ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Reborn : จันทราเจ้าเอย... (OC) [END]

    ลำดับตอนที่ #12 : Moon Number.10 < Attack >

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.09K
      607
      18 ก.พ. 63

    Moon Number.10

    < Attack >

     

    จันทราเจ้าเอย..

    การต่อสู้

     

     

     

     

    "....เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ~" เด็กสาวยิ้มแป้นแล้น แบมือยักไหล่หลังอธิบายเหตุการณ์อย่างกระชับ สั้นยิ่งกว่าสรุปรายงานเรื่องสภาพศพที่เกิดจากฝีมือเธอเสียอีก 

     

    ในตอนแรกคิดว่าทุกคนจะไม่เชื่อหรือพุ่งเข้าใส่แต่ดันกลายเป็นว่าทุกคนจำได้เธอทันทีเสียอย่างนั้น ปฏิกิริยาตอบรับก็...

     

    'หน้าจืดขนาดนี้มีอยู่คนเดียวบนโลกแหละนะ ชิชิชิ~'

     

    'ใครจะจำลูกสาวที่เลี้ยงมากับมือไม่ได้ล่ะฮ้า'

     

    'สัมภเวสีสวะแบบแกฉันมีปัญญาจำพอ'

     

    'ไม่ได้ความจำสั้นเหมือนเด็กโง่อย่างแกโว้ย!'

     

    จะมีแค่ลุงเลวี่ที่เออออตามบอสและฟรานเด็กใหม่สวมหมวกหัวกบที่ทำหน้ากวนประสาทรับฟังอย่างเดียว

     

    มารีถูกลุสซูเรียจับฟัดไปมาไม่หยุดตั้งแต่เริ่มเรื่องจนจบ ถ้าถามว่าทำไมเลื่อนเวลาเริ่มศึกกันมาถึงป่านฉะนี้ เด็กสาวยืดอกนำเสนอกลยุทธ์ดึงความมั่นใจของศัตรูมาขยี้อย่างภาคภูมิใจ การบุกเดี่ยวแบบบ้าบิ่นของเธอย่อมถึงหูศัตรูซึ่งประจำอยู่ตามจุดต่างๆ พอพวกนั้นเสียขวัญจากความกลัวและกังวล ยิ่งเป็นพวกปลายแถวระดับต่ำเมื่อเทียบกับวาเรียแล้ว...

     

    มุมปากเผลอกระตุก

     

    ะแสยะยิ้มชั่วออกมาไม่ได้นะมารี...

     

    เอาเป็นว่าพวกนั้นไม่กล้าใช้แผนบุกเร็วเพราะแค่นี้ก็สูญเสียมากแล้ว หมดใจสู้ก็ชะงักกันดื้อๆ โดยไม่ได้รู้เลยว่ามันเข้าทางพวกเธอแค่ไหน

     

    "ยังฉลาดเหมือนเดิม ชิชิชิ~"เบลเฟกอลเอ่ยชม ยกมือขึ้นยีหัวเด็กสาวจนยุ่งฟู "แต่ไม่อัจฉริยะเท่าเจ้าชายหรอกนะ~"

     

    "ปล่อยเด็กบ้านั่นไปล้างหน้าได้แล้วโว้ย รกลูกตา!!"

     

    พี่ชาย... คือหนูก็อยากล้างนะคะ”กระพริบตาปริบๆ “แต่น้ำมันไม่ไหล…”

     

    นั่นแหละ สภาพโสโครกขนาดนี้ใช่ว่าจะอยากให้ทุกคนเห็นหรอกนะ เด็กสาวถอนใจแล้วกล่าวต่อ

     

    ชุดที่ยืมสึนะโยชิมาก็เละจนคืนไม่ได้แล้วด้วย”

     

    ตู้ม!!!!

     

    เอ๊ะ กำแพงแหลกปะป๊ายิงเพลิงพิโรธทำไม?

     

    มารีจัง เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะฮ้า?”ลุสซูเรียขมวดคิ้ว ไล่สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า

     

    คะชุดของสึนะโย--”

     

    โครม!!

     

    คราวนี้พี่ชายถีบโต๊ะไม้สักอย่างดีพังไปแล้ว

     

    เเล้วทำไมไปใส่ชุดของมันล่ะห๊ะ!!?”

