Non of Gravity (นทแอป 67)
ผู้เข้าชมรวม
1,368
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
หากโลกใบนี้ไร้ซึ่งแรงโน้มถ่วงจะเป็นเช่นไร?
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“พี่นท ยังไม่ตอบแอปเลยน่ะค่ะ”
ฉันเลิกคิ้วขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะพลิกตัวหันกลับมาจ้องมองเพดาน
“นิ อย่าหันหนีสิ”
คำถามแสนประหลาดที่ติดอยู่ในหัวของอีกคนมาเกือบข้ามวันทำให้ฉันพลอยประสาทจะกินไปด้วย
หากโลกใบนี้ไร้ซึ่งแรงโน้มถ่วงจะเป็นเช่นไร?
นั้นสิน่ะ ฉันเองก็ยังนึกไม่ออกถึงความรู้สึกในตอนนั้น
ถ้าหากวันหนึ่งต้องตื่นเช้าขึ้นมาแล้วพบว่า ตัวเองกำลังลอยละลิ่วอยู่กลางอากาศพร้อมกับมีนาฬิกาปลุกลอยตามขึ้นมาอยู่เคียงข้าง คงจะเป็นอะไรที่แปลกพิลึก
แต่ในเมื่อเรื่องราวเหล่านั้นยังไม่เกิดขึ้นจริง สิ่งที่แปลกพิลึกมากว่าคงจะเป็นความคิดของคนข้างตัว
“ถ้าหากแอปเกิดในยุคที่นิวตันค้นพบแรงโน้มถ่วงก็ดี...”
“ทำไมอ้ะ?”
“ก็จะได้ฆ่านิวตันให้ตายซะ จะได้ไม่ต้องมานั่งเรียนฟิสิกส์มากมายขนาดนี้”
“...”
“...”
“พี่นท ถ้าเกิดนิวตันไม่ค้นพบแรงโน้มถ่วงโลก แล้วอยู่ดีๆวันหนึ่งแรงโน้มถ่วงเหล่านี้ก็ปลิวสลายหายไป พี่นทจะทำอย่างไง?”
คำถามนี้ถูกถามเมื่อเกือบสองวันก่อน ในตอนนั้น ฉันเพียงแค่หัวเราะร่าและไม่ได้ตอบอะไรเธอไป ในวันนี้เธอจึงคาดคั้นเอาคำตอบไม่หยุด
ถ้าไม่มีแรงโน้มถ่วงบนโลกเหรอ?
ถ้าวันนั้นเกิดขึ้นจริง ฉันคงจะต้องวิ่งไปศรีธัญญาแทบไม่ทัน
แต่กว่าจะวิ่งไปถึงศรีธัญญาในวันนั้น โลกที่ปราศจากแรงดึงดูดคงจะทำให้ฉันวิ่งไปได้ไกลไม่ถึงไหน
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันแอป”
.....................................
กริ้งค์!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เสียงนาฬิกาปลุกยังคงแผดเสียงร้องอย่างน่ารำคาญใจ
ฝ่ามือเรียวบางถูกพาดวางขึ้นไปยังหัวเตียงโดยอัติโนมัติ เป้าหมายอยู่ที่การทุบนาฬิกาปลุกให้แหลกคามือ แต่ตำแหน่งอันว่างเปล่าทำให้ฝ่ามือลอยเคว้างคว้างในอากาศไม่มีสิ้นสุด เสียงร้องก็ยังคงดังไม่หยุด จึงทำให้ฉันได้แต่นึกหงุดหงิดใจ
สุดจะทน จนต้องลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียง
เหวออออออออ.....
เหมือนกับว่านี้คือความฝัน แต่มันช่างเป็นฝันที่ไม่น่านึกถึง
ข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องกำลังบินว่อนไปมาอย่างนึกสนุก ราวกับฉันเห็นรอยยิ้มแย้มบนมุมปากของเหล่าสิ่งของเหล่านั้น เหมือนกับมันกำลังมีอิสระ ล่องลอยไปในอากาศอย่างไม่มีจุดหมาย ฉันลุกพรวดพราดออกจากเตียง หวังเพียงแต่จะให้หนีไปให้พ้นห้องบ้าๆแห่งนี้
หากแต่ขาสองข้างกลับไม่ได้กระทบลงบนพื้นแต่อย่างใดในเมื่อมันลอยเคว้งอยู่ในอากาศแทน!!!!
ถ้าวันหนึ่ง โลกเราไม่มีแรงโน้มถ่วงขึ้นมาจะเป็นอย่างไร
ก็เป็นอย่างตอนนี้ไง ปัทโธ่เว้ย!
