หงส์ดำกับพรานป่า. Y - หงส์ดำกับพรานป่า. Y นิยาย หงส์ดำกับพรานป่า. Y : Dek-D.com - Writer

    หงส์ดำกับพรานป่า. Y

    หงส์ดำ ความรักที่เกิดขึ้นอย่างมิอาจตั้งใจ พรานหนุ่มคือผู้กุมหัวใจตอบสนองออย่างไรถึงจะถูกต้องกันนะ?

    ผู้เข้าชมรวม

    316

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    16

    ผู้เข้าชมรวม


    316

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 ส.ค. 60 / 08:44 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

           กาดำคือหายนะที่จะพรากวิญญาณร่วงลงสู่ความมืดมิดแห่งชีวิต เพียงเพราะมันคือสีดำ...
          สีดำที่ถูกตราหน้าว่าเป็นเครื่องรางแห่งความโชคร้าย

    .......มันเป็นสีที่น่ารังเกียจเดียดฉันท์ 


    .......มันเป็นหายนะของภูติผีปีศาจ...


       ......มันเป็นมนต์ดำของนางแม่มดร้าย...

    ....แล้วถ้าเกิดเป็นหงส์ดำล่ะ?....เรื่องจักลงเอยเช่นกาดำหรือไม่?


    .
    .
    .
      ครื่นนนน  

    สายลมกรรโชกแรงผลาญพรากเอาชีวิตของสัตว์ป่าทั้งหลายจนทั้งผืนดินเติมเต็มไปด้วยสีแดงฉานของเลือด   
    กลิ่นคาวอันน่าสะอิดสะเอียนกำลังลอยคละคลุ้ง  

    ชายหนุ่มนัยตาสีดำขลับไร้แสงสะท้อนกำลังยืนมองพวกสัตว์ป่าอย่างเฉยชา..มือข้างหนึ่งยื่นไปข้างหน้าก่อนจะกำฝ่ามือเข้าหากัน  

      ฉับพลัน!   ลมที่บาดเฉือนเลือดเนื้อของสัตว์ผู้ไร้เดียงสาทั้งหลายก็มลายสิ้น 
              
       "ข้าจักช่วยพวกเจ้าได้เพียงเท่านี้...หากเกินไปข้าคงเดือดร้อนเสียเอง"

         เขาเงยหน้าขึ้นมองผืนฟ้า... คืนนี้ไร้ดวงดาว...หากแต่จันทร์กลับเต็มดวงงดงามยิ่งนัก....

       เป็นจันทร์สีเลือดจริงๆ..


    ... ข้าเกลียดมัน...มากพอกับที่มันทำลายข้า....

    .
    .
    .
    .
    .

         "ท่านนายพรานขอรับ  คืนนี้ข้าคิดว่าดวงจันทร์มีสีแปลกกว่าทุกคืนนะขอรับ "   

       "ใยเจ้ากลัวอะไรไร้สาระเช่นนี้เล่า? "   

       นายพรานหนุ่มเอ่ยกับศิษย์คนสนิทที่ขี้ขลาดเกินกว่าจะมาเป็นพรานซะนี่

       "ข้า...ข้าแค่รู้สึกว่ามัน..แปลกๆ  คืนนี้ดึกแล้ว ไม่ออกจากกระท่อมนะท่านนะ"

         ลำแขนแกร่งถูกเขย่าไปมาจนรู้สึกชาหนึบ   ใบหน้าคมขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด 
    ยกฝ่ามือขึ้นแล้วใช้สันมือฟาดลงบนหลังคอของผู้ติดตามอย่างเลือดเย็น  จนเขาล้มพับลงไปพร้อมกับดวงตาที่พร่าเลือน

       "ท..ท่าน...ใจดำ " 

        พรานหนุ่มส่งเสียง หึ  ในลำคอ เดินไปหยิบธนูและมีดพกโดยที่ไม่ลืมปืนลงอาคมตัวโปรดที่มักจะเผื่อไว้เสมอว่าอาจจะเจอกับสัตว์อสูรหรือเสี้ยวของแม่มดที่ลงอาคมไว้กับสัตว์ผู้ไร้เดียงสา...

    ....ใช่แล้ว....  เขามิใช่พรานธรรมดา...

        แต่เป็นพรานล่าอสูรกาย....

       หมู่บ้านที่เต็มไปด้วยความคาดหวังต่อเขา
    การแบกรับความรักและความคาดหวังของชาวบ้าน...  มันหนักจนบางครั้งก็ได้ยินเสียงของสันไหล่ที่ร้าวราน...

         ความผิดนี้หาใช่ของผู้ใดไม่... ถ้าไม่ใช่เพราะนางแม่มดดำที่ขนาดชีวิตได้สิ้นไปแล้วยังอุตส่าห์ทิ้งมนตราอันน่ารังเกียจนี้ไว้กับชายหนุ่มผู้โชคร้ายให้กลายเป็นหงส์...จวบจนมันกลายเป็นสีดำและหายตัวไปในที่สุด....โดยที่ไม่มีผู้ใดพบเจออีกเลย...

       มีเพียงเศษซากสัตว์ป่าและเลือดสีแดงฉานที่มักจะมาให้เห็นหลังจากผ่านคืนพระจันทร์เต็มดวง...และนั่นเป็นที่มาของ'จันทร์สีเลือด'

       ชาวบ้านที่พบเจอต่างหวาดหวั่น... ไม่มีผู้ใดกล้าออกล่าสัตว์ยามค่ำคืนอีกต่อไป  มีเพียงแค่บางกลุ่มที่ฮึดขึ้นมาออกล่าหงส์ปีศาจตนนั้น...  และเขาเองก็เคยได้เชยชมความน่ากลัวของมันเพียงครั้งเดียว...  แล้วจากนั้นก็กลายเป็นความทรงจำที่ลืมไม่ลง...



      แซ่ก  แซ่ก!  

      'นั่นอะไร? '    พรานหนุ่มหันไปตามเสียงใบหญ้าที่เคลื่อนไหว  ประสาทสัมผัสที่มีมากกว่าคนทั่วไปทำให้ได้เปรียบ...

       พงหญ้าที่เริ่มขยับไหวทำให้ชายหนุ่มยกธนูขึ้นมาเพ่งเล็ง...  

       ขนนกสีทมิฬลอดผ่านใบหญ้าออกมาน้อยๆ  นายพรานเริ่มวิตกถึงสัตว์ที่อยู่ด้านหลัง  เขาไม่อาจรู้ได้ว่าที่อยู่ตรงนั้นคือหงส์ปีศาจหรือกาดำที่ตกรัง..  ไม่อาจยิงโดยไม่ไตร่ตรองได้....