     

    ก็หนูมีร่างกายกะทันหัน ซื้อชุดไม่ทันอะ จะให้หนูแก้ผ้ามาหาเหรอคะ?”

     

    ชิชิชิชิ ปากคอเราะร้าย~"

     

    ไม่ให้เรื่องราววุ่นวายไปมากกว่านั้น หูฟังไร้สายของมารีก็ส่งสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาทำตามแผนของเธอ มารีกระแอมไอเรียกความจริงจังกลับมา เลียนแบบท่าทางของสควอโล่ตอนบังคับบัญชาลูกน้องร่ายแผนยาวทันที

     

    โดยไม่รู้เลยว่าการทำแบบนั้นของเธอมันไม่ได้ดูน่าเกรงขามแบบฉลามคลั่งสักนิด ยิ่งทั่วตัวชุ่มโชกด้วยเลือดก็ยิ่งน่าเอ็นดู(?) สมกับเป็นมารีเด็กเด๋อของวาเรีย

     

    ถ้าอย่างนั้นก็ตามนี้นะคะ ระเบิดเวลาที่แอบวางไว้จะเริ่มทำงานในอีกสามสิบวิ เริ่มศึกกวาดล้างของจริงกันเถอะค่ะ!!”

     

    .

    .

    .

     

     

    เฮ้ย ไหนบอกระเบิดไงวะ”

     

    จากการแบ่งกลุ่มตามคำแนะนำของมารี เด็กสาวต้องการจับคู่กับสควอโล่ เนื่องจากฝั่งของพี่ชายมีการรวมหน่วยฉับพลัน(แน่นอนว่าอยู่ในผลคาดการณ์อันแม่นยำของมารี) ตัวเธอซึ่งมีสกิลโกงติดตัวถาวรอย่างยิงแทงไม่เข้าย่อมต้องตามมาด้วย ร่างผอมบางหัวเราะแหะ เกาหัวแกรกๆ

     

    ก็ระเบิดเวลาที่เธอพูดถึงมันดันเป็นดอกไม้ไฟ...

     

    นึกว่ากำลังจัดเทศกาลรึไงยัยเด็กเอ๋อนี่! ฉลามคลั่งตวัดสายตาดุ

     

    เอาน่า... นะคะ

     

    รอยยิ้มของเธอฝืดเฝื่อนเสียเหลือเกิน ตัวก็สั่น มารีพยายามอดกลั้นไม่ให้สติแตกเหมือนตอนที่บุกเดี่ยวไปซัดนัวเนียช่วงแรก เธอไม่อยากให้ทุกคนมองเธอเป็นคนอื่น ไม่อยากนึกถึงสายตาราวคนแปลกหน้า มารีไม่ได้เตรียมใจสำหรับเรื่องนั้น

     

    ยัยเด็กผี”

     

    คะ?”อยากจะเถียงอยู่หรอกว่าตอนนี้ไม่ใช่ผีเสียหน่อย แต่น้ำเสียงคนข้างกายมันจริงจังเกินไป เสียงผลุของเธอซาลงเรื่อยๆ นับถอยหลังสู่ช่วงเอาคืน ดังนั้นคำพูดของอีกฝ่ายถึงชัดแจ๋วขนาดไม่ตะโกนก็ได้ยิน

     

    จะเป็นเด็กเอ๋อขี้อ้อน หรือจะเป็นเด็กบ้าที่สนุกกับการเล่นอะไรเละเทะแบบนั้น ยังไงแกก็คือแกไม่ใช่รึไง” คนถูกทักยิ้มค้าง “คิดว่าวาเรียโง่เรอะ ถ้าแกเป็นแค่เด็กธรรมดาที่ดีแต่ยิ้มปัญญาอ่อนทำมาหากินอะไรไม่ได้ฉันไม่เก็บแกมาหรอก งี่เง่า เป็นตัวของตัวเองซะ ไม่งั้นก็ไสหัวกลับไปโป๊ะปะป๊าแกเลยไป๊”

     

    พี่ชาย..”

     

    ได้ข่าวว่าเหตุการณ์ล่าสุดเรื่องโป๊ะๆนั่นมันสิบปีที่แล้วไม่ใช่เหรอยังจะจำได้อีกนะ หรือว่าที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะ..

     

    อยากโป๊ะๆ มารีก่อนลงไปเชือดพวกนั้นไหมคะ?” ถามต่อด้วยหน้าตาซื่อบื้อ

     

    โตเป็นสาวแล้วหยุดพูดแบบนั้นซักที เด็กแก่แดด!!!”

