ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [2PM] CNN : I'M YOUR MAN

    ลำดับตอนที่ #12 : CHAPTER IX

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 210
      1
      29 พ.ค. 59

     - IX -

     

              “ถ้าไม่ตอบคำถามของผม ผมอาจจะจี้คุณจนกว่าจะขาดอากาศหายใจตายเลยนะ...” แทคยอนขู่

     

              “ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แฮ่ก ๆ ฉันรู้ ฮ่า ๆๆๆๆ ว่านายไม่กล้า ฮ่า ๆๆๆๆ ฆ่าฉันหรอก ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆ โอ้ย! หยุดนะ!!” มินจุนทั้งหัวเราะทั้งรู้สึกเหนื่อยทั้งตะโกนทั้งตะกายจะดิ้นให้หลุดจากมือของคนตัวสูง

     

              “ก็ไม่แน่...” แทคยอนจับจุดจั๊กจี้มินจุนได้ จึงจัดหนักสำหรับคนตัวเล็กกว่าผู้แสนซึนคนนี้

     

              “ย..อย่านะ! ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ๊ะ! ต..ตรงนั้น!  อย่านะ!!!!! ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” มินจุนดิ้นพรวดพราดในอ้อมกอดของแทคยอน

     

              “ยังไม่ตอบอีกเหรอ...”

     

              “แฮ่ก ๆ ฮ่า ๆๆๆๆ หยุดทีเถอะ! ยอมแล้ว!!! ฉันอยากให้นายเป็นห่วง! ไม่ได้รำคาญนายเลยสักนิด!” มินจุนเหนื่อยหอบจนทนไม่ไหว รู้สึกหายใจไม่ทันจนจะตายให้ได้จึงต้องยอมสิ่งที่เก็บไว้ในใจออกไป

     

              “ฮ..แฮ่ก ๆ กว่านายจะหยุด แฮ่ก ๆ ใจร้ายที่สุด!” มินจุนบ่นอุบอิบพลางหอบไปด้วย

     

              “หึ ตอบตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องโดนแบบนี้แล้ว” แทคยอนส่งยิ้มกลับมาให้มินจุน รอยยิ้มที่เป็นแบบเดียวกับครั้งแรกที่เจอกัน...

     

              “น..นายยิ้ม?” ยอมหายเย็นชากับเขาแล้วใช่ไหม มินจุนคิด

     

              “ปล่อยให้ผมเล่นบทคนเย็นชาตั้งนานกว่าคุณจะเลิกปากไม่ตรงกับใจ คุณก็ใจร้ายเหมือนกันแหละ” แทคยอนยีหัวคนตัวเล็กกว่าจนยุ่งไปหมด

     

              “นี่หลอกฉันเหรอ! โอ้ย! หัวฉันยุ่งหมดแล้ว ไอ้บ้า!” มินจุนหน้าแดงไปถึงใบหูอย่างปิดไม่มิด

     

              แทคยอนเห็นดังนั้นจึงแกล้งยีให้ยุ่งมากกว่าเดิม การแกล้งคนตัวเล็กกว่าคือความสุขของเขา และแน่นอนว่าไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้ม สีหน้านิ่วคิ้วขมวด ตอนวีนแตก หรือตอนไหนก็ตาม เขาชอบทั้งหมดที่เป็นตัวคิมมินจุนเลย

     

              แทคยอนยิ้มดีใจออกนอกหน้ามาก ที่แผนแอ๊บเย็นชาให้มินจุนยอมเปิดเผยความรู้สึกตัวเองนั้นสำเร็จด้วยดี

     

              “ยิ้มบ้าอะไรนักหนา!” คนตัวเล็กกว่าแว๊ดขั้นมาอีกครั้ง แทคยอนเห็นสีหน้าเขินผสมกับแก้มแดง ๆ บนใบหน้าหวานนั้นแล้วรู้สึกอยากแกล้งให้เขินมากกว่านี้

     

              “ยิ้มดีใจที่คนแถวนี้อยากให้ผมเป็นห่วง” แทคยอนขโมยจุ้บแก้มมินจุนอย่างรวดเร็ว

     

              “ท..ทำบ้าอะไรน่ะ! ม..ไม่อยากแล้ว! ไม่ต้องมาเป็นห่วงนะ ไปไหนก็ไปเลย!” มินจุนที่หน้าแดงยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศทำตัวไม่ถูกที่โดนหยอด จึงพยายามผลักไล่ไสส่งแทคยอน

     

              “จะให้ไปไหนล่ะครับคุณ นี่ก็ห้องผม” แทคยอนยิ้มอย่างผู้ชนะ เขาต้อนมินจุนสำเร็จแล้วสินะ! เยสสส!!

