Angelic Smile รอยยิ้มของนางฟ้า [Yaoi] - Angelic Smile รอยยิ้มของนางฟ้า [Yaoi] นิยาย Angelic Smile รอยยิ้มของนางฟ้า [Yaoi] : Dek-D.com - Writer

    Angelic Smile รอยยิ้มของนางฟ้า [Yaoi]

    แก๊กต์ถูกลงโทษให้ต้องทำงานตอนเย็น เสียเปียโนแว่วหวานได้กระทบโสต และเขาก็ได้พบกับนางฟ้าแห่งเสียงเพลง โยชิกิ หากรุ่นพี่คนนี้กลับมีคนรักอยู่แล้ว แต่คนอย่างเขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกนะ ก็รักไปแล้วนี่หน่า!

    ผู้เข้าชมรวม

    920

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    920

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    3
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 มี.ค. 56 / 18:55 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


    เดิมทีเป็นฟิคจ้า แต่ไม่รู้จักก็อ่านได้น๊า เพราะอิงมาแค่ชื่อค่ะ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

      Angelic Smile

      [รอยยิ้มของนางฟ้า]

      ชีวิตของเขาช่างเป็นอะไรที่น่าเบื่อ...

      ชายหนุ่มถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย หลังจัดการเอกสารอีกกองเสร็จไป ดวงตาคู่สวยเบือนไปมองนาฬิกา

      22.38

      คือตัวเลขที่อยู่บนหน้าจอของนาฬิกาตั้งโต๊ะเรียบๆไร้รสนิยม

      ให้ตายสิ กลับดึกจนได้ โดนทำโทษให้จัดการเอกสารตอนกลางคืนเนี่ยมันนรกtชัดๆ งานพิเศษก็ต้องหยุดทำ

      คิดแล้วก็ถอนหายใจอีกรอบ ก่อนลุกขึ้นบิดขี้เกียจเพื่อขจัดความเมื่อยล้า แล้วเดินออกจากห้องไป

      ยามดึกที่โรงเรียนแห่งนี้ช่างเงียบสงัด... แน่นอน ดึกขนาดนี้ถ้ามีนักเรียนอยู่สิแปลก

      ยกเว้นพวกถูกทำโทษแบบเขาอะนะ...

      รีบกลับดีกว่า...

      คิดพลางรีบเร่งฝีเท้าขึ้น หากแต่เดินไปได้สักพักเขาก็ต้องชะงัก

      เพลง...

      เขาได้ยินเสียงแผ่วๆของเปียโน...

      เรื่องสยองขวัญมากมายที่พวกเพื่อนๆเล่าต่อๆกันมาผุดขึ้นในหัวจนทำให้ใบหน้าคมคายซีดไปจนถนัดตา

      บ้าน่า... ผีมีจริงที่ไหนกัน

      เด็กหนุ่มสะบัดหัวแรงๆ ความอยากรู้นั้นชนะความกลัวเสมอ

      เขากลืนน้ำลายเหนียวหนืดในคอ ก่อนเดินไปตามเสียงที่ตนได้ยิน

      เอาวะ! ผีก็ผีเถอะ! คนอย่างคามุอิ กาคุโตะ ผีเผออะไรไม่เคยกลัว!!

      ร่างสูงเพรียวเดินไปตามทาง ลัดเลาะผ่านสวน ก่อนจะหยุดลงหน้าอาคารรูปโดมขนาดใหญ่

      มันคือโรงละครและที่จัดการแสดงดนตรีของโรงเรียน ปกติแล้วมันน่าจะถูกล็อคเอาไว้...

      มือขาวเอื้อมไปผลักประตู ก่อนจะพบว่ามันไม่ได้ล็อคอย่างที่คิด!!

      เขาหลับตาลง... รวมรวมความกล้าสักครู่ ก่อนจะตัดสินใจเขามาด้านใน

      นางฟ้า...

      ร่างที่กำลังพรมนิ้วไปตามเปียโนบนเวทีนั้น ห่างไกลจากคำว่าผีมากนัก

      เขาไม่รู้หรอกนะ ว่าพวกนางฟ้าบนสวรรค์จะหน้าตาเป็นยังไง หากแต่คนที่เขาเห็นนี้เหมือนนางฟ้าที่เขาเคยวาดฝันไว้ที่สุด

      เส้นผมสีทองสลวยที่ดูนุ่มนิ่มน่าสัมผัส กำลังพลิ้วไหวน้อยๆตามจังหวะที่ร่างนั้นโคลงศรีษะตามทำนองเพลง ปอยผมบางส่วนตกลงระดวงหน้าสวยงามหวานซึ้ง ดวงตาหลับพริ้ม ทำให้แพขนตายาวทาบทับลงบนผิวเนื้อขาวสะอาด จมูกโด่ง รับกับเรียวปากสีชมพูที่แย้มรอยยิ้มน้อยๆ

      กาคุโตะสัมผัสได้ถึงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงขึ้น ความสวยงามและบทเพลงไพเราะนี้กำลังทำให้เขาจมลงสู่มนต์สกด

      "เพราะรึเปล่า"

      เสียงนุ่มๆที่ดังขึ้น ทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์ ก่อนพบว่าเพลงได้จบลงแล้ว และนางฟ้าที่บรรเลงเพลงเมื่อครู่ตอนนี้ได้ยืนอยู่หน้าเขา

      "อะ...เพราะ... เพราะมากครับ"กาคุโตะพูดอย่างติดขัด ดวงตาสวยเสมองไปทางอื่น ก่อนจะพบว่าร่างโปร่งบางของนางฟ้าผู้นี้อยู่ในเครื่องแบบเช่นเดียวกับเขา เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแลก มีเพียงเน็คไทด์สีแดงที่แสดงว่าคนคนนี้เป็นรุ่นพี่เขาหนึ่งปี

      ผู้ชายหรอนี่...หน้าสวยเป็นบ้าเลย

      เขาแอบคิดในใจ

      "ดีจัง ฉันโยชิกิ ฮายาชิ แล้วเธอล่ะ"โยชิกิยิ้มน้อยๆอย่างเป็นมิตร เสริมให้ใบหน้านั้นสวยงามอย่างอ่อนโยน

      "กาคุโตะครับ คามุอิ กาคุโตะ"

      "อืม... กาคุโตะ นี่ไม่ใช่เวลาที่นายควรอยู่ในโรงเรียนหรอกนะรู้มั้ย"คราวนี้โยชิกิเปลี่ยนมาทำหน้าเคร่ง ซึ่งสำหรับเขาแล้วคิดว่ามันดูไม่น่ากลัวสักนิด แถมยังออกจะน่ารักเสียมากกว่า

      "แต่โยชิกิซังยังอยู่ได้เลยนี่ครับ แถมยังมาแอบใช้สถาณที่แบบนี้อีก มันผิดกฏนี่ครับ"

      อีกฝ่ายเพียงหัวเราะเบาๆ ก่อนเอานิ้วขึ้นแตะเรียวปาก

      "สิทธิพิเศษของประธานนักเรียนไงล่ะ"

      ดวงตาสีน้ำตาลเหลือบมองนาฬิกาข้อมือเรือนหรูของตน

      "ตายแล้ว นี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะ ฉันว่าเธอรีบกลับบ้านได้แล้วล่ะกาคุโตะ"

      เที่ยงคืน!!? นี่มันดึกขนาดนี้แล้วหรอ!

      คิดแล้วก็รีบกล่าวลารุ่นพี่เจ้าของเสียงเพลงอันไพเราะจับใจ

      "นั่นสิครับ งั้นผมขอตัวนะ"

      เด็กหนุ่มกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ทางออก ก่อนจะชะงัก แล้วหันมายิ้ม

      "ขอบคุณนะครับ โยชิกิซัง"

      แล้วร่างสูงนั้นก็วิ่งลับตาไป ทำให้คนถูกขอบคุณได้แต่กระพริบตาปริบๆด้วยความงุนงง

                                                                ******

      'กาคุโตะ...'

      ใครน่ะ?

      'นี่... กาคุโตะ'

      เสียงนุ่มๆที่ดังริมโสต ช่างคุ้นเคย เหมือนเคยได้ยินมาก่อน

      เขาลืมตาขึ้น มองเห็นดวงตาสีน้ำตาลสวย เส้นผมสีทอง และเรียวปากสีชมพูเหมือนสีของกลีบกุหลาบที่กำลังเอ่ยเรียกชื่อของเขา

      'ตื่นได้แล้วนะ กาคุโตะ'

      โยชิกิ...

      "ไอ้เชี่ยแก๊กต์~~~!!!"เสียงโวยวายดังลั่น พร้อมกับหมัดหนักๆที่เสยเต็มแรง ทำให้คนเพิ่งตื่นถึงกับมึน

      อะไรวะ... ไม่ใช่นางฟ้านี่หน่า ปิศาจชัดๆ

      ดวงตาสีฟ้าหันขวับมามองเจ้าของหมัดเมื่อครู่ ร่างเพรียวติดจะบอบบางเจ้าของใบหน้าสวยสมชื่อกำลังเช็ดหน้าของตนแรงๆ พร้อมเรียวปากที่พ่นคำด่าเขาไปด้วย

      "ไอ้แก๊กต์! ไอ้โรคจิต! แกจะฝันเห็นสาวสวยหุ่นสะบรึมอะไรก็เรื่องของแก แต่มาหอมแก้มฉันหาอะไรวะ! โคตรหยะแหยงอะ!!"

      "หยุดบ่นน่ามิยาบิ คิดว่าคนมีสติครบถ้วนสมบูรณ์อยากจะหอมแก้มแกเรอะ ฉันดิต้องแหยง ปากฉันแปดเปื้อนหมดแล้ว"

      พูดจบประโยค หน้าเขาก็หันไปตามหมัดหนักๆไม่สมตัวของมิยาบิอีกครั้ง

      "หุบปากแล้วรีบไปทำงานเลยไป! นี่มันเลิกเรียนมาได้ยี่สิบนาทีแล้วนะ เดี๋ยวจากลงโทษหนึ่งอาทิตย์จะกลายเป็นสอง แล้วฉันจะสมน้ำหน้า"

      พูดยังไม่ทันจบ ร่างของกาคุโตะก็พุ่งออกจากห้องไปเรียบร้อย ทิ้งให้คนพูดเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยพร้อมปลายตามองตามเพื่อนที่หลับได้หลับดีอย่างสมเพช

      โยชิกิงั้นหรอ...

