ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [2PM] CNN : I'M YOUR MAN

    ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER VI

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ค. 58


    - VI -

    07.00 PM

              หนึ่งทุ่มตรง เป็นเวลาเลิกคลาสภาษาอังกฤษของมินจุนพอดิบพอดี เขารีบเก็บชีทและเครื่องเขียนใส่กระเป๋า คิดในใจว่าจะรีบแจ้นออกไปจากห้องให้ไปที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

              “เดี๋ยวก่อนสิคุณ อย่าเพิ่งไป” แทคยอนเรียกมินจุนไว้เพื่อที่จะคุยธุระเกี่ยวกับละครเทวีตามที่นิชคุณไหว้วานมา

              แต่มินจุนทำเป็นไม่สนใจ เขาสตาร์ทตัววิ่งอย่างเร่งรีบ แต่เวรกรรมอะไรหนอทำให้เขาดันซุ่มซ่ามสะดุดขาโต๊ะเลคเชอร์ที่อยู่ตรงหน้า แทคยอนรีบเข้าไปคว้าตัวมินจุนเข้ามาไว้ในอ้อมกอดก่อนที่คนตัวเล็กกว่าจะล้มหน้าคว่ำ หน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ

              …ใกล้...

              ...ใกล้เกินไปแล้ว...

              ..ตึกตึก..ตึกตึก..

              มินจุนอ้าปากค้างอึ้งในเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่สักพัก ก่อนจะรู้สึกตัวได้ว่าควรผลักคนตัวสูงให้ออกห่างตัว

              “ป..ปล่อยได้แล้ว” มินจุนรู้สึกหน้าร้อนผ่าวอย่างไม่เข้าใจเหตุผล นี่นอกจากเขาจะรู้สึกเขินแล้วเขายังใจเต้นกับไอ้แมวยักษ์นี่น่ะเหรอ เขาเกลียดเกย์จะตาย แถมเขายังเกลียดความรักอีกต่างหาก ไอ้อาการใจเต้นนี่มันขั้นเบื้องต้นของความรักชัด ๆ ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! เมื่อกี้เขาต้องมโนไปเองแน่ ๆ

              แทคยอนที่เพิ่งตั้งสติได้ จึงปล่อยมินจุนออกจากอ้อมกอดตัวเองแล้วเกาหัวแก้เขิน ถึงเขาจะตามสตอกเกอร์มินจุนมาได้หนึ่งปีเต็ม แต่เขาไม่เคยมีโอกาสได้ชิดใกล้กับมินจุนแบบเหตุการณ์เมื่อสักครู่เลย ในใจน่ะดีใจจนอยากกระโดดโลดเต้นไปแล้ว แต่เขาก็เก็บอาการไว้

              “ข..ขอบใจ” มินจุนพูดออกมา แทคยอนแทบไม่เชื่อที่ตัวเองได้ยิน ว่าไงนะ มินจุนขอบคุณขา? ไม่คิดว่าชาตินี้จะได้ยินอะไรดี ๆ แบบนี้จากปากของคนตัวเล็กกว่าด้วย

              “ม..มองหน้าหาเรื่องหรือไงเล่า!? ไหนมีธุระอะไรก็ว่ามามินจุนแหวใส่แทคยอนที่มัวแต่จ้องหน้าเขาด้วยความอึ้งจนไม่ยอมพูดธุระออกมาสักที

              “อ..อ๋ออ ธุระของผมก็คืออยากให้คุณช่วยผมเกี่ยวกับงานต้อนรับเฟรชชี่ของมหาลัยน่ะ เพื่อนผมมันขอร้องมาว่าต้องเป็นคุณเท่านั้นที่จะช่วยได้” มินจุนเอียงคอด้วยความสงสัยว่ามันอาจจะเป็นแผนชั่วร้ายของไอ้แมวยักษ์ตรงหน้า

              “แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วย ฉันไม่ได้มีความพิเศษอะไรที่จะต้องมาเจาะจงขนาดนั้นเสียหน่อย”

              “ถ้างั้นคุณช่วยตามผมมาที่ห้องประชุมสภานักศึกษาหน่อยแล้วกัน แล้วผมจะบอกว่าทำไม”

              .

              .

              .

