คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : How can I ? รักได้ไง...นายคนนี้! บทที่ 6 เปียกหมดเลย
How can I ? รักได้ไง...นายคนนี้ !
เมื่อเสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น โจก็แทบจะกระโดดขึ้นจากที่นั่งก่อนที่จะกระวีกระวาดไปคว้ากระเป๋านักเรียนแล้วจึงก้าวยาวๆออกจากห้องไป
ต่อเกาหัวมองตามเพื่อนงงๆ “ไหนว่าโดนทำโทษวะ ทำไมท่าทางมันดีใจจัง”
ขณะที่โจกำลังเดินผ่านหน้าห้องทับหกเพื่อจะไปยังห้องทับเจ็ด สายตาของเขาก็อดที่จะแอบมองเข้าไปในห้องไม่ได้ แต่ก็ต้องเบือนออกมาเมื่อเห็นร่างสูงของพี่ก้องยืนอยู่ข้างๆโต๊ะของขวัญใจ
พึ่งเลิกเรียนได้ไม่นานอะไรจะรีบมาขนาดนั่นว่ะ เขาได้แต่คิดและเดินผ่านไปเพราะรู้ดีว่าทำอะไรไม่ได้ ...... ขวัญใจมันเลือกแล้ว
“เฮอะ” เด็กหนุ่มเบ้ปาก อารมณ์ดีๆที่มีแทบจะหายไปหมด
“อ้าว คุณโจ มาแล้วเหรอครับ” เสียงเรียกของวีที่มายืนอยู่ตรงหน้าตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ทำให้เจ้าของชื่อสะดุ้งเล็กน้อย
“ก็เออสิ เสร็จรึยังวะ จะได้ไปซะที”
“อีกแป้ปนึงนะครับ ผมกำลังทำการบ้านอยู่ ถ้าคุณโจมีงานค้างให้ผมช่วยได้นะ”
“ไม่เอา เด็กห้องแว่นมีแต่แปลกๆ ดูไอ้คนนั่นดินั่งกินขี้มูกตัวเองอยู่ ฉันรอตรงนี้ดีกว่า”
ถึงจะเป็นคำพูดที่ติดตลกแต่วีก็รู้สึกได้ถึงน้ำเสียงที่แปลกไป เขาไม่ปล่อยให้โจนั่งฟุ้งซ่านอยู่คนเดียวหรอก “มีเรื่องไม่สบายใจอะไร เล่าให้ผมฟังได้นะครับ”
“ไม่มีอะไรหรอกหนา..” โจมองตาแป๋วภายใต้แว่นสายของอีกฝ่ายแล้วอดที่จะยิ้มขึ้นมาไม่ได้ ขอบคุณนะที่เป็นห่วง โจคิดในใจ
“งานน่ะไว้ค่อยทำเมื่อไหร่ก็ได้ นายเข้าไปเก็บกระเป๋าเถอะ”
หนุ่มแว่นทำตามอย่างว่าง่ายแล้วเดินกลับออกมา “เรียบร้อยแล้วครับ” ก่อนจะหันไปโบกมือลามาโนชกับสมิทที่เดินตามหลังออกมาจากห้อง
ทั้งสองคนมองหน้าโจอย่างไม่ค่อยพอใจนัก โดยเฉพาะสมิทมีสีหน้าไม่ไว้ใจอย่างเห็นได้ชัด โจยักคิ้วให้ทั้งคู่ แล้วดึงข้อมือวีเดินออกไปทันที
.
“สระว่ายน้ำเนี่ยนะ !?” โจพูดอย่างไม่เชื่อหูเพราะด้านหน้าของเขาเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ภารโรงรุจไม่ตอบ แต่ส่งแปรงขัดพื้นมาให้เด็กหนุ่มทั้งสอง
“แต่มันยี่สิบห้าเมตรเลยนะครับ” วีประท้วงขึ้นบ้าง
“แล้วไง” ภารโรงรุจย้อนถามเสียงเรียบ “หน้าที่ของพวกคุณคือช่วยผมทำความสะอาดโรงเรียน ไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น..”