      พลันนึกไปถึงชื่อที่แก๊กต์เผลอพึมพำออกมา

      "คนคนนั้นเขามีเจ้าของแล้วนะ..."

                                                              *******

         สี่ทุ่มอีกแล้ว...

      กาคุโตะถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

      ถึงจะรีบทำขนาดไหน ก็ยังเสร็จไม่ทันไปทำงานพิเศษอยู่ดี

      เขาเก็บของ แล้วเดินออกจากห้องไปเหมือนเมื่อวาน ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนเมื่อคืนก่อนทุกประการ รวมถึง...

      ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ที่โรงละคร เป็นเสียเพลงอีกแล้วที่นำพาเขามาที่นี่

      คราวนี้เขาเดินเข้าไปภายในอย่างไม่ลังเล

      โยชิกิยังคงบรรเลงบทเพลงอยู่บนนั้น ท่วงทำนองอ่อนหวานลึกซึ้งที่ถูกร้อยเรียงอย่างสวยงาม

      กาคุโตะนั่งลงฟังเงียบๆ ดื่มด่ำกับบทเพลงนั้น จนกระทั่งถึงโน๊ตตัวสุดท้าย

      "เธอมาอีกแล้วหรอ กาคุโตะ อยู่เลยเวลาโรงเรียนปิดบ่อยๆ ฉันก็ต้องแจ้งให้อาจารย์ทราบนะ"โยชิกิทักทายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเป็นกันเอง ขณะที่ยังนั่งอยู่หน้าเปียโนหลังงาม

      "ผมโดนทำโทษให้อยู่ทำงานน่ะครับ โยชิกิซังนั่นแหละ ทำไมต้องมาเล่นเปียโนดึกๆแบบนี้ด้วย"

      เป็นคำถามที่คนถูกถามเพียงยิ้มน้อยๆโดยไม่ตอบอะไรเท่านั้น

      "เธอดื่มรึเปล่า กาคุโตะ"โยชิกิพูดเปลี่ยนเรื่อง ในมือเรียวบางคือกระป๋องเบียร์

      "ก็ดื่มบ้าง... ไม่สิ ดื่มบ่อยเลยล่ะ อันที่จริงผมทำงานพิเศษที่บาร์น่ะครับ"กาคุโตะพูด ก่อนสังเกตุมองท่าทางของคนเป็นประธานนักเรียน

      ที่นี่มีกฏห้ามทำงานพิเศษ ยิ่งเป็นงานประเภทนี้แล้วด้วย... โยชิกิซังคงไม่บอกอาจารย์หรอกนะ

      "งั้นก็ดีเลย"เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลไม่เพียงแต่จะว่าเรื่องงานพิเศษ แถมยังส่งเบียร์ในมือให้อีกฝ่าย

      "ดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ"

      รอยยิ้มหวานที่ไม่ว่าใครเห็นก็คงปฏิเสทไม่ลง ทำให้กาคุโตะรับกระป๋องอะลูมิเนียมเย็นจัดมาเปิด

      "ขอบอกก่อนว่าผมคอแข็งนะครับ"เขาพูดยิ้มๆ นัยน์ตาสีฟ้าสวยพราวระยับ

      แต่โยชิกิเพียงหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง

      "ฉันไม่คิดว่าจะแพ้ใครหรอกนะ โดยเฉพาะเรื่องแบบนี้น่ะ"

        กาคุโตะทำงานอยู่ในบาร์มานาน ดังนั้น กับเรื่องแอลกอฮอล์ เขาไม่เคยแพ้ใคร

      ยกเว้นคนที่ชื่อว่าโยชิกิ ฮายาชิ...

      ไม่อยากเชื่อเลยว่าหนึ่งชั่วโมงต่อจากนั้น เบียร์เป็นลังจะหมดไปอย่างรวดเร็วโดยฝีมือคนที่ขนมันมา แถมยังมีการเปิดกระป๋องส่งมาให้เขาเรื่อยๆอีกต่างหาก

      ตัวบางๆแบบนั้น เอาแอลกอฮอล์ตั้งมากมายไปเก็บไว้ตรงไหนกันนะ

      หลังจากกระดกเบียร์ไปเป็นกระป๋องที่สิบเอ็ด อาการมึนหัวก็ทำให้เขาขอบาย ก่อนที่จะได้หมดสภาพกลับบ้าน จึงได้แต่มองโยชิกิที่หันมาหัวเราะเหมือนบอกว่าฉันชนะ

      ท่าทางเหมือนเด็กๆที่ทำให้เขารู้สึกว่าช่างน่ารักนัก

      ดวงตาสีฟ้ามองดูคนที่กำลังดื่มอย่างเงียบๆด้วยความเหม่อลอย

      ยิ่งดู... ก็ยิ่งรู้สึกว่าโยชิกิเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างบอบบางอย่างไม่น่าเชื่อ

      ตั้งแต่ไหล่ที่ลาดมล เอวเล็กๆอันผอมบาง แขนและขาที่เรียวสวย

      ยิ่งประกอบกับเค้าโครงเครื่องหน้าอันสวยหมดจด ทำให้หากบอกว่าคนคนนี้เป็นผู้หญิง เขาก็คงเชื่ออย่างสนิดใจ

      "โยชิกิซัง พอได้แล้วนะ"เขาออกปากห้ามเมื่อเห็นคนสวยกำลังจะเปิดเบียร์กระป๋องถัดไป ทั้งๆที่ก็ดื่มไปยกลังแล้ว

      "อย่าห้ามสิ ฉันยังไม่เมาสักหน่อย"โยชิกิค้าน ใบหน้าขาวตอนนี้ขึ้นสีระเรื่อ ดวงตาฉ่ำแลดูหวานหยดปรายมามองอย่างไม่ค่อยพอใจ

      บอกให้รู้ว่าถึงตอนนี้จะยังไม่เมา แต่ก็ใกล้เต็มที

      "พอเลยครับ ดื่มเข้าไปอีกหน่อยได้เมาแน่ๆ"เขาพูด พลางแย่งกระป๋องในมืออีกฝ่ายมา โดยที่มือบางพยายามยื้อกลับ

      "กาคุโตะ เอาคืนมานะ"

      "ไม่คืนครับ"เขาพูด พลางถอยห่างร่างบาง ทำให้คิ้วเรียวของคนเป็นรุ่นพี่ขมวดเข้าหากันอย่างขัดใจ

      "กาคุโตะ..."เสียงหวานๆกับดวงตาที่มองมาเกือบทำให้ใจอ่อน กาคุโตะเลยรีบหันหลังเดินไปทางอื่น

      เมื่อเห็นว่าร่างสูงเดินหนีไปแล้ว โยชิกิจึงได้กระโจนพรวด เป้าหมายคือกระป๋องเบียร์ในมืออีกฝ่าย

      "เฮ้ย!"คนถูกกระโจนใส่รีบเอี้ยวตัวหนี ก่อนออกวิ่ง

      "อยากเล่นไล่จับก็ไม่บอกนะครับ"กาคุโตะหัวเราะร่า เมื่อเห็นใบหน้าสวยๆเริ่มฉายแววหงุดหงิดเหมือนเจ้าหญิงถูกขัดใจ

      "หยุดเลยนะกาคุโตะ~"

      เกมไล่จับถูกเริ่มต้นขึ้นโดยมีเสียงหัวเราะของคนหนีดังขึ้นเป็นระยะๆ ทำให้คนวิ่งไล่รู้สึกโกรธเล็กๆ หากแต่ก็มีรอยยิ้มบางเบาประดับอยู่บนเรียวปาก

      "เหมือนว่าฉันจะชนะนะ"โยชิกิพูดปนหอบหายใจ พลางมองร่างสูงที่หนีมาหยุดตรงน้ำพุกลางลานกว้าง มือบางเอื้อมไป จะคว้ากระป๋องเบียร์ในมือขาว

      "ก็ไม่แน่หรอกครับ"กาคุโตะยิ้ม ก่อนขยับมือหนี และพอมือบางจะเอื้อมมาอีก เขาก็เอี้ยวตัวหลบ

      "เอาคืนมานะ"คนถูกขัดใจเริ่มโวยวาย เพราะเมื่อเขาจะคว้า คนตรงหน้าก็หลบ

      การยื้อยุดกระป๋องเบียร์กำลังดำเนินต่อไปจนเหมือนสงครามย่อมๆ หากไม่ใช่ว่า...

      "เฮ้ย!!"

      ตูม!!!

      ร่างของกาคุโตะที่ก้าวสะดุดหงายหลังโครมลงไปในน้ำพุ โดยที่สัญชาตญาณดิบของเขาเผลอคว้าข้อมือเล็กลากลงมาด้วยกัน

      "กาคุโตะ!!!!"เสียงนุ่มเหวลั่น จากนางฟ้ากลายเป็นยักษ์ไปในทันที

      ส่วนคนต้นเหตุนอกจากจะไม่กลัวแล้วยังหัวเราะร่าไม่อย่างเกรงดวงตาเขียวปั๊ด

      "ถือว่าอาบน้ำให้สร่างเมาไงครับ"

      "บ้านเธอเขาอาบน้ำกันในน้ำพุหรอ แล้วใครเมากัน ฉันยังไม่เมานะ!"โยชิกิเถียง แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงหัวเราะ ใบหน้าสวยๆจึงค้อนขวับเข้าให้หนึ่งที ก่อนที่เขาจะอดหัวเราะตามไม่ได้

      ยามค่ำคืนที่ควรจะเงียบสงบในโรงเรียน บัดนี้กลับกึกก้องไปด้วยเสียงหัวเราะของคนสองคนที่ดังประสานกันอย่างยาวนาน จนกระทั่งเสียงของกาคุโตะเงียบหายไป โยชิกิจึงได้หยุดตาม

        สายน้ำจากน้ำพุพร่างพราว ประสานกับเสียงของหัวใจที่ไหวระรัวของตนเอง

      ดวงตาสีฟ้าสบลงกับนัยน์ตาสีน้ำตาล เขาไม่อยากบอกเลยว่าตอนนี้คนตรงหน้าช่างแลดูเย้ายวนขนาดไหน

      เส้นผมสีทองยาวสลวยที่โดนน้ำลู่ไปตามเค้าหน้าอ่อนหวานงดงาม แพขนตายาวมีหยาดน้ำเกาะพราว ยิ่งเสื้อสีขาวที่เมื่อโดนน้ำก็ยิ่งบางจนเห็นผิวเนื้อ

      มือขาวยื่นไปแตะเส้นผมสีทองที่เปียกน้ำ ไล่ลงมาถึงปลายคางมล

      ดวงตาสองคู่ยังสบกัน ราวกับมีมนต์สกด

      ในวินาทีนั้น ราวกับทุกสิ่งได้เงียบหายไป มีเพียงเสียงของหัวใจเท่านั้นที่ดังก้อง

      เขาอยากหยุดเวลาตรงนี้ไว้ให้เนินนาน... ให้ดวงตาสีน้ำตาลคู่นี้เป็นของเขาตลอดไป...

