[SF]Fic TVXQ ...Brother...(min*jae)
ง่า~*ฟิคดงบังจ้า!!!เรื่องแรก เกี่ยวกับหนูมินกับแจๆน้อย(ขอโทษสำหรับคนที่เชียร์คู่แจโฮ เรื่องหน้าจะลงจ้า)
ผู้เข้าชมรวม
1,735
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ฟิค tvxQ
ก๊อกๆ
“ชางมินนนนนนนน!ตื่นได้แล้ววววววววววววว!!!”
เสียงเคาะประตูเบาๆพร้อมกับเสียงปลุกจากหนุ่มน้อยหน้าหวานที่ทำให้คนในห้องซึ่งอายุน้อยกว่าตัวเองเริ่มกระพริบตาด้วยความสะลึมสะลือ
“ชางมิน!!!คนอื่นเค้าตื่นกันหมดแล้วน้า นายเองก็รีบๆลุกเข้า เรามีซ้อมตอนเช้า”คิมแจจุง ผู้รับบทมาปลุกหนุ่มน้อยรุ่นน้องขี้เซา กินจุแต่ตัวดันผ่าไปสูงกว่าตัวเอง
แกรก~
ประตูถูกเปิดพร้อมร่างของชามินแห่งดงบังชินกิที่ค่อยๆโผล่หน้าโผล่ตัวออกมาด้วยสายตาซะลึมซะลือ
“ชางมิน นี่นายตื่นดีรึยังเนี่ย”ว่าแล้วเขย่าคอเสื้อน้องชายตัวเองแล้วกระชากให้มาจ้องกับหน้าตัวเองที่คราวนนี้ตื่นเต็มที่ทันที พร้อมกับดวงหน้าที่เริ่มขึ้นสีเรื่อเมื่อดวงหน้าหวานของอีกฝ่ายอยู่ห่างกับหน้าเขาไม่ถึงคืบ
“เอ่อ...ผมตื่นแล้วครับพี่แจจุง(_//// _)”
“ดีแล้ว เร็วเข้าล่ะ เจ้าหมีอ้วนมันกำลังรอนายลงไปกินข้าว เร็วๆนะชางมิน”ว่าเสร็จแล้วปล่อยคอเสื้อก่อนจะผันตัวจากไปด้านล่าง ทิ้งให้หนุ่มอายุน้อยที่สุดของวงถอนหายใจ
“พี่แจจุง...”คำพูดแผ่วเบาที่ราวกับเป็นคำพึมพำเสียมากกว่าจากปากร่างสูง
............................
Jaejoong talk
สวัสดีครับ ผมคิมแจจุงแห่งดงบังชินกิ
ตอนนี้ผมกำลังประสบกับเรื่องที่หน้าปวดหัวอีกรอบแล้วล่ะ เรื่องอะไรน่ะเหรอ...
“ชางมิน น่านมันกุ้งทอดสุดที่รักช้านนนนนนนนน~นายกินลงท้องไปได้ยังไง”
“โธ่!พี่ยูชอน เสียสละหน่อยน่ะเป็นมั้ย เป็นผู้ใหญ่มันต้องใจกว้างนะพี่~~~”
“เออ แต่กรูรู้สึกว่าเอ็งจะกระเดือกกุ้งทอดชั้นลงกระเพาะไปสามตัวแล้วนะ- -*”
“ง่า~~~”
การเถียงเรื่องกินของชางมินกับยูชอนที่ทำให้ผมต้องเอามือกุมขมับ แท้จะเถียงกันประจำก็เถอะ ทำไมไม่รู้จักเบื่อบ้างรึไง
“พอเถอะยูชอน แค่กุ้งเองให้ชางมินมันไปเถอะน่า เราต้องรีบไปกันนะ”
“เออ ไอ้ยุนโฮ แกมันไม่โดนแย่งมั่งนี่”
“ใครว่า มันกินของชั้นไปสองตัวแล้ว”
(- -)<<<จุนซู(ที่นั่งฟังอยู่นาน)และผม
(-_-*)<<<ยุนโฮ
(-O-)<<<ยูชอน
(^w^)<<<ชางมิน
งั่บ!