    หน้าห้องประชุมสภานักศึกษา

              นิชคุณเดินออกมาจากห้องประชุมสภานักศึกษาหลังจากที่ประชุมเสร็จ เขากำลังคิดหนักว่าเพื่อนรักของเขาจะสามารถโน้มน้าวคิมมินจุนให้มาช่วยเขาเรื่องละครเวทีได้จริงหรือไม่ ระหว่างนี้เขาก็ควรจะคิดแผนสำรองไว้ก่อนสินะ

              ระหว่างที่กำลังครุ่นคิด ก็มีเสียงโวยวายดังขึ้น ทำให้เขาหลุดออกจากห้วงความคิด

              “เมื่อไรนายจะปล่อยมือฉันซะที ห๊ะ!? เดินจนถึงห้องประชุมแล้วไม่เห็นหรือไง” เสียงโวยวายของคนที่นิชคุณเดาว่าน่าจะเป็นมินจุน แทคยอนที่ตอนแรกแกล้งจับมือมินจุนไว้แน่นเมื่อเห็นว่าถึงที่หมายแล้วอย่างที่อีกคนบอก จึงยอมปล่อย

              “อ้าวคุณนี่~ นี่ไงมินจุนที่ฉันบอกว่าจะให้มาช่วย” แทคยอนเพิ่งสังเกตเห็นนิชคุณที่ยืนอยู่บริเวณนั้นจึงทักขึ้นพร้อมแนะนำมินจุนให้นิชคุณ

              “สวัสดีจุนซู.. เอ ไม่สิ มินจุนสินะ ไม่ได้เจอกันนานเลย ตั้งแต่ฉันย้ายบ้านครั้งนั้น ยังจำฉันได้อยู่หรือเปล่า” นิชคุณหันไปสวัสดีมินจุนที่กำลังทำหน้าเหยเกกับการทะเลาะตบตีกับแมวยักษ์

              “นั่งก่อนสิ” นิชคุณพาแทคยอนและมินจุนไปนั่งตรงโซฟาหน้าห้องประชุม

              “คุณนี่? งั้นเหรอ” มินจุนทำหน้าครุ่นคิด พอมีท่าทีเหมือนจะนึกออกจึงพูดขึ้น “นิชคุณ? คุงคุง? ไม่เจอกันนานเลย เป็นยังไงบ้าง?” มินจุนยิ้มอย่างดีใจที่เจอเพื่อนบ้านเก่าอย่างนิชคุณ จึงพุ่งเข้าไปสวมกอดเพื่อนเก่าอย่างรวดเร็ว ตบบ่าอีกคนสองสามครั้ง ก่อนจะคลายกอดออก

              “ตามปกติก็สบายดีล่ะนะ แต่ช่วงนี้จะยุ่ง ๆ เรื่องงานเกี่ยวกับละครเวทีที่อยากให้นายช่วยนั่นล่ะ คิดว่านายน่าจะกำลังอยากทำ” นิชคุณยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาขำ ๆ

              “แหม ถ้าฉันไม่ช่วยเพื่อนอย่างนาย ฉันก็จะเป็นเพื่อนที่ใจร้ายเกินไปแล้ว ฮ่าๆ” มินจุนตอบอย่างรู้ทัน นิชคุณก็เป็นเพื่อนเขา และตัวเขาเองก็ต้องการที่จะทำละครเวทีอยู่แล้ว

              “งั้นเรื่องนี้ฉันให้นายตัดสินใจเองทั้งหมดเลยแล้วกัน ว่าจะเล่นเรื่องอะไร ใช้ใครแสดง ฉากแบบไหน ถ้ามีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือก็ติดต่อมาได้ตลอดนะ” มินจุนยิ้มกว้าง น่าจะเป็นครั้งแรกที่เขาได้ทำละครเวทีด้วยตัวเอง แถมเขายังได้กำหนดรายละเอียดทุกสิ่งทุกอย่างเองด้วย

              “อ้อ ฉันอยากให้ละครใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วก็ถ้าฉันจะขอดูบทละครภายในอีก 1 อาทิตย์ นายพอจะทำได้ไหม?” นิชคุณบอกรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเวลา รวมถึงลองเสนอเวลาให้มินจุนได้จัดการกับบทละคร เขาอยากเร่งงานตรงนี้ให้เสร็จไว ๆ เพื่อที่จะได้ไปจัดการเรื่องอื่นในเทศกาลรับน้องต่อ

              “นายดูถูกฉันไปรึเปล่า คุงคุง~ แค่บทละคร สำหรับฉัน 3 วันก็เสร็จแล้ว” มินจุนพูดโอ้อวดขึ้นมา มันเป็นงานที่ง่ายสำหรับเขาเอาเสียมาก ๆ เพราะเขาศึกษาเกี่ยวกับละครเวทีด้วยตัวเองมาตลอดเพื่อรอที่จะมีโอกาสได้ลงมือทำจริง ๆ

              “แหม ฉันเลือกคนไม่ผิดเลยจริง ๆ ” นิชคุณตอบยิ้ม ๆ

              “ว่าแต่นายรู้ได้ยังไงว่าฉันกำลังอยากทำละครเวที?” มินจุนเพิ่งสังเกตความผิดปกติของนิชคุณได้จึงถามออกไป เขาไม่น่าจะเคยบอกใครว่าเขาอยากทำละครเวทีนะ นิชคุณรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกัน?