...............................................
นี้ก็เกือบจะสามวันแล้วที่โลกของเราอยู่ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงขนาดนี้
ดูเหมือนร่างกายกำลังปรับสภาพตัวเองจนคุ้นชิน ความรู้สึกของฉันในตอนนี้จึงคลับคล้ายคลับคลาว่ากำลังจะเป็นปกติอีกครั้ง
ตั้งแต่ที่โลกของเราเหมือนโดนขโมยแรงโน้มถ่วงไป การสื่อสารหลายๆอย่างก็หายไปด้วย
ฉันไม่รู้ว่ากฎฟิสิกส์ข้อไหนมันจะเกี่ยวข้องกับสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้หรือเปล่า แต่ปัญหาใหญ่ๆก็คือเครื่องสื่อสารทุกชนิดใช้งานไม่ได้เนี่ยดิ่!!!
ตั้งแต่เมื่อสองสามวันก่อนที่คุยกับแอปเปิ้ลเรื่องแรงโน้มถ่วง เราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย
โทรศัพท์ใช้การไม่ได้ คอมพิวเตอร์ก็โดนไวรัสกินไปเป็นแทบๆ ไฟฟ้าดับทั่วทุกหนทุกแห่ง ที่สำคัญเครื่องทำน้ำอุ่นดันไม่ยอมทำงานอีก อาบน้ำทีไร โคตรหนาวววว ><
การเดินทางสัญจรไปมาก็แลดูลำบาก เพราะแค่จะแหวกว่ายตัวเองไปในอากาศก็ยากลำบากจะตายอยู่แล้ว เรื่องที่จะออกไปนอกบ้านจึงถูกลบทิ้งไปได้เลย
โลกทั้งใบเหมือนกำลังหยุดหมุน ชีวิตทุกชีวิตเหมือนไม่ได้ทำงาน ราวกับช่วงเวลาแห่งตอนนี้มีเพียงฉันแค่คนเดียวที่ยังคงอยู่บนโลก
ไร้ตัวตน ไร้สิ่งมีชีวิต ไร้ความรู้สึก
ราวกับมีฉันแค่เพียงคนเดียว
ณ ที่แห่งนี้
............................................
น้ำตาไหลเปรอะเปื้อนใบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ผ่านมาเกือบห้าวันแล้ว
แต่รู้สึกเหมือนกับว่าผ่านมาห้าปียังไงยังงั้น
ความรู้สึกที่มีก่อนหน้านี้ในช่วงสองสามวันก่อนดูท่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนน่าตกใจ
อาการเคว้งคว้าง ไร้ตัวตน และเงียบเหงา
มันเคาะประตูเรียกฉันอยู่ทุกวันราวกับเพื่อนสนิท
ฉันปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอีกระลอกลงบนพื้น ก่อนจะตะเกียกตะกายตัวเองเข้าไปในห้องครัว
มือเรียวบางของตัวเองทุลักทุเลเอาข้าวกล่องออกมาจากตู้เย็นอีกครั้ง พร้อมกับช้อนส้อมที่ถูกวางอยู่เป็นระเบียบภายในนั้นปรากฎขึ้นชัดมาในสายตา
ชวนให้น้ำตาไหลลงมาอีกระลอกหนึ่งเมื่อคิดถึงใครอีกคน
“พี่นท แอปบอกแล้วไง ว่าให้ซื้อของสดมาทำกินที่บ้านบ้าง กินแต่อาหารสำเร็จรูปเดี๋ยวก็ป่วยพอดี”
คำพูดที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงยังดังสะท้อนอยู่ในหัว
“พี่นท แอปบอกให้ไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวแอปทำกับข้าวให้ไง”
“ทำไมดื้อยังงี้ล่ะพี่นท ก็ได้ๆ กินข้าวก่อนก็ได้”
เธอเป็นอย่างนี้ทุกครั้งเราอยู่ด้วยกัน...
