คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : short fic ไอโจ x คุณวี : ลูกเขยตระกูลซ่ง ตอนที่ 1
Title: ลูกเขยตระกูลซ่ง
Author: @EBFran @WeSu7936
Rating: general
Fandom: เนื้อคู่อยากรู้ว่าใครตอนที่23-24
Pairing: Josak X vitaya
“ถึงแม้ว่าลูกอั๊วจะผิกเพศไม่สามารถมีทายาทให้ตระกูลซ่งได้ เป็งเรื่องที่น่าอับอายยิ่งนักแต่มันถึงเวลาที่ลูกชายอั๊วต้องมีครอบครัว” คุณนายใหญ่แห่งตระกูลซ่งกล่าวเสียงดังฟังชัดต่อหน้าทุกคนกลางห้องโถงของคอนโดสวัสดีทวีสุขหลังจากเหตุการณ์ที่คุณวีนอนบนเตียงเดียวกันกับโจและภูผาเพื่อหลอกหม่าม๊าว่าตนเป็นเกย์โดยตั้งใจให้เรื่องหาสะใภ้ให้ตนจบลงแต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรวุ่นวายกว่าเดิม
“อั๊วจะให้เวลาลื้อหนึ่งอาทิตย์เผื่อหาลูกเขยให้กับตระกูลซ่ง ถ้าลื้อยังหาไม่ล้ายอีกอั๊วคงต้องใช้วิธีคัดเลือกเหมือนอย่างเคย” คุณนายใหญ่พูดแกมขู่ลูกชายของตนก่อนที่จะเดินออกจากคอนโดสวัสดีทวีสุขด้วยท่าทีกะฟัดกะเฟียด แต่ก็ยังมิวายหันกลับมาขู่ซ้ำ “แล้วลื้ออย่าคิดที่จะเล่นตุกติกเป็นอันขาดนะอาวี คราวนี้อั๊วไม่ปล่อยให้อะไรหลุดรอดสายตาอั๋วแน่”
เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบห้องโถงของคอนโดทันทีที่คุณนายใหญ่ลับหลังไป
“ชิบหายแล้ว” ภูผาพูดขึ้น
ทุกสายตาหันมาจ้องมองคุณวีอย่างต้องการคำตอบว่าชายหนุ่มจะทำอย่างไรต่อไป
เจ้าตัวไม่พูดอะไรแต่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ก็ใครจะรู้ละว่าไอ้แผนที่คิดว่าจะทำให้เรื่องทั้งหมดมันจบลงง่ายๆดันทำให้ทุกอย่างมันวุ่นวายกว่าเดิมซะอย่างนั้น
“เฮีย ผมจะทำไงดีล่ะเฮีย” วีมองหน้าคนที่เป็นเสมือนพี่ชายแท้ๆของตนอย่างขอความช่วยเหลือ
ภูผา หรือเฮียผาของทุกคนยกมือเกาหัวแกรกๆอย่างจนปัญญา แต่แล้วเขาก็เริ่มยิ้มออกมาได้
“เฮียรู้แล้ว ว่าตี๋จะต้องทำยังไง” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับ(พยายาม)ยิ้มหล่ออย่างผู้ทรงความรู้
“ยังไงอ่ะเฮีย” คุณวีถามอย่างร้อนรน
“ก็ไม่เห็นจะยากอะไร ก็เหมือนที่เคยทำตอนหาลูกสะใภ้ไง ตี๋ก็แกล้งเป็นแฟนกับพวกเราคนหนึ่งในนี้ซะสิ”
ต้นข้าวชูมือขึ้นทันที “ฉันขอเสนอตัวค่ะ”