ผมที่เริ่มปลงหันมากินข้างของตนเอง โชคดีที่ยังไม่โดนชางมินจัดการลงกระเพาะ ตรงหน้าผมคือชางมินด้านขวาคือยุนโฮถัดไปก็เป็นยูชอนกับจุนซู
“แจจ๋า~~~ ขอกุ้งนะ ชางมินมันกินของชั้นไปแล้วอะ”เสียงจากยุนโฮที่ผมต้องคีบกุ้งไปใส่ในชามข้าวให้
“...”
แล้วเราก็หันไปกินข้าวต่อ คราวนี้เป้าหมายต่อไปของชางมินคือ...ผม
“พี่แจจุงงับ”^w^
“ไม่ต้องมามองแบบนั้น จะกินก็เอาไป”
“เย้!!!”
แล้วจะไม่ให้ผมให้ได้ไง ก็ดูมันทำหน้าเข้าสิ - -
“วันนี้พวกเราต้องไปอัดเพลงไม่ใช่เหรอ รีบไปเถอะเดี๋ยวโดนว่าแย่”
เสียงจากยุนโฮที่ทำเอาคนทั้งห้องจัดการเขมือบข้าวในจานให้หมดแล้วก็ต่อด้วยน้ำก่อนจะเผ่นออกจากห้อง
ผมที่อยู่รั้งท้ายปิดประตูกับยุนโฮและชางมินเพราะพวกเขาข้าวในชามเยอะสุดผิดกับจุนซูและยูชอนที่มันโดนแยกจนไม่เหลือแล้ว
ระหว่างที่ผมกำลังจัดการใส่ร้องเท้าที่ตอนแรกสวมทับส้นอยู่ให้เรียบร้อยแต่ดูท่าการออกตัวจะเดินระหว่างที่ใส่ส้นรองเท้าอยู่ของผมมันจะเร็วไปหน่อยเล่นเอาน่าคะมำไปข้างหน้า
พลั่ก!ตุ๊บ!
ไม่เจ็บ!!!
ผมที่หลับตาปี๋เตรียมรับความเจ็บรีบลืมตาขึ้นมาดู พบว่าคนที่รับผมไว้แล้วเอาตัวเองลงไปนอนกับพื้นแทนคือ...
ชางมิน!
ตึก....ตึก....
“เป็นอะไรรึเปล่า”ผมรีบพูดทันทีก่อนจะตะกายลุกขึ้น ตาผมสบจ้องกับตาคู่โตบนใบหน้าหล่อเหลาของคนที่เป็นน้องชาย แล้วทำไมผมถึงต้องหน้าแดงด้วยล่ะ-////-
“ผมไม่เป็นไร พี่เจ็บตรงไหนรึเปล่า”
“ไม่ นายนั่นแหละที่จะเป็น”
ผมว่าพลางลุกขึ้น ใจเจ้ากรรมที่ดันเต้นแรงราวกับออกมาจากอก ทำไมกันล่ะ ทั้งๆที่อีกฝ่ายเป็นน้องชายนะ เป็นน้อง แล้วทำไมผมถึงใจเต้นแรงขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ
เพื่อปิดอาการผิดปกติ ทำให้ผมต้องเฉลุกขึ้นแล้วเดินจ้ำอ้าวจากไปมีร่างสูงของชางมินเดินตาม
...เป็นไปไม่ได้ เพราะเราเป็นพี่น้อง...
Changmin talk
กลิ่นหอมที่ลอยมาแตะจมูกทันทีที่ผมเข้าไปรับร่างของแจจุงเอาไว้ยังติดอยู่ในความทรงจำของผมอยู่เลย
รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้....
รู้ทั้งรู้แต่ก็ไม่เคยห้ามใจตนเองได้ซักที...
เขารักคนๆนี้ รักมากกว่าความเป็นพี่น้อง....
ทั้งๆที่รู้ดีแท้ๆว่าคนๆนี้คิดกับเขาเพียงแค่นั้น...แต่หัวใจ มันยังรักอยู่ดี
ผมพยายามลากขาตัวเองไปขึ้นรถที่จอดรอเพื่อไปยังค่าย ด้านหลังรถมียุนโอนอนแผ่อยู่ เลื่อนมาอีกเบาะก็เป็นจุนซูกับยูชอนที่ยังจู๋จีกันตั้งแต่เช้า หน้าสุดกับคนขับเป็นคุณลีซูมานผู้จัดการของพวกเขา ที่นั่งที่เหลือก็คือเบาะถัดจากคนขับที่มีคนเพียงคนเดียวนั่งอยู่
“อ้าว ชางมิน มัวมองอะไรอยู่ มานั่งด้วยกันสิ”ไม่ว่าเปล่าร่างเล้กกว่าของอีกฝ่ายก็เอื้อมมือมาฉุดเขาไปนั่งด้วย
วันนี้พวกเขาไปถ่ายMVที่เกาะเชจู เรื่องเสื้อผ้าไม่ต้องเพราะถูกจัดไว้ให้หมดแล้วเหลือเพียงแต่พวกเขาต้องเตรียมตัวเท่านั้น ทุกอย่างมันไม่มีปัญหาเลยนอกจาก...