     

              “ง...งั้นฉันออกไปเอง!” มินจุนรีบผลักแทคยอนออกจากตัวแล้วพยายามจะวิ่งออกจากห้องไป แต่ไม่อาจทันความเร็วของคนตัวสูงกว่าได้

     

              “เดี๋ยวครับแทคยอนจับแขนมินจุนไว้

     

              “อ...อะไรอีกเล่า!”

     

              “คิดว่าจะให้ออกไปง่าย ๆ เหรอครับ เข้ามาถึงถ้ำเสือขนาดนี้...”

     

    .

     

    .

     

    .

     

    JUNHO’s PART

     

              “ชานซองคนบ้า! บ้าบ้าบ้าบ้าบ้า!!!!! มาอ่อนโยนใส่แบบนี้ผมก็หวั่นไหวกันพอดีสิ! ไอ้การลูบหัวอ่อนโยนแบบนั้นมันทำให้ผมคิดไปไกลนะ! ถ้าไม่ได้คิดอะไรก็อย่าทำแบบนี้จะได้มั้ย!!!” ผมตะโกนบ่นคนเดียวตามทางเดินใต้หอที่ผมเดินมา หลายวันนี้ผมไปนอนหอชานซองครับ เช้านี้เพิ่งจะได้เหยียบหอตัวเองในรอบหนึ่งอาทิตย์ โดนบังคับเหมือนเคยนั่นล่ะ สาเหตุที่โดนปล่อยออกมาก็เพราะว่าชานซองจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน ขี้เกียจเอาผมไปด้วย เป็นภาระเปล่า ๆ เห็นว่าจะกลับมาอาทิตย์หน้าเลย สวรรค์ของผม~

     

              พี่มินจุนก็คงจะยุ่ง ๆ กับงานอยู่ละมั้งถึงไม่เคยคิดจะโทรมาถามไถ่น้องเลยว่าใกล้ตายรึยัง อยากงอนครับ แต่เอาไว้ก่อน ผมขอบ่นเรื่องของชานซองก่อน ตอนนี้มันไม่อยู่แถวนี้ครับ เป็นลาภอันประเสริฐ

     

              พอมาถึงห้องผมก็นึกแปลกใจครับ พี่มินจุนไม่ได้นอนหอเหรอ? ถ้าจะให้เดาว่ามีธุระเลยออกไปตั้งแต่เช้าก็ไม่น่าเป็นไปได้ครับ

     

              ว่าแล้วก็โทรหาเลยดีกว่า

     

              ...ตรู๊ดดด...ตรู๊ดดด...ว่าไงจุนโฮ... ดูจากน้ำเสียงแล้วผมเดาได้ว่าพี่มินจุนอาจจะทำงานอยู่ แลดูเหนื่อย ๆ ยังไงก็ไม่รู้

     

              “พี่มินจุนหายไปไหน ไม่ได้อยู่ที่ห้องเหรอ”

     

              “อ..เอ่อ พ..พอดีพี่มาคุยงานเรื่องละครเวทีตั้งแต่เมื่อวานน่ะ จนป่านนี้ก็ยังไม่เสร็จเลย” ตรงกับที่เดาไว้จริง ๆ ครับ แต่จะว่าไปมันก็จุดผิดสังเกตอยู่นิดนึงนะ ทำไมจะต้องพูดติดอ่างด้วย เหมือนกำลังพยายามจะปิดบังอะไรกับผมอยู่เลย?

     

              แต่ก็ช่างมันเถอะครับ ถึงผมจะอยากรู้แค่ไหน แต่ถ้าพี่มินจุนไม่อยากบอกก็อย่าหวังจะได้รู้เลย

     

              “อ๋อครับพี่ ผมกลับหอแล้วนะ ไอ้บ้าชานซองมันเพิ่งปล่อยให้ผมกลับมา น้ำตาจะไหล ฮือออออออ”

     

              “อื้ม ดีแล้วล่ะ ไว้พี่คุยงานเสร็จจะกลับไปนะ ...อ๊ะ!!!!...”