“..สายยางฉีดน้ำอยู่ตรงขอบสระแล้ว ผมไปล่ะ อีกสักพักผมจะกลับมาตรวจ” พูดจบก็เดินหน้านิ่งจากไปทิ้งให้นักเรียนทั้งสองยืนคอตก
โจมองตามด้วยความไม่เข้าใจ “นี่พี่แกไปกินรังแตนมาจากไหนวะเนี่ย”
“อกหักน่ะสิครับ” วีพูดอย่างผู้รู้ “เมื่อเช้านี้ผมเห็นครูใหญ่รุจเอาดอกไม้ไปให้ครูโฉมแต่ครูโฉมโยนทิ้งถังขยะต่อหน้าเลย”
“โอ้โห เจ็บไปดิ” โจชักเห็นใจ
“ครูโฉมยังบอกอีกนะครับว่า ให้เป็นแฟนกับครูรุจน่ะ ไปตายให้หมาแทะหัวดีกว่า”
“แต่ฉันเห็นด้วยกับครูโฉมว่ะ” โจหัวเราะลั่น วีส่ายหน้าจากนั้นก็ก้มลงไปถอดรองเท้าและถุงเท้า โจก็เช่นกัน ทั้งคู่ลงไปในสระน้ำที่ตอนนี้แห้งสนิท
“ไม่มีการแกล้งกันแบบคราวก่อนนะครับ” วียื่นมือมาข้างหน้าเพื่อเป็นการจับมือสัญญา เด็กหนุ่มขี้เล่นจับมือตอบรับ “ฉันไม่รับปากว่ะ”
“แล้วจะจับมือทำไมละครับ !” วีสะบัดมือออกก่อนที่จะราดน้ำยาลงที่พื้นสระ
“ก็นายยื่นมือมา ฉันก็เลยจับ จะได้ไม่เสียน้ำใจไง” โจยักไหล่ตอบกวนๆแล้วหยิบแปลงมาขัดบริเวณที่ราดน้ำยาเอาไว้แล้ว
“ผมอยากกลับบ้านเร็วๆนี่ครับ”
“บ่นไปก็เท่านั้น อย่าลืมสิว่าฉันเป็นคนไปส่งหรือแกอยากเดินกลับเอง” โจยักคิ้วท้าทาย
“ชิ..” หนุ่มแว่นทำปากขมุบขมิบแล้วหันไปก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ
“อะไร อะไร ฉันได้ยินนะ”
“ผมไม่อยากต่อปากต่อคำแล้ว เดี๋ยวงานก็ไม่เสร็จกันพอดี”
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงทั้งคู่ก็ทำงานไปได้ดีทีเดียวพื้นที่ราดน้ำยาเอาไว้ก็ขัดแล้วเหลือก็แต่ราดน้ำทำความสะอาด โจปาดเหงื่อ “ขอพักแปปนึงนะ” เด็กหนุ่นปีนขึ้นไปนั่งที่ขอบสระแล้วหยิบกีตาร์มาดีดเล่นเพลินๆ ส่วนวีเดินไปลากสายยางลงมาเพื่อที่จะล้างน้ำยาออกจากพื้นสระ หนุ่มแว่นราดน้ำเรื่อยๆ ผ่านไปสักพักโจก็ยังไม่มีท่าทีที่จะลงมาช่วย “คุณโจพักนานเกินแล้วนะครับ” เจ้าของชื่อทำหูทวนลมแล้วยังร้องเพลงไม่รู้ไม่ชี้อีก “ให้เธอด้ายยกับเขา แล้วจงโชคดี อย่ามีอะไรให้เสียใจ ฮะ เฮ้ยยย ไอ้แว่น!!" โจโวยวายก่อนที่จะรีบนำกีตาร์ออกจากจุดเกิดเหตุเมื่อวีใช้สายยางฉีดน้ำใส่
"คุณโจอยากอู้เอง แบร่ !! "
หน่อยย เดี๋ยวนี่มีแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เรอะ
"จะสู้ฉันหรอ ไม่มีทางซะหรอก"โจกระโดดลงมาในสระ
หนุ่มแว่นหัวเราะเสียงใสแต่ยังคงฉีดน้ำใส่อีกคนอยู่
โจรีบเดินไปหยิบสายยางอีกอันหนึ่ง เมื่อวีเห็นอย่างนั้นจึงรีบเอ่ยยอมแพ้ทันที
”ไม่เล่นแล้ว รีบทำงานให้เสร็จเถอะครับ” น้ำจากสายยางในมือของโจฉีดใส่ฝ่ายตรงข้างอย่างไม่ลังเล “ได้ไง ฉันไม่ยอมเปียกอยู่ฝ่ายเดียวหรอกเว้ยย” คุณวียกมือป้องหน้าตัวเองกันน้ำและเดินถ่อยหลังหนีเรื่อยๆจนแผ่นหลังชิดกับขอบสระ
“คุณโจ! พอได้แล้ว ผมก็เปียกแล้วนี่ไง!”
