คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : How can I ? รักได้ไง...นายคนนี้! บทที่ 4 กลับด้วยกันไหม
ต้นข้าวกับธิดาเดินหายไปแล้ว
เหลือเพียงโจและวีที่ยืนจ้องหน้ากันเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
แต่แล้ววีเป็นฝ่ายสะบัดหน้าหนีไปก่อน
“งั้นก็รีบๆไปหาพี่รุจเถอะครับ จะได้ทำงานให้มันเสร็จๆไป” เด็กหนุ่มพูดห้วนๆ
ก่อนจะเดินนำหน้าอีกฝ่ายไปโดยไม่รอ
“เห้อะ ทำเป็นโกรธ มันก็ความผิดแกนั่นแหละว้า” โจบ่นอย่างหงุดหงิด แต่ก็ต้องเดินตามไปอยู่ดี
ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะเดินไปถึงห้องพักนักการภารโรง ภารโรงรุจก็เดินสวนออกมาพอดี
“อ่าว พวกคุณสองคนนี่เอง” ภารโรงรุจเก๊กหน้าเคร่งขรึม “ผมผิดหวังมากที่มีนักเรียนอย่างพวกคุณทำให้งานภารโรงที่มีเกียรติของผมต้องแปดเปื้อน”
โจกับวีต่างก้มหน้ามองพื้น
“จริงๆผมคิดว่าบทลงโทษของคุณครูใหญ่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ” ภารโรงรุจพูดต่อไป “แต่ก็นั่นแหละ คนอย่างผมมันก็แค่ภารโรงต็อกต๋อย จะไปเถียงอะไรครูใหญ่เค้าได้”
“ก็คนเดียวกันไม่ใช่เหรอวะ” โจพึมพำ
“อะไรนะนักเรียน”
“เปล่าครับ เปล่า”
ภารโรงรุจกอดอก “งั้นก็ดีแล้ว เพราะฉะนั้น งานแรกที่พวกคุณจะต้องทำวันนี้คือ ทำความสะอาดโรงยิมทั้งหมด”
“ห้ะ!” ทั้งคู่อุทานเสียงลั่น ก็โรงยิมน่ะมันใหญ่จะตายไปนี่นา
ภารโรงรุจยิ้มสะใจ
“โรงยิม” เขาพูดช้าๆ
“พวกคุณ” ชี้ไปที่หน้าทั้งสอง
“ทำความสะอาด”
“เดี๋ยวนี้” ก่อนจะเดินนำตรงไปยังโรงยิมโดยไม่ฟังเสียงโวยวายของเด็กหนุ่มทั้งคู่แม้แต่นิด
/////////////////////////////////////////////////////////////
“เอา นี่คืออุปกรณ์ทำความสะอาดทั้งหมด” ภารโรงรุจโยนไม้กวาด ไม้ถูพื้นและถังน้ำลงตรงหน้าโจและวี
“ก่อนอื่น พวกคุณต้องกวาดพื้นโรงยิมนี้ทั้งหมด จากนั้นก็ถูให้สะอาด” ภารโรงรุจอธิบาย “พอผมทำงานอื่นเสร็จแล้วผมจะกลับมาเช็ค หวังว่าพวกคุณจะทำงานให้เสร็จอย่างเรียบร้อย”
ทั้งสองคนได้แต่ยืนตาค้างมองโรงยิมที่ตอนนี้ดูกว้างใหญ่ซะเหลือเกินจนภารโรงรุจเดินออกไปแล้วนั่นแหละถึงได้รู้สึกตัว
สายตาสองคู่ค่อยๆเบนไปจับจ้องอยู่ที่ไม้กวาดและไม้ถูพื้นที่กองอยู่ตรงหน้า
“ผมจองไม้กวาด/ฉันจองไม้กวาด!” ทั้งคู่พุ่งเข้าไปหยิบไม้กวาดทันที
วีจับด้ามไม้กวาดไว้แน่น “ผมพูดก่อน!” เด็กหนุ่มประกาศ
“หรา” โจขึ้นเสียงสูงอย่างประชดประชัน มือก็พยายามดึงไม้กวาดมาจากอีกคน “แกมีหลักฐานไหมล่ะว่าแกพูดก่อน”
“ไม่รู้ล่ะครับ ผมพูดก่อน!” วียังคงยืนยันเสียงแข็ง
“ไม่รู้เว้ย เรื่องแบบนี้ใครดีใครได้” โจพูดจบก็ออกแรงทั้งหมดดึงไม้กวาดมาอย่างรวดเร็ว
วีที่เผลออยู่เลยไม่ทันตั้งตัว หนุ่มแว่นทำหน้าเหวอ “ขี้โกงนี่ครับ!”