     

              “หืม!? พี่มินจุนเป็นอะไรไปครับ?” ขออนุญาตถอนคำพูดว่าช่างมันเถอะในพารากราฟข้างบนนะครับ ต่อมเผือกของผมเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงพี่มินจุนร้องแปลก ๆ แบบนั้น

     

              “ป..เปล่าจุนโฮ พอดีพี่อุ้มแมวแถวนี้แล้วมันเอาเล็บข่วนน่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะ ไล่แมวก่อน” พอได้ยินคำว่าแมว ผมกลับไม่คิดถึงแมวจริง ๆ แฮะ ผมนึกถึงคน ๆ นึงมากกว่า

     

              ต่อมเผือกของผมทำงานหนักขั้นสุดครับ ที่บ่นเรื่องชานซองเมื่อกี้กลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย เมื่อเทียบกับเรื่องที่ผมกำลังจะเผือกดังต่อไปนี้

     

              ผมเดินมาที่หน้าห้องของอาจารย์แทคยอน จะเคาะถามก็แลดูจะตรงเกินไปสินะ ต้องแอบฟังเนียน ๆ ก่อน ว่าแล้วผมก็เอาหูแนบกับกำแพงห้องครับ

     

              “น..นี่! ใครให้นายแกล้งฉันแบบนี้ ไม่ตลกนะ! ถ้าจุนโฮรู้จะทำยังไงเล่า!” จริงอย่างที่สงสัยครับ พี่มินจุนอยู่กับอาจารย์แทคยอนจริง ๆ ด้วย นั่นยิ่งทำให้ผมนึกสงสัยในความสัมพันธ์ของสองคนนี้ จะต้องมีซัมติงแน่นอน!

     

              “รู้แล้วเป็นอะไร? คุณอายน้องคุณรึไงที่นอนกับผมน่ะ”

     

              “ใครอยากนอนกันล่ะ! ก็นายทั้งนั้นที่บังคับขู่เข็ญฉัน!” จากนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนพี่มินจุนกำลังเอาอะไรสักอย่างที่ผมเดาว่าเป็นหมอนฟาดอาจารย์แทคยอนครับ ท่าทางจะสนุกกันมาก และงานเผือกของผมสำเร็จแล้ว ผมกลับไปนอนเงียบ ๆ ของผมคนเดียวดีกว่า หลายวันนี้เปลืองพลังงานกับการรับใช้ไอ้บ้าชานซองเสียเหลือเกิน

     

              “อา.. เตียงนุ่ม ๆ ฉันรักแกที่สุด”

     

              แกร็ก!’ เสียงกลอนประตูห้องผมไงจะอะไรล่ะ เมื่อกี้กำลังเคลิ้ม ๆ จะหลับเลยครับ

     

              “อ้าว พี่มินจุน ทำงานเสร็จแล้วเหรอครับ? แล้วนั่นไปโดนอะไรมา ทำไมคอแดงแบบนั้น...”

     

              ต้องแอ๊บใส ๆ ครับ ความจริงรู้หมดแล้ว (ฮา) แหมตอนแรกทำเป็นซึน มีการรังเกียจอาจารย์แทคยอน ทีตอนนี้ละไปนอนห้องเดียวกันเลย

     

              “อ...เอ่อ พี่แพ้ยุงน่ะ เวทีที่ไปประชุมมามันยุงเย๊อะเยอะ คันก็คันเอาที่สบายใจเถอะครับพี่ ยังไงผมก็รู้หมดแล้ว กร๊ากกกกกกก

     

              “แล้วโดนแมวข่วนไม่เป็นไรแล้วเหรอครับ? แต่เอาเป็นว่าอย่าลืมทายานะครับ ตอนนี้ผมโคตรเหนื่อยเลย ชานซองใช้ผมอย่างกับทาส กวาดห้องถูกห้อง หรือแม้แต่การบ้านก็ยังต้องทำให้เลย ขอนอนก่อนนะพี่มินจุน”

     

              “อื้ม ฝันดีนะจุนโฮ...”

     

    END JUNHO’s PART

     

    .

     

    .

     

    .