ทุกๆเช้า เธอต้องตื่นนอนขึ้นมาก่อนฉันเสมอ เพื่อมาทำกับข้าวให้
ทุกๆเช้า เธอต้องบ่นเป็นประจำเรื่องให้ฉันอาบน้ำเสียที
และทุกๆเช้า เธอก็จะต้องใจอ่อนแทบทุกครั้ง เมื่อฉันดึงดันที่จะไม่อาบน้ำ
เธอเป็นแบบนี้ และนี้แหละที่เป็นเธอ
เกือบจะสายของวันแล้ว
แสงแดดเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความร้อนระอุ
ฉันนอนเหยียดกายยาวบนกลางอากาศ แขนข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมาพาดยังหน้าผากแลดูชีวิตช่างเงียบเหงาสิ้นดี
ไฟฟ้าก็ดับ ของใช้แทบทุกอย่างก็ใช้ไม่ได้ จะออกไปไหนก็ยากลำบาก ที่ทำได้ก็แค่นอนนิ่งๆคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
ถ้าเป็นสายๆของวันแบบนี้ ส่วนมากฉันมักจะกำลังยุ่งจนหัวปั่นอยู่
“พี่นท แอปบอกให้ไปตากผ้าไง เร็วๆเข้า”
“อ้าาา อย่าสะบัดแรงสิ น้ำกระเด็นเข้าตาแอปหมดแล้ววว”
“พี่นท อย่าเพิ่งอู้ ยังมีงานให้ล้างห้องน้ำต่ออีกน้ะ”
ใช่ ทุกทีมันก็หัวหมุนยังงี้แหละ
ถ้ามีอีกคนคอยอยู่ด้วย ก็คงมีอะไรให้ทำมากกว่านี้
“พี่นท แอปบอกให้ล้างจานไง”
“อ้ะ? พี่นทลืมให้ข้าวฟูฟูเหรอ?”
“พี่นท ไม่ซักกางเกงในอีกแล้วน่ะ!”
ถึงแม้บางทีมันอาจจะดูจุกจิกไปหน่อย แต่มันก็เป็นอะไรที่เป็นช่วงเวลาดีๆที่สุดเลยล่ะ
ฉันยังจำได้ในตอนนั้น ทุกๆวันของวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉันกับแอปจะต้องมีงานบ้านให้ทำร่วมกันเป็นประจำ มีบ้างบางครั้งที่แอบอู้โดยการออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาทำงานบ้านที่ทิ้งไว้เสียให้ครบ ไม่รู้ว่าตัวเองรักความรับผิดชอบต่อหน้าที่มากเกินไปตั้งแต่เมื่อไรหรือที่ทำไปเพราะแอปเปิ้ลดุอย่างกับเสือกันแน่
“พี่นท ออกไปซื้อกับข้าวกันเถอะ”
“พี่นท ติดซี่รีย์เกาหลีอีกแล้วน่ะ”
“อะไร นางเอกสวยเหรอ?”
“นอนนอกห้องเลยน้ะคืนนี้”
“นิ!ถ้ายังไม่ลุกจากเก้าอี้ อีกสิบนาที งอนจริงๆน่ะ!”
และฉันมักจะโดนดุทุกครั้งที่ตัวเองติดซี่รีย์มากเกินไปแบบนี้ทุกที...
เราอยู่ด้วยกันทุกวัน ตื่นเช้ามาก็เจอหน้ากัน กลางวันก็อยู่ด้วย แม้แต่ตอนเข้านอนก็นอนพร้อมกัน
ทุกๆช่วงเวลา ฉันมีเธออยู่เสมอ แต่ในตอนนี้กลับดูแปลกออกไป
ไร้ซึ่งเสียงบ่น ไร้ซึ่งเสียงพูดคุย และไร้ซึ่งเสียงความห่วงใย
บางครั้งก็แอบรู้สึกสบายหู แต่พอนานๆไปกลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นอีก
ในเมื่อตอนนี้ความรู้สึกมันกลับกำลังเรียกร้องให้เสียงพวกนั้นหวนคืนกลับมา
ฉันไม่รู้ตอนนี้แอปเปิ้ลเป็นไงบ้าง เราไม่ได้ติดต่อกันมานานมากแล้ว
ตอนนี้ก็กินเวลาไปเกือบจะหนึ่งเดือนที่ฉันติดแหงกอยู่คนเดียวในที่แห่งนี้โดยไม่รับรู้ข่าวสารภายนอก และไม่รับรู้การมีตัวตนของสิ่งอื่นๆ
แต่ยังคงมีสิ่งหนึ่งที่คลอเคลียเป็นเพื่อนฉันมาตลอดในช่วงเวลาหลายวันมานี้
น้ำตา
หยดใสๆไหลรินเปรอะเปื้อนใบหน้าเป็นครั้งที่ร้อยแล้วก็ไม่อาจจะรู้ แต่ฉันเลือกที่จะไม่ปัดมันทิ้ง ยังคงปล่อยให้มันรวยรินอยู่อย่างนั้น
คิดถึง
ใช่ มันคือความรู้สึกคิดถึง
โหยหา
ใช่ ฉันกำลังโหยหา
เธอ
ใช่ ทั้งหมดทั้งมวลมันเกิดขึ้นเพราะเธอ
หากตรงนี้ ณ ที่แห่งนี้ ณ เวลาตอนนี้ เธอยังคงอยู่ อาจจะมีความสุขมากกว่านี้
“พี่นท...”
