อาหารที่น้องหมาน้องเเมวไม่ควรกิน
รู้ไว้ใช่ว่าน้องหมาปลอดภัย
ผู้เข้าชมรวม
233
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
อาหารที่สุนัขและแมวไม่ควรรับประทาน |
"ไข่ดิบ" แม้ว่าไข่จะมีประโยชน์ทำให้ร่างกายสุนัขและแมวแข็งแรง แต่ไม่ควรให้สุนัขและแมวรับประทานไข่ดิบ เนื่องจากในไข่ดิบมีแบคทีเรีย "หัวหอมและกระเทียม" มีส่วนประกอบของ thiosulphate ซึ่งมีฤทธิ์ทำลายผนังเซลล์ของเม็ดเลือดแดง ทำให้มีการนำเอา oxygen ไปใช้ไม่เพียงพอต่อร่างกายสุนัขและแมว ถึงแม้ว่าจะได้กินเพียงแค่ 2 ชิ้นต่อ 1 อาทิตย์ ก็เป็นปริมาณที่มากพอที่จะทำให้สุนัขมีอาการ อ่อนแอ เพลีย น้ำหนักลด ซึม ท้องเสีย อาเจียน หัวใจเต้น "ถั่วแมคคาดิเมีย" จากการวิจัยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสารชนิดใดในถั่วแมคคาดิเมียที่เป็นอันตรายต่อสุนัข อาการที่พบคือ เป็นไข้ ใจสั่น อาเจียน ปวดท้องรุนแรง ซี่โครงยุบตัว กล้ามเนื้ออ่อนแรงโดยเฉพาะขาหลัง หรือ อาจทำให้สองขาหลังเป็นอัมพาต โดยอาการดังกล่าวจะหายไปหลังจากสุนัขกินเป็นเวลา 72 ชั่วโมง ไม่พบว่าสุนัขจะเสียชีวิตจากการกินถั่วแมคคาดิเมีย นอกจากถั่วแมคคาดิเมียแล้วถั่วอื่นๆก็มีรายงานถึงความเป็นพิษ เนื่องจากมีสาร Phosphorus เป็นจำนวนมากซึ่งจะทำให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ "มันฝรั่งดิบ" มันฝรั่งสุกนั้นมีประโยชน์สำหรับสุนัขเนื่องจากเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต แต่มันฝรั่งดิบโดยเฉพาะมันฝรั่งดิบที่มีสีเขียว จะมีส่วนประกอบพวก solanum alkaloids ซึ่งจะทำให้สุนัขมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย น้ำลายฟูมปาก ถ้ากินในปริมาณมากอาจทำให้เสียชีวิตได้ "อโวคาโด" เป็นผลไม้ที่มีไขมันมาก ซึ่งจะทำให้เกิดอาการปวดท้องและอาเจียนได้ ถ้ารับประทานในปริมาณมากจะทำให้ตับอ่อนอักเสบ นอกจากนี้ ในอโวคาโดยังมีสาร persin ซึ่งเป็นสารที่ทำให้หัวใจและปอดทำงานล้มเหลวได้ "องุ่นและลูกเกด" องุ่นหรือลูกเกดเพียง 6 ลูกก็เพียงพอที่จะเป็นอันตรายต่อสุนัข ถึงแม้ว่าจะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสารชนิดใดในองุ่นและลูกเกดที่เป็นอันตรายต่อสุนัข อาการที่พบคือ อาเจียน ท้องเสีย ไม่อยากอาหาร ปวดท้องรุนแรง อ่อนแรง จนในที่สุดทำให้ไตวายและเสียชีวิตตามมาได้ "มะเขือเทศ"มะเขือเทศดิบเป็นอันตรายมากกกว่ามะเขือเทศสุก เนื่องจากมีสาร atropine ซึ่งอาการที่พบคือ ม่านตาขยาย ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วและแรงกว่าปกติ "เกลือและน้ำปลา" |
ผลงานอื่นๆ ของ little monster ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ little monster
อาหารที่สุนัขและแมวไม่ควรรับประทาน
ไข่ดิบ"
