This...Love? - This...Love? นิยาย This...Love? : Dek-D.com - Writer

    ผู้เข้าชมรวม

    1,414

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    1.41K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    31
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 ม.ค. 62 / 14:33 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ShortFic Fate Prototype 

     Gilgamesh(Proto)x Arthur


    #ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักแต่อย่างใด!!

    #แค่แต่งสนองนีทเฉยๆเพราะเมากาว!!

    #นิสัยตัวละครอาจเปลี่ยนไปตามความคิดของนักเขียนแต่จะพยายามอิงนิสัยเดิมไว้!!

    #เรื่องนี้อาเธอร์เคะ!!ตู้ทอง(โปรโต)เมะ!! รับไม่ได้กดออกเลยจ้า!!

    #เตือนแล้วนะ ถ้าพร้อมแล้วอ่านโลด!! Let’s go!!

       


    เวลา 12:34 น.


          ณ ร้านฟาสฟู้ดแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มผมทอง นัยน์ตาสีเขียวสดงดงามดั่งมรกตล้ำค่า ร่างกายแลดูบอบบางกว่าผู้ชายทั่วไปเล็กน้อยแต่ยังพอมีกล้ามเนื้ออยู่บ้างประปรายเนื่องจากในอดีตตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่นั้นเคยทำศึกสงครามกับชาวแซกซอนที่มาบุกรุกดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ เขาสวมเสื้อยืดคอกว้างแขนสามส่วนสีแดงกางเกงขายาวสีดำและเสื้อโค้ทตัวยาวสีดำกำลังนั่งไขว่ห้าง ใบหน้างดงามปานเทพธิดาบูดบึ้ง คิ้วเรียวสวยสีทองอร่ามเหมือนผมเจ้าตัวนั้นกระตุกถี่รัวตามอารมณ์โทสะที่พุ่งสูงขึ้น


          ถ้าถามว่าทำไมตนถึงได้มานั่งในร้านฟาสฟู้ดแบบนี้น่ะเหรอ? ก็จริงอยู่ที่ตอนนี้เป็นเวลากลางวันที่พนักงานในบริษัทต่างๆจะพักจากงานที่ตนทำอยู่มาผ่อนคลายหาอะไรเข้าท้องให้สำราญใจก่อนกลับไปทำหน้าที่ของตนอย่างเดิมมันก็ไม่แปลกหรอก


          แต่ทำไมเซอร์แวนท์อย่างเขาที่ไม่ได้เป็นพนักงานบริษัทที่ตัองหยุดพักงานมากินข้าวถึงต้องมานั่งอยู่ในร้านฟาสฟู้ดกับคนที่เขาเกลียดชังถึงขนาดอยากเสกดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ออกมาฟันให้ขาดเป็นสองท่อนน่ะเหรอ!! แถมไอ้คนที่เขาพูดถึงอยู่นี่ก็ทำหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรแถมยังเอาแต่จ้องมองเขาอย่างนี้ไม่ยอมสั่งอะไรมาทานมาเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงแล้วด้วย


         “เหตุใดเจ้าถึงเอาแต่จ้องหน้าข้ากันล่ะอาเชอร์? ทำไมถึงไม่สั่งอะไรมาทานเสียที จ้องข้าไปก็ไม่มีอาหารลอยออกมาให้เจ้าทานหรอกนะ” 

        

          ริมฝีปากบางสีชมพูสดเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองใจต่อชายหนุ่มผมสีทองที่ทองเสียยิ่งกว่าเขาที่เป็นชาวตะวันตกแท้ๆ นัยน์ตาสีโกเมนสดที่น่าหลงใหลแถมบางครั้งยังแสดงความเจ้าเล่ห์เหมือนงูพิษที่คิดเรื่องชั่วร้ายเอาไว้นั่นอีก ร่างกายกำยำสมชายชาตรีหากแต่ไม่ได้มากมายอะไรจนน่าเกลียด แสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มตรงหน้านั้นเป็นชายเจ้าสำอางที่ไม่ค่อยได้ออกกรำทำศึกอะไรมากมายเหมือนเขา

        

          แต่ก็ยังมีกล้ามเนื้อมากกว่าเขาที่ตลอดอายุขัยนั้นเอาแต่ตรากตรำทำศึกมาตลอดจนน่าอิจฉา


      “ อะไรกันผู้ใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์? ใยทำหน้าตาบูดบึ้งเช่นนั้นกัน? เดี๋ยวหน้าตาอันงดงามของเจ้าก็หมองหรอก รึราชาอัศวินเช่นเจ้าไม่พอใจที่จะทานอาหารถูกๆข้างทางแบบนี้กัน? ไม่เป็นไรๆ งั้นเราไปหาร้านอาหารที่หรูหราโอ่อ่าสมเกียรติของเราสองกันเถอะ แล้วหลังจากนั้น-“


