คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : HEARTROCKER x GRAYMAN Xll : Memory of us [part 1] ;ม่านรูด
HEARTROCKER x GRAYMAN Xll : Memory of us [part 1]
วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรก สำหรับผมที่นี่เป็นสถานที่ใหม่เพราะผมพึ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ แต่ไม่ว่าผมจะมอง
ไปทางไหนก็เจอแต่พวกหน้าตาไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ มองแล้วขัดตาพิกล ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะศัลยกรรมใบหน้าให้เขา
ถ้าไม่ติดว่าพรสวรรค์ด้านการช่วยเหลือคนสำหรับผมคือติดลบ....
เท่าที่ผมมองๆ ดูแล้วการที่จะหาเพื่อนใหม่ที่หน้าตาดีและพึ่งได้นี่คงจะยากไม่ใช่เล่น (_ _ ); ผมอาจจะผิดเองที่
รสนิยมสูง แต่เรื่องเพื่อนมันสำคัญและเป็นเรื่องที่ผมจริงจังมากที่สุดนี่นา
“นาย”
ผมหันไปตามเสียงเรียก พอหันไปมองอีกฝ่ายปุ๊บ...
พลั่ก!
ผมก็เอาเท้าถีบอีกฝ่ายทันที....ข้อหาหน้าตาดีกว่าผม เขาไม่ตอบโต้ ผมคิดว่าเขาคงช็อคค้างที่โดนคนไม่รู้จักถีบ
แต่ทำไงได้? ในเมื่อถีบไปแล้ว ผมก็ขอวิ่งหนีอย่างแมนๆ ละกัน
“โอ๊ยยย เอกหนอเอก ทำอะไรลงไปวะนี่..เฮ้ย แต่มันหน้าหล่อเองนี่หว่า แล้วผมสีหวานซอยสั้นนั่นอีก
ออร่ากระจาย รับไม่ได้โว้ยยยยย” ผมตะโกนในที่ลับตาคน และนั่งสงบสติอารมณ์คนเดียวตรงนั้นอยู่พักใหญ่
ถึงเวลาเข้าเรียน
“ชิบหายละครับ” ไม่รู้ว่าเป็นสวรรค์ลิขิตหรือนรกกันแน่ ที่ทำให้ผมได้อยู่ห้องเดียวกับนายหน้าหล่อที่พึ่งโดนลูก
ถีบผมไปหมาดๆ แถมแค่นั้นไม่พอ...เรายังได้นั่งข้างกันอีกด้วย... เหตุเพราะผมเข้าสายทำให้เหลือที่นั่งแค่ที่เดียว
ผมใช้หางตามองเขาเล็กน้อย พอเขารู้ตัวผมก็หันกลับมา รู้สึกขนลุกอย่างแรง.....เปล่าหรอก ผมปวดขี้
“นี่นาย ฉันขอไปเข้าห้องน้ำแป๊ปนะ อย่าให้ใครมานั่งเชียวล่ะ ฉันสงสารแทน” พูดเสร็จผมก็เดินออกจากห้องไป
ทันที ผมมองกลับไปเห็นเขาค้างอีกรอบแล้วล่ะ ฮ่าๆ หน้าเวลาเอ๋อนี่ตลกใช้ได้ อย่างน้อยก็น่าอิจฉาน้อยกว่าตอนเก๊กหล่อ
ระหว่างที่ผมกำลังเดินหาห้องน้ำ ก็กินเวลาไปเกือบสิบนาทีเพราะผมไม่คุ้นเคยกับที่นี่ แต่ยังไม่ทันจะก้าวเข้า
ห้องน้ำ ก็มีเสียงอันทุ้มขัดขึ้นมา
“นี่เธอจะไปทำอะไรในห้องน้ำ!!”
“เรียนหนังสือมั้งครับ”
“จะเรียนจะขี้หรือตีหรี่อะไรก็ไม่ให้ทั้งนั้น! หมดเวลาแล้ว กลับเข้าห้อง!! “
ผมก็พยักหน้าหงึกๆ คิดว่าเปิดเรียนวันแรกการไม่มีเรื่องคงจะดีกว่า แล้วเดินตามครูเข้าห้องไปนั่งข้างๆ คุณชาย
หน้าหล่อตามเดิม
“ขี้เร็วเนอะ” เขาพูดติดตลก แต่ผมไม่ขำด้วยหรอกนะ การต้องมานั่งอั้นแบบนี้มันไม่เท่เอาซะเลย
“ตลก เหอะๆ “ ผมหัวเราะแห้งๆ เขายิ้มแล้วยื่นมือมาพร้อมบอกว่า
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันชื่อเบส”
“เอก ยินดีเช่นกัน เรื่องเมื่อเช้าขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจ..” ผมยิ้มแล้วยื่นมือไปจับกับมือของอีกฝ่ายที่ยื่นมา ....ยี๋
ผู้ชายอะไร มืออย่างกับผู้หญิง
เนื่องจากเพราะผมนั่งข้างเบส เราเลยได้คุยกันในหลายๆ เรื่อง และก็พบว่าเรามีงานอดิเรกหลายๆ อย่าง
ที่คล้ายกัน เช่น ชอบเล่นเกม หรืออ่านหนังสือ เป็นต้น เราเลยตกลงกันว่าจะสร้างชมรมงานอดิเรกขึ้นมา โดยมีข้อบังคับคือ
เราต้องหาสมาชิกชมรมให้ได้ 5 คน และหาครูที่ปรึกษาชมรม
ช่วงแรกผมกับเบสช่วยกันแจกใบปลิวโฆษณา บางคนรับไปแล้วก็โยนทิ้ง แต่พวกเราก็ไม่ได้ท้อใจอะไร จน
สุดท้ายก็ได้เพื่อนร่วมอุดมการณ์อีก 3 คนครบ นั่นคือ ออย คิว โน๊ต และไปขอครูคนที่ไม่ให้ผมไปขี้ในวันเปิดภาคเรียนให้มา
ช่วยเป็นครูที่ปรึกษาของชมรม ถือเป็นปราฏิหาริย์ที่ครูเขายอมง่ายๆ ...ทั้งที่เรื่องขี้ไม่ยอมแท้ๆ...