              “อ..เอ่อ..” นิชคุณเหล่ไปทางแทคยอนเพื่อขอความช่วยเหลือ

              “หรือว่าจะเป็น...นาย?” มินจุนทำท่าครุ่นคิดบางอย่างก่อนจะชี้ไปทางแทคยอน “นี่นายสตอกเกอร์ฉันเหรอ? ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต!” มินจุนเดาออกเพียงเหตุผลเดียวที่พอจะมีความเป็นไปได้ ก็คือแทคยอนต้องคอยแอบสืบเรื่องส่วนตัวของเขาอยู่เป็นแน่ เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงเข้าไปทุบตีแทคยอนโดยไม่ยั้ง

              “เดี๋ยวก่อน โอ้ย! คุณ ใจเย็น ๆ ก่อน!” แทคยอนที่ถูกมินจุนทุบตีได้พยายามที่จะเจรจาสงบศึกกับคนตัวเล็กกว่าข้างหน้าแต่ไม่เป็นผล

              นิชคุณที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวจึงแอบยิ้มออกมา น่ารักดีเหมือนกันนะคู่นี้.. ถ้าลงเอยกันได้คงจะดีเขาคิด ความจริงเขาก็แอบเชียร์แทคยอนอยู่เงียบ ๆ นั่นแล หลายครั้งที่เขาเห็นแทคยอนทำหน้าเหมือนคนมีความรัก รวมถึงชอบแอบขับรถตามใครสักคนอยู่ หรืออาการที่เรียกว่าสตอกเกอร์นั่นแหละ เขาก็เพิ่งจะตรัสรู้ก็วันนี้ว่าคนที่แทคยอนแอบชอบคือคิมมินจุน เพื่อนสมัยเด็กของเขา สงสัยงานนี้เขาจะไม่เป็นพ่อสื่อให้ก็ไม่ได้แล้ว J

              เอ้อ ห่วงแต่จะเป็นพ่อสื่อให้คนอื่น เขาลืมที่จะถามเกี่ยวกับ รักแรกของเขาไปเสียสนิทเลย

              “ว่าแต่ มินจุน นายยังติดต่อกับจุนโฮอยู่ไหม?”

              “หืมม อย่าบอกนะว่านายยังชอบจุนโฮอยู่เหมือนแต่ก่อนน่ะ~” มินจุนไม่ตอบคำถามแต่ยิงคำถามกลับเพื่อแซวนิชคุณแทน

              “ก..ก็ไม่รู้สิ ฉันไม่ได้มองคนอื่นเลยนี่นา”นิชคุณทำท่าทางเขินอายเล็กน้อย มินจุนเห็นท่าทางเขินของเพื่อนแล้วก็อดแกล้งไม่ได้

              “จุนโฮไม่ได้เรียนที่นี่หรอก” มินจุนแกล้งพูดโกหกออกไปเพื่อดูปฏิกิริยาของนิชคุณ ก็เป็นไปตามที่เขาคาด นิชคุณทำหน้าผิดหวังขึ้นมาทันที

              “นี่คุณ แกล้งเพื่อนแบบนี้ไม่ดีนะ” แทคยอนหันไปดุมินจุน จึงโดนอีกคนทำหน้าจิ๊จ๊ะใส่

              “คุณนี่ จุนโฮน่ะเรียนอยู่ที่นี่ เป็นรูมเมทมินจุนอยู่หอที่ฉันดูแลอยู่นั่นล่ะ” แทคยอนแจกแจงความจริงให้นิชคุณฟัง สีหน้าของนิชคุณดูดีขึ้น

              “เอาล่ะ ๆ นี่ก็ค่ำมากแล้ว ฉันสองคนกลับหอก่อนนะ นายก็ดูแลตัวเองด้วย อย่าหักโหมล่ะ” แทคยอนบอกนิชคุณก่อนจะจับแขนมินจุนให้ลุกขึ้น