     

              มินจุนกำลังเดินไปหานิชคุณที่ห้องประชุมสภา เนื่องจากบทละครเรื่องโรมิโอจูเลียตที่เขาได้รับมอบหมายให้เขียนเสร็จเรียบร้อยทุกประการแล้ว (แม้ว่าจะมีแมวยักษ์เป็นอุปสรรคข่อยก็บ่ย่าน) ก่อนหน้านี้เขาลำบากตรากตรำนำไปปรับแก้มานับครั้งไม่ถ้วนกว่าจะออกมาเป็นบทละครที่เสร็จสิ้นได้

     

              เหนื่อยจัง แต่ถ้าออกมาดีก็คุ้มค่าที่ทุ่มกับมันนะมินจุนคิด

     

              “คุงคุง! เรื่องบทเรียบร้อยหมดแล้วนะ เรามาวางตัวนักแสดงกันเถอะ

     

              “หืม จริงเหรอ? นายนี่สุดยอดจริง ๆ มินจุน ว่าแต่นายคิดไว้คร่าว ๆ หรือยังว่าจะให้ใครแสดงบ้างน่ะ”

     

              “ความจริงฉันเองก็อยากมีโอกาสแสดงเป็นโรมิโอนะ แต่ต้องเป็นผู้กำกับนี่สิ ฮ่า ๆ เอ้อ แล้วนายคิดไว้หรือยังล่ะว่าจะให้ใครแสดง”

     

              “ถ..ถ้านายไม่ว่าอะไร ฉันอยากให้จุนโฮร่วมแสดงด้วย มันพอจะเป็นไปได้มั้ยมินจุน” นิชคุณพูดความในใจออกมา คงจะมีความสุขไม่น้อยถ้าได้เห็นรักแรกของเขาในหลาย ๆ บทบาท

     

              “อื้มม! ก็เป็นความคิดที่ดีนะคุงคุง จุนโฮก็เคยบอกว่าอยากลองเล่นละครเวที งั้นถ้าฉันให้จุนโฮเป็นจูเลียต นายจะยอมมาเป็นโรมิโอไหมล่ะ?”

     

              “จริงเหรอมินจุน! งานยุ่งแค่ไหนก็จะแสดงให้ได้เลย ขอให้แค่ได้อยู่กับจุนโฮ!!!” นิชคุณมีท่าทีที่เริงร่ามาก เข้าทางคิมมินจุน เขากำลังต้องการให้นิชคุณมาเป็นพระเอกอยู่พอดี ตามปกตินิชคุณงานเยอะและยุ่งมาก มักจะปฏิเสธงานที่ไม่จำเป็นเสมอ แต่พอมินจุนเอาจุนโฮมาล่อ เหยื่อก็ติดกับทันที!

     

              “ส่วนบทที่เหลือก็ตามนี้แล้วกันนะ” มินจุนยื่นกระดาษที่ตัวเองเพิ่งร่างรายชื่อนักแสดงคร่าว ๆ เอาไว้ให้นิชคุณดู

     

              “ดีเลย! นายเจ๋งมากมินจุน คิดถูกที่ให้นายช่วยจริง ๆ

     

              “เอ้อ ว่าแต่เราต้องเอารายชื่อพวกนี้ไปให้อาจารย์ที่ปรึกษาของกิจกรรมนี้ดูก่อนใช่ไหม? แล้วอาจารย์ที่ปรึกษา?”

     

              นิชคุณยิ้มแทนคำตอบ

     

              “อย่าบอกนะว่า...” มินจุนทำหน้าเหยเกทันทีที่รู้ว่าเพื่อนรักของเขาตั้งใจจะสื่ออะไร

     

              “แล้วไม่ดีรึไงมินจุนอ่า~

     

              “คุงคุงอ่า~~ ใจร้ายชะมัด ฉันกำลังไม่อยากเจอหน้าหมอนั่นอยู่นะ!” มินจุนแสดงท่าทีงอแงแบบเด็ก ๆ ออกมา นั่นยิ่งทำให้นิชคุณอมยิ้ม

     

              “โถ่มินจุน แทคมันก็แอบชอบนายมานานแล้วนะ เปิดใจบ้างสิ”

     

              “นายจะเป็นตัวชงรึไง ไม่เอานะ” มินจุนเบ้ปากและส่ายหน้า ความจริงปัญหามันไม่ใช่ว่าเขาไม่เปิดใจ แต่มันเป็นเพราะบางทีเขาเขินเกินไปจนทำตัวไม่ถูกต่างหาก และแน่นอนว่ามินจุนไม่กล้าบอกความจริงข้อนี้กับนิชคุณ

     

              “ไม่รู้ล่ะ ถ้าเป็นอาจารย์คนอื่นได้ทำเรื่องยุ่งยากกว่านี้แน่ ฉันไม่เปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษานะปะ ไปหาแทคกัน~”

     

              “ม..ไม่เอา ไม่ไป!”