ออยเป็นคนที่พูดมากที่สุดในชมรมแต่ก็มีความสามารถเป็นเลิศในทุกๆ ด้าน ส่วนลุงโน้ตก็พูดมากรองลงมาจาก
ออย จริงๆ เขาก็ไม่ได้แก่อะไรขนาดนั้นหรอก แต่ผมเรียกแบบนี้แล้วมีความสุขมากกว่า แล้วก็คิวคนสุดท้าย น้องเล็กสุดใน
ชมรม เป็นเด็กน่ารักที่โดนออยแกล้งประจำ ผมเดาว่าสองคนนี้ต้องมีซัมติ้งกันอยู่แน่ๆ
หลังจากนั้นไม่นานชมรมเราก็ได้รับความนิยมอย่างมาก เมื่อมีการแคสเกมกันขึ้น คนในโรงเรียนและนอก
โรงเรียนต่างก็ชอบและถูกใจในการแคสของพวกเรา
“ชมรมเราตอนนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก เราไม่คิดจะฉลองกันหน่อยเหรอครับ? “ คิวพูดขึ้นมา
“อ่ะจ่ะอ่ะ!? “ ทุกคนต่างมองหน้ากัน แล้วพูดต่อว่า “เป็นความคิดที่ใช้ได้อยู่”
“งั้นเอางี้ ห้าทุ่มเจอกันที่บาร์ EMP เคป่ะ” ผมพูดและทุกคนก็พยักหน้า
กริ๊ง กริ๊ง
เสียงแก้วน้ำกระทบกันไปมา มีหลายๆ คนที่มาฉลองที่นี่เวลาประสบความสำเร็จ พวกของเอกเองก็ด้วย พอทุก
คนในชมรมมาครบ พวกเขาก็ดื่มกันหนักมาก ต่างคนต่างไม่ยอมกัน...เอกก็ดื่มไปเยอะพอสมควร แต่ดูเหมือนจะเป็นคนที่
มีสติที่สุดในขณะนี้
“เหี้ยเบส...กูมึนว่ะ” เอกหันไปหาเพื่อนสนิทหวังว่ามันจะช่วยพยุงเขากลับคอนโดของเขาได้ แต่กลับกัน....
เขามองคนที่นอนราบกับพื้นอย่างเอือมระอา และด้วยความที่เขายังพอมีสติอยู่แม้น้อยนิด เลยช่วยพยุงเพื่อนคน
สนิทขึ้นมา และตัดสินใจทิ้งคนอื่นๆ ให้ผู้อาวุโสที่สุดในชมรมดูแล
เขาพาตัวเองและเพื่อนเดินเซๆ ออกจากบาร์ไปตามทางเดินเรื่อยๆ แล้วเหลือบไปเห็นโรงแรมพอดี มันถือเป็น
ตัวเลือกที่ดีเพราะจะทำให้เขาไม่ต้องเดินไกล และอีกอย่างเขาก็คงมีสติอยู่ได้อีกไม่นาน สุดท้ายเลยตัดสินใจพยุงเบสเข้าไป
พร้อมเช็คอินเรียบร้อย แต่ตาของเขาคงพร่ามัวจนไม่ได้สังเกตคำว่า “ม่านรูด”
---------------------------------------------------------------------------------------------
สปอยว่าเนื้อเรื่องต่อจากพาร์ทนี้อาจมีดราม่าของสองหนุ่มเล็กน้อยถึงปานกลางนะคะ
หลังจากที่เป็นแนวคอเมดี้ ที่พี่เอกทะเล้นๆ มาสักพักแล้ว 5555
ม่านรูดนี่เข้าจริงไม่ได้ฝันแต่อย่างใด แต่จะเป็นยังไงต่อ รอติดตามนะคะ อุฮิ ♡
คาดว่าอีกสองพาร์ทก็จบตอน Memory of us แล้วล่ะค่า
ความคิดเห็น