คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ♡ chapter two ; สถานรับเลี้ยงหมา
C h a p t e r t w o
♥
สถานรับเลี้ยงหมา
โอ้ยยยยยย อยากจะสกรีมออกมาดังๆเหมือนได้ไปดูคอนเสิร์ต linkin park =[]= !!! นี่มันเพิ่งจะเจ็ดโมงเองนะเว้ย ขอกูใช้เวลาอันแสนสุขบนที่นอนนุ่มๆอย่างนี้ไม่ได้หรือไร ~~
"ลงไปจากที่นอนกูนะ !!"
แผล็บ แผล็บ ~
"กูสนุกกับมึงมั้ยเนี่ยยย ไอ้หมาเน่าข้างถนน!" หมดความอดทนเต็มทีแล้ว ทั้งชีวิตผมไม่เคยมีอะไรมาก่อกวนขนาดนี้ ถ้าเป็นคนก็พอคุยรู้เรื่องนะ แต่นี่หมาครับหมา ทำเป็นอยู่อย่างเดียวคือเห่าไง - -;
ผมชันตัวลุกขึ้นมองรอบๆห้องพบว่าทุกอย่างยังปกติดี ไอ้หมานั่นสงสัยจะเพิ่งตื่นเหมือนกัน ผมเห็นกล่องที่ห่อมันมาเมื่อคืนนอนตะแคงอยู่ที่พื้น หลังจากที่ผมตวาดมันไป ดูท่าจะจ๋อยไปครับมันลงไปนั่งที่พื้นแล้วแห่นๆแทะๆกล่องของมันไป
ผมตาสว่างแล้วล่ะคงนอนต่อไม่ไหว อีกอย่างผมก็ไม่มั่นใจว่ามันจะเกิดซนไปกัดงานผมหรือไม่ คิดไปคิดมาเลยลุกไปเก็บของแก้เซ็งซะเลย ไหนๆก็มีเรียนบ่ายอยู่แล้ว
ผมหยิบนั่นหยิบนี่ไปเรื่อย จนเรียกได้ว่าทั้งห้องเกือบจะสะอาดนี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่ผีขยันเข้าสิ่งร่าง -,-
คร้อกกกก ~
ผมลูบท้องตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามื้อสุดท้ายของเมื่อวานคือแอลกอฮอล์ ผมหันรีหันขวาไปในครัวก่อนจะหยิบจาจังมยอนซองสุดท้ายออกมา แต่แล้วขณะที่กำลังแกะซอง ก็รู้สึกถึงสายตามุ้งมิ้งที่ส่งมา
แฮ่ก แฮ่ก
"หึ หิวล่ะสิท่า" ผมกระตุกยิ้มอย่างมีชัย (เอ้ะ?) แล้วเดินไปกดน้ำร้อน กลิ่นหอมๆของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลอยโชยมา ผมไม่รอช้าวางมันลงที่โต๊ะทานข้าวแล้วจัดการอาหารตรงหน้าทันที
"ซูดดดดดด ~"
('●')
"โกร๊กกกกกกก อา..หร่อยว่ะแ ม่ง"
('●')
"แจ้บ แจ้บ.."
เดี๋ยวนะ..รู้สึกถึงแรงกดดันบางอย่าง
('●')
"ฮึ้ยยย ไอ้จงอินกูเกลียดมึง !" ผมร้องระบายออกมาอย่างเหลืออด นึกออกแล้วที่มันนั่งตาแป๋วอยู่นี่เพราะหิวแน่นอน ไอ้ผมก็ลืมไป...นั่งยัดจาจังมยอนจนอิ่มแปล้
ปึง !