     

              “ถ้านายไม่ไป ฉันไม่เป็นโรมิโอให้นะ ต่อให้นายจะเอาจุนโฮมาแสดงได้ก็เถอะ” นิชคุณงัดข้อได้เปรียบเข้าสู้ เขารู้ดีว่ามินจุนไม่อยากได้คนอื่นมาแสดงบทนี้แทนแล้ว

     

              “ก็ได้ คุงคุงใจร้าย!” ก็ยังมิวายบ่นสำหรับคิมมินจุน

     

    .

     

    .

     

    .

     

    ห้องพักแทคยอน

     

              “แทค ฉันอยู่หน้าห้องนาย ออกมาเปิดประตูหน่อยนิชคุณโทรหาแทคยอนเพราะไม่อยากให้เสียงเคาะประตูไปรบกวนเด็กหอคนอื่น

     

              แทคยอนเดินมาเปิดประตูให้พลางทำหน้าตกใจเล็กน้อยที่ได้เห็นว่านิชคุณไม่ได้มาคนเดียว

     

              “คิดถึงผมขนาดนั้นเลยเหรอ?”

     

              “ใครจะคิดถึงนาย ไอ้บ้า! ฉันมาคุยเรื่องละครต่างหาก หลงตัวเอง!” มินจุนกระทืบเท้าทำหน้างอ ถ้าไม่ใช่เพราะนิชคุณขอ เขาคงไม่มาเจอไอ้แมวยักษ์นี่หรอก

     

              “แหม คุยกันข้ามหน้าข้ามตาเชียว เรื่องของพวกนายมีอะไรที่ฉันไม่รู้อยู่ใช่ไหมเนี่ย ฮ่า ๆ ๆนิชคุณแซวขึ้นมา

     

              “ม..มันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละคุงคุง!”

     

              “นอนด้วยกันทั้งคืนยังบอกว่าไม่มีอะไรอีกเหรอ” แทคยอนสวนขึ้นมา

     

              “อ..ไอ้..*(&^&*^$%#%^$(^&*)(*_()&*^&%^” มินจุนก่นด่าแทคยอนด้วยคำพูดที่ไม่สามารถออกอากาศได้พร้อมกับไล่ทุบตีคนตัวสูงอย่างเคย

     

              “ผมให้คุณตีให้เต็มที่เลย แต่คุณต้องมานอนให้ผมกอดอีกนะ~ แลกกัน

     

              “ไม่พูดด้วยแล้ว!” มินจุนทำหน้าบึ้ง

     

              “ถึงฉันจะเชียร์ให้พวกนายรักกัน แต่ถ้าพวกนายมัวแต่ตีกัน งานมันจะไม่คืบหน้าเอานะ เข้าเรื่องเถอะ” นิชคุณพูดเรียกสติของทั้งสองคนที่กำลังกัดกัน

     

              “ก็ได้ รายละเอียดเป็นแบบนี้นะ....”

     

     

     

              มินจุนอธิบายบทที่เขาเขียนขึ้น รายชื่อนักแสดงที่ถูกวางไว้คร่าว ๆ รวมถึงร่างฉากให้แทคยอนดู

     

              “แต่ว่าเรื่องฉากน่าจะมีปัญหานะ ใช้งบเยอะไป” แทคยอนพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง

     

              “สปอนเซอร์ไง!” นิชคุณเสนอ

     

              “สปอนเซอร์ที่ไหนเขาจะยอมจ่ายแพงขนาดนี้กันล่ะ” มินจุนแย้ง

     

              “ยาห์ เหนื่อยจริง ๆ เลยกับการทำอะไรใหญ่โตแบบนี้ ฉันไม่อยากเปลี่ยนแบบฉากด้วยสิ ฉันคิดมาดีแล้วว่าแบบนี้เหมาะสมที่สุด” มินจุนทึ้งหัวตัวเองพร้อมถอนหายใจ

     

              “งั้นเปลี่ยนวัสดุ..”