คนที่เขานั่งด้วยคือแจจุง!
ตึก..ตึก..ตึก
หัวใจผมมันเต้นแรงเป็นบ้า ในรถก็ที่เหมือนรู้สึกเงียบทั้งที่มีเสียงหยอกล้อระหว่างจุนซูกับยูชอนและเสียงกรนเบาๆของยุนโฮแต่ผมก็ยังกลัว
กลัวพี่ชายคนนี้ พี่ชายที่ผมรัก จะได้ยินเสียงหัวใจผมที่เต้นดังราวจะออกมานอกอก
“เป็นอะไรไปชางมิน ไม่อยากนั่งกับพี่เหรอ”
แจจุงถามผมด้วยน้ำเสียงใสซื่อปนตัดพ้อที่ผมต้องรีบสะบัดหน้าทันที
“เปล่านะครับ เปล่า”
“เหรอ งั้นพี่ขอนอนหน่อยนะ^o^”
หวา~ อยู่ๆหัวของคนตัวเล็กกว่าก็พิงมาที่ไหล่ผม เส้นผมสีดำสัมผัสแก้มเล็กน้อยรวมถึงกลิ่นหอมสบู่อ่อนๆที่โชยมาแตะจมูก
แจจุงที่ดูเหมือนจะหลับไปแล้วผิดกับร่างสูงที่หลับไม่ลงเมื่อคนตัวเล็กคนนี้มาอยู่ใกล้ๆ
กลัว...ว่าเขาจะรู้ความรู้สึกตน
กลัว...ว่าเขาจะตีตัวออกห่างเมื่อรู้
กลัว...ที่จะโดนปฏิเสธ
ทำไมต้องเป็นคนๆนี้ คนที่เป็นถึงพี่ชาย ทำไมคนอย่างผมถึงได้มารักคนที่ผมไม่มีทางรู้ด้วยซ้ำว่าเค้าคิดยังไง และเค้าจะมองน้องชายคนนี้ต่างไปจากเดิมมั้ย...
ที่บริษัทSM
ในห้องอัดเสียงที่พวกเขากำลังยืนอัดกันแล้วร้องเพลงตามเนื้อ เสียงที่ได้ยินกันทุกคนท่ามกลางความเงียบ การบิวท์เสียง เร่งเสียงทำได้ดีไม่มีติดขัดแม้แต่คนที่มาคุมการอัดพวกเขายังยกนิ้วให้
และเมื่อว่าง...สิ่งที่พวกเขาทำคือ
ซ้อมเต้น!~
“ไม่ใช่อย่างนั้นแจ ก้าวก่อนแล้วค่อยเหวี่ยงแขนไม่งั้นเสต็ปมันจะขัดนะ”คำเตือนที่ผมได้ยินจากหัวหน้าวงอันเป็นที่พึ่งที่ดีกำลังแนะร่างบางที่ทำให้ผมใจเต้นเสียทุกทีเหมือนทุกครั้ง
“อะ อืมๆ แบบนี้ใช่มั้ย”แจจุงว่าก่อนที่จะจัดการเต้นใหม่ให้ร่างสูงดู
“อือๆ ดีแล้วล่ะ นายไปพักบ้างเถอะ โหมซ้อมไปมันจะรังให้บาทเจ็บ เดี๋ยวจะพาลเต้นไม่ได้เอานะ”
“อือๆ”
แจจุงที่เดินผละออกก่อนจะมองไปดูรอบห้อง ตอนแรกผมเห็นเขามองจุนซูกับยูชอนที่ซ้อมเต้นอยู่อีกมุมของห้องก่อนจะหันมาทางผมแล้วขยับยิ้ม
ตึก...ตึก...
