ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    3 | THE GUARD ღ หัวใจเสี่ยงรัก ϟ

    ลำดับตอนที่ #12 : EP [11] ผู้ชายที่ชื่อว่า 'คิวกรณ์' ✓

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.61K
      111
      17 พ.ค. 64

     
     
       

    คิวไอวี่
    .
    .
    .


    EP [11] ผู้ชายที่ชื่อว่า 'คิวกรณ์' 


    รถเก๋งสีดำคันหรูจอดเทียบหน้าคฤหาสน์เรือนแก้วก่อนที่ผู้เป็นเจ้าของจะลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในตัวบ้าน พบเจอเหล่าคนดูแลบ้านก็ไม่มองไม่ทักใครทั้งสิ้นแล้วเดินขึ้นห้องไปอย่างเงียบๆ

    ทิมและบรรดาสาวใช้ค่อนข้างเป็นกังวลเพราะตั้งแต่ไปรับคุณหนูกลับมาจากงานเลี้ยงสายรหัสสีหน้าไม่สู้ดี อีกทั้งตอนลงรถมานั้นขอบตาก็แดงระเรื่อคล้ายกับเก็บกลั้นการร้องไห้เอาไว้ ทิมรีบโทรรายงานผู้เป็นนายอีกคนทันทีที่เห็นว่าเหตุการณ์ไม่ปรกติ ทว่าคนที่รับโทรศัพท์ของผู้เป็นนายกลับกลายเป็นเมืองสิงห์เสียได้

    “ฝากรายงานคุณคิวด้วยว่าตั้งแต่กลับมาจากงานเลี้ยงสายรหัสก็ผิดปรกติไป”

    ทิมกรอกเสียงผ่านโทรศัพท์เพื่อฝากเมืองสิงห์รายงานเจ้านายให้ เพราะหากคุณคิวที่รักความเป็นส่วนตัวแล้วให้เมืองสิงห์รับรับโทรศัพท์ให้แบบนี้มีอยู่เหตุผลเดียวก็คือกำลัง จัดการคนอยู่เป็นแน่

    (นายบอกว่าไม่ต้องไปกวนใจแล้วปล่อยให้คุณหนูได้อยู่คนเดียว)

    ทิมค่อนข้างจะเป็นห่วงอยากจะฝากเมืองสิงห์ไปบอกให้เจ้านายมาดูคุณหนูเสียหน่อย อย่างไรเสียหากคุณคิวมาก็คงจะช่วยทำอะไรได้บ้าง

    (อย่าห่วงไปเลย..จะมีใครเข้าใจคุณหนูเท่ากับคุณคิวกันถ้าหากบอกให้ปล่อยให้อยู่คนเดียวก็ควรจะทำตามคำสั่ง)

    ทิมยอมตัดใจวางสายแล้วมองประตูห้องคุณหนูอย่างเป็นห่วง

    อีกด้านหนึ่งเมืองสิงห์วางสายจากทิมก่อนที่จะหันไปมองภาพเบื้องหน้าด้วยสายตาเรียบนิ่ง เมืองสิงห์ได้รับคำสั่งจากเจ้านายให้ไป เชิญตัวชายหนุ่มสามคนมาพบ แรกเริ่มเมืองสิงห์ค่อนข้างแปลกใจที่ต้องไปพาบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับวงการหรือธุรกิจมาเพื่อ พูดคุยเป็นการส่วนตัว ทว่าพอได้รับโทรศัพท์จากทิมเมืองสิงห์ก็เริ่มจะเข้าใจ

    สาเหตุที่ทำให้คุณหนูของเรือนแก้วมีสภาพจิตใจไม่ปรกติคงจะมากชายหนุ่มทั้งสามคนที่กำลังโดนคุณคิว พูดคุยด้วยอย่างสะบักสะบอม

    ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงคิวที่ทำธุระกับชายทั้งสามคนเสร็จก็สั่งให้ลูกน้องพาไปปล่อยแล้วกำชับให้ปิดปากของคนทั้งสามให้สนิท