        "หงส์ดำ? "

       ฉวั้ะ!.. 

        มือใหญ่เผลอปล่อยลูกธนูจนมันพุ่งศรไปยังสิ่งมีชีวิตที่อันตรายอย่างห้ามไม่อยู่ 

       นัยตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้างเมื่อได้ยินเสียงร้องของนกอันเป็นที่หวาดกลัวของชาวบ้าน 

    เขาย่องเข้าไปใกล้กับมันด้วยใจที่โครมคราม ความตื่นเต้นกำลังสั่นระริก  สิ่งมีชีวิตตนนั้นกำลังถูกพลังของอาคมทำลาย..

       "เป็นไงล่ะไอ้หงส์ปีศาจ?  ตายหรือยัง? "     

      ฉับพลัน  สิ่งมีชีวิตตนนั้นก็เกิดแสงเรืองออกมาจากปากแผลที่ถูกยิง  ปีกและหางกำลังแปรสภาพ  กายมนุษย์เริ่มปรากฏเด่นชัด  พรานหนุ่มยืนแข็งทื่อกำกระบอกปืนข้างเอวเอาไว้แน่น   

       อากาศกำลังหยุดหมุน... สายลมราวกับหายไปโดยฉับพลัน ...  ความกดดันนี้มันอะไรกัน?

      
      "อึ่ก! ... ท่าน..ยิงข้า.. "


      ฟลุ่บ!!!


       กายที่กำลังขยับยืน..ล้มพับลงไปพร้อมกับลูกธนูที่ปักบนไหล่แขนข้างซ้ายทะลุผ่านไปอีกฝั้ง...  วงแหวนที่เกิดจากมนต์คาถากำลังออกฤทธิ์ มันกำลังทำหน้าที่สกัดกั้นพลังวิญญาณผ่านศรธนู...

      "หึ..ในที่สุด ข้าก็จับเจ้าได้.. ไหนดูซิ หน้าตาของสัตว์ประหลาดที่ลือเลื่อง  ข้าควรจะจับเจ้าหรือกำจัดทิ้งเสีย?" 

         มือหนาเชยคางมน  ผมสีดำยุ่งเหยิงเต็มใบหน้าเนียนขาว  พรานหนุ่มจ้องมองรูปหน้าผ่านแสงจันทร์ที่ส่องสะท้อนลงสู่ผืนพสุธา

       กายมนุษย์ของสัตว์นรกตนนี้ช่างงดงาม... ร่างกายความเป็นชายโปร่งแสงอ่อนๆยามต้องแสงทิวา  เปลือกตาสีงาช้างปิดปรืออย่างทรมานด้วยพิษที่ต้านการเคลื่อนไหวของมนตรานางแม่มด   พรานหนุ่มช้อนแขนเข้าใต้ลำคอหงส์ดำ...พร้อมกับเอ่ยคำพูดที่ขัดต่อการเป็นพรานนักล่ายิ่งนัก



        "ที่พักเจ้าอยู่บริเวณใด? "


    .
    .
    .

          อาการคลื่นเหียนชวนอาเจียนกำเริบทุกครั้งที่ขยับกาย  หงส์หนุ่มปิดเปลือกตาเอาไว้แน่น  ในอกเริ่มมรสุมด้วยความกังวลใจ  ในเวลานี้ไม่อาจรู้ว่าตนนั้นยังสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ถึงเวลาใด  แต่ที่แน่ๆคือกลิ่นหอมอบอวลของดอกไม้นี่คือ....ที่พักของเขาเอง...

      "ตื่นแล้วหรือ?..เวทย์นี้ใช้ได้เลยนะ  ถึงจะเพิ่งทดลองครั้งแรก ก็ทำให้หงส์ปีศาจอย่างเจ้าเกือบสิ้นใจได้เลย "  

        เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับสองขายาวก้าวเข้ามาอย่างองอาจ  ริมฝีปากหนาปริยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นสภาพสัตว์หายนะที่ถูกจองจำด้วยเชือกลงมนต์สะกัดเวทย์เอาไว้   

        เปลือกตาสีงาช้างไม่ยอมเปิดขึ้นมา...  ทั่วทั้งร่างกายของหงส์หนุ่ม นายพรานได้เห็นมาทุกซอกทุกมุม แม้กระทั่งตอนที่เขากลายร่างเป็นสัตว์มีปีกสีทมิฬน่าขยะแขยง... แต่ในอีกความรู้สึกคือความเศร้าสร้อยเสียใจของหงส์ตนนี้...

    ...เขาอยากเห็นนัยตาของร่างที่นอนอยู่...

      นัยตาที่ใครต่อใครกล่าวกันนักหนาว่าน่าหวาดกลัวราวกับมัจจุราชที่ถือเคียวตามคร่าชีวิตคน...

      "เจ้าหลับไปเกือบสามวัน และตอนนี้เจ้าเองก็ฟื้นแล้ว  ไม่คิดจะขอบคุณข้าหน่อยหรือ? "  

        อยากขอบคุณงั้นหรือ?...

      แค่คิดจะขยับเปลือกตาก็เจ็บจวนจะขาดใจอยู่แล้วนี่...

       "..เ..เจ็...บ  "     ราวเข็มนับล้านเล่มทิ่มลงมายังร่างกาย  คลื่นบางอย่างไหลเวียนในช่องท้องและฟาดฟันกันปานจะพุ่งทะลุออกมาจากช่องอก 
        ความทรมานที่กัดกินทำให้เขาแทบหายใจไม่ออก...รู้สึกกำลังจะตาย...ตายอย่างที่เคยทำไว้กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ....

      "โอ้ะ!...จริงสิ  ข้าลืมไปเลยว่ายังไม่ดึงเอาธนูออกจากไหลเจ้า...ไม่สิ..ถ้าข้าดึงออก เจ้าจะไม่แว้งกัดข้าหรอกหรือ? "

    "......."    

       เหตุใดความรู้สึกเศร้าโศกน้อยใจนี้ถึงแผ่ออกมาจากร่างกายผอมโปร่งของเจ้าปีศาจนี่กัน?..
        แล้วทำไมข้าถึงได้รู้สึกไว้วางใจกับเจ้าสัตว์หายนะตนนี้ได้.....ทั้งที่ไม่ได้เห็นแววตาของมันสักนิด...

      ฉึบ!   

    'อ้ากกก!!!'    

       เสียงหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดสะท้อนลั่นป่าเขียว  พรานหนุ่มรีบใช้ผ้ามาห้ามเลือดมิให้ล้นทะลักออกมาจากไหล่สีขาวซีด   ริมฝีปากสีคล้ำเผยอขึ้นกอบโกยเอาอากาศทันใดเมื่อพรานหนุ่มใช้ไฟจี้ลงสู่ปากแผล.... 

    "ใจเย็นๆหนุ่มน้อย  หายใจเข้าลึกๆอย่าคิดว่าตอนนี้เจ้าเป็นหงส์นรกนั่น ตอนนี้เจ้าคือมนุษย์  มนุษย์อย่างที่เคยเป็น  "   

      ขนดำที่กำลังผุดออกจากผิวหนังสีซีดขยับขยายราวกับสิ่งมีชีวิต  หงส์หนุ่มบิดตัวเกรียว เขาทรมานเหมือนถูกหนอนเข็มผุดว่ายตามผิวเนื้อ มันกำลังแทรกออกมาตามรูขุมขนของเขา 
      เจ็บ...  เจ็บเหลือเกิน...  ข้าทรมาน...

      " ข้าบอกให้ใจเย็น!"      เสียงทุ้มตะคอกด้วยความเหลืออด  ยิ่งสีหน้าทรมานของชายหนุ่มฉายแววเจ็บปวดเขายิ่งนอนใจไม่ได้..  ราวกับความเจ็บนั่นถ่ายทอดมาสู่ตัวเขาเอง

    มือหนายกขึ้นมาลูบกลุ่มผมสากกรังของหงส์หนุ่มเบาๆ  ริมฝีปากคอยพูดปลอบประโลมในขณะที่อีกมือจุดไฟเวทย์ให้ลุกโชติช่วงแรงขึ้นเป็นสองเท่า!   

       ข้าโทษ  แต่ข้าต้องทำให้เจ้าหายจากการเป็นหงส์เวรนี่ให้เร็วที่สุด...
       .
    ............


    ในกระท่อมกลางป่าที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์เช่นมนุษย์ทั่วไปอย่างนี้นับสร้างความแปลกใจให้กับเขายิ่งนัก...   

    ....ทั้งที่คิดว่ามันต้องมีแต่เศษซากมนต์ดำแท้ๆ...

      แต่ที่นี่มีทุกอย่างที่เรียกได้ว่าสุขสบายโดยมิต้องออกไปหาซื้อเครื่องใช้จากในหมู่บ้านเข้ามาเลย... อยู่กลางป่ากลางดงเช่นนี้... 

      ตอนที่เจ้านี่ยังไม่ถูกมนต์ดำของนางแม่มด..เขาคงเคยใช้ชีวิตที่สงบสุขมากเลยสินะ...

        "ข้ามีนามว่า เอเทส เป็นพราน'ล่าอสูร' แล้วเจ้าล่ะ? "  

    .....  หวังว่าเจ้านี่จะมีแรงตอบคำถามข้านะ...  เอเทสคิดในใจ นึกถึงอาการมากมายที่แสดงออกมาเมื่อสองคืนแรกที่ถูกธนูดอกนี้ปักเข้าที่ไหล่ซ้ายทะลุออกมาอีกด้าน  ทุกอย่างที่ชาวบ้านกล่าวขวัญและซากศพที่เคยพบเจอนั้นกลับตาลปัดไปหมด....  
    ความโหดร้ายทารุณนั้น...เขาสัมผัสถึงมันไม่ได้เอาเสียเลย...  

        กระทั่งร่างนั้นเปลี่ยนเป็นหงส์ดำอย่างไม่คาดคิด...นั่นคือสาเหตุของเชือกอาคมที่เขาขึงเจ้านี่เอาไว้...



       "อ...อิล...ข้า...ชื่ออิล..อั่ก!! "

        ก่อนจะได้กล่าวอะไร  เลือดสีคล้ำมากมายก็พุ่งทะลุออกจากปากของอิลเสียก่อน  พรานหนุ่มตกใจ รุดเข้ามาหาร่างโปร่งกพร้อมกับแก้วน้ำในมือ    

      "ใจเย็นๆอิล  ตอนนี้ข้ากำลังใส่เวทย์ที่กำจัดพลังนางแม่มดผ่านไฟที่จุดบนปากแผลของเจ้าอยู่.. อาจจะทรมานนัก  แต่เพื่อชีวิตของเจ้าเอง "

      "ท่าน..ใยถึงไม่ฆ่าข้า?  "


    "ข้ากำจัดเจ้า.. ก็เท่ากับว่ากำจัดบุรุษที่ตกเป็นเหยื่อนางแม่มด...สู้มากำจัดมนต์ของนางมิดีกว่าหรือ? "

       เอเทสยิ้มอ่อน... ทั้งที่ยังมิได้ลืมตาขึ้นมาดูว่าคนที่ยิงลูกธนูใส่ตนนั้นรูปหน้าค่าตาเป็นเช่นไร แต่เจ้าหมอนี่ก็ยังพูดจาด้วยความอ่อนน้อม ไร้ความประจบประแจง หรือแม้แต่หวาดกลัวด้วยซ้ำ...

       น่าเศร้าใจจริงๆที่ข้าเคยเกลียดชังเจ้า ตามที่ชาวบ้านกล่าวหา..


    "ชดใช้ที่ข้ายิงธนูใส่เจ้า   ทั้งยังคอยควบคุมว่าพลังของนางแม่มดนั้นสลายไปจริงๆ  "


    "ข้าเลยจะมาอาศัยกับเจ้าชั่วคราว "


       
    ...........



       ....ข้าไม่เข้าใจ...


       ข้าสมควรที่จะถูกปฏิบัติด้วยเช่นนี้จริงๆนะหรือ?....   

         ข้าสมควรที่จะถูกช่วยเหลือเยี่ยงนี้จริงๆหรือ?

    ....ข้า....หงส์ดำที่เคยฆ่าชีวิตมากมายด้วยความโหดร้าย...  

            .....ข้ารังเกียจตนเองยิ่งนัก....


       "ทำสีหน้าเช่นนั้น  เจ้ายังมีเรื่องอันใดค้างคาใจอีกรึ? "

       ข้ามิสามารถตอบเขาออกไปได้ว่าตอนนี้ข้านั้นรู้สึกผิดต่อมวลชีวิตทั้งหลายที่เคยสังเวยต่อข้า... แม้นตอนนี้ข้าจะกำลังหลุดพ้นจากพันธะของแม่มดดำ...  แต่ตราบาปก็ยังคงติดตัวข้าไปจนตาย...