ผมลุกพรวดก่อนจะกระชากประตูตู้เย็นออกหาวัตถุดิบ รื้อๆค้นๆอยู่นานก็เจอผักเน่า นมบูด ขนมปังขึ้นรา และอีกมากมาย เกือบสิ้นหวังแต่สุดท้ายก็เจอแพ็คไส้กรอกที่เขาลดราคา จำได้ว่าเพิ่งซื้อเมื่อสองวันก่อน
ผมฉีกซองมันออกแล้วยัดเข้าไมโครเวฟ รอเพียงสองนาทีสัญญาณติ๊งก็ดัง ควันลอยฉุยออกมาแม้แต่ผมที่อิ่มแล้วยังอยากกินอีก ผมวางจานนั้นลงและคิดว่าจะไม่ใช้จานนั้นอีกตลอดกาล ก่อนที่ไอ้ตัวดีจะวิ่งปรี่มาดมตามเสต็ปหมา
งับ !
"หงิงงงงง ~!"
"มันร้อนเนี่ย มึงก็ด่วนกินจังงง" ผมสบถอีกครั้ง มองภาพไอ้หมาน้อยคายไส้กรอกออกมา ไม่วายครางหงิงๆนั่นอีก เหนื่อยใจชิบหายแต่สุดท้ายผมก็ต้องมานั่งบิมันออกเป็นชิ้นเล็กๆให้เพื่อระบายความร้อน
ดีเนาะ..คนกินบะหมี่ซอง หมากินไส้กรอกยี่ห้ออย่างดี
หลังจากอิ่มท้องแล้วผมก็เปลี่ยนมานั่งเช็คงาน อ่านชีทความรู้เมื่อวานซ้ำอีกหน่อย ฆ่าเวลารอไปมหาลัย ผมตั้งใจว่าจะไปกินข้าวเที่ยงที่นู่นเลย จะได้ไม่ต้องลำบากหา เมื่อกวาดสายตาลงไปสองสามครั้งพอให้ผ่านตาเรียบร้อยแล้ว ผมเลยลุกขึ้นเก็บชีทเข้าที่เดิมซึ่งแน่นอนว่าผมเปลี่ยนตำแหน่งให้ของสำคัญอยู่สูงขึ้นจากเดิมเพื่อป้องกันไอ้หมามาทำลาย
~ ไอ้จงอินกาก is calling ~
"แสนรู้มากครับเพื่อน ได้โปรดมารับกูที"
[กูคิดค่าน้ำมัน]
"ไอ้งก รอรถกูออกจากอู่ก่อนเถอะ"
[เออๆ เดี๋ยวซิ่งไปหา]
กริ้ก !
ผมถอนหายใจออกอย่างเซ็งๆ รถก็ดันซวยจอดอยู่มหาลัยดีๆก็โดนอะไรไม่รู้ตกใส่ กระจกนี่หักกระดอน ไฟหน้าแตก อย่าให้พ่อรูเนะว่าเป็นใคร ฮึ่มมมม…จะเรียกเงินเอาให้แม่ งไม่มีไว้ซื้อข้าวกินเลย
"เออ..แล้วถ้ากูไปมึงอย่าซนนะเว้ย อย่าเสียงดังด้วย" ผมชี้หน้ามัน เสี้ยวหนึ่งมันมองผมเหมือนเข้าใจแต่สุดท้ายก็กลายเป็นแววตาซุกซนเหมือนเดิม ผมตรวจสิ่งของเล็กน้อยก่อนจะออกจากห้อง ไม่ลืมที่จะล็อคประตูข้างนอกอย่างแน่นหนา ถ้าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ผมคงต้องระเห็จเตร็ดเตร่หาหอใหม่เป็นแน่
"หมาเป็นไงมั่งวะมึง?"
"กูตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงอะ.."
"พาหมาไปเดินเล่น?"