    “นายครับ ทิมโทรมารายงานเรื่องคุณหนูครับ” เมืองสิงห์ยื่นโทรศัพท์ให้กับเจ้านายก่อนจะยื่นผ้าชุบน้ำสะอาดเปียกหมาดๆ ให้เจ้านายเพื่อเอาไปเช็ดคราบเลือดที่ติดตามมือและแขน

    “อาทิตย์หน้าเปลี่ยนทีมฝึกซ้อมไอวี่จากทีม A เป็นทีม S ด้วย”

    คิวสั่งเมืองสิงห์จากนั้นก็ขึ้นไปด้านบนสุดของคาสิโน เมื่อขึ้นมาด้านบนคิวรีบปลดกระดุมเสื้อคลายความอึดอัด ปลดนาฬิกาแบรนด์เนมโยนไว้บนโต๊ะอย่างไม่นึกระวังหรือเสียดายว่ามันจะพังหรือเสียหายเลยแม้แต่น้อย คิวเอนหลังพิงเก้าอี้หลับตาลงเพื่อผ่อนคลายแต่ภายในหัวพลันคิดถึงเรื่องของวันนี้

    ก่อนที่คิวจะเลิกเรียนป้าของเขาโทรเข้ามาเพื่อเรียกไปพบ เรื่องเบาะแสสำคัญในวันที่เกิดอุบัติเหตุกับแม่และน้องสาวของเขา

    คิวแทรกซึมเข้ามาในตระกูลหงส์ฤดีเกียร์ติกุลนานมาพอสมควร สืบสาวเรื่องเก่าๆ เน่าเหม็นมากมายที่คนของตระกูลนี้ปกปิดเอาไว้ แน่นอนว่ามันมีเรื่องการตายของพ่อกับแม่ของคิวรวมอยู่ในนั้นด้วย

    ดวงตาของคิวเข้มขึ้นเมื่อนึกถึงอดีตอันแสนเจ็บปวด อดีตและความทรงจำที่เป็นความสุขเดียวของตนเองนั้นหายไป

    พ่อของคิวเป็นตำรวจสากลสังกัดหน่วยต่างประเทศ มีภารกิจหนึ่งที่ต้องมาจัดการที่ประเทศไทย ระหว่างนั้นพ่อได้พบรักกับแม่ ทั้งสองต่างแสดงตัวตนที่แท้จริงให้ฝ่ายตรงข้ามอย่างหมดเปลือก แน่นอนว่าเรื่องที่พ่อทำงานเป็นตำรวจสากลแม่เองก็รู้ด้วยเช่นกัน แม่ยอมรับทุกสิ่งที่พ่อเป็นจนในวันครบรอบที่ทั้งสองคบกันพ่อจึงได้โอกาสขอแม่แต่งงาน

    แม่ตกลงในทันทีโดยไม่ต้องคิดให้มากความ งานแต่งงานที่แสนเรียบง่ายก็พลันเกิดขึ้นในโบสถ์แห่งหนึ่ง พ่อเล่าว่าในวันนั้นจะมีเพียงพ่อและแม่และบาทหลวงเพียงแค่นั้นก็ตามแต่พ่อก็ยังรู้สึกตื่นเต้นมากอยู่ดี พิธีดำเนินไปโดยไม่มีแขกหรือพิธีการใดๆ ที่ซับซ้อน แค่ฟังบาทหลวงกล่าวแล้วแลกแหวนที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญก็เท่านั้น

    หลังงานแต่งงานพ่อไม่ได้สร้างบ้านหรือซื้อบ้านใหม่แต่ย้ายเข้าไปอยู่กับแม่แทน เหตุผลที่ทำอย่างนั้นเพราะว่ามันอันตรายเกินไปที่จะใช้ชื่อของพ่อในการทำสิ่งต่างๆ ในประเทศนี้ เพราะด้วยงานของพ่อที่ไม่สามารถประมาทได้จึงต้องระวังให้ได้มากที่สุด

    และเพราะด้วยงานของพ่อจึงต้องเทียวไปเทียวกลับระหว่างต่างประเทศกับประเทศไทยอย่างเงียบเชียบไร้ร่องรอยให้ใครตามได้ เพราะหากศัตรูรู้ว่าพ่อมีคนรักและครอบครัวก็จะแย่เอาได้