      ทุกคืนที่ต้องฝันถึงดวงวิญญาณที่ร้องโหยหวน...  พวกเขามักจะมาขอชีวิตคืนจากข้า....ต่อให้ข้าชดใช้ด้วยชีวิต...มันก็มิอาจทดแทนทุกอย่าง....

      ปุ่บ!  

    "เจ้าคิดมากไปแล้วอิล... ตอนนี้เจ้าคือมนุษย์ผู้หนึ่ง... เพียงมนุษย์ธรรมดาๆ...จงลืมเรื่องราวในอดีตซะ ก่อนที่ข้าจะกังวลใจไปกับเจ้า "


    ...พรานเอเทส....

      พรานหนุ่มที่เป็นสหายคนแรกของร่างโปร่ง..ทุกอย่างที่เขาทำล้วนคำนึงถึงอิลเสมอ..ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ... จิตใจของอิลถือเป็นเรื่องสำคัญที่เขามักจะถนุถนอมอย่างถึงที่สุด   

      แม้ในเวลานี้..การอยู่ร่วมกันเกือบเดือนของเขากับอดีตปีศาจร้ายจะเป็นไปด้วยดี..แต่สีหน้าท่าทางที่แสดงออกมาของอิล  มักจะเจือปนความโศกเศร้าเอาไว้เสมอ...


      "ไปกินข้าวกัน "


      "ชีวิตของข้า...มีแต่กินกับนั่งเฉยๆแบบนี้ตั้งแต่ท่านเข้ามา.." 

       รู้สึกละอายใจยิ่งนัก....


       มือหนาวางลงบนกลุ่มผมสีดำขลับ จากที่เคยสากมือกลับเริ่มลื่นและนุ่มขึ้นมาหลังจากที่เขาทำการถอนมนต์ออกจากกายของชายหนุ่ม   ถึงพิธีกรรมจะทรมานแสนลำบาก แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยดี...  แต่ตอนนี้เหลือเพียงจิตใจ...จิตใจที่บอบบางของชายผู้นี้...

      "เจ้าชอบคิดอะไรไม่เป็นเรื่อง..ฟังนะอิล.. ที่ข้าดูแลเจ้า เพราะเจ้าไม่ได้โหดร้าย บาปนั้นคืออดีต ตอนนี้คือปัจจุบัน  "

      "อย่านำเรื่องในอดีตมาคิดให้รกสมอง เพราะยังไงก็กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว...ท่านพูดกับข้ามาตลอดหนึ่งเดือนเลยนะ "  


    " หึ..จำได้แต่ไม่เคยปฏิบัติ  เช่นนี้ข้าควรจะอยู่ดูแลเจ้าต่อดีไหมฮึ? ดื้อด้านเสียจริง "


        อิลตีสิหน้านิ่ง  ในอกรู้สึกแปล้บขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ เขาชอนสายตามองใบหน้ายิ้มแย้มของเอเทสด้วยความเฉยชา  
         นับแต่การอยู่ด้วยกันร่วมเดือน เขาที่เคยชินกับการอยู่คนเดียวคอยช่วยเหลือตนเองเสมอต้องมีสิ่งมีชีวิตที่เคยยิงดอกธนูใส่และช่วยให้เขารอดชีวิตกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้งมาอาศัยร่วมชายคา  ... 

      ความเคยชิน...  กับเสียงหัวเราะ รอยยิ้มแสนอบอุ่นและการดูแลของพรานผู้นี้... 

       มันกำลังทำให้เคยตัว...

       จนคิดไม่ออกว่าหากเขาไป...อิลจะกลับมาเป็นหงส์ดำอย่างที่เคยหรือไม่...


      "เป็นอะไรไป?  กินข้าวเถอะ วันนี้ข้าได้กระต่ายป่ามาทำสตูว์ด้วยนะ "

       รอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนนี่....

       ....ข้าเก็บมันเอาไว้แค่กับข้าผู้เดียวได้ไหม?..


    "อืม.."

    ...คงไม่ได้สินะ...ท่านเอเทส..



    ..........


    'ท่านนายพรานหายตัวไป...ไปร่วมเดือนแล้วนะ!! ป่านนี้คงถูกไอ้ตัวประหลาดนั่นจับไปกินแล้วแน่ๆ ฮือ!!  ไม่ได้การ ข้าต้องไปตามหาอาจารย์ข้า!!! ...ต่อให้ต้องฆ่ามันก็ตาม!'

         ชายหนุ่มร่างเล็กลั่นวาจาในใจ สองมือควานหาอุปกรณ์ทุกอย่างที่สามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายตนนั้นได้..  เพื่ออาจารย์เขายอมทำทุกอย่าง...  

       จักต้องฆ่ามัน...แลกด้วยชีวิตของเขาเองก็จะยอม!



         สองขาก้าวเดินออกไปจากกระท่อมใกล้หมู่บ้าน...  ศิษย์หนุ่มน้อยรังเกลียดพวกชาวบ้านพอๆกับเจ้าปีศาจนั่น...  พวกที่มอบภาระอันใหญ่หลวงให้กับท่านอาจารย์... พวกมันเห็นแก่ตัว...

       เขากัดฟันกรอด...  กดความเคียดแค้นเอาไว้ในอก ท่านอาจารย์มักจะคอยเตือนเสมอว่าพวกชาวบ้านคือมนุษย์ร่วมโลก.. ต่อให้พวกมันน่ารังเกียจแค่ไหนก็ต้องช่วยเหลือกันไว้...  
       
       ท่านอาจารย์..ท่านจะรู้หรือไม่...ว่าพวกมันไม่เคยคิดที่จะช่วยท่านเลย....



    'ใครจะไปช่วยนายพรานกับข้าบ้าง? ' 

    ' อะไรนะ? ท่านนายพรานถูกจับตัวไปงั้นรึ!  แบบนี้คงไม่รอดแล้วแน่ๆ ' 

    'ใช่แล้ว ขนาดพรานที่เก่งกาจยังถูกไอ้ปีศาจนั่นจับได้ พวกเราคงไม่ไหวหรอกนะเจ้าหนู! '  

    'ใยพวกท่านกล่าวเช่นนี้! นายพรานเคยช่วยพวกท่านไว้มากมายเท่าไหร่เคยสำนึกบ้างไหม?!'   

    'เหอะ!..พวกข้าขอความช่วยเหลือจากเขา..แต่มิได้บังคับขู่เข็ญ เจ้านั่นก็ช่วยพวกข้าเองมิใช่รึ?'   