นักดนตรีหัวเราะสะใจแต่คนที่แกล้งยอมแพ้ก็ฉีดน้ำใส่หน้าทันที
“แค่กกๆ แค่กๆๆ” โจไอออกมาเหมือนจะสำลักน้ำ วีที่ยิ้มขำๆอยู่ก็เริ่มที่จะหน้าเสียเมื่อโจย่อตัวลงไปไออย่างจริงจัง “คะ.คะคุณโจ ?” หนุ่มแว่นทิ้งสายยางที่อยู่ในมือแล้วลดตัวลงเพื่อที่จะดูอาการของอีกคน
ไม่ทันที่วีจะได้แตะตัวของโจ น้ำก็สาดใส่ใส่อีกครั้ง
“ว๊ายยย ไอแว่นโดนหลอก” โจหัวเราะขณะที่กำลังจะลุกขึ้นยืนแต่ก็สะดุดกับสายยางที่วีทิ้งลงไปเมื่อครู่นี้ "เฮ้ย ยย..!" เขาที่เกือบจะล้มคะมำไปกับพื้นแต่ยังโชคดีที่คว้าตัวอีกคนที่ยืนชิดกับขอบสระไว้ได้
วีระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อกรรมตามสนองคนขี้แกล้ง
ใบหน้าของโจแนบชิดกับหน้าท้องแบนราบของคนที่ยืนชิดขอบสระ
ใจเขาเต้นแรง ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความตกใจหรืออะไรกันแน่
ก่อนที่เขาจะยันตัวยืนขึ้นมา
“กินข้าวบ้างปะเนี้ย ทำไมตัวเล็กขนาดนี้” โจแซวขำๆ
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยครับ เกือบเป็นผีเฝ้าสระไปแล้ว ฮ่าๆๆ...โอ้ยย” วีกุมหน้าผากตัวเองเมื่อโดนคนที่สูงกว่าเขกมะเหงกเข้า
“ไม่ต้องมาขำเลย ไปทำงานต่อกันเถอะ”
“แหม ขยันขึ้นมาเชียวนะครับ”
“เหอะ ไม่ต้องมาพูดเลย ทำงานไปเถอะ” โจพยายามเก็กหน้าขรึม ทั้งๆที่ความจริงอายที่สะดุดล้มเสียฟอร์มเมื่อกี้จะแย่อยู่แล้ว
วียิ้มหน้าเป็นให้กับคนขี้แกล้ง แต่ไม่อยากจะล้ออะไรมากไปกว่านี้ เด็กหนุ่มหันกลับไปทำงานต่ออย่างตั้งใจ
โจมองแผ่นหลังบอบบางที่ตอนนี้เปียกชุ่ม เสื้อนักเรียนสีขาวแนบไปกับเนื้อ อยู่ๆหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอีก
เด็กหนุ่มอยากจะฉีดน้ำใส่หน้าตัวเองอีกรอบ เผื่อความรู้สึกแปลกๆนี้จะได้หายไปพร้อมกับสายน้ำเสียที
ร่างสูงได้แต่ส่ายหัว
ทั้งสองคนทำงานต่อไปในความเงียบ แต่แปลกดีที่มันไม่อึดอัดเลยแม้แต่นิดเดียว
ไม่นานนัก สระทั้งสระก็สะอาดเรียบร้อย โจหันมายักคิ้วให้ร่างเล็ก
วียิ้มตอบ แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่อไป เสียงห้าวๆของภารโรงรุจก็ดังขึ้น
“ทำงานได้เรียบร้อยดีนี่” ตัวคนพูดยืนกอดอกอยู่บนขอบสระ
“ทุ่มเทกันดีนะ” พูดยิ้มๆ สายตามองมายังนักเรียนทั้งสองที่เปียกปอนไปทั้งตัว
โจกับวียิ้มแห้งๆ