    จวบจนผ่านไปหนึ่งปีทั้งสองก็มีข่าวดีเกิดขึ้น แม่ตั้งท้องลูกชายและตั้งชื่อว่า คิรัวร์ นั่นก็คือคิว จากนั้นผ่านไปอีกหนึ่งปีก็ท้องอีกครั้งซึ่งครั้งนี้เป็นน้องสาวของเขาที่ชื่อ คิริณ นั่นก็คือแคลร์

    ทั้งสองคนใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข พ่อยังคงเทียวไปเทียวกลับระหว่างสองประเทศ บางครั้งด้วยความเหงาเป็นเหตุพ่อก็จะแอบหิ้วคิวกลับไปต่างประเทศด้วยโดยทำอย่างระมัดระวังให้มากที่สุด วันหยุดหรือวันพิเศษหากไม่ได้อยู่ด้วยกันแม่กับพ่อก็จะวีดีโอคอลหาแม่กับน้องเสมอ โดยนานๆ ครั้งถึงจะกลับไทยไปอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

    เวลาผ่านไปจนคิวอายุได้สี่ขวบปีและแคลร์อายุได้สองปีกว่าๆ พ่อจึงคิดถึงบั้นปลายชีวิตที่แสนสุข พ่อยื่นใบลาออกทว่าก่อนที่จะได้ออกจะต้องทำงานทิ้งทวนหนึ่งชิ้นและงานที่ว่านั่นก็คือตามสืบพวกลักลอบนำของผิดกฎหมายเข้าประเทศ

    ทว่าเพราะงานนั้นมันเกี่ยวพันถึงผู้มีอิทธิพลทั่วโลก กำลังคนที่พ่อเตรียมไปปะทะนั้นน้อยจนเกินไปจึงทำให้พลาดท่าเสียชีวิตลง

    คิวอาศัยอยู่กับพ่อจึงรู้เรื่องก่อนแม่และน้องสาวอีกทั้งคิวที่มีความคิดและสติปัญญามากกว่าเด็กทั่วไปจึงเข้าใจเรื่องยากๆ ที่แสนเศร้าได้อย่างรวดเร็ว

    งานศพของพ่อในต่างประเทศจัดเพียงไม่กี่วันโดยมีคิวทำหน้าที่ลูกชาย ส่วนแม่กับน้องสาวนั้นคิวก็ติดต่อไม่ได้ จนป้าที่ทำงานอยู่หน่วยเดียวกับพ่อเห็นความผิดปรกติจึงอาสากลับไปดูให้

    ทว่าเรื่องร้ายๆ ไม่ได้มีแค่เรื่องเดียว มันยังมีอีกเรื่องและเรื่องนั้นก็เกิดขึ้นเร็วมากจนคิวไม่ทันได้ตั้งตัวเลยแม้แต่น้อย เพราะวันที่เขากำลังร้องไห้อยู่หน้ากรอบรูปของพ่อคือวันที่แม่กับน้องสาวถูกรถชนพร้อมๆ กัน แม่ของคิวเสียชีวิตทันทีแต่น้องสาวของเขานั้นถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล

    และวันนั้นก็เป็นวันแรกและวันเดียวที่คิวร้องไห้หนักที่สุดในชีวิต..

    ตั้งแต่วันนั้นคิวก็คิดถึงอนาคตของตัวเองบอกป้าว่าจะตั้งใจเรียนและเป็นตำรวจสากลเหมือนกับพ่อ ป้าของคิวไม่ได้คัดค้านและไม่ใช่ว่าจะสนับสนุนคิวให้คิดแก้แค้นหรือทำเรื่องเสี่ยงอันตรายทว่าป้าเคารพในการตัดสินใจที่จะเลือกชีวิตต่อจากนี้ไปของคิว

    เมื่อคิวหนักแน่นในเป้าหมายของตัวเองป้าก็ลาออกจากองค์กรแล้วกลับไปดูแลน้องสาวของเขาที่ความจำเสื่อมจากอุบัติเหตุที่ผิดปรกตินั่นอย่างถาวร อาจเพราะแรงผลักดันที่ต้องการจะแก้แค้นและอยากจับตัวคนทำผิดจึงตั้งใจเรียนจนเรียนได้อันดับหนึ่งของรุ่นตำรวจสากล