โจยักไหล่ “ใครโกง ไม่มี้ ก็แกอยากเผลอเอง” ว่าแล้วก็ยิ้มอย่างกวนโมโหพลางชูไม้กวาดไปมา
วีหน้าบึ้ง เด็กหนุ่มคว้าไม้ถูพื้นอันใหญ่มาอย่างกระฟัดกระเฟียดพร้อมๆกับหยิบถังน้ำขึ้นมา
“ก็ได้ครับ! ผมไม่อยากจะเถียงกับคนขี้โกง!” พูดแล้วก็เดินกระแทกไหล่โจออกไปห้องน้ำเพื่อเติมน้ำเอามาถูพื้น
“เหอะ ขี้แพ้ชวนตี” โจแลบลิ้นหลอก
//////////////////////////////////////////////////////////
โจที่เริ่มต้นกวาดพื้นไปแล้วเหลือบมองวีที่เพิ่งหิ้วถังน้ำกลับเข้ามาอย่างเก้ๆกังๆ
ก่อนจะยกไม้ถูพื้นอันใหญ่จุ่มลงไปแล้วพยายามบิดน้ำออก ท่าทางของเด็กหนุ่มแสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่าเป็นคนที่ไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน
นี่ไม่เคยทำงานบ้านเลยรึไงวะ โจคิด
กำลังจะเสนอตัวช่วยอยู่แล้วเชียว เมื่ออยู่ๆวีก็ยกเท้าขึ้นเตะถังน้ำอย่างจงใจจนน้ำทั้งหมดกระฉอกออกมาใส่โจที่ยืนอยู่ข้างๆพอดีจนรองเท้าผ้าใบนักเรียนสีน้ำตาลทั้งสองข้างเปียกชุ่ม
“อุ้ย ขอโทษครับ” วีพูดเสียงซื่อ แต่ใบหน้าไม่ได้ฉายแววว่ารู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย
“ไอ้แว่น!” โจกัดฟันกรอด
วียังคงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะเริ่มถูพื้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ขยับไปหน่อยสิครับ ขวางทาง” หนุ่มแว่นเอาไม้ถูพื้นมาเขี่ยเท้าโจที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมพร้อมกับยิ้มสะใจ
โจยอมขยับ แต่ขณะที่วีกำลังเดินผ่านไปนั้นเอง เด็กหนุ่มก็ยืนเท้าออกมาขัดขาอีกฝ่ายจนหนุ่มแว่นล้มหน้าคว่ำ
“อุ้ย โทษทีว่ะ เท้ามันไปเอง” โจยิ้มเยาะ
วีหน้าแดงด้วยความโกรธ “นี่มันจะมากไปแล้วนะครับ!”
“ก็แล้วทีแกล่ะ” โจลอยหน้าถาม
วีเม้มปากแน่น และโดยที่โจไม่ทันตั้งตัวนั้นเอง วีก็ยกขาขึ้นถีบเข่าของคนตรงหน้าอย่างแรง
โจล้มคะมำ แต่โชคดีที่ใช้มือยันพื้นไว้ได้ทัน
เด็กหนุ่มจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง “แกคงอยากตายมากสินะ แว่น”
วียักไหล่อย่างกวนโมโห ถอดแบบโจเมื่อกี้นี้มาเป๊ะ “แล้วคุณโจจะทำไมผม”
“ไอ้แว่น!” โจตั้งท่าจะคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายขึ้นมา วีก็ตั้งท่าพร้อมจะถีบโจออกไปเต็มที่
แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้น
“โอ้ย! พอซะที! ดูอยู่ตั้งนานแล้วฉันทุเรศตา”
ทั้งคู่หันไปยังต้นเสียง
ธิดานั่นเอง พร้อมกับต้นข้าวที่ยืนเท้าสะเอวมองอยู่ข้างๆ
“ก็ไอ้แว่นนั่นแหละเริ่มก่อน!” โจฟ้องทันที
“คุณโจนั่นแหละครับที่ขี้โกงก่อน!”
“ว่าไงนะแว่น!”
“ก็อย่างที่ได้ยินนั่นแหละครับ!”