     

              “ไม่ได้ ถ้าใช้อะไรที่บางกว่าแผ่นพลาสวู้ด มันจะพังเอาง่าย ๆ นะ” (แผ่นพลาสวู้ดเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่สถาปนิกนิยมใช้ทำโมเดล มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนและกันน้ำที่เหนือกว่าไม้ จึงถูกนำมาใช้แทนไม้ธรรมชาติ)

     

     

     

              ทั้งสามคนยังคงถกเถียงกันต่อไปในประเด็นยิบย่อยต่าง ๆ ของละครเวทีนี้

     

              “เหนื่อยจัง! ขอคิดต่อวันอื่นเถอะ วันนี้ไม่ไหวแล้ว” มินจุนบ่นออดแอด

     

              “ถ้างั้นฉันกลับสภาก่อนนะ มีงานที่ต้องทำต่อ ไปละนะแทค มินจุน” นิชคุณโบกมือลา

     

              “ไปด้วยสิ!”

     

              “คุณจะไปไหน?” มินจุนที่กำลังจะก้าวขาออกจากห้องของแทคยอน โดนเบรกอย่างว่องไวโดยคนตัวสูง

     

              “ก็จะกลับห้องฉันไง”

     

              “ผมไม่ให้กลับ”

     

              “เคลียร์กันเองนะเพื่อน ๆ ที่น่ารัก” แล้วนิชคุณก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

     

              “นี่เดี๋ยวก่อนสิคุงคุง!” มินจุนยังคงวิ่งออกไป แต่แทคยอนกลับดึงคนตัวเล็กกว่าเข้ามากอด

     

              “ปล่อยนะ!” มินจุนพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของแทคยอน

     

              “ไม่ได้รังเกียจผมแล้วจะดิ้นทำไม” ประโยคนี้ของคนตัวสูงทำให้มินจุนนิ่งไป เขาไม่อยากให้ดาร์กแทคยอนกลับมา คำพูดนี่มันเป็นนายตัวเองจริง ๆ พอ(โดนบังคับให้)พูดออกไปก็เลยกลืนน้ำลายตัวเองไม่ได้

     

              “ฉ...ฉัน...ข”

     

              “คุณเขินผม?” มินจุนยังพูดตะกุกตะกักไม่ทันจบคำ แทคยอนก็สวนขึ้นมา หน้าของคนตัวเล็กกว่าแดงเป็นลูกมะเขือเทศด้วยความเขินอาย

     

              “ไม่รู้ คิดเอาเอง...” มินจุนเฉไฉ ไม่กล้ามองหน้าแทคยอน

     

              “บอกให้ผมคิดเอาเองก็อย่ามาด่าผมว่าคิดไปเองแล้วกันนะครับ~ คุณแฟน”

     

              “นี่! ใครเป็นแฟนนาย” มินจุนหันมาตีแขนแทคยอนป้าบใหญ่

     

    .

     

    .

     

    .

     

    CHANSUNG’s PART

     

               ณ เวลาตอนนี้ ผมมาเที่ยวประเทศไทยกับพวกลูกน้องในแก๊งค์ครับ ทิ้งจุนโฮไว้ที่มหาลัย ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าเที่ยวมาก มีสถานที่ที่สวย ๆ เหมาะแก่การถ่ายรูปเยอะเลย อาหารก็อร่อย ผมมาบ่อยมากครับ

     

              เหตุผลที่ผมทิ้งจุนโฮเอาไว้ก็คือ ผมกำลังสับสนในตัวเองครับ อยากจะใช้เวลากับตัวเองคิดทบทวนหัวใจให้มาก ๆ ครั้งแรกที่ผมดึงจุนโฮมานอนกอด ผมมักจะนึกว่ากอดอูยองก็จริงอยู่ แต่ครั้งหลัง ๆ นี่สิปัญหาใหญ่ ผมดันรู้สึกว่าผมหวั่นไหวกับจุนโฮเข้าให้แล้ว บ้าจริง ตอนแรกก็เกลียด อยากแกล้งให้ร้องไห้จนลาออกไปเองอยู่แท้ ๆ เลย

     

              อีกเหตุผลคือ ถ้าจุนโฮมาด้วยก็คอยเป็นภาระให้ดูแลอีก จะมีผู้ชายที่ไหนมาเต๊าะก็ไม่รู้ ยิ่งชอบทำตัวร่าน ๆ อยู่ จะว่าหึงไหมก็ไม่ทราบนะครับว่ามันเรียกแบบนี้หรือเปล่า แต่ผมคิดว่าผมเป็นนายท่านของจุนโฮ น่าจะมีสิทธิ์หวงรวมถึงมีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวหมอนั่นนะ

