ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของเน่าๆ ของผม

    ลำดับตอนที่ #33 : [Fic-Trading Project] Quested by oonolda / All mixed up

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 220
      0
      16 เม.ย. 55

    Fiction Trading Project

     

    To: oonolda

    From: BlackLight SoNata

    Character: ไป๋เหลียนเย่

    Fiction’s Name: Hansel & Gretel Story บ้านขนมหวานฉบับพิสดาร!?

     

    ตอนแรกได้ดราม่ามา...ทำหน้า =[ ]=!? ไปเต็มๆ เลยล่ะค่ะ เนื่องจาก...อย่างที่รู้ๆ กันคือโฟร์ไม่ถนัดแต่งแนวดราม่าอย่างแรง และต้องขอขอบคุณที่ท่านให้เปลี่ยนแนว ไม่อย่างนั้นโฟร์แต่งรั่วไม่ขึ้นแน่ๆ ค่ะ (ถึงข้อแม้จะเพิ่มมาอีกสองสามข้อก็ตามที = =’ ) ทำให้ฟิคเทรดมันสำเร็จอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ต้องขอบคุณท่ามลมที่ได้เควสของโฟร์ด้วย...โฟร์เลยล้อนิทานมั่ง (โดนชก)

    ซึ่งจะล้อนิทานเรื่องฮันเซลกับเกรเทลค่ะ ขอเชิญติดตามได้เลยค่า!

    (กราบไหว้อวี้หว่อสามรอบ ขอยืมมุขหน่อยนะคะ...)

    (ปล. แป๊กอย่าว่ากันเนอะ)

    (ปปล. สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ!)

    _______________________________________________________

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ซึ่งผ่านมานานมากๆ นานมากกกกก (ลากเสียง) มากจนจำไม่ได้...เฮ้ย! บ้าเหรอ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ไม่ต้องมาแต่งแล้ว!

    โอเคๆ เริ่มใหม่ก็ได้ อ่ะแฮ่ม!

     

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ซึ่งผ่านมานานมากๆ และนานมากกก (ลากเสียง) ได้มีครอบครัวหนึ่งตั้งบ้านอยู่ในชายป่า อันประกอบไปด้วยท่านพ่อมิซเซอรี่ผู้มีอาชีพตัดไม้ทำลายป่า (แค่กๆ!) ท่านแม่มอคค่า และลูกอายุสิบสองและเจ็ดตัวน้อยๆ เพียงสองคน ซึ่งก็คือฮันเซลคอนเน่...เอ๊ย! ฮันซีแนน และเกรเซียร์

    ฮันซีแนนนั้นมีเรือนผมสีทองเฉกเช่นด้วยกับพ่อมิซเซอรี่ ในขณะที่เกรเซียร์นั้นมีเรือนผมสีเงินสว่างเหมือนกับพ่อสะใภ้ของเขานามว่าคอฟฟี่ ทำให้ทั้งครอบครัวนั้นรักกันอย่างกลมเกลียวจนถึงขั้นสาบานว่าชาตินี้จะไม่ไปไหนอีกแล้ว

    แต่ความสุขมักไม่มีทางยั่งยืน

    มิซเซอรี่ได้ทำการยืมเงินในเดือนๆ หนึ่งเพื่อเลี้ยงแม่กับลูกทั้งสองคนเป็นเงินจำนวนสามหมื่นเหรียญทองจากเศรษฐีลูเธอร์ แต่กลับไม่มีเงินพอจ่ายในเดือนต่อมา นั่นทำให้เศรษฐีลูเธอร์ถึงกับโกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า และเกือบจะประกาศเพิ่มดอกเบี้ยอีกสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ยังดีที่โหรฯ ประจำตัวของเขา ฟาวแลน ผู้ชำนาญด้านโหราศาสตร์ แถมยังแม่นตลอดกาล ได้สั่งห้ามไว้ก่อนว่า

    “เจ้าไม่ต้องรีบไปหรอกลูเธอร์ เดือนหน้ามิซเซอรี่มีเงินมาคืนเจ้าแน่” ทำให้ลูเธอร์ตวัดนัยน์ตาสีเงินแวววาวของตนมองมิซเซอรี่ แล้วประกาศเสียงดัง

    “หากเจ้ายังไม่อยากล้มละลาย เดือนหน้าจงมอบเงินทั้งหมดที่ยืมไปมาให้ข้าซะ!