ใจเจ้ากรรมของผมเต้นอีกแล้ว
“ชางมินๆ”ร่างบางว่าก่อนจะวิ่งมาหาผมที่นั้งเหยียดขาอยู่กับพื้นห้องซ้อมเต้น ก่อนจะนั่งลงข้างๆผมและทำในสิ่งที่ผมแทบจะหัวใจวาย
ผมที่หน้าเริ่มขึ้นสีกำลังก้อมหน้าลงมอนใบหน้าที่เอาตักผมต่างหมอนแถมยังส่งยิ้มสวยๆให้ก่อนจะหลับตาพริ้มเอาเสียดื้อๆ
“พะ พี่แจจุงครับ มานอนตรงนี้ได้ไง”
ตายแล้ว ผมพูดเสียงสั่นออกไปเค้าจะจับได้มั้ยเนี่ย
“ฮื้อ น่าๆ แป๊บนึงนะ เหนื่อยจะแย่แล้วน่ะ”
อ้าว!
ง่ายๆเสียอย่างนั้น
“ไง บรรดาดงบังชินกิทั้งห้า”
เสียงเอ่ยขึ้นที่ทำเอาคนที่นอนบนตักผมสปริงตัวลุกแล้วหันไปมองประตูของห้องซ้อมเต้นที่บัดนี้มีผู้มาเยือน
เหล่าSJ!!!!
“อะไรกันพี่แจจุง ชางมิน หวานแหววกันจังเลยนะคร้าบบบบ!”
เสียงแซวจากคิบอมที่ทำเอาคนถูกแซวทั้งสองหน้าซับสีเลือดทันที อ๊ากกก!ผมจะบ้าตาย ไอ้คิบอมปากเจี๋ยยยยย!!!!
“พูดงี้หมายความว่าไง คิบอม”แจจุงพูดเสียงเขียวก่อนจะหันไปมองหน้าตัวคนแซวที่ตีหน้าตายแล้วส่งยิ้มให้กวนๆ
“ไม่เอาน่ะครับแจจุง คิบอมมันก็แค่แซวเล่นินดหน่อยเอง”
เอาแล้ว คนที่ทำให้ผมใจไม่ดีเอ่ยขึ้นจนได้ พี่ซีวอนที่เอ่ยพลางยิ้มมาให้แจจุงทำให้ผมอดเจ็บใจไม่ได้ แถมคนที่ได้รับรอยยิ้มนั้นกลับก้มหน้าเอาเสียดื้อๆ มันหมายคามว่ายังไงกันน่ะ พี่แจจุง
พวกSJคนอื่นๆก็ต่างแยกกันไปคุยกับยูชอนและจุนซู บ้างก็ไปคุยกับยุนโฮ ส่วนซีวอนนั่นกลับเดินมาทางผมแล้วหันไปพูดกับแจจุง
“เอ่อ...แจคับ ผมขอคุยด้วยหน่อยนะ”
“อะ...อืม”
ไม่นะ!!!
ใจผมอย่างตะโกนออกไปแต่ปากผมไม่ขยับเลยสักนิด แล้วปล้อยให้ร่างเพรียวเล็กเดินไปกับซีวอนเสียอย่างนั้น
ผ่านไป20นาที...
“อ้าวชางมิน แจจุงล่ะ”พี่ยุนโฮเดินมาผมที่เผลอนั่งทำหน้าเครียดโดยไม่รู้ตัวจึงต้องรีบปรับสีหน้า
“พี่ซีวอนเรียกไปคุยอะไรก็ไม่รู้ครับ”
“เหๆ นี่มันนานแล้วนะ นายไปตามหน่อยสิ พวกเราเองก็จะกลับแล้วด้วย”
“เอ่อ...ครับ”
ผมจำใจลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้อง สายตาผมค่อยๆกวาดตามองไปทั่วทั้งชั้นแต่ไม่พบใครเลย จนได้ยินเสียงกุกกักจากทางแยกที่ตาผมตอนนี้มองไม่เห็นจึงต้องรีบเดินไปหา ผมมั่นใจแน่ๆว่านั่นคือแจจุงกับซีวอน
“พี่แจ...”
เสียงผมขาดห้วง เมื่อภาพที่เห็นทำให้ใจดวงน้อยที่เคยปวดอยู่แล้วแตกเป็นเสี่ยงๆ
ภาพคนที่ผมรักจูบกับคนที่ผมคิดว่าเป็นศัตรูหัวใจ ภาพที่บาดตาจนต้องรีบหลุบตาลงต่ำแต่พยายามจะเดินออกมาจากที่นั่นแต่ไม่ทันเสียแล้วเมื่อเสียงตะโกนเรียกชื่อผมดังลั่นจากปากของแจจุง
“ชางมิน!!!”