    คิวติดต่อกับป้าอยู่เสมอและคอยส่งเงินในนามของพ่อให้กับแคลร์ในตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาโดยที่ปกปิดเรื่องที่พ่อเสียชิตไปแล้ว อาจเพราะเขาไม่รู้ว่าจะบอกกับแคลร์ยังไงและไม่อยากให้แคลร์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องอันตรายคิวจึงปกปิดเอาไว้ อีกอย่างคิวไม่อยากให้ใครรู้จุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวของเขา

    แคลร์ที่ก่อนหน้านี้ความจำเสื่อมจึงไม่รู้ว่ามีพี่ชายอย่างคิว แต่เพราะการรักษาตอนนี้ความทรงจำจึงกลับมาแล้ว และเป็นเขาเองที่เล่าทุกเรื่องให้แคลร์ได้รับรู้ ทั้งเรื่องพ่อและเรื่องเงินที่เขาเป็นคนส่งมา

    คิวทำงานเป็นตำรวจสากลอยู่นานทว่าระหว่างนั้นก็ไม่ได้ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ คิวพยายามสืบหาเรื่องราวการตายของพ่อและแม่โดยมีน้าสาวที่เป็นแฮกเกอร์ฝีมือดีที่ลาวงการไปแล้วคอยช่วย เหลือ ทว่าสิ่งที่เขากับป้าหานั้นช่างเป็นอะไรที่ยากเย็นนักเพราะคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นค่อนข้างจะมีอิทธิพล ทว่าก็ไม่เกินความสามารถของคิวกับป้า เพราะได้เบาะแสมาว่าฆ่าตกรเป็นใครสักคนในตระกูลใหญ่ในประเทศไทย

    ตระกูลหงส์ฤดีเกียร์ติกุลหรือที่ที่เขาทำงานให้อยู่ตอนนี้นั่นล่ะ..

    คิวแฝงตัวเข้ามาทำงานในตระกูลนี้โดยแกล้งจำความเสื่อม ก่อนหน้านั้นเขาให้เพื่อนสนิทรุ่นเดียวกันซ้อมจนยับเยินก่อนจะไปรอคอยในสถานที่ที่ผู้นำตระกูลนี้จะผ่านไปเห็น ..และใช่..คิวทำสำเร็จ

    ด้วยความที่แกล้งความจำเสื่อมคนของตระกูลนี้จึงรับเลี้ยงคิวและส่งไปฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ คิวแกล้งเรียนรู้ทั้งๆ ที่ความสามารถของเขานั้นพอๆ กับครูฝึกเลยด้วยซ้ำ หลังจากนั้นก็ทำงานให้กับหัวหน้าตระกูลนี้แล้วแอบสืบหาข้อมูลไปด้วย และระหว่างนั้นคิวก็พบเบาะแสหลายอย่างแต่ข้อมูลที่มีนั้นยังระบุตัวคนร้ายได้จึงต้องจำทนอยู่ต่อไป

    คิวได้บอกความจริงกับแคลร์ว่ามีจุดมุ่งหมายอะไรต่อจากนี้ ซึ่ง น้องสาวเขาเป็นคนดีเกินไปที่จะเห็นสิ่งที่คิวทำนั้นเป็นเรื่องดีแต่เธอก็ห้ามคิวไม่ได้จึงได้แต่เอาแต่เป็นห่วงอยู่แบบนั้น ทว่าคิวก็เบาใจที่แฟนของน้องสาวเขาคือเพื่อนสนิทที่สามารถปกป้องเธอได้จึงหมดห่วงไป

    คิวทำงานกับตระกูลนี้มา 2-3 ปีก็ได้โยกย้ายงาน จากที่รับคำสั่งโดยตรงจาก ไอศวรรย์ ผู้นำตระกูลเปลี่ยนมาเป็นดูแลหลานสาวแทน

    ไอวี่ คือคนที่คิวจะต้องดูแลทั้งความปลอดภัยและจัดการงานทั้งหลายที่เป็นชื่อของอีกฝ่าย แรกเริ่มคิวรู้ได้ในทันทีเลยว่าชีวิตที่แสนเงียบสงบจะต้องปั่นป่วนยุ่งยากไปมากกว่าเดิมเพราะต้องตามรับใช้เด็กสาวเอาแต่ใจและเขาก็รู้ด้วยว่าหญิงสาวแสดงกิริยาแบบนั้นก็เพื่ออะไร