ธิดาได้แต่โบกมือห้ามทัพอย่างอ่อนใจ “พอได้แล้ว อย่างนี้ทำทั้งปีโรงยิมก็ไม่สะอาด”
“ฉันจะคอยคุมพวกแกอยู่ตรงนี้แหละ รีบไปทำงานได้แล้ว จะกลับไหมน่ะบ้านน่ะ”
โจกับวีทำหน้ามุ่ย แต่ก็ยอมผละออกจากกัน
โจตั้งต้นกวาดพื้นอีกครั้ง ส่วนวีก็เริ่มถูพื้นตามหลังโจอย่างเงียบๆ โดยมีธิดากับต้นข้าวคอยจับตามองอย่างเข้มงวด
เวลาผ่านไปได้สักพัก ทั้งคู่กลับทำงานได้เร็วเกินคาด โรงยิมได้รับการทำความสะอาดไปเกินครึ่งแล้ว
ธิดาพยักหน้าอย่างพอใจ
ก่อนจะสะดุ้งเมื่ออยู่ๆเสียงมือถือของตัวเองดังขึ้น
“ตายแล้ว นี่ท่านพ่อมารับแล้วเหรอเนี่ย” ธิดาอุทาน
ต้นข้าวสะดุ้งบ้าง “ตายแล้ว วันนี้ฉันต้องกลับกับแกนี่นา ยังไม่ได้ล้างเมคอัพเลย ท่านพ่อแกต้องเฆี่ยนฉันแน่ๆ”
“ไปเดี๋ยวนี้เลยอีข้าว ไปลบแป้งลบอุทัยทิพย์ออกให้หมด เร็ว”
“ธิดา แกต้องไปกับฉัน ฉันไม่กล้าเข้าห้องน้ำตอนนี้คนเดียว”
ต้นข้าวว่าแล้วก็คว้ามือธิดาแล้วลากตัวเพื่อนสาวออกไปอย่างรวดเร็ว
“รีบทำให้เสร็จนะย่ะ แล้วก็อย่าทะเลาะกันอีกล่ะ!” ธิดาหันมาตะโกนสั่งทิ้งท้าย
ทั้งคู่ทำงานของตัวเองต่อไปในความเงียบ
โจที่กวาดพื้นไปจนสุดอีกด้านของโรงยิมเรียบร้อยแล้วยืนกอดอกมองวีที่ลากไม้ถูพื้นอันใหญ่ตามมาเงียบๆ
ร่างผอมบางดูแล้วไม่น่าจะยกไม้นั่นขึ้นด้วยซ้ำ แต่ก็ยังทำต่อไปโดยไม่บ่น
โจรู้สึกผิดขึ้นมานิดหนึ่ง นิดเดียวเท่านั้นเองจริงๆ แต่มันก็ทำให้ผลั้งปากพูดออกไปว่า
“ให้ฉันช่วยก็ได้นะ”
วีเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่าย
“เมื่อกี้ว่าไงนะครับ” เด็กหนุ่มถามอย่างไม่เชื่อหู
โจนึกอยากตบปากตัวเองที่เผลอพูดออกไป “ไม่ได้ยินก็เรื่องของแก ไม่มีการฉายซ้ำเว้ย”
วียิ้มบางๆ แต่ไม่พูดอะไร เด็กหนุ่มกลับไปก้มหน้าก้มตาถูพื้นต่อ
โจมองหน้าอีกฝ่ายแล้วอยู่ๆก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาซะเฉยๆ
แล้วเพราะอะไรไม่รู้ ขามันก็ก้าวออกไปเอง
เด็กหนุ่มเดินไปดึงเอาไม้ถูพื้นมาจากมือของร่างเล็ก แล้วถูต่อโดยไม่พูดอะไร
ไม้นั้นหนักไม่ใช่เล่นเลย โจชักสงสัยว่าตัวเองคิดผิดหรือคิดถูกที่เข้ามาช่วย
วียืนมองการกระทำของโจอย่างอึ้งๆ
“ให้ผมทำเองก็ได้นะครับ” วีพูดออกมาในที่สุด
“เออน่า” โจตอบงึมงำโดยไม่สบตา
ภายในอึดใจเดียวเท่านั้น โรงยิมทั้งหมดก็ได้รับการกวาดและถูอย่างเรียบร้อย
ทั้งสองยืนมองผลงานของตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อว่าจะทำจนเสร็จ
วีแอบมองโจที่ยังคงถือไม้ถูพื้นอยู่ข้างๆ
“เอ่อ…ขอบคุณนะครับ ที่ช่วย…” วีพูดขึ้นลอยๆ สายตาหลบมองพื้น
โจหันหน้าทำเป็นมองแป้นบาสอย่างสนอกสนใจ แต่ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