      กาคุโตะค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปใกล้ ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน

      ใกล้... จนเรียวปากเกือบสัมผัส

      !

      เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืนดังขึ้น ทำให้มนตราแสนเย้ายวนนั้นสลายหายไป

      โยชิกิดันใหล่ของกาคุโตะออกห่าง พร้อมดวงตาที่เสมองไปทางอื่น

      "อย่า... กาคุโตะ ฉันมีคนรักแล้วนะ"

      ไม่ดี... อยู่แบบนี้ต่อไปต้องไม่ดีแน่...

      ชั่วครู่ที่ความเงียบปกคลุมทุกสิ่ง...

      ชั่วครู่... ก่อนที่คนเป็นรุ่นน้องจะดันหน้าของอีกฝ่ายให้มาสบตา

      นัยน์ตาสีฟ้าที่มีเสเน่ห์จนไม่อาจหลบหนีได้

      "ผมรู้"พูดจบ ใบหน้าคมคายก็โน้มเข้ามาใกล้ ประกบปิดกลีบปากสีชมพูนั้นด้วยเรียวปากของตน

      จุมพิตภายในม่านของน้ำพุ ท่ามกลางมนตราแห่งห้วงสนทยา

      เขารู้ว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง หากแต่...

      ผมรักคุณ...โยชิกิซัง...

                                                            ********

         เช้านี้ ความปวดหัวคือสิ่งแรกที่เขารับรู้ได้หลังลืมตาตื่นขึ้นมา

      ถึงจะดื่มไปไม่มากนัก แต่อาการเมาค้างอ่อนๆก็มาทักทายจนได้

      กาคุโตะพลิกตัว ฝังหน้าลงกับหมอนใบนุ่ม

      โยชิกิ...

      ชื่อหนึ่งที่ช่วงนี้ดังก้องอยู่ในใจเขาเกือบตลอดเวลา

      ร่างสูงลุกขึ้นจากเตียงเมื่อพบว่าตอนนี้สายมากแล้ว เขาหยิบผ้าเช็ดตัว ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ

      ภาพของร่างบอบบางเจ้าของใบหน้าสวยและเสียงเปียโนอันจับใจปรากฏขึ้นในหัวของเขา ทั้งเส้นผมสีทอง... ดวงตาคู่หวานสีน้ำตาล และเรียวปากสีชมพู...

      ปลายนิ้วถูกยกขึ้นแตะริมฝีปากของตนอย่างเผลอไผล

      รสสัมผัสอุ่นร้อนที่ยังติดอยู่บนริมฝีปาก ความหอมหวานอันเย้ายวนปนกลิ่นแอลกอฮอลที่ยังติดบนปลายลิ้น...

      สายน้ำที่ตกต้องลงบนตัวเขา ยิ่งทำให้ภาพเมื่อคืนหวนกลับมาในความคิด

      อีกฝ่ายที่มีใบหน้าสวยกว่าใคร รูปร่างบอบบาง และกลิ่นหอมหวานที่เย้ายวนกว่าใคร...

      คิ้วเรียวบนใบหน้าคมขมวดเข้าหากัน เมื่อสัมผัสถึงความต้องการของตน

      เฮ้ย มาอยากอะไรตอนกำลังจะไปสายฟระ!

      คิดอย่างหัวเสีย แต่เขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่สุขภาพแข็งแรงดีทุกประการ เรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ไอ้การเกิดอารมณ์เพราะนึกถึงผู้ชายด้วยกันนี่ เขาไม่เคยเป็นมาก่อน

      กาคุโตะหลับตาลง ก่อนจะตัดสินใจรีบทำในสิ่งที่ควรทำให้เสร็จเร็วๆ มือขาวจึงแตะลงบนความหนุ่มของตนที่แข็งขืน ก่อนขยับมือขึ้นลงเบาๆ

      ถึงจะรู้สึกผิดต่ออีกฝ่าย แต่ตอนนี้เขากำลังจินตนาการถึงภาพร่างบางที่เปลือยเปล่าของโยชิกิ อยากสัมผัสถึงผิวขาวเนียน อยากทิ้งร่องรอยสีกุกลาบบนผิวเนื้อนั้น อยากฟังยามที่เสียงนุ่มนั้นร้องครางอ่อนหวาน...

      "อา..."เสียงครางต่ำลอดผ่านลำคอ เมื่อภาพในจินตนาการช่างสมจริงจนน่าสมเพชตัวเอง มือขาวเร่งจังหวะเร็วขึ้น ก่อนที่ของเหลวขาวขุ่นจะถูกปลดปล่อยออกมา

      ถึงจะรู้ว่าคนคนนั้นมีเจ้าของแล้ว แต่ก็ไม่ทัน... เพราะเขาได้ตกหลุมรักนางฟ้าแห่งเสียงเพลงตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเจอ...

                                                            ********

       โยชิกิ ฮายาชิ คือประธานนักเรียนที่ใจดี อ่อนโยน และขึ้นชื่อด้านความเก่งกาจและเอาแต่ใจพอๆกับใบหน้าสวยชวนตะลึง คนในคณะกรรมการนักเรียนล้วนแล้วแต่เคยถูกวีนแตกมาแล้วทั้งนั้น หากแต่ก็ไม่มีใครปฏิเสทได้ในเรื่องความสามารถของคนคนนี้ พอๆกับที่ไม่มีใครปฏิเสธถึงเสน่ห์ในตัวคนคนนี้ที่ทำให้อยากจะโกรธก็โกรธไม่ลง อีกทั้งถึงแม้จะเอาแต่ใจสุดๆ โยชิกิก็ฟังเหตุผลของทุกคนเสมอ...

      คนที่สามารถทำให้ประธานนักเรียนยอมได้มากที่สุด คือโทชิ รองประธานที่เป็นเพื่อนกับโยชิกิมาตั้งแต่เด็ก และเป็นที่รู้กันดีว่าทั้งสองคนคบกันอยู่ ถึงแม้ว่าโทชิจะดูเป็นคนธรรมดาทั่วไป แต่เขาก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่กล้าต่อว่าโยชิกิในตอนที่ทำอะไรเอาแต่ใจจนเกินไป

        กาคุโตะถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยเมื่อนึกถึงเรื่องของสองคนนี้

      โตมาด้วยกัน อยู่ด้วยกันมาตลอด ความสัมพันธ์ที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งงั้นหรอ... ของแบบนั้นใช่จะขาดออกได้ง่ายๆเลยนะ

      ปากกาในมือถูกเขี่ยไปมาบนหนังสืออย่างเหม่อลอย

      แต่คบกันได้ก็ต้องเลิกกันได้สิ! ใช่! อย่ายอมแพ้นะกาคุโตะ! ตื้อเข้าไป... ตื้อเท่านั้นแหละที่ครองโลก!!

      ดวงตาสีฟ้าทอประกายระยับ และหลังจากที่ให้กำลังใจตัวเองเสร็จสรรพ ร่างสูงก็ฟุบลงกับโต๊ะ และหลับไปอย่างรวดเร็ว

                                                              *******

      "ไอ้~แก๊กต์!!!"

      ดวงตาคู่สวยค่อยๆปรือขึ้นอย่างงัวเงีย วันนี้คนที่ปลุกเขาก็ยังเป็นมิยาบิอีกเช่นเคย

      "นี่เลิกเรียนไปนานยังอะ"ถามพลางลุกขึ้นอย่างเกียจคร้าน

      "ก็สักพักแล้ว"

      กาคุโตะพยัคหน้า ก่อนจะเก็บหนังสือบนโต๊ะที่เขาใช้ต่างหมอนลงกระเป๋า

      รีบทำงานให้เสร็จดีกว่า จะได้ไปหาโยชิกิซัง...

      "แก๊กต์"มิยาบิเรียก มือบางคว้าข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้

      ดวงตาสีฟ้าของกาคุโตะเบือนไปมองใบหน้าสวยที่ดูอึกอักเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็เงียบไป

      "มิยาบิ?"

      "คือ... แกก็คงรู้ว่ารุ่นพี่โยชิกิกำลังมีปัญหากับรุ่นพี่โทชิ แต่ฉันขอเตือนแกไว้ก่อนนะแก๊กต์ ถึงจะสวยขนาดไหน แต่อย่าได้ไปรักเด็ดขาดนะเว้ย"

      ถึงน้ำเสียงของมิยาบิจะฟังดูเรียบนิ่งเหมือนเดิม แต่เขารู้ว่าเพื่อนคนนี้กำลังเป็นห่วงเขา

        การที่เขาได้พบกับนางฟ้าในยามค่ำคืน มันเป็นเพียงความฝันแสนสวยงามชั่วครั้งคราว เพราะเมื่อโยชิกิกับโทชิเคลียร์ปัญหากันได้ เขาก็คงไม่ได้พบกับนางฟ้าอีก...

      แต่กว่าจะถึงตอนนั้น มันก็ยังมีเวลาพอจะทำให้คุณหันมามองผมได้ใช่มั้ย...