ธิดาปัดมือของเพื่อนสาวลงพลางกลอกตา “ตลกแล้วอีข้าว เมื่อกี้แม่คุณวีเค้าก็เพิ่งเห็นแกสวีทกับแฟนแกในร้านมินิมาร์ท เค้าคงอยากให้ลูกเค้าเป็นมือที่สามอยู่หรอกย่ะ”
ต้นข้าวทำท่ากระฟัดกระเฟียด “แหม ก็ฉันไม่รู้นี่นาว่ามันจะมีเหตุการณ์คดีพลิกแบบนี้ ไม่งั้นฉันเขี่ยอีพี่โต้งนั่นทิ้งไปแล้ว”
“อะแฮ่ม” เฮียผากระแอมขึ้น “จริงๆแล้วเฮียยังพูดไม่จบ เฮียกำลังจะบอกว่าและคนที่เหมาะสมที่สุดก็คือ แก ไอ้โจ” พูดพลางหันไปมองโจที่กำลังหัวเราะอย่างสนุกกับเรื่องตรงหน้า
โจหยุดยิ้มทันที “เฮ้ย ทำไมต้องเป็นฉันด้วยวะ” ชายหนุ่มประท้วง
“นั่นสิเฮีย ทำไมต้องเป็นคุณโจด้วย เป็นเฮียไม่ได้เหรอครับ” หนุ่มแว่นพูดสนับสนุนอีกฝ่าย
ภูผาส่ายหัวอย่างมาดมั่น “ไม่ได้ๆๆ เป็นเฮียไม่ได้ เพราะแม่เฮียเคยเป็นคนใช้ในบ้านตี๋ คุณนายใหญ่ไม่ยอมรับแน่”
“งั้นก็ไอ้ต่อ” โจเสนอขึ้น
“แกจะให้มันฆ่าไอ้ตี๋รึไง” ภูผาตอกกลับ คุณวีสะดุ้งเฮือก ขณะที่ต่อเคาะไม้ทีที่ตัวเองถืออยู่กับพื้นอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
โจเกาหัว “งั้น…งั้นก็ – คุณรุจ!”
“แก่ไป” เฮียผาตอบทันที ส่วนคุณรุจลูบตีนกาใต้ตาของตนด้วยท่าทางเสียใจ
ขวัญใจพูดขึ้นบ้าง “ฉันว่าที่เฮียผาพูดมามันก็มีเหตุผลนะโจ แกน่ะแหละเหมาะที่สุดแล้ว แกก็ช่วยๆคุณวีไปไง แม่คุณวีจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายอะไรที่คอนโดของพวกเราอีก” หญิงสาวพูดแล้วก็เบ้หน้าเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าคุณนายใหญ่เคยด่าอะไรเธอไว้บ้าง
ธิดาพยักหน้าสนับสนุนเพื่อนสนิท
“โฮยยยย ทำไมต้องเป็นฉันด้วยวะ” โจโวยวาย
“โธ่ คุณโจ ผมก็ไม่ได้อยากเลือกคุณโจนักหรอกนะครับ” คุณวีขัดขึ้นอย่างหงุดหงิด
“อ้าวๆ ทำไมวะแว่น ฉันมันมีอะไรเสียหายนักรึไง”
“ก็ทุกอย่างนั่นแหละครับ”
“อ่าว ไอ้นี่-”
ธิดายกมือห้ามทัพ “พอๆ พอกันได้แล้วทั้งสองคน ตกลงว่าทำตามที่อิเฮียพูด โอเคนะ”
โจทำท่าเหมือนจะพูดอะไรออกมาอีก เฮียผาจึงพูดเสริมขึ้นมาว่า
“โจ แกรู้มั้ยว่าตระกูลซ่งน่ะ มีทรัพย์สินตั้งเท่าไร แล้วแกที่เป็นลูกเขยน่ะ มีสิทธิ์ในทรัพย์สินตั้งห้าสิบเปอร์เซ็นต์เชียวนะ”
คราวนี้โจยิ้มหวานทันที “อืม…คิดดูอีกทีแล้ว ฉันจะช่วยแกก็ได้นะแว่น”