      'ท่าน!.พวกท่านมันเห็นแก่ตัว ' 

      'เจ้าจะพูดเช่นนั้นก็ไม่ถูก ..ป่านนี้นายพรานคงถูกกินไปแล้วกระมัง หึหึหึ  ไม่แน่นายของเจ้าอาจจะสละชีวิตตายไปกับไอ้สัตว์นรกนั่นแล้วก็ได้  เจ้าไม่ดีใจหรอกรึที่ไม่มีสัตว์นั่นแล้วแถมนายเจ้ายังเป็นผู้กล้าอีกด้วย '

    'เจ้า!'

        ผวั้ะ!!



    .... หนุ่มน้อยเหงื่อตก...ใบหน้าเจ็บแปล้บๆขึ้นมาเมื่อนึกสภาพที่ตนถูกรุมกระทืบ...ไอ้พวกผู้ใหญ่น่ารังเกียจ  เขาอยากใช้ไม้หน้าสามหวดพวกมันให้เดี้ยงไปเลยแต่ติดตรงที่เขานั้นสู้ไม่ได้..

      ท่านอาจารย์ รอข้าก่อนนะ ข้าจะไปหาท่านแล้วพาท่านกลับมาหลอกหลอนพวกมัน----  ท่านคงไม่เอากับข้าหรอก....เหอะๆ


    .....................


    "อิล  คืนนี้ข้าต้องออกไปล่าสัตว์ เจ้าอยู่ที่นี่ทำตัวดีๆล่ะ "

      "นี่บ้านข้า..."

       เอเทสยิ้ม..  ใบหน้าที่ติดจะหงุดหงิดหน่อยๆของอิล
    นั้นทำให้เขายิ้มออกมาได้...  

    เพราะ....มันน่าเอ็นดู...น่าเอ็นดูจนอยากดึงเข้ามาฟัดสักฟอด แต่ติดตรงที่ว่า เขา...เป็นผู้ชาย

       แล้วก็ใช่ว่าเด็กนี่มันจะงดงามปานดอกไม้งามเหมือนในเมืองไม่... เขาก็แค่บุรุษร่างสูงโปร่งมีเสน่ห์ดึงดูดทั้งเพศตรงข้ามและ..เพศเดียวกัน..

    "เอาเถอะ.. ยังไงก็นอนไปซะ ไม่ต้องรอข้า แล้วก็---- ห้ามครุ่นคิดในแง่ลบอีกเด็ดขาด"

    "...."

       อิลไม่ตอบ  แต่กลับเหยียดยิ้มยะเยือก

    พรานหนุ่มอดเป็นห่วงไม่ได้เมื่อได้เห็นรอยยิ้มนั่น... ในอกรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาฉับพลัน...ทั้งที่ไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน.. 

    แต่วันนี้มันเหมือนมีบางอย่าง...เหมือนจะเกิดบางอย่างขึ้น...บางอย่างที่น่าหดหู่ใจ...

    ..เขาสบัดหัวไล่ความคิดนั้นออกจากหัว  ทั้งที่บอกกับอิลนักหนาว่าให้คิดในแง่บวกเอาไว้ แต่ตนดันไม่ทำอย่างที่สั่งสอนคนอื่นเสียนี่..

    "ข้า...ข้าไปนะแล้วทำตัวดีๆล่ะ " 

       "อืม.." 


          ร่างโปร่งโบกมือไปมาด้วยรอยยิ้ม...นัยตาสีดำวาวโรจขึ้นมาเพียงเสี้ยววินาที หันขวับไปทางห้องครัวด้วยสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปเป็นอีกฝั่งจากความสดใส...

          รอยยิ้มแพรวพราวประดับขึ้นมาจางๆ...พาลให้คนมองขนลุกซู่ไปทั่วกาย...

      "เจ้าจะมานำเขากลับไปใช่ไหม?... "   

      สองขาก้าวไปหาสิ่งมีชีวิตที่เป็นเงาตะคุ้มแอบอยู่ด้านหลังถังน้ำขนาดไม่ใหญ่นัก.. ร่างโปร่งย่างกรายช้าๆอย่างใจเย็น ในขณะผู้ที่หลบอยู่นั้น...สั่นสะท้าน...

       หากการได้พบว่านายท่านของตนยังมีลมหายใจอยู่นั้นเป็นข่าวดี..  แต่สถานที่ที่เขาอาศัยอยู่นี่ไม่น่าพิศมัยเอาเสียเลย!!  ใยท่านต้องมาอาศัยร่วมกับเจ้าปีศาจตนนี้เล่า!! 

    ...หรือท่านถูกมันสะกดเอาไว้กัน?...  

        " เจ้าจะไม่กล่าวอะไรหน่อยหรือ?  เจ้าจะออกมาให้ข้าเห็นแบบมีชีวิตหรือให้ข้าเข้าไปลากเจ้าออกมา...แบบไม่มีลมหายใจ?"  เขาขู่

       "..จ..เจ้า  เจ้าทำ..ทำอะไรกับอาจารย์ข้า?! เจ้าสะกดเขารึกินดวงวิญญาณเขาแล้วใช่ไหม?!" 

      คิก...

    "เจ้านี่น่าขำนัก.. ข้าไม่รู้ว่าไปฟังเรื่องพวกนี้มาจากที่ใดหรอกนะ  แต่เจ้าคิดว่าข้าจะทำไปเพื่ออะไรกันเล่า?  ทาสเหรอ? หรือว่าเอาไว้กิน? "

      อิลหัวเราะน้อยๆ  รู้สึกเจ็บใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อมีคนกล่าวหาตนในแง่ที่เลวร้ายเกินจริงมากไป...  หรือไม่มันอาจจะจริง...?  

       "ก..ก็ช่างสิ! ข้ารู้ก็แล้วกัน  เจ้าน่ะปล่อยอาจารย์ของข้าซะ ไม่เช่นนั้นเจ้าถูกข้าเชือดแน่ๆ "     เขามุ่งมั่นด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว

       "หึ..จริงเหรอ? "    อิลตีหน้าขรึม ย่างสามขุมไปหวังจะกดดันให้ขวัญเด็กน้อยคนนี้ฝ่อแล้วกลับบ้านไปเสีย แต่ไม่ทันไร ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง

    "นั่นเจ้ากำลังจะทำอะไร?" 

      กะแล้ว...ต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ...อิลนะอิล ถ้าข้าไม่รีบกลับมา เจ้าจะมิพลั้งมือฆ่าคนเชียวหรือ?! 