      "ขอบใจที่เตือน งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ บาย"เขาพูด พร้อมยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

                                                             *******

        วันนี้เขาทำงานเสร็จเร็วกว่าปกติ คงเป็นเพราะว่าอยากจะไปพบใบหน้าสวยซึ้งนั้นเร็วๆ

          เมื่อเดินออกมา หูก็ได้ยินเสียงเปียโนอันแผ่วเบาเหมือนทุกครั้ง ทำให้ในใจของเขารู้สึกดีเล็กๆ เพราะแอบกลัวว่าเหตุการณ์เมื่อคืนวานจะทำให้เขาไม่ได้พบอีกฝ่ายอีก

      ขายาวรีบก้าวไปตามทางจนกลายเป็นกึ่งวิ่ง และเมื่อมาหยุดอยู่หน้าหอประชุม เสียงเพลงก็ได้หยุดไป

      คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เพราะเพลงนั้นยังบรรเลงมาได้ไม่ถึงท่อนสุดท้าย แต่กลับหยุดไปเฉยๆ

      มือขาวผลักประตูเปิดออก ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะฉายแววตระหนก

      เสียงสะอื้นไห้...

      ร่างบางเจ้าของเส้นผมสีทองยังคงนั่งอยู่หน้าเปียโน หากแต่มือเรียวที่ควรจะพรมอยู่บนคีย์ กลับถูกยกขึ้นมาปิดหน้า

      กาคุโตะเดินเข้าไปใกล้โยชิกิอย่างเงียบเชียบ มองไหล่อันบอบบางที่สั่นไหว

      "โยชิกิซัง..."

      เสียงเรียกที่ทำให้ใบหน้างามหันขวับมามอง ดวงตาสีน้ำตาลนั้นสั่นระริกและเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา

      "กาคุโตะ..."เสียงนุ่มสั่นเครือพึมพำ มือบางปาดน้ำตาออก ก่อนฝืนยิ้ม

      "ขอโทษนะ วันนี้ฉันคงเล่นเปียโนให้เธอฟังไม่ได้"

      ดวงตาสีฟ้ามองดูคนที่พยายามจะเข้มแข็ง ก่อนถอนหายใจ แล้วรั้งร่างบางเข้าสู่อ้อมกอด

      "ไม่เป็นไรครับ... วันนี้ผมไม่อยู่สักหน่อย ที่นี่ไม่มีใครอยู่เลยสักคน"

      ดังนั้น... จะร้องไห้ออกมา ก็ไม่เป็นไรหรอกนะครับ...

      ประโยคหลังเขาพูดอยู่ในใจ แต่เหมือนว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจความหมายของประโยค ดวงหน้านั้นจึงซบลงบนอกกว้าง ก่อนที่น้ำตาจะไหลรินออกมาจากนัยน์ตาคู่สวย

      เสียงสะอื้นเบาๆนั้นดังอย่างยาวนาน ราวกับเป็นท่วงทำนองที่แสนโศกเศร้า...

                                                             *******

         โยชิกิเพียงแค่ร้องไห้อย่างเงียบๆโดยไม่พูดอะไร จากนั้นจึงชวนเขาไปดื่ม แถมยังดื่มหนักมากจนเขาต้องพามาส่งที่บ้าน

      คฤหาสถ์สีขาวหลังใหญ่ช่างดูสวยงามแต่ก็อ้างว้างเหมือนเจ้าของ มันใหญ่เกินไปมากสำหรับคนคนเดียว...

      เขาวางร่างผอมบางลงบนเตียงกว้าง โยชิกินั้นเหมือนจะดื่มหนักจนหลับไปแล้ว จากนั้นจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำ กะจะล้างหน้าล้างตาสักหน่อยแล้วค่อยกลับบ้าน

      น้ำเย็นๆที่ปะทะผิวหน้า ทำให้อาการมึนหัวจางหายไป

      เขาดื่มไปไม่มาก ผิดกับอีกคนที่ดื่มจนเริ่มพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง

      ร่างสูงเดินออกจากห้องน้ำที่กว้างกว่าห้องนอนของเขาเสียอีก ก่อนจะชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเปียโน

      ทำนองอันไพเราะหากแต่เศร้าจับใจ...

      "I’ll be waiting for you to tell me what is love

      I don’t know how to be loved, how to be by your side

      Morning lights shine in my room

      I’m holding dreams of you

      It may take no less than my life

      But I can’t stop loving you"

      เสียงนุ่มติดสูงเหมือนเด็กพึมพำร้องเพลงในลำคอ ร่างบางที่ตอนนี้อยู่ในชุดคลุมสีแดงกำลังบรรเลงเปียโนคริสตัล แลดูงดงามอย่างแสนอ้างว้าง

      "เธอเคยถามใช่มั้ยกาคุโตะ ว่าทำไมฉันถึงต้องไปเล่นเปียโนที่นั่นทุกคืน"โยชิกิเอ่ยขึ้น ทันทีที่เพลงจบลง โดยไม่ได้หันมามองอีกฝ่าย

      มือบางแตะลงบนแก้วที่บรรจุของเหลวสีอำพัน โคลงไปมา

      "เพราะว่าฉันกลัวตอนกลางคืน... กลัวที่จะต้องหลับไปเจอกับฝันร้าย กลัวที่จะต้องอยู่ในบ้านหลังนี้ที่เต็มไปด้วยความทรงจำของฉันกับเขา"พูดจบ ของเหลวในแก้วก็หายไปในกลีบปากสวย ความร้อนของแอลกอฮอลแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

      "อยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนได้มั้ย"เสียงนุ่มถาม พร้อมแก้วเหล้าที่ถูกส่งมาให้

      "ถ้าเพื่อคุณล่ะก็ ได้เสมอ"

      คำตอบหวานๆที่เรียกเสียงหัวเราะแผ่วเบาจากเจ้าของบ้าน ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มดื่มกันโดยมีบทสนทนาเรื่องทั่วไปเป็นพักๆ

      อาจเพราะว่าก่อนหน้านี้ดื่มมามากแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน ร่างบางจึงได้ฟุบไปกับเปียโนคริสตัลหลังสวย

      "โยชิกิซัง... โยชิกิซัง"กาคุโตะเอ่ยเรียก มือขาวจะยื่นไปสะกิด แต่ก็โดนปัดออก

      เสียงงึมงำในลำคอที่คล้ายกับกำลังต่อว่าเขาอยู่ ทำให้อดหัวเราะไม่ได้

      ขนาดตอนเมายังน่ารักเลยแหะ...

      และเมื่อดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเรียกไม่ตื่นเสียแล้ว แขนแกร่งจึงได้ช้อนร่างผอมบางขึ้นอุ้ม เดินเข้าไปในห้องนอน แล้ววางลงบนเตียงกว้างอย่างเบามือ

      "สวยเกินไปแล้วนะ คุณน่ะ"เขาพึมพำเบาๆยามมองใบหน้ายามหลับ มันช่างน่าคิดว่าทำไมพระเจ้าถึงสร้างผู้ชายคนหนึ่งให้ออกมาสวยขนาดนี้

      ดวงตาคู่คมมองเลยไปยังโต๊ะข้างเตียง แล้วเอื้อมมือไปหยิบกรอบรูปที่ถูกคว่ำอยู่บนนั้นขึ้นมาดู

       มันเป็นภาพที่คงถูกถ่ายเมื่อไม่นานมานี้ ภาพของร่างบางในชุดยาวสีขาวกำลังเล่นเปียโนคริสตัล ใบหน้าสวยที่คลอเคลียด้วยเรือนผมสีทองผินมองขึ้นด้านบน ที่มีร่างของชายหนุ่มชุดขาวสวมแว่นกันแดดกำลังร้องเพลง โดยที่หน้าของเขาก้มลง สบสายตากับร่างบางที่กำลังเล่นเปียโนพอดี

      บนใบหน้าของทั้งสองคน...ถูกประดับด้วยรอยยิ้มกว้างที่ดูสดใสและมีความสุขอย่างที่สุด

        สำหรับเขาแล้ว คิดว่าโทชิเป็นคนที่น่าอิจฉา...

      เขานั้นไม่รู้เบื้องลึกหรอกว่าทั้งสองคนทะเลาะกันเรื่องอะไร รู้แต่ว่ามันเกี่ยวกับผู้หญิงที่ชื่อคาโอริ...

      เขาเองเคยเจอคาโอริที่โรงเรียนอยู่บ้าง เจ้าหล่อนไม่ได้เป็นคนขี้ริ้วขี้เหร่อะไร แถมยังออกจะดูสวยด้วยซ้ำ แต่เมื่อเทียบกับโยชิกิที่ทั้งสวยทั้งมีเสน่ห์แล้ว หล่อนก็ดูจืดไปเลยทีเดียว  

      ถ้ารุ่นพี่โทชิเกิดทิ้งโยชิกิซังไปหาคาโอริ คงจะดูโง่มาก หากแต่นั่นก็จะเป็นโอกาสดีสำหรับเขา

        กรอบรูปถูกวางคว่ำลงตามเดิม นัยน์ตาสีฟ้ามองดูเสี้ยวหน้ายามหลับของโยชิกิที่แดงระเรื่อน้อยๆด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล มือขาวลูบเส้นผมสีทองอ่อนเบาๆ ก่อนก้มหน้าลงไปกระซิบอย่างแผ่วเบา

      "ราตรีสวัสนะครับ โยชิกิซัง"

      ร่างสูงลุกขึ้นยืน มือขาวไปหยิบผ้าห่มที่กองอยู่ปลายเตียง ก่อนหันมา เตรียมจะห่มให้ร่างบาง

      แต่เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เขาก็ต้องกลืนน้ำลายอันเหนียวหนืดลงคอ

      ร่างบางที่พลิกตัวมานอนตะแคงนั้น ทำให้ชายเสื้อคลุมนั้นร่นขึ้นมา เผยให้เห็นต้นขาขาวจัดที่เรียวงาม ใบหน้าสวยหลับพริ้มดูสงบ หากเรียวปากสีชมพูนั้นกลับแลดูเชิญชวนน่าสัมผัส

      ภาพที่คล้ายกับในจินตนาการเมื่อเช้า ทำให้กายของคนมองร้อนผ่าว

      มือขาววางผ้าห่มลง พร้อมนั่งลงบนเตียง ดวงตาสีฟ้าทอดมองร่างบอบบาง

      "คุณกำลังทำให้ผมคลั่ง"กาคุโตะพูดเสียงเบา มือขาวแตะลงบนใบหน้าสวย พินิจมองอยู่เนิ่นนาน ก่อนที่ใจเขาจะพ่ายแพ้ต่อความปรารถนา เรียวปากบางจึงได้ประทับลงบนกลีบปากสวย ลิ้นร้อนค่อยๆรุกล้ำเข้าไปในโพรงปาก ตักตวงเอาความหวานล้ำที่ปะปนด้วยรสสุราอันมึนเมาอย่างอ้อยอิ่ง นุ่มนวล

       "อือ"เสียงนุ่มครางออกมาแผ่วเบา ยิ่งทำให้สติของเขาเลือนลาง เรียวปากร้อนไล่ไปบนแก้มขาว ลงมาถึงปลายคางและลำคอ

      "โทชิ..."

