเท่กว่าตั้งเยอะนั่นไงเมื่อมีฝ่ายเสนอ มันมักจะมีฝ่ายค้านทันที

     

     

    ก็ไม่เอาอะ =[]= !!!” แบคฮยอนหันไปโวยวายก่อนจะใช้มือตีแขนแฟนตัวเองไปมา รายนั้นน่ะเหรอจะกล้าหือ มันก็ยอมให้แค่แบคฮยอนแฟนมันคนเดียวแหละนะ

     

     

    ผมส่ายหน้าเบาๆให้กับไอ้พวกโลกนี้มีแต่เราสอง สีชมพูกันเข้าไปนะมึง ไม่ใช่อะไรหรอกแต่เห็นแล้วมันก็อดเหงาไม่ได้ ไม่ใช่ว่าผมไม่มีใครเข้ามานะ แต่ทุกคนที่ผ่านมาผมก็รู้ดีว่าต้องการอะไร มันน้อยจริงๆถ้าจะหาคนที่เข้าใจเราสักคน

     

     

    ปัก !!

     

    ผมสะดุ้งโหยงก่อนจะเปลี่ยนจุดโฟกัสสายตามาที่ไอ้เด็กมาใหม่ ไอ้เซฮุนเดินมากระแทกแก้วชานมไข่มุกสุดหวงแหนลงบนโต๊ะจนสะเทือน เราทุกคนนิ่งเงียบเตรียมรับสถานการณ์คุกรุ่นที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

     

    มึงเป็นห่าไรเนี่ย?ผมถามทันทีที่มันใช้มือปัดๆเศษขนมบนม้ายาวฝั่งแบคฮยอนแล้วนั่งลงด้วยความฉุนเฉียว

     

     

    แม่ งขี้…”

     

     

    กูบอกมึงแล้วว่าอยากแดกเยอะไอ้ชาไข่มุกเนี่ย ขี้แข็งเลยหงุดหงิดสิท่า -.-“ ด้วยความหวังดี ผมว่าอารมณ์ที่มันกำลังเป็นอยู่นี้คงเป็นเพราะดื่มไอ้ชาสังเคราะห์นี้ลงไปเยอะแหงๆ เลยได้หงุดหงิดท้องผูกแบบนี้

     

     

    โอ้ยพี่แ ม่ง !!! ฟังให้จบก่อนดิวะ ผมแค่จะบ่นว่าพี่ลู่ขี้งอนเฉยๆมันทึ้งหัวตัวเองจนยุ่งเหยิง ก่อนจะส่งสายตากร่นด่าในใจมาที่ผม อ้าวนี่กูห่วงมึงก็ผิดเหรอวะ ?

     

     

     

    ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ค่อยๆคุยกันดิ ไอ้ลู่มันงอนไม่นานหรอกถ้าไม่หายเดี๋ยวกูช่วยคุยให้ผมอาสา ถือว่าเป็นการแก้ความผิดให้ตัวเองแล้วกันนะ แหะๆ

     

     

    แล้วงอนกันเรื่องอะไรล่ะ

     

    แค่ผมบอกว่าจะไปย้อมสีผมเป็นสีใหม่แค่นั้นเองมันถอนหายใจยาวๆ ผมที่นั่งฟังมันระบายก็คว้าเอาแก้วชานมมันมาดูดเพลินๆ เคี้ยวเม็ดไข่มุกแบบหนุบหนับหนุบหนับ

     

     

    ก็ไม่เห็นแปลกนี่หว่า แล้วมึงจะทำสีไร

     

     

    สีรุ้ง

     

     

    พรวดดดดดดด !!!

     

    ไอ้เอี้ยอ้ออึงอ๋อนอ๋อ” (ไอ้เฮียพ่อ-มึงสอนเหรอ ?) ไอ้จงอินที่คว้าแก้วชานมไปดูดต่อถึงกับสำลักของเหลวออกมา แต่ไม่วายปากมันยังหุบเอาเม็ดไข่มุกเอาไว้ได้ ท่าทางจะเยอะด้วยแม่ งพูดไม่รู้เรื่องแล้วเนี่ย

     

     

    กูว่าถึงมึงจะมั่นในหน้าตาแต่กูว่าสีเบสิคก็โอแล้วป้ะวะไอ้เทามันรีบแทรกขึ้นมา ใช่ครับผมเห็นด้วยกับความคิดมัน

     

    ~ พี่ลู่กวางน้อยของเด็กฮุน is calling ~

     

    ฮัลโหล..” ยังไม่ทันขาดคำสายเรียกเข้าจากคู่กรณีก็ติดต่อมา พวกผมได้แต่นิ่งเงียบรอดูท่าทีไอ้เซฮุน

     

     

    งานเผือกต้องมา

     

     

    เค้าผิดไปแล้ว หายงอนนะเตง y___y”

     

    และสุดท้ายก็จบด้วยการง้อแฟนแก่ พวกผมพากันผลักหัวไอ้รุ่นน้องไปคนละทีสองทีด้วยความหมั่นไส้ เวลาโกรธกันกับลู่หานทีไรไอ้ฮุนมันมักจะมาระบายอารมณ์ที่พวกผมเสมอครับ เห็นพวกกูเป็นกระโถนหรือเปล่าไม่รู้

     

     

     

    18.30 น.

     

    ขอบใจมากเว้ย พรุ่งนี้รถกูก็ซ่อมเสร็จแล้วล่ะผมเอ่ยกับไอ้จงอินที่มีน้ำใจขับรถมาส่งที่หน้าหออยู่หลายวัน แต่อันที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ มันเอารถยนต์มาเพราะจะเลยไปส่งคุณคยองซูแฟนเอ๋อที่บ้านและบังเอิญหอผมเป็นทางผ่าน

    ไม่เป็นไรๆ งั้นกูขอเปลี่ยนค่าจ้างจากน้ำมัน เป็นน้ำเมาสักแก้วนะ

     

     

    ป้าบ !