        เอเทสตรงเข้ามากระชากแขนผอมให้ห่างจากศิษย์ของตน จนร่างโปร่งเซมาตามแรงกระชาก    
      เอเทสเหลือบมองคนในวงแขน ก่อนจะมองไปที่ผู้มาเยือน  ใบหน้าของเด็กที่เคยอาศัยร่วมกันมานับสองปีกำลังตื่นตระหนก ริมฝีปากสั่นเทิ้มราวกับมองเห็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่  สายตาที่ทิ่มตรงมายังอิลทำให้เขาพอจะเดาออกว่าศิษย์กำลังกลัวอะไร

    "ไม่ต้องกลัวไปหรอก'เกรน' ชายผู้นี้ไม่ใช่ หงส์ดำและจะไม่ใช่อีกต่อไป " 

        อิลเงยหน้าขึ้นมองนายพรานอย่างสับสน  ความใจดีที่ส่งมอบผ่านสัมผัสทางร่างกายทำให้รู้สึกหนาวเยือกไปทั้งกาย... เขาเกลียดตนเองที่มัวแต่มองโลกในด้านมืด  และเกลียดพรานหนุ่มที่เอาแต่มองผู้อื่นด้วยความใจดี...

    ..เขาจะถูกใช้ความใจดีนี้อย่างเลือดเย็น....

    ...พวกมนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่งดงามอย่างที่คิด...


      "ไอ้พวกชาวบ้าน.. กล่าวว่าท่านอาจถูกครอบงำ"    

       "เจ้าคิดว่าไงล่ะ?"   เอเทสเดินเข้าไปเหยียดกายอยู่เบื้องหน้าเกรน  เขาจ้องสีหน้ากวนๆของอาจารย์ด้วยสีหน้าสับสน  อยากหัวเราะทั้งร้องไห้ที่รู้สึกว่าคนๆนี้คืออาจารย์ของเขาจริงๆ แต่อีกนัย เขากลับกังวลว่าอาจารย์ผู้นี้จะแก่กล้าและแยบยลขึ้นเมื่อถูกครอบงำ... อาจจะเข้าข้างเจ้าปีศาจนี่อยู่...และต้องการเขาเป็นพวกพ้อง? 

    "  งี่เง่า  "     อิลเอ่ยขึ้น เพราะสีหน้าท่าทางการสลับสายตาไปมาระหว่างเขากับเอเทสนั้นเสียมารยาทสิ้นดี  ใครจะมองไม่ออกกันว่าเจ้านี่คิดอะไรอยู่?

    " เจ้าไม่มีสิทธิว่าข้านะ!  เจ้าเองไม่ใช่หรือไงที่ทำให้ข้าสับสนน่ะ! " 

    "เอาน่า..เกรน เจ้าคิดว่าข้าไร้ฝีมือขนาดนั้น?ถึงข้าแพ้ข้าก็เชื่อว่าเขาไม่ทำอย่างที่เจ้าคิดหรอก "  

    "ดูท่านเชื่อใจเขา...มาก "     เกรนจับผิด  ยิ่งเห็นว่าอาจารย์ผู้ใจบุญกับคนทั่วไปแต่ไม่ใช่กับอมนุษย์แล้ว...ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมเข้าข้างเจ้าคนๆนี้... มันแปลกมาก....  

      "ท่านรู้ได้ยังไง..ถ้าไม่ใช่ว่าท่านถูกมันครอบงำไปแล้ว...ว้ากกกก!!! ไม่คิดแล้วปวดสมองเฟร้ย!! "

       เอเทสส่ายศรีษะด้วยความระอา  กะอยู่แล้วว่าเจ้าคนพรรนี้คงไม่คิดอะไรให้รกสมองนานเกินสามชั่วโมงหรอก  นี้คงตามหาเขาได้หลายวันเลยสิท่าถึงได้มีสภาพเละเทะจนเสื้อผ้าขาดวิ่นขนาดนี้...ให้ตาย 

      "รอตรงนี้นะ ข้าจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้แล้วอ่าบน้ำเข้านอนซะ!...พวกเจ้าทั้งสองคน!"  

    " เอ๋! ให้ข้ารอกับเจ้าปีศาจนี่เนี่ยนะ!?"   เกรนร้องขึ้น  

    "เจ้ามีปัญหาอะไรกับข้ารึไง? "   อิลที่ถูกกล่าวถึงเหยียดสายตาลงมามองผู้ที่ตัวเล็กกว่า  สำหรับเขาเจ้านี่ถือว่าเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคย...แต่หากเป็นคนรู้จักของเอเทสแล้วเขาจะไม่กระทำอะไรให้เอเทสผิดหวัง...

    นอกเสียจาก....มันจะพาเอเทสไปจากเขา!  

    "ป..เปล่า"    ...ไอ้เจ้านี่มันน่ากลัว...ทำไมท่านอาจารย์ต้องมาอยู่กับมันด้วยฟร้ะ!

       เกรนโอดครวญ อยากกระชากหัวตัวเองให้ไปอยู่ที่อื่นจะได้ไม่ต้องมาเห็นหน้าเจ้านี่ แม้มันจะหน้าตาของมันจะรูปงามอย่างที่เคยได้ยิน แต่รังสีความน่าสะพรึงนั้น..แทบไม่อยากเอ่ย...

    .
    .
    .
          อยู่ด้วยกันมาเกือบอาทิตย์....  เจ้าปีศาจนี่มันแค่มนุษย์หน้าตาดีรูปร่างงามสมชายพอมีกล้ามนิดๆไม่หวือหวาแถมนิสัยนั้นไม่ต้องกล่าวถึงเพราะมันสุดแสนจะสุภาพบุรุษอีกทั้งยังพูดน้อยไม่น่ารำคาญ  แต่ติดที่ทำอะไรไม่ค่อยจะเป็นเท่านั้นแหละ!  ยังดีที่มันมาเรียนรู้นะเนี่ย!   

      โอ้ะ..ลืมบอกไป...สิ่งที่แปลกและทำให้เกรนผู้นี้แทบลมจับที่สุดก็คือ...

      เสียงคราง....  

    ใช่แล้ว... เสียงคราง..ครางแบบที่หนุ่มสาวเขาทำกันนั่นแหละ!!โอ้แม่เจ้าโว้ย  เกรนจะไม่ว่ากระไรเลยถ้าไม่มีเสียงของท่านอาจารย์สุดรักเล็ดลอดออกมาด้วย!!  พวกเขาทำเรื่องบัดสีอะไรกัน?!

