ตอนที่ 38 : MY ONLY 1 | 15 : ว่าที่คู่หมั้น [1]
สุ่มแจกอีบุคจากคอมเม้นท์ค่ะ
15:Fiance
หญิงสาวกำลังคิดไม่ตกอย่างมาก หลังจากที่พ่อของเธอบอกว่าจะจัดงานหมั้นให้ นั่นคือเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นและไม่ทันได้ตั้งตัว แถมยังพูดทิ้งท้ายอีกว่าให้แต่งตัวดีๆ เอาไว้ด้วย เธอไม่ได้เกลียดณภัทรก็จริงแต่ว่านี่มันก็เร็วเกินไปที่จะให้มีงานหมั้นเกิดขึ้น
“คุณไม่อยากหมั้นเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ” เจ้าจันทร์ตอบชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้าง ในตอนนี้พ่อแม่ของเธอไปพักผ่อนด้านบนแล้ว ส่วนเธอพร้อมณภัทรออกมาเดินเล่นที่ไร่ผลไม้ด้านนอก
แดดร้อนในยามกลางวันซึ่งกำลังส่องใบหน้าของเธออยู่นั้นเทียบความร้อนในจิตใจไม่ได้เลย
“งั้นก็แย้งไปสิครับ”
“นายไม่รู้อะไร ถ้าพ่อพูดแบบนั้นก็แสดงว่าเตรียมการไว้หมดแล้วยังไงล่ะ” เพราะเป็นลูกจึงรู้ดีว่าการที่ผู้ให้กำเนิดทั้งสองมาพูดแบบนี้ด้วยก็แปลว่าโอกาสโต้แย้งยาก
“ทำไมคุณถึงไม่อยากหมั้นล่ะ”
“จะหมั้นไปทำไมเล่า สุดท้ายแล้วฉันก็ไม่ได้อยู่ประเทศไทย ฉันจะไปทำงานที่ญี่ปุ่น ยังไงวันนึง..” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยจบประโยค
“ไม่ว่ายังไงคุณก็คิดจะทิ้งผมใช่ไหม”
“..คือเรื่องนั้น”
“ยังไงคุณก็จะไปจากชีวิตผมใช่ไหม”
หญิงสาวไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร เธอได้แต่มองหน้าร่างสูงด้วยอาการอ้ำอึ้ง
“ผมไม่ยอมให้คุณทิ้งผมไปหรอก” ชายหนุ่มกล่าวแค่นั้นก็เดินนำหน้าเธอไปราวกับต้องการทิ้งระยะห่าง
หญิงสาวยืนมองแผ่นหลังของร่างสูงแล้วก็ได้แต่รู้สึกแปลกๆ ทำไมถึงได้รู้สึกว่าตนเองกำลังโดนผู้ชายงอนเข้าให้เสียแล้ว แต่ณภัทรจะมาน้อยใจอะไรเธอกันล่ะ ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ
“นายจะเดินไปไหนน่ะ รอก่อนสิ” สุดท้ายแล้วเจ้าจันทร์ก็ต้องเดินตามอีกฝ่ายไปอยู่ดี
เพราะณภัทรเดินทิ้งห่างออกไปไกลทำให้สาวเจ้าต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามร่างนั้นไป แต่พื้นหญ้าตามไร่ฟาร์มไม่ได้เรียบเหมือนพื้นถนนทั่วไป พอไม่ระมัดระวังย่อมสามารถมีอุบัติเหตุได้