    จะให้มิซเซอรี่ทำอย่างไรได้นอกจากพยักหน้า ก่อนจะเดินกลับบ้านไปอย่างหงอยๆ และเมื่อตกดึกก็ลากภรรยาของตนมาคุยเรื่องหนี้สิน

    “นี่ มอคกี้ นายว่าฉันเอาไงดีล่ะ เศรษฐีลูเธอร์หน้าเลือดนั่นบอกไว้ว่าอย่างนี้นะ”

    มอคค่าอึ้ง ก่อนจะใช้วิชาพยากรณ์ของตนทำนาย แล้วบอกว่า “ที่พวกเราต้องทำคือปล่อยให้ลูกของเราอาศัยอยู่ในป่าหนึ่งเดือน...ที่จริงฉันก็ไม่อยากทำเลย” นางว่าพลางหน้าเขียวคล้ำด้วยความเจ็บปวด “ฮันซีแนนอายุแค่สิบสอง ส่วนเกรเซียร์ก็แค่เจ็ดเท่านั้น...”

    มิซเซอรี่หน้าซีด ก่อนจะพึมพำกับตัวเองว่า “แค่เดือนเดียวเท่านั้น...ลูกเราน่าจะอยู่ได้ล่ะนะมอคกี้” ว่าเสร็จก็ทำหน้าหนักใจปนเครียดจัด ไม่ใช่ว่าเขาอยากทิ้งลูกชายทั้งสอง

    หารู้ไม่ว่าฮันซีแนนที่ลงมากินน้ำได้ซุ่มฟัง และได้ยินทุกประการ จึงรู้สึกตื่นตระหนกว่าจะได้ออกนอกบ้าน และโดนทิ้งอย่างน่าอนาถา แน่นอนว่าเขาไม่อยากไปเลยสักนิด...

    เมื่อวันรุ่งขึ้น ฮันซีแนนและเกรเซียร์ได้ถูกพ่อมิซเซอรี่พาไปตัดไม้ทำลายป่าในที่ๆ ไกลออกไป และไกลกว่าเก่าชนิดที่ว่าพวกเขาไม่มีทางจำทางได้ ฮันซีแนนคนพี่จึงบดขนมปังที่พ่อให้เป็นทาง โดยไม่ได้เหลียวหลังมองด้านหลังเลยแม้แต่น้อยเพราะกลัวพ่อจะสงสัย ดังนั้นจึงไม่เห็นเหตุการณ์ข้างหลังเขา

    มีนกพิราบมาจิกกินเศษขนมของเขาเสียหมดสิ้น!

    เมื่อพ่อมิซเซอรี่เริ่มลงมือตัดไม้ บราเธอร์คอมเพล็กซ์อย่างฮันซีแนนก็เล่นกับเกรเซียร์อย่างมีความสุขจนลืมไปเสียสนิทว่าพ่อของตนตัดสินใจจะทิ้งพวกเขา... (เพราะความบ้าน้องชายเป็นเหตุสินะ)

    ทั้งคู่เล่นกันจนตะวันลาลับขอบฟ้ากว่าจะรู้ตัวว่าถูกทิ้งอยู่ในป่า ทำให้เกรเซียร์ถึงกับร้องไห้ออกมา

    “เกรเซียร์ ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวพี่พากลับบ้านเอง”

    “ต...แต่...พี่ครับ ฮึก ถ้า...ถ้าเรากลับไม่ได้ล่ะครับ” เกรเซียร์ร้องไห้น้ำตาไหลพรากๆ ทำให้ฮันซีแนนใจหาย ก่อนจะจัดการปลอบใจ

    “โอ๋ๆๆ ฉันจะพานายกลับไปนะเกรเซียร์...ตอนนี้นายหยุดร้องก่อนนะเด็กดี” ฮันซีแนนปลอบ ทำให้คนที่ติดพี่ชายอย่างเกรเซียร์พยักหน้า สุดท้ายก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อย

    เด็กชายผมทองมองน้องชายของตัวเองสักพัก ก่อนจะหลับตาตามไป...