     

    ตะคอกใส่หน้าแล้วจากไป

     

    มารีกระพริบตาปริบๆ มองตามแผ่นหลังพี่ชายที่หายลับไปกับเงาของแมกไม้ มุมปากค่อยๆยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม 

     

    หูแดงเชียว

     

    ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรหรอกนะ สำหรับเธอมันผ่านมาแค่แปปๆ เท่านั้น เพราะมาจากอดีตนี่นา แต่พอเห็นท่าทางของพี่ชายแล้วมัน.. น่าแกล้งจริง

     

    พี่ชาย รอหนูด้วย~"

     

    ไม่ว่าจะตอนไหน ก็สควอโล่นี่ล่ะที่ทำให้เธอเลิกตั้งคำถาม เลิกสงสัยถึงความรู้สึกน่าอึดอัด เลิกฟุ้งซ่านกับสิ่งที่ไร้สาระ ...เป็นเขาเสมอมา

     

    แต่เรื่องโป๊ะๆ มารีอยากทำจริงนะ ไม่ได้ล้อเล่น ก็ตอนเป็นวิญญาณไม่รู้สึกอะไร สัมผัสเป็นแบบไหนมารีอยากลอง ..จบศึกว่าอีกทีแล้วกัน

     

    "เฮ้ย! ผู้หญิงคนนั้นน่ะ!"

     

    กลุ่มก้อนตัวประกอบโผล่มาให้เธอเล่นด้วยอีกแล้ว

     

    "สวัสดีค่ะ~"

     

    แล้วศีรษะของคนเป็นหัวหน้านำทัพก็ขาดออก น้ำพุสีสดพุ่งกระจายคล้ายระเบิดดอกไม้ไฟเซอร์ไพรส์ทุกคนของเธอ สายตาตื่นตระหนกส่งมาที่เธอโดยเหล่าลูกน้องของผู้โชคร้ายคนนั้น

     

     

    "ว้าว สวยจัง"

     

    พวกเขาควรระวังตัวตั้งแต่เห็นสภาพของเธอแล้ว แต่ถึงเลือกหนี เธอก็ไม่ปล่อยให้รอดอยู่ดี นับจำนวนได้สามสิบนิดๆ หน่วยซุ่มลอบโจมตีไม่มีด้วยซ้ำ

     

    "ออกกำลังกายกันเถอะ นะคะ?"

     

    เท้าขวาก้าวไปด้านหน้า ส้นเท้าเปิดเพื่อใช้ปลายเท้าในการส่งแรงดีดตัว เห็นเป็นเพียงเส้นสายสีดำที่ตัดผ่านกองกำลังศัตรู เสียงโครมครามดัง ต่อด้วยต้นไม้ใหญ่ที่โค่นลง ภาพที่ปรากฏคือมัจจุราชที่ฉีกกระชากร่างของเหยื่อเป็นสองซีก อวัยวะภาพในทะลักจากภาชนะรั่วลงไปกองกับพื้นดังแผละ

     

    แสงจันทร์สาดส่องตรงไปที่เธอ

     

    น่าสงสาร น่าสงสาร

     

    ยังมีการละเล่นอีกมากมายที่เธออยากลอง

     

    "ไม่! ไม่!! ช่วยด้วย!!!"

     

    เธอกำจัดมันทีละคน ทีละคน ราวกับแมวหยอกล้อไล่จับหนู ให้เสียงคร่ำครวญดังก้องกังวานทั่วป่าใหญ่ แม้เสียงต่อสู้ของคนอื่นจะตูมตามกว่า ความหรรษาของเธอก็ยังดำเนินต่อไป

     

    มารีเล่นสนุกกับพวกเขา ต่างจากคนอื่นที่เน้นจัดการงานให้เสร็จเร็วที่สุด เธอจึงอารมณ์ดีเดินเอื่อยเฉื่อยเล่นซ่อนแอบกับสวะชุดขาวอย่างสบายใจ

     

    ปัง! 

     

    ในที่สุดก็มีคนยิงเธอ..

     

    ปัง! ปัง! ปัง!!