“เห็นแก่เงินนี่ครับ” คุณวีพูดเบาๆ
“ว่าไงนะแว่น”
“เปล่าครับ เปล่า”
ตอนนั้นเอง เจ้โฉมก็พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “อุ๊ย ดูสิคะทุกคน หนุ่มสุดล่ำมาดแมนสองคนนั้นกำลังเดินมาทางคอนโดเราคะ”
คุณวีมองตามสายตาเจ้โฉมแล้วสะดุ้งทันที “นั่นมันวิชัยกับวันชัย คนของหม่าม๊าผมนี่ครับ”
ทุกคนฮือฮากันขึ้นอีกครั้ง
“นี่แสดงว่าคุณนายใหญ่เอาจริงสินะ ไอ้ที่ว่าจะไม่ปล่อยให้อะไรหลุดรอดสายตาเนี่ย” เฮียผาพูดอย่างครุ่นคิด “งั้นก็แสดงว่าตลอดหนึ่งอาทิตย์นี่ คงจะส่งสองคนนี้มาคอยเฝ้าไอ้ตี๋แน่ๆ”
คุณวีทำหน้าเหมือนจะตายไปตรงนั้น ส่วนโจก็ชักเริ่มไม่แน่ใจขึ้นมาเสียแล้วว่าไอ้แผนการนี้นี่มันจะไปรอดหรือไม่รอดกันแน่
คนของคุณนายใหญ่ทั้งสองคนเดินเข้ามาอย่างพร้อมเพรียงก่อนจะโค้งให้คุณวีอย่างนอบน้อม
“สวัสดีครับคุณหนูวี” พูดพร้อมกันอีกต่างหาก
คุณวีพยายามฝืนยิ้มให้ทั้งสองคน แต่จริงๆแล้วหนุ่มแว่นอยากร้องไห้มากกว่า “สวัสดีครับพี่วิชัย พี่วันชัย”
ทั้งสองคนมองเหมือนรอให้คุณวีพูดอะไรบางอย่างต่อ เฮียผาจึงแทรกเข้ามาอย่างรู้สถานการณ์“โฮ้ย หวัดดีครับพี่วิชัย พี่วันชัย แหม ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะครับ” ก่อนจะผายมือไปทางโจที่ยืนมองอย่างเกรงๆอยู่ “เออ แล้วนี่ไงครับ แฟนของไอ้ตี๋มัน”
โจยิ้มอย่างฝืดๆให้คนทั้งสอง ขณะที่สายตาสองคู่กวาดตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า วิชัยลูบหนวดเหนือริมฝีปากอย่างพิจารณาก่อนจะหันไปกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับวันชัยที่อยู่ๆก็ยกแท็บเล็ตขึ้นมาถ่ายรูปโจหน้าตาเฉย
โจกระพริบตาปริบๆแล้วมองหน้าเพื่อนๆอย่างขอความช่วยเหลือ คุณวีเลยกระแอมขึ้นมา “เอ่อ ผมว่าตอนนี้มันก็เย็นพอสมควรแล้ว เดี๋ยวพี่ๆทั้งสองคนไปกินข้าวแล้วก็ไปพักผ่อนก่อนดีมั้ยครับ”
“ไม่ได้ครับคุณหนู คุณนายใหญ่สั่งว่าพวกผมจะต้องคอยดูคุณหนูตลอดเวลา จนกว่าจะถึงเวลานอน” วิชัยพูดเสียงหนักแน่น “เพื่อให้แน่ใจว่า แฟนของคุณหนูจะเป็นคนที่เหมาะสมกับคุณหนูอย่างแท้จริงครับ” พูดแล้วก็เหล่มองหน้าโจด้วยหน้าตาไม่เชื่อถืออย่างเห็นได้ชัด