     

    ในที่ๆ ไม่ไกลจากถิ่นที่ฮันซีแนนกับเกรเซียร์อยู่นั้น ได้มีสาวงามที่รูปร่างเป็นชายร่างหนึ่ง เรือนผมสีดำเฉกเช่นรัตติกาลยาวถึงเข่า แต่ถูกรวบสูงไว้เพียงสะโพก รูปร่างสะโอดสะอง นัยน์ตาสีทองราวแสงจันทราสาดส่อง เขาใส่ชุดกี่เพ้าสีม่วงลายวิจิตรงดงามจนน่าไปอยู่พิพิธภัณฑ์มากกว่า... (เพี้ยะ! //โดนแส้ฟาด...โอเคๆ บรรยายใหม่ก็ได้!)

    เขาใส่ชุดกี่เพ้าสีม่วงลายวิจิตรงดงามที่ถูกเย็บมาอย่างประณีต แต่ถึงจะประณีตอย่างไรก็ไม่อาจเทียบรัศมีของผู้ใส่ได้

    ...เสน่ห์ของแม่ (?) มดจันทร์เสี้ยว ไป๋เหลียนเย่

    เขาทำเพียงลาดตระเวนตามปกติ แต่แล้วก็มาสวนทางกับสองพี่น้องหลงทางที่กำลังนอนอยู่ แล้วก็ต้องตกหลุมรักฮันซีแนนเข้าอย่างจัง แต่เขาเองก็กินมนุษย์เป็นอาหาร ทำให้คิดแผนอย่างหนึ่งออกมาได้ จึงเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ก่อนจะเดินกลับบ้านของเขาเพื่อเตรียมการบางอย่าง

    เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ฮันซีแนนกับเกรเซียร์ก็ได้กลิ่นของขนมหวานโชยมาแต่ไกล ด้วยความหิวที่ไม่ได้กินอะไรเลยมาถึงหนึ่งวันทำให้พวกเขาท้องร้อง จึงเดินโซซัดโซเซตามกลิ่นไป เมื่อเดินตามไปเรื่อยๆ ก็พบว่าเป็นบ้านขนมหวานหนึ่งหลังนี่เองที่ส่งกลิ่นเย้ายวน ด้วยความหิว พวกเขาก็ไม่ลังเลตั้งหน้าตั้งตากินบ้านหลังนั้น และเวลานั้นเองที่ไป๋เหลียนเย่ออกมา

    “พวกนายทำอะไรกับบ้านของฉัน!

    ฮันซีแนนกับเกรเซียร์สะดุ้ง เลิกเกาะกินบ้านขนมหวานหลังนั้นแล้วผละออกมา

    โชคดีที่ฮันซีแนนเป็นคนมีวาทศิลป์เป็นเลิศ เขาจึงพูดจาฉะฉานกับไป๋เหลียนเย่ราวเจรจาธุรกิจกัน พูดเรื่องซับซ้อนวกไปวนมาจนเกรเซียร์ที่ไร้เดียงสาถึงกับตาลายไปก้นหอย แทบสลบไปเสียตรงนั้น แต่โชคดีที่ก่อนที่สมองเขาจะไปก่อน ฮันซีแนนกับไป๋เหลียนเย่ก็ได้ทำการเจรจาเสร็จพอดี

    “เอาล่ะเกรเซียร์ ในหนึ่งเดือนนี้พวกเราอยู่ที่นี่ได้ล่ะนะ แต่ต้องทำงานบ้านให้เขาเป็นการตอบแทนนะ”

    เกรเซียร์อ้าปากค้าง...นี่คุยกันสิบห้านาที แถมยังวกไปวนมาเป็นภาษาสรรเสริญเทพเจ้าแห่งแสงสว่างกลับมีใจความแค่เนี้ยะ??

    ฮันซีแนนยิ้มสดใส ไป๋เหลียนเย่ก็ยิ้มอย่างมีเสน่ห์กลับไป ก่อนจะเชิญทั้งคู่ให้เข้าไปในบ้าน

    เหยื่อติดกับแล้ว...คิก

     

    เกรเซียร์นั้นทำอาหารเก่งเป็นเลิศ เนื่องจากชอบช่วยท่านแม่มอคค่าทำอาหารเสมอ และทำงานบ้านเก่งมากด้วย

    ฮันซีแนนเองก็มีรอยยิ้มสดใส แถมยังรักน้องชายของตนมากถึงขั้นว่าถ้าเอาไปให้หมอตรวจ หมอต้องการันตีมาว่าเขาเป็นบราเธอร์คอมเพล็กซ์ระยะสุดท้าย รักษาไม่หายแน่ๆ