      ชื่อที่ลอดผ่านเรียวปากบางนั้น ทำให้ร่างสูงหยุดชะงัก ใบหน้าคมผละออกจากลำคอระหง มือขาวยกขึ้นกุมศรีษะของตน

      นี่เรากำลังทำอะไรอยู่... แบบนี้มันผิดไม่ใช่หรอ

      นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบมองร่างงามที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อม จิตสำนึกทั้งสองด้านของเขากำลังขัดแย้งกันเอง

      "โยชิกิซัง..."เขามองใบหน้าของนางฟ้าที่เขาหลงรักตั้งแต่แรกพบ นางฟ้าที่เหมือนจะสูงจนเขาไม่อาจเอื้อมถึง

      ในแววตาสีนภานั้นไหววูบ ปะปนไปด้วยความรักและเจ็บปวด

      เป็นชื่อของผมไม่ได้หรือ...ที่คุณจะเรียกหา

      "แค่ตอนนี้...ผมจะขอเป็นโทชิให้คุณเอง..."

      โยชิกิเปรียบดั่งสุราสวรรค์...

      หอมหวน สวยงาม...แต่มนุษย์ได้เพียงแต่มอง โดยมิอาจจับต้อง

      หากแต่... ก็ไม่อาจห้ามใจ

      จุมพิตถูกประทบลงอีกครั้ง คราวนี้ร้อนแรง และเต็มไปด้วยความปรารถนา...

      ลิ้นร้อนเกี่ยวกวัด โดยมีลิ้นเล็กตอบสนอง มือขาวไล่ไปตามเรียวขา ผิวเนื้อนั้นเนียนละเอียดยิ่งกว่าที่เขาเคยจินตนาการ

      ถึงแม้ว่ามันจะผิด...

      ถึงจะรู้ดีว่าตนไม่ควรจะทำเช่นนี้เลย แต่ว่านะ...

      ผมรักคุณเข้าแล้ว... รักมากจนยากจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้อีกต่อไป

      ผม...อยากให้คุณเป็นของผมคนเดียว

                                                          ********

          รู้สึกถึงแสงแดดที่ส่องลอดผ่านช่องว่างของผ้าม่านลงกระทบเปลือกตา

      ร่างสูงขยับพลิกกายเพื่อหลบแสงนั้น ฝังหน้าลงสูดกลิ่นหอมกรุ่นจากหมอนใบนุ่ม กลิ่นหวานอ่อนจางแบบเดียวกับของเรือนผมสีทองอันนุ่มนิ่ม

      !!

      พลันเมื่อใบหน้าสวยของคนที่นึกถึงแวบเข้ามาในหัว ดวงตาก็เบิกโพลง ร่างสูงสปริงตัวขึ้นมาจากเตียงอย่างรวดเร็วจนรู้สึกปวดหัววูบ

      จริงสิ เมื่อคืนนี้...

      กาคุโตะกลืนน้ำลายอันเหนียวหนืดลงลำคอ มือขาวยกขึ้นกุมขมับที่เต้นตุบๆอันเกิดจากอาการเมาค้าง นัยน์ตาสีฟ้ากวาดมองไปรอบๆ

      เขายังคงนอนอยู่บนเตียงกว้างภายในห้องของโยชิกิ หากแต่ไร้วี่แววของร่างบาง...

      กาคุโตะคว้าเสื้อผ้าของตนที่กองอยู่ปลายเตียงขึ้นมา ก่อนรีบเดินเข้าห้องน้ำไป

      ให้ตายสิ... แล้วเขาจะมองหน้าอีกฝ่ายติดได้ยังไง

      กวักน้ำขึ้นล้างหน้า ทำให้สติแจ่มชัดขึ้นมาบ้าง เขามองเงาสะท้อนของตนในกระจกพร้อมกัดฟันแน่น

      จะทำยังไงดี...

      ในขณะที่คิดไม่ตก หูก็พลันแว่วเสียงเปียโนอันคุ้นเคยแผ่วเบา ทำให้คิ้วที่ขมวดเป็นปมนั้นค่อยๆคลายออก

      เสียงเปียโนนี้... ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ได้ยินก็พลอยให้ใจสงบทุกทีสิน่า...

      เขารีบจัดแจงแต่งตัว ก่อนเดินออกไปตามเสียงเพลง

      เป็นไปตามคาด... ร่างบางในชุดคลุมสีเลือดนกกำลังบรรเลงเพลงแสนโศกเศร้าผ่านเปียโนคริสตัล

      เพลงเดียวกับที่เล่นเมื่อคืน...

      "Amethyst"เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก ในขณะที่นิ้วกำลังพรมไปบนคีย์เปียโน

      "ชื่อของเพลงนี้คือAmethyst...เพลงที่ฉันเพิ่งแต่งคำร้องของมันเสร็จเมื่อไม่นานมานี้เอง"โยชิกิเอ่ยต่อ ยามเมื่อโน้ตตัวสุดท้ายของบทเพลงเงียบลงไป เขาโน้มศีรษะไปเบื้องหน้า ให้หน้าผากมลซบลงบนเปียโนคริสตัล ดวงตาคู่หวานมองดูคีย์สีขาวดำอย่างเลื่อนลอย

      "แม้ว่าการที่ยังคงรอคอยนั้น มันจะไม่ได้ทำให้ชีวิตของฉันดีขึ้นเลย แต่ว่าฉันก็ยังหยุดรักเขาไม่ได้ซะที"

      กาคุโตะมองดูอีกฝ่าย ฟังเสียงนุ่มอันเศร้าหมองด้วยหัวใจที่เจ็บร้าว

      ด้วยรู้ดีว่า... โยชิกินั้นรักโทชิมากเหลือเกิน รักนั้นลึกล้ำจนไม่ว่าใครก็ไม่อาจแทรกได้

      ใช่... แม้แต่เขาก็ตาม...

      "นี่ กาคุโตะ"

      ดวงตาสีน้ำตาลเบือนมามองเขาเป็นครั้งแรก พร้อมรอยยิ้มบางๆที่แต่งแต้มบนเรียวปาก

      "เรื่องเมื่อคืนน่ะ ลืมมันไปเถอะนะ ทั้งฉันและเธอเองก็เมา อีกอย่าง... ฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิง เธอไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรหรอกนะ"

      นัยน์ตาคู่หวานนั้น แม้อีกฝ่ายจะพยายามปิดบัง หากเขาก็ยังเห็นแววของความเจ็บปวดเลือนลางอยู่ภายใน มือขาวจึงได้กำแน่น

      ผิดมั้ย...

      จะผิดมั้ยนะ...

      "เมื่อคืน... ผมมีสติดี"

      ผิดหรือเปล่า... ที่ในใจลึกๆแล้ว เขาก็แอบดีใจที่ได้กอดนางฟ้าที่เขาหลงใหล...

      กาคุโตะสบตาของคนตรงหน้า ล้ำลึก...ราวกับอยากถ่ายทอดทุกความรู้สึกในอกนี้

      "ทั้งๆที่ผมก็รู้ว่าการทำแบบนี้เป็นการทำร้ายคุณ ทำให้โยชิกิซังยิ่งเจ็บปวด... ผมขอโทษ"

      ผิดหรือเปล่า...

      หากจะบอกว่าเขายอมเป็นตัวแทนของโทชิ... ยอมจะมีค่าเพียงเท่านี้ เพื่อจะได้อยู่เคียงข้างโยชิกิเท่านั้น...

      เขายังสบตาอีกฝ่าย... เงียบงัน ก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้าไปใกล้เปียโนคริสตัล คุกเข่าลง พร้อมเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่อยู่ใกล้จนแทบสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นคง

      "ผมรักคุณ... รักมากจริงๆ ผมรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งเรื่องของคุณกับรุ่นพี่โทชิ รู้ว่าผมเป็นแค่คนนอกเท่านั้น...

      แต่ว่านะ ผมไม่ชอบน้ำตาของโยชิกิซังเลย ไม่ชอบที่คุณต้องมีแววตาเจ็บปวด ผมอยากทำอะไรเพื่อคุณได้บ้าง... เพราะผมรักคุณเหลือเกิน..."

      โยชิกิมองดูรุ่นน้องตรงหน้าด้วยแววตาไหวระริกจนต้องหลับตาลง เก็บซ่อนหยาดน้ำตาที่กำลังจะรินไหลไว้ภายใน พร้อมขยับรอยยิ้มบาง

      ขอโทษนะ...

      ขอโทษนะกาคุโตะ...

      เขาเองก็รู้ว่าคนตรงหน้ารู้สึกยังไง แต่ว่า...

      เขาคิดว่าในชีวิตนี้... คงไม่สามารถรักใครได้เท่าโทชิอีกแล้ว...

      มีคำพูดมากมายจุกอยู่ในลำคอมิอาจเอื้อนเอ่ย เช่นเดียวกับความรู้สึกหนักอึ้งในอก สุดท้ายแล้ว...จึงมีเพียงสองคำที่ลอดผ่านเรียวปาก

      "ขอบคุณนะ..."

      แต่ความรู้สึกของเธอน่ะ ฉัน...รับมันไว้ไม่ได้...

                                                         *********

         ร่างสูงนั่งอยู่หน้าคีย์บอร์ดอย่างเงียบงัน

      ขอบคุณนะ...

      พอนึกถึงคำพูดของโยชิกิ นัยน์ตาสีฟ้าก็พลันไหววูบ

      เขารู้...

      รู้ว่าขอบคุณหมายถึงปฏิเศธ

      รู้ว่าขอบคุณนั้นหมายความว่าไม่รัก...   