Jaekoong talk(อีกรอบบบบบ)
หลังจากที่ผมเดินผละออกมากับซีวอน แล้วมายืนอยู่ตรงทางแยกที่ไกลจากห้องซ้อมเต้นมาเล็กน้อย คำพูดทุกอย่างที่ซีวอนพูดมันไม่เข้าหูผมสักนิด เพราะผมเอาแต่ตอยกลับอือๆไปตามระเบียบ
จนกระทั่งซีวอนพูดประโยคหนึ่งขึ้นมา...
“แจจุง ผมชอบคุณนะ”
“อือ...หะ ฮ้า!!!!”
ตกใจจริงๆนะเนี่ย ผมไม่เคยนึกว่าคนๆนี้จะกล้าพูดมันออกมา
“ซะ...ซีวอน ฉะฉัน...”
“ผมชอบคุณนะแจจุง ชอบมากจริงๆ ไม่ว่าคนที่คุณชอบจะเป็นใครแต่ผมชอบคุณ”
ซีวอนที่กระชากแขนผมเข้าไปใกล้เขา ซึ่งผมจะสะบัดยังไงมันก็ไม่หลุดซีก มือหมอนี่มันเป็นปลาหมึกรึไง หนึบจริงๆเลย
“ซีวอน ปล่อยนะ ฉันเจ็บ”
ผมร้องทันทีเมื่อมือนั่นบีบแขนผม แต่ดูเหมือนเสียงท้วงของผมจะไม่ได้ถึงหูเค้าเลย
“ซีวอน เราออกมานานแล้วนะ นายปล่อยฉันก่อน เราต้องกลับไปที่ห้อ...อุ๊บส์"
คำพูดของผมหลุดหายไปในลำคอเมื่อคนๆนี้ประกบริบฝีปากผมเอาเสียอย่างนั้น ไม่นะ จูบของชั้นนะเฟร้ย!!!ต่อให้ไม่ใช่จูบแรกชั้นก็เสียดายนะเฟร้ยยยย!!!
ผมพยายามดันร่างสูนั่นออกด้วยแรงที่ผมมี จนในที่สุดผมก็ผละออกได้ แต่ภาพที่สะท้อนในสายตาผมคือภาพของคนๆนึงที่ทำเอาผมใจร่วงไปถึงตาตุ่ม...
“ชางมิน!!!”
แววตาปวดร้าวนั่นมองมาที่ผมก่อน ก่อนจะวิ่งผละออกไปซึ่งขาผมสั่งการให้ผมวิ่งตามร่างนั้นไป ทำไมกันนะ สายตาของชางมินนั่นทำให้ผมเจ็บปวดจังเลย หัวใจผมมันเหมือนถูกกรีด ทั้งๆที่เราเป็นแค่พี่น้อง แต่ทำไมกันนะ...
ผมวิ่งไล่ชางมินมาจนถึงระเบียงทางเดินตรงบันไดหนีไฟ แถมร่างสูงไม่มีท่าทีจะหยุดวิ่งเมื่อเขากำลังจะวิ่งลงบันไดต่อ
“ชางมิน!!!หยุดก่อน”
ร่างสูงนั้นหยุด โหย ดีใจจังเลย เหนื่อยเป็นบ้า ทำไมชางมินวิ่งเร็วอย่างนี้เนี่ย
“พี่...แจจุง มีอะไรหรือครับ!”
น้ำเสียงเฉยชาจนผมตกใจ ทำไมผมถึงลังเลด้วยล่ะ ที่จะพูดอะไรทั้งๆที่คนนี้เป็นเหมือนน้องชายผมแท้ๆ
“อะ...เอ่อ...”