โจกับคุณวีหน้าซีดทันที ขวัญใจเห็นบรรยากาศชักไม่สู้ดีเลยพูดขึ้นดังๆ “โอ้ย หิวข้าวจังเลย นี่ธิดา แกทำข้าวเย็นไว้ไม่ใช่เหรอ เยอะแยะเลย ชวนทุกคนมาดินเนอร์ด้วยกันสิ”
ธิดารับมุขต่อทันทีอย่างรู้ใจ “ตายแล้ว จริงด้วยสิ งั้นวันนี้ทุกคนมากินข้าวด้วยกันที่ห้องธิดานะคะ นะคะ” พูดเสียงเข้ม แล้วกวาดตามองเพื่อนๆอย่างมีความหมาย เป็นนัยว่า มาช่วยกันรับมือกับวิชัย วันชัยเดี๋ยวนี้ อย่าคิดแม้แต่จะหนีเชียว
ทุกคนพยักหน้ารับคำชวนของธิดาอย่างพร้อมเพรียง เหลือแต่วิชัยกับวันชัยที่ปฏิเสธ “คงไม่ได้หรอกครับพวกเราไม่อาจรวมโต๊ะกับคุณหนูและเพื่อนๆได้”
“โอ๊ยยไม่เป็นไรหรอกค่า มาทานด้วยกันเถอะนะคะคุณวีก็ไม่เห็นว่าอะไร ” ธิดาเอยเชิญอีกครั้งจนชายหนุ่มร่างกำยำตอบรับ
……………………………………..
[ห้องธิดา/ขวัญใจ]
ทุกคนกำลังจะนั่งประจำที่ที่โต๊ะอาหารที่วันนี้ขยายเพิ่มเป็นสองโต๊ะอย่างที่เคยๆมา แต่เฮียผาก็จับไหล่คุณวีไว้ก่อนที่หนุ่มแว่นจะนั่งลง
“อะไรอีกล่ะเฮีย”
“ตี๋ลืมอะไรไปรึเปล่า” เฮียผาผงกหัวไปทางวิชัยกับวันชัยที่กำลังยกเก้าอี้มาเพิ่มอย่างมีความหมาย วีเลิกคิ้วอย่างงงๆ
“แฟนน่ะแฟน ไปนั่งข้างแฟนแกสิโว้ย” พูดจบก็พลักคุณวีไปทางโจทันที
คุณวีทำหน้าเซ็งชีวิตก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆโจ
โจเหลือบตามองอีกฝ่ายก่อนจะพูดเบาๆโดยไม่หันมามอง “ทำหน้าให้มันมีความสุขหน่อยเฮ้ย มีแฟนนะเว้ย ไม่ได้ถูกสั่งไปรบ”
“ไปรบยังน่าจะดีกว่ามีแฟนแบบคุณโจเลยครับ” คุณวีพูดงึมงำ
โจยิ้มแยกเขี้ยว ก่อนจะบรรจงเหยียบเท้าของอีกฝ่ายอย่างแรง
“โอ้ย คุณโจ! จะเล่นแบบนี้ใช่มั้ยครับ” วีกัดฟันพูด ชายหนุ่มหยิกเอวคนข้างๆโดยไม่หันไปมอง
โจไม่พูดอะไรแต่เพิ่มแรงกดของเท้าที่เหยียบอีกฝ่ายอยู่ขึ้นอีก
“เอ๋ะ คุณหนูเป็นอะไรรึเปล่าครับ ทำไมทำหน้าแปลกๆ” วิชัยทักขึ้นเมื่อเขานั่งลงที่โต๊ะอาหารอย่างเรียบร้อย
คุณวียิ้มกว้าง “ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรเลย” ชายหนุ่มเน้นเสียงพลางหยิกอีกฝ่ายแรงขึ้นอีก
โจแอบสูดปากด้วยความเจ็บแต่แกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน “นั่นสิครับพี่วิชัย มีแฟนอย่างผมเนี่ย แว่นมันจะเป็นอะไรได้” ว่าแล้วก็โอบไหล่คนข้างๆแน่น “ใช่มั้ยแว่น?”