"เดินเล่นบ้านมึงสิครับ !! มันขึ้นที่นอนมาปลุกกูเนี่ย เลียจนหน้ากูจะขึ้นสิวแล้ว" แหยะ พูดแล้วหยะแหยงว่ะ หน้าผมนี่ราคาสูงนะใช้หากินได้ -.-
"เห้ยแ ม่งแสนรู้ หมาบ้านกูยังฝึกตั้งนาน"
"มึงก็เอาไปเพิ่มอีกตัวดิ รวมของเก่าเป็นสี่ครบคู่นะเว้ยย" ผมเกลี้ยกล่อมมันเต็มกำลัง แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นเสียงเนือยๆของไอ้จงอินแทน
"ไม่ใช่กูไม่อยากเอานะเว้ย แต่ที่บ้านแม่กูเลี้ยงคนเดียวไง พี่สาวกูก็ต้องไปทำงาน"
มันว่าอย่างจริงจัง ผมแม่ งก็คงทำไรไม่ได้ ทำเพียงพยักหน้าเห็นใจมันไปก็เท่านั้น
"เดี๋ยวมันโตกว่านี้มึงค่อยเอาไปปล่อยก็ได้"
โอ้มายเฟรนด์..กูจะนับวันรอเลยว่ะ
และแล้วช่วงเวลาอันแสนทรมานหัวใจก็ผ่านพ้นไปด้วยดี สามชั่วโมงเต็มๆกับการนั่งฟังบรรยายสลับกับเลคเชอร์ นี่บางทียังนึกอิจฉาทศกัณฐ์ที่ทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันได้ เฮ้อ…ผมถอนหายใจเป็นรอบที่ล้าน วาดฝันไว้ว่าเมื่อถึงหอจะล้มตัวลงนอนแล้วหลับแบบทั้งชุดนักศึกษานี่แหละ = =
“เห้ย คริสทางนี้ !!” ผมหันขวับทันทีเมื่อได้ยินคนเรียกชื่อของตัวเอง ผมปรือตาเหนื่อยๆแล้วเดินไปหาพวกไอ้จงอินที่อยู่ตรงม้านั่งหน้าคณะของผมเอง นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องอาศัยรถมันกลับบ้านผมจะแสร้งทำเป็นหูตึงแล้วเดินจากไปอะจริงๆ
“มาๆนั่งก่อน” มันกวาดเอาขนมนมเนยทั้งหลายที่กินแล้วจนพร่องไปกว่าครึ่งไว้อีกฝั่งและเจียดที่นั่งอันน้อยนิดมาให้ผม
“ได้ข่าวว่าเก็บหมามาเลี้ยงเหรอ ?”
“ไปเจอที่ไหนอ่ะ อยากเห็นนน”
เอาล่ะครับข่าวนี่ไวอย่างกับมีเหยี่ยวข่าวดาวกระจายมาอยู่ใกล้ตัว ผมชำเลืองมองมนุษย์ส่วนสูงไม่ถึงร้อยแปดสิบสองคนที่รัวคำถามทันทีที่ผมหย่อนก้นลงนั่ง ทำงานได้ดีจริงๆนะ
“ก็อืม…เรียกว่าถูกยัดเยียดมากกว่า” ผมเหน็บแนมไอ้คนข้างๆสองคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วอย่างไอ้จงอินและไอ้เทา เหอะ…บังคับจิตใจผมไม่พอ ยังเอาข่าวไปแพร่ให้สุดที่รักของพวกมันฟังอีก
“ใจหล่อมากอะ งื้ออ > <”
“เอ๋อ..ที่บ้านหมีก็เลี้ยงตั้งสามตัวนะ ทำไมไม่เห็นชมแบบนี้มั่ง- -“ เอาล่ะครับ ไอ้จงอินผู้มีพลังวิเศษปล่อยรัศมีหึงได้ทุกที่กำลังแผ่กระจายออร่าอำมหิตออกมาซะแล้ว
“ก็เคยพูดไปแล้วไง จำไม่ได้เหรอ ?” ไม่ยอมครับคยองซูคนดีหันขวับไปเถียงอย่างเป็นจริงเป็นจัง
“ไม่รู้อะ จะโกรธด้วย”
กูว่าพวกมึงเริ่มไร้สาระแล้วนะ
“ช่างดิ เค้าไม่ง้อหมีหรอก คนไม่มีเหตุผล!”