      "เจ้าทำหน้าอย่างกับปวดหนัก.. นั่นห้องน้ำไปสิข้าทนเห็นหน้าสยดสยองของเจ้าไม่ไหวจริงๆ "    

       ไอ้ที่เคยบอกว่ามันพูดสุภาพนั้นเขาโกหก...

      " ไม่หรอก..ข้าแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย "   โอยๆอยากเชือดคอตัวเองตายๆไปซะ คิดถูกหรือผิดกันนี่ที่มาอยู่
    เป็นก้างเจ้าสองคนนี้เนี่ย..ไม่ต้องเอาอะไรมาฉุดท่านอาจารย์แล้วล่ะ  ถ้าขนาดนี้นี่มันอยู่กินฉันท์สามีภริยากันแล้ว!!   

      "ว่าไงอิล..เหนื่อยไหม พักก่อนสิเดี๋ยวข้ารินน้ำให้ "   

    ถถถถถถ.ท่านพ่อเทพบุตร.. ตอนนี้ท่านปีศาจนี่แค่แกะเปลือกถั่วเตรียมปลูกเท่านั้นนะคร้าบบ หาได้ไปขุดเจาะแผ่นผืนพสุธาแบบท่านไม่!   

      "ไม่หรอก..ข้าว่าสนุกดี"

    ..อืม...ดีขอรับท่านผู้เจริญ...เชิญพวกท่านจู๋จี๋กันต่อไปเถอะ ให้ตายยังไงข้าก็จะอยู่เป็นก้างเป็นสัมภเวสีเป็นผีเป็นมารขัดหูขัดตาพวกท่านจนจากที่ไร้ยางอายให้กลายเป็นฝาบ้านเสียเลย!!   ฮึ่ยย!  

      "เกรน  เจ้าอยู่นี่มานาน ไม่คิดจะกลับบ้างรึ "   ท่านตั้งใจจะไล่ข้าใช่ไหม?ไม่มีทาง!!

      "ท่านอาจารย์  ข้าอยากจะรับใช้ท่านอยู่นา..ว่าแต่ท่านเถอะ เมื่อไหร่จะกลับไปที่บ้านท่านสะกทีล่ะToT"

      คิดมาก็น้ำตาจิไหล หมั่นไส้ไอ้ปีศาจนี่จริงๆที่กอบกุมทั้งหัวใจของอาจารย์เขาได้ทั้งดวงในขณะที่เขาถูกถามอยู่ทุกกกกวันว่าจะกลับเมื่อไหร่...โอย...

    เขาล่ะเกลียดมันในจุดๆนี้จริงๆ..

    "คิดว่าข้าจะกลับ?"     

    "ท่านอาจารย์!  กระผมอยากกลับบบบ"   เกรนโอดโอยไถลเกาะลำแข้งของพรานหนุ่มลงช้าๆด้วยท่าทีน่าแขยง

    " พอเถอะ ข้ารู้ว่าเจ้า ไม่ได้อยากให้ข้ากลับไป"

    "เอ้า! ไหงงั้นล่ะขอรับ ข้ารักอาจารย์จะตายถ้าไม่อยากให้กลับไปแล้วจะให้ท่านอยู่อย่างลำบากเช่นนี้เหรอ  สุ้ไปที่หมู่บ้านที่มีอะไรมากมายให้เสพไม่ดีกว่าเหรอครับบ"   

    " เคยเห็นข้าเสพของพรรค์นั้นรึไร?  เกรน เจ้าแค่อยากให้ข้ากลับไปกูศักดิ์ศรีที่ชาวบ้านกล่าวหา...ข้าขอบใจแต่ไม่ใช่ว่าข้าจะไปที่นั่นอีก "

    "เจ้ารู้ว่าข้าไม่จำเป็นต่อพวกเขา...ในเมื่อข้าอยู่ที่นี่ในป่าแห่งนี้  ข้าสามารถกำจัดอมนุษย์ได้ไวกว่ารอให้พวกมันลงไปที่หมุ่บ้านมิใช่หรือ? "   

    "ข้า...ขอรับ "      

        เอเทสยิ้มรับลูกศิษย์คนเดียวที่ซื่อสัตว์เสียยิ่งกว่าน้องชายที่คลานตามกันมา  เขารู้ว่าเกรนไม่ใช่พวกเข้าใจอะไรยาก  แต่ทว่าความหัวรั้นที่มีมากเกินไปนั้นอาจจะทำให้เขาดูเป็นพวกที่น่ารำคาญไปเสียหน่อย  

      ฝ่ามือใหญ่วางแปะลงที่กลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนแล้วขยี้เบาๆด้วยความเอ็นดู  เกรนหลับตาปี๋ ในใจนึกถึงคำพูดของคนตรงหน้าด้วยความไตร่ตรองและซาบซึ้ง  หากเขาคิดได้เร็วกว่านี้... 

    คงไม่ต้องมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ตั้งหลายวัน!  

    "อาจารย์... ข้าตัดสินใจแล้ว ขอบคุณท่านมาก ข้าจะเข้าในเมืองแล้วไปเรียนหนังสือ! ข้าจะเป็นครูที่คอยสอนเด็กๆให้เป็นคนดีและไม่เห็นแก่ตัว!!!"    

       ยังเจ็บใจจากพวกชาวบ้านไม่หายสินะ....   

    "ดีแล้วๆ คราวนี้ก็อย่าวู่วามอีกล่ะ คิดให้ดีๆอย่าพูดมาก เดี๋ยวก็ถูกรุมกระทืบอีกหรอก "   

    เอเทสเอ่ยแซว  ใบหน้าของเกรนแดงเป็นตำลึง นึกอายขึ้นมาเอาเสียดื้อๆเมื่อย้อนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์ที่ตนเข้าไปต่อยหน้าชายคนหนึ่งที่ยืนกล่าวว่าให้อาจารย์ของตนด้วยท่าทีไม่ทุกข์ร้อน   จนตัวเขาเองที่ถูกรุมกระทืบเพราะลืมไปว่าตนนั้นไม่มีพรรคพวกสักกะคน 
    ยังไปซ่าได้อีก...

      "ชิ!  คนพวกนั้นนิสัยไม่ดีจริงๆ "   

    "เจ้าก็ว่าได้นะ...เจ้าเป็นศิษย์ข้า แล้วข้าก็คอยปกป้องชาวบ้าน  ไปกล่าวว่าพวกเขาเช่นนั้นยังกล้ามาเป็นศิษย์นายพรานอีกนะ "   

    ".....ข้าขออภัยขอรับ"    แก้มป่องๆนั้นน่ารักน่าชังน่าตบน่าตี  แต่ตอนนี้สิ่งที่เอเทสควรกระทำหาใช่สิ่งนั้นไม่  เพราะตอนนี้คนที่ขโมยหัวใจของเขากำลังกำมือตัวเองที่ชุ่มไปด้วยเลือดเนี่ยสิ!!   