“งั้นวันนี้พวกคุณสองคนกลับบ้านได้แล้ว” สิ้นประโยคที่เป็นเหมือนกับระฆังประกาศอิสรภาพ เด็กหนุ่มทั้งคู่ต่างก็แย่งกันปีนขึ้นจากสระแล้วคว้ากระเป๋านักเรียนวิ่งออกไปทันที
โจวิ่งนำหน้าวีมายังลานจอดรถจักรยานที่ว่างเปล่าเหมือนเช่นเคย แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อรู้สึกได้ว่าคนข้างหลังดึงเสื้อของเขาไว้ ร่างสูงเห็นหน้ากลับมามองหนุ่มแว่นที่ตอนนี้กำลังดึงชายเสื้อของเขา
“มีอะไรวะ”
“เอ่อ…” วีแกว่งกระเป๋าไปมา “คือ…คุณโจ-อย่าเพิ่งกลับได้รึเปล่าครับ”
“หือ?” โจเลิกคิ้ว
วียิ่งดูอึกอักขึ้นไปกว่าเดิม
“คือนั่งเป็นเพื่อนผมให้เสื้อแห้งก่อนแล้วค่อยกลับได้ไหมครับ” วีกลั้นใจพูดออกมารวดเดียวจนอีกฝ่ายแทบฟังไม่ทัน
โจเกาหัวงงๆ “แล้วทำไมต้องรอว่ะ ยังไงกลับบ้านไปก็ต้องเปลี่ยนเสื้อไม่ใช่เหรอวะ”
วีก้มหน้างุด พลางใช้เท้าเขี่ยพื้นเขินๆ “ผมกลัวหม่าม๊าว่านี่ครับ เดี๋ยวหม่าม๊าก็หาว่าผมไปเล่นอะไรมาก็ไม่รู้อีก”
ร่างสูงกลอกตา แต่ก็อดที่จะขำออกมาไม่ได้ “นี่บ้านแกเป็นยังไงกันแน่เนี่ยแว่น แน่ใจนะว่าแกไม่ได้โตมาในห้องทดลอง”
ร่างเล็กไม่ตอบแต่ดึงชายเสื้ออีกฝ่ายแรงๆ ดวงตาโตมองอย่างร้องขอ
โจรีบหันไปมองทางอื่น รู้สึกทำตัวไม่ถูก มือไม้มันเกะกะไปหมด เด็กหนุ่มแก้เก้อด้วยการขึ้นคร่อมจักรยาน
วีทำท่าเหมือนจะโวยวาย แต่ร่างสูงพูดขัดขึ้นก่อน
“แกไปรอที่บ้านฉัน”
“บ้านคุณโจ?” วีทำหน้างง
โจขมวดคิ้ว “ทำไม ไม่กล้าไปรึไง หรือแกอยากนั่งตากยุงอยู่ตรงนี้?”
วีขึ้นมานั่งหลังจักรยานแทนคำตอบ ร่างเล็กส่งยิ้มสดใสให้คนตรงหน้า
โจฝืนทำหน้าเฉย “เออ ก็แค่นั้นแหละ”
เขาตั้งต้นปั่นจักรยานออกไปจากโรงเรียน
บ้านของโจอยู่ไม่ห่างออกไปจากโรงเรียนมากนัก อันที่จริงมันอยู่ใกล้กับบ้านของวีด้วยเช่นกัน ห่างออกไปเพียงแค่สองช่วงถนนเท่านั้น ไม่นานนักจักรยานสีแดงเก่าคร่ำจึงมาหยุดลงหน้าบ้านหลังเล็กสีขาวสะอาดตา
วีมองลอดรั้วเข้าไปยังตัวบ้านและสวนเล็กๆหน้าบ้านแล้วเอ่ยปากชม “โอ้โห บ้านน่ารักจังครับคุณโจ”
โจยิ้มแป้น “แน่อยู่แล้ว” ร่างสูงไขกุญแจเปิดประตูรั้วก่อนจะเข็นจักรยานเข้าไปในบ้านโดยมีวีเดินตามไปติดๆ
เมื่อเก็บจักรยานเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็เข้ามาในบ้าน โจอดที่จะรู้สึกแปลกๆไม่ได้ ไม่รู้อีกฝ่ายจะคิดยังไงในเมื่อบ้านตัวเองใหญ่ซะขนาดนั้น แต่บ้านของเขากลับหลังเล็กแค่นี้