    แต่แผนของไป๋เหลียนเย่ก็ยังคงดำเนินต่อไป...เมื่อผ่านไปครึ่งเดือน ฮันซีแนนกับเกรเซียร์ต่างก็ไว้ใจแม่มด (หรือพ่อมด) คนนี้แล้ว เพราะว่านางใจดีมาก เมื่อเกรเซียร์ทำอาหารก็มักจะไปช่วยทำ และเมื่อเกรเซียร์ไปทำงานบ้าน เขาก็มักจะไปช่วยด้วย...ส่วนฮันซีแนนก็กินข้าวรอ เอ๊ย! หมายถึงไปหาของจำเป็นสำหรับทำอาหารกับงานบ้านน่ะนะ

    เมื่อเป็นอย่างนี้ แผนที่วางไว้ตั้งแต่แรกก็ยังคงดำเนินต่อไป... (เขียนงี้สองรอบแล้วนะแก)

    ในคืนที่สิบห้าหลังจากที่เด็กทั้งสองคนต่างก็ได้มาอยู่ที่นี่ คืนนั้นเป็นคืนที่เงียบสงัดและมืดมาก

    ไร้ซึ่งจันทรา ไร้ซึ่งดารา รอบๆ ต่างก็มืดมิดเสียจนน่ากลัว ทำให้ทั้งสองตัดสินใจพากันนอนกันให้เร็ว ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะนั่นเป็นแผนที่แม่มดกินคนวางเอาไว้

    เก็บฮันซีแนนเอาไว้ แล้วกินเนื้อของเกรเซียร์ซะ!

    แต่ว่าเกรเซียร์ยังผอมอยู่เลย ต้องเลี้ยงให้ดีกว่านี้ก่อน ถึงจะกินได้อร่อย

    ขาเรียวก้าวผ่านความมืด เปิดประตูเสียงเบาแล้วพบว่าสองคนนั้นยังหลับอยู่ ไป๋เหลียนเย่ถอนหายใจ ก่อนจะเดินเข้าไปอุ้มเกรเซียร์เข้าห้องใต้ดิน แล้วจับขังไว้ในกรงทั้งอย่างนั้น และเข้าไปนอนในห้องของตัวเอง...

     

    ในเช้าของวันที่สิบหก ฮันซีแนนตื่นขึ้นมาโดยไม่เห็นเกรเซียร์ น้องชายสุดที่รักของเขา จึงตะลีตะลานวิ่งไปหาไป๋เหลียนเย่

    “จันทร์เสี้ยว! ช่วยด้วยๆๆ น้องชายฉันหายไป!

    “ว่าไงนะ!” ไป๋เหลียนเย่แสร้งอุทาน ทำหน้าตกใจเสียเต็มประดา ก่อนจะสะดุ้งเมื่อฮันซีแนนได้ร้องไห้ออกมา

    “นาย...ต้องเอาเขามาให้ฉันให้ได้นะจันทร์เสี้ยว...ฮึก น้องชายฉันหายไป ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว...”

    ดูเหมือนเขาต้องเปลี่ยนแผนสินะ...

     

    ผ่านไปสองวันท่ามกลางบรรยากาศหดหู่จนชวนหนาวที่แผ่ออกมาจากร่างของฮันซีแนน สุดท้ายแม่มด (...อืม ชักสับสนเพศพี่ท่านแล้วสิ) ไป๋เหลียนเย่ก็ได้แอบสร้างคนใช้วิญญาณขึ้น ก่อนจะไปวิ่งบริหารร่างกายจนเหงื่อออก ทำหน้าตื่นตระหนกพลางวิ่งลงไปในห้องใต้ดินแล้วเปิดไฟ

    “ฮึก...ฮึก...” เกรเซียร์ที่ถูกขังไว้โดยไม่เห็นเดือนเห็นตะวันกำลังร้องไห้ ก่อนจะชะงักเมื่อรู้สึกได้ถึงความสว่างจึงเงยหน้ามองอาคันตุกะ ซึ่งก็คือไป๋เหลียนเย่นั่นเอง

    เขายิ้มเนือยๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อนพลางย่อเข่าลงให้เสมอกับประตู

    “ฉันขอโทษนะเกรเซียร์ เพราะฉันคนเดียวที่อยู่กับพวกนายเพลินไปหน่อย เลยไม่ได้ดูพวกขี้ข้าใต้เท้าฉัน...”