“โอ๊ย” ร่างเล็กล้มลงไปนั่งกับพื้นดินหลังจากที่เดินสะดุดล้มก้อนหิน
สาเหตุนั้นเองทำให้ชายที่กำลังเดินไปไกลรีบหันหลังกลับมาเพราะได้ยินเสียงร้องของหญิงสาว ณภัทรสามารถเข้ามาประชิดตัวเธอได้ในเวลาชั่วพริบตา
“คุณ..เดินยังไงให้ล้มครับ”
“ก็ก้อนหินมันขวางทางนี่” หญิงสาวบ่นในขณะที่กำลังปัดเศษดินเศษหญ้าตามร่างตนเอง โดยเฉพาะตรงหัวเข่าที่เต็มไปด้วยเม็ดดิน แถมยังมีเลือดออกอีกต่างหาก “เจ็บอะ”
“ก้อนหินก็อยู่ของมันดีๆ คุณไปชนมันเอง”
“เลิกบ่นเถอะน่า ก็เพราะนายนั่นแหละที่เดินเร็ว ไม่งั้นฉันก็ไม่ต้องวิ่งตามจนล้มแบบนี้”
“โอเคครับ ลุกขึ้นยืนได้ไหม” ณภัทรยอมรับผิด เขาไม่อยากให้อีกคนทำหน้าบึ้งใส่เขามากขึ้น ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นฝ่ายน้อยใจได้ไม่นานนักหรอก ต้องตามกลับมาง้อเธออยู่ดี
“อ๊ะ เจ็บเข่า ยืนไม่ได้มันเจ็บอะ” หลังจากที่ชายหนุ่มช่วยพยุงตัวของเจ้าจันทร์ให้ลุกขึ้น ความเจ็บแปล๊บจากแผลถลอกก็เล่นงานทันที พอเป็นแผลช่วงหัวเข่าด้วยก็ยิ่งแย่
ณภัทรมองอาการของคนที่ลุกขึ้นยืนยังไม่ไหวด้วยความเป็นห่วง ถ้าจะให้เดินกลับเองก็คงไม่รอด
“ขึ้นหลังผมมาครับ” เจ้าของร่างสูงย่อกายลงไปนั่งหันหลังให้คนเจ็บ
“จะให้ฉันขี่หลังนายเหรอ” เจ้าจันทร์มองอย่างไม่ไว้ใจ
“ถ้างั้นคุณจะเดินกลับเองเหรอครับ ขึ้นมาเร็วเดี๋ยวผมไปส่งที่ห้องพักแล้วจะรีบทำแผลให้”
เพราะไม่มีทางเลือก เธอจึงค่อยๆ เขยิบเข้าไปหาแผ่นหลังนั้นก่อนจะใช้มือไปเกาะไหล่ของอีกฝ่ายเอาไว้ ไม่นานร่างเล็กก็ถูกยกขึ้นลอยจากพื้นดินไปอยู่บนหลังของชายหนุ่ม
ณภัทรใช้แขนเกี่ยวเรียวขาทั้งสองข้างของเธอเอาไว้แล้วจึงเริ่มเดินไปอย่างช้าๆ โชคดีที่ขามาจากรีสอร์ทถึงไร่นี่ไม่ได้ไกลมากนัก ขากลับจึงไม่ต้องกังวลว่าจะเดินแบกหญิงสาวไกล แต่ว่าต่อให้ไกลเขาก็ไม่รู้สึกลำบากอะไรมากนัก ตัวของเจ้าจันทร์น่ะเบาจนอุ้มได้ทั้งวัน
ในขณะเดียวเจ้าจันทร์ก็ได้แต่กอดไหล่ของณภัทรไว้แน่นไม่กล้าขยับเขยื้อนร่างกายเพราะกลัวจะตกลงไปเจ็บซ้ำสอง เมื่อไม่มีเสียงพูดคุยอะไรหญิงสาวก็รู้สึกได้ถึงเสียงของอะไรสักอย่างที่กำลังเต้นแรงอยู่ใต้อกของเธอ หัวใจที่เต้นเร็วผิดปกตินี้เกิดจากสาเหตุอะไรนะ เพราะกลัวหรือเปล่า..