       “ ไม่มีหลังจากนั้นอาเชอร์ ข้าไม่คิดจะไปไหนมาไหนกับเจ้าอีก รีบทานแล้วรีบไปกลับได้แล้ว อีกอย่างข้าไม่คิดจะเปลี่ยนร้านเพื่อให้เจ้ายื้อเวลาหรอกนะ หลังจากทานเสร็จแล้วข้าจะกลับไปหาอายา-“


       “ อะไรกันเซเบอร์? เจ้าเขินอายถึงขนาดที่ต้องหาข้ออ้างเพื่อหลบหน้าข้าเลยรึ? ช่างน่ารักอะไรเยี่ยงนี้ เช่นนั้นแล้วเรารีบสั่งอาหารมาทานแล้วไปเที่ยวเล่นกันเถอะ เจ้าจะได้ใช้เวลาทั้งวันในการทำตัวให้ชินกับข้ากิลกาเมซ ราชาแห่งราชันย์ผู้ที่ในอนาคตจะได้เป็นสามีของเจ้าอย่างไรเล่า ภรรยาที่น่ารักของข้า “


          นัยน์ตาสีแดงนั้นหดหรี่รงอย่างชั่วร้ายคล้ายกับนัยน์ตาของอสรพิษร้าย ใช่ ได้ยินไม่ผิดหรอกสาเหตุที่เขาไม่ชอบหน้าชายตรงหน้านั้นเพราะตั้งแต่เจอกันครั้งแรก ชายตรงหน้าก็ป่าวประกาศเสียงดังกึกก้องไปทั่วอาณาบริเวณว่าตนนั้น”หลงรักเขา”ที่พบเจอกันครั้งแรก ตอนนั้นเขาอึ้ง ทำอะไรไม่ถูก ตกใจกับสิ่งที่ได้ยินและไม่คิดว่าตนนั้นจะถูกสารภาพรักจากราชาแห่งราชันย์แบบนี้ หัวใจเขาเต้นดังสนั่นจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน ใบหน้าข้าเห่อร้อนแดงก่ำลามถึงใบหู


          เหมือนอย่างตอนนี้


         “ พะ พูดอะไรของเจ้าอาเชอร์! ถ้าคิดจะล้อเล่นล่ะก็ข้าไม่ตลกด้วยหรอกนะ! “


        “ ข้าไม่ได้ล้อเจ้าเล่นหรอกนะ ข้าอยากให้เจ้ามาเป็นมเหสีเคียงคู่ข้าจริงๆถึงได้ประกาศให้พวกชั้นต่ำนั่นสำเหนียกอย่างไรเล่าว่าเจ้าน่ะเป็นของข้า เอาล่ะ คำตอบล่ะ? หวังว่าคำตอบที่ได้จะทำให้ข้าชื่นใจนะ ที่รัก “


           ม่านตางูหดรัด จ้องมองเข้าไปในนัยน์ตาสีมรกตอันล้ำค่าราวกับจะเค้นหาคำตอบจากดวงตานั้นออกมาให้ได้

         

        “ ขะ ข้าไม่รู้หรอก!  จู่ๆมาถามแบบนี้ข้าจะไปตอบได้อย่างไรกันเล่า! ข้ากลับล่ะ!! “


          พูดจบร่างบางรีบลุกจากเก้าอี้หันหลังเตรียมตัวหนีทันทีด้วยความเขินอาย จู่ๆมาถามแบบนั้นใครจะไปกล้าตอบกันเล่า! น่าอายจะตาย แต่เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง เพราะหลังจากลุกขึ้นได้ไม่กี่วินาทีกลับโดนมือหนาคว้าเอวไว้พร้อมดึงให้ล้มลงมานั่งบนตักแกร่งของคนตรงหน้าโดยตนนั้นนั่งคร่อมอีกฝ่ายอยู่ ทำให้หน้าของทั้งสองนั้นอยู่ห่างกันเพียง15 เซนติเมตรเท่านั้น


         “ ใครอนุญาตให้เจ้าหนีไปจากข้ากัน เจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามข้าเลยนะ รึว่าเจ้าจะเขินกัน? โถ~~~ ช่างน่ารักน่าชังอะไรอย่างนี้นะ ข้าเข้าใจๆเมื่ออยู่ต่อหน้าข้ากิลกาเมซ ราชาแห่งราชันย์ ผู้เพรียบพร้อมทั้งหน้าตาทั้งฐานะแล้วเจ้าจะหลงใหลก็ไม่แปลกอันใดหรอก~~”


            ไอ้ความหลงตัวเองนี่มันอะไรกัน!? ไปความมั่นอกมั่นใจนี้มาจากไหนกันนะ!?