      มือขาวยกขึ้นกุมหน้า ปกปิดแววตาร้าวราน ซ่อนเร้นไว้ภายใน

      เจ็บปวด...

      ถึงจะรู้อยู่แล้ว รู้แต่แรกว่าโยชิกิไม่เคยหันมามองตน รู้อยู่แล้วว่าผลต้องออกมาเป็นแบบนี้ แต่...

      ทำไม... ถึงเจ็บปวดขนาดนี้กันนะ...

      มือขาววางนิ้วลงบนคีย์ ดวงตาทั้งสองคู่ปรือปิดลง

      งานพิเศษของเขา... คือการเล่นเปียโนที่บาร์

      บทเพลงค่อยๆบรรเลง เพลงที่เขาได้แต่งเอาไว้เพื่อนางฟ้าแสนสวย...

      ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้รักผม... แต่ผมก็รักคุณไปแล้วนี่หน่า

      ขอผม... ทำอะไรเพื่อคุณบ้างได้มั้ย...

      Kimi no tame ni dekiru koto...

                                                            ********

          ร่างสูงโปร่งในชุดนักเรียนยืนอยู่เบื้องหน้าประตูไม้บานใหญ่

      'คณะกรรมการนักเรียน'คือตัวอักษรสีทองที่เขียนอยู่บนประตูนั้น

      กาคุโตะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มือขาววางบนประตู

      มันอาจจะเป็นการยุ่งไม่เข้าเรื่องก็จริง...

      ผลักประตูเปิดออก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง

      คณะกรรมการนักเรียน... ชื่อนี้ประกอบขึ้นด้วยหัวกะทิในด้านต่างๆ เป็นที่เคารพนับถือของนักเรียน เป็นที่ภาคภูมิของเหล่าอาจารย์

      แต่ไอ้ที่เขาเห็นนี่มันอะไรกัน...

      "อ้าว นาย... ใครหว่า"เสียงของรุ่นพี่หนุ่มเจ้าของผมสีชมพูแปร๊ดสุดโด่ดเด่นทักขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาเข้ามาในห้อง

      "คามุอิ กาคุโตะ ปีสอง พฤติกรรมมาสาย หลับในห้องเรียน มีประวัติโดนทำโทษสามครั้ง งานพิเศษคือเล่นเปียโนที่บาร์"คราวนี้เป็นคนที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา

      "ขอบใจสุกิโซ เออ! กาคุโตะ นายมาทำอะไร"ฮิเดะหันมาถามคนที่กำลังกระพริบตาปริบๆ

      "เออ... คือผมมาหารุ่นพี่โทชิน่ะครับ"เขาตอบ พร้อมยิ้มแห้งๆ

      นี่น่ะหรอห้องคณะกรรมการนักเรียน ดูผิดจากที่คิดไว้เยอะ...

      "โทชิหรอ... เฮ้ย! ไทจิ นายเห็นโทชิบ้างมั้ย"ฮิเดะหันไปตะโกนถามเพื่อนที่กำลังนั่งเล่นเบสอยู่

      "ถามฉันแล้วฉันจะถามใครวะ ตั้งแต่ไปคบกับยัยคาโอริมีใครได้เห็นมันบ้างซะที่ไหน"ไทจิตอบปัดๆอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก

      "มีคนบอกว่าอยู่แถวๆH.O.Hนะครับ"เสียงของฮีทที่กำลังกดPSPอยู่ว่า โดยตายังคงจดจ้องอยู่กับเกม

      กาคุโตะขมวดคิ้วเมื่อได้ยินชื่อแปลกๆ

      H.O.H... มันคือที่ไหนกันหว่า

      เมื่อเห็นว่ารุ่นน้องกำลังงงหนัก พาตะที่ก๊งเหล้าตั้งแต่กลางวันแสกๆจึงใจดีหันมาช่วยอธิบาย

      "House of heartน่ะ เป็นลัทธิอะไรสักอย่างหนึ่ง พวกฉันไม่ค่อยได้สนใจหรอก แต่มันอยู่ใกล้ๆโรงเรียนนี่แหละ นายก็ถามทางคนแถวนั้นเอาก็แล้วกัน"

      เมื่อได้รับคำอธิบาย ชายหนุ่มก็พยัคหน้ารับ แล้วกล่าวขอบคุณกับทุกคนก่อนจะก้าวออกไปจากห้อง

      ดวงตาพราวระยับมองประตูที่ปิดลง ฮิเดะเดินกลับไปหยิบจอยเกมที่เล่นค้างไว้ขึ้นมา

      "หลงรักอีกแล้วสินะ..."เสียงของสุกิโซดังขึ้นเบาๆ

      "จะมีใครบ้างที่ไม่หลงเสน่ห์หมอนั่นกัน แค่มองตาไอ้คนเมื่อกี้ก็รู้แล้ว"

      ไทจิพูด แค่นหัวเราะในลำคอ ก่อนสแลปเบสต่อไปอย่างไม่สนใจใคร

      "พวกเราก็เหมือนกันแหละน่า..."ฮิเดะพูด พร้อมยิ้มออกมา โดยที่ตาจดจ้องอยู่ที่เกมบนจอทีวี

      "พวกเราทุกคนต่างก็ถูกเสเน่ห์ของโยจจังดึงดูดมาอยู่รวมกัน โยจจังน่ะ มีความสามารถทำให้คนอื่นรักได้ง่ายมาก แต่เจ้าตัวดันไม่รู้ซะนี่"กล่าวกลั้วหัวเราะ แล้วพลันนึกถึงเพื่อนอีกคนที่ทำตัวแปลกไปทุกวัน

      นายน่ะ... โชคดีแค่ไหนรู้มั้ยโทชิ...

      โชคดีที่โยจจังรักนายมากกว่าใครๆ...

                                                         *********

         กาคุโตะเดินไปตามทางที่ทอดยาวไปถึงอาคารหลังหนึ่ง

      หลัณจากที่เดินถามคนมาตลอดทาง เขาก็ได้มาถึงที่ตั้งของสำนักงานลัทธิHouse of heart...

      ร่างสูงโปร่งเดินเข้าไปข้างใน ซึ่งมีการตกแต่งเรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้านสบายตา เขากำลังจะเดินไปยังเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ หากก็สะดุดสายตากับหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่เดินอิงแอบแนบชิดสวนผ่านมา

      ผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยไว้ผมยาวเลยไหล่ลงมานั้นเขารู้จัก... เจ้าหล่อนคือคาโอริ

      แต่ผู้ชายที่อยู่ข้างๆนั้นแทนที่จะเป็นโทชิ กลับเป็นคนที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

      มันหมายความว่ายังไงกัน... ไม่ใช่ว่าคาโอริคบกับโทชิอยู่งั้นหรอ?

      "คาโอริซัง"เขาเอ่ยเรียก ทำให้สองคนนั้นหยุดชะงัก

      คาโอริหันมามองคนเรียก แล้วขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อพบว่าอีกฝ่ายเป็นรุ่นน้องโรงเรียนเดียวกับเธอ

      "มีธุระอะไรกับฉันหรอ"

      กาคุโตะสบตาอีกฝ่ายตรงๆก่อนถาม

      "รุ่นพี่โทชิอยู่ที่นี่หรือเปล่าครับ"

      ประโยคที่ทำให้สีหน้าของคนตรงหน้าเปลี่ยนไปทันที เจ้าหล่อนเชิดหน้าขึ้น พร้อมทำเสียงขึ้นจมูกอย่างรำคาญ

      "ไม่รู้ คนแบบนั้นไม่ได้โผล่หน้ามาที่นี่ตั้งนานแล้ว"กล่าวจบก็ควงแขนคนข้างกาย ก้าวฉับๆออกจากตึกไปโดยไม่สนอีกฝ่ายอีก

      คิ้วของกาคุโตะขมวดเข้าหากัน คำถามและความสับสนกำลังประดังประเดเข้ามาในใจของเขา

      มันเกิดอะไรขึ้น... ตกลงโทชิไปอยู่ที่ไหนกันแน่ แล้วท่าทางของคาโอริเมื่อครู่มันคืออะไรกัน...

      เรื่องนี้หากจะรู้ให้กระจ่าง ก็เห็นคงต้องไปตามหาและถามกับเจ้าตัวให้รู้เรื่องเท่านั้น...

                                                               ******

          ตะวันคล้อยต่ำมากแล้ว... แสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ย้อมทั่วผืนฟ้าให้เป็นสีส้ม

      ดวงตาทอดมองผืนน้ำที่สะท้อนประกายระยับ ทิวทัศน์แบบเดิมๆที่เขาเคยยืนดูกับใครบางคน ทำให้ระรอกแห่งความโศกเศร้าสะท้อนอยู่หัวใจ

      "หาตัวเจอสักที"เสียงที่ดังขึ้นจากเบื้องหลัง เรียกให้ดวงตาสีนิลเบือนไปมอง

      เบื้องหน้าคือรุ่นน้องโรงเรียนเดียวกับเขา รูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาดีโด่ดเด่นเช่นเดียวกับดวงตาสีฟ้าสวย ทำให้เขานึกชื่ออีกฝ่ายออก คามุอิ กาคุโตะ... คนที่ถูกอาจารย์จับตามองเป็นพิเศษคนนั้น

      กาคุโตะหอบหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อยเนื่องจากวิ่งตามหาอีกฝ่ายจนทั่ว ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆก่อนเริ่มพูด

      "รุ่นพี่โทชิ สิ่งที่ผมจะพูด มันอาจจะดูเป็นการยุ่งเรื่องของรุ่นพี่มากไปหน่อย แต่ผมอยากให้คุณฟังผม"เว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มถาม... คำถามที่เขานึกสงสัยมาตลอด

      "รุ่นพี่โทชิ... ยังรักโยชิกิซังอยู่รึเปล่าครับ"

      โทชินิ่งงันในทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น ก่อนจะหันหลังกลับ และมองขึ้นไปบนนภาสีส้ม

      คามุอิ กาคุโตะงั้นหรอ...

      คงหลงรักสินะ... รักโยชิกิ เหมือนที่หลายๆคนหลงรักตัวตนอันแสนวิเศษนั้น

      แล้วเขาเล่า... ตอนนี้ยังรักอยู่รึเปล่า...