แต่วีไม่มีท่าทางอื่นใดนอกจากตื่นเต้นเท่านั้น
“นี่คุณโจรู้ไหมครับว่านอกจากมาโนชแล้ว คุณโจเป็นเพื่อนคนแรกเลยนะครับที่ผมเคยไปบ้าน”
โจหัวเราะก่อนจะดึงแขนร่างเล็กให้ขึ้นบันไดตามมา
“อย่ามัวแต่พูดมาก ไปเปลี่ยนเสื้อได้แล้ว เดี๋ยวก็ไม่แห้งกันพอดี”
เด็กหนุ่มเดินนำหน้าอีกฝ่ายเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง
วีกวาดตามองไปรอบๆห้อง ผนังห้องเต็มไปด้วยโปสเตอร์ของวงดนตรีที่เขาไม่รู้จัก บนพื้นเกลื่อนกลาดไปด้วยเสื้อผ้า เศษกระดาษ ไม่ต่างกับบนเตียงนอนที่กองสุมไปด้วยสิ่งของจนน่าสงสัยว่าแล้วจะเหลือที่ให้นอนตรงไหน
แล้วก็อดที่จะพูดขึ้นมาไม่ได้
“โห ห้องรกขนาดนี้นี่คนอยู่ได้ด้วยเหรอครับ”
โจที่กำลังคุ้ยเสื้อจากตู้อยู่หันขวับมาทันที เด็กหนุ่มปาเสื้อที่ตัวเองถืออยู่ใส่หน้าหนุ่มแว่นจนอีกฝ่ายร้องเสียงหลง
“ทำตัวให้มันดีๆหน่อยเว้ย รู้ซะบ้างใครเป็นเจ้าบ้าน” เด็กหนุ่มยิ้มเยาะ
วีทำหน้างอ
โจมองหน้างอๆของร่างเล็กแล้วอมยิ้ม เด็กหนุ่มค่อยๆแกะกระดุมเสื้อนักเรียนของตัวเองออก
“คุณโจ!” เสียงโวยวายทำให้เขาชะงัก ร่างสูงถอดเสื้อค้างอยู่ครึ่งตัวแบบนั้น
“อะไรของแกเนี่ยแว่น โวยวายทำไม”
หนุ่มแว่นที่ตอนนี้เอามือทั้งสองข้างมาปิดตาไว้แน่น โวยวายต่อไป “ก็-ก็คุณโจจะโป๊!”
โจหน้าเหวอ “แล้วไงวะ บ้ารึเปล่าเนี่ย เป็นผู้ชายด้วยกัน ฉันแก้ผ้าตอนนี้เลยก็ยังได้”
ไม่พูดเปล่า ร่างสูงยังถอดเสื้อออกแล้วโยนใส่ตะกร้าอย่างไม่ใส่ใจ แล้วตั้งท่าจะถอดกางเกงอีกต่างหาก
วีรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนจนแทบจะลุกเป็นไฟแล้ว “ป..ไปเปลี่ยนในห้องน้ำสิครับ!”
“ไม่เอาอ่ะ” โจตอบกวนๆ เด็กหนุ่มเตะกางเกงนักเรียนออกไปจากตัว เหลือเพียงแค่บ็อกเซอร์ ร่างสูงมองหน้าแดงๆของคนตัวเล็กแล้วรู้สึกสนุกอย่างบอกไม่ถูก โจเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่าย
“แว่น” เรียกเบาๆ
“คุณโจไปใส่เสื้อก่อนสิครับ” วีพูดโดยไม่ยอมเอามือออกจากตา
“นี่เรื่องจริงจังนะเว้ยแว่น” โจดึงมือของอีกฝ่ายออก ก่อนจะมองตาของวีแล้วพูดอย่างเป็นงานเป็นการ
“ถ้าถอดบ็อกเซอร์ตัวนี้ออกฉันก็จะโป๊แล้วนะ”
วีหน้าแดงก่ำ ร่างเล็กผลักไหล่ของคนตรงหน้าอย่างโมโห
“คุณโจ! อย่าเล่นอะไรพิเรนทร์ๆได้ไหมครับ!”