              “เดินทางดี ๆ นะ แทคยอนฝากดูแลมินจุนด้วยนิชคุณแอบชงก่อนจะโบกมือบ๊ายบายทั้งสองคน

     

              เมื่อเดินออกมาจากตึกสภาแล้ว มินจุนซึ่งครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ใจเต้นที่เกิดขึ้นวันนี้อยู่นานก็เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าเขาไม่ควรจะใกล้ชิดแทคยอนอีกต่อไป ไม่เช่นนั้นไอ้เหตุการณ์แบบนั้นมันอาจจะเกิดขึ้นอีก สิ่งที่มินจุนกลัวที่สุดคือใจตัวเอง เขาพร่ำบอกตัวเองว่าจะไม่มีความรักโดยเด็ดขาด

              “ฉันจะกลับคนเดียว!” เขาตะโกนขึ้นก่อนจะสลัดมือของแทคยอนออก

              “อ้าวคุณ ปลายทางก็ที่เดียวกัน จะกลับคนเดียวทำไม?” แทคยอนถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

              “ก็ฉันไม่อยากกลับกับนาย! เลิกมารังควานฉันสักทีจะได้ไหม!? ฉันรำคาญ! ให้ฉันมีชีวิตที่สงบสุขทีเถอะ!” มินจุนกระแทกเสียงใส่แทคยอน

              “....”

              “....”

              “ผมทำให้ชีวิตคุณแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ...” แทคยอนตัดพ้อ เขาเริ่มจะรู้สึกน้อยใจแล้ว ตามปกติแทคยอนคนที่มองโลกในแง่ดีเอาเสียมาก ๆ แต่ถ้าโดนพูดใส่แบบนี้ทุกวันขนาดนี้ก็ต้องมีบ้างที่จะท้อแท้ ความคิดที่ว่า หากเขาหายไปจากชีวิตของมินจุน อาจจะดีกว่านี้ก็ได้ เริ่มเข้ามาแทรกในสมองของอ๊คแทคยอน

     

              ความเศร้า ความน้อยใจของแทคยอนได้ถูกแสดงออกมาทางสีหน้า มินจุนไม่เคยได้เห็นมาก่อน มินจุนทำตัวไม่ถูกกับสถานการณ์แบบนี้เลย เขาทำเกินไปหรือเปล่านะ? เขาควรจะขอโทษแทคยอนที่พูดแรงเกินไปหรือเปล่า?

              “แย่จัง ผมชอบคุณมาก็ตั้งปีกว่า โดนด่าโดนว่ามาก็ตั้งนาน แต่ไม่รู้ทำไม ไม่มีวันไหนเจ็บเท่าวันนี้เลยนะ ฮ่าๆ” น้ำใส ๆ ไหลออกมาจากดวงตาของแทคยอน เขาพยายามหัวเราะกลบเกลื่อนความเสียใจนี้ก่อนจะหันหลังเดินจากไป

              บ้าจริง ทั้ง ๆ ที่เขาควรจะดีใจที่แทคยอนจะออกไปจากชีวิตเขาสักที แต่ทำไมกลับรู้สึกตรงกันข้ามนะ...

              .

              .

              .

    ห้องพักฮวางชานซอง

              หลังจากลงจากรถ ชานซองจับแขนจุนโฮแน่นประหนึ่งจะมีคนมาฉุดเมดของตนไป แล้วก็ลากขึ้นมายังห้องพักของตนเพื่อทำการ ลงโทษ

              “ป..ปล่อยได้แล้วค่ะ นายท่าน ฉ..ฉันไม่หนีไปไหนหรอก” จุนโฮเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย เพราะชานซองห้ามเขาบ่นว่าเจ็บ เป็นเหตุผลให้เขาต้องพยายามใช้มารยา(?)พูดจาหว่านล้อมให้ชานซองปล่อยมือจากแขนของเขา ไม่เช่นนั้นอาจจะหักคามือคนตัวสูงได้

              “โอ้ พูดออกมาเองแฮะว่าจะไม่หนี หึ ก็ดี เพราะถ้าฉันเห็นว่าเธอคิดจะหนี ฉันจะสั่งให้ลูกน้องไปจับเธอมาทรมานให้เข็ดเลย”

              “กอดอก หันหลังไป” ชานซองสั่งเสียงเรียบ จุนโฮได้แต่ทำตามอย่างเงียบ ๆ เพราะไม่รู้ว่าถ้าขัดขืนแล้วจะเจอกับอะไรบ้าง

              ชานซองหยิบไม้เรียวที่ทำจากไม้ไผ่ยาวประมาณหนึ่งเมตรออกมาจากนั้นฟาดเข้าไปที่ก้นของจุนโฮอย่างสุดแรง

              เพี๊ยะ!’