คุณวีกัดฟันหัวเราะ “ฮ่ะๆ นั่นสิครับ ได้มีแฟน ดีๆ อย่างคุณโจเนี่ย ผมดีใจจะตายอยู่แล้วครับ”
ทั้งสองคนจ้องหน้ากันเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
“ว้ายยยย สวีทกันจังเลยนะคะสองคนนี้เนี่ย” ต้นข้าวรีบเข้ามาขัดก่อนที่จะเกิดเหตุนองเลือดกลางโต๊ะอาหาร “แหมๆ รีบกินข้าวก่อนจะเป็นเบาหวานตายกันดีกว่าพวกเรา มาๆ”
ต่างคนต่างช่วยตักข้าวให้กัน แล้วอาหารมื้อนั้นก็เริ่มขึ้นอย่างไม่ค่อยสวยงามนัก
ธิดาแอบสะกิดแขนโจที่กำลังตักหมูทอดกระเทียมมาใส่จานตัวเองซะพูน
“อิโจ! กินเอาๆเลยนะแก นี่ ไปดูแลคุณวีบ้าง เป็นแฟนกันอยู่นะย่ะ”
โจที่กำลังเคี้ยวข้าวอยู่แทบสำลัก “อึ้ย ธิดา แกอย่าพูดอะไรน่าขนลุกแบบนั้นได้ป่ะวะ”
ธิดาทำตาเขียวใส่โจ “อะไรของแก ก็ตกลงทำตามแผนแล้ว ทำให้มันเนียนๆหน่อยสิย่ะ ฉันไม่อยากให้แม่คุณวีมาที่คอนโดเราอีก ฉันกลัว บรื้อ ไปเลยนะ ไปทำตามแผนเลย ไม่งั้นแกไม่ต้องมากินข้าวฟรีที่ห้องฉันอีก”
โจทำหน้าเบ้ใส่เพื่อนสนิท แต่ก็ทำตามที่หญิงสาวบอกอย่างไม่เต็มใจ
เขาตักหมูทอดไปใส่ในจานข้าวของอีกฝ่าย พลางพูดเสียงดังๆอย่างตั้งใจให้ได้ยินกันทั้งโต๊ะ
“เฮ้ย แว่น กินหมูนี่สิ ช่วงนี้กินข้าวน้อยไปนะ อย่าทำให้ฉันเป็นห่วงสิ” พูดแล้วโจก็แอบอึ้งกับตัวเองว่าพูดออกไปได้ยังไง
คุณวีที่คุยกำลังกับต้นข้าวหันมารับมุขต่อทันที แม้เจ้าตัวจะดูอึ้งๆงงๆไม่แพ้กับโจก็ตาม
“ผมต่างหากที่ต้องพูดแบบนั้นนะครับคุณโจ ช่วงนี้เล่นดนตรีดึกตลอดเลย ผมก็เป็นห่วงเหมือนกันนะครับ”
ว่าแล้วก็พยายามยิ้มให้อีกฝ่าย แต่ไอ้รอยยิ้มนั้นมันช่างฝืนซะเหลือเกิน
โจหัวเราะแห้งๆ “ฮ่ะๆ น่า ไม่ต้องมาห่วงฉันหรอก ฉันต้องเป็นคนดูแลแว่นนะถึงจะถูก”
พูดจบแล้วโจก็แทบอยากจะละลายหายจากโต๊ะไปซะเดี๋ยวนั้น
ส่วนคุณวีก็นั่งเขี่ยข้าวในจานอย่างอึดอัด
ไอ้ที่ว่าให้สวีทกันเนี่ย ใครมันจะทำได้ง่ายๆล่ะเว้ย!(ครับ!) ทั้งคู่ได้แต่ตะโกนในใจอย่างคับแค้น
พวกเพื่อนๆก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ โดยเฉพาะขวัญใจถึงกับเอามือกุมขมับ
ฝ่ายวันชัยกับวิชัยก็หรี่ตามองคู่รักกำมะลอทั้งสองคนอย่างสงสัย แต่เลือกที่จะไม่พูดอะไร
……………………………….