โจหัวเราะลั่นการอาการแตกตื่นของร่างเล็ก หมอนี่นี่ตลกดีชะมัด
“เป็นบ้าไปได้ แก้ผ้าอาบน้ำกับเพื่อนฉันยังเคยทำมาแล้ว” โจผลักหน้าอีกฝ่ายเบาๆ “แกเองเถอะ เปลี่ยนชุดได้แล้ว เสื้อฉันก็หยิบๆเอาแถวนี้แหละ ใส่ซะ”
“งั้นคุณโจห้ามมองนะครับ” วีพูดงึมงำ
“เอออออออ ตามใจแกเถอะ” โจลากเสียงอย่างหมั่นไส้ แต่ก็ยอมหันหลังโดยดี
ร่างสูงคว้าเสื้อยืดสีเทาตัวเก่งมาสวมทับบ็อกเซอร์ ก่อนจะกอดอกรออีกฝ่ายเปลี่ยนเสื้อ
เสียงสวบสาบของเสื้อผ้ามันทำให้เขาอยากหันกลับไปอย่างบอกไม่ถูก เด็กหนุ่มแอบเหลียวหลังไปมอง
ร่างบางกำลังใส่เสื้อ สายตาเจ้ากรรมของโจดันไปสนใจกับหน้าท้องขาวๆที่ตอนนี้ไม่มีอะไรมาปกปิด
ร่างสูงรีบหันหน้ากลับมาทันที รู้สึกได้ว่าหน้าร้อนผ่าว มือหนาตบหน้าตัวเองเบาๆ
“เป็นเชี้ยอะไรวะไอ้โจ พอ หยุด หยุด” เด็กหนุ่มพึมพำ
พอดีกับที่อีกฝ่ายส่งเสียงมา “เรียบร้อยแล้วครับคุณโจ”
โจหันกลับไปมองวีอย่างโล่งใจขึ้นมานิดหนึ่ง หนุ่มแว่นใส่เสื้อ it’s me สีเทาเช่นเดียวกับเขา
วีหรี่ตามองเสื้อของโจสลับกับเสื้อที่ตัวเองใส่อยู่
“นี่…คุณโจมีแต่เสื้อแบบนี้ใช่ไหมครับ”
โจยักไหล่ “แล้วไง มันเป็นเอกลักษณ์ของคนเท่เว้ย แกไม่เข้าใจหรอก”
“อย่างคุณโจนี่เรียกว่าเท่แล้วสินะครับ” วีย้อนถามหน้าตาย
ร่างสูงจี้เอวอีกฝ่ายด้วยความหมั่นเขี้ยว
“พูดดีๆสิไอ้แว่น เมื่อกี้แกว่าไงนะ”
วีร้องโวยวายแต่ก็หัวเราะ “ป-เปล่านะครับ”
โจคว้าเอวของร่างบางไว้ “ไหนพูดใหม่สิ คุณโจเท่ที่สุด เร็วๆ ไม่งั้นฉันจะจี้ให้แกขาดใจตายไปเลย”
ร่างเล็กพยายามดิ้นออกให้พ้นมืออีกฝ่าย แต่เพราะหัวเราะมากเกินไปจึงไม่เป็นผล
“ผม-ผมพูดโกหกไม่ได้หรอกครับ” วีพูดพลางหัวเราะพลาง
โจยิ้มแยกเขี้ยว ร่างสูงจี้เอวอีกฝ่ายโดยไม่ปล่อย “คุณโจเท่ที่สุด เร็ว พูด”
“ค-คุณโจ เท่ที่สุด!” วีกัดฟันพูด แทบจะหอบเพราะหัวเราะมากเกินไปจนหายใจไม่ทัน
โจชูมือขึ้นทั้งสองข้างอย่างมีชัย
“บอกแล้ว อย่าเถียงคนเท่ เข้าใจไหม”
วีเบ้ปาก “แค่เพราะผมบ้าจี้หรอกครับ”
โจเลิกคิ้ว “อยากโดนอีกรึไง”
คราวนี้วียิ้มอย่างประจบ “แฮ่ๆ ไม่เล่นนะครับคุณโจ”
“ดีมาก ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร” โจทำหน้าหล่อ “ไปข้างล่างโว้ย ฉันหิวแล้ว ไปกินข้าว” ว่าแล้วก็กอดคออีกฝ่ายออกไปจากห้อง
“อะเสร็จแล้ว” บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสองถ้วยวางลงบนโต๊ะกับข้าว วีทำหน้าเหยเกเมื่อเห็นอาหารตรงหน้า “มีปัญหาอะไร ?”
“คุณโจรู้ไหมครับว่ากินมาม่าบ่อยๆจะทำให้ผมร่วงเพราะมันมีผงชูรสเยอะ..”