“ถ้าพี่จะบอกให้ผมอย่าบอกเรื่องที่เห็นกับใคร ไม่ต้องห่วง ผมไม่พผูดหรอกเพราะมันก็แค่เห็นพี่ชายผมจูบกับคนที่พี่เค้ารัก”
พี่ชาย...คำพูดที่กรีดลึกจังเลยนะ ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องจริงแต่ทำไมใจผมเจ็บแต่อีกใจหนึ่งผมก็โมโห ภาพด้านข้างของคนตรงหน้าที่ไมยอมหันมามองหน้าผมเวลาพูด แถมยังน้ำเสียงเย็นชานั่นอีก ทำไมล่ะ ผมไม่เข้าใจ
“นายพูดอย่างนี้หมายความว่าไง! พี่ไม่เข้าใจนายเลยชางมิน ทำไมต้องทำแบบนี้ จะพูดกันดีๆไม่ได้รึไงกัน! ทำไมนายต้องโมโห แล้วไอ้คำพูดกับน้ำเสียงนั่นมันอะไร!! ทำไมนายถึงพูดกับพี่แบบนี้ ชางมิน!!!”
ผมตวาดร่างสูงไปอย่างนั้น มันน่าโมโหนะ ทั้งๆที่ผมวิ่งตามมาเพื่ออธิบาย..เอ๊ะ ทำไมผมต้องมาอธิบายให้คนๆนี้ฟังด้วยนะ
“พี่อยากรู้จริงๆเหรอ เหตุผลน่ะ”
เสียงถามที่ผมซึ่งกำลังโกรธอยู่ไม่ใส่ใจที่จะตอบ...
“ทั้งๆที่ผมตั้งใจจะเก็บมันแล้วฝังเอาไว้ เพื่อเห็นแกมิตรภาพและความสำคัญของพี่น้อง ผมจึงเก็บมันฝังให้ลึก ทั้งๆที่ผมทำแบบนั้น”
ใจผมหายวาบเลย...
“ชะ ชางมิน...”
“ผมรักพี่!!! เข้าใจมั้ยว่าผมรักพี่!!! ไม่ใช่พี่ชายที่มีชื่อว่าคิมแจจุง!แต่คนๆนึงที่ชื่อว่าคิมแจจุง!!! ผมบอกให้พี่พี่รู้เอาไว้เลยว่าไอน้องคนนี้มันทรยศพี่ มันรักพี่มาก มันรักพี่!!!”
น้ำเสียงที่ดังก้องอยู่ในหัวผมอยู่อย่างนั้น
ร่างสูงที่หันมาจ้องหน้าผมตอนพูด แววตาที่มีกระแสปวดร้าวที่ผมเห็นแล้วผมรู้สึกทรมานเหลือเกิน
ผมรักพี่!!!
นายรักฉันเหรอ...ชางมิน นายรักฉันเหรอ...
ตึก...ตึก...
ทั้งๆที่เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นแต่หัวใจผมตอนนี้กลับเต้นแรง
ผมควรจะตอบไปสินะ แต่จะให้ตอบว่าอะไรล่ะ...ผมคิดไม่ออกจนได้แต่ยืนนิ่ง
ร่างสูงที่มองผมก่อนจะก้มหน้าลมแล้วเดินมาทางผมแบบไม่มองหน้ากันเลย เขาจงใจจะเดินผ่านผมไป ผมต้องรั้งเค้าไว้ รั้งไว้...แต่รั้งทำไม
หมับ!
มือผมคว้าแขนเขาเอาเสียดื้อๆทำให้ร่างที่กำลังเดินผ่านหยุดชะงัก
“พี่จะรั้งผมทำไมกันครับ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรหรอก เพราะผมรู้ความรู้สึกพี่อยู่เต็มอก รู้ว่าพี่เห็นผมเป็นแค่น้อง”
ไม่ใช่...ไม่ใช่แค่นั้น
“แล้วจะไม่ฟังสิ่งที่ฉันเห็นนายเป็นอย่างอื่นบ้างรึไง”
ใช่...พูดออกไปซะ พูดเถอะ
ชางมินที่ตอนนี้นิ่ง ผมเองก็เงียบก่อนจะกลืนน้ำลายแล้วเอ่ยขึ้นในที่สุด
“ขอโทษนะ ที่ฉันไม่รู้ตัว ขอโทษที่ทำให้นายเจ็บนะชางมิน และขอโทษจริงๆที่ฉันพึ่งจะมารู้สึกตัว”
“แจ...จุง”
“รักนะ รัก ฉันรักนาย ไม่ใช่ในฐานะน้องชายที่ชื่อว่าชิมชางมิน แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่าชิมชางมิน”