เออ เอาเข้าไป - -
“แล้วหมามีชื่อยังอะ?” ระหว่างที่ผมปล่อยให้ไอ้คู่รักหมีเอ๋อปะทะคารมกันด้วยเรื่องเท่าตูดมดกันไป แบคฮยอนแฟนจื่อเทาก็ชะโงกหน้ามาถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ยังอะ”
“งั้นเดี๋ยวฉันช่วยตั้ง ชื่อปอร์เช่เป็นไง หรือเอาโตโยต้า โคโรล่า อัลติส..” กูว่าเริ่มเลยเถิดไปอีกคน
“ไม่เห็นเค้าท่าเลยป๋าย เอาแบบจีนๆดิเท่กว่าตั้งเยอะ” นั่นไงเมื่อมีฝ่ายเสนอ มันมักจะมีฝ่ายค้านทันที
“ก็ไม่เอาอะ =[]= !!!” แบคฮยอนหันไปโวยวายก่อนจะใช้มือตีแขนแฟนตัวเองไปมา รายนั้นน่ะเหรอจะกล้าหือ มันก็ยอมให้แค่แบคฮยอนแฟนมันคนเดียวแหละนะ
ผมส่ายหน้าเบาๆให้กับไอ้พวกโลกนี้มีแต่เราสอง สีชมพูกันเข้าไปนะมึง ไม่ใช่อะไรหรอกแต่เห็นแล้วมันก็อดเหงาไม่ได้ ไม่ใช่ว่าผมไม่มีใครเข้ามานะ แต่ทุกคนที่ผ่านมาผมก็รู้ดีว่าต้องการอะไร มันน้อยจริงๆถ้าจะหาคนที่เข้าใจเราสักคน
ปัก !!
ผมสะดุ้งโหยงก่อนจะเปลี่ยนจุดโฟกัสสายตามาที่ไอ้เด็กมาใหม่ ไอ้เซฮุนเดินมากระแทกแก้วชานมไข่มุกสุดหวงแหนลงบนโต๊ะจนสะเทือน เราทุกคนนิ่งเงียบเตรียมรับสถานการณ์คุกรุ่นที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
“มึงเป็นห่าไรเนี่ย?” ผมถามทันทีที่มันใช้มือปัดๆเศษขนมบนม้ายาวฝั่งแบคฮยอนแล้วนั่งลงด้วยความฉุนเฉียว
“แม่ งขี้…”
“กูบอกมึงแล้วว่าอยากแดกเยอะไอ้ชาไข่มุกเนี่ย ขี้แข็งเลยหงุดหงิดสิท่า -.-“ ด้วยความหวังดี ผมว่าอารมณ์ที่มันกำลังเป็นอยู่นี้คงเป็นเพราะดื่มไอ้ชาสังเคราะห์นี้ลงไปเยอะแหงๆ เลยได้หงุดหงิดท้องผูกแบบนี้
“โอ้ยพี่แ ม่ง !!! ฟังให้จบก่อนดิวะ ผมแค่จะบ่นว่าพี่ลู่ขี้งอนเฉยๆ” มันทึ้งหัวตัวเองจนยุ่งเหยิง ก่อนจะส่งสายตากร่นด่าในใจมาที่ผม อ้าวนี่กูห่วงมึงก็ผิดเหรอวะ ?
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ค่อยๆคุยกันดิ ไอ้ลู่มันงอนไม่นานหรอกถ้าไม่หายเดี๋ยวกูช่วยคุยให้” ผมอาสา ถือว่าเป็นการแก้ความผิดให้ตัวเองแล้วกันนะ แหะๆ
“แล้วงอนกันเรื่องอะไรล่ะ”
“แค่ผมบอกว่าจะไปย้อมสีผมเป็นสีใหม่แค่นั้นเอง” มันถอนหายใจยาวๆ ผมที่นั่งฟังมันระบายก็คว้าเอาแก้วชานมมันมาดูดเพลินๆ เคี้ยวเม็ดไข่มุกแบบหนุบหนับหนุบหนับ
“ก็ไม่เห็นแปลกนี่หว่า แล้วมึงจะทำสีไร”
“สีรุ้ง”
พรวดดดดดดด !!!