    โธ่เอ้ย!  ถึงจะมีเวทย์ดำหลงเหลืออยู่ในกายบ้าง แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่กำลังเข้าสู่การเป็นมนุษย์อย่างเต็มตัวมิใช่รึ!!

    ใยเจ้าถึงทำให้กายบาดเจ็บเช่นนั้นเล่า!!!  

      "อิล ห้ามแตะอะไรทั้งนั้น อยู่นิ่งๆแล้วรอข้าตรงนี้   เกรนเจ้าช่วยมาคุมเจ้านี่ที"   

    เห็นว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะเข้าหน่อย แต่ถึงกับให้มาเลี้ยงเด็กทั้งสองคนนี้นี่มันไม่ปวดหัวไปหน่อยหรอ?!  

        เอเทสวิ่งวุ่นไปหาผ้าและน้ำอุ่นเพื่อมาล้างแผลโดยทิ้งให้เด็กต่างวัยทั้งสองนั่งด้วยกันโดยมีคนหนึ่งคอยคุมส่วนอีกคนนั่งนิ่งเป็นอากาศไร้ความรู้สึกไปเสีย

    "  เจ้าคิดว่าข้าเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรือ? "   จู่ๆอิลก็ถามขึ้นท่ามกลางความอึดอัดของเด็กหนุ่มวัย16ที่ยืนเหงื่อแตกพลั่กๆ ไม่กล้าคุมเชิงอย่างที่พรานหนุ่มสั่งได้  

    "กะ...ก็..ก็ไม่นี่  ฮะๆ...ไม่หรอก "    แหลได้แหลไปก่อน  เกิดเจ้าปีศาจนี่ฉุนขาดขึ้นมาเขามิถูกมันเชือดเลยเราะ  ยิ่งมีดอยู่ใกล้ๆมันด้วย  

       "หึ...งั้นเหรอ "      อิลยิ้มเยาะด้วยสีหน้าเฉยชา  ทอดสายตามองไปข้างหน้าด้วยความเหนื่อยอ่อน ในสายตาของเกรนแล้ว...เวลานี้คนๆนี้หาใช่ปีศาจอย่างที่เคยได้ยินไม่... คนๆนี้เปลี่ยนไปมากเมื่อเทียบกับคราแรกที่พบกัน..เขาอ่อนโยนลง...แม้จะกวนประสาทไปบ้าง  แต่ท่าทีที่เคยแข็งกร้าว  กำลังลดเกาะกำแพงลง...

    "บางที...เจ้าอาจจะไม่ใช่ปีศาจแล้วก็ได้... "     เกรนเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ  เก็กหนุ่มถอนหายใจเสียงดังก่อนจะใช้มือเกาท้ายทอยและเดินไปในบ้านหลังเล็กที่ถูกต่อเติมโดยพรานหนุ่มและ(อดีต)ปีศาจร้าย  เขาเตรียมจะเดินทางในอีกไม่ช้า   ไม่อยากเสียเวลาอีกแล้ว หากเมื่อใดได้ตอบแทน เขาจะทำทุกอย่าง 

    จะไม่จากไปและไม่ละทิ้ง... เขาเกลียดคนอย่างพวกนั้น... เพราะงั้น..ขอประกาศตรงนี้ว่าข้าไม่ละทิ้งท่านอาจารย์!!


       อิลมองแผ่นหลังบางด้วยใบหน้าเปื้อนความสุขอย่างที่ไม่เคยมอบให้ผู้ใดนอกจากเอเทส  แต่บัดนี้ เขากำลังเอ็นดูเด็กที่ปากเสียและโผงผางคนนั้น...

    "...ข้าก็คิดเช่นนั้น...ขอบใจนะ  น้องชาย "

         หากคำๆนั้นที่ออกมาจากปากทำให้เด็กหนุ่มนามว่าเกรนได้ยิน เขาอาจจะไม่อยากกลับไปเรียนหนังสือเลยก็ได้...

      เอเทสที่แอบมองทั้งสองได้แต่ยิ้มอ่อน  นึกไม่ถึงว่าตนจะสามารถเปลี่ยนปีศาจให้กลายเป็นมนุษย์ได้จริงๆ  แถมยังเป็นมนุษย์ที่แสนจะน่ารักเสียด้วย  มิเช่นนั้นเจ้านี่จะฉุดกัวใจของเขาไปได้อย่างไรล่ะ!ถ้าไม่น่ารักน่าฟัดขนาดนี้!!  

    "  อิล  โทษฐานที่เจ้าทำให้ตัวเองบาดเจ็บ  คืนนี้เจ้าต้องถูกข้าทำโทษนะ เตรียมใจไว้ให้ดี"    
      เอเทสเดินออกจากมุมของบ้านช้าๆ  โอบลำแขนรอบคอขาวแล้วโน้มใบหน้าลงกระซิบเบาๆ  ตามด้วยเรียวลิ้นอุ่นร้อนที่ลากชิมต้นคอหอมหวานลงมาถึงกระดูกไหปลาร้าพร้อมกับขบเขี้ยวลงบนผิวเนียนอย่างหมั่นเขี้ยว

    จากนี้และตลอดไป จะไม่ให้ใครมาแตะต้องเจ้า จะไม่มีผู้ใดมาทำร้ายจิตใจเจ้า...  เอเทสคนนี้ขอเอาชีวีเป็นประกัน ข้าจะปกป้องเจ้าไปตราบชั่วนิรันด์  จนกว่าชีวิตจะหาไม่..

      "ข้ารักเจ้า.... อิล" 

    .
    .
    .
    .    
                                      The  End 



    เรื่องส้านนนนาาาาาจาาาาาาาาาา คึๆ งงไปเป็นแถบบบบบบบ  (กุเนี่ยงงง )=___=  

    แต่ๆ...แต่ว่า..เค้าตั้งใจฝุดๆนะฮิๆ   

    ลองเม้นดูอยากรู้ว่าเนื้อเรื่องเห้แค่ไหนในสายตาคุณผู้อ่าน55555 //หยิบปืนเล็งไปตรงหน้า  (อุ้บส์เผลอ^0^)

    ปล.ตัดจบได้บัดซบมากกก
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×