หลังอาหารเย็นผ่านไปอย่างไม่สวยนักและทุกคนก็หลบเลี่ยงวิชัยกับวันชัยได้โดยการโกหกว่าจะแยกย้ายเข้านอนกันตามห้องของตน แต่จริงๆแล้วแอบมารวมตัวกันอยู่ที่ห้องของคุณวีกับเฮียผา
“ถ้าพวกแกสองคนยังแสดงละครแย่ยิ่งกว่าเด็กอนุบาลแบบนี้ สองคนนั้นจะต้องจับได้แน่ๆ” ธิดาเริ่มขึ้นอย่างเป็นงานเป็นการ
“และที่แย่กว่านั้น ถ้าความแตก แม่คุณวีก็จะต้องมาที่คอนโดเราแล้วจัดงานเลือกคู่ที่วุ่นวายนั่นอีก ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่พวกเรายอมไม่ได้ ใช่มั้ยพวกเรา!” ขวัญใจเสริมอย่างแข็งขัน
“ไม่ได้!” ทุกคนประสานเสียงกันตอบ
โจเสยผมอย่างเซ็งๆ “โห คิดว่าฉันอยากเจอแม่ของไอ้แว่นมันนักรึไง เอะอะอะไรก็เรียกแต่ เฮ่งเจียๆ หน้าฉันมันเหมือนลิงขนาดรึไง”
คุณวีที่นั่งอยู่ข้างๆพูดขึ้นมาบ้าง “ถึงจะเหมือนจริงๆก็เถอะครับ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น”
“อ่าว เฮ้ย-”โจทำท่าเหมือนจะเถียง
แต่เฮียผาก็พูดแทรกขึ้นโดยไม่สนใจโจ “ประเด็นคือ เราจะทำยังไงวิชัยกับวันชัยถึงจะเชื่อว่าไอ้ตี๋กับไอ้โจเนี่ยเป็นแฟนกันจริงๆ”
ต้นข้าว ขวัญใจกับธิดา มองหน้ากันแล้วก็ยิ้มหวาน
“เรื่องนั้น พวกเราได้เตรียมการไว้แล้วค่ะ” ธิดาพูดอย่างมาดมั่น
“จะห่วงเรื่องการแสดงทำไม ในเมื่อเรามีนักแสดงมือหนึ่งอยู่ตรงนี้ทั้งคน” ขวัญใจสะบัดผมอย่างสวยๆ
โจกับคุณวีหัวเราะออกมาพร้อมกัน
“นักแสดงมือหนึ่ง? ฉันยังเห็นแกท่องบทภาษาไทยผิดๆถูกๆอยู่เลย” โจพูดพลางหัวเราะพลาง
ขวัญใจทำหน้าบึ้งใส่เพื่อนสนิท “ทำไม ไอ้โจ ถึงฉันจะอ่านบทไม่ค่อยถูก แต่การแสดงของฉันก็ไม่เป็นรองใครนะ”
“อย่ามัวแต่คุยกันได้มั้ย เรารีบๆมาสอนสองคนนี้ดีกว่าน่า ขวัญใจ แกเริ่มเลย” ธิดาขัดขึ้น
หญิงสาวเดินมาหยุดตรงหน้าโจกับคุณวีที่นั่งอยู่ข้างกัน
“โอเค” ขวัญใจพูด “ฉันอยากให้ทั้งสองคนหลับตาลง แล้วลองคิดดูว่าพวกนายเป็นแฟนกันจริงๆ”
เสียงประท้วงดังขึ้นทันที “โฮย เป็นไปไม่ได้อ่ะ!” “คุณขวัญใจครับผมทำไม่ได้!”