     

              อา.. นี่ผมปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับหัวใจของตัวเองได้อย่างไรกัน ไม่ดีเลย ผมต้องโหดเหี้ยมและหนักแน่นให้มากสิ

     

              ว่าแต่ตอนนี้จุนโฮจะทำอะไรอยู่นะ จะโทรไปก็ไม่ได้ เดี๋ยวหวั่นไหวกว่าเดิมจะแย่เอา

     

              “กลับไปจะลงโทษให้หนัก! บังอาจทำให้ฉันหวั่นไหว!” ผมบ่นคนเดียวภายในห้องพักของโรงแรม

     

              อยู่ดี ๆ หน้าอูยองก็ลอยเข้ามาในหัวผมครับ ผมรู้สึกได้ว่าผมควรจะหยุดไอ้ความหวั่นไหวบ้า ๆ นี่เสียที ผมควรจะซื่อสัตย์กับอูยองให้มากกว่านี้

     

              แต่อีกใจของผมทำไมมันกลับโล่งใจที่อูยองไม่รับรักผมกันนะ...

     

    END CHANSUNG’s PART

     

    .

     

    .

     

    .

     

    TO BE CONTINUE

     

    .

     

    .

     

    .

     

    TALK

    สวัสดีค่า!!!!!!! จบไปซะทีสำหรับตอนที่ 9 นี้

    ตอนนี้ความสัมพันธ์ของแทคเคย์กำลังจะเข้าที่แล้วนะคะ

    เราจะได้มาเริ่มประเด็นชานนูนอจริง ๆ จัง ๆ สักที

    ค้างไว้นานเกินไป ต้องขออภัยจริง ๆ ค่า -/\-

    ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านไม่ว่าจะเงาหรือไม่เงานะคะ

    ที่ยังมาแต่งเพราะได้อ่านคอมเม้นต์นะคะเนี่ย 55555555

    ขอบคุณที่ติดตามและให้การสนับสนุนฟิคเรื่องนี้ค่ะ ^^


    .


    .


    ป.ล. ผิดคาดค่ะ วันนี้ว่างจากรับน้อง!!!

    ก็เลยมีกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้คนอ่านฟิคเรื่องนี้ได้ร่วมสนุกกันค่า ~ 

    V ของรางวัลก็คือนี่เลย !! V




    สมุดพี่คิมนั่นเอง !!!! //ยังไม่เลิกหลงเมน


    กติกามีดังนี้นะคะ สำหรับคนที่ต้องการร่วมสนุก

    1. ตอบคำถามต่อไปนี้

    - พี่คิมทำละครเวทีเรื่องอะไร

    - ใครแสดงเป็นตัวเอกบ้าง

    - (อ้างอิงจากตอนที่ IX) ชานซองอยู่ที่ไหน

    2. ให้ตอบในทวิตเตอร์ค่ะ โดยจะต้องติด Hashtag #ficimyourmancnn

    3. ถ้าคำตอบของท่านยาวเกิน 140 ตัวอักษร

    อนุญาตให้เขียนประกอบได้ว่ายังตอบไม่จบ เช่น (1) (2) (มีต่อ) เป็นต้น

    โดยทุกทวิตที่ตอบจะต้องใส่ Hashtag ตามข้อ 2.

    4. ถ้ามีคนตอบถูกหลายคนจะทำการสุ่มผู้โชคดีค่ะ

    5. จริง ๆ คำถามค่อนข้างง่ายสำหรับคนที่อ่านฟิคเรานะคะ 555555555

    มันไม่ค่อยต่างกับสุ่มเฉย ๆ เท่าไร แต่ที่จัดนี่คืออยากให้เฉพาะคนที่อ่านจริง ๆ ค่ะ

    6. ถ้าทำผิดกติกา เช่นตอบตรงอื่น/ลืมติด Hashtag จะไม่รับคำตอบนะคะ

    7. หมดเขตเมื่อลง CHAPTER XII ค่ะ (ซึ่งเมื่อไรก็ไม่รู้ 555555)


    ขอให้โชคดีนะคะ ^^


     

     

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×