          “ ไอ้คนหลงตัวเอง! ทำไมข้าต้องเขินอายคนอย่างเจ้ากัน! อย่ามาเพ้อเจ้อนะ! ปล่อยข้าได้แล้วข้าจะกลับบ้าน!! “


          “ หืม? บ้านงั้นรึ? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!!! อะไรกันเซเบอร์!! นี่เจ้ากำลังเชิญชวนข้างั้นรึ!? น่าสนใจๆ ในเมื่อเจ้าเสนอมาข้าก็ไม่รังเกียจที่จะสนองเจ้าหรอกนะ เอาล่ะ กลับบ้านกันเถอะ “


          “ ห๊ะ!? นี่เจ้าพูดอะไรของเจ้าน่ะอาเชอร์! สนองอะไรข้าไม่เข้าใจ!? ข้าหมายถึงข้าจะกลับบ้านไปหาอายา-อุ๊บ! “


           ริมฝีปากหนาได้รูปประกบเข้ากับริมฝีปากบางสีสวยเป็นกระจับ ปิดปากคนช่างโววายด้วยปากตน ลิ้นร้อนกวาดหาความหวานบนริมฝีปากนุ่ม เข้าลัดเลาะตามไรฟัน กระหวัดเกี่ยวเรียวลิ้นเล็ก ดูดดุนอย่างชำนาญจนคนที่ไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้อย่างอาเธอร์ตามไม่ทัน

     

         “ อึก อื้ม ห๊า~~ หะ อื้มมม~~ อ่อยย~ “


            หายใจ.....ไม่ออก 


           มือบางระดมทุบอกแกร่งอย่างแรงเพื่อหวังให้อีกฝ่ายปล่อยตนที่ตอนนี้เริ่มขาดอากาศหายใจเข้าไปทุกทีจากการที่อีกฝ่ายจูบตนมาเป็นเวลานานพอสมควร 


          ” อึก! ห๊าา~~! แฮ่ก แฮ่ก! “


          ริมฝีปากถูกผละออกสายใยสีใสที่เชื่อมทั้งคู่นั้นถูกดึงแยกออกจากกันอาเธอร์รีบกอบโกยอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด ใบหน้าแดงก่ำลามถึงใบดู ริมฝีปากบวมเป่งเผยอออก น้ำลายไหลตรงมุมปาก ดวงตาหวามช้ำหยาดเยิ้มเต็มไปด้วยน้ำตาคลอหน่วง กิลกาเมซเลียริมฝีปากมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาอันหื่นกระหายจากส่วนลึกของจิตใจ 


           ช่างน่าแกล้งยิ่งนัก อยากจับอีกฝ่ายขังไว้กับตัวมิให้มันผู้ใดได้เห็นแล้วเล่นสนุกกับร่างกายงดงามนี้ อยากเห็นอีกฝ่ายน้ำตาคลอ


         “ หวาน ไม่คิดเลยนะว่าตัวเจ้านั้นจะหอมหวานน่ากินเช่นนี้ ข้าชักจะติดใจรสหวานจากปากเจ้าเสียแล้วสิ ขนาดปากเจ้ายังหวานขนาดนี้แล้วตัวเจ้าจะหวานขนาดไหนกันนะ มเหสีของข้า “


            ไม่ว่าเปล่ามือหนาเลื่อนจากเอวบางลงมาที่บริเวณสะโพกนิ่มแล้วออกแรงบีบมันอย่างแรงตามความปราถนาที่พุ่งสูง จนร่างบางสะดุ้งเฮือกด้วยความเจ็บปวดจากแรงบีบของอีกฝ่าย

        

            ผลัก!!


       “ นี่เจ้า ... อย่ามาลามปามทำตัวรุ่มร่ามใส่ข้านะ!! ปล่อยข้าได้แล้ว!! หัดอายสายตาคนรอบข้างเสียบ้างสิเจ้าคนไร้ยางอาย!! “


            หลังจากได้สติจากภวังค์พิศวาสนั่นแขนเรียวจัดการผลักอกคนตรงหน้าอย่างแรงจนแผ่นหลังของชายหนุ่มนั้นกระแทกเข้ากับพนักพิงอย่างแรง ปากบางที่บวมนั่นก็ด่าอีกฝ่ายกลับทันทีด้วยความอับอายที่โดนกิลกาเมซทำตัวรุ่มร่ามใส่กลางร้านอาหารที่มีผู้คนมากมายเช่นนี้ นี่ดีนะที่ที่พวกเขานั่งอยู่นั้นอยู่ด้านในสุดของร้านจึงไม่มีผู้คนสังเกตเห็น


            ไม่อย่างนั้นล่ะก็เขาคงไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหนดีให้หายอับอาย

           

         “ จากนี้จะทำอะไรต่อก็เรื่องของเจ้า!! จะสั่งอาหารมาทานรึไม่!! รึจะนอนตายอยู่ตรงนี้ก็เรื่องของเจ้า!!ข้าขอตัวล่ะ!! “


           พูดจบเจ้าตัวก็รีบลุกพรวดขึ้นจากตักอีกฝ่ายทันทีพร้อมออกตัววิ่งออกจากร้านสุดชีวิต โดยไม่คิดจะหันกลับมามองอีกฝ่ายซักนิด


           ใครจะไปสนใจคนพันธุ์นั้นกัน!!


