ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Reborn : จันทราเจ้าเอย... (OC) [END]

    ลำดับตอนที่ #11 : Moon Number.9 < Present >

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.21K
      755
      17 ก.พ. 63

    Moon Number.9

    < Present >

     

    จันทราเจ้าเอย..

    ของขวัญ

     

     

     

     

    ปราสาทวาเรีย ,อิตาลี

     

    ศึกกวาดล้างครั้งใหญ่ กำลังจะเริ่ม

     

    ติดต่อมาตอนนี้มีอะไร ถ้าไม่สำคัญพ่อจะเจื๋อนให้!!”น้ำเสียงหงุดหงิดของฉลามคลั่งดังลั่นทั่วบริเวณอย่างที่ปกติเป็น สมาชิกคนอื่นเพียงแค่มองตรงไปยังหน้าจอมอนิเตอร์ใหญ่ซึ่งฉายภาพของอัลโกบาเรโน่แห่งอรุณ ร่างทารกในชุดสูทกระตุกยิ้มสนุกสนาน ไม่ใคร่สนใจว่าสควอโล่จ้องมองราวจะกินเลือดกินเนื้อ รีบอร์นกรอกข้อความเสียงสั้นๆ ตอบกลับด้วยอารมณ์ใจเย็น

     

    [ส่งของขวัญไปให้ หวังจะว่าจะถูกใจพวกนายนะ]

     

    ห๊า!?”คิ้วขมวดเข้าหากันแทบผูกเป็นโบว์ แม้จะงุนงงแต่เสียงร้อยเดซิเบลของเขายังทำงานได้ดี “หมายความว่าไงของขวัญ?”

     

    ไม่ต้องรอคนเริ่มการสื่อสารตอบ สัญญาณจากอุปกรณ์ติดต่อสำหรับสั่งการภาคพื้นที่ก็แจ้งเตือน ลุสซูเรียรับสายโดยไม่ต้องรอใครบอก เพียงรู้ข่าวใหม่ มือยกขึ้นปิดแก้มสองข้างสะโพกส่ายไปมาแบบที่ทำประจำจนแทบเรียกว่าเป็นกิจวัตร

     

    อุ๊ย สควอโล่ฮ้า หน่วยสอดเเนมติดต่อกลับมาว่าลูกกระจ๊อกของมิลฟิโอเล่ทางตะวันออกโดนกวาดเรียบหมดเเล้วล่ะฮ๊า!”

     

    ปัง!

     

    เวลาเดียวกันนั้น ประตูห้องถูกผลักกระแทกกำแพง

     

    [เด็กคนนั้นพยายามเพื่อพวกนายเลยนะ]

     

    ทุกสายตาพุ่งตรงเข้าสู่ร่างของผู้มาเยือน

     

    [เมอริเอตต้า มารีน่ะ]

     

    .

    .

    .

     

     

    ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นประมาณหนึ่งชั่วโมง ,บริเวณทิศตะวันออกห่างจากปราสาทวาเรียราวสองกิโลเมตร

     

    "เทสๆ สวัสดีค่ะ~"

     

    [พอจะได้เจอปะป๊าก็ลั้นลาใหญ่เลยนะ]

     

    "โธ่ คุณรีบอร์นก็…"

     

    [ถึงไหนแล้วล่ะ]

     

    คนถูกถามนั่งชันเข่ากับพื้น กางบาเรียพรางตัวคลุมไว้ให้คนภายนอกเห็นเธอเป็นแค่ต้นไม้ใบหญ้า มือรัวกดตามแป้นแลปท็อปที่จางนินิอัพเกรดให้เหมาะกับสมองนักวิเคราะห์ของเธอ เรดร์บนหน้าจอแสดงตำแหน่งของสิ่งมีชีวิตและธาตุไฟ รวมไปถึงระดับความเข้มข้น กราฟแผนที่ภูมิประเทศถูกดึงขึ้นมาเพื่อซ่อนทับ

     

    ดวงตากลมจ้องมองออน่าที่แสดงและเปรียบเทียบกับจุดต่างๆ ประมวลถึงความเป็นไปได้และจำลองภาพในหัวอย่างรวดเร็ว

     

    "แถวนี้มีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะมีหน่วยสอดแนมของวาเรียอยู่ค่ะ คงเป็น..."นิ้วเรียวจิ้มลงบนจอสัมผัส วงกลมจุดสีม่วงที่กระจายอยู่ไม่ไกลจากตำแหน่งของเธอ

     

    "สายหมอกจำนวนสี่คน... ไว้สำหรับดูลาดลาวและส่งข่าว"

     

    เธอวงไปยังจุดต่างๆ วิเคราะห์ไปอธิบายไปให้คนปลายสายได้ฟัง

     

    "แถวนี้ที่ราบสูงต้นไม้ชุกชุม เป็นไปได้ที่เจ้าชายหรือลุงเลวี่จะทิ้งหน่วยซุ่มโจมตีไว้เพื่อบุกใส่ศัตรูให้แตก แต่ระดับไฟต่ำเกิน... ถ้าคนจำนวนมากกว่านี้สักสิบคงจะพอตีให้แตกแบบยิ่งใหญ่ได้ เอาเถอะค่ะ เหลือคนน้อยนี่นา"

     

    รีบอร์นเงียบสนิท ส่วนเรื่องว่าจะรับรู้สิ่งที่เธอพูดไหมมารีไม่สนใจหรอก

     

    "อืม... ถ้าอย่างนั้น ตรงนี้กับตรงนี้คือศัตรูสินะ... พอไหว!"