              “นี่คือบทลงโทษที่เธอกัดลิ้นฉัน” ชานซองง้างไม้เรียวเตรียมจะฟาดอีกครั้ง

              เพี๊ยะ!’

              “ส่วนนี่ สำหรับที่เธอชกหน้าฉัน ถ้าคราวหน้าเธอทำให้ฉันเจ็บตัวอีกจะโดนหนักกว่านี้ จำไว้...”

              จุนโฮถึงกับน้ำตาไหลเพราะความแสบ แต่เขารู้ตัวว่าการเงียบจะส่งผลดีกว่าการโวยวายออกไป เขาควรจะทำตัวให้ชินใช่ไหม? พี่มินจุนบอกให้อดทนก็ต้องอดทนให้ได้สิ! เขาลูบบั้นท้ายตัวเองปอยๆ ชานซองทำโทษเขาแบบนี้ไม่ต่างกับเขาเป็นเด็กดื้อที่โดนคุณครูทำโทษเลย ว่าแต่คนสติดีที่ไหนเขาเก็บไม้เรียวไว้ในห้องพักตัวเอง?

              จุนโฮทำท่าทางจะเดินออกจากห้องของชานซอง แต่ก็โดนชานซองขัดขึ้น

              “จะไปไหน? คืนนี้เธอต้องนอนที่นี่ ฉันให้เลือกระหว่างนอนบนเตียงกับฉั...”

              “ไม่ค่ะ!” ชานซองยังพูดไม่ทันจบจุนโฮสวนขึ้นมาทันที เขาเดาว่าอีกตัวเลือกหนึ่งคงเป็นนอนบนโซฟารับแขกสินะ

              “หืมม อยากโดนล่ามโซ่ให้นอนตรงระเบียงแทนเตียงงั้นหรือ? ได้เลยครับคุณเมด Jชานซองแสยะยิ้มออกมาอย่างสะใจ เขาคิดไว้อยู่แล้วว่า หากเลือกได้ จุนโฮจะไม่นอนบนเตียงกับเขาแน่นอน เขาจึงพูดทางเลือกอื่นที่น่าจะทำให้จุนโฮเปลี่ยนใจขึ้นมา

              “ก..ก็ยังดีกว่านอนเตียง” จุนโฮพูดขึ้นมา เขานึกว่าจะให้นอนโซฟาแทนเสียอีก แต่ลืมไปว่านี่คือชานซองผู้โรคจิต ไม่มีทางให้เขาได้นอนสบายแบบที่คิดแน่นอน

              ชานซองเห็นว่าจุนโฮไม่ยอมเปลี่ยนใจ เลยจัดการหยิบโซ่ที่ใช้สำหรับล่ามสุนัขที่อยู่ในลิ้นชักมาคล้องคอจุนโฮไว้ แล้วล่ามไว้กับเหล็กกั้นระเบียงข้างนอก

              จุนโฮมองไปยังระเบียงที่ตัวเองต้องนอนในคืนนี้ ก่อนจะถอนหายใจออกมา พื้นก็เย็น หมอนผ้าห่มก็ไม่มี พรุ่งนี้ตื่นมาต้องไม่สบายแน่ ๆ จะมีอะไรแย่ไปกว่าการเป็นเมดของชานซองอีกไหม

              “ลืมบอกไป ข้างนอกยุงเยอะมาก หวังว่าจะไม่มาอ้อนวอนขอนอนบนเตียงกับฉันทีหลังนะ J จากนั้นชานซองก็ปิดประตูกระจกพร้อมล็อกจากข้างใน

    .

    .

    .

    TO BE CONTINUE

    .

    .

    .

    TALK

    ตอนนี้แต่งหลายวันมากกกกกก

    ไม่ใช่อะไร ว่างวันละไม่กี่ชั่วโมงแล้วมานั่งแต่ง

    ฟิลลิ่งแต่ละวันก็ไม่เหมือนกันไง

    พอเอามารวมกันก็มึน ๆ

    ถ้าใครคิดว่าตอนนี้อ่านงง ๆ สรุปพล็อตมันจะยังไงของมัน

    บอกได้นะคะ จะรีไรท์ใหม่ทั้งตอนเลย TAT

    เบลอจริงไรจริง

    ป.ล. เอาแฟนอาร์ตมาเสิร์ฟค่ะ ชั่ววูบอีกแล้ว ถถถถถถถ


     

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×