    ไอวี่ชอบคิว..คิวรู้ข้อนี้ดีแต่ไม่คิดจะดึงไอวี่เข้ามาข้องเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้เพราะเห็นว่าไอวี่คล้ายกับแคลร์ในหลายๆ ความหมาย ทว่านานวันเข้าคิวได้รู้ความจริงอีกข้อหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการตายของพ่อกับแม่

    สิ่งที่เขารู้มาคืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับแม่และน้องสาวของเขานั้นมีพ่อและแม่ของไอวี่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นคิวจึงตัดสินใจในนาทีที่ได้รู้..

    ว่าระหว่างที่เขาหาความจริงเขาก็จะหลอกใช้ไอวี่ไปด้วย..

    รุ่นน้องสายรหัสทั้งสามคนของคิวเป็นผู้หญิง แน่นอนว่าคิวรู้ว่าทุกคนคิดอย่างไรกับตนเองแต่ก็ไม่ได้พูดหรือปฏิเสธอย่างจริงจัง เพราะพวกเธอทั้งสามจะต้องเป็นหมากให้คิวเดินอยู่สักระยะ ดังนั้นในงานเลี้ยงสายรหัสคิวจึงเมินไอวี่และทำตัวสนิทสนมกับรุ่นน้องในสายรหัสเพราะรู้ว่าจะทำให้ไอวี่ร้อนรนได้  

    ระหว่างนั้นโทรศัพท์ของคิวดังขึ้นจึงออกไปรับสายโดยที่ไม่รู้ว่าหลังจากที่ตนเองเดินออกไปสามสาวในสายรหัสพี่ระเบียบก็ทะเลาะกันก่อนจะแยกตัวกันกลับบ้านไป และคิวก็ไม่รู้ว่าจะมีหญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นเดือดเป็นร้อนกระวนกระวายหลังคิวและผู้หญิงทั้งสามหายไป  

    คิวคุยโทรศัพท์กับป้า เนื้อความของการพูดคุยคือการแก้โค้ดรหัสป้องกันของตระกูลหงส์ฤดีเกียร์ติกุลได้

    และไม่ใช่เพียงแค่นั้น ป้าของเขาขโมยข้อมูลมาได้ส่วนหนึ่งแต่มันก็เพียงเล็กน้อยที่ช่วยขยายสิ่งที่โสมมของตระกูลนิดเดียวก็เท่านั้น ทว่าพอคิวคุยโทรศัพท์เสร็จก็หันไปเห็นวัยรุ่นทั้งสามคนเข้าไปก้อร่อก้อติกไอวี่แล้วเหตุการณ์ก็ตามที่เกิดขึ้น

    ทว่าการที่คิวปล่อยให้ไอวี่เผชิญกับอันตรายแล้วแก้ไขปัญหาด้วยตนเองนั้นมันทำให้คิวเองเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมา ดวงตาฉายแต่ความหงุดหงิด ภายในหัวมีแต่คำคำหนึ่งดังร้องเตือนตลอดเวลา

    แย่แน่..ถ้าไม่รีบทำตามแผน..ทุกอย่างจะต้องพังแน่ๆ




    Talk

    ตอนนี้สั้นหน่อยนะคะ ของแถมจากตอนที่แล้วที่มีคนเม้นต์ให้

    ...

    อยากพูดถึงพี่คิวสักหน่อย ไรท์ไม่ปกปิดปมค่ะ

    เพราะเรื่องนี้มันออกแนวดราม่าเล็กๆ แต่จบแฮปปี้

    ก็เลยไม่อยากจะให้ต้องมานั่งปวดหัวเพราะปมพี่คิว

    ไปปวดหัวกับพี่คิวตอนกลางเรื่องดีกว่า

    แค่กๆๆ หลุดสปอยเลย


    อุอิๆๆๆ 


    ฝากเม้นต์ กดเฟบ ให้กำลังใจกันบ้างนะคะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×