อาการที่พบคือ อ่อนแรง ขนร่วง ถ้าระดับไวตามิน B ลดลงอย่างมากจะพบว่าสุนัขและแมวเจริญเติบโตช้าและกระดูกมีการเจริฐเติบโตที่ผิดปกติไป
แม้ว่าไข่จะมีประโยชน์ทำให้ร่างกายสุนัขและแมวแข็งแรง แต่ไม่ควรให้สุนัขและแมวรับประทานไข่ดิบ เนื่องจากในไข่ดิบมีแบคทีเรีย
"หัวหอมและกระเทียม"
มีส่วนประกอบของ thiosulphate ซึ่งมีฤทธิ์ทำลายผนังเซลล์ของเม็ดเลือดแดง ทำให้มีการนำเอา oxygen ไปใช้ไม่เพียงพอต่อร่างกายสุนัขและแมว ถึงแม้ว่าจะได้กินเพียงแค่ 2 ชิ้นต่อ 1 อาทิตย์ ก็เป็นปริมาณที่มากพอที่จะทำให้สุนัขมีอาการ อ่อนแอ เพลีย น้ำหนักลด ซึม ท้องเสีย อาเจียน หัวใจเต้น
"ถั่วแมคคาดิเมีย"
จากการวิจัยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสารชนิดใดในถั่วแมคคาดิเมียที่เป็นอันตรายต่อสุนัข อาการที่พบคือ เป็นไข้ ใจสั่น อาเจียน ปวดท้องรุนแรง ซี่โครงยุบตัว กล้ามเนื้ออ่อนแรงโดยเฉพาะขาหลัง หรือ อาจทำให้สองขาหลังเป็นอัมพาต โดยอาการดังกล่าวจะหายไปหลังจากสุนัขกินเป็นเวลา 72 ชั่วโมง ไม่พบว่าสุนัขจะเสียชีวิตจากการกินถั่วแมคคาดิเมีย นอกจากถั่วแมคคาดิเมียแล้วถั่วอื่นๆก็มีรายงานถึงความเป็นพิษ เนื่องจากมีสาร Phosphorus เป็นจำนวนมากซึ่งจะทำให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้"มันฝรั่งดิบ"
มันฝรั่งสุกนั้นมีประโยชน์สำหรับสุนัขเนื่องจากเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต แต่มันฝรั่งดิบโดยเฉพาะมันฝรั่งดิบที่มีสีเขียว จะมีส่วนประกอบพวก solanum alkaloids
ซึ่งจะทำให้สุนัขมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย น้ำลายฟูมปาก ถ้ากินในปริมาณมากอาจทำให้เสียชีวิตได้
"อโวคาโด"
เป็นผลไม้ที่มีไขมันมาก ซึ่งจะทำให้เกิดอาการปวดท้องและอาเจียนได้ ถ้ารับประทานในปริมาณมากจะทำให้ตับอ่อนอักเสบ นอกจากนี้ ในอโวคาโดยังมีสาร persin
ซึ่งเป็นสารที่ทำให้หัวใจและปอดทำงานล้มเหลวได้
องุ่นหรือลูกเกดเพียง 6 ลูกก็เพียงพอที่จะเป็นอันตรายต่อสุนัข ถึงแม้ว่าจะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสารชนิดใดในองุ่นและลูกเกดที่เป็นอันตรายต่อสุนัข
อาการที่พบคือ อาเจียน ท้องเสีย ไม่อยากอาหาร ปวดท้องรุนแรง อ่อนแรง จนในที่สุดทำให้ไตวายและเสียชีวิตตามมาได้
"มะเขือเทศ"มะเขือเทศดิบเป็นอันตรายมากกกว่ามะเขือเทศสุก เนื่องจากมีสาร atropine ซึ่งอาการที่พบคือ ม่านตาขยาย ใจสั่น หัวใจเต้น
อาหารสุนัขที่ปรุงเองโดยการใส่เกลือหรือน้ำปลาเข้าไปเพื่อให้มีความน่ากิน หลายครั้งที่พบว่าเจ้าของสุนัขและแมวไม่ได้ชิมเลย การใส่เกลือหรือน้ำปลาเข้าไปในปริมาณที่มากนอกจากทำให้สุนัขเป็นโรคไตแล้ว ยังพบว่าก่อให้เกิดโรคตับอ่อนอักเสบ โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร และยังทำให้เกิดการสะสมแก็สในกระเพาะอาหารเป็นจำนวนมากอีกด้วย
"ไข่ดิบ"