     

    ช่วยกันระดมยิงสิถูกกว่า ยิงจนฝุ่นตลบ กระสุนและพลังไฟแทบหมด ความเงียบเข้ามาแทนที่.. เรียกว่าทุ่มสุดชีวิตเลยแหะ โดยทั่วไปไม่น่าจะเสี่ยงรุมขนาดนี้ หรือว่าไปรู้อะไรมา?

     

    "ส สำเร็จ?"

     

    ไม่ทันให้ใครได้ยินดี มารีก็เรียกร้องความสนใจอีกครั้ง

     

    "พอจะทำให้ครั่นเนื้อครั่นตัวได้อยู่นะคะ"

     

    "!!?"

     

    "แต่ทำอะไรไม่ได้หรอก"ยิ้มร่าให้อีกทีก่อนถีบตัวออกจากม่านฝุ่น มือยื่นไปคว้าลำคอของใครสักคนก่อนบีบมันจนหักดังกร๊อบ คำสบถด่าเรียกเธอว่าปีศาจคล้ายเสียงชื่นชม มารีเอ่ยขอบคุณก่อนเริ่มการล่าต่อไป ในชุดที่ขาดรุ่งหริ่งของเธอ

     

    รีบๆเคลียร์ให้จบดีกว่า มารีอยากอาบน้ำจะตายอยู่แล้ว ที่โดนยิงกระจุยเมื่อกี้ก็ใช้ว่าชุดของสึนะโยชิจะกันกระสุนแบบร่างกายเธอซะด้วย

     

    เหตุผลหลักที่ตามสควอโล่มาไม่ใช่เพียงช่วยงาน แต่เส้นทางนี้มันมีแม่น้ำซ่อนอยู่ต่างหาก

     

    "ไหนๆ ยังมีใครเหลือรอดไหมคะ?"ลองโยนหินถามทาง เงียบสนิท ลองเช็คออร่าในแลปท็อป.. 

     

    ผลั่ก!!

     

    รองเท้าผ้าใบของว่าที่รุ่นสิบแห่งวองโกเล่เปรอะสมองหลังจากกระทืบกะโหลกคนบนพื้นใกล้ตัวจนเละ

     

    "ก็ว่าทำไมไม่ตอบ สลบอยู่นี่เอง เสร็จภารกิจ~"ปัดเนื้อปัดตัวก็พบว่าตัวเองคล้ายเด็กจรจัดไปทุกที มารีก้มเช็คสบู่กับแชมพูที่หยิบออกมาจากห้องน้ำของพี่ชายฉลาม ฮึมฮัมเพลงเดินตรงไปหาแหล่งน้ำ ไม่ลืมใช้มายาพรางตัวที่แสนภูมิใจซ่อนตนเองไว้อย่างรอบคอบ

     

    เรื่องเสื้อผ้าก็แอบไปค้นตู้พี่ชายมาด้วย รู้ว่ามันไม่พอดีแต่ไม่มีทางเลือกแล้ว..

     

    ระหว่างการต่อสู้ของทุกคน

     

    มารีแช่น้ำสบายใจมากเลยค่ะ

     

    .

    .

    .

     

    เสียงการปะทะอย่างรุนแรงทำมารีผงกหัวขึ้นมาจากการแต่งตัว อ้าวๆ ปราสาทถล่มแล้วมั้งนั่นรีบกลับไปรวมตัวดีกว่า

     

    เธอใช้เวลาขัดคราบเลือดนานไปหน่อยพอมีร่างกายแล้วก็ยังไม่ค่อยคุ้นชินกับการใช้ทำกิจวัตรแบบมนุษย์ทั่วไป เมื่อกี้ก็ใช้แชมพูสลับกับสบู่ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น พอมาลองชุดของพี่ชาย เสื้อคลุมกลายเป็นชุดประโปรง ส่วนกางเกงนั้นรุ่มร่ามเกินจะแก้ เลยเอาเป็นว่าไม่ใส่แล้วกัน นิ้วขยับพับแขนเสื้อทบขึ้นมา อย่างน้อยให้มือโผออกมาก็ยังดี

     

    ปอยผมเปียกน้ำลู่ติดข้างแก้ม

     

    แย่จัง ลืมผ้าขนหนูได้ยังไงเนี่ย

     

    "เอ้าฮึบ~"

     

    ลุกขึ้นตรวจทานสิ่งของเรียบร้อย

     

    ได้เวลากลับไปหาปะป๊าแล้ว

     

    ☽☽☽

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×