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอรู้สึกว่าแผ่นหลังของอีกฝ่ายอบอุ่นและน่าซบมากขนาดนี้
“ให้ขี่หลังเฉยๆ นะครับ ไม่ได้ให้ลวนลาม” เสียงของเขาดังขึ้นหลังจากที่เธอเอนศีรษะลงไปพิงกับไหล่ของเขา
เจ้าจันทร์ปล่อยมือข้างหนึ่งออกแล้วทุบหลังชายหนุ่มไปทีนึง
“ฉันไม่ได้ลวนลามนาย หลงตัวเอง” มีวันไหนบ้างที่เธอไม่ต้องออกแรงทุบตีเขา แต่ต่อให้ทุบอีกกี่ทีเจ้าตัวก็ดูไม่เจ็บไม่เป็นอะไรสักที เหมือนกระต่ายที่คิดจะใช้กำลังกับราชสีห์ รู้ทั้งรู้ว่าแพ้แต่ก็อยากลอง
“ตอนนี้ผมไม่ได้หลงแค่ตัวเองนะครับ ผมหลงคุณมากด้วย”
“ฮึ...” หญิงสาวไม่ได้โต้ตอบอะไร ทำเพียงแค่นเสียงใส่อีกฝ่าย หัวใจเธอเต้นแรงอีกแล้ว คราวนี้เป็นเพราะอะไรอีกล่ะ โกรธหรือเปล่า
เมื่อมาถึงที่พัก ณภัทรพาเจ้าจันทร์มานั่งรอตรงโซฟาชั้นล่างในระหว่างที่เขาไปหาอุปกรณ์มาทำแผลให้เธอ โชคดีที่ในบ้านพักมีอยู่กล่องหนึ่งที่จัดเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
เจ้าจันทร์มองใบหน้าของคนที่กำลังเช็ดแผลให้เธออยู่แล้วก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“นายคิดยังไงกับเรื่องหมั้น”
“เอาคำตอบแบบตรงๆ หรือแบบดูดีล่ะครับ” ณภัทรไม่ได้เงยหน้ามาตอบเธอและยังคงวุ่นวายกับการทำแผล
“เอาตรงๆ สิ”
“หมั้นกับคนที่ผมรัก ผมก็ต้องยินดีสิ แต่ถ้าเอาคำตอบดูดีหน่อยผมก็คงตอบว่าขึ้นอยู่กับคุณ ถ้าคุณยินดีผมก็มีความสุข”
“สรุปตอนนี้นายคิดยังไงกันแน่” เจ้าจันทร์เริ่มสับสนกับคำตอบนั้นเล็กน้อย
“ผมคิดยังไงก็ไม่สำคัญเท่ากับคุณคิดยังไงหรอก อันที่จริงผมก็อยากรอให้คุณรักผมจริงๆ ก่อนแล้วค่อยหมั้นก็คงดี” ชายหนุ่มตอบโดยที่ไม่มั่นใจว่าจะมีวันนั้นจริงหรือเปล่า วันที่เธอจะรักเขาจริงๆ ที่ว่านั่น
เช่นเดียวกับเจ้าจันทร์ที่ให้คำตอบไม่ได้เช่นกัน
“เสร็จแล้วครับ แผลไม่ลึกแค่ถลอกแต่ก็ระวังด้วยเวลาอาบน้ำ”
“นาย..มือเบาจัง” เธอไม่รู้สึกตัวเลยว่าเขาติดผ้าก็อตสีขาวนั่นลงบนเข่าของเธอตอนไหน
อาจจะเป็นเรื่องปกติของคนเป็นหมอหรือเปล่า..
“อะไรที่เกี่ยวกับคุณผมก็พยายามทำให้เบาหมดนั่นแหละ ตัวบางแค่นี้ทำแรงก็ช้ำแย่”
“ชิ กล้าพูด” เจ้าจันทร์มุ่ยหน้าใส่อีกฝ่ายทันที “แล้วใครกันที่ทำให้ฉันแทบช้ำเมื่อคืน”
“อ๋อ เรื่องนั้นเป็นข้อยกเว้นนะครับ”
Castle-G's Talk
นะเป็นพระเอกที่รับบทได้ทุกแนวค่ะ บทหวาน บทอ่อนโยน บทโหด บทหื่นกาม
คุ้มค่าตัวมากจริงๆ 55555555555555
มาหวีดติดแท็ก #ณเจ้าจันทร์
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ชอบค่ะ รอนะคะ