      เงียบงัน... โดยไร้เสียงใดๆ

      เนิ่นนาน...ก่อนที่เขาจะถอนหายใจยาว และเอ่ยปากขึ้นเป็นครั้งแรก

      "คาโอริ... ผู้หญิงคนนั้นหลอกฉัน ให้ฉันเข้าลัทธิบ้าๆนั่น เอาเงินฉันไปถลุงจนเกลี้ยง ตลอดช่วงที่คบกัน คาโอริไม่เคยจริงจังกับฉันเลย... ดูสภาพฉันตอนนี้สิ น่าสมเพชนะว่ามั้ย"หลับตาลงช้าๆ ในความมืดนั้น... เขาเห็นใครบางคน คนที่มีเส้นผมสีทองและรอยยิ้มอันสว่างไสว

      "โยชิกิ...ฉันรู้จักกับโยชิกิมานานมาก เขาคอยเป็นห่วงฉันตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนที่ฉันหันหลังให้เขาแล้วมาคบกับคาโอริก็ตาม โยชิกิก็ยังคงเป็นห่วงฉันเสมอ

      สำหรับฉันกับโยชิกิ เราเติบโตมาด้วยกัน ผ่านเรื่องร้ายดีด้วยกันมามากมาย เขามอบหลายสิ่งให้แก่ฉัน ทั้งดนตรี ความฝัน และความรัก แต่ท้ายที่สุด ฉันกลับทรยศโยชิกิ..."

      ลืมตาขึ้น มองสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆไปตามกระแสของมัน มุมปากขยับยิ้มบางที่ดูหมองเศร้า

      "ที่นายถามว่ายังรักมั้ย... ฉันคงต้องบอกว่า ตอนนี้... ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะกลับไปหาโยชิกิ ยิ่งไม่มีสิทธิ์บอกว่ารัก เพราะฉันทำร้ายเขามากมายเหลือเกิน"

      ว่าจบ โทชิก็หันหน้ากลับมา สบตากับอีกฝ่ายตรงๆ 

      "งั้นฉันขอถามนายบ้าง.... กาคุโตะ นายล่ะ รักโยชิกิมั้ย"

      ดวงตาสีฟ้าไหววูบเมื่อได้ยินคำถามตรงๆนั้น หากไม่ต้องแม้แต่จะเสียเวลาคิด เสียงนุ่มก็เอ่ยตอบในทันที

      "รักสิครับ... ผมรักโยชิกิซัง และอยากให้โยชิกิซังมีความสุข"

      มั่นคง... และหนักแน่น เช่นเดียวกับความรู้สึกในใจ

      นัยน์ตาสองคู่สบประสานกัน...

      คู่สีฟ้าเป็นของคนที่รักเธอ...

      หากคู่สีดำ คือของคนที่เธอรัก...

      โทชิเป็นฝ่ายละสายตาไปก่อน เขาขยับยิ้มบางที่เจือความโศกเศร้า ก่อนเอ่ย

      "งั้นก็ดี... จากนี้ไป ก็ขอให้นายอยู่ข้างๆโยชิกิ คอยทำให้โยชิกิมีความสุขตลอด..."พูดยังไม่ทันจบ คอเสื้อของเขาก็ถูกกระชากอย่างแรง ด้วยฝีมือของคนเป็นรุ่นน้องที่เริ่มตวาดอย่างไม่เกรงใจ

      "โยชิกิซังไม่ใช่สิ่งของที่จะยกหรือฝากให้ใครก็ได้นะครับ!!!"

      ทำไม...

      คนคนนี้... ทั้งๆที่ได้รับความรักมากมาย แต่ทำไมถึงจากไป ทำไมถึงพูดออกมาแบบนี้

      ทั้งๆที่เขาไม่เคยได้รับแม้เศษเสี้ยวของรักจากโยชิกิเลยแท้ๆ...

      กาคุโตะกัดฟันกรอด เขาทั้งโกรธและอิจฉาอีกฝ่ายจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

      "ถ้ายังรัก รุ่นพี่ก็กลับไปสิ! โยชิกิซังรักคุณ ได้ยินมั้ย! เคยรู้รึเปล่าว่าโยชิกิซังต้องเจ็บปวด เสียใจขนาดไหน แต่ทั้งๆที่เป็นแบบนั้น... โยชิกิซังก็ยังรอคุณกลับไปหาเสมอ...

      คิดว่าหลบหน้าแบบนี้มันดีแล้วหรอครับ!? มันก็ได้แต่ทำให้ทุกคนเจ็บปวดเท่านั้นแหละ! รุ่นพี่ต้องจบมันสิ ตัดสินใจสักทาง ไม่ใช่ปล่อยให้โยชิกิซังต้องรอคุณด้วยความเจ็บปวดไปตลอดแบบนี้!"

      เขาเว้นจังหวะหายใจ ดวงตาคู่สวยจ้องคนตรงหน้าที่นิ่งเขม็ง

      "ผมจะถามคุณอีกครั้ง... คุณรักโยชิกิซังรึเปล่า"

      โทชินิ่งงันไปกับคำพูดของรุ่นน้องที่ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจ

      รู้จักกันมานาน...

      เติบโตมาด้วยกัน เรียนที่เดียวกัน เล่นดนตรีด้วยกัน...

      เขาเป็นแค่คนธรรมดา... ไม่ได้โด่ดเด่นอะไรเหมือนโยชิกิ

      กระนั้น... โยชิกิก็ยังเลือกเขา...

      แล้วเขาเล่า... เคยทำอะไรเพื่อโยชิกิบ้าง

      มันอาจเป็นการเห็นแก่ตัวที่สุด...

      แม้จะหลงผิดไปกับคาโอริ

      แม้จะทำให้โยชิกิเจ็บปวด แต่...

      "ฉัน...ไม่เคยจะหยุดรักโยชิกิ"

      เมื่อไม่มีเธออยู่เคียงข้าง... จึงได้รู้ว่ารักเธอมากแค่ไหน...

      เมื่อขาดเธอไป... จึงได้รู้ว่าในใจ โยชิกิคือคนสำคัญที่ไม่อาจหาใครมาแทนได้...

      กาคุโตะมองรุ่นพี่ตรงหน้า ก่อนยิ้มออกมาบางๆ

      หน้าที่ของเขาจบลงแล้ว...

      "ตอนแรกผมอยากให้รุ่นพี่ไปหาโยชิกิซัง แต่ตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้ว..."ดวงตาสีฟ้าสวยเบือนไปด้านข้าง ร่างบางเจ้าของเรือนผมสีทองยาวสลวยยืนอยู่ตรงนั้น จากนัยน์ตาเบิกกว้างบนใบหน้าสวยราวนางฟ้านั้น ทำให้รู้ว่าคงยืนฟังมาสักพักแล้ว

      "โทชิ..."โยชิกิเรียกชื่ออีกฝ่ายแผ่วเบา แววตานั้นไหวระริกเช่นเดียวกับหัวใจที่เต้นอยู่ในอก

      กาคุโตะมองคนทั้งคู่ ก่อนจะรีบเดินหลบฉากออกมา

      ฉากของการพบกันอีกครั้ง...ที่จะมีตัวละครได้เพียงสองคน

      ไม่มีที่ว่างมากพอ...สำหรับบุคคลที่สาม

      "โยชิกิ"โทชิมองดูคนที่ไม่ได้พบมานานกำลังเดินใกล้เข้ามา คนที่คิดถึงมากเหลือเกิน...

      "โยชิกิ ฉันขอ..."คำขอโทษที่เอ่ยออกมาได้ไม่จบ เมื่อนิ้วเรียวบางของอีกฝ่ายแตะลงบนเรียวปาก

      "อย่า... ไม่ต้องขอโทษฉัน... ฉันไม่อยากได้ยินหรอก"นัยน์ตาคู่สวยรื่นน้ำตา ทั้งเสียงที่เอ่ยก็ดูจะสั่นเครือ หากที่ประดับไว้คือรอยยิ้ม... รอยยิ้มสดใสงดงามที่ทำให้โลกของเขาสว่างไสว

      "แค่มีนายอยู่ตรงหน้าฉัน... แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว"

      โทชิมองคนตรงหน้า ขอบตาพลันร้อนผ่าวยามได้ยินคำพูดนั้น แขนแกร่งรวบร่างบางมากอดไว้แน่น แทนความรู้สึกมากมายในใจที่ไม่อาจเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้หมด

      "ฉันกลับมาแล้ว โยชิกิ"

      ซบหน้าลงกับกลุ่มผมนุ่ม เสียงสะอื้นที่ไม่อาจสะกดกลั้นได้ลอดผ่านลำคอ

      กลับมาแล้ว... ฉันกลับมาแล้ว

      ต่อจากนี้ไป ฉันจะไม่ห่างเธอไปไหนอีกแล้ว...

      ให้เธอเป็นแสงสว่าง...

      ให้เธอเป็นรักแท้...

      ให้เธอเป็นทุกๆสิ่งของฉัน...

      จะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไป

      ...ฉันสัญญา...

                                                           ********

      ซ่าาา

         ร่างสูงเดินไปตามทาง สายฝนที่อยู่ๆก็สาดเทลงมานั้น ราวกับตอกย้ำหัวใจให้เจ็บปวด หากก็...อบอุ่น...?

      หากถามว่าเสียใจมั้ย

      เสียใจสิ... ในอกเจ็บไปหมด

      แต่ถ้าถามว่า มีความสุขมั้ย

      คำตอบของเขาก็คงเป็นใช่อีก...

      เพราะการทำแบบนี้ ทำให้ทั้งสองคนคืนดีกัน คือสิ่งเดียวที่เขาจะสามารถทำเพื่อคนที่รักได้...

      เพื่อที่โยชิกิจะได้ยิ้มและหัวเราะ...

      เพื่อดวงตาสีน้ำตาลแสนเศร้าคู่นั้นจะได้ทอประกายเหมือนในรูปถ่ายใบนั้น...

      ผมทำแบบนี้เพราะรักคุณ...