“ไอ้เอี้ยอ้ออึงอ๋อนอ๋อ” (ไอ้เฮียพ่อ-มึงสอนเหรอ ?) ไอ้จงอินที่คว้าแก้วชานมไปดูดต่อถึงกับสำลักของเหลวออกมา แต่ไม่วายปากมันยังหุบเอาเม็ดไข่มุกเอาไว้ได้ ท่าทางจะเยอะด้วยแม่ งพูดไม่รู้เรื่องแล้วเนี่ย
“กูว่าถึงมึงจะมั่นในหน้าตาแต่กูว่าสีเบสิคก็โอแล้วป้ะวะ” ไอ้เทามันรีบแทรกขึ้นมา ใช่ครับผมเห็นด้วยกับความคิดมัน
~ พี่ลู่กวางน้อยของเด็กฮุน is calling ~
“ฮัลโหล..” ยังไม่ทันขาดคำสายเรียกเข้าจากคู่กรณีก็ติดต่อมา พวกผมได้แต่นิ่งเงียบรอดูท่าทีไอ้เซฮุน
งานเผือกต้องมา…
“เค้าผิดไปแล้ว หายงอนนะเตง y___y”
และสุดท้ายก็จบด้วยการง้อแฟนแก่ พวกผมพากันผลักหัวไอ้รุ่นน้องไปคนละทีสองทีด้วยความหมั่นไส้ เวลาโกรธกันกับลู่หานทีไรไอ้ฮุนมันมักจะมาระบายอารมณ์ที่พวกผมเสมอครับ เห็นพวกกูเป็นกระโถนหรือเปล่าไม่รู้
18.30 น.
“ขอบใจมากเว้ย พรุ่งนี้รถกูก็ซ่อมเสร็จแล้วล่ะ” ผมเอ่ยกับไอ้จงอินที่มีน้ำใจขับรถมาส่งที่หน้าหออยู่หลายวัน แต่อันที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ มันเอารถยนต์มาเพราะจะเลยไปส่งคุณคยองซูแฟนเอ๋อที่บ้านและบังเอิญหอผมเป็นทางผ่าน
“ไม่เป็นไรๆ งั้นกูขอเปลี่ยนค่าจ้างจากน้ำมัน เป็นน้ำเมาสักแก้วนะ”
ป้าบ !
ผมหัวเราะร่วนกับแรงฟาดลงที่ต้นแขนอย่างแรงของมัน คาดว่าจะแสบๆคันๆน่าดู ฝีมือคนทำก็ไม่ใช่ใครหรอกครับ คนเอ๋ออยู่หน้ารถนั่นแหละเห็นหน้าตาซื่อๆงี้ มือไว มือหนัก ใช่ย่อยนะผมเห็นมาบ่อย -.-
เมื่อมองพวกมันสองคนเคลื่อนรถออกไปสองเท้าของผมก็เดินไปยังเส้นทางหน้าหอเหมือนเดิม แต่ก่อนจะได้เหยียบบริเวณข้างใน หัวสมองมันก็นึกขึ้นได้ว่า “ตายห่า..ไม่มีอะไรจะกินเลยนี่หว่า”
ผมถอยหลังกลับออกมา สถานที่พึ่งพาสุดท้ายคือมินิมาร์ทใกล้ๆกับหอนี่แหละครับ ผมเดินไปตามล็อคต่างๆสุดท้ายก็คว้าเอาอาหารจำพวกเวฟไว้กินได้หลายอย่าง เมื่อปริมาณเริ่มล้นตะกร้าก็เดินมารอเช็คเงินที่ตอนนี้มีคนต่อคิวข้างหน้าสักสองคนเห็นจะได้