“พี่นท...”
เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูดังไม่ค่อยชัดนักเมื่อในตอนนี้สติสัมปัชชัญญะเริ่มจะเลอะเลือน
“พี่นท...”
ความง่วงนอนเข้าครอบคลุมแทบจะทุกพื้นที่ในหัวสมอง แต่เสียงเล็กๆยังคงดังก้องหูไม่ไปไหน
“พี่นท...”
“เมื่อไรจะตื่น!!!!!”
ห๊าาาาาาาาาาาา?
O______________________O
ฉันลุกพรวดพราดขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงนอน เหงื่อไหลซิกๆ
ฝันไป
แค่ฝันไป
เรื่องราวทั้งหมดตลอดเวลาแค่ฝันไป
ฉันมองดูรอบตัว เพื่อหาต้นตอของเสียงที่ทำให้ฉันตื่น
โทรทัศน์ปลายเตียงถูกเปิดทิ้งไว้พร้อมกับภาพเคลื่อนไหวภายในจอ
มันเป็นวิดีโอที่ถูกบันทึกไว้ตั้งแต่เมื่อสองปีที่แล้ว รู้สึกจะจำได้ว่าหยิบวิดีโอเรื่องนี้ขึ้นมาเปิดดูเมื่อตอนเย็นนี้เองล่ะมั้ง
“พี่นท! เก้งๆๆๆ จะตื่นไหม”
ภายในหน้าจอสี่เหลี่ยมแห่งนั้นปรากฎร่างหญิงสาวตัวสูงคนหนึ่งเดินถือหม้อกับกระทะวนไปวนมารอบเตียงที่ฉันนอน
เสียงดังรบกวนในเวลาตอนนั้นคงเป็นสาเหตุที่ฉันสะดุ้งตื่นในตอนนี้
ที่แท้ก็แค่ฝันไป
“แอป! พี่รำคาญ ไปไกลๆได้ไหม!”
“แอป...”
“พอซะที พี่เบื่อ เลิกๆกันไปซะที น่ารำคาญจะตายอยู่แล้ว”
“แอปแค่...”
“ไอ้ความเป็นห่วงของแอป มันทำให้พี่อึดอัดรู้ตัวบ้างไหม ไปเถอะ ไปไกลๆ”
“....”
“เลิกกันเถอะน่ะ ขอร้อง”
สองแขนกอดเข่าตัวเองแน่นพร้อมกับริมฝีปากที่กำลังเม้มเข้าหากัน
น้ำตาระลอกใหญ่ไหลลงมาอีกครั้ง เมื่อเหตุการณ์วันวานย้อนกลับมาให้คิดถึง
ในวันนั้น วันที่ฉันตาบอด ฉันกล่าวบอกเลิกเธอไป
ฉันไม่รับรู้สิ่งใด ช่วงเวลานั้นมีแต่ความรู้สึกของคำว่าเบื่อ น่ารำคาญ และหมดความอดทน
โดยไม่เคยนึกคิดมาก่อนเลยว่า ที่เธอทำไปเพราะเป็นห่วงมากแค่ไหน...
และสุดท้าย ฉันก็เลือกตัดสินใจที่จะทำร้ายเธอให้ถึงที่สุด
“แอป เลิกกันเถอะ พี่ขอร้อง”
.......................................................
สองขาของตัวเองก้าวยาวไปเรื่อยตามโถงทางเดิน ในมือถือช่อผลไม้ใบใหญ่
นึกย้อนไปถึงความฝันของตัวเองเมื่อวันก่อนแล้วก็ได้ข้อคิดอะไรบางอย่าง...
สภาวะไร้แรงดึงดูดบางที มันก็อาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้
ชีวิตคนเราเกิดมาเพื่อผูกติดกับใครอีกคนหนึ่ง เสมือนกับแรงโน้มถ่วงโลกที่เชื่อมระหว่างโลกกับตัวมนุษย์ บางครั้งแรงโน้มถ่วงก็ทำให้เราตกจากที่สูงจนเจ็บเจียนตายจนถึงกับกระอักเลือด แต่บางครั้งแรงโน้มถ่วงก็ทำให้เราตระหนักถึงการดูแลเอาใจใส่ไม่ให้สิ่งของที่ถูกถืออยู่ไว้ในมือล่วงล้นไปยังพื้นจนพังยับเยิน
แต่ถ้าให้พูดถึง สภาวะไร้แรงโน้มถ่วง...