      ในขณะที่กำลังจมอยู่ในห้วงความคิด มือของใครบางคนก็แตะลงบนใหล่ของเขา

      ดวงตาสีฟ้าหันไปมอง ร่างเพรียวบางในชุดนักเรียนผิดระเบียบยืนถือร่มอยู่ตรงนั้น

      "มิยาบิ"

      เจ้าของชื่อเลิกคิ้วขึ้นพร้อมยิ้มบาง ก่อนพูด

      "ไง ทำหน้าแบบนั้น อกหักมาล่ะสิ"

      กาคุโตะปัดมือของอีกฝ่ายออก ก่อนรีบเถียง

      "ใครว่าฉันอกหักมาวะ คนอย่างฉันเนี่ยนะจะอกหัก ไม่มีทาง!"

      ท่าทางน่าหมันไส้ที่ทำให้ฝ่ามือบางตบหลังอีกฝ่ายดังป้าบ ใบหน้าสวยสมชื่อเชิดขึ้นเล็กน้อย

      "เชี่ย! คนอุส่าเป็นห่วงยังมาทำเก๊กอีกนะ"

      คำว่า 'เป็นห่วง' จากคนเป็นเพื่อนที่ทำให้กาคุโตะเบิกตากว้างราวกับเห็นผี

      คนอย่างมันเคยเป็นห่วงเขาด้วยเรอะ!!

      "ว่าไง ตกลงอกหักมาล่ะสิ"มิยาบิถามอีกครั้ง

      "เออ อกหักมา"ส่วนเขาก็ไม่มีอารมณ์จะตอบกวนแล้วจึงได้พูดไปตรงๆ

      "เจ็บมั้ยวะ"

      ซ่าาา...

      สายฝนยังคงสาดเทลงมา กาคุโตะรู้สึกถึงหยาดน้ำที่ไหลผ่านผิวหน้ามาถึงปลายคาง...

      มันคือน้ำฝน

      ไม่ใช่สิ...

      น้ำตา... ต่างหาก

      "โคตรๆเลย"

      มิยาบิมองอีกฝ่ายที่ยืนอยู่กลางสายฝน ก่อนจะถอนหายใจยาว มือบางปล่อยร่มในมือทิ้งลงพื้น ก่อนจะกอดอีกฝ่ายอย่างไม่กลัวเปียก

      ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้าง กำลังจะผลักอีกฝ่ายออก หากก็พลันชะงักเมื่อได้ยินประโยคถัดมา

      "ถ้าแกผลักฉันโกรธนะเฟ้ย คนอุส่าจะให้ยืมใหล่"

      คำพูดงึมงำที่ทำให้เขาอดหัวเราะเบาๆไม่ได้ เพราะแม้เสียงมันจะฟังดูหงุด แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความห่วงใยของอีกฝ่าย

      โยชิกิซัง...

      ชื่อที่ก้องอยู่ในใจ ภาพของวินาทีแรกที่เขาได้พบกับนางฟ้าแห่งเสียงเพลงย้อนกลับมา แจ่มชัด... และทำให้แววตาไหววูบ

      ใบหน้าคมคายซบลงบนใหล่บาง ก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร... แขนแกร่งโอบกอดร่างเพรียวของเพื่อนแน่น

      รักคุณ...

      ผมรักคุณ...

      ถึงอย่างนั้น... ก็ต้องตัดใจใช่มั้ย...

      นางฟ้าที่ร่อนเร่ลงมาจากสวรรค์

      ดวงตาอันแสนเศร้า บรรเลงท่วงทำนองอันไพเราะจับใจ

      มนุษย์ที่หลงรักนางฟ้า...

      หากท้ายสุดแล้ว ก็ไม่อาจอยู่เคียงข้างได้ตลอดไป...

      ตอนนี้นางฟ้าของเขา ได้สยายปีกอันสวยงาม โบยบินจากไปแล้ว...

      มันไม่มีทางเป็นไปได้ตั้งแต่แรก... ผมรู้ดี

      กระนั้น... ผมก็ยังเลือกจะรักคุณ

      ...โยชิกิ...

                                                            ********

         ซากุระสีชมพู เบ่งบานและร่วงโรย ปลิวไหวไปตามสายลม

      ซากุระที่เป็นสัญลักษณ์ของพิธีจบการศึกษา...                    

      ดวงตาสีฟ้าคู่สวยมองดูร่างบอบบางเจ้าของเส้นผมสีทองหยักลอนราวเกลียวคลื่นกำลังยิ้มและหัวเราะไปกับเพื่อนๆ

      ภาพที่ทำให้เขาอดยิ้มไม่ได้

      ดีแล้วที่เธอมีความสุข...

      และเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ว่าถูกมองอยู่ ดวงตาสีน้ำตาลสวยจึงเบือนมาหา สบลงกับนัยน์ตาสีฟ้า

      โยชิกิมองคนเป็นรุ่นน้อง ก่อนคลี่ยิ้มออกมาอย่างงดงาม รอยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยนที่ราวกับจะแทนคำขอบคุณ

      กาคุโตะยิ้มจางๆตอบกลับไป

      แค่เพียงรอยยิ้มที่ส่งมา ก็เพียงพอแล้ว...

      มิยาบิมองคนข้างกาย ก่อนกระทุ้งศอกใส่เบาๆ ทำให้อีกฝ่ายหันขวับมาแยกเขี้ยวใส่

      "ฉันตัดใจได้แล้วน่า อีกอย่าง มันเจ็บนะเว้ย ศอกมาได้ไงกัน!"

      หากคนถูกว่ากลับลอยหน้าลอยตาไม่สน ทั้งยังแอบแซวอีก

      "ใครจะไปรู้ เล่นมอง'นางฟ้า'ไปยิ้มไปแบบนั้น ระวังเถอะ'เทพบุตร'ของเขาจะกระทืบ'มนุษย์กระจอก'แบบนาย"

      ประโยคที่ทำให้กาคุโตะถึงกับจุก

      "แก...มิยาบิ!"

       ร่างของคนทั้งสองหยอกล้อตบตีกันไปพลาง เดินออกจากโรงเรียนไปพลาง ก่อนที่ร่างสูงของกาคุโตะจะหยุดชะงักเมื่อเห็นใครบางคนที่ยืนอยู่หน้าประตู

      เส้นผมสีทอง ผิวขาวจัดราวไม่เคยต้องแสง เรียวปากอิ่มแดงสดยิ่งกว่ากลีบกุหลาบ หากแต่ที่สะกดสายตาเขามากที่สุดคือดวงแก้วสีน้ำเงินบนใบหน้างามดุจตุ๊กตาฝรั่งเศษ

      "แก๊กต์ นี่แกคงไม่..."มิยาบิมองร่างของเพื่อนสลับกับคนแปลกหน้าแล้วก็ต้องเอามือกุมขมับ

      "ฉันก็อยากจะตอบว่าไม่นะ แต่ใจฉันมันบอกว่าใช่น่ะสิ"

      ชายหนุ่มมองเจ้าเพื่อนตัวดีของตน ตบใหล่มันเบาๆพร้อมแย้มยิ้มกว้าง

      "จะทำอะไรก็ตามใจ แต่อย่าอกหักมาซบบ่าฉันอีกละกัน ไม่งั้นคราวนี้ฉันจะเก็บตังค์ค่าซบแล้วนะ"

      กาคุโตะหันมามองใบหน้าสวยของอีกฝ่าย ยิ้มออกมา ก่อนเอ่ย

      "แน่นอน ใหล่แข็งๆของนายใครจะไปอยากซบกัน"

      "แก! ไอ้!!!"

      หลังจากยั่วโมโหมิยาบิจนอีกฝ่ายเดือดปุดๆ เขาก็หัวเราะร่าก่อนจะเดินไปยังเป้าหมายของตน

      มิยาบิมองตามร่างสูงของเพื่อน ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

      คนนึงก็นางฟ้า ตอนนี้ก็ตุ๊กตาน่ะหรอ... รสนิยมหรูชะมัด

      เริ่มเห็นลางของความวุ่นวายอีกแล้วล่ะสิ...

      กาคุโตะเดินมาหยุดอยู่ข้างร่างบาง ก่อนเป็นฝ่ายทักขึ้นก่อน

      "ยืนจ้องอยู่นานแล้ว มีอะไรให้ช่วยรึเปล่า"

      อีกฝ่ายยืนนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะเปิดปากถามโดยไม่หันมามองคู่สนทนา ดวงตากลมโตยังคงจ้องมองไปยังป้ายชื่อโรงเรียน

      "พี่เรียนอยู่ที่นี่สินะครับ"

      เสียงนั้นแผ่วเบา ฟังดูลึกลับและแฝงกลิ่นไอของราตรีที่เย็นเยียบ

      "ใช่แล้ว ฉันเรียนอยู่ที่นี่ แล้วเธอล่ะ"เขาถาม ดวงตามองดูเครื่องแบบของอีกฝ่ายซึ่งเป็นของโรงเรียนมัธยมต้นค่าเทอมแพงลิ่วในเมืองข้างๆ

      "ปีหน้า... จะย้ายมาเรียนที่นี่ เลยมาดูสถานที่ก่อนน่ะครับ"

      คำตอบที่ทำให้เขารู้สึกดีใจเล็กๆ

      เพราะนั่นหมายความว่า นี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่จะได้พบกัน

      เรียวปากบางขยับยิ้มบาง

      "งั้นหรอ... หวังว่าจะได้พบกันอีกนะ จริงสิ เธอชื่ออะไรหรอ"

      คนถูกถามเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่จะหันหน้ามาหาเขาเป็นครั้งแรก

      นัยน์ตาสีน้ำเงินช้อนขึ้นสบดวงตาสีฟ้า

      สีเดียวกับท้องทะเลและผืนนภา...

      ในตอนนั้น ราวกับทุกสรรพสิ่งกลืนหาย ทั้งเสียง หรือกระทั่งกาลเวลา 

      กลีบอ่อนบางของซากุระโปรยปราย ปลิวไหว และราวกับจะโอบกอดร่างของคนทั้งสองเอาไว้ในม่านสีชมพูของดอกไม้

      และมนต์สะกดแห่งความเงียบงันก็ได้พังทลายลง ยามเมื่อกลีบปากแดงสดขยับเอื้อนเอ่ยสองพยางค์แห่งนามของตน ด้วยเสียงสุดแผ่วเบาหากกลับก้องกังวาลในใจของผู้ฟัง

      "Mana"

       

      -End-

       

       

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×