     

    [คิดว่าจะทำสำเร็จก่อนโดนพวกเดียวกันสอยร่วงไหม?]

     

    "แน่นอนค่ะ!"

     

    [งั้น... เตรียมตัวเป็นของขวัญดีๆ ให้พวกนั้นเถอะ จะไปเกริ่นรอ]

     

    "45นาทีหลังจากนี้คงเข้าไปถึงตัวปราสาท ขอวางสายก่อนนะคะ"

     

    ไม่รอเสียงตอบรับ มารียกนิ้วเคาะหูฟังไร้สายสองครั้งเสียงปิ๊ปเบาๆ เป็นตัวบอกว่าสายถูกวาง เด็กสาวพับเเลปท็อปที่คงจะกลายเป็นของคู่ใจใส่กระเป๋าเป้ใบเล็กพกพาง่าย หวังว่าคงจะนำกลับไปยังโลกที่เธอจากมาได้ 

     

    พวกปะป๊าจะคิดถึงเธอไหมนะมารียกยิ้มจนตาปิด ยังไงก็จะสร้างผลงานอันน่ายินดีให้ทุกคนได้เชยชม! 

     

    เอาล่ะ ที่นี้ก็ไปตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ความถูกต้องจากการวิเคราะห์”พึมพำทบทวนความจำให้แม่น ก่อนจะดีดตัวไปข้างหน้าด้วยความเร็วระดับพอดี ไม่ควรเป็นที่สังเกตจนเกินไป หลอกล่อฝ่ายตรงข้ามด้วยลมสงบ จากนั้นค่อยจับเชือดก็ยังไม่สาย ให้มันตายใจแล้วตลบหลัง... เหมือนได้ย้อนกลับไปทำแบบสมัยที่อยู่กับคุณพ่อเลยแหะ แต่ก็ไม่ทั้งหมดหรอก

     

    จำนวนศัตรู เช็ค ตำแหน่ง เช็ค สภาพการณ์ เช็ค... เพอร์เฟค~”เด็กสาวยิ้มหวาน ใบหน้าจืดชืดดูมีสีสันขึ้นเล็กน้อย “ได้เวลาเก็บกวาด!”

    .

    .

    .

     

    อนเวลาเริ่มศึกเก็บกวาด30นาที ,บริเวณทิศตะวันออกห่างจากปราสาท700เมตร

     

    หมอกควันสีดำคอยๆ ไหลผ่านป่าไม้ กระจายเป็นวงกว้างและกลืนกินคนเป็นปรปักษ์ ผู้บังอาจตั้งตนเป็นศัตรูถูกบังคับให้จมดิ่งสู่ห้วงฝันอันน่าสุขสมของซาตาน ถลำลึกสู่หุบเหวแห่งความกลัวซึ่งกลายเป็นจริง มายาของมารีสร้างบาดแผลจากจิตใจของมนุษย์และดึงมันออกมาใช้กับกายภาพภายนอก บ้างก็คอขาด บ้างก็ถูกระเบิดจากด้านใน มีหลากหลายรูปแบบตั้งแต่หลับตาลงไม่มีฟื้นจวบจนร่ายกายฉีกขาดออกกระจัดกระจาย

     

    เห็นแล้วนึกถึงน้องชายต่างแม่คนนั้นเลยนะ.. เสียดายจัง ยังไม่ได้สารภาพเลยว่าเธอนั่นล่ะที่เป็นคนทำเขาบึ๊ม..

     

    ร่างผอมบางของเด็กสาวเจ้าของเส้นเกศาสีเบจกระโดดข้ามกิ่งไม้ใหญ่จากอีกต้นสู่อีกต้น มองกลุ่มก้อนสวะมิลฟิโอเล่ที่ค่อยๆ ล้มตายโดยไม่ทันได้โต้ตอบ เขี้ยวเล็กๆ โผล่ให้เห็นเมื่อเธอฉีกยิ้มเหี้ยมแบบที่ไม่เคยปรากฏต่อหน้าเหล่าวาเรีย... ราวกับปีศาจ มารีกลั้นเสียงหัวเราะในลำคอ ทว่ามันยังเล็ดลอดให้เหล่าผู้โชคร้ายได้ยิน ใบหน้าเรียวแหงนขึ้นมองดวงจันทร์ที่ส่องสว่าง

     