โจนั่งฟังอย่างตั้งใจพร้อมใช้ตะเกียบคีบเส้นในถ้วยม้วนให้พอดีคำ
“..คุณค่าทางโภชนาการก็ไม่มี ผมว่าอย่..อึกก” คนฟังป้อนบะหมี่ใส่ปากของวีทันทีเมื่อสบโอกาส “อร่อยใช่ไหมละ” โจถามแล้วกินบะหมี่ในชามตัวเองต่อ
“นานๆกินทีก็ได้ครับ” วีคีบเส้นในชามตัวเองกินเรื่อยๆ โจมองภาพตรงหน้าอย่างขำๆ
จู่ๆประตูบ้านก็เปิดเข้ามาทำให้ทั้งคู่หันไปมอง “อ้าวแม่ หวัดดีครับ” โจยกมือไหวน้าเจี๊ยบที่พึ่งเข้าบ้านมาวีจึงยกมือไหวตาม
“กินข้าวไม่รอแม่เลยนะ” แม่ของโจวางข้าววางของก่อนที่จะเดินมานั่งร่วมโต๊ะสนทนา
“ใครจะรู้ว่าวันนี้จะกลับเร็ว ปรกติแม่กลับดึกจะตาย”
“แม่เปลี่ยนเวรกับพยาบาลคนอื่นน่ะ แล้วนี่ใครกัน” แล้วน้าเจี๊ยบหันไปมองอีกคนที่นั่งร่วมโต๊ะเงียบๆ “อ้าวแว่นนั่งเงียบเชียว แนะนำตัวสิ”
“ผมวีครับเป็นเพื่อนกับคุณโจ เรียนอยู่ที่เดียวกัน” วีตอบอย่างนอบน้อม
“หนูเต็มใจเป็นเพื่อนกับลูกน้าใช่ไหม หรือว่าลูกน้าลักพาตัวหนูมา”
น้าเจี๊ยบเขยิบเก้าอี้เข้าไปใกล้
“แม่!ผมจะไปทำยังงั้นทำไม นี่เพื่อนผมจริงๆ”
“ฉันจะไปรู้หรอ เพื่อนแกแต่ละคนที่ฉันเห็น หน้าตาโจรทั้งนั้น ” คนเป็นแม่หันควับมาพูดใส่ลูกทันที “เออจริงของแม่ ” โจยกถ้วยทั้งสองเข้าไปเก็บในครัวก่อนจะเดินกลับมา
“ผมว่าผมกลับบ้านดีกว่าครับ”วีก้มดูนาฬิกาข้อมือแล้วบอกกับน้าเจี๊ยบและโจ
“นั่นเดี๋ยวฉันไปเอาเสื้อนักเรียนเรียนให้” โจพยักหน้าแล้วเดินไปเอาชุดนักเรียน
“หนูกลับบ้านยังไงลูก” น้าเจี๊ยบหันมาถาม
“ผมเดินกลับเองได้ครับ ใกล้ๆนี่เอง”
หนุ่มแว่นตอบแบบนี้เพราะไม่อยากรบกวนเวลาของครอบครัว
“เดี๋ยวน้าเอารถไปส่ง ไม่ต้องเกรงใจนะ”
วีกำลังจะค้านแต่มีดด้ามเล็กในมือของคุณน้าแกว่งไปมาอย่างเป็นเรื่องธรรมดา
สุดท้ายโจและวีก็ขึ้นมาอยู่บนรถจนได้
“หลังนี้แหละครับ ขอบคุณที่มาส่งนะครับ” วีขอบคุณน้าเจี๊ยบแล้วโบกมือลาโจก่อนที่จะเดินเข้าบ้านไป
น้าเจี๊ยบรีบคุยขึ้นกับโจทันที “โหมีเพื่อนเป็นคนรวยขนาดนี้สนิทๆเอาไว้นะลูก แล้วชวนไปที่บ้านบ่อยๆนะ แม่ชอบ”
“กลับบ้านเถอะแม่” โจทำหน้าเซ็งๆแทนที่จะได้ปั่นจักรยานเล่นแท้ๆ แม่นะแม่อยากมาดูบ้านไอแว่นเนี่ยนะ เฮ้ออ!!
////////////////////////
โดนชื่อตอนหลอกแล้ว...
ความคิดเห็น