“เออ” เขาตอบรับเบาๆ
โดยไม่รู้ตัว วีก็ยิ้มออกมา
“อืม เรียบร้อยดีนี่” ภารโรงรุจที่เดินเข้ามาเงียบๆพูดเสียงดังทำลายบรรยากาศแปลกๆระหว่างทั้งคู่
“งั้นพวกผมไปได้ยังล่ะครับ” โจถาม
“พวกคุณไปได้แล้ว แล้ววันพรุ่งนี้หลังเลิกเรียนไปพบผมที่ห้องนักการภารโรงแบบวันนี้ เข้าใจนะ”
ทั้งคู่พยักหน้ารับ ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหยิบกระเป๋านักเรียนของตัวเองที่วางไว้ข้างประตูโรงยิมแล้ววิ่งออกไปยังสนามฟุตบอลหน้าโรงเรียนทันที
“เป็นอิสระแล้วโว้ย!” โจตะโกน
“อีกสองอาทิตย์ต่างหากล่ะครับ” วีขัด
โจทำหน้าเซ็ง “แกอย่าขัดอารมณ์ฉันได้ป่าวว่ะไอ้แว่น”
“ไม่ได้ครับ” วียิ้มกวนๆ
โจอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปยีผมอีกฝ่ายแรงๆ จนผมที่หวีไว้เป็นระเบียบของหนุ่มแว่นยุ่งไปหมด
“คุณโจ!” วีโวยวาย
โจหัวเราะลั่น “แกหาเรื่องเองนะ”
ทั้งคู่เดินมาจนถึงลานจอดรถจักรยานข้างสนามฟุตบอลที่ตอนนี้ว่างเปล่า เหลือเพียงจักรยานสีแดงดูเก่าคร่ำของโจเท่านั้น
“โอ้โห นี่ยังใช้ได้อยู่เหรอครับเนี่ย” วีอุทานเมื่อเห็นสภาพของจักรยานคันเก่าแก่
“เฮ้ย อย่าดูถูกนะเว้ย ถึงจะเก่าแต่ก็ซิ่งได้ไม่แพ้ใครนะเฮ้ย” โจรีบปกป้องจักรยานสุดที่รักทันที “อีกอย่าง ฉันก็แค่เอามาใช้ตอนที่มอไซต์ฉันกำลังซ่อมแค่นั้นเอง”
“ว่าแต่แกเถอะ กลับยังไงวะ”
วีมีทีท่าอึกอัก “หม่าม๊าผมมารับครับ”
“ว้าย น่ารักจริงนะแว่น” โจหัวเราะ “แล้วไหนล่ะหม่าม๊าแก”
“ย-ยังไม่มาครับ”
“เออ งั้นเดี๋ยวฉันค่อยกลับตอนหม่าม๊าแกมาล่ะกัน”
วีปฏิเสธทันที “ไม่ต้องครับ! คุณโจกลับไปเถอะครับ มันเสียเวลา”
โจมองคนตรงหน้าที่ดูลุกลี้ลุกลนแปลกๆแล้วขมวดคิ้ว พอดีกับที่สายตามองไปเห็นมือถือในมือของอีกฝ่าย
“ไหนเอามาดูสิ” พูดแล้วก็ฉวยเอามือถือของวีมาดูทันที
“คุณโจ!”
“อาวี อั๋วผิดหวังในตัวลื้อมาก” โจอ่านข้อความที่เปิดค้างอยู่ดังๆ “เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นการลงโทษ ลื้อจะต้องกลับบ้านเองเป็นเวลาสองอาทิตย์ ตามระยะเวลาโดนทำโทษของลื้อ”
วีทำหน้าเหมือนอยากตายลงไปตรงนั้น
“แค่เนี้ย!?” โจถามอย่างไม่เข้าใจ “ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้”
“ก็ผมอายนี่ครับ ปกติผมไม่เคยกลับบ้านเองซะหน่อย” วีบ่นอุบอิบ
โจมองร่างเล็กขำๆ “แล้วนี่แกจะกลับยังไง”
“ก็เดินกลับสิครับ ผมแค่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าผมต้องเดินกลับบ้านแค่นั้นเอง ห้ามไปบอกใครนะครับคุณโจ”
โจขึ้นคร่อมจักรยาน “ไม่มีใครรู้หรอกน่า เพราะฉันจะไปส่งแกไงล่ะ”
วีตาโต “ว่าไงนะครับ!”
เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว “แว่น แกจะไปหรือไม่ไป รีบตอบมา”
วียิ้มหวาน “แฮ่ ไปครับไป” ก่อนจะพยายามขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายจักรยานอย่างงงๆด้วยความไม่เคย
โจเหลียวมองดูความเงอะงะของอีกฝ่ายอย่างขบขัน เด็กหนุ่มรอจนแน่ใจว่าวีขึ้นมานั่งอย่างเรียบร้อยแล้วก็ตั้งต้นปั่นจักรยานออกไปจากโรงเรียนทันที
“แล้วนี่บ้านแกไปทางไหนวะ” โจถามเมื่อทั้งคู่ออกมาพ้นรั้วโรงเรียน
“ป-ไปทางสี่แยกไฟแดงแล้ว-แล้วเลี้ยว เข้าซอยทางข-ขวามือครับ” วีเสียงสั่น
โจขมวดคิ้ว “เป็นอะไรวะ”
“ผ-ผมกลัวตกครับ…” วีตอบเสียงเบา
คราวนี้โจหัวเราะจนจักรยานเซไปเซมาและวีร้องโวยวายมาจากข้างหลังอย่างตกใจ
“นี่เกิดมาเคยขี่จักรยานไหมเนี่ยแว่น” โจถามเมื่อหยุดหัวเราะได้
“ไม่เคยครับ” วียิ่งเสียงเบาลงไปอีก
“โห นี่โตมาได้ยังไงวะเนี่ย”
“คุณโจอย่าพูดได้ไหมครับ”
“เถียงเรอะ เดี๋ยวปล่อยลงกลางทางนะเว้ย”
“ใจเย็นสิครับ”
ทั้งคู่เถียงกันไปตลอดทางกลับบ้าน
ตอนนี้แสงอาทิตย์สีส้มแก่ฉาบไล้ทุกอย่างไว้ราวกับเปลวไฟอ่อนเบา แต่ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงอย่างรวดเร็ว โจเร่งจักรยานขึ้น
ก่อนจะรู้ตัว ทั้งคู่ก็เข้ามาในซอยบ้านวีแล้ว
“บ้านหลังนั้นแหละครับ ที่รั้วเขียวๆ” วีร้องบอก
เมื่อโจหยุดจักรยานได้แล้วก็ต้องอ้าปากค้างกับความใหญ่โตของบ้านตรงหน้า
“โอ้โห นี่จะสร้างให้คนอยู่กี่คนวะเนี่ย”
วีไม่ตอบเพราะมัวแต่พยายามหาวิธีลงจากหลังรถจักรยาน
ในที่สุด หนุ่มแว่นก็ลงมายืนบนพื้นได้โดยสวัสดิภาพ
“วันนี้ ขอบคุณมากนะครับคุณโจที่มาส่ง” วียิ้มกว้าง
โจเกาหัวเขินๆ “ไม่เป็นไรเว้ย บ้านแกเป็นทางผ่านบ้านฉันพอดี”
“เดี๋ยวต่อไปแกกลับกับฉันทุกวันเลยก็ได้นะ” พอพูดออกไปแล้วคนพูดก็รู้สึกเขินแปลกๆขึ้นมาเอง
วีตาเป็นประกาย “จริงนะครับ!”
“เออสิ”
“ขอบคุณมากครับ!” ไม่พูดเปล่า ร่างเล็กยังตั้งท่าจะเข้ามากอดอย่างดีใจ
“เฮ้ย เดี๋ยวจักรยานล้ม” โจร้องห้าม
วียิ้มสดใส “ยังไงก็ขอบคุณมากจริงๆนะครับ กลับบ้านดีๆนะครับคุณโจ”
“ไม่ต้องห่วงน่า”
โจรอจนอีกฝ่ายเข้าบ้านเรียบร้อยแล้วถึงปั่นจักรยานออกไป
เด็กหนุ่มฮัมเพลงไปตลอดทาง
จนเข้าบ้านแล้วนั่นแหละถึงพึ่งนึกได้ว่าลืมเรื่องที่ขวัญใจไปกินข้าวกับไอ้พี่ก้องไปซะสนิท
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
มาถึงตอนที่สี่แล้วนะคะ คนแต่งลงความเห็นกันว่าจะอัพฟิคทุกวันจันทร์ค่ะ
คนอ่านจะได้ไม่ต้องเข้ามาเช็คทุกวันเนอะ แต่เรื่องเวลานี่บอกไม่ได้ แหะๆ
ทางที่ดีกดเป็นแฟนคลับของฟิคเรื่องนี้กันเถอะ จะได้ไม่พลาดซักตอน
พูดคุยกันที่ช่องแสดงความคิดเห็นข้างล่างได้เลยน้าาา
อยากรู้ว่าชอบหรือไม่ชอบตรงไหนบ้าง จะได้นำไปปรับปรุงตามความเหมาะสม
ไว้เจอกันค่ะ ^w^
.
ความคิดเห็น