All talk
ชางมินที่ยืนอึ้งก่อนจะรีบกลับตัวแล้วคว้าร่างที่เล็กกว่าตัวเองมากอดแน่น ฝังจมูกที่เรือนผมหนุ่มแถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แจจุงที่ตอนแรกก็ยังค้างนิ่งอยู่แต่สุดท้ายก็กอดตอบแล้วซบหน้าลงกับอกกว้างของอีกฝ่าย
ดีใจ...ที่พวกเขาได้รักกัน
“ผมนึกว่าพี่จะตอบผมว่าไม่รักซะอีก เพราะที่ผ่านมาเราเป็นเหมือนพี่น้อง”
ชางมินว่าแต่มือยังไม่ปล่อยคนร่างเล็กออกจากอ้อมกอดที แถมไม่ว่าเปล่ายังขโมยฉกฉวยเอาความหอมจากพวงแก้มทำเอาแจจุงหน้าก่ำแดงแล้วเริ่มดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดแต่พอยิ่งดิ้นอีกฝ่ายก็ยิ่งกอดแน่นทำให้ต้องอยู่เฉยๆ
“ฉันก็เหมือนกัน พวกเรามันเหมือนพี่น้องก็เล่นอายุห่างกันสองปีตามจริงมันเป็นไม่...อุ๊บส์”
ริมฝีกปากถูกทาบทำให้คำพูดทุกอย่างกลืนหายเข้าไปในลำคอ ก่อนที่คนโดนเอาเปรียบจะเริ่มทุบอีกฝ่ายเนื่องจากการกระทำที่ยังไม่ทันตั้งตัวเนี่ยทำให้เขาให้ใจไม่ทันจนตอนนี้กลายเป็นขาดอากาศ
ร่างสูงค่อยผละออกกห่อนจะกลายเป็นงอนตีบป่องเมื่อคนตัวเล็กไม่ยอมให้ความร่วมมือโดยการยื่นทำแก้มพองลมแล้วหันหน้าไปทางอื่น
“นี่ ชางมิน”
...เงียบ...
“งอนเหรอ”
...เงียบ...
“โตป่านนี้มาทำงอนไม่น่ารักหรอกนะ”
...เงียบ...
คนตัวเล็กเริ่มลนลานเมื่อร่างสูงเล่นงอนไม่เลิก
“ง่า ก็เค้าหายใจไม่ทันนี่นายเล่นไม่ได้ตั้งตัวอะ อย่างอนเค้าน้า”
แจจุงเริ่มออกอากาศเป็นเด็กทำให้ชางมินขยับยิ้มน้อยๆแต่ก็ยังแกล้งทำเป็นไม่สน
“ง่ะ ชางมิน ถ้ายังไม่หันมาคุยกันจะไม่คุยด้วยอีกเลยนะ”
เมื่อเห็นร่างสูงไม่มีทีท่าจะหันมาคุยคนตัวเล็กเลยงอนมั่ง แต่พอจะหันหลังกลับเดินหนีก็โดนคว้าตัวไปสู่อ้อมกอดของอีกฝ่าย
“อะไรเล่า”
ชางมินยิ้มน้อยๆกับความน่ารักก่อนจะหันไปสบตากับอีกฝ่ายตรงๆ
“พี่รักผมมั้ย”
-////-
“ถ้าไม่บอกผมงอนนะ-0-”
“ง่ะ...”
“แจจุงงงงงง”
“รัก”
“อะไรนะ”
“ก็บอกว่ารักไงเล่า!!!”
ร่างสูงขยับยิ้มน้อยๆก่อนจะจัดการหอมแก้มคนตัวเล็กไปฟอดใหญ่(แอบนานด้วย)ก่อนจะพากันจูงมือเดินออกไปด้วยรอยยิ้ม
ยิ้มให้กับความรักที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้...
ยิ้มให้กับอนาคตที่จะมีคนๆนี้อยู่เคียงข้าง...
Love you
[[[จบระจ้า]]]
อดใจรอฟิคเรื่องใหม่ เรื่องหน้าเป็นฟิคยาว ของแจจุงกับยุนโฮ จะมีคู่อื่นด้วย^o^ เมนท์กันด้วยนะจ๊า!!
สุดท้ายHappy news yearsท่านผู้อ่านทุกท่านและเหล่าเทพแห่งโลกตะวันออก ดงบังชินกิ!!!ขอให้มีความสุขจ้า!!!
ผลงานอื่นๆ ของ sereneade ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ sereneade
ความคิดเห็น