ดาราสาวกลอกตา “สมมติอ่ะสมมติ เข้าใจมั้ย Actingน่ะ you know?”
ชายหนุ่มทั้งสองหลับตาลงอย่างไม่เต็มใจ
ขวัญใจเริ่มพูดต่อ “ทีนี้ ฉันอยากให้ทั้งสองคนสมมติตัวเองว่ากำลังอยู่ต่อหน้าคุณนายใหญ่ และคุณนายใหญ่กำลังไม่เชื่อเลยจริงๆว่าทั้งสองคนน่ะเหมาะสมกัน แต่พวกนายรักกันมาก พวกนายจะทำยังไงให้คุณนายใหญ่เห็นใจพวกนาย”
“ไอ้โจ แกเริ่มก่อน” หญิงสาวชี้นิ้วไปทางร่างสูง
“อ่า…” โจเริ่ม แต่ก็พูดต่อไม่ถูก
“พวกนายสองคนรักกันมาก” ขวัญใจเน้นย้ำมาอีกครั้ง
“โฮ้ย ทำไมมันยากแบบนี้เนี้ย” โจบ่นงึมงำ “โอเค อ่า งั้นฉันก็จะพูดว่า ว่า เอ่อ ว่า…”
ชายหนุ่มกระแอม “เอ่อ ผม ผมรักแว่นจริงๆนะครับ!” พูดแล้วโจก็ทำหน้ากระอักกระอ่วน
ส่วนคุณวีที่นั่งอยู่ข้างๆก็เริ่มหน้าเป็นสีชมพู
“อั๋วม่ายเชื่อ” ขวัญใจดัดเสียงแบบคุณนายใหญ่
“เอ่อ” โจหน้าซีด “ผม เอ่อ ผมสัญญาครับว่าผมจะดูแลลูกชายของคุณแม่อย่างดีที่สุด เชื่อผมเถอะครับ”
“อาวี อั๋วจะว่ายังงาย” ขวัญใจหันมาทางคุณวีบ้าง
ตอนนี้คุณวีก้มหน้างุดเพื่อจะซ่อนแก้มที่แดงก่ำของตัวเอง แต่ก็ไม่สำเร็จ “หม่าม๊าครับ ผม-ผมก็รักคุณโจจริงๆนะครับ ถ-ถึงคุณโจจะดูไม่เอาถ่าน แต่คุณโจก็เป็นคนดีจริงๆนะครับ!” ชายหนุ่มกลั้นใจพูดทีเดียวจบอย่างรวดเร็ว
“อืม…” ขวัญใจแกล้งลากเสียงอย่างครุ่นคิด”อั๋วก็ยังไม่ค่อยเชื่ออยู่ดี ทำอะไรแบบที่คนรักเขาทำให้อั๋วดูหน่อยสิ”
“คุณขวัญใจ! หม่าม๊าผมไม่ทำอะไรแบบนี้หรอกครับ” หนุ่มแว่นประท้วงทั้งๆที่ตอนนี้หน้าแดงไปถึงใบหูแล้ว
หญิงสาวกลั้นหัวเราะแทบแย่ “แหม คุณวี อะไรกัน ขวัญใจหมายถึงแบบที่แฟนเค้าทำกันต่างหาก จับมงจับมืออะไรพวกนี้ อีกอย่างขวัญใจแค่สมมติตัวเองเป็นคุณนายใหญ่แค่นั้นเอง ก็ต้องไม่เหมือนตัวจริงสิคะ”
โจถอนใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะจับมือของคนข้างๆมากุมไว้
“พอใจยัง” ชายหนุ่มถาม
“เอ ก็ไม่รู้สินะ ฉันยังไม่ค่อยเชื่อเลยอ่ะ” ขวัญใจยิ้มหวานให้ทั้งคู่ ขณะที่ตอนนี้ทุกคนในห้องกำลังพยายามปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะคิกคักของตนเอง
คราวนี้โจเอื้อมมือเข้าไปรั้งคนตัวเล็กข้างกายเข้ามากอดแนบอก
“คุณโจ!” ร่างเล็กพูดเสียงตกใจ
“เอาน่า ก็เล่นๆตามบทไปไง” โจกระซิบใส่หูอีกฝ่าย ก่อนจะพูดเสียงเสียงหนักแน่นให้ทุกคนได้ยิน
“ผมรักแว่นจริงๆนะครับ และผมจะไม่มีวันทำให้แว่นต้องเสียใจเป็นอันขาด ผมสัญญา”
มือใหญ่บีบมือเล็กที่กุมอยู่เบาๆราวกับจะให้สัญญาว่าตนจะทำตามคำพูดนั้นจริงๆ
วีรู้สึกหน้าร้อนผ่าวราวกับไฟเผา
“ผม ผมก็ไม่มีทางที่จะทำให้คุณโจต้องเสียใจเพราะผมเหมือนกันครับ” ร่างเล็กพูดเสียงแผ่ว
โจรู้สึกเหมือนหัวใจเต้นผิดจังหวะ
เขามองอีกฝ่ายที่ยังคงแนบหน้าอยู่บนไหล่ของเขา เห็นเพียงแต่แก้มขาวๆที่แดงก่ำ
มือที่โอบไหล่บางอยู่ก็รัดคนตัวเล็กเข้ามาใกล้ขึ้นโดยไม่รู้ตัว
วีรู้สึกอายจนแทบอยากจะหายไปซะตรงนั้น แต่อ้อมแขนของอีกฝ่ายมันกลับทำให้เขารู้สึก…อบอุ่น
เขาบีบมืออีกฝ่ายเบาๆ
โจแอบมองคนที่ซุกหน้าอยู่กับไหล่ของเขาแล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
น่ารัก
“อะแฮ่ม” ธิดาทำลายความเงียบที่เข้าปกคลุมห้องด้วยการกระแอมเสียงสนั่น
โจกับคุณวีผละออกจากกันทันที ต่างคนต่างไม่มองหน้าอีกฝ่าย
“ดูเหมือนจะได้ผลเกินคาดนะแบบนี้” ขวัญใจอมยิ้มอย่างมีความหมาย
“เอาเป็นว่า ต่อไปนี้ ฉันอยากให้พวกนายแสดงละครต่อไปด้วยความรู้สึกที่ว่า พวกนายรักกันจริงๆและพวกนายจะต้องทำให้คุณนายใหญ่เชื่อให้ได้อยู่ตลอดเวลา ตกลงนะ”
ทั้งสองคนพยักหน้า แต่ตายังคงมองพื้นอยู่ตลอดเวลา
“โอเค งั้นเริ่มต้นพรุ่งนี้ ทุกอย่างจะต้องสมจริงที่สุด” ธิดาสั่ง “ไอ้โจ แกต้องคอยไปรับไปส่งคุณวี ทำทุกอย่างแบบที่แฟนเค้าทำกัน ตกลงนะ”
โจที่ยังคงไม่ยอมสบตาใครพยักหน้าอย่างว่าง่ายผิดปกติ
“ดีมาก” หญิงสาวยิ้มอย่างพอใจ
ขณะที่ต่อผู้ซึ่งนั่งดูอย่างเงียบๆมาโดยตลอดพูดขึ้นเบาๆว่า “กูว่า มันชักจะสมจริงไปแล้วว่ะ”
แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน
.....................................................................
จบตอนที่หนึ่งแล้วค่ะเจอกันใหม่ตอนหน้าขอบคุณทุกคอมเม้นนะ
เพราะคอมเม้นเนี้ยแหละที่ทำให้มีกำลังใจจะแต่งต่อ
ความคิดเห็น