           ทางด้านกิลกาเมซเองก็ไม่คิดจะวิ่งตามอีกฝ่ายไป แต่กลับจ้องมองแผ่นหลังบางนั้นวิ่งจนลับสายตาไปด้วยแววตาสนุกสนาน เขาฉีกยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์พลางลุกขึ้นจากโต๊ะไป สองขายาวพาตนออกจากร้านไป


           “ หึ แสบนักนะ!! ผลักข้าเสียแรงจนข้าเจ็บหลังไปหมด....แต่เพราะครองครองได้ยากนี่แหละจึงทำให้เจ้ายังคงงดงามอยู่ “


            


    คฤหาสน์ ซาโจ


         


            “ อายาก่าา~~ ข้ากลับมาแล้ว~~ เจ้าอยู่รึเปล่าา~~ “


           หลังจากวิ่งหนีกิลกาเมซออกมาจากร้านค้าได้สำเร็จชายหนุ่มนั้นรีบตรงดิ่งกลับคฤหาสน์ ซาโจ ทันทีตามที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้แต่แรก แต่พอกลับบ้านมากลับไม่พบมาสเตอร์ ซาโจ อายากะ เลยแม้แต่เงา แม้จะเดินหาจนทั่วบ้านแล้วก็ตาม


           ไปไหนของเขากันนะ?


          จะว่าไปแล้ว.....


           มือบางเลื่อนขึ้นมาสัมผัสที่ริมฝีปากอย่างแผ่วเบาสัมผัสร้อนรุ่มยังคงที่ติดอยู่บนริมฝีปากใบหน้างามแดงจัดเหมือนมะเขือเทศสุกยามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเที่ยงวันที่ผ่านมานี้ เปลือกตาบางปิดลงนึกถึงชายหนุ่มผมทอง ตาสีทับทิมสด ใบหน้าคมหล่อนั่นที่ได้ขโมยจูบแรกของเขาและขอเขาเป็นภรรยาของตน ยามส่งสายตาที่แสดงความรู้สึกบางอย่างผ่านดวงตานั่นถึงเขา


           เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกที่อีกฝ่ายนั้นส่งผ่านสายตามาคือความรักจริงๆรึเปล่า หรือแค่ความรู้สึกนึกสนุกที่ได้แกล้งเขากันแน่ เพราะชายคนนั้นเป็นคนที่ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด


           ชายคนนั้นอันตราย


           ตึกตักตึกตัก


          ใช่อันตราย


           อันตรายต่อหัวใจของเขาสุดๆไปเลยล่ะ


           อ่า...เหตุใดข้าต้องใจเต้นเพราะคนพันธุ์นั้นด้วยนะ?


           หรือว่าบางที.....ข้าอาจจะ.....ตกหลุมรักผู้ชายคนนั้นแล้วก็ได้


           ล่ะมั้ง....นะ?

    ————————————-@@@@@@@@@@@@@@@@@

    อ๊ากกกกกกก!!!!!!! เสร็จแล้วโว้ยยยยยย!!!!!

    หลังจากใช้เวลาแต่งเรื่องนี้เป็นเวลา 12วัน!

    อะแฮ่ม! ฮัลโหลหวัดดีนักอ่านทุกท่าน เรื่องนี้เป็รเรื่องที่3ที่เราแต่ง(จบแม่งแค่เรื่องเดียว!!)เรื่องอื่นแต่งไม่จบและลบไปแล้วเพราะตันต่อไม่ไหวแต่เรื่องนี้สั้นแต่งได้สบายบรื๋อออออ (หลบเกิบที่ลอยมา)

    เรื่องนี้เป็นคู่ กิลกาเมซx อาเธอร์ จาก เฟทโปรโตไทป์ทั้งคู่ เป็นแฟนฟิคค่ะ

    เราไม่เห็นใครแต่งคู่นี้เลยอะ รึแต่งแต่ไม่เจอ? มันมีคนจิ้นน้อยมากอ่ะค่ะ.ึ่งกรูก็เป็นอีส่วนน้อยนั่นเอง มันหาอ่านไม่ได้จนต้องแต่งเอง อย่าตกใจทำไมมันสั้นจัง ก็มันเป็นฟิคสั้นนี่นา!!จะให้แต่งยาวได้ไง!!พวกลื้อนี่พูกไรม่ายคิก!!

    ยังไงก็เหอะอยากให้มีคนมาแต่งต่อจุงเบยยยยย


    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×