     

     

    ผมหัวเราะร่วนกับแรงฟาดลงที่ต้นแขนอย่างแรงของมัน คาดว่าจะแสบๆคันๆน่าดู ฝีมือคนทำก็ไม่ใช่ใครหรอกครับ คนเอ๋ออยู่หน้ารถนั่นแหละเห็นหน้าตาซื่อๆงี้ มือไว มือหนัก ใช่ย่อยนะผมเห็นมาบ่อย -.-

     

     

    เมื่อมองพวกมันสองคนเคลื่อนรถออกไปสองเท้าของผมก็เดินไปยังเส้นทางหน้าหอเหมือนเดิม แต่ก่อนจะได้เหยียบบริเวณข้างใน หัวสมองมันก็นึกขึ้นได้ว่า ตายห่า..ไม่มีอะไรจะกินเลยนี่หว่า

     

     

    ผมถอยหลังกลับออกมา สถานที่พึ่งพาสุดท้ายคือมินิมาร์ทใกล้ๆกับหอนี่แหละครับ ผมเดินไปตามล็อคต่างๆสุดท้ายก็คว้าเอาอาหารจำพวกเวฟไว้กินได้หลายอย่าง เมื่อปริมาณเริ่มล้นตะกร้าก็เดินมารอเช็คเงินที่ตอนนี้มีคนต่อคิวข้างหน้าสักสองคนเห็นจะได้

     

     

    ผมมองไปเรื่อยๆด้วยความใจเย็น แต่แล้วกลับต้องชะงักเมื่อเหลือบไปเห็นซองขนาดไม่ใหญ่นักแต่ข้างในบรรจุอาหารเม็ดไว้เป็นกิโล ข้างหน้ามีหน้าน้องหมาหลากสายพันธุ์ยิ้มแป้นอยู่ ในทันใดผมก็เริ่มเหงื่อตกขึ้นมาทันที

     

     

     

    เอาไงดีวะ

     

    ตอนนี้คิวต่อไปก็เป็นผมแล้ว เหลือบมองอาหารแช่แข็งของตัวเองสลับกับไอ้อาหารหมานั่นรัวๆ ผมล้วงเอากระเป๋าเงินออกมาก่อนจะกางมันออกนับจำนวนข้างใน

     

     

     

     

    มีอาหารสุนัขแล้วก็อาหารแช่แข็งสองกล่องนะคะคือคุณพนักงานสาวสวยครับไม่ต้องทวนรายการก็ด้ายยยยยยยยยย T[]T ฟังแล้วมันเสียใจไง ฮืออไอ้อาหารนั่นถึงเล็กๆแต่แพงบรม ผมจำเป็นต้องเอาจาจังมยอนรสโปรดไปวางไว้คืนแล้วเลี้ยวกลับมาหยิบไอ้ถุงนี้มาแทน

     

     

     

    โชคดีสุดๆที่วันนี้คุณป้าเฉิ่มเบ๊อะไม่มานั่งแจกรอยยิ้มที่เคาท์เตอร์ทางเข้า ผมจึงแอบนำอาหารสุนัขเข้าไปได้อย่างสะดวกไร้ซึ่งคนจับผิด รู้สึกว่าตัวเองเหมือนโดนสูบพลังงานไปเยอะ เมื่อหยุดอยู่หน้าประตูห้องตัวเองผมแทบอยากจะถีบมันเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอด

     

     

    บ๊อก บ๊อก แฮ่ๆทันทีที่ผมสอดตัวเข้าไปข้างใน ไอ้หมาตัวดีก็ปรี่เข้ามากระตุกขากางเกงผมไม่วายกระดิกหางสั้นๆของมันให้เห็นดุ๊กดิ๊ก แต่นี่มันกางเกงกูเว้ยยยย ซื้อมาแค่สามตัวถ้าตัวนี้ขาดไปกูจะเอาตัวไหนใส่เพิ่มมมมม

     

     

    ปล่อย !”

     

     

    บ๊อก บ๊อก

     

    ยังยังอีก

     

     

    ไอ้นี่ เดี๋ยวจับทำลูกชิ้นหมาซะนี่ ปล่อย !!”

     

     

    แฮ่ก แฮ่กๆ

     

     

    ผมจ้องมันเขม็ง แต่มีหรือที่มันจะเข้าใจ มิหนำซ้ำยังกระโดดสองขามาเกาะหน้าแข้งผมอีก เอาล่ะเย็นหนอ เย็นหนอ

     

     

    ฟุบ !

     

    ผมก้มลงไปคว้าไอ้ตัวกระเปี้ยกขึ้นมา มันดูจะชอบใจหรือกลัวก็ไม่รู้จู่ๆก็นิ่งไปเฉยเลย ฉันจะเรียกแกว่าไอ้ดื้อ แกมันดื้อ เข้าใจมั้ย?

     

     

     

    - - - - - - - - - - -

    5555555 พี่คริสเจอศึกหนักแล้วล่ะ นี่ยังแค่เบสิคนะ -.- บอกเลยว่ายังต้องเหนื่อยอีกเยอะ

    แต่อย่างน้อยเจ้าหมาก็ได้ชื่อไปแล้วนะ ไอ้ดื้อจะจริงสมกับที่พี่คริสบอกหรือเปล่า คอยติดตามนะ

    บ๊อก บ๊อก

     

    - - - - - - - - - - -



    themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×