อืม... มันก็ให้ความรู้สึกพิเศษแปลกออกไป มันราวกับเราอยู่บนปุยนุ่นสีขาว ลอยละลิ่วไปมาเอื่อยเฉื่อย เหมือนกับความรู้สึกที่ว่าไม่ทุกข์แต่ก็ไม่สุข เช่นเดียวกัน
มือข้างซ้ายพลักเปิดประตูเข้าไปในห้องก่อนจะพาร่างตัวเองตรงดิ่งไปยังข้างเตียงผู้ป่วยที่วางอยู่ตรงหน้า เสียงลมหายใจที่พัดแผ่วเบายังคงดังต่อเนื่องพร้อมๆกับเสียงเต้นหัวใจที่ยังเต้นระรัว หากแต่สัญญาณการมีชีวิตกลับไม่หลงเหลือ
“แม่ค่ะ เดี๋ยวนทดูแลแอปต่อเองค่ะ แม่ไปพักผ่อนเถอะ”
ในวันนั้น การตัดสินใจครั้งนั้นของฉันถือว่าสร้างบาดแผลที่ยากจะลืมเลือน
แอปเปิ้ลเตรียมตัวเดินทางไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียตามที่เธอเคยนึกถึง แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันในตอนนั้นก็บังเอิญเกิดขึ้น เมื่อเธอไม่ทันระวังตัวถูกรถชนเข้าปะทะกับร่างเต็มคัน
อาการตอนนั้นของเธอล่อแล่จนน่าใจหาย เหมือนกับกำลังจะลาจากไปแต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนกำลังจะกลับมา
และในเวลาต่อมาก็ได้พิสูจน์จนชัด...
ว่า...สติของเธอพร่าเลือนและไม่เคยหวนคืนกลับมาอีกเลย
สิ่งที่เธอเหลือเอาไว้ให้ดูเพียงต่างหน้า มีแค่ร่างกายที่เต็มไปด้วยหัวใจ แต่ไร้ความรู้สึกแค่นั้น
“แอป พี่มาแล้วน่ะ”
“วันนี้วันครบรอบของเราไงจำได้ไหม...”
“แอป....”
“พี่ขอโทษ....”
หากในวันนั้นฉันดูแลเธอให้มากกว่านี้ หากในวันนั้นฉันไม่ตัดสินใจพูดคำนั้นออกไป หากในวันนั้นฉันไม่ใส่กับอารมณ์เพียงชั่ววูบของตัวเอง ในวันนี้ฉันก็คงมีเธอยืนอยู่เคียงข้างกายอย่างที่เคยเป็นมา
หากให้เลือกสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงที่ไม่ต้องเจ็บปวดแต่ก็ไม่รู้สึกถึงรัก กับสภาวะที่เป็นอยู่ในปัจจุบันที่รอบล้อมไปด้วยแรงโน้มถ่วงมากมายซึ่งบางทีก็ดึงรั้งฉันให้อยู่กับความเป็นจริงอันแสนโหดร้ายพร้อมๆกับความทรงจำอันแสนหอมหวานที่อยากจะหวนคืน
ฉันว่า แอปเปิ้ลคงเลือกสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง เพราะในตอนนี้ร่างกายของเธอได้แสดงให้เห็นชัดแจ้งแล้วว่า เธอไร้ซึ่งความรู้สึกแค่ไหน
แต่ในขณะเดียวกับสำหรับฉัน...
ฉันขอเลือกสภาวะมีแรงโน้มถ่วง เพราะฉันยังอยากเก็บความทรงจำที่มีต่อเธออยู่อย่างนั้นตลอดไป
จบ
..............................................................................
อ้า มาอีกแล้ว เย้เย ^^
งานนี้ก็ยังคงมาเศร้าไม่เปลี่ยน แหะๆ ช่วงนี้ไรท์กำลังอินกับความรู้สึกนี้จัดๆ
ยังไงก็ฝากของคุณอีกครั้งที่เข้ามาอ่านและติชม
ขอบคุณเจ้าาาา
><
ผลงานอื่นๆ ของ ป๊อกกี้รสนม ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ป๊อกกี้รสนม
ความคิดเห็น