    เหมือนได้ปลดปล่อย

    ตั้งแต่เมื่อไรกันที่หยุดฆ่าคน พอฟังเสียงกรีดร้องโหยหวนจากฝันร้ายอันหอมหวานของเหยื่อแล้วมันระรื่นหูเสียเหลือเกิน มารีอารมณ์ดีสุดๆ ดียิ่งกว่าตอนคุณพ่อแสดงดอกไม้ไฟเลือดให้ดูซะอีก

     

    แต่ว่า เธอยังไม่พอ มารีกลืนเสียงหัวเราะ แต่กลับหุบยิ้มไม่ลง ดวงตาหรี่จนเกือบปิดคล้ายจันทร์เสี้ยวนั้นฉายแววความอำมหิต ตั้งแต่คุณพ่อตายไป.. เธอยังไม่ได้ละเล่นแบบที่ชอบทำเลยนี่เนอะเพราะอย่างนั้น ตอนนี้จะเล่นให้สนุกสุดเหวี่ยงไปเลย ได้ร่างกายดีๆ มาแล้วด้วย ไม่ใช้ก็เสียดายแย่ แหม คุณเบียคุรันคนนั้นอุตส่าห์รังสรรค์ความแข็งแกร่งที่เธอไม่เคยมีมาตลอดให้เลยนะ ต้องกลับไปตอบแทนวันหลัง

     

    คลาย” 

     

    สิ้นเสียง หมอกมายาของเธอก็หายไป ยังเหลือเหยื่ออีกไม่กี่หยิบมือให้ได้ทดสอบพละกำลัง มารีเมินซากศพของเหล่าสวะ… อืม เพิ่งรู้ตัว มารีติดคำว่าสวะเสียแล้ว เอาเป็นว่าเสนียดสายตาพวกนั้นทิ้งไป 

     

    อ๊ะ แย่จริง คึกเกินไปหน่อย มารยาทที่สั่งสมมาดูเหมือนจะเรียกใช้บังหน้าไม่ทันแล้ว รีบๆ จัดการก่อนภาพลักษณ์อันน่าเอ็นดูของเธอจะกู่ไม่กลับดีกว่า ..อ้างว่าติดปะป๊ามาก็ไม่ได้อีก

     

    ทุกคนคะ ช่วยทำให้หนูสนุกมากกว่านี้หน่อยนะ~”

     

    ศพแรกจากการทดสอบ

     

    ถูกบีบกะโหลกแตก

     

    เฮ้อ เลอะเทอะหมดเลย

     

    จะไปต่อแล้วนะคะ~”

     

    ต้องรีบเคลียร์ก่อนผงยาสลบชั่วคราวที่โปรยไว้กับฝั่งวาเรียจะหมดฤทธิ์

     

    เสียงขอร้องวอนวอนคละกับถ้อยวาจาด่าทอ คำสบถสาปแช่งเรียกสีหน้าหฤหรรษ์จากเธอมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น...ไม่ให้รอดไปหรอกนะ…

     

    .

    .

    .

     

     

    ก่อนเวลาเริ่มศึกกวาดล้างครั้งใหญ่ห้านาที ,ทางด้านของมารี

     

    เด็กสาวแตะปลายเท้าลงกับพื้นอย่างนุ่มนวล ซ่อนแอบจากพวกเดียวกันและลอบเข้าปราสาทด้วยความแนบเนียน หันซ้ายหันขวาเห็นทางโล่งก็สำรวจตัวเอง เสื้อผ้าของสึนะโยชิที่ยืมมาใส่ย้อมไปด้วยเลือด... แบบว่า ย้อมจริงๆ ด้านหลังอาจจะพอเป็นด่างๆ แต่ด้านหน้าคือแดงเถือก..

     

    ขอโทษนะคะ เอาไปคืนไม่ได้แล้วล่ะ

     

     

    มือชุ่มหยาดโลหิตยกกระจกขึ้นมาส่อง มองใบหน้าที่ที่สายธารแห่งชีวิตพวกนั้นกระเซ็นเกาะแล้วก็พยายามปาด แต่พอตรัสรู้ว่ามันเละกว่าเดิมก็ได้แต่ทำใจปล่อยมันไป 

     

    สายตา เช็ค

     

    รอยยิ้ม เช็ค

     

    น้ำเสียง เช็ค

     

    ถึงจะไม่ใช่เด็กหญิงตัวเล็กน่าเอ็นดูแบบเดิม แต่ก็ไม่ใช่ปีศาจกระหายเลือดแบบเมื่อกี้ หวังว่าทุกคนยังจะจำกันได้

     

    เห็นแสงจากห้องโถงปลายทาง

     

    มารีแย้มยิ้มสดใส ขาเริ่มจากก้าวเดินเป็นวิ่ง

     

    มือผลักบานประตูให้เปิดออก

     

    ปัง!

     

    [เด็กคนนั้นพยายามเพื่อพวกนายเลยนะ]

     

    ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน

     

    [เมอริเอตต้า มารีน่ะ]

     

    "ของขวัญจากคุณรีบอร์น มารีรายงานตัวค่ะ!"

     

    "!!!?"

     

    ☽☽☽

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×