อาการที่พบคือ อ่อนแรง ขนร่วง ถ้าระดับไวตามิน B ลดลงอย่างมากจะพบว่าสุนัขและแมวเจริญเติบโตช้าและกระดูกมีการเจริฐเติบโตที่ผิดปกติไป
แม้ว่าไข่จะมีประโยชน์ทำให้ร่างกายสุนัขและแมวแข็งแรง แต่ไม่ควรให้สุนัขและแมวรับประทานไข่ดิบ เนื่องจากในไข่ดิบมีแบคทีเรีย
"หัวหอมและกระเทียม"
มีส่วนประกอบของ thiosulphate ซึ่งมีฤทธิ์ทำลายผนังเซลล์ของเม็ดเลือดแดง ทำให้มีการนำเอา oxygen ไปใช้ไม่เพียงพอต่อร่างกายสุนัขและแมว ถึงแม้ว่าจะได้กินเพียงแค่ 2 ชิ้นต่อ 1 อาทิตย์ ก็เป็นปริมาณที่มากพอที่จะทำให้สุนัขมีอาการ อ่อนแอ เพลีย น้ำหนักลด ซึม ท้องเสีย อาเจียน หัวใจเต้น
"ถั่วแมคคาดิเมีย"
จากการวิจัยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสารชนิดใดในถั่วแมคคาดิเมียที่เป็นอันตรายต่อสุนัข อาการที่พบคือ เป็นไข้ ใจสั่น อาเจียน ปวดท้องรุนแรง ซี่โครงยุบตัว กล้ามเนื้ออ่อนแรงโดยเฉพาะขาหลัง หรือ อาจทำให้สองขาหลังเป็นอัมพาต โดยอาการดังกล่าวจะหายไปหลังจากสุนัขกินเป็นเวลา 72 ชั่วโมง ไม่พบว่าสุนัขจะเสียชีวิตจากการกินถั่วแมคคาดิเมีย นอกจากถั่วแมคคาดิเมียแล้วถั่วอื่นๆก็มีรายงานถึงความเป็นพิษ เนื่องจากมีสาร Phosphorus เป็นจำนวนมากซึ่งจะทำให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้
"มันฝรั่งดิบ"
มันฝรั่งสุกนั้นมีประโยชน์สำหรับสุนัขเนื่องจากเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต แต่มันฝรั่งดิบโดยเฉพาะมันฝรั่งดิบที่มีสีเขียว จะมีส่วนประกอบพวก solanum alkaloids
ซึ่งจะทำให้สุนัขมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย น้ำลายฟูมปาก ถ้ากินในปริมาณมากอาจทำให้เสียชีวิตได้
"อโวคาโด"
เป็นผลไม้ที่มีไขมันมาก ซึ่งจะทำให้เกิดอาการปวดท้องและอาเจียนได้ ถ้ารับประทานในปริมาณมากจะทำให้ตับอ่อนอักเสบ นอกจากนี้ ในอโวคาโดยังมีสาร persin
ซึ่งเป็นสารที่ทำให้หัวใจและปอดทำงานล้มเหลวได้
"องุ่นและลูกเกด"
องุ่นหรือลูกเกดเพียง 6 ลูกก็เพียงพอที่จะเป็นอันตรายต่อสุนัข ถึงแม้ว่าจะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสารชนิดใดในองุ่นและลูกเกดที่เป็นอันตรายต่อสุนัข
อาการที่พบคือ อาเจียน ท้องเสีย ไม่อยากอาหาร ปวดท้องรุนแรง อ่อนแรง จนในที่สุดทำให้ไตวายและเสียชีวิตตามมาได้
"มะเขือเทศ"มะเขือเทศดิบเป็นอันตรายมากกกว่ามะเขือเทศสุก เนื่องจากมีสาร atropine ซึ่งอาการที่พบคือ ม่านตาขยาย ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วและแรงกว่าปกติ
"เกลือและน้ำปลา"
อาหารสุนัขที่ปรุงเองโดยการใส่เกลือหรือน้ำปลาเข้าไปเพื่อให้มีความน่ากิน หลายครั้งที่พบว่าเจ้าของสุนัขและแมวไม่ได้ชิมเลย การใส่เกลือหรือน้ำปลาเข้าไปในปริมาณที่มากนอกจากทำให้สุนัขเป็นโรคไตแล้ว ยังพบว่าก่อให้เกิดโรคตับอ่อนอักเสบ โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร และยังทำให้เกิดการสะ