ผมมองไปเรื่อยๆด้วยความใจเย็น แต่แล้วกลับต้องชะงักเมื่อเหลือบไปเห็นซองขนาดไม่ใหญ่นักแต่ข้างในบรรจุอาหารเม็ดไว้เป็นกิโล ข้างหน้ามีหน้าน้องหมาหลากสายพันธุ์ยิ้มแป้นอยู่ ในทันใดผมก็เริ่มเหงื่อตกขึ้นมาทันที
เอาไงดีวะ…
ตอนนี้คิวต่อไปก็เป็นผมแล้ว เหลือบมองอาหารแช่แข็งของตัวเองสลับกับไอ้อาหารหมานั่นรัวๆ ผมล้วงเอากระเป๋าเงินออกมาก่อนจะกางมันออกนับจำนวนข้างใน …
“มีอาหารสุนัขแล้วก็อาหารแช่แข็งสองกล่องนะคะ” คือคุณพนักงานสาวสวยครับไม่ต้องทวนรายการก็ด้ายยยยยยยยยย T[]T ฟังแล้วมันเสียใจไง ฮืออ…ไอ้อาหารนั่นถึงเล็กๆแต่แพงบรม ผมจำเป็นต้องเอาจาจังมยอนรสโปรดไปวางไว้คืนแล้วเลี้ยวกลับมาหยิบไอ้ถุงนี้มาแทน
โชคดีสุดๆที่วันนี้คุณป้าเฉิ่มเบ๊อะไม่มานั่งแจกรอยยิ้มที่เคาท์เตอร์ทางเข้า ผมจึงแอบนำอาหารสุนัขเข้าไปได้อย่างสะดวกไร้ซึ่งคนจับผิด รู้สึกว่าตัวเองเหมือนโดนสูบพลังงานไปเยอะ เมื่อหยุดอยู่หน้าประตูห้องตัวเองผมแทบอยากจะถีบมันเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอด
“บ๊อก บ๊อก แฮ่ๆ” ทันทีที่ผมสอดตัวเข้าไปข้างใน ไอ้หมาตัวดีก็ปรี่เข้ามากระตุกขากางเกงผมไม่วายกระดิกหางสั้นๆของมันให้เห็นดุ๊กดิ๊ก แต่นี่มันกางเกงกูเว้ยยยย ซื้อมาแค่สามตัวถ้าตัวนี้ขาดไปกูจะเอาตัวไหนใส่เพิ่มมมมม
“ปล่อย !”
“บ๊อก บ๊อก”
ยัง…ยังอีก…
“ไอ้นี่ เดี๋ยวจับทำลูกชิ้นหมาซะนี่ ปล่อย !!”
“แฮ่ก แฮ่กๆ”
ผมจ้องมันเขม็ง แต่มีหรือที่มันจะเข้าใจ มิหนำซ้ำยังกระโดดสองขามาเกาะหน้าแข้งผมอีก เอาล่ะ…เย็นหนอ เย็นหนอ…
ฟุบ !
ผมก้มลงไปคว้าไอ้ตัวกระเปี้ยกขึ้นมา มันดูจะชอบใจหรือกลัวก็ไม่รู้จู่ๆก็นิ่งไปเฉยเลย “ฉันจะเรียกแกว่าไอ้ดื้อ แกมันดื้อ เข้าใจมั้ย?”
- - - - - - - - - - -
5555555 พี่คริสเจอศึกหนักแล้วล่ะ นี่ยังแค่เบสิคนะ -.- บอกเลยว่ายังต้องเหนื่อยอีกเยอะ
แต่อย่างน้อยเจ้าหมาก็ได้ชื่อไปแล้วนะ ‘ไอ้ดื้อ’ จะจริงสมกับที่พี่คริสบอกหรือเปล่า คอยติดตามนะ
บ๊อก บ๊อก
- - - - - - - - - - -
ความคิดเห็น