    “ข...ขี้ข้า? หมายถึงคนรับใช้เหรอครับ ฮึก...แต่ผมไม่เคยเห็นเลยนะครับ”

    ไป๋เหลียนเย่ยิ้มอ่อนๆ “นายไม่เห็นเพราะไม่มีสัมผัสที่หกน่ะสิ พวกมันเป็นวิญญาณทั้งนั้น...ฉันลืมให้อาหารมัน มันเลยจ้องจะกินนาย” ว่าเสร็จก็ชักกุญแจจากกระเป๋าออกมาเพื่อไขแม่กุญแจที่ล็อกกรงเอาไว้ “ฉันจะปล่อยนายให้ พี่ชายนายเป็นห่วงนายมากเลยล่ะ”

    “พ...พี่เหรอ” ดวงตากลมโตแลดูไร้เดียงสาของเกรเซียร์มองไปที่ไป๋เหลียนเย่ ทำให้อีกฝ่ายยิ้มกว้างมากขึ้นนิดหน่อย

    “อื้ม ออกไปกัน แล้วเดี๋ยวฉันจะลงโทษพวกนี้เอง...”

    “...ครับ!

     

    ผ่านไปหนึ่งเดือน พวกเขาก็ได้เวลากลับแล้ว...

    “ไม่นะซีน นายอย่าไปนะ!” ไป๋เหลียนเย่ว่าพลางกอดฮันซีแนนอย่างแนบแน่น

    “ไม่เอาน่าจันทร์เสี้ยว...เดี๋ยวฉันก็กลับมาหานายน่า”

    “ฉันไม่เชื่อ...” ใบหน้างดงามของไป๋เหลียนเย่ง้ำง้อ ในขณะที่คนโดนกอดได้แต่ยิ้มแหยๆ ก่อนจะถอนหายใจ แล้วมอบผ้าพันคอให้

    “เก็บนี่ไว้แทนคำสัญญาละกัน ถ้าเดือนหน้าฉันไม่มาหานายล่ะก็ นายมาหาฉันได้เลย!

    “นายพูดเองนะ” ไป๋เหลียนเย่ยิ้มอย่างงดงาม ฮันซีแนนจึงยิ้มกว้าง ก่อนจะพยักหน้า

    “งั้น...ฉันไปก่อนล่ะ” ฮันซีแนนว่าพลางเดินจูงน้องชายของตัวเองจนออกนอกรั้ว

    “ไปล่ะนะคร้าบพี่ไป๋!” เกรเซียร์หันมาโบกมือลา ทำให้คนโดนลาโบกมือลาบ้าง

    และแล้วทั้งสามก็ถูกแยกจากกัน แต่เชื่อว่าพวกเขาคงได้เจอกันอีกแน่นอน...

     

    หนึ่งเดือนผ่านไป...

    ชายหนุ่มรูปงามหน้าตาสะสวยราวหญิงสาว เรือนผมสีดำสนิทที่รวบสูง นัยน์ตาสีทองอร่ามราวแสงจันทร์เย้ายวน สวมชุดกี่เพ้าถูกเย็บอย่างประณีตวิจิตรกำลังยืนอยู่หน้าบ้านของคนสักคนที่เขารู้จัก ในอ้อมแขนโอบช่อดอกกุหลาบสีแดงสดเพื่อมอบให้ใครสักคนที่อยู่ในบ้าน

    มือเรียวเอื้อมมือไปกดกระดิ่ง ก่อนจะได้ยินเสียงของใครสักคนที่ฟังดูยังเป็นเด็กกึ่งวัยรุ่นว่า “มาแล้วคร้าบ” หลังจากนั้น ประตูก็ถูกเปิดออก

    นัยน์ตาสีแดงของลูกเจ้าของบ้านชะงักมองอาคันตุกะตรงหน้า ในขณะที่คนโดนมองก็แย้มรอยยิ้มอย่างมีเสน่ห์พลางยื่นช่อดอกกุหลาบให้ทั้งใบหน้ายังแดงด้วยความเขินอาย

    “ฉัน...รักนายนะซีน”

    คนโดนสารภาพรักทำหน้างง ก่อนจะอ้าปากถามคำถามที่ไป๋เหลียนเย่แทบอยากกระโจนไปฆ่าตัวตาย

    “...นายเป็นใคร”

     

    -จบเถอะ-

    _______________________________________

    สุขสันต์วันสงกรานต์!

    คิดภาพต่อได้ แต่เป็นไปได้อย่าแต่งต่อนะคะ (บอกเผื่อ ฮา)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×